Professional Documents
Culture Documents
พ.ศ. ๒๕๓๗
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
******************************************
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศ
ว่า โดยทีเ่ ป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเภสัชกรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้
ตราพระราชบัญญัติขึน
้ ไว้โดยคำาแนะนำาและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี ้
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี ้
มาตรา ๕ ในกรณีทีบ
่ ทบัญญัติแห่งกฎหมายใดอ้างถึงการประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันสาขา
เภสัชกรรม หรือผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบัน สาขาเภสัชกรรม ให้หมายความถึงการ
ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม หรือผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมตามพระราชบัญญัตินี ้
กฎกระทรวงและระเบียบนัน
้ เมือ
่ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด ๑
สภาเภสัชกรรม
มาตรา ๘ สภาเภสัชกรรมมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี ้
(๒) ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก
(๔) ควบคุมความประพฤติของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมให้ถูกต้องตามจรรยาบรรณ
แห่งวิชาชีพเภสัชกรรม
(๖) ให้คำาปรึกษาหรือข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเกีย
่ วกับการเภสัชกรรมและการสาธารณสุข
(๗) เป็นตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมในประเทศไทย
มาตรา ๙ สภาเภสัชกรรมมีอำานาจหน้าทีด
่ ังต่อไปนี ้
2
(๑) รับขึน
้ ทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
(๒) วินิจฉัยชีข
้ าดตามมาตรา ๔๒ วรรคสาม
(๖) ออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพ
เภสัชกรรมสาขาต่างๆ และออกหนังสือแสดงวุฒอ
ิ ืน
่ ในวิชาชีพเภสัชกรรม
(๗) ดำาเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาเภสัชกรรม
มาตรา ๑๐ สภาเภสัชกรรมอาจมีรายได้ดังต่อไปนี ้
(๑) เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
(๒) ค่าขึน
้ ทะเบียนสมาชิก ค่าบำารุง และค่าธรรมเนียมต่างๆ
(๓) ผลประโยชน์จากการจัดการทรัพย์สินและกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ทีก
่ ำาหนดใน
มาตรา ๘
มาตรา ๑๑ให้รัฐมนตรีดำารงตำาแหน่งสภานายกพิเศษแห่งสภาเภสัชกรรมมีอำานาจหน้าทีต
่ ามที ่
บัญญัติไว้
ในพระราชบัญญัตินี ้
หมวด ๒
สมาชิก
มาตรา ๑๒ ผู้สมัครเป็นสมาชิกสภาเภสัชกรรมต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี ้
(๑) มีอายุไม่ตำ่ากว่ายีส
่ ิบปี บริบูรณ์
3
(๓) ไม่เป็นผู้ประพฤติเสียหายซึง่ คณะกรรมการเห็นว่าจะนำามาซึง่ ความเสือ
่ มเสีย
เกียรติศักดิแ
์ ห่งวิชาชีพ
มาตรา ๑๓ สิทธิและหน้าทีข
่ องสมาชิกมีดังต่อไปนี ้
(๑) ขอขึน
้ ทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ขอหนังสืออนุมัติ
หรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่าง ๆ
หรือขอหนังสือแสดงวุฒอ
ิ ืน
่ ในวิชาชีพเภสัชกรรม โดยปฏิบัติตามข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
ว่าด้วยการนัน
้
(๒) แสดงความเห็นเป็นหนังสือเกีย
่ วกับกิจการของสภาเภสัชกรรมส่งไปยังคณะกรรมการ
เพือ
่ พิจารณา และในกรณีทีส
่ มาชิกร่วมกันตัง้ แต่ห้าสิบคนขึน
้ ไป เสนอให้คณะกรรมการ
พิจารณาเรือ
่ งใดทีเ่ กีย
่ วกับ กิจการของสภาเภสัชกรรมคณะกรรมการต้องพิจารณาและ
แจ้งผลการพิจารณาให้ผู้เสนอทราบโดยไม่ชักช้า
มาตรา ๑๔ สมาชิกภาพของสมาชิกสิน
้ สุดลง เมือ
่
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
หมวด ๓
คณะกรรมการ
4
มาตรา ๑๕ ให้มีคณะกรรมการสภาเภสัชกรรม ประกอบด้วย
(๑) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
5
ความใน (๑) มิให้นำามาใช้บังคับกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข
(๑) สมาชิกภาพสิน
้ สุดลงตามมาตรา ๑๔
(๒) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๙
(๓) ลาออก
ในกรณีทีต
่ ำาแหน่งกรรมการตามวรรคหนึง่ ว่างลงรวมกันเกินกึง่ หนึง่ ของจำานวนกรรมการซึง่ ได้รับ
เลือกตัง้ ให้มีการเลือกตัง้ กรรมการโดยสมาชิกขึน
้ แทนภายในเก้าสิบวันนับแต่วันทีจ
่ ำานวน
กรรมการดังกล่าวได้ว่างลงเกินกึง่ หนึง่
ให้ผู้ซึง่ เป็นกรรมการแทนนัน
้ อยู่ในตำาแหน่งได้เพียงเท่าวาระทีเ่ หลืออยู่ของกรรมการซึง่ คนแทน
มาตรา ๒๓ ให้คณะกรรมการมีอำานาจหน้าทีด
่ ังต่อไปนี ้
(๑) บริหารและดำาเนินกิจการสภาเภสัชกรรมตามวัตถุประสงค์ทีก
่ ำาหนดในมาตรา ๘
(๓) กำาหนดงบประมาณของสภาเภสัชกรรม
(๔) ออกข้อบังคับสภาเภสัชกรรมว่าด้วย
6
(ก) การเป็นสมาชิก
(ค) การกำาหนดค่าขึน
้ ทะเบียนสมาชิก ค่าบำารุง และค่าธรรมเนียมอืน
่ นอกจากนี ้
กำาหนดไว้ในอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัตินี ้
(ฉ) การกำาหนดอำานาจหน้าทีข
่ องผู้ดำารงตำาแหน่งทีป
่ รึกษาตามมาตรา ๑๖
(ช) การกำาหนดอำานาจหน้าทีข
่ องผู้ดำารงตำาแหน่งอืน
่ ตามมาตรา ๑๗ วรรคสอง
(ซ) คุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมตามมาตรา ๓๒
(ญ) การกำาหนดหลักเกณฑ์การพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
(ฎ) หลักเกณฑ์การออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญใน
การประกอบ วิชาชีพเภสัชกรรม สาขาต่าง ๆ และหนังสือแสดงวุฒิอืน
่ ในวิชาชีพ
เภสัชกรรม
(ฏ) จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเภสัชกรรม
(ฑ) หลักเกณฑ์ว่าด้วยการสอบความรู้ตามอำานาจหน้าทีข
่ องสภาเภสัชกรรม
(ณ) ข้อจำากัดและเงือ
่ นไขในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
(ด) เรือ
่ งอืน
่ ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของสภาเภสัชกรรม หรืออยู่ใน
อำานาจหน้าทีข
่ องสภาเภสัชกรรมตามกฎหมายอืน
่ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๗ ข้อ
บังคับสภาเภสัชกรรมเมือ
่ ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
7
(ก) บริหารและดำาเนินกิจการของสภาเภสัชกรรมให้เป็นไปตามพระ
ราช
บัญญัตินี ้ หรือตามมติของคณะกรรมการ
(ข) เป็นผู้แทนสภาเภสัชกรรมในกิจการต่างๆ
(ค) เป็นประธานในทีป
่ ระชุมคณะกรรมการ
นายกสภาเภสัชกรรมอาจมอบหมายเป็นหนึง่ สือให้กรรมการอืน
่ ปฏิบัติหน้าทีแ
่ ทนตามทีเ่ ห็น
สมควรได้
(๒) อุปนายกสภาเภสัชกรรมคนทีห
่ นึง่ เป็นผู้ช่วยนายกสภาเภสัชกรรม ในกิจการ
อันอยู่ในอำานาจหน้าทีข
่ องนายกสภาเภสัชกรรม ตามทีน
่ ายกสภาเภสัชกรรมมอบหมาย และ
เป็นผู้ทำาการแทนนายกสภาเภสัชกรรมเมือ
่ นายกสภาเภสัชกรรมไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติ
หน้าทีไ่ ด้
(๓) อุปนายกสภาเภสัชกรรมคนทีส
่ อบ เป็นผู้ช่วยนายกสภาเภสัชกรรม ในกิจการ
อันอยู่ในอำานาจหน้าทีข
่ องนายกสภาเภสัชกรรม ตามทีน
่ ายกสภาเภสัชกรรมมอบหมาย และ
เป็นผู้ทำาการแทนนายกสภาเภสัชกรรมเมือ
่ ทัง้ นายกสภาเภสัชกรรมและอุปนายกสภา
เภสัชกรรม
คนทีห
่ นึง่ ไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าทีไ่ ด้
(ก) ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าหน้าทีส
่ ภาเภสัชกรรมทุกระดับ
(ง) ควบคุมดูแลทรัพย์สินของสภาเภสัชกรรม
(จ) เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
8
ประมาณของสภาเภสัชกรรม
(๘) ผู้ดำารงตำาแหน่งทีป
่ รึกษาตามมาตรา ๑๖ ให้มีอำานาจหน้าทีต
่ ามทีค
่ ณะกรรมการ
กำาหนด
(๙) ผู้ดำารงตำาแหน่งอืน
่ ตามมาตรา ๑๗ วรรคสอง ให้มีอำานาจหน้าทีต
่ ามทีค
่ ณะ
กรรมการกำาหนด
หมวด ๔
การดำาเนินการของคณะกรรมการ
มติของทีป
่ ระชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึง่ มีเสียงหนึง่ เสียงในการลงคะแนน ถ้าคะแนน
เสียงเท่ากัน ให้ประธานในทีป
่ ระชุมออกเสียงเพิม
่ ขึน
้ อีกเสียงหนึง่ เป็นเสียงชีข
้ าด
การประชุมคณะทีป
่ รึกษา ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
มาตรา ๒๗ มติของทีป
่ ระชุมคณะกรรมการในเรือ
่ งดังต่อไปนี ้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภา
นายกพิเศษก่อน จึงจะดำาเนินการตามมตินัน
้ ได้
(๑) การออกข้อบังคับ
(๒) การกำาหนดงบประมาณของสภาเภสัชกรรม
(๔) การวินิจฉัยชีข
้ าดให้พักใช้ใบอนุญาตหรือให้เพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา ๔๒
9
สิบห้าวันนับแต่วันทีไ่ ด้รับมติ ทีน
่ ายกสภาเภสัชกรรมเสนอ ให้ถือว่าสภานายกพิเศษให้
ความเห็นชอบมตินัน
้
หมวด ๕
การควบคุมการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
(๑) การประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมทีก
่ ระทำาต่อตนเอง
(๔) การประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมของทีป
่ รึกษาหรือผู้เชีย
่ วชาญของทางราชการหรือผู้
สอน ในสถาบันการศึกษาของรัฐ ซึง่ มีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมของ
ต่างประเทศ ทัง้ นี ้ โดยอนุมัติของคณะกรรมการ
10
ในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่าง ๆ ทัง้ นี ้ รวมถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อืน
่
กระทำาดังกล่าวให้แก่ตน เว้นแต่ผู้ได้รับหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรว่าเป็นผู้มีความรู้ความชำานาญใน
การประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมสาขานัน
้ ๆ จากสภาเภสัชกรรมหรือทีส
่ ภาเภสัชกรรมรับรองหรือ
ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมผู้มีคุณสมบัติตามทีก
่ ำาหนด ในข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
มาตรา ๓๑ การขึน
้ ทะเบียน การออกใบอนุญาต การออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้
ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่าง ๆ และหนังสือแสดงวุฒิอืน
่ ในวิชาชีพ
เภสัชกรรม ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
มาตรา ๓๒ ผู้ขอขึน
้ ทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องเป็นสมาชิกแห่งสภาเภสัชกรรมและมีคุณสมบัติ
ตามทีก
่ ำาหนดไว้ในข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
เมือ
่ ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมผู้ใดขาดสมาชิกภาพ ให้ใบอนุญาตของผู้นัน
้ สิน
้ สุดลง ให้ผู้ซึง่ ขาด
จากสมาชิกภาพตามวรรคสองส่งคืนใบอนุญาตต่อเลขาธิการภายในสิบห้าวัน
นับแต่วันทีท
่ ราบการขาดจากสมาชิกภาพ
มาตรา ๓๓ ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมต้องรักษาจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเภสัชกรรมตามที ่
กำาหนดไว้ ในข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
กรรมการหรือบุคคลอืน
่ มีสท
ิ ธิกล่าวโทษผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมว่าประพฤติผิดจรรยาบรรณ
แห่งวิชาชีพเภสัชกรรม โดยแจ้งเรือ
่ งต่อสภาเภสัชกรรม
การถอนเรือ
่ งการกล่าวหาหรือการกล่าวโทษทีไ่ ด้ยน
ื่ หรือแจ้งไว้แล้วนัน
้ ไม่เป็นเหตุให้ระงับการ
ดำาเนินการตามพระราชบัญญัตินี ้
มาตรา ๓๕ เมือ
่ สภาเภสัชกรรมได้รับเรือ
่ งการกล่าวหาหรือการกล่าวโทษตามมาตรา ๓๔ หรือใน
กรณีทีค
่ ณะกรรมการมีมติว่ามีพฤติการณ์อันสมควรให้มีการพิจารณาเกีย
่ วกับจรรยาบรรณแห่ง
วิชาชีพ ของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ให้เลขาธิการเสนอเรือ
่ งดังกล่าวต่อประธาน
อนุกรรมการจรรยาบรรณโดยไม่ชักช้า
11
มาตรา ๓๖ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๓ (๒) ให้แต่งตัง้ คณะอนุกรรมการจรรยาบรรณจากสมาชิก
ประกอบด้วยประธานคนหนึง่ และอนุกรรมการมีจำานวนรวมกันไม่น้อยกว่าสามคนมีอำานาจหน้าที ่
สืบสวน หาข้อเท็จจริงในเรือ
่ งทีไ่ ด้รับตามมาตรา ๓๕ แล้วทำารายงานพร้อมทัง้ ความเห็นเสนอ
คณะกรรมการเพือ
่ พิจารณา
มาตรา ๓๗ เมือ
่ คณะกรรมการได้รับรายงานและความเห็นของคณะอนุกรรมการจรรยาบรรณ
แล้ว ให้คณะกรรมการพิจารณารายงานและความเห็นดังกล่าวแล้วมีมติอย่างใดอย่างหนึง่ ดังต่อไป
นี ้
(๑) ให้คณะอนุกรรมการจรรยาบรรณสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพิม
่ เติมเพือ
่ เสนอให้คณะ
กรรมการพิจารณา
มาตรา ๓๙ ในการปฏิบัติหน้าทีข
่ องคณะอนุกรรมการจรรยาบรรณและของคณะอนุกรรมการ
สอบสวน ตามพระราชบัญญัตินี ้ ให้อนุกรรมการจรรยาบรรณและอนุกรรมการสอบสวนเป็นเจ้า
พนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มีอำานาจเรียกบุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคำาและมีหนังสือแจ้ง
ให้บุคคลใด ๆ ส่งเอกสารหรือวัตถุเพือ
่ ประโยชน์แก่การดำาเนินงานของคณะอนุกรรมการดังกล่าว
ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษมีสิทธิทำาคำาชีแ
้ จงหรือนำาพยานหลักฐานใด ๆ มาให้คณะอนุกรรมการ
สอบสวน
12
คำาชีแ
้ จงหรือพยานหลักฐานให้ยน
ื่ ต่อประธานอนุกรรมการสอบสวนภายในสิบห้าวันนับแต่วันทีไ่ ด้
รับแจ้งจาก
ประธานอนุกรรมการสอบสวน หรือภายในกำาหนดเวลาทีค
่ ณะอนุกรรมการสอบสวนจะขยายให้
มาตรา ๔๑ เมือ
่ คณะอนุกรรมการสอบสวนทำาการสอบสวนเสร็จสิน
้ แล้วให้เสนอสำานวนการ
สอบสวนพร้อมทัง้ ความเห็น ต่อคณะกรรมการ โดยไม่ชักช้าเพือ
่ วินิจฉัยชีข
้ าด
มาตรา ๔๒ เมือ
่ คณะกรรมการได้รับสำานวนการสอบสวนและความเห็นของคณะอนุกรรมการ
สอบสวนแล้ว ให้คณะกรรมการพิจารณาสำานวนการสอบสวนและความเห็นดังกล่าวโดยไม่ชักช้า
คณะกรรมการอาจให้คณะอนุกรรมการสอบสวนทำาการสอบสวนเพิม
่ เติมก่อนวินิจฉัยชีข
้ าดก็ได้
คณะกรรมการมีอำานาจวินิจฉัยชีข
้ าดอย่างใดอย่างหนึง่ ดังต่อไปนี ้
(๑) ยกข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษ
(๒) ว่ากล่าวตักเตือน
(๓) ภาคทัณฑ์
(๕) เพิกถอนใบอนุญาต
ภายใต้บังคับมาตรา ๒๗ คำาวินิจฉัยชีข
้ าดของคณะกรรมการตามมาตรานีใ้ ห้ทำาเป็นคำาสัง่ สภา
เภสัชกรรม พร้อมด้วยเหตุผลของการวินิจฉัยชีข
้ าด และให้ถอ
ื เป็นทีส
่ ุด
13
หนึง่ ปี นับแต่วันทีค
่ ณะกรรมการปฏิเสธการออกใบอนุญาต ถ้าคณะกรรมการปฏิเสธการออกใบ
อนุญาตเป็นครัง้ ทีส
่ องแล้ว ผู้นัน
้ เป็นอันหมดสิทธิขอรับใบอนุญาตอีกต่อไป
ผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันสาขาเภสัชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรค
ศิลปะ ผู้ใดซึง่ ถูกสัง่ เพิกถอนใบอนุญาตก่อนวันทีพ
่ ระราชบัญญัตินีใ้ ช้บังคับประสงค์จะยืน
่ คำาขอรับ
ใบอนุญาต
เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมให้ดำาเนินการตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี ้
หมวด ๖
พนักงานเจ้าหน้าที ่
ในการปฏิบัติหน้าทีข
่ องพนักงานเจ้าหน้าทีต
่ ามวรรคหนึง่ ให้บุคคลทีเ่ กีย
่ วข้องอำานวยความสะดวก
ตามสมควร
หมวด ๗
บทกำาหนดโทษ
บทเฉพาะกาล
14
มาตรา ๕๔ ผู้ใดได้ขึน
้ ทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบัน สาขาเภสัชกรรม
ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะอยู่แล้วในวันทีพ
่ ระราชบัญญัตินีป
้ ระกาศในราชกิจ
จานุเบกษา ให้ถอ
ื ว่าผู้นัน
้ เป็นสมาชิกสภาเภสัชกรรมตามพระราชบัญญัตินี ้
มาตรา ๕๕ ผู้ใดได้ขึน
้ ทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบัน สาขาเภสัชกรรม
ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะและใบอนุญาตนัน
้ ยังคงใช้ได้ในวันทีพ
่ ระราชบัญญัติ
นี ้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ถือว่า ผู้นัน
้ ได้ขึน
้ ทะเบียนและรับใบอนุญาต เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
เภสัชกรรมตามพระราชบัญญัตินี ้
มาตรา ๕๖ ในระยะเริม
่ แรกทีย
่ ังมิได้เลือกตัง้ สมาชิกสภาเภสัชกรรมเป็นกรรมการ ให้คณะกรรมการ
มาตรา ๕๗ ในระหว่างทีย
่ ังมิได้ออกกฎกระทรวง ระเบียบ หรือข้อบังคับเพือ
่ ปฏิบัติการตามพระ
ราชบัญญัตินี ้ ให้นำากฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศทีอ
่ อกตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุม
การประกอบโรคศิลปะ ในส่วนทีเ่ กีย
่ วกับวิชาชีพเภสัชกรรมมาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ทัง้ นีต
้ ้องไม่
เกินหนึง่ ปี นับแต่วันทีพ
่ ระราชบัญญัตินีใ้ ช้บังคับ
มาตรา ๕๘ ให้ถือว่าการกระทำาผิดมรรยาทหรือข้อจำากัดและเงือ
่ นไขในการประกอบโรคศิลปะ
ตามกฎหมาย
ว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ ในส่วนทีเ่ กีย
่ วกับวิชาชีพเภสัชกรรม ซึง่ ได้กระทำาก่อน
วันที ่
พระราชบัญญัตินีใ้ ช้บังคับ และยังไม่มีการดำาเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการ
ประกอบโรคศิลปะ เป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเภสัชกรรมตามพระราชบัญญัตินี ้
และการดำาเนินการต่อไปให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี ้ ในกรณีทีม
่ ีการดำาเนินการกับผู้กระทำาผิด
มรรยาท หรือข้อจำากัดและเงือ
่ นไขในการประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบัน สาขาเภสัชกรรม ตาม
กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะก่อนวันทีพ
่ ระราชบัญญัตินีใ้ ช้บังคับ ให้ถือว่า
15
การดำาเนินการดังกล่าวเป็นการดำาเนินการตามพระราชบัญญัตินีแ
้ ละการดำาเนินการต่อไป ให้เป็น
ไปตามพระราชบัญญัตินี ้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลีกภัย
นายกรัฐมนตรี
อัตราค่าธรรมเนียมวิชาชีพเภสัชกรรม
(๒) ค่าหนังสือรับรองการขึน
้ ทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ฉบับละ ๕๐๐ บาท
ละ ๒,๐๐๐ บาท
16
กฎกระทรวง
(พ.ศ.๒๕๓๙)
ออกตามความในพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม
พ.ศ.๒๕๓๗
(๑) ค่าขึน
้ ทะเบียนและรับใบอนุญาต
(๒) ค่าหนังสือรับรองการขึน
้ ทะเบียน
เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ฉบับละ ๑๕๐ บาท
17
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี ้ คือ โดยทีเ่ ป็นการสมควรกำาหนด
ค่าธรรมเนียมเกีย
่ วกับการขึน
้ ทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม การ
ออกหนังสือรับรองการขึน
้ ทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม การออกหนังสืออนุมัติ หรือ
วุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมและการออกใบแทนใบ
อนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมและเนือ
่ งจากมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพ
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
ว่าด้วยการแต่งตัง้ ทีป
่ รึกษาและการกำาหนดอำานาจหน้าที ่
ของผู้ดำารงตำาแหน่งทีป
่ รึกษา
พ.ศ.๒๕๓๘
หมวด ๑
การแต่งตัง้ ทีป
่ รึกษา
18
ข้อ ๑. คณะกรรมการสภาเภสัชกรรม อาจแต่งตัง้ ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นทีป
