You are on page 1of 18

จดหมายขาว วิถีชีวติ เพือ่ สุขภาวะ

www.thaiyogainstitute.com ฉบับเดือน กุมภาพันธ 2553

คุยกันกอน 2
ปฏิทินกิจกรรม อบรมการเขียน จิตสิกขา 2
จากอินเดีย อินเดีย (ตอนที่ 2) 3
ระหวางทาง มุทราพาใหคิด 4
เทคนิคการสอน บทที่ 3 อาสนะพอเพียร 5
สะกิด สะเกา บุญที่ถูกลืม 7
ปกิณกะ สุขภาพ ชอนชา, เคมี, โยคะกับสายตา.. 7
แนะนําหนังสือ ประสบการณเปลี่ยนชีวิต 8
จดหมายจากเพื่อนครู เมื่อนักเรียนโยคะโดนแมวกัด 9
เลงเลาเรื่อง โยคะการละคร ตอนปจฉิโมทนาสนะ 10
ตําราโยคะดั้งเดิม สิ่งรบกวนจิตใจกับอาการที่ปรากฏภายนอกทั้ง ๔ 12
สัมภาษณ อ.ใจเพชร มีทรัพย หมอเขียว 14
เกร็ดความรูโยคะ The Clasp Knife Reflex 16
จากเครือขายภูมิภาค ศรีราชา: วิถีโยคะในชีวิตประจําวัน 18

จดหมายขาว โยคะสารัตถะ วิถีชีวิตเพื่อสุขภาวะ


ที่ปรึกษา แกว วิฑูรยเธียร ธีรเดช อุทัยวิทยารัตน นพ.ยงยุทธ วงศภิรมยศานติ์ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์
กองบรรณาธิการ กวี คงภักดีพงษ, จิรวรรณ ตั้งจิตเมธี, จีระพร ประโยชนวิบูล, ชนาพร เหลืองระฆัง, ณภัทร วัฒนะวงศี, ณัตฐิยา ปย
มหันต, ณัฏฐวรดี ศิริกุลภัทรศรี, ธนวัชร เกตนวิมุต, ธนวไล เจริญจันทรแดง, ธัญยธรณ อรัณยชลาลัย, ธีรินทร อุช
ชิน, พรจันทร จันทนไพรวัน, พัชรินทร ฉัตรเกลา, รัฐธนันท พิริยะกุลชัย, วรรณวิภา มาลัยนวล, วัลลภา ณะนวล,
วิสาขา ไผงาม, วีระพงษ ไกรวิทย, ศันสนีย นิรามิษ, สมดุล หมั่นเพียรการ

สถาบันโยคะวิชาการ มูลนิธิหมอชาวบาน
201 ซอยรามคําแหง 36/1 บางกะป กทม.10240
โทรศัพท 02 732 2016-7, 081 401 7744
โทรสาร 02 732 2811
อีเมล yogasaratta@yahoo.co.th
เว็บไซท www.thaiyogainstitute.com

สิ่งตีพิมพ

1002 1
สวัสดีเดือนกุมภาพันธ ไดลองปรับหนาตาของ ที่อยากเลาใหฟงอีกอันคือ ตอนนี้ตนฉบับอินเดีย
จดหมายขาวเปน 2 คอลัมน เพื่อจะไดอานงาย สบายตาขึ้น เยอะ ครูหนูเลาเรื่องอินเดียใหพวกเราฟง อ.โสภาเพิ่งกลับมา
คิดเห็นยังไงติชมไดเลยนะ จากฤาษีเกศก็สงตนฉบับมา หมอสุ จากชลบุรี กลับจากทัวร
ฉบับนี้ ประเดิมคอลัมน สัมภาษณ และ จากเครือ สังเวชนียสถานก็สงมา เรียกวากลิ่นโรตีอวลสํานักงานเลย จะ
ขายภูมิภาค มีบทความจากเพื่อนครูจากศรีราชามาใหอานกัน ทยอยนําลงใหพวกเราไดอานกันครับ

ชีวิตสิกขาลัย ในกลุมเครือขายชีวิตสิกขา จัดอบรมหลักสูตร เขียนอยางไรใหประทับใจผูอาน ?


“บันทึกความทรงจําแหงชีวิต” ทําอยางไรจะบันทึกเรื่องราวไดครบถวนทุกแงมุม ?
โดย เดือนเพ็ญ ลิ้มศรีตระกูล (มาลี) เขียนอยางไรใหความรูในตน นําไปใชชวยเหลือผูคนได ?
ผูที่เปนครู วิทยากร จิตอาสา ผูบริหาร มีจิตใจและ เขียนอยางไรจึงจะเปนการสื่อสารเพื่อการพัฒนาตนเอง ?
เนื้อหาความรูประสบการณความสามารถที่พรอมจะนําไปถาย แบงปนประสบการณในงานเขียนกับนักเขียนมืออาชีพ ?
ทอดเรื่องราวใหเปนประโยชนกับบุคคลทั่วไปได แตหากขาด คุณเดือนเพ็ญ ปจจุบันเปนนักเขียนอิสระ อดีตเปน
ความสามารถและศิลปะลีลาในงานเขียน โดยเฉพาะการเขียน ผูสื่อขาวหนังสือพิมพผูจัดการรายวัน รายเดือน และราย
จากเรื่องราวประสบการณตรง (Tacit Knowledge) ก็เปนที่นา สัปดาห ในเครือผูจัดการ, บรรณาธิการบริหารนิตยสารโลกสี
เสียดายวาแหลงความรูอันมีคุณคา ที่จะพึงมีตออนุชนรุนหลัง เขียว มูลนิธิโลกสีเขียว และ บรรณาธิการบทความนิตยสาร
จะไมสามารถคงอยูเพื่อเผยแพรตอไปได บทความขอเขียน Marketeer
นั้นจะสามารถที่จะคงอยูไดนานกวาชวงชีวิตของบุคคล วันเสารที่ 20 กุมภาพันธ 53 เวลา 9.00 - 16.00 น.
เครือขายชีวิตสิกขา ขอเชิญทานมารวมเรียนรูหลาก ณ หอง 262 คณะมนุษยศาสตร มศว สมัครไดทาง E-mail :
หลายวิธีการ เพื่อนําเรื่องราวจากการปฏิบัติ ประสบการณที่มี wunwipa.s.malainual@gmail.com อัตราคาลงทะเบียนทาน
คุณคามาบันทึกไวเปนบันทึกความทรงจําแหงชีวิตอันมีคุณคา ละ 450 บาท สอบถามรายละเอียด โทรศัพท. 084 643
และพัฒนาไดดวยตัวของทานเอง เชน 9245, 087 678 1669, 089 899 0094, 084 388 0182

จิตสิกขา เดือนกุมภานี้ วันเสารที่ 20 เวลา 9.00 – 12.00 น. คุยกันเรื่องสรีรวิทยา กาวิภาคของจิต ในสวนของเจตสิก ตอ
ที่ สนง.สถาบันฯ ซอยรามคําแหง 36/1 รวมศึกษาอภิธรรม จากคราวที่แลว

Green Life Summer Camp บริษัทกรีนไลฟ ฟตเนส แอนด วัตถุประสงคเพื่อปลูกฝงใหเด็กรักการออกกําลังกาย


สปา ศูนยกีฬาที่ออกแบบมาเพื่อใหสมาชิกไดออกกําลังกายที่ ใหเด็กวายน้ําเปนและสามารถชวยเหลือตัวเองได ใหเด็กใช
ใกลชิดธรรมชาติมากที่สุด จัดกิจกรรม Green Life Summer เวลาวางใหเกิดประโยชนในชวงปดภาคเรียน และ เพื่อใหเด็ก
Camp ขึ้นในชวงปดภาคเรียนนี้ เพื่อใหลูกหลานเยาวชนของ ไดเรียนรูการใชชีวิตรวมกับผูอื่นอยางมีความสุข
สมาชิกและบุคลทั่วไปทุกทาน ที่มีอายุระหวาง 5- 12 ป ได ณ กรีนไลฟ ฟตเนส แอนด สปา บางบอน วันที่15 –
ออกกําลังกายและเสริมสรางพัฒนาการเรียนรูทางดานตางๆ 26 มีนาคม 2553 ( ยกเวนวัน ส – อา ) เวลา 09.00 – 16.00
ใหเหมาะกับวัย รวมทั้งการปลูกฝงคุณธรรม และจริยธรรม น. อัตราคาสมัคร 3,500 บาท สนใจติดตอ 085 920 2289
ใหเกิดขึ้นไปพรอมกัน

