You are on page 1of 45

สื่อกราฟิ กทางการศึกษา

รายชื่อสมาชิกในกลุ่ม
1. นางสาวพรพัฒน์ วิวัฒน์ดิษก่ล เลขที่ 28
2. นางสาวไพรินทร์ จันทร์นะ เลขที่ 31
3. นางสาวย่พิน เนตรพราว เลขที่ 33
4. นางสาวรสส่คนธ์ บ่ญรอด เลขที่ 34
5. นางสาวส่จิตรา สมทรง เลขที่ 41
6. นางสาวน่ช ประเสริฐผล เลขที่ 56
7. นางสาวส่ภาภรณ์ มรรคผล เลขที่ 61
สื่อกราฟิ กทางการศึกษา
• ความหมายสื่อกราฟิ ก
กราฟิ ก (Graphic)
หมายถึง สิ่งที่ใช้ในการสื่อความหมายโดยการใช้รูปภาพ รูปถ่าย ภาพวาด ตัวอักษร
สีมาใช้ลิตงานด้านออกแบบโดยใช้หลักการทางศิลปะเข้ามาช่วย

กราฟิ กทางการศึกษา
หมายถึง สื่อการสอนประเภทหนึ่ งที่นำาเอาหลักการทางศิลปะที่เกี่ยวข้องกับ
การออกแบบเพื่อใช้ในการถ่ายทอด เรื่องราว แนวคิด ความรู้ข้อเท็จจริงระหว่างผู้ผลิต
กับผู้ชม หรือระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนให้สามารถสื่อความหมายได้ ตรงกัน
ความสำาคัญของสื่อกราฟิ กทางการ
ศึกษา
• สร้างความเป็ นรูปธรรมให้กับผ้เู รียน
• ช่วยกระตุนให้ผู้เรียนเกิดความสนใจได้มากว่าการฟั งจากการ
บรรยายเพียงทางเดียว
• ช่วยให้ครูได้เนื้ อหามากขึ้นกว่าการสอนแบบบรรยายเพียง
อย่างเดียว
• ช่วยให้ผู้เรียนจดจำาเนื้ อเรื่องได้ดแ
ี ละนานกว่าฟั งบรรยาย
• ส่งเสริมให้ผเู้ รียนได้คิดและเเก้ปัญหาในการเรียนได้ดี
• ช่วยให้ผู้สอนและผู้เรียนเกิดความเข้าใจตรงกัน
ประโยชน์และค่ณคุาของสื่อกราฟิ ก
• สื่อกราฟิ กทั้งหลายถ้าเลือกมาใช้ให้เหมาะสมแล้วมี
ประโยชน์อยุางมากตุอการเรียนการสอนวัสด่แตุละอยุางมี
ประโยชน์ หรือมีค่ณคุาตุอการสอนแตกตุางกัน ซึง่ จะได้
อธิบายในรายละเอียดตอนตุอๆไป สุวนประโยชน์โดย
ทัว่ ไปของวัสด่กราฟิ ก ตุอการเรียนการสอนนั้น มีดังนี้
1. ช่วยให้การสอนมีประสิทธิภาพดีข้ ึน เพราะผู้เรียน 6. ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และ
ได้เรียนรู้ ผ่านประสาทรับรู้หลายทางขึ้น รู้จักคิดแก้ปัญหา
2. ช่วยให้ครูสามารถสื่อความหมายได้ถูกต้องและ ในรูปแบบต่างๆได้
ผ้เู รียนเข้าใจความหมายได้ตรงกัน
3. ทำาให้การเรียนการสอนดำาเนิ นการไปได้อย่าง
7. สามารถทำาสิ่งที่ยากและสลับซับ
รวดเร็วได้เนื้ อหามากประหยัดเวลา
ซ้อนให้เข้าใจง่าย
4. ทำาให้ผเู้ รียนเกิดความสนใจไม่เบื่อหน่าย และร่วม ขึ้น
กิจกรรมการเรียนด้วยดี 8. ย่อส่วนของสิ่งที่ใหญ่โตให้เล็กลง
5. ทำาให้ผเู้ รียนเกิดความประทับใจเรียนได้เร็วและจำา เพื่อนำามาศึกษา
ได้นาน
ลักษณะส่วนรวมของสิ่งนั้ นได้
9. ขยายสิ่งเล็กๆ ให้สะดวกต่อการ
ศึกษาได้
10.นำาสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตมาศึกษาได้
เช่นภาพถ่าย
ของวัตถุโบราณที่ไม่มขี อง
จริงแล้ว
ข้อดีและข้อจำากัดของสื่อกราฟิ กทางการ
ศึกษา
• ข้อดี
1. ช่วยให้ผู้เรียนหรือผู้ฟังเกิดความเข้าใจได้ดี
2. ใช้ในการจัดป้ ายนิ เทศ นิ ทรรศการและงาน
ประชาสัมพันธ์
3. สามารถนำามาประกอบเป็ นวัสดุฉาย
4. ใช้งานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว
• ข้อจำากัด
1. ใช้กบั กลุ่มเป้ าหมายขนาดเล็กเท่านั้ น
2. นั กเรียนหรือผู้ดไู ม่เข้าใจอาจตีความผิด
3. จำาเป็ นต้องอาศัยผู้ชำานาญหรือมีทักษะทาง
ศิลปะมาช่วยผลิต
สุวนประกอบทีส
่ ำาคัญของสื่อกราฟิ ก
ทางการศึกษา
ส่วนประกอบ ได้แก่
1. ภาพประกอบ
2. ตัวอักษร
3. สี
ประเภทของสื่อกราฟิ กทางการศึกษา
• แผนสถิติ (Graphs) • กระดานชอล์ก (Chalk
• แผนภูมิ (Charts) Board)
• แผนภาพ (Diagrams) • แผนที่และลูกโลก
• ภาพโฆษนาและโปสเตอร์ (Maps and Globe)
(Posters)
• รูปภาพ (Photographic)
• การ์ตูน (Cartoons)
• เครื่องฉายสไสด์ (Slides)
• ภาพพลิก (Flip Charts)
• สัญลักษณ์ (Symbols)
• แผุนภาพโปรุงใส
(Transparencies)
แผนสถิติ (Graphs)