่ รึกษาได้ไม่เกิน ๑๑
คน
ข้อ ๒. คุณสมบัติของทีป
่ รึกษาให้เป็นไปตามทีก
่ ำาหนดในมาตรา ๑๙ โดยอนุโลมยกเว้นที ่
ปรึกษากฎหมาย
ข้อ ๓. ทีป
่ รึกษาคณะกรรมการสภาเภสัชกรรม มีวาระการดำารงตำาแหน่งเช่นเดียวกับ
กรรมการสภาเภสัชกรรมทีไ่ ด้รับการเลือกตัง้ ตามมาตรา ๒๐ วรรคหนึง่
ข้อ ๔. นายกสภาเภสัชกรรมอาจเสนอให้ถอดถอนทีป
่ รึกษาท่านใดท่านหนึง่ หรือทัง้ คณะ
ได้ ทัง้ นี ้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสภาเภสัชกรรม
หมวด ๒
อำานาจหน้าทีข
่ องผู้ดำารงตำาแหน่งทีป
่ รึกษา
ข้อ ๕. ให้ผู้ดำารงตำาแหน่งทีป
่ รึกษามีอำานาจหน้าทีด
่ ังต่อไปนี ้
๕.๒ เสนอแนะและให้ข้อคิดเห็นอืน
่ ๆ ทีอ
่ ยู่ในขอบเขตวัตถุประสงค์และอำานาจ
หน้าทีข
่ องสภาเภสัชกรรม
หมวด ๓
การประชุมของคณะทีป
่ รึกษา
ข้อ ๖. การประชุมของคณะทีป
่ รึกษา ให้ใช้ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม ว่าด้วยการประชุม
ของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ มาใช้โดยอนุโลม
19
นายบุญอรรถ สายศร
นายกสภาเภสัชกรรม
20
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
ว่าด้วยการประชุมคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ
พ.ศ.๒๕๓๘
ส่วนที ่ ๑
การประชุมคณะกรรมการ
หมวด ๑
ประธานและเลขานุการทีป
่ ระชุม
ข้อ ๑. ให้นายกสภาเภสัชกรรมเป็นประธานในทีป
่ ระชุม
ข้อ ๓. ให้เลขาธิการสภาเภสัชกรรมเป็นเลขานุการทีป
่ ระชุม
21
หมวด ๒
อำานวยหน้าทีข
่ องประธานและเลขานุการ
ข้อ ๕. ประธานในทีป
่ ระชุมมีอำานาจหน้าทีด
่ ังต่อไปนี ้
(๑) ควบคุมและดำาเนินการของทีป
่ ระชุมตามวาระการประชุม
(๒) รักษาความสงบเรียบร้อยในทีป
่ ระชุม
(๓) มีอำานาจและหน้าทีต
่ ามทีก
่ ฎหมายบัญญัติไว้หรือตามทีก
่ ำาหนดไว้ในข้อ
บังคับนี ้
ข้อ ๖. เลขานุการมีอำานาจหน้าทีด
่ ังต่อไปนี ้
(๑) จัดระเบียบวาระการประชุมตลอดจนรายละเอียดและเอกสารประกอบ
หรือทีเ่ กีย
่ วข้องทีจ
่ ะนำาเข้าประชุม
(๒) แจ้งนัดประชุม
(๓) แจ้งระเบียบหรือหนังสือต่อทีป
่ ระชุม หรือยืนยันมติของทีป
่ ระชุม
(๔) จัดทำารายงานการประชุม
(๖) ปฏิบัติการอืน
่ ตามทีป
่ ระธานหรือทีป
่ ระชุมมอบหมาย
หมวด ๓
การประชุม
22
ข้อ ๑๐. การประชุมสภาเภสัชกรรมให้เป็นไปตามกำาหนดทีท
่ ีป
่ ระชุมมีมติไว้ หรือตามที ่
นายกสภาเภสัชกรรมจะเห็นสมควร แต่นายกสภาเภสัชกรรมอาจสัง่ งดการประชุมครัง้ ใดก็ได้ เมือ
่ เห็นว่า
ไม่มีเรือ
่ งทีส
่ มควรจะประชุม
(1) เรือ
่ งทีป
่ ระธานแจ้งต่อทีป
่ ระชุม
(2) รับรองรายงานการประชุม
(3) เรือ
่ งด่วน
(4) เรือ
่ งสืบเนือ
่ งจากการประชุมทีแ
่ ล้ว
(5) เรือ
่ งทีค
่ ้างพิจารณา
(6) เรือ
่ งทีเ่ สนอใหม่
(7) เรือ
่ งอืน
่ ๆ
ข้อ ๑๘.ประธานทีป
่ ระชุมมีอำานาจปรึกษาทีป
่ ระชุมในเรือ
่ งใด ๆ สัง่ พักการประชุม เลือ
่ น
การประชุม หรือเลิกการประชุมได้ตามทีเ่ ห็นสมควร
23
ข้อ ๑๙. การจดรายงานการประชุม ทีป
่ ระชุมอาจมีมติมิให้จดรายงานการประชุม
บางส่วนก็ได้
หรือเกีย
่ วข้องกันเพือ
่ พิจารณาพร้อมกัน
(2) ขอให้ส่งเรือ
่ งไปยังคณะอนุกรรมการเพือ
่ พิจารณา หรือขอให้บุคคลใดมา
แถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความคิดเห็น
(3) ขอให้รวมหรือแยกประเด็นพิจารณาหรือลงมติ
(4) ขอให้เลือ
่ นการพิจารณา
(5) ขอให้เลือ
่ นการประชุม
หมวด ๔
การลงมติ
(2) การออกเสียงลงคะแนนลับ
เสียงชีข
้ าด ทัง้ นี ้ เว้นแต่มติของทีป
่ ระชุม ในกรณีให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพมาตรา ๑๔ (๔) หรือการ
24
ข้อ ๒๗. ให้ประธานอนุกรรมการเป็นประธานทีป
่ ระชุม
บุญอรรถ สายศร
นายกสภา
เภสัชกรรม
25
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
ว่าด้วยการเป็นสมาชิกสภาเภสัชกรรม
พ.ศ.๒๕๓๘
หมวด ๑
การสมัครเป็นสมาชิก
(1) หลักฐานแสดงวุฒิในวิชาชีพเภสัชกรรม
(2) สำาเนาทะเบียนบ้าน
26
(3) ภาพถ่ายหน้าตรง ครึง่ ตัว ท่าปกติ ไม่สวมแว่นตาดำา ไม่สวมหมวก
ซึง่ ถ่ายไว้ไม่เกิน ๖ เดือน ขนาด ๑ นิว้ จำานวน ๓ ภาพ
(4) ใบรับรองแพทย์
ข้อ ๓. ผู้สมัครเป็นสมาชิกผู้ใดทีน
่ ายกสภาเภสัชกรรมพิจารณาไม่รับเป็นสมาชิกผู้นัน
้ จะ
ขอสมัครเป็นสมาชิกอีกก็ได้ โดยยืน
่ ใบสมัครต่อเลขาธิการสภาเภสัชกรรม เมือ
่ พ้นกำาหนด ๑ ปี นับแต่วัน
ทราบผลการพิจารณารับหรือไม่รับเป็นสมาชิก
การยืน
่ ใบสมัครและการแจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการสภา
เภสัชกรรม
ให้นำาความในข้อ ๑ และข้อ ๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ ๔. ผู้สมัครผู้ใดทีค
่ ณะกรรมการสภาเภสัชกรรมพิจารณาไม่รับเป็นสมาชิกเป็นครัง้ ที ่
สอง ผู้นัน
้ หมดสิทธิท
์ ีจ
่ ะขอสมัครเป็นสมาชิกสภาเภสัชกรรมอีกต่อไป
หมวด ๒
หนังสือสำาคัญการเป็นสมาชิก
ข้อ ๕. ผ้ท
ู ีไ่ ด้รับอนุมัติเป็นสมาชิกของสภาเภสัชกรรมตามข้อบังคับนีใ้ ห้สภาเภสัชกรรม
ข้อ ๖. ผ้ท
ู ีเ่ ป็นสมาชิกของสภาเภสัชกรรมตามบทเฉพาะกาล มาตรา ๕๔ แห่งพระราช
(1) สำาเนาใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันสาขาเภสัชกรรมตาม
กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ
(2) สำาเนาทะเบียนบ้าน
27
(3) ภาพถ่ายหน้าตรง ครึง่ ตัว ท่าปกติ ไม่สวมแว่นตาดำา ไม่สวมหมวก ซึง่
ถ่ายไว้ไม่เกิน ๖ เดือน ขนาด ๑ นิว้ จำานวน ๒ ภาพ
ข้อ ๗. เมือ
่ เลขาธิการสภาเภสัชกรรมได้รับคำาขอพร้อมด้วยหลักฐาน และค่าธรรมเนียม
หนังสือสำาคัญการเป็นสมาชิกแล้วให้พิจารณาเสนอนายกพสภาเภสัชกรรมอนุมัติ ให้ออกหนังสือสำาคัญ
หมวด ๓
บัตรประจำาตัวสมาชิก
ข้อ ๘. ผ้ท
ู ีไ่ ด้รับอนุมัติให้เป็นสมาชิกของสภาเภสัชกรรมตามข้อบังคับนีใ้ ห้สภา
ข้อ ๙. ผ้ท
ู ีเ่ ป็นสมาชิกของสภาเภสัชกรรมตามบทเฉพาะกาลมาตรา ๔๕ แห่งพระราช
สภ.๑๔ ท้ายข้อบังคับนีต
้ ่อเลขาธิการสภาเภสัชกรรมพร้อมด้วยหลักฐานต่อไปนี ้
(1) สำาเนาใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบันสาขาเภสัชกรรมตาม
กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ
(2) สำาเนาทะเบียนบ้าน
หมวด ๔
ใบแทนหนังสือสำาคัญการเป็นสมาชิก
28
ข้อ ๑๓. สมาชิกผู้ใดทีท
่ ำาหนังสือสำาคัญการเป็นสมาชิกสูญหายหรือถูกทำาลายในสาระ
สำาคัญ ให้ยืน
่ คำาขอรับใบแทนหนังสือสำาคัญการเป็นสมาชิกได้ตามแบบ สภ.๑๖ ท้ายข้อบังคับนีต
้ ่อ
เลขาธิการสภาเภสัชกรรมพร้อมด้วยหลักฐานดังต่อไปนี ้
หนังสือสำาคัญการเป็นสมาชิกทีถ
่ ูกทำาลายสาระสำาคัญ แล้วแต่กรณี
(2) สำาเนาทะเบียนบ้าน
หมวด ๕
ทะเบียนสมาชิกสภาเภสัชกรรม
บุญอรรถ สายศร
นายกสภาเภสัชกรรม
29
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
ว่าด้วยการกำาหนดค่าขึน
้ ทะเบียนสมาชิกและค่าธรรมเนียม
พ.ศ.๒๕๓๘
ข้อ ๒. ค่าธรรมเนียม
(1) ค่าสมัครสอบความรู้เพือ
่ ขอขึน
้ ทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ
เภสัชกรรม
- เฉพาะวิชาทีส
่ อบอืน
่ ๆ วิชาละ วิชาละ ๒๕๐ บาท
บาท(๕) ค่าคำาขอเปลีย
่ นชือ
่ ตัว ชือ
่ สกุล หรือเพิม
่ อภิไธย ครัง้ ละ ๑๐๐ บาท(๖)
ค่าบัตรประจำาตัวเมือ
่ ขอใหม่ ฉบับละ ๑๐๐ บาท(๗)
ค่าหนังสือรับรองสำาเนาหนังสือต่าง ๆ ฉบับละ ๑๐๐ บาท
30
ข้อบังคับนีใ้ ห้ใช้บังคับตัง้ แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
บุญอรรถ สายศร
นายกสภาเภสัชกรรม
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
ว่าด้วยตราของสภาเภสัชกรรม
พ.ศ.๒๕๓๘
ข้อ ๑. ตราของสภาเภสัชกรรมมีรูปลักษณะดังนี ้
31
้ งต้นมีอักษรไทยและตัวเลข “พ.ศ.๒๕๓๗”
เป็นรูปงูพันถ้วย ซ้อนเฉลงอยู่บนโล่รูปกลมรี เบือ
เบือ
้ งล่างมีอักษรโรมันและตัวเลข “A.D. 1994” ทีข
่ อบด้านบนของโลมีข้อความว่า “สภา
เภสัชกรรม” และทีข
่ อบด้านล่างมีข้อความว่า “The Pharmacy Council”
ข้อ ๒. ตราของสภาเภสัชกรรมเป็นเอกสิทธิข
์ องสภาเภสัชกรรม
ข้อ ๓. การทำาหรือการใช้ตราของสภาเภสัชกรรมเป็นเครือ
่ งหมาย เครือ
่ งประดับ เครือ
่ ง
ประกอบสิง่ ใด หรือเพือ
่ วัตถุประสงค์ใด ๆ ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากสภาเภสัชกรรม
ก่อน
บุญ
อรรถ สายศร
นายกสภา
เภสัชกรรม
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
32
ว่าด้วยหลักเกณฑ์การสืบสวนหรือสอบสวนในกรณีทีม
่ ีการกล่าวหาหรือกล่าวโทษผู้ประกอบวิชชีพ
เภสัชกรรม
พ.ศ.๒๕๓๘
หมวด ๑
การสอบสวนพิจารณา
ส่วนที ่ ๑
กำาหนดเวลาสอบสวน
33
“การสืบสวน” หมายความว่า การแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐาน ซึง่ คณะกรรมการ
สภาเภสัชกรรมหรือ คณะอนุกรรมการสอบสวน มีอำานาจและหน้าทีต
่ ามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพ
เภสัชกรรม ทัง้ นี ้ เพือ
่ ทีจ
่ ะทราบรายละเอียดแห่งความผิด
ของพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.๒๕๓๗
ข้อ ๓. เมือ
่ คณะอนุกรรมการได้รับเรือ
่ งการกล่าวหาจากเลขาธิการสภาเภสัชกรรมแล้ว
ให้รีบดำาเนินการสอบสวนโดยไม่ชักช้า
ช่อ ๗. การนำาเอกสารหรือวัตถุพยานใช้เป็นพยานหลักฐานในสำานวนการสอบสวนให้
คณะอนุกรรมการทำาบันทึกไว้ด้วยว่า ได้มาอย่างไร จากผู้ใด และเมือ
่ ใด
34
เอกสารทีใ่ ช้เป็นพยานหลักฐานในสำานวนการสอบสวนให้ใช้ต้นฉบับ ถ้ามีความจำาเป็นไม่
อาจนำาต้นฉบับมาได้จะใช้สำาเนาทีป
่ ระธานคณะอนุกรรมการหรือผู้มีหน้าทีร
่ ับผิดชอบรับรองว่าเป็นสำาเนาที ่
ถูกต้องตรงกับต้นฉบับก็ได้
ถ้าหาต้นฉบับเอกสารไม่ได้ ด้วยเหตุประการใดก็ตาม ให้นำาสำาเนาหรือพยานบุคคลมาส
