Professional Documents
Culture Documents
2. อุปกรณ์ท่ีสำาคัญ จากสวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย
2.1 หม้อแปลงสวิตชิ่ง
รูปที่2 หม้อแปลงสวิตชิ่งในสวิตชิง
่ เพาเวอร์ซัพพลายคอมพิวเตอร์
2.2 หม้อแปลงขับ
2.4 เพาเวอร์ทรานซิสเตอร์
รูปที่5 เพาเวอร์ทรานซิสเตอร์
เพาเวอร์ทรานซิสเตอร์มักเสียบ่อยในสวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย บางเครื่องเห็นรอยร้าวหรือ
ระเบิดไปเลยก็มี ก่อนนำามาใช้ ควรตรวจวัดดูก่อนนะครับว่าเสียหรือไม่ แนะนำาให้ใช้เบอร์ท่ี
ระบุตามโครงงานหรือเบอร์ท่ีคุณสมบัติใกล้เคียงหรือสามารถทนกำาลังได้สูงกว่าครับ
2.5 แกนเทอร์รอยด์
รูปที่6 แกนเทอร์รอยด์ ในสวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลายคอมพิวเตอร์
รูปที่8 ลอกเทปที่พันรอบแกนหม้อแปลงออก
รูปที่10 การให้ความร้อนหม้อแปลงสวิตชิ่ง
4. จากนั้นใช้ผ้ารองมือหรือถุงมือกันความร้อนเพื่อดึงแยกแกนหม้อแปลงออก
จากกัน หากแกนยังไม่แยกออกจากกันให้ใช้หัวแร้งให้ความร้อนอีกครั้ง และ
ทำาให้ร้อนมากกว่าเดิมอาจใช้ซิลิโคนทาเพื่อช่วยนำาความร้อนก็ได้ แต่ไม่ควรให้
ร้อนมากเกินไปเพราะแกน เฟอไรต์อาจแตกหรือร้าวได้และเมื่อถอดแกนออกได้
แล้วควรให้แกนค่อยๆเย็นตัวลงเอง
url=http://img.un-no.com/2008-12-10_03-20-30_0.859376.JPG]
[/url]
รูปที่11 แกนและบ็อบบิ้นเมื่อแกะออกมาแล้วพร้อมใช้งาน
สวิตชิ่งเพาเวอร์ซพ
ั พลายเบื้ องต้น
เรียบเรียงโดย
พงศ์ธวัช ชีพพิมลชัย
อโณ โชติมณี
สารบัญ
• บทนำำ
• สวิทชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยกับแหล่งจ่ำยไฟเชิงเส้น
• หลักกำรทำำงำนของสวิทชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำย
• คอนเวอร์เตอร์
• วงจรควบคุม
• วงจรตัวอย่ำงและไอซีท่ีใช้งำนในสวิทชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำย
• บทสรุป
• เอกสำรอ้ำงอิง
บทนำา
สวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำย (Switching Power Supply) เป็ นแหล่งจ่ำยไฟตรงคงค่ำแรง
ดันแบบหนึ่ ง และสำมำรถเปลี่ยนแรงดันไฟจำกไปสลับโวลต์สูง ให้เป็ นแรงดันไฟตรงค่ำ
ตำ่ำ เพื่อใช้ในงำนอิเลคทรอนิ กส์ได้เช่นเดียวกันแหล่งจ่ำยไฟเชิงเส้น (Linear Power
Supply) ถึงแม้เพำเวอร์ซัพพลำยทั้งสองแบบจะต้องมีกำรใช้หม้อแปลงในกำรลดทอน