• ความหมายเเละลักษณะของแผนสถิติ

แผนสถิติ Graphs คือโสตทัศนวัสดุ ที่เเสดงให้เห็นเกี่ยว


กับข้อมูลที่เป็ นจำานวนตัวเลขต่างๆที่เเสดงให้เห็นหัวข้อ
สำาคัญของเรื่องราวต่างๆ ได้รวดเร็ว เเละได้ผลดีกว่าตาราง
ตัวเลขทั้งยังเเสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เเนวโน้ม ความ
เปลี่ยนแปลงของจำานวนข้อมูลที่เป็ นปริมาณอย่างเด่นชัด
ลักษณะของแผนสถิติประกอบด้วยเส้นต่างๆทั้งในแนวนอน
เเละเเนวตั้ง ตัวเลข ตัวอักษร ชื่อเรื่อง
ประเภทของแผนสถิติ
1. แผนสถิติเเบบเส้น ( Line 2. แผนสถิติเเบบเเท่ง ( Bar
Graphs or Curve Graphs )
Graphs )
 
 
 
ประเภทของแผนสถิติ (ต่อ)

3. แผนสถิติเเบบวงกลม 4. แผนสถิติเเบบรูปภาพ
( Circle or Pie Graphs ) ( Picture Graphs ))

 
 
 
ประเภทของแผนสถิติ (ต่อ)

5. แผนสถิติเเบบพื้ นที่ 6. แผนสถิติแบบกำาหนด


( Area Graphs จุด(ScatterPlot)
or Solid Figures )

 
 
 
แผนภูมิ (Charts)
ความหมายและลักษณะของแผุนภูมิ
แผนภูมิ Charts คือ โสตทัศนวัสดุท่ีเเสดงให้เห็น
ความสัมพันธ์ของข้อเท็จจริงหรือเเนวคิดต่าง ๆแสดง
การเปรียบเทียบด้านปริมาณ พัฒนาการ กระบวนการ
ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราว ต่างๆอย่างชัดเจน  แผนภูมิ
ประกอบด้วย รูปภาพสัญลักษณ์ ตัวหนั งสื  อตัวเลข
 
เเละสีรวมกัน
ประเภทของแผนภูมิ
แผนภูมิต้นไม้ (Tree Charts) เป็ น • แผนภูมิเเบบสายธาร (Stream
แผนภูมิท่ีแสดงของสิ่งที่เป็ น Charts) เป็ นแผนภูมิท่ีแสดงให้เห็น
ส่วนรวม  หรือเป็ นความคิด ว่าของสิ่งหนึ่ ง หรือคู่หนึ่ งที่เป็ น
รวบยอด สามารถแยกออกเป็ น ส่วนรวมเกิดจากการรวบรวมของ
ส่วนย่อยได้หลายส่วน  เหมือน สิ่งย่อยๆ หลายสิ่งเข้าด้วยกัน
 
กับ ต้นไม้ท่ีเจริญจากลำาต้นแล้ว  เปรียบเสมือนกับ   แม่น้ ำาสายใหญ่ๆ
แตกแยกเป็ นกิ่งก้านต่างๆ ที่เกิดจากแม่น้ ำาสายย่
  อยไหลมารวม
ตัวกัน
ประเภทของแผนภูมิ (ต่อ)

แผนภูมิแบบองค์การ (Organiztion แผนภูมิเเบบตุอเนื่ อง (Flow Charts)


Charts) ใช้แสดงความสัมพันธ์ เป็ นแผนภูมิท่ีแสดงให้เห็นลำาดับ
ของหน่วยงานในองค์การสถานที่ ของการทำางาน   กระบวนการ
ทำางาน แบ่งกลุ่ม และประเภท หรือกิจกรรมที่เป็ น  ไปตามลำาดับ
ของสิ่งต่าง ๆนิ ยมใช้เส้นโยง ขั้นแสดงการเจริญเติบโตที่เป็ นวัฎ
 
เส้นตรง  ให้เห็นความสัมพันธ์ จักรหรือการเปลี่ย นแปลงรูปร่าง
ของหน่วยใหญ่ และหน่วยย่อย ของสิ่งหนึ่ งที่มีความสั
  มพันธ์กับ
ลำาดับของกิจกรรม หรือเวลา
ประเภทของแผนภูมิ (ต่อ)

แผนภูมิเเบบเปรียบเทียบ แผนภูมิเเบบตาราง (Tabular Charts)


(Comparison Charts) ใช้สำาหรับ เป็ นแผนภูมิท่ีใช้แสดงความ
เปรียบเทียบให้เห็นความแตก สัมพันธ์ระหว่างข้อมูลสองข้อมูล
ต่างระหว่าง รูปร่าง ลักษณะ เช่นความสัมพันธ์ระหว่างเวลากับ
ขนาด แนวความคิด ฯลฯ ของ เหตุการณ์ตารางเรียน ตารางสอน
 
สิ่งของต่างๆ  เช่น  เปรียบเทียบ ตารางกำาหนดการ  ต่างๆ เหตุการณ์
ขนาด ของประเทศต่างๆ เปรียบ ที่เกิด ขึ้นในประวั  ติศาสตร์
เทียบลักษณะของ
งูมีพิษและงูไม่มีพิษ
ประเภทของแผนภูมิ (ต่อ)

แผนภูมิวิวัฒนาการ (Evaluation แผนภูมิเเบบอธิบายภาพ


Charts) ใช้แสดงความ (Achievement Charts) ใช้แสดง
เปลี่ยนแปลงของสิ่งต่าง ๆ   ที่ ส่วนต่างๆ ของภาพหรือบอกราย
เป็ นไปอย่างต่อเนื่ องมีวิวัฒนาการ ละเอียดของภาพ เช่น อวัยวะต่างๆ
ติดต่อกันมา ไม่ขาดสายตั้งแต่ ของคน ส่วนต่างๆ ของดอกไม้
โบราณจนถึงปั จจุบน ั  เช่น  การ เป็ นต้น
แสดงวิวัฒนาการของ  รถยนต์
  เรือ   และเครื่องบิน
ประเภทของแผนภูมิ (ต่อ)

