You are on page 1of 2

ความหมายของพรรคการเมือง

มีผู้ให้ความหมายของพรรคการเมืองไว้มากมาย โดยส่วนใหญ่มีลักษณะร่วมกันอยู่สามประการ ดังนี้ ๑.เป็นกลุ่มบุคคลที่มีการ


จัดตั้งองค์กรร่วมกัน ๒.มีอุดมการณ์ทางการเมืองร่วมกัน คือ สมาชิกส่วนใหญ่มีความเห็นในทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในแนวทา
งกว้างๆคล้ายๆกัน ๓.มีวัตถุประสงค์ให้ได้มาซึ่งอำานาจมหาชน และใช้อำานาจนั้นดำาเนินการหรือบริหารประเทศให้บรรลุวัตถุประสงค์ข้าง
ต้น ลักษณะประการนี้สำาคัญยิ่งเพราะโดยธรรมชาติในสังคมอาจมีการรวมตัวกันของบุคคลที่มีความคิดเห็นคล้ายกันเข้าด้วยกัน หากแต่ถ้า
กลุ่มดังกล่าวไม่ประสงค์จะเข้ามาบริหารประเทศแล้ว ย่อมไม่ใช่พรรคการเมือง อาจเป็นสหภาพแรงงาน สมาคม หรือมูลนิธิเท่านั้น โดย
สรุป ความหมายของพรรคการเมือง คือ กลุ่มบุคคลที่มีการจัดตั้งองค์กรร่วมกันโดยมีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน โดยกลุ่มดังกล่าวมี
วัตถุประสงค์จะยึดกุมอำานาจรัฐ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ เข้าเป็นรัฐบาลเพื่อดำาเนินการตามอุดมการณ์ของตนให้สัมฤทธิ์ผล

www.thaipoliticsgovernment.org

พรรคการเมือง คือ องค์กรทางการเมืองท่ีรวมบุคคลท่ีมีอุดมการณ์เดียวกัน และมีเป้ าหมาย


เพ่ ือได้อำานาจทางการเมืองในรัฐบาล นโยบายต่าง ๆ ของพรรคการเมืองส่วนมากจะเป็ นผลรวมของ
ความต้องการภายในพรรค ซ่งึ เม่ ือพิจารณาสมาชิกพรรคแต่ละคนแล้ว อาจจะมีความแตกต่างกันอย่าง
มากก็ได้

ในระบอบรัฐสภา พรรคการเมืองส่วนใหญ่จะมีผู้นำา ซ่ ึงโดยทัว่ไปแล้วถ้าพรรคการเมืองนัน


้ ได้
รับเสียงข้างมาก จะรับหน้าท่ีเป็ นผู้นำารัฐบาล ขณะท่ีในระบอบประธานาธิบดี พรรคการเมืองอาจไม่มี
ผู้นำาท่ีชัดเจน โดยเฉพาะในระบบการเมืองท่ีมีการแยกอำานาจโดยสมบูรณ์

พรรคการเมือง มีวิวัฒนาการ 5 ระดับ คือ


1. ช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษท่ี 19 คืออเมริกันชน แยกตัวออกจากยุโรป
2. ช่วงกลางของคริสต์ศตวรรษท่ี 19 เกิดการพัฒนา
3. ช่วงปลายของคริสต์ศตวรรษท่ี 19 เกิดการเล่นการเมืองนอกสภา
4. หลังสงครามโลกครัง้ท่ี 1 เกิดพรรคคอมมิวนิสต์
5. หลังสงครามโลกครัง้ท่ี 2 อุดมการณ์หมดไป เงินเป็ นใหญ่
พรรคการเมืองไทยในปัจจุบัน