อบแทนก็ได้
ข้อ ๘. เมือ
่ การสอบสวนแล้วเสร็จ ให้คณะอนุกรรมการสรุปผลการสอบสวนพร้อมความ
เห็น เสนอต่อคณะกรรมการสภาเภสัชกรรม เพือ
่ วินิจฉัยชีข
้ าด
หมวด ๓
การสอบสวนพิจารณา
35
ข้อ ๑๔. เมือ
่ คณะอนุกรรมการได้รวบรวมพยานหลักฐานทีเ่ กีย
่ วข้องกับข้อกล่าวหาแล้ว
เสร็จ ในระหว่างการดำาเนินการพิจารณาหากพบว่าข้อกล่าวหาได้เปลีย
่ นแปลงไปหรือเพิม
่ ใหม่ ให้คณะ
อนุกรรมการแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ และผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิท
์ ีจ
่ ะได้รับแจ้งสรุปพยานหลักฐานที ่
สนับสนุนข้อกล่าวหาทีไ่ ด้เปลีย
่ นแปลงหรือเพิม
่ ใหม่ได้
ส่วนที ่ ๓
การสอบปากคำาและบันทึกคำาให้การ
ข้อ ๒๐ เมือ
่ คณะอนุกรรมการทำาการสอบสวนเสร็จสิน
้ ให้เสนอสำานวนการสอบสวนพร้อม
ทัง้ ความเห็นต่อคณะกรรมการสภาเภสัชกรรม โดยไม่ชักช้าเพือ
่ วินิจฉัยชีข
้ าด
ในรายงานการสอบสวนให้มีสาระสำาคัญดังนี ้
36
(๑) สรุปข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานว่ามีอย่างใดบ้าง ในกรณีทีไ่ ม่ได้สอบสวน
พยานให้รายงานเหตุผลทีไ่ ม่ได้สอบสวนด้วย
(๒) ในกรณีทีผ
่ ู้ถูกกล่าวหาให้ถ้อยคำาสารภาพ ให้รายงานด้วยว่ารับสารภาพ
เพราะจำานนต่อหลักฐาน หรือไม่เพราะเหตุใด
(๓) การวินิจฉัยเปรียบเทียบพยานหลักฐานทีส
่ นับสนุนข้อกล่าวหาและพยานหลัก
ฐานทีห
่ ักล้างข้อกล่าวหา ว่าควรรับฟั งพยานหลักฐานฝ่ ายใด โดยอาศัยเหตุผลอย่างไร ผิดจรรยาบรรณ
หรือไม่
นายบุญอรรถ สายศร
นายกสภาเภสัชกรรม
37
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
๑๑.๔ บัตรทีส
่ ่งถึงประธานคณะอนุกรรมการอำานวยการเลือกตัง้ หลังกำาหนดเวลาสิน
้ สุด
การลงคะแนน เว้นแต่กรณีเป็นการส่งบัตรเลือกตัง้ กลับทางไปรษณีย์ ให้ถอ
ื วันทีส
่ ิน
้ สุดตามวันทีท
่ ีป
่ ระทับ
โดยทีท
่ ำาการไปรษณีย์ปลายทางทีต
่ ัง้ ของสำานักงานสภาเภสัชกรรมเป็นสำาคัญ “
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑๕ แห่งข้อบังคับสภาเภสัชกรรมว่าด้วยการเลือกและการ
38
๑๕ เพือ ่ ีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๓๗
่ เลือกกรรมการทีม
เพือ
่ ดำารงตำาแหน่งดังกล่าวตำาแหน่งละหนึง่ คน โดยดำาเนินการเลือกทีละตำาแหน่งตามลำาดับ ด้วยวิธีให้
กรรมการเสนอชือ
่ และมีกรรมการอย่างน้อย สามคนรับรองการเสนอชือ
่ นัน
้ ๆ
การเลือกให้เลือกโดยลงคะแนนลับ ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดของแต่ละตำาแหน่งเป็นผู้ได้รับ
เลือกให้เป็นนายกสภาเภสัชกรรม อุปนายกคนทีห
่ นึง่ และอุปนายกคนทีส
่ อง กรณีทีผ
่ ู้ได้รับคะแนนสูงสุดมี
คะแนนเท่ากันให้มีการลงคะแนนซำา
้ จนกว่าจะได้ผู้มีคะแนนสูงสุด
กรณีมีการเสนอชือ
่ คนเดียวสำาหรับตำาแหน่งใดให้ถือว่าผู้นัน
้ เป็นผู้ได้รับเลือกเพือ
่ ดำารง
ตำาแหน่งนัน
้ โดยไม่ต้องออกเสียงลงคะแนน
การเลือกตัง้ นายกสภาเภสัชกรรม อุปนายกคนทีห
่ นึง่ และอุปนายกคนทีส
่ อง ดังกล่าว ให้
นายกสภาเภสัชกรรมหรืออุปนายกสภาเภสัชกรรมหรือเลขาธิการสภาเภสัชกรรม ชุดทีจ
่ ะพ้นวาระคนใด
คนหนึง่ ทีไ่ ม่มีส่วนร่วมในคณะกรรมการชุดใหม่เป็นประธานในทีป
่ ระชุมเพือ
่ ดำาเนินการเลือกตัง้ ตำาแหน่ง
ต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จ
ข้อ ๕ ให้เพิม
่ เติมข้อความดังต่อไปนี ้
นายภาวิช ทองโรจน์
นายกสภา
เภสัชกรรม
39
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
เพือ
่ เป็นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ให้มีความรู้และ
ความสามารถในการประกอบวิชาชีพทีท
่ ันสมัยและสอดคล้องกับมาตรฐานของวิชาชีพ อันจะเป็นหลัก
ประกันและเสริมสร้างความเชือ
่ มัน
่ ในการให้บริการวิชาชีพต่อผู้รับบริการ สภาเภสัชกรรมจึงเห็นควรให้มี
การจัดระบบการศึกษาต่อเนือ
่ งแก่ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.๒๕๔๕ ”
40
ข้อ ๒. ข้อบังคับนี ้ ให้ใช้บังคับนับตัง้ แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
ข้อ ๓. ในข้อบังคับนี ้
ผู้ประกอบวิชาชีพ หมายถึง ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
บทความวิชาการ หมายถึง บทความทางวิชาการเพือ
่ การศึกษาต่อเนือ
่ งทีเ่ รียบเรียง
แปลหรือแต่งขึน
้
ประชุมวิชาการ หมายถึง การประชุม การ
สัมมนา การฝึ กอบรม การประชุมเชิงปฏิบัติการหรือกิจกรรมทีใ่ ช้ชือ
่
อย่างอืน
่ ซึง่ มีลักษณะเป็นการประชุมวิชาการ
ผู้จัดการประชุมวิชาการ หมายถึง นิติบุคคลหรือองค์กรทีเ่ ป็นผู้รับผิดชอบจัดการประชุม
รวมทัง้ ผู้ทีไ่ ด้รับ
มอบ หมาย
ข้อ ๔. ให้นายกสภาเภสัชกรรมเป็นผู้รักษาการตามข้อบังคับนีแ
้ ละมีอำานาจออกระเบียบและ
ประกาศเพือ
่ ปฏิบัติตามข้อบังคับนีไ้ ด้
ในกรณีทีม
่ ีปัญหาในการตีความ หรือมีกรณีทีม
่ ิได้กำาหนดไว้ในข้อบังคับนี ้ หรือในกรณีทีม
่ ี
ปัญหาในการปฏิบัติตามข้อบังคับนี ้ ให้นายกสภาเภสัชกรรม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสภา
เภสัชกรรมเป็นผู้วินิจฉัยชีข
้ าดและถือเป็นทีส
่ ิน
้ สุด
/หมวดที ่ ๑ บททัว
่ ไป
หมวดที ่ ๑ บททัว
่ ไป
ข้อ ๕. การจัดการศึกษาต่อเนือ
่ งแก่ผู้ประกอบวิชาชีพ มีวัตถุประสงค์เพือ
่
41
(1) เสริมความรู้และวิทยาการใหม่ๆทีเ่ กีย่ วข้องหรือเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบ
วิชาชีพ เพือ
่ เพิม
่ ศักยภาพของผู้ประกอบวิชาชีพในการให้บริการแก่ผู้รับบริการ
สภาเภสัชกรรม
ข้อ ๖. รูปแบบการศึกษาต่อเนือ
่ งแก่ผู้ประกอบวิชาชีพ อาจจัดการได้ตามรูปแบบต่างๆ ดังนี ้
ข้อ ๗. การจัดการศึกษาต่อเนือ
่ งแก่ผู้ประกอบวิชาชีพ อาจจัดโดยสภาเภสัชกรรมหรือโดยสถาบัน
หลักหรือสถาบันสมทบ ซึง่ ได้รับการรับรองจากสภาเภสัชกรรม
หมวดที ่ ๒
การรับรองสถาบันหลักและสถาบันสมทบ
ข้อ ๘. หน่วยงานทีจ
่ ะได้รับการรับรองจากสภาเภสัชกรรมให้จัดการศึกษาต่อเนือ
่ งแก่ผู้ประกอบ
วิชาชีพเภสัชกรรมตามข้อบังคับนีต
้ ้องมีลักษณะข้อใดข้อหนึง่ ดังนี ้
(3) เป็นสมาคมวิชาชีพ
42
(4) องค์กรวิชาชีพ โรงพยาบาล หรือหน่วยงานอืน
่ ๆ ทีม
่ ีลักษณะไม่เข้าข่าย (๑) (๒)
และ (๓) แต่มีศักยภาพในการจัดการศึกษาต่อเนือ
่ ง ตามข้อ ๑๐
/ข้อ ๙ สถาบันหลัก…
ต่อเนือ
่ ง
43
(7) ส่งรายงานกิจกรรมการศึกษาต่อเนือ่ งและข้อมูลตาม (๕) และ (๖) แก่สภาเภสัชกรรมทุกปี
(1) มีศักยภาพในการจัดการศึกษาต่อเนือ
่ งในรูปแบบใดรูปแบบหนึง่ อย่างน้อยปี ละ ๑ ครัง้
(2) เป็นสถาบันสมทบของสถาบันหลักใดเพียงสถาบันเดียว
ข้อ ๑๒. สถาบันสมทบมีหน้าทีด
่ ังต่อไปนี ้
หรือสถาบันหลักทีใ่ ห้การรับรอง
44
ข้อ ๑๗. สถาบันสมทบมีอายุการรับรองตลอดตามทีส
่ ถาบันหลักยังได้รับการรับรองจากสภา
เภสัชกรรมอยู่
เว้นแต่จะพ้นสภาพตามข้อ ๓๓
หมวดที ่ ๓
การรับรองและกำาหนดหน่วยกิตของการศึกษาต่อเนือ
่ ง สำาหรับการศึกษาด้วยตนเอง
(2) คำาถามของบทความ
(3) เอกสารรับรองการได้หน่วยกิตการศึกษาต่อเนือ่ งจากองค์การนัน้ ๆ
(4) เอกสารอืน่ ตามทีส
่ ภาเภสัชกรรมกำาหนด
45
๒๕๓๗ หรือเกีย
่ วข้องกับจรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพ หรือเป็นเรือ
่ งทีเ่ กีย
่ วกับ
ระบบสาธารณสุข
(2) ความทันสมัยของเนือ้ หา
(3) มีการอ้างเอกสารอ้างอิงในเนือ้ หาชัดเจน พร้อมรายการเอกสารอ้างอิงท้าย
บทความ
หมวดที ่ ๔
การรับรองและกำาหนดหน่วยกิตการศึกษาต่อเนือ
่ งของการเข้าประชุมวิชาการ
ให้สถาบันหลักเป็นผู้รับรองและกำาหนดหน่วยกิตการศึกษาต่อเนือ
่ งตามทีส
่ ภาเภสัชกรรมประกาศกำาหนด
ข้อ ๒๖.เอกสารทีต
่ ้องส่งเพือ
่ ขอรับการรับรองและกำาหนดหน่วยกิตการศึกษาต่อเนือ
่ งสำาหรับการ
ประชุมวิชาการตามข้อ ๒๕ มีดังนี ้
(1) กำาหนดการและรายละเอียดของการประชุม
(2) หลักฐานการเข้าประชุม
(3) เอกสารหรือหลักฐานอืน่ เช่น เอกสารประกอบการประชุม ตามทีส
่ ภาเภสัชกรรม
กำาหนด
46
(2) ความทันสมัยของหัวข้อประชุม
(3) ความครอบคลุมและความต่อเนือ่ ง
(4) วิทยากรมีความรู้ความสามารถเชิงวิชาการในหัวข้อทีบ่ รรยาย
(5) เวลาทีใ่ ช้มีความเหมาะสมกับหัวข้อและเนือ้ หา
หมวดที ่ ๕
การกำาหนดจำานวนหน่วยกิตการศึกษาต่อเนือ
่ ง
หมวดที ่ ๖
กระบวนการได้มาซึง่ หน่วยกิตการศึกษาต่อเนือ
่ งของผู้ประกอบวิชาชีพ
47
เอกสารรับรองการได้รับหน่วยกิตการศึกษาต่อเนือ
่ งจากผู้จัดประชุมและเก็บเอกสาร
รับรองการได้รับหน่วยกิตการศึกษาต่อเนือ
่ งไว้เป็นหลักฐาน
หมวดที ่ ๗
การพ้นสภาพจากการเป็นสถาบันหลักและสภาบันสมทบ
(2) มีประกาศเพิกถอนการเป็นสถาบันหลักหรือสถาบันสมทบ
(3) มีหนังสือลาออกจากการเป็นสถาบันหลักหรือสถาบันสมทบ
นางธิดา นิงสานนท์
นายกสภาเภสัชกรรม
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
ว่าด้วยการรับรองปริญญา ประกาศนียบัตรในวิชาชีพเภสัชกรรมหรือวุฒิบัตร
ในวิชาชีพเภสัชกรรมของสถาบันต่าง ๆ เพือ
่ ประโยชน์ในการสมัครเป็นสมาชิก
พ.ศ. ๒๕๔๓
48
อาศัยอำานาจตามความในมาตรา ๙(๓) มาตรา ๑๒(๒) มาตรา ๒๓(๔)(ด) และด้วยความเห็น
หมวด ๑
บททัว
่ ไป
ข้อ ๑ ในข้อบังคับนี ้
ปริญญา หมายถึง ปริญญาทางเภสัชศาสตร์
ประกาศนียบัตร หมายถึง ประกาศนียบัตรทางเภสัชศาสตร์ ซึง่ เทียบเท่าระดับ
ปริญญา
วุฒิบัตร หมายถึง วุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพ
เภสัชกรรมสาขาต่าง ๆ ซึง่ เป็นการศึกษาต่อเนือ
่ งจาก
ปริญญาหรือประกาศนียบัตรทางเภสัชศาสตร์
รายวิชาทางด้าน หมายถึง รายวิชาทางเภสัชศาสตร์ทีม
่ ีเนือ
้ หาเกีย
่ วข้องกับตัวยา
ผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ ต่าง ๆ ทีน
่ ำามาใช้เป็นยา วิทยาศาสตร์และ
วิทยาการของยา การวิจัยพัฒนาอุตสาหกรรมยาและอืน
่
ๆ ทีเ่ กีย
่ วข้อง
รายวิชาทางด้นผู้ป่วย หมายถึง รายวิชาทางเภสัชศาสตร์ทีม
่ ีเนือ
้ หาเกีย
่ วข้องกับการใช้ยา
ในผู้ป่วย ด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ และวิทยาศาสตร์การ
แพทย์ และอืน
่ ๆ
ทีเ่ กีย
่ วข้อง
รายวิชาทางด้านสังคมและการ หมายถึง รายวิชาทีเ่ กีย
่ วข้องกับทางเภสัชศาสตร์ทีม
่ ีเนือ
้ หา
บริหาร เกีย
่ วกับ พฤติกรรมทีเ่ กีย
่ วข้องทางด้านยา การ
บริหารจัดการด้านยา การคุ้มครองผู้บริโภค
เศรษฐศาสตร์และระบบวิทยาทางยา กฎหมาย
และจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพและอืน
่ ๆ
ทีเ่ กีย
่ วข้อง
การฝึ กปฏิบัติทาง หมายถึง การฝึ กปฏิบัติทางวิชาชีพในสถานทีท
่ ีม
่ ีการประกอบวิชาชีพ
วิชาชีพ แขนงต่าง ๆ หรือสถานทีอ
่ ืน
่ ๆ ทีม
่ ีกิจกรรมปฏิบัติที ่
เกีย
่ วข้องและสนับสนุนการประกอบวิชาชีพโดยตรง
คณะกรรมการ หมายถึง คณะกรรมการสภาเภสัชกรรม
การรับรองปริญญา หมายถึง การรับรองปริญญา ประกาศนียบัตรในวิชาชีพเภสัชกรรม
หรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความสามารถในการประกอบ
49
วิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่าง ๆ
หมวด ๒
การยืน
่ ขอการรับรองปริญญา
ข้อ ๒ ผ้ท
ู ีส
่ ำาเร็จการศึกษาทางเภสัชศาสตร์ หรือสถาบันการศึกษาทางเภสัชศาสตร์โดย
ผู้แทนตามกฎหมาย มีสิทธิยืน
่ คำาขอการรับรองปริญญา ต่อสภาเภสัชกรรมได้
ข้อ ๓ ให้ผู้ต้องการยืน
่ คำาขอการรับรองปริญญา ยืน
่ คำาขอตามแบบ สภ.๒๖ ท้ายข้อ
บังคับนี ้ ต่อเลขาธิการสภาเภสัชกรรม โดยให้เริม
่ นับจากวันทีท
่ ีส
่ ำานักงานเลขาธิการสภาเภสัชกรรม ได้
รับคำาขอและหลักฐานตามทีก
่ ำาหนดครอบถ้วนสมบูรณ์เป็นวันทีร
่ ับคำาขอเป็นทางการ
ข้อ ๔ ผ้ย
ู ืน
่ คำาขอการรับรองปริญญา จะต้องยืน
่ คำาของพร้อมหลักฐานดังต่อไปนี ้
(1) ใบปริญญา ประกาศนียบัตรทางเภสัชศาสตร์ หรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความ
ชำานาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม หรือตัวอย่างของหลักฐานดังกล่าว กรณีที ่
สถาบันการศึกษาเป็นผู้ยืน
่ ขอการรับรองปริญญา
กรณีผู้สำาเร็จการศึกษาเป็นผู้ยืน
่ ขอการรับรองปริญญาด้วยตนเอง จะต้องนำาหลัก
ฐานฉบับจริงมาแสดงด้วย กรณีถ้าไม่ได้มายืน
่ ด้วยตนเองจะต้องมีหนังสือมอบอำานาจในการดำาเนินการ
แทนมาแสดงพร้อมสำาเนาบัตรประชาชนของผู้สำาเร็จการศึกษามาเป็นหลักฐาน
กรณีทห
ี ่ ลักฐานทีไ่ ม่สามารถแสดงหลักฐานตามทีก
่ ำาหนดให้เลขาธิการสภาเภสัชกรรมเป็น
ผู้พิจารณายกเว้นได้เฉพาะกรณีเป็นราย ๆ ไป และให้สรุปข้อเท็จจริงเสนอคณะกรรมการพิจารณาพร้อม
กับการเสนอการรับรองปริญญาดังกล่าว
หมวด ๓
เกณฑ์การรับรองปริญญา
ข้อ ๕ เมือ
่ เลขาธิการสภาเภสัชกรรม ไดรับคำาขอเป็นทางการแล้ว จะต้องเร่งพิจารณาและเสนอ
คณะกรรมการพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการครัง้ แรกหลังครบกำาหนด ๖๐ วันทำาการหลังจากทีไ่ ด้
รับคำาขอแล้ว โดยการพิจารณาให้พิจารณาตามเกณฑ์ทีก
่ ำาหนดหรือจะสอบถามความคิดเห็นจากสถาบัน
การศึกษาทางเภสัชศาสตร์ต่าง ๆ หรือตัง้ ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นคณะทำางานพิจารณาก็ได้ตามความเหมาะสม
กรณีมีเหตุผลความจำาเป็นไม่สามารถเสนอเรือ
่ งต่อคณะกรรมการพิจารณาในระยะเวลาที ่
กำาหนดในวรรคแรก ให้เลขาธิการสภาเภสัชกรรมเสนอต่อคณะกรรมการเพือ
่ ขยายระยะเวลาพิจารณาต่อ
50
ไปได้ตามความเหมาะสม แต่ทัง้ นีร้ ะยะเวลารวมทัง้ สิน
้ ตัง้ แต่รับคำาขอเป็นทางการต้องไม่เกิน ๑๒๐ วัน
ทำาการ
หมวด ๔
การรับรองปริญญา
(1) รับรองปริญญา
(2) รับรองปริญญาโดยกำาหนดเงือ่ นไขประกอบ
(3) ไม่รับรองปริญญา
การรับรองปริญญาโดยมีเงือ
่ นไขประกอบจะทำาให้มีสิทธิสมัครเข้าเป็นสมาชิกสภา
เภสัชกรรม แต่ไม่สามารถขอสอบความรู้เพือ
่ ขอขึน
้ ทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมได้ โดยเป็น
สมาชิกประเภทมีเงือ
่ นไข
ข้อ ๘ ผ้ท
ู ีไ่ ด้รบการรับรองปริญญาโดยกำาหนดเงือ
่ นไขประกอบ จะต้องดำาเนินการให้
ครบถ้วนตามทีก
่ ำาหนดเป็นเงือ
่ นไขไว้ก่อน จึงสามารถทำาหนังสือยืน
่ ต่อเลขาธิการสภาเภสัชกรรม เพือ
่
พิจารณาออกหนังสือรับรอง เพือ
่ เป็นหลักฐานประกอบการขอเข้าสอบความรู้เพือ
่ ขอขึน
้ ทะเบียนเป็นผู้
ประกอบวิชาชีพได้และให้เลขาธิการสภาเภสัชกรรมแจ้งให้นายกสภาเภสัชกรรมทราบต่อไป
51
ข้อ ๙ มติในการวินิจฉัยชีข
้ าดในเรือ
่ งการรับรองปริญญาให้ออกเป็นประกาศสภา
เภสัชกรรมและแจ้งผู้ยืน
่ คำาขอทราบ
มติของคณะกรรมการให้ถือเป็นทีส
่ ิน
้ สุด ผ้ย
ู ืน
่ คำาขอรับรองปริญญา จะอุทธรณ์ไม่
ได้ยกเว้นกรณีทีม
่ ีหลักฐานข้อมูลใหม่เสนอพิจารณาเท่านัน
้ ให้เลขาธิการสภาเภสัชกรรมสามารถรับคำาขอ
เพือ
่ พิจารณาใหม่ได้
ข้อ ๑๐ กรณีทีส
่ ภาเภสัชกรรมได้พิจารณารับรองปริญญาไปแล้วต่อมาได้ทราบในภาย
หลักว่าหลักฐานทีเ่ สนอเป็นเท็จ ไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง หรือเป็นลักฐานทีท
่ ำาปลอมทัง้ หมดหรือเพียง
บางส่วนก็ตามให้สภาเภสัชกรรมเพิกถอนการรับรองและให้ถือเสมือนว่าสภาเภสชกรรมยังไม่เคยรับรอง
ปริญญาดังกล่าว
ข้อ ๑๑ ปริญญาทีส
่ ภาเภสัชกรรมรับรองแล้ว ให้ขน
ึ ้ ทะเบียนไว้เพือ
่ ใช้อ้างอิงต่อไป
และเมือ
่ สถาบันการศึกษาต่าง ๆ ดังกล่าวมีการปรับหลักสูตรการศึกษา หรือสภาเภสัชกรรมมีการ
ประกาศปรับหรือเพิม
่ เติมเกณฑ์การรับรองปริญญาใหม่ จะต้องเสนอขอการรับรองปริญญาต่อสภา
เภสัชกรรมใหม่
นายภาวิช ทองโรจน์
นายกสภาเภสัชกรรม
52
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
53
๑.1 คัดเลือกและกำาหนดมาตรฐานคุณลักษณะเฉพาะของเภสัชเคมีภัณฑ์ทัง้ ทีเ่ ป็นตัวยา
สำาคัญและตัวยา
ประกอบ
๑.4 ควบคุมตรวจสอบการผลิตยาให้เป็นไปตามมาตรฐานทีก
่ ำาหนด
ข้อ ๒ การเลือกสรรยา
๒.2 จัดทำาและกำาหนดมาตรฐานคุณลักษณะเฉพาะของยาสำาหรับการคัดเลือกและจัดหา
๒.4 ต้องให้ข้อมูลด้านยาทีถ
่ ูกต้องเป็นกลางและมีหลักฐานอ้างอิงทีช
่ ัดเจน เชือ
่ ถือได้และ
สอดคล้องกับระดับของการประกอบวิชาชีพหรือการประกอบโรศิลปะของผู้รับข้อมูล
๓.1 คัดเลือกและพัฒนาวิธีการตรวจวิเคราะห์ยาให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน
๓.2 รับรองคุณภาพและผลการตรวจวิเคราะห์ยา
๓.3 ต้องใช้วิธีการวิเคราะห์ยาทีถ
่ ูกต้องเหมาะสมและมีหลักฐานอ้างอิงทีช
่ ัดเจนเชือ
่ ถือได้
๓.5 ต้องตรวจสอบมาตรฐานและความเทีย
่ งตรงของเครือ
่ งมืออุปกรณ์ในการตรวจวิเคระห์
ต่าง ๆ เป็นระยะอย่างต่อเนือ
่ ง
๓.6 ต้องจัดเก็บรักษาและส่งมอบยาให้ถูกต้องตามเกณฑ์มาตรฐาน
ข้อ ๔ การปรุงยาและจ่ายยาตามใบสัง่ ยาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบ
วิชาชีพทันตกรรมหรือผู้ประกอบการบำาบัดโรคสัตว์
๔.1 ตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมของยาทีจ
่ ะจ่ายและส่งมอบยาให้กับผู้ป่วยทีม
่ า
รับบริการ
54
๔.2 ติดตามและประเมินปัญหาเพือ
่ วางแผนและประสานงานกับผู้ประกอบวิชาชีพ
ทางการแพทย์สาขาอืน
่ ทีเ่ กีย
่ วข้อง ในการแก้ไขปัญหาทีเ่ กิดจากการใช้ยาของผู้ป่วย
๔.3 ให้คำาปรึกษาปัญหาด้านยาแก่ผู้ป่วยและประชาชนทีม
่ ารับบริการ
๔.6 ต้องจัดให้มีเวชภัณฑ์ทีถ
่ ูกต้องตามกฎหมายและมีคุณภาพตามหลักเกณฑ์วิธีการที ่
ดีในการผลิตยาไว้บริการ
๔.7 ต้องแสดงชือ
่ ยา ความแรง ขนาดการใช้ ทีช
่ ัดเจนทุกครัง้ ทีม
่ ีการจำาหน่าย จ่าย
หรือส่งมอบให้กับผู้มารับบริการ
๔.8 ต้องให้คำาแนะนำาเกีย
่ วกับยาทีจ
่ ่ายหรือส่งมอบให้กับผู้มารับบริการประเด็นต่าง
ๆ ดังนี ้
1) ชือ
่ ยา
2) ข้อบ่งใช้
3) ขนาดและวิธีการใช้
5) ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติในการใช้ยาดังกล่าว
6) การปฏิบัติเมือ
่ เกิดปัญหาจากการใช้ยาดังกล่าว
๔.9 ต้องจัดทำารายงานอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาตามแบบฟอร์มที ่
กำาหนด
๔.10 ต้องให้ข้อมูลด้านยาทีถ
่ ูกต้องเป็นกลางและมีหลักฐานอ้างอิงทีช
่ ัดเจน เชือ
่ ถือได้
ข้อ ๕ การปรุงยาและการขายยาตามกฎหมายว่าด้วยยา
๕.2 ให้คำาปรึกษาปัญหาด้านยาแก่ผู้ป่วยและประชาชนทีม
่ ารับบริการ
55
๕.3 ปรุงยา ผสมยา ตามใบสัง่ ของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพทันต
กรรม หรือผู้ประกอบการบำาบัดโรคสัตว์
๕.5 ต้องปฏิบัติงานในสถานทีซ
่ ึง่ เหมาะสมต่อการประกอบวิชาชีพ
๕.6 ต้องจัดให้มีเวชภัณฑ์ทีถ
่ ูกต้องตามกฎหมายและมีคุณภาพตามหลักเกณฑ์วิธีการทีด
่ ี
ในการผลิตยาไว้บริการ
๕.7 ต้องเลือกสรรยาทีถ
่ ูกต้องเหมาะสมกับสภาวะการเจ็บป่ วยของผู้ป่วยหรือประชาชน
ทีม
่ ารับบริการเพือ
่ จำาหน่าย จ่ายหรือส่งมอบให้กับผู้มารับบริการ
๕.8 ต้องแสดงชือ
่ ยา ความแรง ขนาดการใช้ ทีช
่ ัดเจนทุกครัง้ ทีม
่ ีการจำาหน่าย จ่าย หรือ
ส่งมอบยาให้กับผู้มารับบริการ
๕.9 ต้องให้คำาแนะนำาเกีย
่ วกับยาทีจ
่ ำาหน่าย จ่าย หรือส่งมอบให้กับผู้มารรับบริการใน
ประเด็นต่าง ๆ ดังนี ้
1) ชือ
่ ยา
2) ข้อบ่งใช้
3) ขนาดและวิธีการใช้
5) ข้อควรระวังและข้อควรปฏิบัติในการใช้ยาดังกล่าว
6) การปฏิบัติเมือ
่ เกิดปัญหาจากการใช้ยาดังกล่าว
๕.10 ต้องจัดทำารายงานอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาตามแบบฟอร์มทีก
่ ำาหนด
56
ประกาศ ณ วันที ่ ๗ เมษายน พ.ศ.