แผนภูมิขยายสุวน ( Enlarging Chartsz) เป็ นแผนภูมิท่ีมุ่งแสดง


ให้เห็นลายละเอียดของส่วนเล็กๆ   ขยายให้ใหญ่ข้ ึนเน้นส่วนที่
ต้องการ ให้เห็นชัดเจนขึ้น โดยขยายเฉพาะบางส่วน เท่านั้ น
แผนภาพ (Diagrams)
ความหมายเเละลักษณะของแผนภาพ
แผนภาพ Diagrams เป็ นทัศนสัญลักษณ์ท่ีเป็ นนามธรรมกว่าสื่อกราฟิ ก
ชนิ ดอื่นๆ ใช้เเสดงหรืออธิบายให้เห็นถึงโครงสร้างภายในที่มีความสัมพันธ์
กันถึงโครงร่าง กระบวนการของสิ่งหรอพื้ นที่ ซึ่งมองไม่เห็นจากภายนอก
แผนภาพมีช่ อ ื เรียกอีอย่างว่า แผนผังแผนภาพประกอบด้วย เส้น
 
สัญลักษณ์ ภาพ หรือสีแผนภาพที่มีขนาดเท่าของจริงอาจขยายหรื
  อย่อได้
ตามความเหมาะสม  
แผนภาพ (Diagrams) (ต่อ)

1. แผนภาพลายเส้น 2. แผนภาพเเบบบล็อก
เป็ น แผนภาพที่ใช้ลายเส้น รูป เป็ นแผนภาพที่ใช้รูปทรงง่ายๆ
ทรง และข้อความประกอบกัน แสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบอย่าง
เหมาะสำาหรับแสดงโครงสร้างทั้ง หยาบๆ แสดงความสัมพันธ์ของ
ภายในและภายนอกพร้อมกับมี ระบบการทำางานที ่เกี่ยวเนื่ องกัน
เส้นโยงแสดงความสัมพันธ์ โดยไม่เน้นรายละเอี
  ยดของการ
เกี่ยวข้องกันทั้งลักษณะและ ทำางาน  
ตำาแหน่ง และความสัมพันธ์ ของ
ภาพที่แสดง
แผนภาพ (Diagrams) (ต่อ)

3. แผนภาพแบบรูปภาพ 4. แผนภาพแบบผสม
เป็ นแผนภาพ ที่ใช้ลายเส้นเขียน เป็ นแผนภาพ ที่ใช้เทคนิ ค การ
เป็ นภาพง่ายๆ แทนสิ่งหนึ่ งสิ่งใด เขียนลายเส้น บนรูปภาพเพื่อเน้น
เพียงต้องการให้ดูเหมือน หรือ ให้เห็นความสำาคัญ เฉพาะบางส่วน
ใกล้เคียงเท่านั้ น ผู้ดูจะเกิด ความ โดยเป็ นการรวมทั้ งรูปภาพ และ
เข้าใจ ได้เองแผนภาพแบบนี้ จึง ลายเส้น เข้าด้วยกั น
เหมาะ แก่การแสดง หลักการ  
ทำางาน ถ้าภาพ ที่วาดเหมือนจริง
มากจะกลายเป็ น แผนภูมิอธิบาย
ภาพ 
ภาพโฆษณาหรือภาพโปสเตอร์
                  ภาพโปสเตอร์เป็ นทัศนวัสดุท่ีสร้างขึ้นชักชวน จูงใจ สร้าง
ความประทับใจให้เกิดความประทับใจ ให้เกิดความเชื่อถือศรัทธาและนำาไปสู่
การแสวงหาข้อมูลเพิ่มเติมในเวลาต่อไป
            เนื้ อหาที่เหมาะสมกับสื่อภาพโปสเตอร์ ควรเป็ นเนื้ อหาที่ต้องการ
กระตุ้นเร้าใจให้ปฏิบัติตามการแจ้งข่าวสาร การแนะนำาเชิญชวน เป็ นต้น
 
 
 
      การ์ตูน (Cartoons)
ความหมายเเละลักษณะการ์ตูน ลักษณะการ์ตน
ู ที่ดี
การ์ตูน คือ ภาพที่เขียนขึ้น • เเสดงภาพได้ตรงกับจุดมุ่งหมาย
อย่างง่ายๆ เเสดงเฉพาะลักษณะ ของผู้เรียนรู้ และสามารถทำาให้ผู้ดู
เด่นของสิ่งที่เขียนขึ้นเท่านั้ น เป็ น เข้าใจความหมายได้ตรงกับจุดมุ่ง
ภาพเขียนที่เขียนขึ้นเพื่อถ่ายทอด หมายนั้ น
เรื่องราว ซึ่งเป็ นความคิดเห็นหรือ • ต้องเป็ นภาพง่ายๆ  เเสดงลักษณะ
ทัศนะของผู้เขียนไปยังผ้ด ู ูการ์ตูน เดิน ไม่ซับซ้อนหรื  อเเสดงความ
การ์ตูนที่เขียนได้ดังจุดหมายของ ละเอียดมากเกินไป  
เรื่องจะช่วยให้ผด ู้ ูเข้าใจความหมาย
ได้ดีกว่าการใช้ภาษาบอกเล่าเพียง • การ์ตูนภาพหนึ่ งๆ ควรเเสดงเรื่อง
อย่างเดียว ราวเพียงเรื่องเดียวและให้จุดมุ่ง
หมายเป็ นเรื่องเด่นของภาพ
• คำาบรรยายภาพการ์ตูน ควรเป็ น
ภาพบรรยายสั้น ๆ กระทัดรัด เเต่มี
ความหมายลึกซึ่งครอบคลุมเรื่อง
ราวทั้งหมด
ประเภทของการ์ตน

1. การ์ตูนเป็ นภาพ 2. การ์ตูนเรื่อง (Comic Books)


คือ การ์ตูนที่เขียนขึ้นเพื่อแสดงให้ การ์ตูนเรื่อง คือภาพการ์ตูนที่ต่อ
เห็นแนวความคิดเดียวโดยเขียน เนื่ องกันหลายๆ ภาพ เพื่อเสนอ
เพียงกรอบเดียวหรือภาพเดียว เรื่องราวเป็ นเรื่อง
เท่านั้ นก็สามารถสื่อความหมาย ยาวๆ เล่มเดียวจบหรือมีหลายเล่ม
ก็ได้
ประเภทของการ์ตน

3. การ์ตูนตุอเนื่ อง (Comic Strips) 4. การ์ตูนลายเส้น (Stick Figures)


