Professional Documents
Culture Documents
ทาไมมนุษย์ทุกคนต้องให้ความสนใจเรื่องสติปัฏฐานสี่หรือพาตัวใจกลับบ้านนั้น จาเป็นต้องรู้เรื่องขันธ์ ๕
ก่อน เพื่อให้รู้จักการทางานของจิตใจ และเข้าใจเหตุผลว่าทาไมจิตใจของคนเราจึงอ่อนแอ และเจ็บปวดเมื่อเจอ
ปัญหาชีวิต ขันธ์ ๕ คือ ส่วนประกอบ ๕ อย่าง ที่สร้างร่างกายและจิตใจของมนุษย์ทุกคน
ทุกกิจกรรมในชีวิตของมนุษย์สาเร็จได้ก็เพราะมีตัวใจซึ่งเป็นตัวจริงของเราเป็นผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง กายเรา
จึงเหมือนถุงมือ ในขณะที่ตัวใจเป็นมือจริงๆที่กาลังเชิดถุงมืออยู่
1
เหตุผลที่สนับสนุนว่า ตัวใจเป็นตัวจริงคือ ทุกครั้งที่เรานอนหลับสนิท หมดสติไม่ว่าจะใช้ยาสลบหรือไม่ใช้
อยู่ในอาการโคม่า และตายสนิท ในสี่กรณีนี้ มาสมมุติแบบเข้าใจง่ายๆว่า ตัวใจได้ออกจากตัวกาย ไปไหนไม่รู้ และไม่
จาเป็นต้องรู้ ตรงนี้ขอให้เป็นความลับของสวรรค์ดีกว่า รู้มากอาจยุ่งได้
การแก้ปัญหาชีวิตของพระพุทธเจ้านั้น ท่านไม่ได้ไปเน้นแก้ที่ปลายเหตุซึ่งหลากหลายและกระจัดกระจาย
ท่านแก้ที่ต้นเหตุและทาของยากให้เป็นของง่าย โดยบอกว่า ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรก็แล้วแต่ ขอให้รวบลงมาเป็น
ปัญหาที่มากับภาพ ปัญหาที่มากับเสียง กับกลิ่น กับรส และกับสัมผัสเท่านั้น เช่น ภาพคนที่เรารัก ภาพเงินก้อนใหญ่
เสียงนินทา เสียงบ่น เสียงเพลง กลิ่นอาหาร กลิ่นเหล้า เป็นต้น ฉะนั้น ในส่วนของโลกภายนอก (รูป สสาร) จึงมีตัว
กายของเราที่กาลังรับข้อมูล (data) อันเป็นเหตุการณ์ทั้งบวกและลบ ที่เข้ามาประชิดตัวเราในลักษณะของภาพ เสียง
กลิ่น รส สัมผัส
2
โลกของรูป (สสาร) โลกของนาม (พลังงาน)
แต่ตัวกายเป็นเพียงตัวปลอม ตราบใดที่ข้อมูลดิบเหล่านี้ยังเดินทางไม่ถึงตัวใจซึ่งเป็นตัวจริงของเราละก็
ปัญหายังไม่เกิด สุขทุกข์จึงยังไม่มี ฉะนั้น ข้อมูลดิบจากโลกภายนอกจึงต้องเดินทางเข้ามาในโลกของใจ (โลกภายใน
ที่เป็นนาม เป็นพลังงาน) โดยข้อมูลแต่ละกลุ่มจะต้องเดินทางผ่านสะพานที่เป็นคู่สร้างคู่สมของมัน นั่นคือ ภาพต้อง
เดินผ่านสะพานตา เสียงเดินผ่านสะพานหู กลิ่น จมูก รส ลิ้น สัมผัส ผิวหนัง ทันทีที่ข้อมูลดิบจากโลก
ภายนอกเข้ามาสู่โลกภายในแล้ว มันจะเปลี่ยนสถานะของมันจากรูป (สสาร) เป็นนาม (พลังงาน) กลายเป็น ความจา
(สัญญา) ความคิด (สังขาร) และ ความรู้สึก (เวทนา) ซึ่งจะรวบนามขันธ์ทั้ง ๓ นี้เป็น “หนูเจอรี่” ฉะนั้น จะได้สมการ
ง่ายๆดังนี้คือ
ภาพ เสียง กลิ่น รส สัมผัส (รูป) = ความจา ความคิด ความรู้สึก (นาม) = หนูเจอรี่
เจอรีร่ ปู = เจอรี่นาม
เจอรีภ่ ายนอก= เจอรี่ภายใน
3
เจอรี่ที่นาความผิดหวัง น้าตาและความทุกข์มาให้ดีกว่า ทุกครั้งที่เจอเหตุการณ์ไม่ได้ดังใจ คิดเป็นห่วงกังวลเรื่องลูก
หรือคนที่เรารัก หรือคิดถึงคาพูดของคนที่เกลียดเรา ก็เหมือนมีใครมาเหยียบตัวใจ เอาของหนักมาทุบ หรือมีของ