๒๕๔๐
นายบุญอรรถ สายศร
นายกสภาเภสัชกรรม
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
ว่าด้วยการรับรองหลักสูตรการฝึ กอบรมเป็นผู้ชำานาญการในสาขาต่างๆ
ของวิชาชีพเภสัชกรรม
ของสถาบันทีท
่ ำาการฝึ กอบรมเป็นผู้ชำานาญการ ในสาขาต่างๆ ของวิชาชีพเภสัชกรรม
พ.ศ. ๒๕๔๓
57
คณะอนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบ หมายถึง คณะอนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบ
ความรู้
ตามข้อบังคับสภาเภสัชกรรม ว่าด้วย
หลักเกณฑ์การออกหนังสือ
อนุมัติบัตรและวุฒิบัตรแสดงความรู้
ความชำานาญในการประกอบ
วิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่างๆ
สถาบัน หมายถึง สถาบันทีท
่ ำาการฝึ กอบรมเป็นผู้ชำานาญการในสาขาต่างๆ
ของ
วิชาชีพเภสัชกรรมและได้
รับการรับรองจากสภาเภสัชกรรม
สถาบันหลัก หมายถึง สถาบันหลักตามข้อบังคับสภาเภสัชกรรมว่าด้วยหลัก
เกณฑ์
การออกหนังสืออนุมัติ
บัตรและวุฒิบัตรแสดงความรู้ความ
ชำานาญในการประกอบ
วิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่างๆ
สถาบันสมทบ หมายถึง สถาบันสมทบตามข้อบังคับสภาเภสัชกรรมว่าด้วยหลัก
เกณฑ์
การออกหนังสืออนุมัติบัตรและ
วุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่างๆ
ข้อ ๓ หลักสูตรทีจ
่ ะได้รับการรับรองตามข้อบังคับนี ้ ต้องมีสาระเกีย
่ วกับ สาขาของ
วิชาชีพเภสัชกรรม คุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึ กอบรม และข้อกำาหนดอืน
่ ทีเ่ กีย
่ วข้องตามข้อบังคับสภา
เภสัชกรรม และต้องมีลักษณะเพิม
่ เติม ดังนี ้
(๓) มีโครงสร้างหลักสูตรทีป
่ ระกอบด้วย ภาคทฤษฎี ไม่น้อยกว่า ๑๐ หน่วยกิต
และภาค
ปฏิบัติ ไม่น้อยกว่า ๖ หน่วยกิต และภาคฝึ กปฏิบัติวิชาชีพรวมแล้วไม่น้อย
กว่า ๑๑๐
หน่วยกิต
58
โครงสร้างรายละเอียดหลักสูตรแต่ละสาขา ให้เป็นไปตามประกาศสภาเภสัชกรรม
(๔) หลักสูตรต้องกำาหนดวิธีการประเมินผลทีช
่ ัดเจน และเมือ
่ ผ่านการฝึ กอบรมครบ
ถ้วนตาม
ทีห
่ ลักสูตรกำาหนดแล้ว จะต้องผ่านการประเมินตามทีส
่ ภาเภสัชกรรมกำาหนด
ข้อ ๔ ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมทีเ่ ป็นผู้สอน หรือ ควบคุมการฝึ กปฏิบัติวิชาชีพตาม
หลักสูตรต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึง่ อย่างใดดังนี ้
59
แบบและหัวข้อของหลักสูตรทีเ่ สนอให้เป็นไปตามทีค
่ ณะอนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบ
กำาหนด
ให้คณะอนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบ พิจารณาตามเกณฑ์ทีก
่ ำาหนดไว้ในข้อบังคับสภา
เภสัชกรรมในส่วนทีเ่ กีย
่ วข้อง และให้พิจารณาคุณสมบัติของผู้สอนและหรือผ้ค
ู วบคุมการฝึ กปฏิบัติวิชาฃีพ
ตลอดจนความพร้อมของสถาบันหลักและสถาบันสมทบด้วย
ในการดำาเนินการของคณะอนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบ ให้คณะอนุกรรมการ กำาหนด
รายละเอียดและแนวปฏิบัติเพิม
่ เติมได้โดยจัดทำาเป็นประกาศของคณะอนุกรรมการ
ข้อ ๖ สถาบันใดจะเปิ ดหลักสูตรได้ นอกจากหลักสูตรนัน
้ ได้รับการรับรองจากสภา
เภสัชกรรมแล้วและสภาเภสัชกรรมจะต้องรับรองวิทยฐานะของสถาบันทีจ
่ ะทำาการฝึ กอบรมนัน
้ ด้วย
ข้อ ๗ เมือ
่ สภาเภสัชกรรม ให้การรับรองหลักสูตรใดแล้วหากหลักสูตรนัน
้ มีการ
เปลีย
่ นแปลงในภายหลังในสาระสำาคัญตามทีค
่ ณะอนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบกำาหนด ให้สถาบัน
หลักนำาเสนอหลักสูตรนัน
้ ต่อสภาเภสัชกรรมเพือ
่ ให้การรับรองก่อน
ข้อ ๘ ในกรณีทีม
่ ีปัญหาในการตีความหรือการปฏิบัติตามข้อบังคับนี ้ ให้คณะกรรมการสภา
เภสัชกรรมเป็นผู้วินิจฉัยและให้มีอำานาจในการออกประกาศหรือกำาหนดหลักเกณฑ์เพือ
่ ดำาเนินการตามข้อ
บังคับนี ้
ให้ขอ
้ บังคับนีม
้ ีผลบังคับใช้นับตัง้ แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
นายภาวิช ทองโรจน์
นายกสภาเภสัชกรรม
60
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
ว่าด้วยหลักเกณฑ์การออกหนังสืออนุมัติบัตรและวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญ
ในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่าง ๆ
พ.ศ. ๒๕๔๓
หมวด ๑
บททัว
่ ไป
61
ข้อ ๑ ในข้อบังคับนี ้
(๑) อนุมัติหนังสืออนุมัติบัตรและหนังสือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญในการ
ประกอบวิชาชีพ
เภสัชกรรมสาขาต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ทัง้ นีต
้ ามหลักเกณฑ์และเงือ
่ นไขทีก
่ ำาหนดใน
ข้อบังคับนี ้
4 (๔) มีอำานาจในการตีความหรือวินิจฉัยกรณีมีปัญหาในการปฏิบัติตามข้อบังคับ
นี ้ ดำาเนินการใดๆ เพือ
่ ให้เป็นไปตามข้อบังคับนี ้
62
หมวด ๒
หนังสืออนุมัติบัตรและวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่าง ๆ
ข้อ ๓ ให้สภาเภสัชกรรมออกหนังสืออนุมัติบัตรแสดงความรู้ความชำานาญในการประกอบ
วิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงือ
่ นไขที ่
กำาหนดไว้ในข้อบังคับนี ้
ข้อ ๔ ให้สภาเภสัชกรรมออกหนังสือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพ
เภสัชกรรมสาขาต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมทีผ
่ ่านการฝึ กอบรมตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงือ
่ นไขทีก
่ ำาหนดไว้ในข้อบังคับนี ้
ศักดิแ
์ ละสิทธิในวิชาชีพ ของผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมทีไ่ ด้รับหนังสืออนุมัติบัตรและ
วุฒิบัตร มีศักดิแ
์ ละสิทธิเท่ากัน
ข้อ ๕ สาขาของวิชาชีพเภสัชกรรม ทีส
่ ภาเภสัชกรรมมีอำานาจออกอนุมัติบัตรหรือวุฒิบัตร ได้แก่
(๑) สาขาเทคโนโลยีเภสัชกรรม
(๒) สาขาเภสัชสนเทศ
(๓) สาขาบริบาลทางเภสัชกรรม
ทัง้ นี ้ ให้สภาเภสัชกรรมโดยมติคณะกรรมการสภาเภสัชกรรม สามารถปรับปรุงชือ
่ สาขา
หรือแก้ไขสาขาดังกล่าวหรือเพิม
่ เติมสาขาของวิชาชีพเภสัชกรรมได้ โดยให้ทำาเป็นประกาศสภาเภสัชกรรม
หมวด ๓
องค์กรรับผิดชอบ
การบริหารจัดการและการดำาเนินการดังกล่าวให้เป็นไปตามระเบียบและหรือประกาศของ
คณะอนุกรรมการทีเ่ กีย
่ วข้อง
ข้อ ๗ ในการฝึ กอบรมและสอบความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
เพือ
่ ขอรับวุฒิบัตร ให้มีคณะอนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบความรู้ ในแต่ละสาขาประกอบด้วยประธาน
63
คณะอนุกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิในสาขานัน
้ ๆ มีจำานวนสาขาละไม่น้อยกว่า ๗ คน แต่ไม่เกิน ๑๕ คน
ซึง่ แต่งตัง้ โดยคณะกรรมการสภาเภสัชกรรม
ให้ประธานเลือกอนุกรรมการ จำานวน ๑ คน เป็นเลขานุการของคณะอนุกรรมการและ
อาจแต่งตัง้ บุคคลอืน
่ เพือ
่ ทำาหน้าทีผ
่ ู้ช่วยเลขานุการด้วยก็ได้
อนุกรรมการแต่ละสาขา ให้มีวาระไม่เกินคราวละ ๓ ปี และอาจได้รับแต่งตัง้ ใหม่ได้
ข้อ ๘ อนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบความรู้ ต้องมีคุณสมบัติดังนี ้
(๓) ปฏิบัติงานหรือทำาการสอนในสาขานัน
้ ๆ หรือทีเ่ กีย
่ วข้องไม่น้อยกว่า 10 ปี และ
ขณะเสนอแต่งตัง้
ยังคงปฏิบัติงานในสาขานัน
้ อยู่ ระยะเวลาดังกล่าวนัน
้ อาจให้รวมถึงระยะเวลาที ่
เข้ารับการฝึ ก
อบรมเพือ
่ ขอรับวุฒิบัตรด้วย และ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
64
หลักสูตรการฝึ กอบรมทีเ่ สนอให้ครอบคลุมถึง โครงสร้างหลักสูตร การจัดการหลักสูตร
การประเมินผล การประกันและการควบคุมคุณภาพ ตลอดจนข้อมูลใด ๆ ทีเ่ ป็นประโยชน์ต่อการจัด
หลักสูตร
(๓) ดำาเนินการเพือ
่ จัดการฝึ กอบรมแก่ผู้เข้ารับการฝึ กอบรมและ และควบคุมติดตาม
ประเมินผลให้
เป็นไปตามเป้าหมาย และมีอำานาจออกคำาสัง่ หรือประกาศเพือ
่ ดำาเนินการใด ๆ ภายใต้ขอบเขตของอำานาจ
และหน้าที ่ หรือประสานงานในเรือ
่ งดังกล่าว
(๖) ออกประกาศของคณะอนุกรรมการทีอ
่ ยู่ในอำานาจหน้าทีพ
่ ร้อมทัง้ กำาหนดหลักเกณฑ์
และแนว
ปฏิบัติเพิม
่ เติมได้
(๗) หน้าทีอ
่ ืน
่ ๆ ตามทีค
่ ณะกรรมการสภาเภสัชกรรมมอบหมาย
ข้อ ๑๑ ในการขอสอบความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม เพือ
่ ขอรับอนุมัติ
บัตร สำาหรับผู้มีสิทธิสอบตามข้อ ๑๙ ให้มีคณะอนุกรรมการสอบความรู้ ในแต่ละสาขา ซึง่ คณะ
กรรมการสภาเภสัชกรรมแต่งตัง้
จำานวนอนุกรรมการ วาระในการดำารงตำาแหน่ง คุณสมบัติของผู้ได้รับแต่งตัง้ และการพ้น
จากตำาแหน่ง ให้นำาความในข้อ ๗ ข้อ ๘ และข้อ ๙ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
การสอบเพือ
่ รับอนุมัติบัตรของผู้มีสิทธิสอบตามข้อ ๑๙(๓) ให้เป็นไปตามทีก
่ ำาหนดไว้ใน
ระเบียบของสภาเภสัชกรรม
ข้อ ๑๒ คณะอนุกรรมการสอบความรู้ ตามข้อ ๑๑ มีอำานาจและหน้าทีด
่ ังนี ้
(๒) เสนอผลการสอบต่อคณะกรรมการสภาเภสัชกรรมเพือ
่ พิจารณาอนุมัติ
65
(๓) อาจแต่งตัง้ คณะทำางานหรือคณะบุคคลเพือ
่ ทำาหน้าทีเ่ ฉพาะอันอยู่ในขอบเขตอำานาจ
หน้าทีข
่ อง
คณะอนุกรรมการได้
(๔) หน้าทีอ
่ ืน
่ ๆ ตามทีก
่ ำาหนดไว้ในข้อบังคับนีห
้ รือตามทีค
่ ณะกรรมการสภาเภสัชกรรม
อบหมาย
ข้อ ๑๓ ให้สภาเภสัชกรรมพิจารณาจัดตัง้ วิทยาลัยเภสัชกรรม ภายใน ๑ ปี นับแต่วันทีข
่ ้อบังคับ
นีม
้ ีผลใช้บังคับ เพือ
่ ทำาหน้าทีบ
่ ริหารจัดการและดำาเนินการในการจัดการฝึ กอบรมเพือ
่ รับวุฒิบัตรหรือการ
จัดการเพือ