การ์ตูนต่อเนื่ องเป็ นภาพการ์ตูนที่ การ์ตูนลายเส้น เป็ นภาพการ์ตูน
เขียนขึ้นเพียง ลายเส้นโดยใช้เส้นง่ายๆ แสดงถึง
3-4 กรอบ เป็ นตอนๆ แต่สามารถ สิ่งใดสิ่งหนึ่ งหรือ
สื่อความหมายของ เรื่องราวต่างๆ อากับกริยาของคนหรื   อสัตว์ โดย
ได้ เข้าใจได้จากลายเส้   นที่เขียนขึ้น
อย่างง่ายๆ เฉพาะส่   วนที่สำาคัญ

เท่านั้ น
ภาพพลิก (Flip Charts)

ภาพพลิกเป็ นทัศนวัสด่ที่
เป็ นช่ดของภาพวาด
ภาพถุาย แผนภูมิ หรือแผน
สถิติ ซึ่งนำามาเย็บเลุนรวม
 
กันเข้าเป็ นเรื่องราวให้มีความ  
ตุอเนื่ องสัมพันธ์กันตั้งแตุตน
้  
จนจบ จำานวนประมาณ 10-
15 แผุน
• รูปแบบของภาพพลิกสามารถทำาได้
หลายแบบ เชุน
       1. ใช้กระดาษแข็งหรือไม้อัด • ลักษณะของภาพพลิกที่ดี
ทำาเป็ นปกหน้าและปกหลัง เวลาใช้      1. ภาพชัดเจน เข้าใจง่าย สื่อความ
หมายได้ดี ตรงกับเนื้ อหาและวัตถุประสงค์
ต้องกางปกทั้งสองออกเป็ นขาตั้ง       2. คำาอธิบายควรเป็ นประโยคสั้น ๆ
ไปในตัว กะทัดรัด ตัวอักษะขนาดใหญ่และควรเป็ น
       2. ใช้กระดาษแข็ง ไม้อัด อักษรแบบเดียวกันทั้งชุด
หรือไม้เนื้ อแข็งทำาเป็ นขาหยัง่ ตั้ง       3. ควรใช้สใี ห้ตด
ั กันอย่างเหมาะสม
แต่ไม่ควรเกิน 3-4 สี ภาพสีจะช่วยให้เกิด
โต๊ะ แบบเป็ นรูปฐานรองรับภาพ 2 ความสนใจมากกว่าภาพขาวดำา
ชิ้น แล้วติดด้วยบานพับ       4. ภาพควรเรียงตั   วต่อไปตามลำาดับ
       3. ใช้ขาหยัง่ ตั้งบนพื้ นทำา อย่างถูกต้อง ภาพพลิก 1 ชุด ควรเป็ นเรื่อง
 
เป็ นเสาสูง 3 หรือ 4 และมีขอโลหะ เดียวกัน ในภาพหนึ่ งควรมีความคิดเดียว
  อขาหยัง่ ขาตั้ง ต้อง
สำาหรับทำาที่แขวนด้านบน       5. การเย็บแผ่นหรื
มัน
่ คงแข็งแรง
     สัญลักษณ์ (Symbols)
• สัญลักษณ์ คือการสื่อความหมายที่ • ประเภทของสัญลักษณ์
ให้มนุ ษย์ ในสังคมเข้าใจร่วมกัน ใน 1. การใช้รูปภาพเป็ นสัญลักษณ์
แนวทางเดียวกัน โดยการออกแบบเป็ น      คือการนำาภาพวัตถุต่างๆ มาใช้เป็ น
รูปลักษณ์ตา่ ง ๆ ในลักษณะ ภาพลาย ตัวแทนภาพสัญลักษณ์เพียงอย่างเดียว
เส้นการเขียนสัญลักษณ์อาจใช้วิธีลอก โดยไม่มีการนำาตัวอักษรมาประกอบ
แบบ เลียนแบบจากธรรมชาติ 2. การใช้ตัวอักษรเป็ นสัญลักษณ์
จินตนาการจากแนวความคิดแล้วแต่ง      บางครั้งเรียกสั้นๆ ว่า “โลโก้“
เสริมเติมต่อให้ดนู ่าสนใจมากยิ่งขึ้นก็ได้ เป็ นสัญลักษณ์ท่ีได้รบ
ั ความนิ ยมมากใน
ปั จจุบัน เนื่ องจากสามารถดัดแปลงให้
เป็ นสัญลักษณ์ท่ี  
 
งดงามและน่าสนใจได้มากกว่าการใช้
รูปภาพ  
3. การใช้รูปภาพและตัวอักษรผสมกัน
เป็ นสัญลักษณ์
     เป็ นการออกแบบโดยใช้ท้ ังรูปภาพ
และตัวอักษร ผสมกันเพื่อให้เกิดความ
งามและสามารถสื่อความหมายได้อย่าง
ชัดเจน
ลักษณะของสัญลักษณ์ทด ี่ ี

1. ไม่ควรใช้สัญลักษณ์ท่เี ป็ นรูปเรขาคณิ ตง่ายๆ เช่น
วงกลม สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม  เพราะผู้ดจ ู ะไม่สะดุด
ตา หรือให้ความสนใจเป็ นพิเศษ
2. ภาพสัญลักษณ์ท่ีดค ี วรมีความเหมาะสมกับทุกยุค
ทุกสมัย โดยควรหลีกเลี่ยงการนำาสิ่ง   ซึ่งอยู่ใน
ความ นิ ยมเฉพาะสมัยมาเป็ นเครื่องหมาย
สัญลักษณ์
3. ไม่ควรใช้ภาพที่ผู้ดูจะเกิดความรู้สึกสับสนว่น
ุ วาย
หรือ มีรายละเอียดมากเกินไป
4. ไม่ควรใช้ภาษาที่อ่านออกเสียงยากมาเป็ น
เครื่องหมายสัญลักษณ์
5. และจะต้องไม่ขด ั ต่อข้อห้ามตามกฎหมาย เช่น
ไม่ใช้ตราราชการ หรือ เครื่องหมาย  ประจำา
พระมหากษัตริย์ รวมทั้งของต่างประเทศ และ
ภาพบุคคลโดยไม่ได้รบ ั อนุ ญาต  
 
 
  กระดานชอล์ก (Chalk
Board)
• กระดานชอล์กหรือกระดานดำาเป็ นสื่อการสอนที่รู้จก
ั กันดี และมี
ใช้มานานแล้ว ทำาด้วยกระดานทาสีเขียวด้าน ใช้คู่กับชอล์กสีขาว
หรือชอล์กสี กระดานชอล์กมีความจำาเป็ นสำาหรับห้องเรียน
เพราะโดยตัวของกระดานชอล์กเองมีคุณสมบัติเด่นอยู่หลาย
 