รวมกันสงความรักจากชาวโยคะถึงชาวเฮติ มิตรภาพระหวางเพื่อนมนุษยดวยกัน สถาบันโยคะวิชาการ


เพราะเราเชื่อมั่นวา ความรักเปนสิ่งที่งดงามเสมอ ขอเชิญชวนทุกทานมารวมกันแบงปนความรักและสงกําลังใจ
ไมวาจะดํารงอยูในรูปแบบของการเปนคนรัก ครอบครัว หรือ ใหแกชาวเฮติ และเปนสวนหนึ่งที่ชวยบรรเทาความทุกขยาก
จากชะตากรรมภัยพิบัติที่พวกเขากําลังเผชิญ
1002 2
ตลอดเดือนกุมภาพันธนี้ ทุก 10% จากยอดซื้อ ผูประสบภัยแผนดินไหวในเฮติ” หมายเลขบัญชี กระแส
สินคาของทานจากสถาบันโยคะวิชาการ จะถูกหักเพื่อนําไป รายวัน 045-3-04368-1 พรอมสงใบโอนเงินไปที่ คุณ ภารดี
สมทบทุนเขารวมบริจาค ชวยเหลือผูประสบภัยแผนดินไหว วนกุล หัวหนาฝายการเงิน สํานักงานการคลัง สภากาชาด
ผานทาง “สภากาชาดไทย” โดยยอดสุทธิของเงินบริจาค ไทย หมายเลข FAX 0-2256-4064 หรือผานทาง E-mail :
จะแจงใหทราบโดยทั่วกันทางหนาเวปไซตในตนเดือนมีนาคม haiti@redcross.or.th พรอมระบุ ชื่อ-นามสกุล หมายเลข
2553 โทรศัพทติดตอใหชัดเจนเพื่อขอรับใบเสร็จ
หากทานตองการบริจาคเงิน ใหแกสภากาชาดไทย ขอขอบคุณสําหรับน้ําใจของทุกทานนะครับ
โดยตรง กรุณาโอนเงินไปที่ ธนาคารไทยพาณิชย สาขา น้ําใจของทุกทานสรางโลกใหนาอยูขึ้นนะครับ
สภากาชาดไทย ชื่อบัญชี “สภากาชาดไทย เพื่อชวยเหลือ

ครูหนู (ชมชื่น สิทธิเวช) บานโยคะ ทองหลอ 13


อินเดีย (ตอนที่ 2) ไว คนขายจะรูทันทีเตรียมถุงพลาสติกไวพรอม เพราะทุกครั้ง
คําวากองทัพตองเดินดวยทองนั้นเปนความจริง ถา ที่ฉันกินอาหารรานนี้ จะตองเผื่อไวใหแฟนคลับ(ขอทาน) ได
ทองหิวกองทัพก็ไมมีกําลัง ฉันจึงตองทําทองใหอิ่มในมื้อเชา กินกันทั่วหนา เห็นมั้ยคะการทําทานที่ไมเดือนรอน เขาจะไม
และกลางวัน สวนมื้อเย็นนั้น บาย บาย วันนี้จึงตองเดินหา แยงกันจนคนใหปวดหัว แตถาคุณใหเงิน อาจเปนบาปแทนก็
อาหารกลางวันตามรานที่คิดวา จะฝากทองไวทุกวันไดบาง ได
จะเปนอยางที่คิดไหมหนอ? พูดถึงขอทานที่เมืองคยา ความรูสึกของฉัน เขาคง
ดวยความที่เปนคนชอบเดิน จึงเดินไปเรื่อย ๆ ตาม อิ่มทองทุกวัน คงไมหิวโหยเทาไหร และการขอของเขาก็ขอ
ความรูสึกวาทางนั้นนาจะใช ธรรมะจัดสรรอีกแลว ฉันพบ อยางเดียว แตไมรุกเราใหเราตกใจหรือหงุดหงิด ผิดกับเมือง
รานอาหารมังสวิรัติแบบอินเดียเขาจนได ตั้งอยูดานหลังพระ อื่น ๆ ที่ฉันเคยพบ ฉันจึงคิดปลงวา คนเหลานี้ทําอะไรผิดมา
ศรีมหาโพธิ์นี่เอง มีรายการอาหารมากมาย กอนอื่น ขอไม แตชาติปางกอนจึงตองเกิดมาเปนแบบนี้ ไมมีโอกาสเหมือน
ตามใจกิเลสเปนสิ่งแรกที่ควรทํา ขอสํารวจความสะอาดเสีย คนอื่น ไมมีโอกาสไดทําอะไรเลย เพราะคนเห็นสภาพบางคน
หนอยโดยการทําเปนเดินชมรอบ ๆ ราน พูดคุยขอรายการ ก็รังเกียจ ถึงแมสงสารก็ทําอะไรไมได จับตองก็ไมได แตสิ่ง
อาหารมาศึกษาเสียหนอยวาจะพอสั่งอะไรไดบาง ฉันใชสติ หนึ่งที่ฉันคิดพวกเขาคงมีจิตสํานึกรูวา ถาพวกเขาเหลานั้น
เปนตัวกําหนดรู คือตองสั่งอาหารที่ทําเดี๋ยวนั้น เพราะเห็นกับ อาศัยอยูบริเวณพระศรีมหาโพธิ์ นั้นคือเขาจะมีชีวิตที่อ่มิ ทอง
ตาวามันรอน ๆ จากเตา ยังไงเชื้อโรคคงจะตายหมดแลว เพราะชาวพุทธทุกคนลวนแลวแตมีจิตคิดจะใหทั้งนั้น สวนคน
ความสะอาดของรานนี้ไดแค 2 ดาวคะ อาหารยอดฮิตใน อินเดียดวยกันเขาเห็นสภาพนี้ทุกวัน เขาก็คงเคยชิน และไม
เมืองคยานี้ถาเปนขาวคือขาวผัดผักกับแกงเปรี้ยวและโยเกริต เห็นขอแตกตางอะไร จึงไมคิดจะทําทาน ใหขอทานพวกนั้น
ขนมเบื้องอินเดีย (โดซา DOSA) ไสมันฝรั่งผัดกับเครื่องเทศ ฉันเดินออกจากรานอาหาร ดวยอาการหนังทองตึง
และก็หมี่ผัดแบบจีน อยางอื่น ไมถูกปากคนไทยที่มีรสนิยมใน สงสัยจะเกิดลมในกระเพาะ เพราะเครื่องเทศในอาหาร รีบกิน
การกินแบบฉันแน ๆ ฉันจึงเลือกขาวกับแกง แถมดวยจาปาตี ขมิ้นชัน 2 เม็ดตามไป เพื่อชวยในการยอยตามดวยน้ําอุน
อีก 1 แผน ราคาไมแพง ถาดนี้ไมถึง 30 บาทคะ อีกทั้งการ และใชวิธีเดินไปเรื่อย ๆ คิดในใจประเดี๋ยวเถอะฉันตองเดิน
ขายอาหารของคนอินเดีย เขาถือวา พระเจาประทาน เขาจึง ผายลมแขงกับแขกแถวนั้นแน เพราะฉันไดขอมูลมาวา คน
ใหมากกวาราคาทุกครั้ง กระเพาะเล็กอยางดิฉันจึงมีอาหาร อินเดียเขาบอกวา “ตดคือธรรมชาติ” ฉันจะเดินไปตดไปบาง
เหลือ สติตามรูกอนผัสสะจะเกิด ฉันจะขอจานเพื่อแบงอาหาร คงไมผิด ดีกวาไปนั่งตดในพระศรีมหาโพธิ์ นี่ซิ ผิดศิล แน ๆ !