่ การขอรับอนุมัติบัตร
เมือ
่ วิทยาลัยเภสัชกรรมจัดตัง้ ขึน
้ โดยออกเป็นประกาศของสภาเภสัชกรรมแล้วให้
อำานาจหน้าทีแ
่ ละการใด ทีก
่ ำาหนดไว้ในหมวดที ่ ๓ ตลอดจน ทีเ่ ป็นหน้าทีข
่ องคณะอนุกรรมการอืน
่ ๆ เป็น
ของวิทยาลัยเภสัชกรรม ทัง้ นีเ้ มือ
่ พ้น ๙๐ วัน หลังจากการประกาศจัดตัง้ วิทยาลัยเภสัชกรรม
การกำาหนดจำานวนวิทยาลัยเภสัชกรรม และการแบ่งโครงสร้างองค์กรของวิทยาลัย
เภสัชกรรม ให้เป็นไปตามทีค
่ ณะกรรมการสภาเภสัชกรรมกำาหนด
การบริหารจัดการและการกำาหนดแนวปฏิบัติอืน
่ ๆ ของวิทยาลัยเภสัชกรรม ให้ออกเป็น
ระเบียบของ
สภาเภสัชกรรม
หมวด ๔
การเข้ารับการฝึ กอบรมเพือ
่ รับวุฒิบัตร
(๒) เป็นผู้ปฏิบัติงานในสาขาทีจ
่ ะขอเข้ารับการฝึ กอบรมหรือปฏิบัติงานหรือทำาการสอน
เกีย
่ วข้องกับ
สาขาทีจ
่ ะขอเข้ารับการฝึ กอบรม โดยมีระยะเวลาในการปฏิบัติงานดังกล่าว เป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๒ ปี
หรือ
(๓) มีคุณสมบัติและผลงานตามทีค
่ ณะกรรมการสภาเภสัชกรรมกำาหนด โดยให้ออก
เป็นประกาศ
สภาเภสัชกรรม
66
ข้อ ๑๕ ผู้สมัครเข้ารับการฝึ กอบรม ต้องยืน
่ ใบสมัครตามแบบที ่ คณะอนุกรรมการฝึ กอบรมและ
สอบความรู้กำาหนด
การคัดเลือกผ้ส
ู มัคร เพือ
่ เข้ารับการฝึ กอบรมในสาขาใด ให้เป็นไปตามทีค
่ ณะ
อนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบความรู้กำาหนด
ข้อ ๑๖ การรับสมัครเพือ
่ ฝึ กอบรมนี ้ ให้คณะอนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบความรู้ประกาศรับ
สมัครอย่างน้อยปี ละ ๑ ครัง้ นับแต่ปีทีเ่ ริม
่ การฝึ กอบรมตามข้อบังคับนี ้
ในกรณีทีม
่ ีเหตุผลและความจำาเป็นทีไ่ ม่สามารถจัดการฝึ กอบรมได้ ให้คณะอนุกรรมการ
ฝึ กอบรมและสอบความรู้เสนอขอความเห็นชอบต่อสภาเภสัชกรรม
ข้อ ๑๗ ผ้ท
ู ีผ
่ ่านการคัดเลือกให้เข้าฝึ กอบรมในสาขาต่างๆ จะต้องเข้ารับการฝึ กอบรมตาม
หลักสูตร หลักเกณฑ์ วิธีการและเงือ
่ นไขทีก
่ ำาหนดในแต่ละสาขา
หมวด ๕
การสอบความรู้ความชำานาญเพือ
่ รับวุฒิบัตรหรืออนุมัติบัตร
ข้อ ๑๘ ผู้มีสิทธิยน
ื่ คำาขอเพือ
่ สอบความรู้ความชำานาญ เพือ
่ ขอรับวุฒิบัตรจะต้องผ่านการฝึ ก
อบรมครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงือ
่ นไขทีค
่ ณะอนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบความรู้กำาหนด
ข้อ ๑๙ ผู้มีสิทธิสอบเพือ
่ รับอนุมัติบัตร จะต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม และมีคุณสมบัติ
อย่างหนึง่ อย่างใด ดังต่อไปนี ้
(๑) เป็นผู้ได้รับหนังสืออนุมัติบัตรหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญในการ
ประกอบวิชาชีพ
เภสัชกรรมสาขานัน
้ ๆ จากสถาบันในต่างประเทศทีส
่ ภาเภสัชกรรมรับรอง
67
ข้อ ๒๒ ให้คณะอนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบความรู้ คณะอนุกรรมการสอบความรู้ คณะ
อนุกรรมการ และคณะทำางานอืน
่ ทีเ่ กีย
่ วข้องได้รับค่าใช้จ่ายในการดำาเนินการตามระเบียบทีส
่ ภา
เภสัชกรรมกำาหนด
หมวด ๖
แบบหนังสืออนุมัติบัตรและวุฒิบัตร
ข้อ ๒๓ ให้ใช้แบบหนังสืออนุมัติบัตรและวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำานาญในการประกอบ
วิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่าง ๆ ตามแบบทีก
่ ำาหนดท้ายข้อบังคับนี ้
นายภาวิช ทองโรจน์
นายกสภาเภสัชกรรม
68
สภ. ๒๗
วุฒิบัตร
แสดงความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
--------------------------------------------------------------------------
…………..
เพือ
่ แสดงว่า
เป็นผู้มีความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
สาขา …………………………………………………………….
วุฒิบัตรเลขที ่ ……………………………..
มีเกียรติศักดิแ
์ ละสิทธิแห่งวุฒิบัตรภายใต้กฎหมายและข้อบังคับของ
สภาเภสัชกรรมทุกประการ
………………………………………..
นายกสภาเภสัชกรรม
69
…………………………………………………….
…………………..……………………………….
ประธานคณะอนุกรรมการฝึ กอบรมและสอบ เลขาธิการสภา
เภสัชกรรม
สาขา ………………………………………………
สภ. ๒๘
อนุมัติบัตร
แสดงความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
--------------------------------------------------------------------------
…………..
เพือ
่ แสดงว่า
เป็นผู้มีความรู้ความชำานาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
สาขา …………………………………………………………….
อนุมัติบัตรเลขที ่ ……………………………..
มีเกียรติศักดิแ
์ ละสิทธิแห่งอนุมัติบัตรภายใต้กฎหมายและข้อบังคับของ
สภาเภสัชกรรมทุกประการ
70
ให้ไว้ ณ วันที ่ ………………. เดือน ………………………….. พ.ศ. ……………..
………………………………………..
นายกสภาเภสัชกรรม
…………………………………………………….
……………………………………….
ประธานคณะอนุกรรมการสอบความรู้
เลขาธิการสภาเภสัชกรรม
สาขา ………………………………………………
ข้อบังคับสภาเภสัชกรรม
หมวด ๑
หลักการทัว
่ ไป
71
ข้อ ๑. ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมย่อมดำารงตนให้สมควรในสังคมโดยธรรมและเคารพต่อกฎหมายของ
บ้านเมือง
หมวด ๒
การประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
ข้อ ๖. ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมต้องรักษามาตรฐานของการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมในระดับทีด
่ ี
ทีส
่ ุด
ข้อ ๗. ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมต้องไม่จูงใจหรือชักชวนให้มารับบริการทางวิชาชีพเภสัชกรรมเพือ
่ ผล
ประโยชน์ของตน
ข้อ ๘. ผุ้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมต้องปฏิบัติต่อผู้มารับบริการโดยสุภาพและปราศจากการบังคับขู่เข็ญ
ข้อ ๙. ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมต้องไม่หลอกลวงหรือให้คำารับรออันเป็นเท็จหรือให้ความเห็นโดยไม่
สุจริตในเรือ
่ งใด ๆ ภายใต้อำานาจหน้าทีแ
่ ก่สาธารณชน หรือผู้มารับบริการให้หลงเข้าใจผิด เพือ
่
ประโยชน์ของตน
72
ข้อ ๑๓. ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมต้องไม่ใช้หรือสนับสนุนให้มีการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
หรือการประกอบโรคศิลปะ โดยผิดกฎหมาย
หมวด ๓
การโฆษณาการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
(1) การแสดงผลงานทางวิชาการ
(3) สาขาของวิชาชีพเภสัชกรรม
(4) เวลาทำาการ
ข้อ ๑๗. ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมอาจแจ้งความการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมเฉพาะการ
แสดงทีอ
่ ยู่ ทีต
่ ัง้ สถานประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม หมายเลขโทรศัพท์ หรือเครือ
่ งมือสือ
่ สารอืน
่
และหรือข้อความทีอ
่ นุญาตตามข้อ ๑๖
ข้อ ๑๘.ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมผู้ทำาการเผยแพร่หรือตอบปัญหาทางสือ
่ มวลชน ถ้าแสดงตนว่าเป็นผู้
ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ต้องไม่แจ้งสถานประกอบวิชาชีพส่วนตัวเป็นทำานองการ
โฆษณา
และต้องไม่มีการแจ้งความตามข้อ ๑๗ ในทีเ่ ดียวกันหรือขณะเดียวกันนัน
้ ด้วย
73
ข้อ ๑๙. ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมต้องระมัดระวัง มิให้การประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมของตน
แพร่ออกไปในสือ
่ มวลชนเป็นทำานองโฆษณาความรู้ความสามารถ
หมวด ๔
การปฏิบัติต่อผู้ร่วมวิชาชีพ
ข้อ ๒๒.ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมต้องไม่ชักจูงผู้มารับบริการของผู้อืน
่ มาเป็นของตน
หมวด ๕
การปฏิบัติต่อผู้ร่วมงาน
ข้อ ๒๓ ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมพึงยกย่องให้เกียรติและเคารพในศักดิศ
์ รีของผู้ร่วมงาน
นายบุญอรรถ สายศร
นายกสภาเภสัชกรรม
74
มาตรฐานร้านยา
(Standard of Drugstores)
โครงการพัฒนาและรับรองคุณภาพร้านยา
(Pharmacy Council)
หลักการและเหตุผล
ร้านยาเป็นหน่วยหนึง่ ของระบบสุขภาพทีอ
่ ยู่ใกล้ชิดประชาชน ไม่เพียงแต่ทำาหน้าทีด
่ ้านการกระ
จายยาเท่านัน
้ แต่ยังมีบทบาทสำาคัญเปรียบเสมือนเป็น “ทีพ
่ ึง่ ด้านสุขภาพของชุมชน” เป็นทางเลือกหนึง่
ของประชาชนในการใช้บริการเมือ
่ มีอาการหรือเจ็บป่ วยเบือ
้ งต้น (common illness) นอกเหนือจาก
75
การจำาหน่ายยา ร้านยายังเป็นแหล่งทีส
่ ามารถให้คำาแนะนำาในการดูแลสุขภาพตนเอง ตลอดจนการแนะนำา
และส่งต่อไปยังแพทย์ผู้เชีย
่ วชาญตามความเหมาะสม สถานการณ์ประเทศไทยมีร้านยาจำานวนมาก และ
กระจายในเขตต่างๆทัว
่ ประเทศ เป็นส่วนหนึง่ ของระบบสาธารณสุข โดยส่วนมากจะเปิ ดบริการตลอดทัง้
วัน ทำาให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพจากร้านยาได้โดยง่าย ประกอบกับร้านยาเป็นหน่วยหนึง่ ในภาค
เอกชน การบริหารจัดการหรือการดำาเนินการต่าง ๆ จึงสามารถช่วยประหยัดงบประมาณการคลังของรัฐ
ในการดูแลสุขภาพของคนไทยซึง่ มีแนวโน้มทีเ่ พิม
่ มากขึน
้ มาโดยตลอดได้
ร้านยาแผนปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนือ
่ งตัง้ แต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีรูปแบบการให้
บริการทีห
่ ลากหลายแตกต่างกัน ไม่ว่าจะพิจารณาจากทำาเลทีต
่ ัง้ การตกแต่งร้าน ราคายา การมีเภสัชกร
อยู่ปฏิบัติหน้าที ่ เป็นต้น ความแตกต่างของคุณภาพการบริการของร้านยาเป็นประเด็นหนึง่ ทีส