ประการ  
 
• ข้อดีของกระดานชอล์ก
• ใช้ ได้ทุกเวลาและโอกาส ใช้ได้กบ ั ทุกขั้นตอน
ของการเรียนการสอน ตั้งแต่การนำาเข้าสู่บท
เรียน ใช้ประกอบการอธิบาย นอกจากนี้ ยัง
สามารถใช้เป็ นที่แสดงผลงานของนั กเรียน ใช้
เป็ นจุดรวมความสนใจของนั กเรียน ใช้เขียนคำา • เสนอเรื่องราวหรือเนื้ อหาได้ทันที
สัง่ มอบหมายงาน เฉลยการบ้าน ติดตั้งจอฉาย
แขวนป้ ายนิ เทศ แขวนแผนที่ได้เป็ นอย่างดี ทันใด
• ใช้ เสนอหลักการ ข้อเท็จจริง ความคิด • ใช้ได้คงทนถาวร เสียหายได้ยาก
กระบวนการ จากสิ่งที่งา่ ยไปสู่ส่ิงที่สลับซับซ้อน
เพื่อให้ผู้เรียนได้คด
ิ วิเคราะห์ตาม • ใช้ได้ท้ ังครูและนั กเรียน
• ใช้ เป็ นที่วางแผนการเรียนการสอนร่วมกัน • ประหยัดค่าใช้จ่าย
ระหว่างครูและนั กเรียน
• ใช้ประกอบกับสื่ออื่นๆ ได้เป็ นอย่างดี
• สามารถเขี ยนและลบได้งา่ ย ถึงแม้ว่าจะเขียน
ทิ้งไว้นานก็สามารถลบได้งา่ ย ช่วยทำาให้ประสบการณ์นามธรรมให้

• ผู้เรียนสามารถมองเห็นได้พร้อมกันทั้งชั้น เป็ นรูปธรรม  
• ใช้สำาหรับเขียนภาพประกอบการ
 
อธิบาย และใช้เป็ นที   ่แสดงสัญลักษณ์
• ถ้าเป็ นกระดานชอล์กแบบม้วนครู
สามารถเตรียมการเขียนมาก่อนได้
เช่นภาพที่วาดยากหรือไม่สามารถวาด
เองได้
• ไม่เปลืองไฟฟ้ า
ข้อเสียของกระดานชอล์ก

• มีฝุ่นละอองจากผงชอล์ก ซึ่งทำาให้เกิดความสกปรก และเป็ น


อันตรายกับผู้ท่ีเป็ นโรคภูมิแพ้
• ไม่เหมาะกับการใช้งานในห้องปรับอากาศ
• ชอล์กและแปรงลบกระดานอาจถูกแปลงเป็ นอาวุธของครูได้
• ผู้สอนต้องหันหลังให้ผู้เรียนในบางครั้ง
• ผู้สอนต้องเขียนเนื้ อหาใหม่ทุครั้งที่สอน  
 
• เคลื่อนย้ายลำาบาก  
• ผู้ท่ีลายมือไม่สวย อาจไม่เหมาะสมในการใช้กระดานชอล์ก
แผนที่และลูกโลก
(Maps and Globe)
• แผนที่ เป็ นทัศนวัสดุท่ีแสดงทิศทางอาณาเขตลักษณะ
ภูมป ิ ระเทศและสิ่งต่างๆ บนพื้ นโลก โดยใช้ เส้นสี สัญลักษณ์
และการกำาหนดมาตราส่วน เพื่อย่นระยะทางและลดขนาดของ
พื้ นที่ให้สามารถสื่อความหมายได้ในที่จำากัด สามารถรับรู้ และ
 
เข้าใจได้ง่ายในเวลารวดเร็ว  
• ลูกโลก เป็ นวัสดุสามมิติประเภทหุ่นจำาลองแบบย่อ  ส่วนโดยย่อ
ส่วนหรือลดขนาดของโลกอาศัยมาตราส่วนกำาหนดขนาด และ
ระยะทางที่ใกล้เคียงข้อเท็จจริงมากที่สุด
  ประเภทของแผนที ่     
จำาแนกตามลักษณะการใช้ จำาแนกตามลักษณะเนื้ อหา
1. แผนที่ดูบนโต๊ะ (Desk Map) 1. แผนที่ประวัติศาสตร์
2. แผนที่แสดงเนื้ อหาทางด้านภูมศ
ิ าสตร์

2. แผนที่แขวนผนั ง (Wall Map)


3. แผนที่โครงร่าง แสดงเฉพาะโครงร่าง
หรืออาณาเขต

3. แผนที่ประกอบหนั งสือหรือตำารา
(Map in Textbook)  
4. แผนที่แสดงข้อมูลทางเศรษฐกิ จ
 
 

4. แผนที่รวมเล่มหรือหนั งสือแผนที่ 5. แผนที่แสดงข้อมูลทางการเมือง


(Atlas)
6. แผนที่แสดงภูมิอากาศ

• ลักษณะของแผนที่และลูกโลกที่ดี
1. มีมาตราส่วนที่ถูกต้อง
2. แสดงรายละเอียดในเนื้ อหาที่จัดทำาได้
7. แผนที่แสดงภาพถ่ายดาวเทียม
อย่างชัดเจน
3. ควรมีขนาดใหญ่เห็น ได้อย่างชัดเจน
  ญลักษณ์
4. มีคำาบรรยายประกอบสั
 
5. ควรมีความแข็งแรงทนทาน
 รูปภาพ (Photographic)
รูปภาพ มีความสำาคัญต่อการสื่อสารของมนุ ษย์มา
เป็ นเวลานาน  ดังจะเห็นได้จากสุภาษิตจีน
โบราณ  ซึ่งกล่าวว่า "คำาพูดพันคำาก็ไม่เท่ากับ
รูปภาพเพียงภาพเดียว"   ดังนั้ น ในการนำา
เสนอเนื้ อหา    ถ้าผ้นู ำาเสนอได้นำารูปภาพมาใช้
ประกอบย่อมสร้างความเข้าใจที่ดแ ี ก่ผู้ดย
ู ่ิงกว่า
การใช้คำาบรรยายเพียงอย่างเดียว
รูปภาพ  เป็ นงานกราฟิ กประเภทหนึ่ งที่ตอ ้ งอาศัย
หลักการทางศิลปะเช่นเดียวกันประกอบกับ
เครื่องมือเพื่อใช้ใน การถ่ายภาพ คือ กล้องถ่าย  
ภาพนั ่นเอง       กล้องถ่ายภาพ ในปั จจุบน ั มี  
มากมายหลายรูปแบบ   ซึ่งสามารถแบ่งออก
 