ในปั จจุบันนี ก ้ ารเมืองเป็ นอีกส่ิงหน่ึงท่ค


ี นให้ความสนใจมาก ขึ้นกว่าเดิมและท่ีคนจะ
ต้องสนใจต่อจากการเมืองก็คือพรรคการเมืองเพราะว่าพรรคการ เมืองเป็ นส่ิงท่ีอยูค ่ ู่มา
กับคนไทยและการเลือกตัง้ ประเทศท่ีเราได้อยู่กันทุก วันนีก ้ ็มีการบริหารของ
พรรคการเมืองท่ีเป็ นท่ีรู้จักกันดีกค ็ ือพรรคไทยรักไทย ซ่ึงถือว่าเป็ นพรรคท่ีตัง้ตัวขึ้นมา
ได้เร็วซ่ึงทำาให้มีคะแนนนำาพรรคประชาธิปัตย์ ซ่ึงเคยเป็ นพรรคการเมืองท่ีนา่ สนใจและ
น่าติดตามของคนในสมัยแรกๆ แต่ตอนนีย ้ ุค สมัยเปล่ียนไปการท่ีพรรคปชป.ไม่
สามารถจะครองใจของประชาชนได้มากอย่างเดิมก็คงจะ เป็ นเพราะว่ามีนโบยายท่ีไม่ล้ำา
หน้าและมีทุนในการการทำางานน้อย ซ่ึงพรรคการเมือง ท่ีคนเคยเลือกมาแล้วแต่ก็ไม่ได้
ทำาให้ประเทศชาติกระเต้อ ื งขึ้นหรือว่าหลุดพ้นจาก ปั ญหาแต่อย่างใด แล้วในเม่ ือมีทาง
เลือกท่ีดีกว่าคนก็ย่อมอยากท่ีจะลองส่ิงใหม่ๆ ซ่ึงก็ทำาให้ปัญหานัน ้ ค่อยๆหายไปแต่ก็ไม่
ได้หายไปหมดเลยซะท่ีเดียวแต่ว่ายังคงมี อยู่เพียงแต่ยังไม่ได้แสดงออกมา เพราะว่า
ตอนนีค ้ นท่ีหลุดจากปั ญหาเก่าๆนัน ้ ก็ได้ มาจมอยู่กับปั ญหาใหม่ๆ ซ่ึงนโยบายพรรคท่ี
บอกว่าจะช่วยนัน ้ ก็คือช่วยให้คนจนมี หนีส ้ ินเพ่ิมขึ้นซ่ึงหนีส
้ ินนีก้ ็ไม่ได้ไปเป็ นหนีส
้ ิน
ใครก็คือมาเป็ นหนีส ้ ิน ประเทศและพรรคการเมืองของนัน ้ เอง ซ่ึงตอนนีค ้ นจะยังไม่รู้วา่
ตัวเองได้มีหนี้ ท่วมหัวเป็ นเงินเท่าไหร่แล้ว เพราะว่าโครงการต่างๆท่ีตัง้ขึ้นมาเช่น บ้าน
เอ้ือ อาทร หรือว่าอะไรก็ตามท่ีเอ้ืออาทรนัน ้ แหละคือตัวการท่ีทำาให้คนมาสร้าวหนีด ้ ้วย
ตัวเองทัง้ๆท่ีไม่รู้ตัว แต่ถึงอย่างไรพรรคทุกพรรคต่างก็มีนโยบายท่ีจะนำาประเทศ ไปสู่
เศรษฐกิจโลกและเป็ นท่ีรูจักทัว่โลกให้ได้แต่ลึกแล้วทำาไมเราไม่ลองมาคิดกัน ว่า
พรรคการเมืองก็เหมือนแม่ค้าท่ีมาเร่ขายของมาโฆษณาว่าสินค้านัน ้ ดียังไง/ อย่าง เพ่ ือท่ี
ว่าสุดท้ายจะได้มีคนมาซ้ือของและได้กำาไรกลับ ซ่ึงก็เหมือนกับพรรค การเมืองท่ีเข้ามา
ผลประโยชน์กับประชาชนนัน ่ เองแต่ว่าเข้ามาในรูปของการบริหาร เลยทำาให้เราดูเหมือน
ว่าทำางานโดยไม่ได้หวังผลประโยชน์อะไร แต่ลึกๆแล้วธรรมชาติ ทัว่ไป คนเราก็ยัง
ต้องการท่ีจะกอบโกยผลประโยชน์จากอีกฝ่ ายให้ได้มากท่ีสุดอยู่ ดี แต่ทัง้นีท ้ ัง้นัน
้ ก็ต้อง
ขึ้นอยู่ว่าพรรคการเมืองท่ีมาบริหารประเทศนัน ่ จะมี สามัญสำานึกหรือไม่ว่าตัวเองกำาลัง
ปกครองคนเป็ นล้านๆท่ีไม่รู้วา่ ในอนาคตบ้านเมือง จะเป็ นอย่างเพราะว่าเขาได้เลือกคน
ท่ีเขาคิดว่าดีและเป็ นคนท่ีตัวเขาเองไว้ใจ

You might also like