แรงดันสูงให้เป็ นแรงดันตำ่ำเช่นเดียวกัน แต่สวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยจะต้องกำรใช้
หม้อแปลงที่มีขนำดเล็ก และนำ้ำหนั กน้อย เมื่อเทียบกับแหล่งจ่ำยไฟเชิงเส้น อีกทั้งสวิต
ชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยยังมีประสิทธิภำพสูงกว่ำอีกด้วย
ในปั จจุบน
ั สวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยได้เข้ำมำมีบทบำทกับชีวิตเรำอย่ำงมำก เครื่องใช้
อิเลคทรอนิ กส์ขนำดเล็กซึ่งต้องกำรแหล่งจ่ำยไฟที่มีกำำลังสูงแต่มีขนำดเล็ก เช่น เครื่อง
คอมพิวเตอร์ เครื่องโทรสำร และ โทรทัศน์ จำำเป็ นจะต้องใช้สวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำย
แนวโน้มกำรนำำสวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยมำใช้ในเครื่องใช้อิเลคทรอนิ กส์ทุกประเภทจึง
เป็ นไปได้สูง กำรศึกษำหลักกำรทำำงำนและกำรออกแบบสวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยจึง
เป็ นสิ่งจำำเป็ นที่ไม่อำจหลีกเลี่ยงได้สำำหรับผู้ท่ีเกี่ยวข้องกับงำนอิเ ลคทรอนิ กส์ทุก
ประเภท
สวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลายกับแหล่งจ่ายไฟเชิงเส้น
ข้อได้เปรียบของสวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยเมื่อเปรียบเทียบกับแหล่งจ่ำยไฟเชิงเส้น คือ
ประสิทธิภำพที่สูง ขนำดเล็ก และนำ้ำหนั กเบำกว่ำแหล่งจ่ำยไฟเชิงเส้น เนื่ องจำกแหล่ง
จ่ำยไฟเชิงเส้นใช้หม้อแปลงควำมถี่ตำ่ำจึงมีขนำดใหญ่ และนำ้ำหนั กมำก ขณะใช้งำนจะมี
แรงดันและกระแสผ่ำนตัวหม้อแปลงตลอดเวลำ กำำลังงำนสูญเสียที่เกิดจำกหม้อแปลง
จึงมีค่ำสูง กำรคงค่ำแรงดันแหล่งจ่ำยไฟเชิงเส้นส่วนมำกจะใชเ้เพำเวอร์ทรำนซิสเตอร์
ต่ออนุ กรมที่เอำต์พุตเพื่อจ่ำยกระแสและคงเค่ำแรงดัน กำำลังงำนสูญเลียในรูปควำมร้อน
จะมีค่ำสูงและต้องใช้แผ่นระบำยควำมร้อนขนำดใหญ่ซึ่งกินเนื้ อที่ เมื่อเพำเวอร์
ซัพพลำยต้อง่ำยกำำลังงำนสูงๆ จะทำำให้มีขนำดใหญ่และมีน้ ำำหนั กมำก ปกติแหล่งจ่ำย
ไฟเชิงเส้นจะมีประสิทธิภำพประมำณ 30% หรืออำจทำำได้สูงถึง 50% ในบำงกรณี ซึ่ง
นั บได้ว่ำค่อนข้ำงตำ่ำเมื่อเปรียบเทียบกับสวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยซึ่งมีประสิทธิภำพใน
ช่วง 65%-80%
หลักการทำางานของสวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย
สวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยโดยทัว่ ไปมีองค์ประกอบพื้ นฐำนที่คล้ำยคลึงกัน และไม่ซับ
ซ้อนมำกนั ก ดังแสดงในรูปที่ 1 หัวใจสำำคัญของสวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยจะอยู่ท่ีคอน
เวอร์เตอร์ เนื่ องจำกทำำหน้ำที่ท้ ังลดทอนแรงดันและคงค่ำแรงดันเอำต์พุตด้วย องค์
ประกอบต่ำงๆ ทำำงำนตำมลำำดับดังนี้
รูป 1 องค์ประกอบพื้ นฐานของสวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย
คอนเวอร์เตอร์
คอนเวอร์เตอร์นับว่ำเป็ นส่วนสำำคัญที่สุดในสวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำย มีหน่ำที่ลดทอน
แรงดันไฟตรงค่ำสูงลงมำเป็ นแรงดันไฟตรงค่ำตำ่ำ และสำมำรถคงค่ำแรงดันได้ คอน
เวอร์เตอร์มีหลำยแบบขึ้นอยู่กับลักษณะกำรจัดวงจรภำยใน โดยคอนเวอร์เตอร์แต่ละ
แบบจะมีขอ
้ ดีข้อเสียที่แตกต่ำงกันออกไป กำรจะเลือกใช้คอนเวอร์เตอร์แบบใดสำำหรับส
วิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยนั้ นมีข้อควรพิจำรณำจำกลักษณะพื้ นฐำนของคอนเวอร์เตอร์
แต่ละแบบดังนี้ คือ
• ลักษณะกำรแยกกันทำงไฟฟ้ ำระหว่ำงอินพุตกับเอำต์พุตของคอนเวอร์เตอร์
• ค่ำแรงดันอินพุตที่จะนำำมำใช้กับคอนเวอร์เตอร์
• ค่ำกระแสสูงสุดที่ไหลผ่ำนเพำเวอร์ทรำนซิสเตอร์ในคอนเวอร์เตอร์ขณะทำำงำน
• ค่ำแรงดันสูงสุดที่ตกคร่อมเพำเวอร์ทรำนซิสเคอร์ในคอนเวอร์เตอร์ขณะทำำงำน
• กำรรักษำระดับแรงดันในกรณี ท่ีคอนเวอร์เตอร์มีเอำต์พุตหลำยค่ำแรงดัน
จำกข้อพิจำรณำดังกล่ำว จะทำำให้ผู้ออกแบบทรำบขีดจำำกัดของคอนเวอร์เตอร์และตัดสินใจ
เวอร์ซัพพลำย คือ
ทำำงำนพื้ นฐำนเท่ำนั้ น
ฟลายแบคคอนเวอร์เตอร์
รูป CNV-1 วงจรพื้ นฐานของฟลายแบคคอนเวอร์เตอร์
T คือคำบเวลำกำรทำำงำนของ Q1 เป็ น
วินำที
tON คือช่วงเวลำ
Np คือจำำนวนรอบของขดไพรมำรี่
Ns คือจำำนวนรอบของขดเซคันดำรี่
คือแรงดันที่เอำต์พุตของคอนเวอร์เตอร์
Vout
เป็ นโวลต์
คือแรงดันที่อินพุตของคอนเวอร์เตอร์
Vin
เป็ นโวลต์
คือแรงดันคกคร่อมไดโอด D1 ขณะนำำ
VD
กระแส เป็ นโวลต์
กราฟแสดงลักษณะกระแสและแรงดันในวงจรขณะทำางาน
ฟอร์เวิร์ดคอนเวอร์เตอร์
รูป CNV-2 วงจรพื้ นฐานของฟอร์เวิร์ดคอนเวอร์เตอร์
กราฟแสดงลักษณะกระแสและแรงดันในวงจรขณะทำางาน
พุช-พูลคอนเวอร์เตอร์