เดือน มกราคม 2553 มีผูบริจาคดังนี้


คณะผูเรียน จิตสิกขา บริจาคเงินใหสถาบันฯ จํานวน 400.- บาท
ธีรเดช อุทัยวิทยารัตน
1002 3
มุทราพาใหคิด (๑) ดั้งเดิมมักใชคําวา ชละ ที่แปลวา น้ํา)อยู ในขณะที่สวนกลาง
เมื่อเร็วๆ นี้ มิตรรุนพี่ใน ของรางกายเปนที่ตั้งของดวงอาทิตยหรือสูรยสถาน (อยาง
แวดวงโยคะทานหนึ่งสงตออีเมลที่ นอยที่สุดสวนกลางของรางกายก็เปนที่ตั้งของกระเพาะอาหาร
มีภาพมุทรา (ทวงทาของมือ) ใน ซึ่งมีพลังแหงความรอนในการยอยอาหารที่เรากินเขาไป)
ลักษณะตางๆ ใตภาพแตละมุทรา ครูอายุรเวทของผมเคยอธิบายวา โดยธรรมชาติแลว
พูดถึงประโยชนสั้นๆ ของมุทรานั้นๆ เชน อากาศมุทรา น้ําทิพยซึ่งเปนพลังชีวิตที่อยูสวนบนของรางกายจําเปนตอง
(akash mudra)ชวยแกปญหาเรื่องหู เปนตน หยาดไหลลงมาหลอเลี้ยงรางกายสวนลาง ขณะเดียวกันน้ํา
พี่เขาถามไปในอีเมลวา ผมคิดเห็นอยางไรเกี่ยวกับ ทิพยก็จะถูกเติมจากพลังชีวิตที่มีอยูในอาหารและอากาศที่เรา
ผลจากการฝกมุทราเหลานั้น เสพและสูดเขาไป (ผมนึกถึงบานที่ตั้งแทงคน้ําไวบนดาดฟา
เฉพาะกับคําถามเรื่องผลของการฝกมุทรา ผมเขียน เพื่อสูบน้ําขึ้นไปในแทงค แลวปลอยใหน้ําไหลลงสูชั้นลางๆ
ตอบสั้นๆ วา ผมไมมีความเห็นแตประการใด เนื่องจากไมเคย เพื่อใชประโยชนในกิจกรรมตางๆ )
มีประสบการณตรงจากการฝกมุทราเหลานั้น (ยกเวนชญาน ถึงกระนั้นก็ตาม ดวยความที่อิริยาบถจํานวนไมนอย
มุทราที่ผมพอจะทําอยูบางระหวางฝกหายใจ) ในชีวิตประจําวันของเรา มักจะอยูในทาที่ศีรษะอยูสูงกวา
อยางไรก็ตามภาพทวงทาของมือและคําอธิบายสั้นๆ รางกายสวนอื่น - โดยเฉพาะบริเวณกึ่งกลางลําตัว จึงทําใหน้ํา
ในอีเมล ทําใหผมนึกถึงบางเรื่องราว ซึ่งมีทั้งที่เกี่ยวและไม ทิพยจากสวนบนไหลลงมาถูกความรอนแผดเผาจนแหงเหือด
เกี่ยวกับมุทราโดยตรง ลง
และดวยความที่บอยครั้งผมมักจะคิดดังๆ ออกมา วิธีหนึ่งที่จะชวยปกปองน้ําทิพยหรือน้ําอมฤตไดก็คือ
เปนขอความ คราวนี้ผมก็เลยคิดพรอมกับเคาะแปนพิมพบน การกลับทิศทางของรางกายจากบนลงลาง ใหศีรษะอยูต่ํากวา
เครื่องคอมพิวเตอรสงไป “แลก” และ “เลา” ใหพี่เขา(อาน)ดวย รางกายสวนอื่น อยางนอยก็เปนการลดทอนชวงเวลาหรือตัด
ความคิดแรกที่วาบขึ้นมาก็คือ การแปลมุทราวา โอกาสไมใหน้ําทิพยไหลจากศีรษะ ลงไปถูกความรอนที่อยูใน
“ทวงทาของมือ” ดูจะเปนคําแปลที่รวบรัดตัดความหมายใน สวนกลางของรางกายแผดเผา
บริบทอื่นออกไปพอสมควร พูดอีกอยางวา เราทําการปดผนึกเพื่อสงวนและ
ผมคิดวาคําวามุทรา ก็เปนเชนเดียวกับคําสันสกฤต ถนอมน้ําทิพยซึ่งเปนพลังหลอเลี้ยงชีวิตใหอยูในตําแหนงที่ตั้ง
อีกหลายคําในศาสตรและองคความรูในชมพูทวีป คือเปนคําที่ ของมัน ดวยการอยูในอิริยาบถที่วิปริตผิดแผกไปจากอิริยาบถ
มีนัยของความหมายที่หลากหลายแตกตางกันไปตามบริบทที่ ตามปกติของเราหรือที่เรียกวาวิปรีตกรณี
ถูกนําไปใชพูดถึง ผมคิดวาคงเปนดวยเหตุผลนี้ ที่ทําใหวิปรีตกรณีไม
เทาที่ผมรู มุทราแปลตามศัพทวา ตราประทับหรือ ถูกเรียกวาอาสนะ หากแตถูกจัดอยูในกลุมของมุทราอันมีนัย
การปดผนึก (seal) ซึ่งหากคนที่ไดอานรายละเอียดเกี่ยวกับ แหงการปดผนึก ดังความที่ดัดแปลงมาเลาขางตน
วิปรีตกรณี นาจะพอมองเห็นหรือจินตนาการถึงนัยแหงการ
ความหมายอีกอยางหนึ่งของมุทราก็คือทวงทา ซึ่ง
ปดผนึกซึ่งเปนหนึ่งในความหมายของมุทราไดชัดเจนขึ้น
1 ผมคิดวาไมนาจะแปลแบบฟนธงลงไปวา “ทวงทาของมือ”
ตามหลักกายวิภาคศาสตรของตะวันออก สวน เพราะมุทราแปลวา “ทวงทา” (เฉยๆ ไมมีอะไรตอทาย) พูด
บนสุดของรางกายคือศีรษะมีหยาดน้ําทิพยแหงชีวิต(ในคัมภีร อีกอยางก็คือเราอาจใชคําวามุทรากับรางกายสวนใดก็ได
หากตองการเนน หรือชี้เฉพาะเจาะจงวาเปนทวงทา
1
ผมมักตั้งขอสังเกตกับเพื่อนพองนองพี่ที่ไปแลกเปลี่ยนเรื่องการฝกอาสนะ ของมือ นาจะใชคําวา “หัสตะ มุทรา” มากกวา (หัสตะ แปลวา
หรืออายุรเวทกับผมวา คนที่สนใจการฝกอาสนะอยางจริงจัง มักไดรับ มือ)
คําแนะนําใหเรียนรูเรื่องกายวิภาคศาสตรและสรีรวิทยาตามแบบตะวันตกเพื่อ
เขาใจเรื่องระบบของรางกาย เชน กลามเนื้อ ฯลฯ ซึ่งแนนอนวามีสวนชวยให
เราเขาใจการฝกอาสนะไดดีขึ้น
ทวาเทาที่ไดสดับ ซึมซับ และเคี่ยวกรําใหขอมูลและความรูเกี่ยวกับอาสนะ ของจักระทั้งหก(shatcakra) หรือแมแตการแบงชวงชั้นของรางกาย
การหายใจและอายุรเวทตกผลึกในตัวเองมาระยะหนึ่ง ผมมีความเห็นวาภูมิ ออกเปนเปลือกหุม (โกศะ) ๕ ชั้นที่เรียกวา ปญจโกศะ ก็คอื ตัวอยางของผลึก
ปญญาตะวันออกเองก็มีความรูความเขาใจเรื่องรางกายเชนกัน ตัวอยางเชน ใน แหงความรูความเขาใจอันลุมลึกเกี่ยวกับกายวิภาคศาสตรและสรีรวิทยาของ
คัมภีรอ ายุรเวทมีหมวดที่วาดวยรางกายเรียกวา “สรีระสถานะ” กระทั่งเรื่อง ตะวันออก
1002 4
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมคิดดังๆ ใหพี่เขาอาน คือ มุทราใน หลายปกอนหนานี้ ครูของผมเคยเชิญคณะนาฏศิลป
ความหมายของทวงทานั้นหาไดจํากัดอยูเฉพาะในแวดวงของ ฝมือชั้นครูไปแสดง “Kathakali” ซึ่งเปนศิลปะการแสดงและ
โยคะเทานั้น การรายรําของรัฐเคราลา ใหกับกลุมชาวตางชาติที่ไปเขา
อยางนอยๆ เทาที่ผมประจักษดวยตาตัวเองแทบทุก คอรสโยคะและอายุรเวทที่อาศรมอายุรเวทของครูไดยล ผูราย
ครั้งที่กลับไปหาครูอายุรเวทที่ตอนใตของอินเดีย ก็คือในการ รําโหมโรงดวยการสาธิตการทํามือ และขยับรางกายไปใน
ทําพิธีบูชาเปนประจําทุกเดือนตามจารีต และกระบวนวิธีของ ทวงทาตางๆ เปนการเรียกน้ํายอยกอนใหชมการแสดงจริง
ตันตระในสายตระกูลพราหมณซึ่งเปนวรรณะที่ครูผมสังกัดอยู นอกจากนี้ยังเปนการปูพื้นใหอาสนะชนที่มาจากตาง
ระหวางการประกอบพิธีที่มีทั้งการบริกรรมมนตรา และ วัฒนธรรมพอเห็นภาพวา มีการใชมุทราเขามาผสมผสานกับ
สาธยายบทสวด พราหมณหลักในพิธีจะเคลื่อนไหวนิ้วมือให “นาฏลีลา” เพื่อสื่อความหมายตางๆ ได เชน การยางเยื้อง
อยูในทวงทาหรือมุทราตางๆ ของกวาง ปกษากําลังโบยบิน หรือคนรักกําลังออดออน ฯลฯ
ครั้งลาสุด ที่ผมเพิ่งกลับไปหาครูเมื่อชวงปลายปที่ เสียงอุทานโอ มายกอด, อิต’ส โซ วันเดอรฟูล
ผานมา ผมเฝามองหลานของครูซึ่งถูกมอบหมายใหเปน และอิต’ส โซ เทอริฟค กับดวงตาที่เบิ่งกวาง และเสียงปรบมือ
พราหมณที่ทําหนาที่หลักในพิธีบูชาค่ําคืนนั้น มือของเขาที่ ไมขาดระยะ บงบอกใหรูวามุทราที่ผูรายร่ําทําทาอยูบนเวที มี
ขยับปรับนิ้ว จากทวงทาหนึ่งไปสูทวงทาตอไปอยางพริ้วไหว พลังโดนใจทานผูชมกันทั่วหนา ซึ่งรวมผมอยูดวยคนหนึ่ง
ราวคลื่นเล็กๆ บนผิวน้ําที่กระเพื่อมตามกันเปนระลอกจากลม แนนอนวากวานาฏชนคนหนึ่ง จะจีบนิว้ อยาง
ที่พัดผานดวยความแรงที่สม่ําเสมอ คลองแคลวและชํานาญการ จนคนดูเห็นแลวรูวาผูรายรํา
การเปลี่ยนตําแหนงของนิ้วและการเคลื่อนไหวมือทั้ง ตองการสื่อถึงอารมณใดของตัวละครในเรื่องราว เขาจะตอง
มือในทวงทาตางๆ อยางตอเนื่อง ดวงตาที่หรี่ปรือเหมือนหลับ ผานการฝกฝน และเคี่ยวกรําขยํารางกายแทบทุกสวนอยาง
แตภายในตื่นตัว และริมฝปากที่ขยับเคลื่อนเหมือนพึมพํา ทํา หนักเหนื่อยและยาวนาน
ใหผมรูสึกถึงพลังที่ประสานกลมกลืนกันระหวางมุทราและมน ผมเองในฐานะของผูจับตามองและจองดู ยังรูสึกวา
ตราซึ่งนาจะถูกเชื่อมรอยดวยดายแหงสภาวะจิต ที่จดจอตอ มุทราเปนภูมิปญญาในอีกมิติหนึ่ง ที่ตองอาศัยพลังแหงการ
ตาม ผสานรางกาย ลมหายใจ และจิตใจใหเปนหนึ่งเดียว
ทวากวาจะไดรับความไววางใจใหนั่งอยู ณ กึ่งกลาง เรียกไดวาเปนอีกหนึ่งศาสตรและศิลปที่ลุมลึกยิ่งนัก
ปะรําพิธี เขาตองถูกอบรมบมเพาะและฝกฝนจนครูผูเปนทั้ง ลุมลึกจนอดสงสัยไมไดวาเราจะสามารถเรียนรูรหัสนัยของมัน
พอมั่นใจวา บุตรชายที่เปนศิษยของตนสามารถประกอบพิธี ดวยการคลิก(เมาท)เพียงครั้งเดียวได – กระนั้นหรือ?
ไดถึงขั้นที่กาย วาจา และใจถักทอเปนควั่นดายที่แนนหนา
มั่นคง