่ าธารณชน
ให้ความสนใจ ทัง้ นีเ้ พือ
่ ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค หรือ ผู้ป่วย มาตรฐานร้านยาจึงถูก
พัฒนาขึน
้ จากข้อมูลหลักฐานและรูปแบบร้านยาทีพ
่ ึงประสงค์โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต
ทีม
่ ีการปรับรือ
้ ระบบสุขภาพของประเทศโดยรวม ทัง้ นีโ้ ดยมีความมุ่งหมายทีส
่ ำาคัญในการพัฒนาร้านยาให้
สามารถเป็นหน่วยบริการหนึง่ ในเครือข่ายระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ ภายใต้การสร้างหลักประกัน
สุขภาพถ้วนหน้าซึง่ ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้ตามความจำาเป็นและมีเสรีในการ
เลือกใช้บริการได้ตามความพึงพอใจ อย่างไรก็ตามประเด็นสำาคัญในการดำาเนินการคือ ระบบตรวจสอบ
และควบคุมคุณภาพบริการ ซึง่ นับเป็นสิง่ จำาเป็นทีก
่ ่อให้เกิดบริการทีด
่ ีมีคุณภาพ
วัตถุประสงค์
1. เพือ
่ ใช้เป็นแนวทางการบริบาลทางเภสัชกรรมของร้านยา โดยมุ่งหวังให้เกิดการบริการทีม
่ ี
คุณภาพ ก่อให้เกิดผลลัพท์ทีด
่ ีต่อสุขภาพ เป็นทีย
่ อมรับและเกิดความเชือ
่ ถือจากประชาชน และสังคมโดย
รวม
2. เพือ
่ เป็นเกณฑ์มาตรฐานในการประเมิน ติดตาม ตรวจสอบเพือ
่ การพัฒนาและรับรองคุณภาพ
การบริการของร้านยา
3. เพือ
่ เป็นแนวทางการพัฒนาความพร้อมของร้านยาเพือ
่ เข้าสู่การเป็ฯหน่วยบริการของเครือข่าย
ระบบบริการสุขภาพภายใต้การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
พันธกิจ
ร้านยาจะเป็นทีพ
่ ึง่ ด้านสุขภาพของชุมชนโดยการจัดหาและให้บริการด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ให้คำาแนะนำาปรึกษาเพือ
่ การรักษา การป้องกัน และการสร้างเสริมสุขภาพ รวมถึงการให้ข้อมูลทีถ
่ ูกต้อง
เหมาะสม บนพืน
้ ฐานของการจัดการทีม
่ ีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับจริยธรรม โดยมีเป้าหมายให้ประชาชน
และสังคมได้มีการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และเกิดความปลอดภัย
มาตรฐานร้านยา
76
ร้านยา เสมือนหนึง่ เป็น “ทีพ
่ ึง่ ด้านสุขภาพของชุมชน” เพือ
่ ให้ประสบความสำาเร็จในการให้บริการ
สุขภาพตามวัตถุประสงค์ จักต้องประกอบด้วยมาตรฐานต่าง ๆ ดังนี ้
มาตรฐานที ่ 2 การบริหารจัดการเพือ
่ คุณภาพ
มาตรฐานที ่ 3 การบริการเภสัชกรรมทีด
่ ี
มาตรฐานที ่ 5 การให้บริการและการมีส่วนร่วมในชุมชนและสังคม
1.1 สถานที ่
1.1.1 ต้องเป็นสถานทีม
่ ัน
่ คง แข็งแรง มีพืน
้ ทีเ่ พียงพอแก่การประกอบกิจกรรม มีอาณา
บริเวณแยกจากสถานทีแ
่ วดล้อมเป็นสัดส่วน
1.1.4 มีบริเวณทีจ
่ ัดวางยาทีต
่ ้องปฏิบัติการโดยเภสัชกรเท่านัน
้ และเป็นทีร
่ ับรู้ของผู้รับ
บริการอย่างชัดเจน
1.1.6 มีบริเวณแสดงสือ
่ ให้ความรู้เรือ
่ งสุขภาพ ในกรณีจัดวางเอกสารหรือติดตัง้ สือ
่ ทีม
่ ุ่ง
การโฆษณาให้มีพืน
้ ทีจ
่ ัดแยกโดยเฉพาะ
ก. ป้ายแสดงว่าเป็น “ร้านยา”
77
ข. ป้ายแสดงชือ
่ รูปถ่าย เลขทีใ่ บประกอบวิชาชีพ และเวลาปฏิบัติการของ
เภสัชกรทีก
่ ำาลังปฏิบัติหน้าที ่ ไว้ในทีเ่ ปิ ดเผย
ค. ป้ายสัญลักษณ์ทีเ่ ป็นไปตามข้อกำาหนดของใบอนุญาตและประเภทของยา
1.2 อุปกรณ์
- เครือ
่ งชัง่ นำา
้ หนัก
- ทีว
่ ัดส่วนสูง
- ทีว
่ ัดอุณหภูมิร่างกาย
- เครือ
่ งวัดความดันโลหิต
- ชุดวัดระดับนำา
้ ตาลในเลือด ฯลฯ
1.2.3 มีอุปกรณ์เครือ
่ งใช้ในการให้บริการทีส
่ ะอาด และไม่เกิดการปนเปื้ อนในระหว่าง
การให้บริการ
ก. ยาทีม
่ ีไว้เพือ
่ บริการ ควรอยู่ในภาชนะเดิมทีม
่ ีฉลากครบถ้วนตามทีก
่ ฎหมาย
กำาหนด ไม่ควรมีการเปลีย
่ นถ่ายภาชนะ
78
1.3.3 มีอุปกรณ์พิเศษทีช
่ ่วยเพิม
่ ความร่วมมือในการใช้ยา (ในกรณีจำาเป็น)
มาตรฐานที ่ 2 การบริหารจัดการเพือ
่ คุณภาพ
ความมุ่งหมายของมาตรฐานนีเ้ พือ
่ เป็นการประกันว่า กระบวนการบริหารจัดการจะเป็นไปตาม
กระบวนการคุณภาพอย่างต่อเนือ
่ ง ตอบสนองความต้องการทีแ
่ ท้จริงของผู้รับบริการ และป้องกันความ
เสีย
่ งทีอ
่ าจเกิดขึน
้ จากการประกอบวิชาชีพ มาตรฐานนีค
้ รอบคลุม บุคลากร กระบวนการคุณภาพทีม
่ ุ่ง
เน้นให้ร้านยามีกระบวนการและเอกสารทีส
่ ามารถเป็นหลักประกันคุณภาพบริการ โดยมีรายละเอียดของ
มาตรฐานดังนี ้
2.1 บุคลากร
2.1.1 ผู้มีหน้าทีป
่ ฏิบัติการ
ก. เป็นเภสัชกรทีส
่ ามารถประกอบวิชาชีพ ตามใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
เภสัชกรรม โดยอยู่ปฏิบัติหน้าทีต
่ ลอดเวลาทีเ่ ปิ ดทำาการ
ข. ต้องแสดงตนให้สาธารณชนทราบว่า เป็นเภสัชกรผู้มีหน้าทีป
่ ฏิบัติการ โดยสวม
เครือ
่ งแบบตามข้อกำาหนดของสภาเภสัชกรรม
ค. มีมนุษยสัมพันธ์ และมีทักษะในการสือ
่ สารทีเ่ หมาะสม
ง. มีสุขภาพอนามัยดี ไม่เป็นแหล่งแพร่เชือ
้ แก่ผู้รับบริการ
ข. ปฏิบัติงานภายใต้การกำากับดูแลของเภสัชกรผู้มีหน้าทีป
่ ฏิบัติการ
ค. มีสุขภาพอนามัยดี ไม่เป็นแหล่งแพร่เชือ
้ แก่ผู้รับบริการ
2.2 กระบวนการคุณภาพ
2.2.1 มีเอกสารคุณภาพทีจ
่ ำาเป็นและเหมาะสม เช่น ใบสัง่ ยา กฎหมายข้อบังคับที ่
เกีย
่ วข้องแยกเป็นหมวดหมู่ตามประเภท มาตรฐานหรือแนวทางการดูแลผู้ป่วยทีน
่ ่าเชือ
่ ถือ (standard
practice guidelines) เป็นต้น
2.2.2 มีระบบการจัดการเอกสารคุณภาพและข้อมูลทีจ
่ ำาเป็นและเหมาะสม
2.2.3 มีการประกาศสิทธิผู้ป่วยทีค
่ วรได้รับจากการบริการ
79
2.2.4 มีการวิเคราะห์และระบุความเสีย
่ งทีอ
่ าจเกิดขึน
้ พร้อมทัง้ แนวทางการบริหาร
จัดการทีเ่ ป็นรูปธรรม เช่น ความปลอดภัยของการให้บริการ การจ่ายยาผิด เป็นต้น
2.2.5 มีการค้นหาความต้องการทีแ
่ ท้จริงของลูกค้า เช่น
ก. ระบุผู้รับบริการทีแ
่ ท้จริง
ข. ระบุความต้องการและความคาดหวัง
2.2.6 มีบันทึกการให้บริการสำาหรับผู้รับบริการทีต
่ ้องติดตามต่อเนือ
่ ง เช่น แฟ้ม
ประวัติการใช้ยา หรือ เอกสารคุณภาพ เช่น รายงานอุบัติการณ์ รายงานการเฝ้ าระวังอาการ อันไม่พึง
ประสงค์จากการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
2.2.7 มีการตรวจสอบซำา
้ (double check) ในแต่ละขัน
้ ตอนทีเ่ กีย
่ วข้องกับผู้รับบริการ
เพือ
่ ลดความคลาดเคลือ
่ นทีอ
่ าจเกิดขึน
้
2.2.9 มีการเพิม
่ เติมความรู้ทีเ่ กีย
่ วข้องกับการปฏิบัติงาน
มาตรฐานที ่ 3 การบริการเภสัชกรรมทีด
่ ี
ความมุ่งหมายของมาตรฐานนีเ้ พือ
่ ให้ผู้มีหน้าทีป
่ ฏิบัติการให้บริการเภสัชกรรมบนพืน
้ ฐาน
มาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรมอย่างมีคุณภาพ และก่อให้เกิดความพึงพอใจเกินความคาดหวังของผู้รับ
บริการ โดยมีรายละเอียดของมาตรฐานดังนี ้
จัดหาผลิตภัณฑ์ที ่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานการผลิตทีด
่ ี (GMP) และมาจากแหล่งที น
่ ่าเชือ
่ ถือ
3.1.3 มีบัญชีควบคุมและกำากับยาหมดอายุ
80
3.1.4 ต้องมีระบบควบคุมยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ ต
์ ่อจิตและประสาท และยา
ควบคุมพิเศษอืน
่ ๆ ทีร่ ัดกุมและสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
3.1.5 มีการสำารองยาและเวชภัณฑ์ทีจ
่ ำาเป็นต่อการปฐมพยาบาลเบือ
้ งต้น การช่วยชีวิต
ยาต้านพิษทีจ
่ ำาเป็น หรือ การสำารองยาและเวชภัณฑ์ทีส
่ อดคล้องกับความจำาเป็นของชุมชน
3.2 แนวทางการให้บริการทางเภสัชกรรม
3.2.2 ต้องระบุผู้รับบริการทีแ
่ ท้จริง และค้นหาความต้องการและความคาดหวังจากการ
3.2.3 มีแนวทางการประเมินใบสัง่ ยา
3.2.4 แนวทางการส่งมอบยา
ก. มีเภสัชกรเป็นผู้ส่งมอบยาให้แก่ผู้มารับบริการโดยตรง
ง. ไม่ควรส่งมอบยาให้เด็กทีม
่ ีอายุตำ่ากว่า 12 ปี โดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ ใน
กรณีจำาเป็นควรมีแนวทาง และวิธีปฏิบัติทีช
่ ัดเจนและเหมาะสม
จ. ห้ามส่งมอบยาเสพติดให้โทษ และวัตถุออกฤทธิต
์ ่อจิตและประสาท ให้กับเด็กที ่
อายุตำ่ากว่า 12 ปี ในทุกกรณี
81
3.2.7 กำาหนดแนวทางและขอบเขตการส่งต่อผู้ป่วยทีเ่ ป็นรูปธรรม
3.2.8 มีแนวทางการให้คำาแนะนำาปรึกษาสำาหรับผู้ป่วยทีต
่ ิดตามอย่างต่อเนือ
่ ง
3.2.10 ร่วมมือกับแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุขอืน
่ ๆ เพือ
่ เป้าหมายสูงสุดในการรักษา
น้อย 1 ปี และทำาบัญชีการจ่ายยาตามใบสัง่ ยา
4.6 ไม่จำาหน่ายยาทีอ
่ ยู่ในความรับผิดชอบของเภสัชกร ในขณะทีเ่ ภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที ่
มาตรฐานที ่ 5 การให้บริการและการมีส่วนร่วมในชุมชนและสังคม
ความมุ่งหมายของมาตรฐานนีเ้ พือ
่ ให้ร้านยาให้บริการแก่ชุมชน ตลอดจนให้เกิดการมีส่วนร่วมกับ
ชุมชนในการดำาเนินการค้นหา และแก้ไขปัญหาทีเ่ กีย
่ วข้องด้านยาและสุขภาพของชุมชนโดยตรง โดยมี
รายละเอียดของมาตรฐานดังนี ้
5.1 มีบริการข้อมูลและให้คำาแนะนำาปรึกษาเกีย
่ วกับ สารพิษ ยาเสพติด ทัง้ ในด้านการป้องกัน
บำาบัด รักษา รวมทัง้ มีส่วนในการรณรงค์ต่อต้านยาและสารเสพติด
82
5.3 มีบริการข้อมูลและให้คำาแนะนำาปรึกษาเรือ
่ งยาและสุขภาพให้กับชุมชน เพือ
่ ประโยชน์ใน
การป้องกันโรค การรักษาสุขภาพ การสร้างเสริมสุขภาพ และบทบาทอืน
่ ๆ ในการส่งเสริมสุขภาพ และ
สุขศึกษาของชุมชน
5.6 จะต้องไม่มีผลิตภัณฑ์ทีบ
่ ัน
่ ทอนต่อสุขภาพ เช่น บุหรี ่ สุรา เครือ
่ งดืม
่ ทีม
่ ีแอลกอฮอล์ เป็นต้น
อยู่ในบริเวณทีร
่ ับอนุญาต
83