Professional Documents
Culture Documents
บทที่ 14 เทววิทยาเรื่องสวรรค์
บทที่ 14 เทววิทยาเรื่องสวรรค์
เทววิทยาเรื่องสวรรค์
๑๔
ปัจจุบัน เรามักจะไม่ค่อยพูดถึงสวรรค์เท่าใดนัก ที่เป็นดังนี้อาจจะเป็นเพราะเหตุผลสอง
ประการ คือ ประการแรก เพราะความเชื่อของเราไม่เพียงพอและเราเองไม่แน่ใจว่าสวรรค์มีอยู่จริง
ประการที่สอง เพราะความรู้ทางเทววิทยาของเราไม่เพียงพอ
ผู้เขียนหนังสือวิวรณ์เสนอภาพสวยงามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อสิ้นพิภพว่า “แล้ว
ข้าพเจ้าเห็นฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ เพราะฟ้าและแผ่นดินเดิมสูญหายไป ไม่มที ะเลอีกต่อไป ข้าพเจ้า
เห็นนครศักดิส์ ทิ ธิ์ คือ นครเยรูซาเล็มใหม่ลงมาจากสวรรค์ ลงมาจากพระเจ้า เตรียมพร้อมเหมือนกับ
เจ้าสาวที่แต่งตัวรอเจ้าบ่าว ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากพระบัลลังก์ว่า ‘นี่คือ ที่พำนักของพระเจ้าในหมู่
มนุษย์ พระองค์จะทรงพำนักอยู่ในหมู่เขา เขาจะเป็นประชากรของพระองค์และพระองค์จะทรงเป็น
พระเจ้าของเขา ทรงเป็น “พระเจ้าสถิตกับเขา” พระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากนัยน์ตาของเขา
จะไม่มีความตายอีกต่อไป จะไม่มีการคร่ำครวญ การร้องไห้ และความทุกข์อีกต่อไป เพราะโลกเดิม
ผ่านพ้นไปแล้ว’” (วว 21:1-4)
ในวรรณคดีทง้ั หมด บางทีไม่มกี ารบรรยายทีช่ ดั เจนถึงความหวังลึกซึง้ ของใจมนุษย์ทป่ี รารถนา
จะได้ความสุขและความสมบูรณ์มากกว่าข้อความสี่ข้อนี้ ไม่เพียงความเลวร้าย (“ทะเล”) และ
274
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
1. เรารู้จักสวรรค์ได้อย่างไร
เราคริสตชนมักมีปมด้อยเมื่อเอ่ยถึงเรื่องความเชื่อ เพราะดูเหมือนเป็นอะไรที่พิสูจน์ไม่ได้
แน่นอน อย่างไรก็ตาม น่าสังเกตว่า เมื่อพูดถึงชีวิตหลังความตาย นักวิทยาศาสตร์เองก็ไม่สามารถ
พิสูจน์หรืออธิบายอะไรได้ ดังนั้น ทั้งผู้ที่มีความเชื่อในชีวิตหน้าและผู้ที่ ไม่มีความเชื่อ ก็ยังมีท่าที
เดียวกัน คือ มนุษย์ทกุ คนต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึง่ โดยหลีกเลีย่ งไม่ได้ ทุกคนมีความเชือ่ ของแต่ละ
คนและแบบที่ตรงข้ามกัน ทุกคนต้องตอบคำถามเดียวกันว่า “หลังจากชีวิตนี้มีอะไรบ้าง” และคำตอบ
จะออกมาใน 2 รูปแบบ บางคนบอกว่าไม่มีอะไรเลย บางคนบอกว่ายังมีชีวิตต่อไปอีกในรูปแบบใด
รูปแบบหนึ่ง
275
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
276
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
2. การเปิดเผยของพระเจ้า
พระเยซูเจ้าทรงใช้คำหลายคำและสัญลักษณ์หลายแบบ เพื่อเสนอความจริงเกี่ยวกับสวรรค์