ธํารงดุล
โลกอาสนะ ๓๖๐ องศา.. พี่เละตั้งขอสังเกตวา “การใชแรงแตนอย” อาจเปน
ประสบการณเรียนรูแบบ East Meets West การตีความที่คอนขางจํากัดไปหนอยเพราะคําวาประยัตนะ ยัง
บทที่ ๓ อาสนะพอเพียร มีความหมายอื่นๆ อีก เชน ความเพียร ความตั้งใจ ความ
ครั้งกอนเรากลาวถึงสถิระและสุขะ ที่เกี่ยวของกับ พยายาม นอกจากนี้การทําอาสนะโดยเฉพาะอาสนะที่ไมใช
การฝกโยคะอาสนะ ยังมีอีกหนึ่งโศลกถัดมาในปตัญชลีโยคะ แคการนั่ง(ฝกสมาธิ) แตเปนการเหยียดยืดรางกายในทิศทาง
สูตร ที่เปนหลักในการฝกอาสนะคือ โศลก ๒.๔๗ ที่กลาววา ตางๆ นั้น ในทางปฏิบัติตองมีการลงแรงกันซึ่งบางทาคงยาก
“ปรฺยตฺนไศถิลฺยานนฺตสมาปตฺติภฺยามฺ” ที่จะใชแรงแตนอย
คําวา ”ปรฺยตฺน ไศถิลฺย” (ประยัตนะ ไศถิลยะ) ซึ่ง พี่เละจึงมองวาโศลกดังกลาว ยังสามารถตีความวา
พวกเรามักคุนชินกับการแปลวาใชแรงแตนอยนั้น เปนอีก เปน “ความเพียรที่ปราศจากความพยายาม” อยางที่ไอเยน
ประเด็นหนึ่งที่พี่เละ “แลก” กับพวกเราในคลาส ซึ่งอยากจะ การเคยกลาวไวในหนังสือโยคะของทาน
นํามา “เลา” สูกันฟงในที่นี้ ฟงคําพี่เละแลวทําใหผมนึกถึงคําวา อาสนะพอ
เพียร คือใชความเพียรแตพอดีนั่นเอง
1002 5
ผมลองสวาธยายะ และตีความตามความเขาใจของ ๑. มีทั้งความแข็งแรง และยืดหยุน ยกตัวอยางเชน นัก
ตัวเองวา การที่เราทําอาสนะในแตละทานั้น แนนอนวาตองใช ยิมนาสติก
ความพยายามในการเขาสูทวงทา คงคาง และคืนกลับ เปรียบ ๒. มีความแข็งแรงแตไมยืดหยุน มักเปนกับพวกที่เลน
เหมือนการเดินทางจากจุดเริ่มตน ดื่มด่ํากับความรูสึกระหวาง
เวท ยกน้ําหนักออกแรง แตพบวากลามเนื้อมักตึง
ทางไปจนถึงจุดหมาย แลวคืนกลับมายังจุดเริ่มตนใหมอีกครั้ง
เกร็ง หรือมีปญหาดานการทรงตัว
นั้น หากเราทําโดยไมใชความพยายามหรือพูดงายๆวาไม
ออกแรงเลย เราก็ไมนาจะไดรบั ประโยชนจากทานั้นๆ ใน ๓. ไมแข็งแรงแตมีความยืดหยุน เชนบางคนที่ทําทา
ขณะเดียวกันความเพียรที่มากจนเกินพอ(ดี) ก็อาจทําใหเกิด อาสนะตางๆไดออนชอยสวยงาม แตอาจมีกําลังไม
การบาดเจ็บได ดังที่พี่เละถอดความจากหนังสือประทีปแหง พอที่จะคงคางหรือพาตัวเองไปสูบางทวงทาได
ชีวิตของทาน บี.เค.เอส.ไอเยนการวา “จงเรียนรูที่จะคนหา ๔. ไมแข็งแรง และไมยืดหยุน อันนี้ไมตองมองอื่นไกล
ความสบายแมในความไมสบาย เราตองไมพยายามวิ่งหนี เขาตัวเองจังๆ เพราะกลามเนื้อที่ถูกใชทํางานจน
ความเจ็บปวด หากแตตองผานพนและอยูเหนือมัน”
ออนลาจากงานประจํา และความเพียรที่ไมคอย
พี่เละยังชวนขยายมุมมองใหกวางขึ้นไปอีกนิด วา
เราอาจจะตองเพียรอยางเพียงพอ ในการทําโยคะอาสนะอัน พอเพียง นําพาความออนลาและตึงเกร็งมาพรอมๆ
เปนกิจวัตรอีกดวย ผมเคยถามพี่เละวา บางวันตื่นขึ้นมาจาก กัน เมื่อทําอาสนะ ความจํากัดของรางกายก็สะทอน
วันที่โหมทํางานหนัก และคืนที่นอนนอยเมื่อฟงเสียงเพรียก (ฟอง)ออกมาในทวงทา
จากรางกายแลวรูสึกวาวันนี้เราไมพรอมจะทําอาสนะ เรา ซึ่งในการเรียนครั้งที่ ๒ เราไดฝกการสังเกตและ
อาจจะพักสักวันได ผมเลยถามตอไปอีกวา วันถัดมา และถัด วิเคราะหรางกายจากทวงทากัน โดยพิจารณารางกายเปน
มาถาเราเกิดยังไดยินรางกายของเราวาเราเหนื่อย วันนี้รูสึก สวนๆไป พี่เละใหทําอาสนะบางทาทีละคน โดยใหคนที่เหลือ
วาไมไหวอีกละ ครั้งนี้พี่เละใหความเห็นวาที่แปลแบบ เฝาสังเกต และจดบันทึกให ผมขอยกตัวอยางจากตัวเองหนึ่ง
ตรงไปตรงมาไดวา เราตองแยกใหออกระหวางความออนลา ทา
ของรางกาย หรือขออางที่จะขี้เกียจกันแน (อันนี้แรง!! เหมือน ในทาศพหรือศวาสนะ จากสายตาหลายคูของผอง
โดนโบยสักสามที) ความเพียรอยางพอเพียงในการทําโยคะ เพื่อนรวมชั้นที่จดจอง ทุกคนเห็นตรงกันวาขาซายของผมหาง
อาสนะจึงควรหมั่นทําอยางสม่ําเสมอ ใชเวลาไมมากในแตละ จากแกนกลางมากกวาขาขวา ไหลซายสูงจากพื้นมากกวา
วัน ยังดีกวาจะมาโหมหนักๆสัก ๒-๓ ชั่วโมง แตทําเพียงแค ขางขวา หนาหันไปทางขวาเล็กนอย ปลายเทาซายแบะออก
สัปดาหละครั้ง มากกวาขางขวา
แลวเราจะรูไดอยางไรวา อะไรคือ การทําอาสนะ ที่ โอโห! แคทาที่หลายคนบอกวาเปนทางายๆ ก็
“พอเพียร และเพียงพอ” สะทอนใหเห็นความแข็งแรง และความยืดหยุนที่ไมสมดุลของ
พี่เละใหขอคิดวา ๒ สิ่งสําคัญขณะทําอาสนะ ทั้งใน กลามเนื้อทั้งสองขาง นอกจากนี้ยังบงบอกถึงวาสนาหรือ
บทบาทของผูปฏิบัติและผูนําฝกตองมีคือ การสังเกต และ ความคุนชินที่ทําในชีวิตประจําวันที่สั่งสมมานานป แตสิ่งที่
วิเคราะห ซึ่งทั้งสองอยางนี้เปนไปเพื่อใหเขาใจถึง สะทอนออกมาลวนผานการสังเกต และวิเคราะหแตไมอาจ
องคประกอบหลัก ๓ อยางในการทําอาสนะ คือ รางกาย ลม ดวนสรุปไดจากทวงทาเพียงทาเดียว แตอาจจะตองอาศัย
หายใจ และจิตใจ ของผูฝก หลายๆ ทาประกอบกัน
ในแงของรางกาย เราควรมีความเขาใจถึงความ เราผลัดกันสังเกตและวิเคราะหรางกายที่สะทอนจาก
ยืดหยุน (ในความหมายของคําวา สุขะ) ความแข็งแรง (สถิระ) ทวงทา จนเริ่มเห็นความพิกลแตยังไมถึงกับพิการของแตละ
และขอจํากัดตางๆของแตละบุคคล คน ก็เพื่อจัดปรับอาสนะสรางชุดฝกใหเหมาะสมกับแตละคน
ถาลองจับคูความยืดหยุนและความแข็งแรงแบบพบ นอกจากนี้ขณะทําอาสนะยังตองเรียนรูที่จะวิเคราะห
กันหมด ก็อาจจะจัดแบงรางกายไดเปน ๔ ประเภท คือ :- และสังเกตลมหายใจของเราไปดวย ซึ่งคงตองขอยกยอดไป
“แลก” และ “เลา” ตอฉบับหนาครับ