แหลมมาเสียบ ทิ่มแทงใจเราเสมอ คิดทีไร ก็เจ็บปวดทุกครั้ง แมวตัวใจของเราจะอ่อนปวกเปียก ไม่มีทางต่อสู้ เพราะ
เป็นศึกภายในระหว่าง ๑ ต่อ ๓ เสมอ
4
กองทัพของหนูเจอรี่ที่กาลังทาร้ายตัวใจก็คือก้อนทุกข์ที่มนุษย์ทุกคนกาลังแบกอยู่ ซึ่งเหมือนการแบกภูเขา
ทั้งลูกอยู่ในอก ใบหน้าของตัวกายอาจจะฝืนยิ้ม เสแสร้ง และปกปิดความรู้สึกภายใน แต่ตัวใจของเราเท่านั้นที่รู้ดีว่า
ปัญหาที่เรากาลังแบกนั้นมันหนักหน่วงและเจ็บปวดมากแค่ไหน บาดแผลของตัวกายแม้มีมากเท่าไร ก็ไม่เจ็บเท่ากับ
บาดแผลของตัวใจ เพราะตัวใจเป็นตัวจริงๆของเรา ตัวกายเป็นเพียงตัวปลอม
ถ้าแทน “สติ” เป็น “ตัวใจ” และแทน “ฐาน” เป็น “บ้าน” สติปัฏฐานคือ การเอาสติมาตรึงไว้ที่ฐาน หรือ พา
ตัวใจกลับบ้านนั่นเอง ตัวใจของมนุษย์ทุกคนล้วนมีบ้านหลังใหญ่ให้กลับเสมอเหมือนกันหมด นี่เป็น “ข่าวดีที่สุด” ที่
มนุษย์จานวนมากของโลกยังไม่รู้ ตัวใจซึ่งเป็นตัวจริงของเขาจึงยัง “หลงทาง” อยู่ เพราะพาตัวใจกลับบ้านไม่เป็น ใคร
รู้จักบ้านของใจก็จะมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนทันที ไม่รู้สึกหลงทางอีกต่อไป เพราะการปฏิบัติสติปัฏฐานสี่หรือพาตัวใจ
กลับบ้าน คือ วิธีการลดประชากรของเจอรี่ในหัวให้น้อยลง ทาลายป่าดงดิบของเจอรี่ เพื่อตัวใจจะได้เป็นอิสระจาก
การบงการ บังคับ ขู่เข็ญของเจอรี่
5
สมมุติต่อว่าบ้านหลังใหญ่นี้มี ๔ ห้อง ห้องที่ ๑ คือ ลมหายใจ และ การเคลื่อนไหวของกาย การพาตัวใจ
กลับบ้านคือ การใช้ “ตาใจของตัวใจ” มองไปที่ลมหายใจ และ การเคลื่อนไหวของกาย ไม่ว่าจะเดิน ก้ม เงย เหยียด คู้
ฯลฯ ทาเพียงเท่านี้ก็เท่ากับได้เอาสติมาตรึงไว้ที่ฐานหรือพาตัวใจกลับบ้านแล้ว ครูบาอาจารย์บางท่านใช้คาว่า “ทา
ความรู้สึกตัวทั่วพร้อม” เมื่อหายใจ ก็รู้อย่างทั่วพร้อม เมื่อเคลื่อนไหว ก็รู้ตัวทั่วพร้อม ทาเช่นนี้ คือพาตัวใจกลับบ้าน
ตาใจมอง
ลมหายใจ
ไห าร
ื่อน งก
เคล ใจมอ
ว
ตา
6
ห้องที่ ๒ ของบ้านหลังใหญ่นี้ คือ ความรู้สึกของตัวกาย ในขณะนั่งบนเก้าอี้ จะมีความรู้สึกที่แผ่นก้น เท้าที่
แตะพื้น ขณะเคลื่อนลูกประคา หรือลูบมือ จะมีความรู้สึกที่มือ ตบมือก็รู้สึกเจ็บ ก็ใช้ตาใจของตัวใจมองไปที่
ความรู้สึกที่เด่นๆในขณะนั้นๆ ทาเพียงเท่านี้ คือ การเอาสติมาตรึงไว้ที่ฐานหรือพาตัวใจกลับบ้านแล้ว จะทาให้
ประชากรเจอรี่ในหัวค่อยๆน้อยลง ทาให้สงบสุขมากขึ้น
7
โลกของรูป (สสาร) โลกของนาม (พลังงาน)
8
สติปัฏฐานสี่หรือพาตัวใจกลับบ้านจึงควรเป็นเนื้อหาสาคัญในหลักสูตรการศึกษาของคนทั้งโลก
เพื่อมนุษยชาติจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบและสันติสุข มีสันติภาพอย่างแท้จริง ขอให้ช่วยกระจาย “ข่าวดี
ที่สุดของมนุษยชาติ ” ออกไปเพื่อความสุขสงบของลูกหลานเหลนโหลนของท่านและความอยู่รอดของ
ประเทศไทยอันเป็นแผ่นดินที่โอบอุ้มชาวไทยเกือบ ๗๐ ล้านคน
.............................................................................................................