เช่นคำว่า “อาณาจักร” “สวนสวรรค์” “พระสิริรุ่งโรจน์” “สวรรค์” “การเห็นพระเจ้า” ฯลฯ และ
ยังใช้สัญลักษณ์ต่างๆ “ไข่มุกประเสริฐ” “อวนที่เต็มด้วยปลา” “การเก็บเกี่ยวที่ได้ผลอุดมสมบูรณ์”
“วิวาหมงคล” และอื่นๆ
ถ้าเราจะสรุปคำสอนทั้งหมดที่มีอยู่ในพันธสัญญาใหม่ เราอาจจะสรุปได้ 3 หัวข้อที่แสดง
ลักษณะของสวรรค์ได้แก่
- การเห็นพระเจ้า
- ชีวิตนิรันดร
- การอยู่กับพระคริสตเจ้า
277
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
2.1 การเห็นพระเจ้า
“ผู้มีใจบริสุทธิ์ ย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า” (มธ 5:8) ในพันธสัญญาใหม่
เราเห็นความปรารถนาของคริสตชนที่จะเห็นพระเจ้าดังที่ ในพันธสัญญาเดิมผู้ที่มีความเชื่อมักจะ
แสวงหาพระพักตร์พระเจ้า และวอนขอให้พระองค์สำแดงพระพักตร์ให้มนุษย์เห็น
สำหรับชาวยิว การเห็นพระเจ้าไม่หมายความถึงความรูท้ างสติปญ ั ญาเท่านัน้ แต่รวมถึง
การเข้าสัมผัสชีวิตของเขากับพระเจ้าด้วย เมื่อชาวยิวพูดว่าเขาได้ “เห็นพระเจ้า” ก็ไม่เพียงแต่
หมายความว่าเขารูว้ า่ พระเจ้าองค์นนั้ เป็นใคร และเมือ่ พระองค์เดินผ่านไปเขาก็ยงั รูว้ า่ ผูน้ นั้ เป็นกษัตริย ์
แต่หมายความรวมถึงว่าเขาได้รับเชิญเข้าในราชวัง นั่งโต๊ะเดียวกัน สนทนาเป็นกันเองกับกษัตริย์
และข้าบริพารของพระองค์ ดังนั้น เมื่อนักบุญเปาโลเขียนจดหมายถึงชาวโครินธ์ก็ได้แยกแยะความรู้
เกี่ยวกับพระเจ้าที่เราสามารถมีอยู่ในโลกนี้ คือ เป็นความรู้ที่ยังต้องใช้สื่อกลางระหว่างมนุษย์กับ
พระเจ้า เราเห็นในกระจก และการเห็นพระเจ้าแบบหน้าต่อหน้า ซึ่งหมายถึงการมีชีวิตสนิทกับ
พระองค์โดยตรงปราศจากสื่อกลาง
“ความรักไม่มีสิ้นสุด แม้การประกาศพระวาจาจะถูกยกเลิก แม้การพูดภาษา
ที่ไม่มีใครเข้าใจจะยุติ แม้ความรู้จะหมดสิ้น เพราะเรารู้อย่างไม่สมบูรณ์ และ
ประกาศพระวาจาอย่างไม่สมบูรณ์ แต่เมือ่ สิง่ ทีส่ มบูรณ์มาถึง ความไม่สมบูรณ์
จะสูญสิ้นไป เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ข้าพเจ้าก็พูดจาเหมือนเด็กๆ คิดเหมือน
เด็กๆ ใช้เหตุผลเหมือนเด็กๆ แต่เมือ่ ข้าพเจ้าเป็นผูใ้ หญ่ ข้าพเจ้าก็เลิกประพฤติ
เหมือนเด็ก ในเวลานี้ เราเห็นพระเจ้าเพียงรางๆ เหมือนเห็นในกระจกเงา แต่
เมื่อถึงเวลานั้น เราจะเห็นพระองค์เหมือนพระองค์ทรงอยู่ต่อหน้าเรา เวลานี้
ข้าพเจ้ารู้อย่างไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อถึงเวลานั้น ข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนที่พระองค์
ทรงรูจ้ กั ข้าพเจ้า ขณะนีย้ งั มีความเชือ่ ความหวัง และความรักอยูท่ ง้ั สามประการ
แต่ที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งหมด คือ ความรัก” (1 คร 13:8-13)
278