1002 6
สดใส
บุญที่ถูกลืม กระยองกระแยงฝาแดดกลาไปยังถนนใหญ เพื่อขึ้นรถประจํา
“คุณนายแกว เปนเจาของโรงเรียนที่ชอบทําบุญมาก ทางกลับบาน ระหวางนั้นมีรถเกงหลายสิบคันแลนผานไป แต
เปนเจาภาพทอดผาปาทอดกฐินอยูเนืองๆ ใครมาบอกบุญ ตลอดเสนทางเกือบ 3 กิโลเมตร ไมมีผูใจบุญคนใดรับผูเฒา
สรางโบสถวิหารที่ไหน ไมเคยปฏิเสธ เธอปลื้มปติมากที่ถวาย และคนพิการขึ้นรถเพื่อไปสงถนนใหญเลย
เงินนับแสนสรางหอระฆังถวายวัดขางโรงเรียน แตเมื่อได เหตุการณทํานองนี้มิใชเปนเรื่องแปลกประหลาดใน
ทราบวานักเรียนคนหนึ่งไมมีเงินจายคาเลาเรียน คางชําระมา สังคมไทย “ชอบทําบุญแตไรน้ําใจ" เปนพฤติกรรม ที่พบเห็น
สองเทอมแลว เธอตัดสินใจไลนักเรียนคนนั้นออกจากโรงเรียน ไดทั่วไปในหมูชาวพุทธ ทําใหเกิดคําถามขึ้นมาวาคนไทยนับ
ทันที ถือพุทธศาสนากันอยางไรจึงมีพฤติกรรมแบบนี้ กันมาก เหตุ
“สายใจ" พาปาวัย 70 และเพื่อนซึ่งมีขาพิการไป ใดการนับถือพุทธศาสนา จึงไมชวยใหคนไทยมีน้ําใจตอเพื่อน
ถวายภัตตาหารเชาที่วัดแหงหนึ่ง ซึ่งมีเจาอาวาสเปนที่ศรัทธา มนุษย โดยเฉพาะผูที่ทุกขยาก การทําบุญไมชวยใหคนไทยมี
นับถือของประชาชนทั่วประเทศ เชาวันนั้นมีคนมาทําบุญคับ เมตตากรุณาตอผูอื่นเลยหรือ
คั่ง จนลานวัดแนนขนัดไปดวยรถ เมื่อไดเวลาพระฉัน ญาติ (บางสวน จาก บุญที่ถูกลืม โดย พระไพศาล วิสาโล)
โยมก็พากันกลับ สายใจพาหญิงชราและเพื่อนผูพิการเดิน