เป็ น  2 ประเภท  คือ 
1. กล้องถ่ายภาพอัตโนมัติ   
2. กล้องถ่ายภาพสะท้อนเลนส์เดี่ยว
• ประเภทของกล้องถุายภาพ
• กล้องถุายภาพอัตโนมัติ (Automatic • กล้องถุายภาพสะท้อนเลนส์เดี่ยว (Single
Cameras) เป็ นกล้องที่ถ่ายง่าย Lens Reflex : SLR)       เป็ นกล้องที่
และสะดวก ต่อการใช้งานเนื่ องจากมี เหมาะสำาหรับการใช้งานในระดับมืออาชีพ
ระบบช่วยเหลือหลายอย่าง เช่นเปิ ด หรือผู้ท่ีต้องการรายละเอียดสูง ในทุกๆ
ด้าน   ตัวเลนส์สามารถเปลี่ยนได้ หลาย
หน้ากล้อง  หรือ  รูรบ ั แสงอัตโนมัติ แบบ เช่นเมื่อต้องการถ่ายภาพใกล้มาก ๆ
  ปรับความเร็วชัตเตอร์ได้โดยอัตโนมัติ ก็ใช้เลนส์ Macro   ต้องการถ่ายภาพปกติ
  เลื่อนฟิ ล์มอัตโนมัติ   กรอฟิ ล์มกลับ ใช้เลนส์ Normal    ต้องการภาพมุมกว้างก็
เมื่อถ่ายหมดม้วนได้เองปรับระยะชัด ใช้เลนส์ Wide Angle    หรือต้องการถ่าย
อัตโนมัตแิ ฟลชทำางานได้โดยอัตโนมัติ ภาพในระยะไกลใช้เลนส์ Tele Photo  หรือ
เมื่อแสงไม่พอ สิ่งเหล่านี้ ล้วนช่วย ใช้เลนส์ Zoom  ที่มีข ีดความสามารถ เช่น
ให้การถ่ายภาพได้ด ี  ตลอดจนผู้ถ่าย เดียว กับเลนส์หลายชนิ  ดรวมอย่ด ู ้วย
ควรมีความสามารถทางศิลปะในการ กัน    กล้องประเภทนี   ้ ยังมีแบบ อัตโนมัติ
ประกอบภาพ ด้วยเพื่อลดภาระในการควบคุมให้ได้
มาตรฐานยิ่งขึ้น
• ฟิ ลม์ถุายภาพ
      กล้องทั้งสองประเภทจะใช้ฟิล์มที่
มีจำาหน่าย อยู่มากที่สุด ในสภาพ
ตลาดปั จจุบน ั  คือฟิ ล์มเบอร์135 • องค์ประกอบในการถุายภาพ
หรือเรียกว่าฟิ ล์มขนาด 35 การถุายภาพให้ได้ผลดีน้ ัน ขึ้นอยุูกับ
มม. ส่วนการ เลือกใช้ฟิล์มที่มี องค์ประกอบ 3 ประการ คือ
ความไวแสงแตกต่างกันนั้ น  ขึ้น 1. ควบคุมแสงได้เหมาะสม
อยู่กับผู้ถ่ายภาพ  โดยปกติจะใช้ 2. ภาพคมชัด
ISO100 แต่ถ้า ต้องการ ฟิ ล์มที่มี 3. จัดองค์ประกอบตามหลั
  ก
ความไวสูงขึ้นอีกเมื่อใช้กับกล้อง ศิลปะ  
อัตโนมัติ  ขนาดเล็กก็ใช้  ISO  
    เมื่อมีความสนใจในการนำ า
200 หรือจะใช้ 400 ก็ได้ ซึ่งราคา ภาพถ่ายไปใช้ประกอบการสอน
ก็แพงขึ้นเป็ นธรรมดา  หรือพัฒนาผีมือ ความสามารถเพื่อ
ผลิตสไลด์   ควรจะได้ศึกษาและฝึ ก
ทักษะบ่อย ๆ   จะช่วยให้มีความ
เชื่อมัน
่ ในการถ่ายภาพได้เป็ นอย่าง
ดี
เครื่องฉายสไลด์ (Slides)
เครื่องฉายสไลด์เป็ นเครื่องมือที่สามารถทำาให้ภาพบนฟิ ล์มปรากฏ
ขึ้นที่จอ มีลักษณะเหมือนต้นแบบ โดยขยายให้ภาพเหล่านี้ ใหญ่เล็ก
ตามความต้องการของผู้ดู เครื่องฉายสไลด์เป็ น
เครื่องฉายที่ใช้ภาพนิ่ งชนิ ดโปร่งแสงหรือแผ่นสไลด์ ทำาให้ภาพบน
 
ฟิ ล์มไปปรากฏบนจอฉาย  
มีหลักการทำางานคือ หลอดฉายเป็ นต้นกำาเนิ ดแสงสว่   างทุกทิศทาง

แผ่นสะท้อนแสงจะสะท้อนจากด้านหลังของหลอดฉายให้พุ่งตรงไป
ข้างหน้าในทิศทางเดียวกัน ลำาแสงจะผ่านเลนส์ควบแสง ผ่านทะลุ
วัสดุฉาย (แผ่นสไลด์) ผ่านเลนส์ฉายและนำาภาพไปปรากฏภาพบน
จอ โดยมีลักษณะภาพเหมือนต้นแบบและขยายขึ้น ใช้ระบบการฉาย
แบบตรง (direct projection)
ประเภทของเครื่องฉายสไลด์
สุวนประกอบ
1. แบบ Viewer แบบนี้ อาศัยความ
สว่างจากหลอดไฟขนาดเล็ก สามารถ 1. ถาด (Magazine) ใส่แผ่น
ขยายภาพให้โตกว่าต้นแบบประมาณ 3 สไลด์
เท่า ด้านหน้าจะมีจอแก้วสำาหรับดู โดยใช้
ดูทีละภาพ เครื่องฉายแบบนี้ ราคาถูก 2. ร่องใส่ถาดสไลด์
มาก สามารถใช้ศึกษาเป็ นรายบุคคลได้ 3. ที่ดงึ เลื่อนภาพสไลด์
2. แบบ Magazine แบบนี้ จะมีถาด
สำาหรับสอดใส่สไลด์ได้หลายภาพในถาด 4. เลนซ์
หนึ่ งๆ จัดลำาดับการนำาเสนอได้ เวลา 5. ป่ ม
ุ ปรับความชั ด (Focus)
ใช้ก็สามารถเปลี่ยนทีละภาพโดยมิตอ ้ ง
หยิบออกหยิบเข้า ซึ่งมีความสะดวกมาก 6. ป่ มุ เปลี่ยนภาพ  (Slide Change
 