พุช-พูลคอนเวอร์เตอร์เป็ นคอนเวอร์เตอร์ท่ีจ่ำยกำำลังได้สูง ในช่วง 200 - 1000 วัตต์ แต่มีข้อ
เสียคือมักเกิดกำรไม่สมมำตรของฟลักศ์แม่เหล็กของแกนหม้อแปลง ซึ่งจะมีผลต่อกำรพังเสีย
เวอร์ซัพพลำยที่ตอ
้ งกำรกำำลังสูง
กำรทำำงำนของพุช-พูลคอนเวอร์เตอร์ เปรียบเสมือนกำรนำำฟอร์เวิร์ดคอนเวอร์เตอร์สอง
ชุดมำทำำงำนร่วมกัน โดยผลัดกันทำำงำนในแต่ละครึง่ คำบเวลำในลักษณะกลับเฟส ทำำให้
จ่ำยกำำลังได้สูง เพำเวอร์ทรำนซิสเตอร์ในวงจรยังคงมีแรงดันตกคร่อมในขณะหยุดนำำ
กระแสค่อนข้ำงสูงเช่นเดียวกับฟลำยแบคและฟอร์เวิร์ดคอนเวอร์เตอร์ รวมทั้งปั ญหำ
กำรเกิดฟลักซ์ไม่สมมำตรในแกนเฟอร์ไรต็ของวงจรทำำให้เพำเวอร์ทรำนซิสเตอร์พังเสีย
หำยง่ำย พุช-พูลคอนเวอร์เตอร์เป็ นพื้ นฐำนของ Î ำล์ฟบริดจ์ และฟูลบริดจ์คอนเวอร์
เตอร์ซึ่งมีกำรทำำงำนคล้ำยกัน แต่มีข้อบกพร่องน้อยกว่ำ
รูป CNV-3 วงจรพื้ นฐานของพุช-พูลคอนเวอร์เตอร์
Î าล์ฟบริดจ์คอนเวอร์เตอร์
Î ำลฟ์ บริดจ์คอนเวอร์เตอร์จัดอยู่ในตระกูลเดียวกับพุชพูลคอนเวอร์เตอร์ แต่ลักษณะกำรจัด
วงจรจะทำำให้เพำเวอร์ทรำนซิสเตอร์ในวงจรมีแรงดันตกคร่อมขณะหยุดนำำกระแสเพียงค่ำแรง
ดันอินพุตเท่ำนั้ น ทำำให้เพำเวอร์ทรำนซิสเตอร์ท่ีใช้มีรำคำถูก และหำได้ง่ำยกว่ำ และลดข้อจำำกัด
เมื่อใช้กับระบบแรงดันไฟสูงได้มำก รวมทั้งยังไม่มีปัญหำกำรไม่สมมำตรของฟลักซ์ในแกน
เฟอร์ไรต์ของหม้อแปลงได้ด้วย
เมื่อ Q1 เริม
่ นำำกระแส และ Q2 ไม่นำำกระแส แรงดันตกค่อม Q2 จะมีค่ำเท่ำกับ Vin-
Vce(sat) ส่วนแรงดันตกคร่อมของไพรมำรี่ Np จะมีค่ำเท่ำกับ Vc1 - Vce(sat) หรือมีค่ำ
เท่ำกับ Vin/2 - Vce(sat) นั ่นเอง ในทำำนองเดียวกัน เมื่อ Q2 นำำกระแส และ Q1 ไม่นำำ
กระแส แรงดันตกคร่อม Q1 จะมีค่ำเท่ำกับ Vin-Vce(sat) เช่นเดียวกัน แรงดันตก
คร่อมที่ขดไพรมำรี่ Np ก็ยังคงมีค่ำเท่ำกับ Vin/2 - Vce(sat) เนื่ องจำก Vce(sat) มีค่ำ
ประมำณ 0.5-1 โวลต์ ดังนั้ นจะเห็นได้ว่ำแรงดันตกคร่อม Q1 และ Q2 ขณะหยุดนำำ
กระแสจะมีค่ำเพียงแรงดันอินพุตเท่ำนั้ น ผลของกำรทำำงำนของ Q1 และ Q2 ที่ด้ำนเซ
คันดำรีจ
่ ะมีลักษณะเดียวกันกับพุช -พูลคอนเวอร์เตอร์
ฟูลบริดจ์คอนเวอร์เตอร์
ฟูลบริดจ์คอนเวอร์เตอร์ ขณะทำำงำนจะมีแรงดันตกคร่อมขดไพรมำี่เท่ำกับแรงดันอินพุต แต่
วงจรควบคุม
เนื่ องจำกคอนเวอร์เตอร์เกือบทุกแบบจะคงค่ำแรงดันเอำต์พุตได้ด้วยกำรควบคุมช่วง