สดใส
ยาหนึ่งชอนชามักจะใชไมถูก เมดิเคิลสคูล แหงมหาวิทยาลัยเอกซีเตอร ผูที่ไดศึกษาเรื่อง
คุณมักจะไดขนานยาที่ผิด ถาคุณรินยาแกไอให ระดับบีพีเอในประชากรสวนใหญของสหรัฐเปนระยะเวลานาน
ตัวเองหรือบุตรโดยใชชอนชาในครัว ซึ่งมันมักจะไมไดผล กวา 3ป
(ไดรับปริมาณยานอย) หรือ เปนอันตรายได การศึกษานี้ไดจุดชนวนใหมีการรณรงคเพื่อการหาม
ในการทดสอบหนึ่ง มีจํานวนผูปวยที่เปนหวัดและ ใชเคมีภัณฑโดยสิ้นเชิง ซึ่งหลายประเทศไดหามใชผลิตภัณฑ
ไขหวัดใหญรวม 195 คน ถูกซักถามถึงการรินยาแกไขหวัด เคมีพลาสติกในขวดนมเด็ก และของเลนเด็ก หลังจากได
ใหญชนิดกลางคืนลงในชอนที่ระบุไวที่ฉลากยา พบวาคนไข ทราบเรื่องวามันกอใหเกิดความเสี่ยงดานสุขภาพในทารก
ทุกรายไดรับปริมาณยาที่ผิด ไมวาพวกเขาจะรินยา 8% นอย ในทางกลับกัน ผูผลิตผลิตภัณฑเคมีก็ไดมีการตอสู
กวาที่ระบุ หรือ 12% มากกวาที่ระบุ การหามใชเคมีภัณฑอยางสิ้นเชิง ซึ่งเปนโรงงานอุตสาหกรรม
ดร. ไบรอัน แวนซิงค หัวหนาทีมวิจัยแหงคอรแนล ที่ผลิตเคมีภัณฑมากเปนอันดับตนๆ ของโลกดวยจํานวนผลิต
ฟูดแอนแบรนดแลบ กลาววา “ฟงดูแลว12% อาจจะดูไมมาก 2.2 ลานตัน (6.4พันลานปอนด) ตอป
นัก แตถานับวาเราตองทานยาทุก 4-8 ชม. เปนเวลานานถึง โยคะชวยลดสาเหตุของการเกิดปญหาทางสายตา
4วัน ดังนั้น ปริมาณยาที่ไดรับเมื่อรวมๆแลวจะไปถึงจุดที่ และโรคไขขออักเสบ
ไมไดประสิทธิผล หรือจะเปนอันตรายมากๆ ได” โดยที่ ดร. นักวิจัยพบวา วิธีทางธรรมชาติ ที่ตอตานการอักเสบ
ไบรอันไดแนะนําใหใชฝาตวงวัด หรือ ดรอปเปอร หรือ ชอน ที่มีสาเหตุมาจากปญหาสุขภาพตางๆ เชนการเสื่อมตามอายุ
ยา หรือ ไซริง เพื่อที่จะไดรับปริมาณยาที่ถูกตองตามที่ระบุไว ของจอประสาทตา โรคหัวใจ และไขขออักเสบ
ในฉลากยา การฝกโยคะเปนประจํา ชวยลดสสารในเลือดที่เปน
นักวิจัยไดยืนยันแลววา สาเหตุของการอักเสบ นักวิจัยคนพบเมื่อทําการติดตามดาน
เคมีพลาสติกเปนสาเหตุของโรคหัวใจ สุขภาพในกลุมของผูหญิงที่ฝกโยคะเปนเวลาอยางนอย 2 ปมี
นักวิจัยไดยืนยันแลววา สารเคมีที่พบในภาชนะ สารที่กอการอักเสบในเลือดอยูในระดับต่ํา และระดับของสาร
พลาสติกของอาหารและเครื่องดื่มเปนสาเหตุของโรคหัวใจ นั้นไมไดสูงขึ้น เมื่อถูกใหอยูในสถานการที่เครงเครียด เชน
สารตกคางทางเคมี บีพีเอ หรือไบฟนอล เอ, การคํานวณเลขในใจ ถึงแมวาการฝกโยคะนั้นอาจชวยได แต
(Biphenol A), ถูกตรวจพบไดในคนทั่วไปถึงรอยละ 90 ความ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สเตท ยังไมแนใจวา มันเกิด
เชื่อมโยงถึงโรคหัวใจไดถูกนําขึ้นมาโดยนักวิจัยจาก เพนซูลา จากการหายใจ หรือวาการเคลื่อนไหวและการอยูในทาอาสนะ
1002 7
คุกอินเดียเก ลดโทษใหนักโทษหากเขาคอรสฝกโยคะ ดานเจาหนาที่พัสดีระดับสูงของเมืองจิวัลลอร กลาว
สํานักขาวตางประเทศรายงานเมื่อวันที่ 25 ม.ค.วา วา ทางแควนไดดําเนินกิจกรรมดังกลาวในเรือนจําหลายแหง
เรือนจําเมืองจิวัลลอร ในแควนมัธยประเทศ ไดเสนอจะลด จุดประสงคพื้นฐานก็เพราะ โยคะสามารถเรียนรูศิลปะ, ผอน
โทษใหแกนักโทษหากเขาคอรสเขาฝกโยคะ โดยจะลดโทษ คลายความเครียด รวมทั้งทําใหพวกเขามีสุขภาพที่ดี
จําคุกใหเปนเวลา 36 วัน และผลปรากฎวาประสบความสําเร็จ อยางไรก็ตาม เมืองจิวัลลอรไมใชเมืองแรกที่ริเริ่ม
อยางดี มีนักโทษเขาสมัครกวา 400 คน และมีนักโทษกวา 60 ไอเดียนี้ แตเปนเมืองทิฮาร ที่นําโยคะมาใชกับนักโทษเพื่อ
รายเตรียมจะไดรับการปลอยตัวกอนกําหนด ชวยผอนคลายความเครียดใหแกคนเหลานี้