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
279
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
280
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
ในการสนทนาระหว่างพระเยซูเจ้ากับโจรที่กลับใจบนไม้กางเขน เราพบประโยคสำคัญ
ที่ช่วยเราเข้าใจว่าสวรรค์คืออะไร “แล้วเขาทูลว่า ‘ข้าแต่พระเยซู โปรดระลึกถึงข้าพเจ้าด้วย เมื่อ
พระองค์จะเสด็จสู่พระอาณาจักรของพระองค์’ พระองค์ตรัสตอบเขาว่า ‘เราบอกความจริงกับท่านว่า
วันนี้ ท่านจะอยู่กับเราในสวรรค์” (ลก 23:42-43) สวรรค์ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสถานที่ที่พระองค์จะ
พาไป แต่หมายถึงการอยู่ร่วมชีวิตกับพระคริสตเจ้า นักบุญเปาโลก็อธิบายเช่นกันว่า “เราจะได้อยู่กับ
องค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดไป” (1 ธส 4:17) “เรามีความมั่นใจและปรารถนาที่จะถูกเนรเทศจากร่างกาย
มากกว่า เพื่อไปอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้า” (2 คร 5:8) “ข้าพเจ้ารู้สึกลังเล คือปรารถนาจะพ้นจากชีวิต
นี้ไป เพื่ออยู่กับพระคริสตเจ้า ซึ่งจะเป็นการดีกว่ามาก” (ฟป 1:23)
น่าสังเกตว่าคำพูดของนักบุญเปาโลตรงกับพระวาจาของพระเยซูเจ้าในพระวรสารตาม
คำบอกเล่าของนักบุญยอห์นว่า “และเมื่อเราไป และเตรียมที่ให้ท่านแล้ว เราจะกลับมารับท่านไปอยู่
กับเราด้วย เพื่อว่าเราอยู่ที่ใด ท่านทั้งหลายจะอยู่ที่นั่นด้วย” (ยน 14:3)
3. ธรรมประเพณีและความเชื่อของพระศาสนจักรเรื่องสวรรค์
ในทีน่ จี้ ะอ้างถึงคำสอนของปิตาจารย์เพียงบางคน และจะมาพิจารณาคำสอนของพระศาสน-
จักรอย่างเป็นทางการ
3.1 คำสอนของบรรดาปิตาจารย์
คำสอนของบรรดาปิตาจารย์มีลักษณะที่เด่นในความคิดมที่ว่า ชีวิตหน้ามีมิติทางด้าน
สังคมมากกว่าเรื่องความสุขของปัจเจกบุคคล เขามักจะใช้คำว่า “กรุงเยรูซาเล็ม” เป็นสัญลักษณ์
ของสวรรค์ เช่น พระสันตะปาปาเกรโกรีผู้ยิ่งใหญ่บอกว่า “สวรรค์ประกอบด้วยชุมชนของพลเมืองผู้
ศักดิ์สิทธิ์” ท่านไม่มองความบรมสุขในสวรรค์เป็นเรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องส่วนรวม
อีกความคิดหนึ่งที่เราพบในข้อเขียนตั้งแต่สมัยนักบุญอีเรเนโอเป็นต้นมา คือ บรรดา
ปิตาจารย์มองชีวิตนิรันดรในแง่ที่เป็นการเห็นพระเจ้า ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะเห็นพระเจ้าด้วยกำลัง
ตนเอง แต่พระเจ้าได้ประทานสมรรถภาพนี้ซึ่งเปลี่ยนแปลงมนุษย์ให้มีส่วนในธรรมชาติพระเจ้า เช่น
นักบุญซีเปรียนก็อุทานว่า “จะมีความชื่นชมและเกียรติสักเพียงไรที่เราจะได้รับเชิญให้เห็นพระเจ้า”
281
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
3.2 ความเชื่อของพระศาสนจักร