เวลำนำำกระแส (tON) ของ เพำเวอร์ทรำนซิสเตอร์ ดังนั้ นวงจรควบคุมกำรทำำงำนของ
คอนเวอร์เตอร์โดยทัว่ ไปจึงมักนิ ยมใช้เทคนิ คพัลส์วิดท์มอดูเลชัน
่ (Pulse Width
Modulation - PWM) เป็ นหลัก กำรใช้ PWM เพื่อควบคุมช่วงเวลำนำำกระแสของเพำ
เวอร์ทรำนซิสเตอร์ในคอนเวอร์เตอร์สำมำรถทำำได้สองลักษณะ คือ ควบคุมจำกแรงดัน
และ ควบคุมจำกกระแส
วงจรควบคุมในโหมดควบคุมจากแรงดัน
กำรทำำงำนของวงจรควบคุมในโหมดแรงดัน (Voltage Mode Control) จะอำศัยกำรตรวจ
จับกำรเปลี่ยนแปลงค่ำของแรงดันที่เอำต์พุตมำควบคุมช่วงเวลำนำำกระแสของเพำเวอร์
วงจรควบคุมในโหมดควบคุมจากกระแส
กำรคงค่ำแรงดันเอำต์พุตของคอนเวอร์เตอร์ ด้วยวงจรควบคุมในโหมดควบคุมจำกกระแส
ท์มอดูเลชัน
่ เช่นกัน วงจรพื้ นฐำนแสดงในรูป CNT-3
รูป CNT-3 วงจรพื้ นฐานสำาหรับการควบคุมในโหมดควบคุมจากกระแส
เพื่อให้ง่ำยต่อกำรพิจำรณำ เรำจะแยกคิดกำรทำำงำนของวงจรควบคุมด้วยกำรตัดวงจร
ขยำยควำมแตกต่ำง E/A ออกไปก่อน และกำำหนดขำอินเวอร์ต้ ิงของวงจรเปรียบเทียบ
ให้ต่อเข้ำกับแรงดันอ้ำงอิง Ver ดังรูป CNT-4 วงจร latch จะทำำงำนโดยขำ Q ของวงจร
latch จะมีสถำนะเป็ น high เมื่อมีกำรกระตุ้นที่ขำ S และขำ Q จะมีสถำนะเป็ น low เมื่อ
มีกำรกระตุ้นที่ขำ R
จำกลักษณะกำรทำำงำนดังกล่ำว ทำำให้วงจรควบคุมในโหมดควบคุมจำกกระแสมีข้อดี
มำกกว่ำวงจรควบคุมในโหมดควบคุมจำกแรงดันดังนี้
• ให้ค่ำไลน์เรกูเลชัน
่ ที่ดีมำก
• โดยกำรจำำกัดกระแสสูงสุดที่ขดไพรมำรี่ ปั ญหำกำรไม่สมมำตรฟลักซ์แม่เหล็กของพุช-
พูลคอนเวอร์เตอร์จะไม่เกิดขึ้น
• สำมำรถต่อขนำนคอนเวอร์เตอร์หลำยชุดเข้ำด้วยกันได้ เพื่อให้จ่ำยกระแสได้มำกขึ้น
และกระแสเฉลี่ยที่คอนเวอร์เตอร์แต่ละชุดจะมีค่ำเท่ำกัน
ตัวอย่าง IC ที่ใช้ควบคุมคอนเวอร์เตอร์ในโหมดควบคุม
จากกระแสได้แก่ UC3842/3/4/5, MC34023/5 และ
MC34129 เป็ นต้น
วงจรตัวอย่างและไอซีที่ใช้งานในสวิทชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย
SG 3524/5/6/7
รูปที่ 1 แสดงวงจรภำยในของไอซี สวิทชิ่งเร็คกูเลเตอร์เบอร์3524 จำกวงจรออส
ซิลเลเตอร์จะผลิตสัญญำณแรมป์ และสัญญำณ พัลส์ ออกมำในเบื้ องต้น เรำจะไม่สนใจ
วงจรจำำกัดกระแส (Current limit, CL) และวงจรชันท์ดำวน์ (shut down) เอ้ำท์พท
ุ ของ