ประสบการณเปลี่ยนชีวิต
ดร.จอหน เอฟ ดีมารตินี่ เขียน เอกชัย อัศวนฤนาถ แปล
สนพ.ตนไม ราคา 295 บาท 340 หนา
แนะนําหนังสือคราวนี้ หยิบเอาหนังสือฮาวทูเลมไม ในชีวิตนี้ ฉันไมคิดวาเขาจะไปไดไกลสักเทาไรนัก ถาเปนคุณ
ดังจากแผงหนังสือมาบอกเลากัน เห็นวามีประเด็นที่ตรงกับ ฉันจะใหเขาหัดเลนกีฬา”
ความสนใจของครูโยคะ โดยเฉพาะในเรื่อง “การพัฒนาตนเอง เมื่ออายุ 14 ป ผูเขียนออกเผชิญชีวิต ไดไปยัง
ดวยตนเอง” แคลิฟอรเนีย พบชายจรจัดคนหนึ่งซึ่งสอนเขาวา “ขอแรก ไอ
นวัตกรรมที่ผูเขียนนําเสนอคือ “การสลายควอนตัม” หนู อยาตัดสินวาหนังสือดีหรือเลวจากปกของมันเปนอันขาด”
ชื่ออาจจะฟงออกแนวเซอรๆ แตโดยสาระแลว เปนความ และขอสอง “หัดอานหนังสือใหได ไอหนู แกตองหัดอาน
พยายามเชื่อมโยงฟสิกสใหมในยุคควอนตัม เขากับการ หนังสือใหได เพราะมีเพียงสองสิ่งเทานั้นที่โลกไมสามารถเอา
ยกระดับปญญาหรือจิตวิญญาณของมนุษย แตไมตองกลัว ไปจากแกได ความรักและปญญาของแก” ทุกวันนี้ ผูเขียน
หนังสือไมไดลงลึกเรื่องฟสิกสใหปวดหัว เขาแคอธิบายพอ ยังคงจําคําพูดของชายจรจัดนี้ไดไมเคยลืม และสองสิ่งนี้ก็เปน
สังเขป โดยเนนผลที่ไดรับจากการเปลี่ยนปลงตนเองเปน สาระสําคัญในการบรรยายทั่วประเทศของเขา รวมทั้งใน
สําคัญ หนังสือเลมนี้ซึ่งมีวัตถุประสงค “จะชวยขจัดอารมณที่ไมสมดุล
“กระบวนการสลายควอนตัม สอนใหมนุษยรับผิด และรวบรวมมันกลับเขามาใหมเปนรักแทแหงการมีปญญา”
ชอบตอตัวเองอยางเต็มที่ และสัมผัสกับความดีงามในตัว มัน พออายุ 17 ป ผูเขียนไดพบกับพอล แบรกก ครู
เปนการเปลี่ยนแปลงในกระบวนทัศนอันยิ่งใหญที่สุดเทาที่ฉัน โยคะอายุ 93 ป ผูบรรยายเรื่องกฎจักรวาลใหเขาฟงในเวลา
เคยพบมา การสลายควอนตัมไมใชเรื่องของการทําใหสิ่งใดๆ 45 นาที สอนใหเขานั่งสมาธิ และนําเขาไปสูนิมิต ที่เขาเห็น
ดีขึ้น ... แตมันเปนเรื่องเกี่ยวกับการปฏิรูปวิธีคิดและความ ตัวเองเปนนักบรรยาย นักบําบัด และทําใหเขากลายเปนนัก
เขาใจอยางแทจริง... เมื่อเราปฏิรูปความคิด เราจะเปลี่ยน บรรยาย นักบําบัดอยูในทุกวันนี้
รูปแบบของความรูสึกและชีวิตของเราใหม... ดร.ดีมารตินี่ชวย คุรุ 2 ทานนี้ ทําให ดีมารตินี่ เดินทางกลับบาน ที่
ใหเรากลายเปนผูกําหนดโชคชะตาของตัวเอง โดยไมตกเปน เท็กซัส “ผมอุทิศชีวิต ทุมเทใหกับการเรียนรูที่จะอาน สอบ
เหยื่อของอดีตอีกตอไป” จากคํานําของหนังสือฯ โดย บลังกา เทียบชั้น สอบคัดเลือกเขามหาวิทยาลัยวารตันได ผมเอาจริง
ดีเอช พ.บ. ผูอํานวยการฝายการแพทย ฮุสตัน เท็กซัส เอาจังกับโอกาสในชีวิตครั้งนี้มากและตั้งใจเรียนอยางหนัก
หนังสือบอกเลาประสบการณตรงของตัวผูเขียน ซึ่ง เพราะผมเคยเชื่ออยางฝงใจวา จะไมมีวันประสบความสําเร็จ
เปนทั้งหมอจัดกระดูก นักบําบัด นักบรรยายระดับประเทศ ดานการศึกษาไดเลย สองปตอมา วันหนึ่ง ขณะที่ผมกําลัง
นักศึกษาวิทยาศาสตรที่วาดวยกฎของจักรวาล และ นักศึกษา อานหนังสือเตรียมสอบในหองสมุด เพื่อนรวมชั้นคนหนึ่งเดิน
ปรัชญา ซึ่งเมื่อตอนอยูชั้นประถมปที่ 1 ครูประจําชั้นบอกพอ เขามาหาผมพรอมกับพูดวา จอหน ฉันขอนั่งดูหนังสือกับเธอ
แมตอหนาตัวเขาเองวา “ลูกของคุณมีความบกพรองในการ ไดมั้ย จากนั้นเพื่อนอีกหลายคนนั่งลอมเปนวงกลมรอบตัวผม
เรียนรู ฉันเกรงวาเขาจะไมมีวันอาน เขียนหรือสื่อสารกับใคร ที่คอยตอบคําถามตางๆ ตลอดเวลา คือผมกําลังติวแคลคูลัส
อยางปกติไดเลย คุณไมควรหวังวาเขาจะทําอะไรไดมากนัก
1002 8
ใหพวกเขา! ผมเนี่ยนะ! ผมไดยินอีกคนกระซิบกับเพื่อนวา นี้มีแนวทางการสื่อสารอธิบายเรื่องของจิตวิญญาณในภาษา
จอหนเขาเปนอัจฉริยะ เขาเปนอัจฉริยะจริงๆ” ของวิทยาศาสตรฟสิกสที่นาสนใจ
ลองหาอานดูนะครับ ใครที่ยังลอยลอยอยู จะเกิดแรง ครูโยคะ... ตองอานหนังสือมากๆ นะ
บันดาลใจมากขึ้น สวนใครที่ไปไดระดับหนึ่งแลว หนังสือเลม