และถาดวางสไลด์บางเครื่องอาจวางไว้ buttons)
ส่วนบนของเครื่องหรือด้านข้างปั จจุบัน
นิ ยมแบบนี้ มาก 7. สวิตซ์ปิด - เปิ ดไฟ และพัดลม
(Fan/Lamp switch)
8. ที่ตอ ่ สาย Remote control
9. ป่ ม ุ ปรับระดับเครื่องฉาย
(Elevation knob)
เครื่องฉายภาพนิ่ ง

• เครื่องฉายภาพนิ่ งใช้สำาหรับฉายภาพประเภทโพสิ
ทีฟ ขาวดำา หรือฟิ ล์มสี ถ้าฟิ ล์มที่ฉายมีแผ่น
เดียว เรียกว่า “สไลด์” แต่ถ้าเป็ นฟิ ล์มติดต่อกัน
เรียกว่า “ฟิ ล์มสตริฟ ”
 
 
 
ระบบการทำางานของเครื่องฉายสไลด์
1. ระบบการเปลี่ยนภาพ แยกระบบย่อย ๆ ได้ 3 ระบบคือ
1.1 ระบบธรรมดา (manual) ควบคุมการเปลี่ยนภาพด้วยมือ โดยการดึงหรือผลักที่บรรจุแผ่นสไลด์ให้
เลื่อน เข้า - ออก เพื่อฉายสไลด์ครั้งละแผ่น ในปั จจุบน ั ไม่คอ
่ ยมีใช้แล้วเพราะล้าสมัย
1.2 ระบบกึ่งอัตโนมัติ (semi automatic) ควบคุมการเปลี่ยนภาพด้วยกลไกภายในตัวเครื่อง โดยการ
กดป่ ุมที่ตวั เครื่องเพื่อให้แผ่นสไลด์เดินหน้าหรือถอยหลัง ครั้งละแผ่นตามต้องการ หรือควบคุม
การเปลี่ยน
ภาพด้วยเครื่องควบคุมระยะไกล (Remote control) ได้ ซึ่งมีลักษณะเป็ นแผงควบคุมเล็กๆ
ต่อเชื่อมกับเครื่องฉายด้วยสายยาวๆ หรืออาจเป็ นแบบไร้สายทำางานด้วยคลื่นวิทยุหรือลำาแส
งอินฟาเรด
2. ระบบการปรับความคมชัดหรือการโฟกัสภาพ แบ่งเป็ นระบบย่อยๆ ได้ 3 ระบบ คือ
2.1 ระบบธรรมดา (manual) เป็ นระบบการปรับโฟกัสด้วยมือ โดยการหมุนกระบอกเลนส์   ไปมาหรือ
หมุนที่  
ป่ ุมสำาหรับปรับโฟกัสจนกว่าภาพที่ปรากฎบนจอฉายจะคมชัด  
2.2 ระบบกึ่งอัตโนมัติ (semi automatic) ปรับโฟกัสด้วยกลไกภายในตัวเครื่อง โดยการบังคับที่ปุ่ม
ควบคุมการทำางานระยะไกล จนกว่าภาพที่ปรากฏบนจอฉายจะชัดเจน
2.3 ระบบอัตโนมัติ (automatic) เครื่องฉายจะปรับโฟกัสได้เอง ทันทีท่ีภาพถูกฉายขึ้นบนจอทุกภาพ
เครื่องฉายภาพข้ามศรีษะ
• เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ หรือบางทีเรียกว่า เครื่องฉายภาพ
โปร่งใส เพราะวัสดุฉาย เป็ นแผ่นโปร่งใส (Transparency)
หรืออาจเรียกว่า กระดานชอล์กไฟฟ้ าเพราะใช้แทนกระดาน
ชอล์กได้ เป็ นเครื่องฉายที่จัดอย่ใู นระบบฉายอ้อม ใช้
สำาหรับฉายภาพ วัสดุ หรือเครื่องมือที่โปร่งใส  โดยเขียน
ข้อความหรือวาดภาพบนแผ่นโปร่งใส ซึ่งอาจจั  ดเตรียมไว้
 
ล่วงหน้า แล้วนำามาวางบนเครื่องฉายซึ่งตั้งอยู่หน้าชั้นเรียน
ภาพที่ปรากฏบนจอเหมือนการใช้กระดานชอล์ก ซึ่งผ้ส ู อน
จะอธิบายประกอบการฉายก็ได้ สะดวกต่อการนำามาใช้ โดย
ทัว่ ไป
แผุนภาพโปรุงใส

แผ่นโปร่งใส หรือแผ่นใส
(Transparencies)
หมายถึง วัสดุที่แสงสามารถผ่านได้ เช่น ฟิ ล์มใส แผ่นไมลา, แผ่นอะซีเตท, แผ่นโพลีเอสเตอร์, กระจกใส,
พลาสติกใส แต่แผ่นโปร่งใสที่นิยมใช้จะทำาจากแผ่นอะซีเตท เพราะมีราคาถูก หาได้ง่าย แผ่นโปร่งใสจะมีกรอบกระดาษ หรือ กรอบ
พลาสติกยึดแผ่นใส ให้สะดวกเวลาใช้งาน และเวลาเก็บจะได้เป็ นชุดเป็ นลำาดับแผ่น แผ่นโปร่งใสขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้ในปั จจุบัน มี
ด้วยกัน 2 ขนาด คือ ขนาด 10 นิ้ ว คูณ 10 นิ้ ว และขนาด 8 ½ นิ้ ว คูณ 11 ½ นิ้ ว ซึ่งจะมีขนาดพอดีกบ ั แท่นรองเขียนบนเครื่องฉาย
ภาพข้ามศีรษะ เนื้ อที่ภายในแผ่นโปร่งใสขนาดดังกล่าวนี้ เรียกว่า Image Area คือเนื้ อที่ภายในกรอบกระดาษ เป็ นส่วนที่ลำาแสงจะฉาย
ผ่านออกไป ปรากฏบนจอฉาย Image Area นี้ ไม่สามารถใช้งานในการเขียนได้หมด ต้องเหลือเนื้ อที่ด้านขอบไว้ประมาณ ½ นิ้ ว ระหว่าง
เนื้ อหากับกรอบ ส่วน Image Area นี้ จึงแบ่งออกได้เป็ น 2 ส่วน คือ
- ส่วนที่ใช้เขียนภาพ (Safety Area, Safe Area for Image) คือบริเวณส่วนทีเ่ ป็ นเป็ นเนื้ อที่สำาหรับเขียนภาพ
- ส่วนที่ไม่ควรเขียนภาพ (Dead Area) คือ ส่วนนอกระหว่างส่วนที่ใช้เขียนภาพกับกรอบกระดาษ เป็ นส่วนที่ไม่ควรเขียนภาพ