คอมพำรำเตอร์ (Comparator) จะเป็ น "High"เมื่อแรงดันของสัญญำณแรมป์ มีค่ำ
มำกกว่ำแรงดัน เอ้ำท์พท
ุ ของภำคขยำยควำมผิดพลำด (Error Amplifier) เอ้ำท์พุทของ
NOR เกตจะตกลงเป็ น "Low"ทำำให้เอ้ำท์พุท ทรำนซีสเตอร์หยุดทำำงำน
เร็คกูเลเตอร์ในโหมดกระแส
UC 384/3/4/5
รูปที่ 8 แสดงบล็อกไดอะแกรมของไอซีตัวควบคุมในโหมดกระแส UC 3842 เมื่อ
ทำำรูปที่ 8 มำเปรียบเทียบ กับวงจร ในรูปที่ 6 UC 3842 ได้เพิ่มส่วนของ Undervoltage
lockout และเอ้ำท์พุท NOR เกตเข้ำมำ วงจร Undervoltage lockout with hysteresis
เป็ นตัวบังคับเอ้ำท์พุทพัลซ์ไว้ไม่ให้เกิดขึ้นจนกว่ำแรงดัน Vcc จะมี ค่ำเกิน 16
โวลท์ เมื่อเริม
่ ทำำงำนเอ้ำท์พุทพัลซ์ยังคงเกิดขึ้นถึงแม้ว่ำแรงดัน Vcc จะมีค่ำลดลง
จนตำ่ำกว่ำ 10 โวลท์ วงจรจะ หยุดทำำงำน กำรทำำงำนของวงจร Undervoltagelockout ที่
มีชว่ ง Îิสเตอร์รซ
ี ีสเป็ นกำรป้ องกันไม่ให้เกิดกำรเปลี่ยน สภำวะอย่ำงทันทีทน
ั ใด ระหว่ำง
สภำวะ "Operate" และ "Lockout" เมื่อเรำทำำกำรควบคุมเอ้ำท์พท
ุ (ขำ 6) ไม่ให้ทำำงำน
เอ้ำท์พท
ุ จะอยู่ในสภำวะอิมพีแดนซ์สูง ควำมต้ำนทำน "bleeder" ควรจะต่อไว้ระหว่ำง
ขำ 6 กับกรำวด์ เพื่อเป็ นกำรป้ องกันกระแสรัว่ ไหลจำกกำรเปลี่ยนสวิทซิ่งเฟทให้
ทำำงำน เอ้ำท์พท
ุ NOR เกตเป็ นส่วนหนึ่ งของวงจร Lockout แต่ทำำหน้ำที่ป้องกัน
วงจรในอีกลักษณะหนึ่ ง เมื่อพัลซ์จำกออสซิสเลเตอร์เป็ น "High" เอ้ำท์พุทของ NOR
เกตจะเป็ น "Low" เอ้ำท์พุทของ OR เกตเป็ น "High" และขำ 6 เป็ น "Low" เอ้ำท์พุทที่
ขำ 6 ไม่สำมำรถเป็ น "High" ได้จนกว่ำสัญญำณนำฬิกำจะเป็ น "Low" สัญญำณนำฬิกำ
ถูกเซ็ตโดยไทม์ม่ิง คำปำซิเตอร์ C1 เก็บประจุผ่ำน R1 และคำยประจุผ่ำนแหล่ง รับ
กระแสคงที่ กำรเลือกคำปำซิเตอร์ท่ีมีค่ำมำก และควำมต้ำนทำนมีค่ำน้อย เวลำของกำร
เก็บประจุ (สัญญำณนำฬิกำช่วงเป็ น "Low") จะลดลงและช่วงเวลำของกำรคำยประจุ
(สัญญำณนำฬิกำช่วง "High") เพิ่มมำกขึ้น ทำำให้เรำสร้ำงเวลำทำำงำน (On time) ได้
มำกที่สุด หรือค่ำดิวตี้ไซเคิล (Duty Cycle) ซึ่งเป็ นตัว ที่สำำคัญอย่ำงยิ่งในวงจร เมื่อค่ำ
ดิวตี้ไซเคิลสูงกว่ำ 50% แกนของหม้อแปลงอำจสำมำรถเกิดกำรอิ่มตัวได้ เน็คเวิ
อร์ค D2 - D4, R1, R2 ระหว่ำงภำคขยำยควำมผิดพลำดและ Current sensing
comparator เป็ นตัว ลดสัญญำณควำมผิดพลำดลง เพื่อพลังงำนที่มำกเกินไปจะไม่ไป