บทข้าพเจ้าเชื่อฯ ต่างๆ ในศตวรรษแรกๆ มักจะลงท้ายโดยคำยืนยันว่า “ข้าพเจ้าเชื่อ
ถึงชีวิตนิรันดร” ต่อมาภายหลังก็มีการอธิบายว่า เราจะมีความสุขแท้จริง เพราะเราจะ “ครองราชย์
พร้อมกับพระคริสตเจ้า” แต่เอกสารที่สำคัญที่สุดในอดีต คือ พระธรรมนูญ Benedictus Deus
ของพระสันตะปาปาเบเนดิกที่ 12 ในศตวรรษที่ 14 มีคำยืนยันว่า ผู้รับความสุขในสวรรค์จะเห็น
คุณลักษณะต่างๆ ของธรรมชาติพระเจ้าดังที่พระองค์ทรงเป็น และการเห็นดังกล่าวนี้เป็นการเห็น
โดยตรงปราศจากสือ่ ทีถ่ กู สร้างใดๆ และไม่ใช่การเห็นโดยการเปรียบเทียบหรือใช้เหตุผลอืน่ มาอธิบาย
แต่เป็นการหยั่งเห็นชัดเจน ผลตามมาของการเห็นนี้ ก็คือ ความสุขแท้จริงและชีวิตนิรันดรซึ่งจะไม่มี
วันสิ้นสุด
น่าสังเกตว่า เอกสารนี้ไม่พูดถึงความรักโดยตรง แต่อ้างเพียงครั้งเดียวว่าสวรรค์คือการ
อยู่กับพระคริสตเจ้า ดังนั้น เอกสารนี้ยังไม่ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดจากพระคัมภีร์ เพียงแต่เน้น
ความรู้ส่วนตัวโดยไม่คำนึงถึงลักษณะทางสังคมเลย
สภาสังคายนาวาติกนั ที่ 2 ในเอกสารพระธรรมนูญเรือ่ งพระศาสนจักรยังสอนว่า สวรรค์
คือ การเห็นพระเจ้า เราจะ “ปรากฏร่วมกับพระคริสตเจ้าในพระเกียรติมงคล ซึ่งในที่นั่นเราจะ
เหมือนพระองค์ เพราะเราจะเห็นพระองค์อย่างที่ทรงเป็น” (LG.48) อีกลักษณะหนึ่งที่เอสารนี้เน้น
ก็คือ สวรรค์คือการได้อยู่กับพระคริสตเจ้า เช่น “เราปรารถนาใฝ่ฝันจะได้อยู่กับพระคริสตเจ้า” “เรา
จะได้เข้าร่วมงานวิวาหมงคล” และเราจะ “เสวยราชย์ร่วมกับพระคริสตเจ้า” และชาวสวรรค์ “ต่างก็
ผนึกแน่นติดกับพระคริสตเจ้า” (LG.49)
นอกนั้น เอกสารนี้ยังเน้นลักษณะทางสังคมของสวรรค์เมื่อพูดถึงสหพันธ์นักบุญในข้อ
49-51 โดยลงท้ายว่า “เรารวมตัวเป็น ครอบครัวเดียวในพระคริสตเจ้า” และ “เมื่อนั้นพระศาสนจักร
ทั้งครบที่ประกอบด้วยบรรดานักบุญผู้บรรลุถึงความสุขขั้นสุดยอดแห่งความรักจะพากันกราบนมัสการ
พระเจ้าและลูกแกะของพระเจ้าที่ถูกประหาร”
282
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
4. การไตร่ตรองทางเทววิทยา
ข้อมูลทีเ่ ราได้คน้ พบจนถึงเวลานีย้ งั ต้องการคำอธิบายต่อไป เราควรจะมาไตร่ตรองถึงบทบาท
ของพระคริสตเจ้าในชีวิตของชาวสวรรค์ เพราะอาจจะเกิดความคิดผิดๆ ว่าธรรมชาติมนุษย์ของ
พระเยซู เ จ้า เป็นสื่อที่จะรู้จักพระเจ้าแต่เพียงในโลกนี้ มิใช่ในชีวิตหน้า นอกจากนี้สิ่งที่เราควร
พิจารณา ก็คือ ทำไมการเห็นพระเจ้าจึงทำให้เรามีส่วนในธรรมชาติพระเจ้าได้ ชีวิตนิรันดรเป็น
คุณลักษณะเฉพาะของพระเจ้า ทำไมการมีสว่ นในชีวติ พระเจ้าจึงเป็นสิง่ ทีเ่ ป็นไปได้กบั มนุษย์ผถู้ กู สร้าง