 
 
 
• ความสำาคัญของแผุนโปรุงใส
แผ่นโปร่งใสและเครื่องฉาย • ชนิ ดของแผุนโปรุงแสง
ภาพข้ามศีรษะเป็ นนวัตกรรม แผ่นโปร่งแสง แบ่งออกได้เป็ น 2 แบบคือ
- แบบเดี่ยว (Single Sheet) แบบนี้ เป็ น
ทางการศึกษาที่เข้ามาแทนที่ แผ่นใสแผ่นเดียวแล้วติดกรอบกระดาษหรือ
กระดานชอล์ก และชอล์ก กรอบพลาสติก เหมาะสำาหรับเสนอเนื้ อหาที่
มีความคิดเดียว มีประเด็นนำาเสนอเพียง
และเป็ นที่ยอมรับกันโดย เรื่องเดียว
ทัว่ ไปในขณะนี้ แล้วว่า แผ่น - แบบซ้อน (Over Lay) แบบนี้ ลักษณะ
โปร่งใสและเครื่องฉายภาพ เป็ นชุดแผ่นใส ประกอบด้วยแผ่นใสหลาย
แผ่นซ้อนทับกัน มีลำาดับแผ่นที่จะเปิ ดแล้ว
ข้ามศีรษะนี้ เป็ นประโยชน์ จึงค่อยซ้อนทับกันตามลำาดับแผ่นเหมาะ
มากในการเรียนการสอน สำาหรับเสนอเรื่องราวที่มีความซบซ้อน,
 
ความต่อเนื่ องเป็ นวิวัฒนาการ, แสดงการ
ตลอดจนในการประชุมการ เปรียบเทียบข้อมูลมากกว่ า 2 เรื่อง, แสดง
สัมมนา และการเสนอผลงาน เรื่องราวที่มีการเพิ่มเติมรายละเอี
  ยดทีละชั้น
ทางวิชาการ หรือมีการขยายความเป็ นลำาดับขึ้นตอนเพื่อ
ให้ผู้เรียน/ ผู้ฟังได้รบ
ั ความคิดรวบยอด
(มโนทัศน์) ในขั้นตอนสุดท้าย
สร่ป
 การเรียนการสอน  เป็ นการสื่อความหมายระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน  เพื่อถ่ายทอดความรู้ ความรู้สึกทางด้านจิตใจและการกระ
ทำาให้ผเู้ รียนเกิดการเรียนรู้ ซึ่งการสื่อความหมายก็ใช้เครื่องมือที่เป็ นสัญลักษณ์ท่ีแตกต่างกับไป เป็ นที่ยอมรับกัน โดยทัว่ ไป
ว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากประสบการณ์ของผู้เรียนที่มีปฏิสัมพันธ์กับ ภาวะแวดล้อม หรือสถานการณ์การเรียนรู้ต่างๆ ซึ่ง
การรับรู้โดยผ่าน ประสาทสัมผัส ทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกายสัมผัส   โดยเฉพาะประสบการณ์ทางตาที่เป็ นที่ยอมรับ
กันในด้านเทคโนโลยีการศึกษาว่า  การรับรู้ทางตานั้ นทำาให้เกิดมโนทัศน์และเข้าใจได้ดี
การศึกษาที่ยึดผู้เรียนเป็ นสำาคัญนั้ นบทบาทของครูจะเน้นหนั กการเป็ นผู้อำานวยการการเรียนรู้ คือ จะต้องเตรียมฐานความรู้
แหล่งสื่อ และสภาพแวดล้อมทางการศึกษาไว้ให้ผู้เรียนได้เผชิญประสบการณ์ด้วยตนเองเป็ นหลัก ดังนั้ นครูจะต้องมีความรู้
ความสามารถในเรื่องประเภทของสื่อและแหล่งสื่อการศึกษา การเลือกและการใช้ส่ ือการศึกษาให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการ
เรียนการสอน
สื่อการศึกษา คือ ตัวกลางหรือสิ่งต่าง ๆ เช่น วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ และเทคนิ ควิธีการ รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้
เรียนเกิดการเรียนรู้ เกิดการพัฒนา และสามารถนำาความร้ท ู ่ีได้รบ
ั นั้ นไปใช้ในการประกอบอาชีพ ตลอดจนการดำารงชีวิตได้
อย่างมีความสุข และมีประสิทธิภาพ
 สื่อกราฟิ กทางการศึกษา คือ สื่อการสอนประเภทหนึ่ งที่นำาเอาหลักการทางศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเพื่อใช้ในการ
ถ่ายทอด เรื่องราว แนวคิด ความรู้ข้อเท็จจริงระหว่างผู้ผลิตกับผ้ช ู ม หรือระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนให้สามารถสื่อความหมาย
ได้ตรงกัน ประเภทสื่อกราฟิ ก ได้แก่ แผนสถิติ (Graphs) แผนภูมิ (Charts) แผนภาพ (Diagrams) ภาพโฆษนาหรือ
โปสเตอร์ (Posters) การ์ตูน (Cartoons) ภาพพลิก (Flip Charts) สัญลักษณ์ (Symbols) กระดานชอล์   ก (Chalk Board
) แผนที่และลูกโลก รูปภาพ (Photographic) เครื่องฉายสไลด์ (Slides) แผ่นโปร่งใส (Transparencies) เป็ นต้น
 
 

You might also like