สูญเสียในควำมต้ำนทำนตรวจจับกระแส ซีเนอร์ไดโอดจะยกระดับสัญญำณควำมผิด
พลำดขึ้นไป 1 โวลท์ ดังนั้ นระดับที่จะหยุดทำำงำนจะไม่เกิน 1 โวลท์ UC 3843 คล้ำย
กับ 3842 แต่มีแรงดัน Lockout ที่ตำ่ำกว่ำเจตนำสำำหรับใช้กับแรงดันตำ่ำ ๆ UC 3843
ทำำงำนที่ 8.4 โวลท์ และหยุดทำำงำนเมื่อ Vcc ตำ่ำกว่ำ 7.9 โวลท์ UC 3844 และ UC3845
(ไม่ได้แสดงไว้) มีลักษณะพิเศษที่เพิ่มขึ้นมำคือ ตัวฟลิปฟลอป จะควบคุมไม่ให้เกิดเอ้
ำท์พท
ุ ขึ้น ในขณะที่วัฏจักรสัญญำณ นำฬิกำเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็ นกำรรับประกันว่ำ ค่ำ
ของดิวตี้ไซเคิลจะมีค่ำน้อยกว่ำ 50% เสมอ สำำหรับกำร นำำวงจรไปใช้ในที่ซึ่งมีกำร
ปรับปรุงที่ต้องใช้ ควำมระมัดระวังสูง
รูปที่ 8 บล็อกไดอะแกรมภำยในของ UC 3842 ไอซี สวิทชิ่งเรกูเลเตอร์ ในโหมดกระแส
UC 3843 มีลักษณะที่คล้ำยกับ UC 3842 แต่ทำำงำนที่ Undervoltage lockout ตำ่ำกว่ำ
มำก ๆ
"Off-line" ฟายแบ็คคอนเวอร์เตอร์
การเลือกใช้ IC
Full-
10.5 featured
16 - 40 3.72 .
Pin 18V mA V Flexible.
5560
V S 20 10 - 100 3.80
5562 CS, IPS, SIG
V S Pin 16V mA V
5561 Lower
8 10.5 20 3.75 cost,
Pin - mA V fewer
18V houseke
eping
function
s.
16
Pin
493/4/5 CS, EXAR, GS, IPS, MOT, 7 - 200
V P-P or 5V
593/4/5 NAT, TI, UNI 40V mA
18
Pin
Univers
16 2.5 - 1.5 1.24 al
uA78S40 MOT, NAT V S
Pin 40V V V subsyst
em IC.
16 8 - 100 5.1
125/7 IPS, SIL V P-P
Pin 35V mA V
33060/
14 7 - 500
34060/ IPS, MOT V S 5V
Pin 40V mA
35060
20
mA
into
16 5V 40 3.7
1060 IPS, PLES V S
Pin shu mA V
nt
regu
lator
Self-
5
contain
Pin 3 - 1.24
LT1070 LT I S 5A ed
Pow 40V V
power
er
IC
ตารางที่ 1 สรุปการเลือกใช้ ไอซีสวิทชิ่งเร็คกูเลเตอร์
ค่ม
ู ือของไอซีท่ีเรำใช้เป็ นสิ่งสำำคัญ เรำควรจะมีไว้ไม่ว่ำจะเป็ นลักษณะขำภำยนอก
ของไอซี, วงจรทำงเดิน ไฟฟ้ ำต่ำง ๆ ที่มท
ี ้ ังแรงดันและรูปคลื่นบอกไว้อย่ำงสมบูรณ์ รูป
ที่ 11 แสดงถึงบล็อกไดอะแกรม ทัว่ ๆ ไป ซึ่ง ช่วยให้เรำพิจำรณำหน้ำที่ต่อหน้ำที่ของ
วงจรได้โดยสะดวก เมื่ออุปกรณ์ท่ีใช้อยู่บอร์ดมีอุณหภูมิสูงขึ้น แสดงว่ำสวิทชิ่งเร็คกู
เลเตอร์ผลิตพัลซ์กระแสสูงเร็วไป ขนำด ของตัวนำำและเครื่องห่อหุ้มของตัวนำำเป็ นสิ่ง