หรือชาวสวรรค์ จะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันและกับโลกวัตถุได้อย่างไรและสวรรค์อยู่ที่ไหน
4.1 บทบาทของพระคริสตเจ้าในชีวิตหน้า
ทั้งข้อเขียนในพันธสัญญาใหม่และเอกสารของพระศาสนจักรต่างก็สอนว่า สวรรค์ คือ
การอยู่กับพระคริสตเจ้า แต่เราจะเข้าใจบทบาทของธรรมชาติมนุษย์อันรุ่งเรืองของพระคริสตเจ้าได้
อย่างไร ถ้าหากว่าเราจะสามารถเห็นคุณลักษณะของธรรมชาติพระเจ้าโดยตรงได้ การสนทนา
ระหว่างพระคริสตเจ้ากับฟิลิปคงจะเป็นคำตอบของปัญหาข้อนี้ “พระเจ้าข้า โปรดทำให้พวกเราได้
เห็นพระบิดาเถิด เท่านี้ก็พอแล้ว” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ฟิลิปเอ๋ย เราอยู่กับท่านมานานเพียงนี้แล้ว
ท่านยังไม่รู้จักเราอีกหรือ” ‘ผู้ที่เห็นเรา ก็เห็นพระบิดาด้วย ท่านพูดได้อย่างไรว่า “โปรดทำให้พวกเรา
ได้เห็นพระบิดาเถิด” (ยน 14:8-9)
วิธีเดียวสำหรับมนุษย์เพื่อจะเห็นพระบิดา คือ การเห็นพระคริสตเจ้า คุณลักษณะของ
ธรรมชาติพระเจ้านั้นเราสามารถจะเห็นเพียงแต่ทางพระวจนาตถ์ผู้ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ หรือดังที่
นักบุญเปาโลบอกว่า พระเทวภาพบริบูรณ์สถิตอยู่ในสภาพมนุษย์ที่สัมผัสได้ของพระคริสตเจ้าผู้ทรง
กลับคืนพระชนมชีพ” (เทียบ คส 2:9) ธรรมชาติมนุษย์ของพระบุตรนั้นไม่ได้เป็นอีกอย่างหนึ่งระหว่าง
การเป็นพระเจ้ากับการเป็นมนุษย์ในพระองค์ เช่นเดียวกับร่างกายของมนุษย์ผู้ใดไม่เป็นอีกอย่างหนึ่ง
ระหว่างมนุษย์ผู้นั้นกับคนอื่นๆ แต่ธรรมชาติมนุษย์ของพระบุตรเป็นสถานที่ที่มนุษย์พบกับพระเจ้า
ดังทีพ่ ระเยซูเจ้าตรัสว่า ”ผูท้ เี่ ห็นเรา ก็เห็นพระบิดาด้วย” การร่วมเป็นหนึง่ เดียวกับพระคริสตเจ้า ก็คอื
การร่วมเป็นหนึ่งเดียวระหว่างความเป็นบุคคลของเรากับพระบุคคลขององค์พระบุตร ซึ่งมีความ
สัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวอันลึกซึ้งกับพระบิดาและพระจิต
283
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
284
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
285
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
ชีวิตนิรันดรก็จะส่งเสริมและทำให้ความสัมพันธ์ที่เรามีซึ่งกันและกันนี้สมบูรณ์ไป ความสุขของชาว
สวรรค์ไม่อยู่ในการที่ต่างคนต่างอยู่ แต่อยู่ในการเป็นประชากรของพระเจ้า เป็นพระศาสนจักรใน
รูปแบบที่สมบูรณ์ ชีวิตนิรันดร คือ การร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า เราทุกคนจึงมีประสบ-
การณ์การเป็นพี่น้องกันอย่างแท้จริง ไม่เป็นเพียงอุดมคติอันสูงส่งเท่านั้น
ขอย้ำอีกครั้งว่า ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลต่อบุคคลเช่นนี้ไม่ได้ทำลายเอกลักษณ์ของ
แต่ละคน ตรงข้ามจะส่งเสริมให้เห็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนได้ชัดขึ้น ลักษณะสำคัญของบุคลิกภาพ
ก็คือ การติดต่อสื่อสารกัน และเราจะสามารถพัฒนาสมรรถภาพดังกล่าวนี้อย่างสมบูรณ์ เมื่อเรามี
ส่วนในชีวิตของพระตรีเอกภาพ เมื่อเราเข้าอยู่ในความสัมพันธ์กับสามพระบุคคล
ส่วนความสัมพันธ์ของชาวสวรรค์กับโลกวัตถุที่ถูกสร้างใหม่ก็อธิบายยากกว่า แต่จำเป็น
ต้องมีมิฉะนั้นแล้วร่างกายอันรุ่งเรืองของเราจะไม่ได้รับบรรยากาศ เหมาะสมกับธรรมชาติมนุษย์ของ
ตน พระเจ้าไม่เพียงแต่สร้างร่างกายมนุษย์ใหม่ แต่ยังทรงประทานแผ่นดินใหม่ คือ สถานที่ที่มนุษย์
สามารถกระทำการริเริ่มต่าง ๆ ได้
การกระทำของมนุษย์ในสวรรค์ก็เท่ากับว่าเป็นการพักผ่อน และการพักผ่อนจะเป็นการ
กระทำ เพราะจะเป็นการกระทำที่มาจากความรัก มาจากความชื่นชมยินดีที่เรามีอยู่ ที่จะถ่ายทอด
ความร่ำรวยของชีวิตที่เต็มเปี่ยม จึงเรียกร้องการริเริ่มหรือสมรรถภาพที่จะทำให้วัตถุเป็นการแสดงสิ่ง
ที่อยู่ในส่วนลึกของ จิตใจ เราไม่สามารถบอกรายละเอียดมากกว่านี้ แต่ต้องยึดคำสอนของนักบุญ
เปาโลที่ว่า “แต่ตามที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “สิ่งที่ตาไม่เคยเห็น และหูไม่เคยได้ยิน และจิตใจ
ของมนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่งที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับผู้ที่รักพระองค์” (1 คร 2:9) พูดอีกนัยหนึ่ง
ชีวิตนิรันดรคือพระเจ้าทรงมอบพระองค์เองแก่เรา
4.5 สวรรค์อยู่ที่ไหน
พระคัมภีร์ได้พรรณนาว่าสวรรค์เป็นเหมือนซีกโลกที่เหนือชั้นดวงดาว ซึ่งเป็นที่อยู่ของ
บรรดาทูตสวรรค์และบรรดานักบุญ และเป็นสถานที่ที่พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์ในพระสิริรุ่งโรจน์
แก่เขา แต่สวรรค์มิใช่ที่พำนักของพระเจ้า เพราะไม่สามารถบรรจุพระองค์ได้ ตัวอย่างในพระคัมภีร์
286
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
ที่พูดถึงสวรรค์ในลักษณะที่เป็นสถานที่พำนักของทูตสวรรค์และผู้ชอบธรรม คือ
“ข้ า พเจ้ า เห็ น นครศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ คื อ นครเยรู ซ าเล็ ม ใหม่ ล งมาจากสวรรค์ ลงมาจาก
พระเจ้า เตรียมพร้อมเหมือนกับเจ้าสาวที่แต่งตัวรอเจ้าบ่าว” (วว 21:2) “จงระวังให้ดี อย่าดูหมิ่น
คนธรรมดาๆ เหล่านี้คนใดเลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า ตลอดเวลาในสวรรค์ ทูตสวรรค์ของเขาเฝ้า
ชมพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์” (มธ 18:10) “อย่าชื่นชมยินดีที่ปีศาจอ่อนน้อมต่อ
ท่าน แต่จงชืน่ ชมยินดีมากกว่าทีช่ อ่ื ของท่านจารึกไว้ในสวรรค์แล้ว” (ลก 10:20) “ เรารูว้ า่ เมือ่ กระโจม