สำำคัญ อินพุทคำปำชิเตอร์ ควรวำงไว้ใกล้ ๆ กับไอซี ถ้ำแหล่ง จ่ำยหลักอยู่ห่ำงจำกวงจร
มำก ๆ เพิ่มคำปำซิเตอร์ค่ำประมำณ 100 uF คร่อมอินพุท บำยพำสคำปำซิเตอร์ไว้
ถึงแม้ว่ำเรำจะเข้ำใจกำรทำำงำนของสวิทชิ่งเร็คกูเลเตอร์เป็ นอย่ำงดี ปั ญหำบำงอย่ำงก็ยัง
เป็ นเรื่องยำกอยู่ ควำมเสียหำยเพียง 1 จุด อำจทำำให้กำรทำำงำนของวงจรผิดพลำดไป
เลยก็ได้เช่น วงจรป้ อนกลับเกิดเสียหำย อำจทำำให้เกิดอำกำรแรงดันเกินกระแสเกิน
และวงจรหยุดทำำงำน โดยลักษณะกำรป้ องกันอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ ง วงจรหยุดทำำงำน
หรือไม่ กำรเร็คกูเลตสำมำรถทำำได้หรือไม่ สิ่งเหล่ำนี้ จะทำำให้เรำหำข้อบกพร่องของ
วงจรได้ง่ำยขึ้น ข้อแนะนำำที่อำจจะช่วยเรำในกำรหำข้อบกพร่องได้ คือ หลังจำกตรวจดู
วงจรด้วยสำยตำแล้ว ตรวจดูว่ำเอ้ำท์พุทช้อตไหม หรือ โหลดเกิน และตรวจแหล่งจ่ำย
ทำงอินพุทม เร็คติไฟเออร์, ฟิ ลเตอร์ และ หม้อแปลง บำงครั้งปั ญหำที่เกิดขึ้น อำจดู
เหมือนว่ำมำจำกสำเหตุโหลดทำงเอ้ำท์พุทเกิน แต่แท้จริงแล้ว มีสำเหตุมำจำกแรงดัน
อินพุทตกลง
บทสรุป
สวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำย เป็ นแหล่งจ่ำยไฟตรงที่มีประสิทธิภำพในกำรทำำงำนสูงกว่ำ
และมีน้ ำำหนั กเบำกว่ำเพำเวอร์ซัพพลำยเชิงเส้น สวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยทำำงำนโดย
แปลงแรงดันไฟสลับควำมถี่ตำ่ำจำกอินพุตให้เป็ นไฟตรง จำกนั้ นจึงเปลี่ยนกลับไปเป็ น
ไฟสลับ (พัลส์) ที่ควำมถี่สูง แล้วส่งผ่ำนหม้อแปลงเพื่อลดแรงดันลง และผ่ำนวงจรเรียง
กระแสและกรองแรงดันเพื่อให้ได้ไฟตรงอีกครั้งหนึ่ ง สวิตชิ่งเพำเวอร์ซัพพลำยประกอบ
ด้วย 3 ส่วนใหญ่ คือ วงจรฟิ ลเคอร์และเรกติไฟเออร์ทำำหน้ำที่แปลงแรงดันไฟสลับเป็ น
ไฟตรง คอนเวอร์เตอร์ ทำำหน้ำที่แปลงไฟตรงเป็ นไฟสลับควำมถี่สูง และแปลงกลับ
เป็ นไฟตรงโวลต์ตำ่ำ และวงจรควบคุมทำำหน้ำที่ควบคุมกำรทำำงำนของคอนเวอร์เตอร์
เพื่อให้ได้แรงดันเอำต์พุตตำมต้องกำร
เอกสารอ้งอิง
• ศิรช
ิ ัย คล่องกำรพำนิ ช, "เข้าใจไม่ยากกับการทำางานของสวิตชิ่งเรกูเลเตอร์", เซ
มิคอนดักเตอร์อิเล็กทรอนิ กส์ ฉบับที่ 160, มิถุนำยน 2539
• สุวัฒน์ ดัน
่ , "เทคนิ คและการออกแบบสวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย", เอนเทลไทย,
มิถุนำยน 2538