ที่เราอาศัยอยู่ในโลกนี้ถูกเก็บไปแล้ว เรายังมีบ้านซึ่งพระเจ้าทรงสร้างไว้สำหรับเรา เป็นบ้านที่ไม่ได้
สร้างด้วยมือมนุษย์ แต่เป็นบ้านถาวรนิรนั ดรอยูใ่ นสวรรค์” (2 คร5:1) “เพือ่ เทพนิกรเจ้าและเทพนิกร
อำนาจในสวรรค์ได้รู้ พระปรีชาญาณของพระเจ้าในรูปแบบต่างๆ ณ บัดนี้โดยทางพระศาสนจักร”
(อฟ 3:10) “โดยมีความหวังคอยท่านอยู่ในสวรรค์แล้ว ความหวังนี้ท่านรู้มาก่อนจากการประกาศ
พระวาจาแห่งความจริงคือข่าวดี” (คส 1:5) “แล้วข้าพเจ้าเห็นฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ เพราะฟ้าและ
แผ่นดินเดิมสูญหายไป ไม่มีทะเลอีกต่อไป” (วว 21:1) “เรากำลังรอคอยฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ ซึ่ง
เป็นที่อยู่ถาวรของความชอบธรรมตามพระสัญญา” (2 ปต 3:13)
แม้กระนั้น เราไม่ควรคิดว่าสวรรค์เป็นสถานที่เหมือนอย่างในโลกนี้ แน่นอน เวลานี้
และเฉพาะอย่างยิ่งหลังการกลับคืนชีพของร่างกาย ผู้ที่ได้รับความรอดพ้นจะอยู่ในสถานที่ที่ต่างจาก
ผู้พินาศไป แต่ต้องเป็นสถานที่นอกเหนือมิติของโลกเรา เขาจะอยู่ทั่วไปในเวลาเดียวกันก็เป็นไปได้
ร่างกายที่กลับคืนชีพแล้วจะมีสภาวะเหมือนจิต เช่นเดียวกันสถานที่ของผู้ที่ได้รับความรอดพ้นนั้นจะมี
สภาวะเหมือนจิตด้วย ต่างกับมิติของสถานที่และเวลาในโลกเรา เราไม่สามารถบอกได้ว่าสวรรค์อยู่
ที่ไหนนอกจากจะบอกว่าอยู่กับพระคริสตเจ้า เหมือนกับว่าพระองค์ทรงเป็นสถานที่ที่อาศัยสำหรับเรา
ยังคงเป็นประโยชน์ที่จะถามว่าสวรรค์อยู่ที่ไหน เพื่อจะเข้าใจธรรมชาติของสวรรค์บ้าง
ในโลกนี้เราไม่สามารถให้คำตอบใดๆ ข้อความต่างๆ ของพระคัมภีร์และของบรรดาปิตาจารย์ เมื่อ
พูดถึงสวรรค์เขายังใช้ทรรศนะของโลกซึง่ เก่าแก่และปัจจุบนั เราไม่ใช้แล้ว เราได้กา้ วหน้าจากความคิด
ที่ว่าโลกเป็นแผ่นกลมแบนเข้าสู่ความคิดที่ว่าโลกเป็นรูปทรงกลม และจากความคิดที่ว่าดวงอาทิตย์
287
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
5. สรุป
ในหนังสือพิธีโปรดศีลล้างบาปในศตวรรษแรกๆ ของพระศาสนจักร มีบันทึกคำถามของ
พระสงฆ์ผู้ประกอบพิธีที่ว่า “ท่านขออะไรจากพระศาสนจักร” และผู้รับศีลล้างบาปหรือพ่อแม่ทูลหัว
จะตอบว่า “ความเชื่อ” พระสงฆ์จึงถามต่อไปอีกว่า “และผลแห่งความเชื่อคืออะไร” เขาก็ต้องตอบว่า
“ชีวิตนิรันดร” ดังนั้น ผลแห่งความเชื่อคือชีวิตนิรันดร และสิ่งอื่นๆ ก็เพียงแต่ส่วนประกอบเท่านั้น
เราต้องไม่หยุดที่จะประกาศข่าวดีนี้ การประกาศคำสอนเรื่องสวรรค์เป็นข่าวดีที่นำความชื่นชมยินดี
288
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
289
อ นั น ต วิ ท ย า
บ ท ที่ ๑๔ ... เทววิทยาเรื่องสวรรค์
290
อ นั น ต วิ ท ย า