หนู-นอย
เมื่อนักเรียนโยคะโดนแมวกัด “หนูเคยโดนหมากัดมาแลวคะ .. ไมเห็นตองฉีดยา
ที่เราอยากเลาเรื่องนี้ใหฟง ก็เพราะวามันเกิดขึ้นกับ ชาที่แผลเลย”
ตัวเอง 2 วัน กอนวันคริสตมาสป 2552 “แมวนะ รายกวาหมาอีกนะ” หมอบอก ..คราวนี้มี
เราตื่นมาตอนเชาก็ทําอะไรตามปกติ ตอจากนั้นเปน คนมาชวยเสริมเต็มเลย เชน ใชปากแมวสกปรกกวาปากหมา
เวลา 9 โมงเชาเรากําลังจะออกไปขางนอกเพื่อไปเลือกหา แตที่สกปรกที่สุดก็ปากคนนี่แหละ.. อีกคนบอกวา มีคนถูก
ของขวัญที่จะนําไปสวัสดีปใหมใหกับคนที่เคารพ ... เสียงแมว แมวกัดสุดทายตองเขา ICU เพราะติดเชื้อ.. อีกคนบอกวา
ทะเลาะกันอีกแลว.. บางคนตองตัดขาทิ้งก็มีนะ... เปนตน
เจาแมวตัวผู 2 ตัว (โคลากับสมฉุน) กําลังทะเลาะ “ก็ไดคะ ฉีดก็ฉดี ” ที่ยอมเพราะอะไรรูไหม? เพราะ
กัน .. เหมือนเดิมเราเขาไปจับตัวแยกจากกัน แตคราวนี้มันไม นึกขึ้นมาไดวาคุณพอของอดีตเจานายตองเสียชีวิตเพราะโดน
เหมือนเดิม เพราะวาพอแยกกันไดไมถึง 1 นาที เจาสมฉุนมัน แมวกัด
คงกําลังฉุนเต็มที่ (สมชื่อมัน) เลยกัดเขาที่เทาฉันแบบเต็มแรง หลังจากทําแผลเสร็จ ก็คิดวาเรียบรอยกลับบานได
เต็มเขี้ยว ตอนแรกที่เห็นคือแผลที่หลังเทา เปนเม็ดขาวสาร 3 แตวาเปลาหรอก หมอบอกวา “เดี๋ยวตองฉีดยาอีกนะแลวก็มี
เม็ดเรียงติดกัน 3 แผล มีเลือดไหลอยูที่ปากแผล (ถาจะให ยากลับไปที่บานดวย” ... เหวอ.. เอาอีกแลวรึเนี่ย “ฉีดอะไรอีก
เห็นภาพงายๆ ก็คือ ที่ฝาปดถวยกาแฟรอนที่เปนพลาสติกจะ หรือคะ”
มีรูอยูแลวมีฟองนมลนออกมา แผลก็จะเปนประมาณนั้น) แต หมอยิ้มดวยหนาดูแลวรูไดเลยวาเสร็จอีกแน “เข็ม
นี่มันสุดๆ เลย เรายืนตอไมไหวเลย มันปวดแปลบมาตามเสน แรก เปนการปองกันบาดทะยัก สวนเข็มที่ 2 เปนการปองกัน
ที่ขอเทาตองเอามือกดไว จะลุกก็ลุกไมได ..ทําไงดีละ ตะโกน พิษสุนัขบา”
เรียกสามีใหมาชวย แตเจากรรม เขาอยูในหองน้ําชั้น 2 ไมได “หมอคะ.. หนูเคยฉีดบาดทะยักแลวคะ ..ตอนนั้น
ยินที่เราเรียก ก็ตะโกนไปรองไหไปอยูอยางนั้น คิดวา โดนหมากัด”
ประมาณ 5 นาทีได “กี่ปแลวครับ”
เอาละไดสัตวแพทย (สามี) มาชวยแลว เราก็คิดวา “ประมาณ 5-6 ป ไดแลวคะ”
คงไมเปนไรมากใสยาทําแผลเรียบรอย แตวามันยังไมหมดแค “OK เคยฉีดบาดทะยักแลว เพราะวายาอยูได 10 ป
นั้น เขาบอกวาตองไปโรงพยาบาล ..ฉีดยา.. ถางั้นหรือฉีดแคปองกันพิษสุนัขบา 5 เข็ม”
“/ ฉีดยาหรอ.. ไมฉีดไดไหมกลัวเข็มงะ” “ฮา!!! 5 เข็ม..”
“ไมไดตองไปฉีด” “ใจเย็น ใจเย็น ไมไดฉีดวันนี้ 5 เข็ม แตวาเปน
เอา!! ไปก็ไป พอไปถึงโรงพยาบาล โอ.. ตองไปหอง โปรแกรมการฉีดปองกันพิษสุนัขบา ที่ตองฉีดใหครบ 5 เข็ม
ฉุกเฉิน คราวนี้หมอจริงๆ มาดูให หมอบอกวามันมีทั้งหมด 4 ตามกําหนดเวลา สวนวันนี้เปนเข็มแรกเทานั้น” หมอหัวเราะ
รู ที่ฝาเทาอีกรู (แตแปลกที่เราและสามีไมไดมองที่ฝาเทาเลย) กับความกลัวเข็มของเราอะไรจะขนาดนั้น
หมอบอกวา “เดี๋ยวทําแผลใหมนะ.. ตองฉีดยาชาที่ “แลวก็ยาที่จะใหกลับไปก็มี ยาตานการอักเสบ 1 ตัว
แผลกอน เพราะวามันคอนขางลึก ไมเจ็บหรอก” ยาฆาเชื้อ 2 ตัว”
“ไมฉีดไดไหมคะ.. หนูกลัวเข็มคะ” (คิดดูซิ 4 แผลก็ “ไดคะ.. ฉีดเลยคะ” ตองทําใจอยูสักพัก
ฉีด 4 ครั้ง) นั่นแหละ.. จากนั้นเราก็ตองไปทําแผลที่โรงพยาบาล
“ไมไดหรอก ไมอยางนั้นทําแผลไมได เพราะวามัน ทุกวัน ตองมีการลอกเอาเนื้อเยื้อของเสียออกอยูเกือบทุกวัน
ตองทําความสะอาดขางในใหสะอาดที่สุดเทาที่จะทําได ซึ่งจะ เจ็บสุดๆ สวนยาตองรับยาทั้งหมด 2 คอรส โปรแกรมฉีดยาก็
เจ็บมาก แลวที่สําคัญมันมีโอกาสเกิดหนองขึ้นได” ฉีดตามกําหนดที่หมอนัด ซึ่งจะฉีดเข็มสุดทาย 22 มกรา 53

1002 9
ชวง 10 วันแรก ตองแขวนขาไว เพราะวาจะขยับ ตื่นตูม
นิ้ว-ขอเทาก็ปวด (เหมือนกับวามันปวดมาตามเสน) ถานั่ง การเจ็บครั้งนี้ ทําใหเราฝกทาศพไดอยางรูซึ้งทีเดียว
หอยขาหรือเดินก็จะเกิดอาการบวมขึ้นมา งายๆ แคยืนก็ลง (เพราะการแขวนขา) ...เทาที่เราเขาใจนะ มันทําใหเรารูสึกได
น้ําหนักที่เทาซายไมได เราก็บอกหมอวามันปวดอยางนี้ โดยเฉพาะขาที่ถูกแขวนอยู มันเหมือนกับวาขานั้นไรซึ่งแรง
พยาบาลที่ทําแผลใหบอกวาแผลมันคอยขางลึก แลวมี 2 แผล ใดใดมีเพียงแรงตานจากผาเทานั้น จากนั้นขาทั้งทอนจะรูสึก
ที่วาทาลึกกวานี้อีกหนอยก็โดนเสนเลือดใหญ สวนสามีบอก ไดปลอยวางอยางแทจริง และนั่นทําใหเราสามารถนําความ
วามันอาจมีการกระทบเทือนที่ปลายประสาท เสนเอ็น .. เฮอ.. รูสึกปลอยวางนั้นมาใชกับสวนตางๆ ของรางกายไดตั้งแต
ยังไงก็ขอใหหายเร็วๆ ก็แลวกัน เพราะวันที่ 22 มกรา เราตอง ศีรษะ ใบหนา แขนทั้ง 2 ขาง ลําตัว ขา รวมทั้งความคิดตางๆ
ขึ้นไปเชียงใหม ดวย ...เปนความรูสึกที่ยากจะบรรยาย.. อยางเชน แคหลับตา
แตอะไรก็ไมเทากับวามันสะดุดใจวาแลวเราจะฝก ใครๆ ก็หลับตาได แตหลับตาอยางไรใหปลอยวางไดจริง เคย
โยคะอยางไรดี เพราะหมอบอกวาคงตองใชเวลาอยางนอยก็ ไหม? หลับตาแลวแตเหมือนกับวายังมองอยู หรือจมูก
2 อาทิตย นี่เราเพิ่งจะไดฝกทา Headstand เองนะ (ไมเขาใจ ปลอยวางจมูกไดไหม ยังเหมือนกับวายังขยายหรือบีบอยู
เหมือนกันวาทําไมถึงใหความสําคัญกับอาสนะนี้ .. แตถาให ไหม? เปนตน
เดา คงเปนเพราะวาเสียงที่ไดยนิ อยูเสมอวาอาสนะนี้สุดๆ “นิ่ง สบาย ใชแรงนอย มีสติ” เปนตามนี้จริงๆ
บวกกับ “ความอยาก” ทําอาสนะนั่นเอง) เพราะฉะนั้นฝกและศึกษาโยคะกันตอไปเถอะคะ .. แลวจะรูวา
แลวก็ไดคิด!! .. โยคะไมไดมีแตอาสนะเทานั้น เรา เรายังตองฝกและศึกษาอีกมากมายนัก
ฝกปราณายามะได ฝกสมาธิได ปล. สวนแผลก็ยังไปทําแผลอยางสม่ําเสมอ (กลัวเปน
ที่สําคัญ สติ เพราะขาดสติ จึงตกใจกลัวเปนกระตาย แผลเปนจังเลย...)

ล.เลง เสียงกระดิ่งหยก (ไมใชมงั กรบิน)


โยคะการละคร : ตอน พี่ดา พี่เหมียว เปนเสนประสาท (ทาประจําตัว...นักรบ
ปศจิโมตตานาสนะ หรือ ทาเหยียดหลัง หันหลังชนกัน)
“เสนประสาท คอยบอกวา มันเจ็บจนเกินจะทน
...จนหามใจ หามใจ ไมไหว”
หลี เลง เปน เสนเอ็น (ทาประจําตัว...ยืนยอเขา กําหมัด...
แสดงพละ กําลัง และความแข็งแรง)
“เสนเอ็นคอยดึงเสนเลือด และพาเสนประสาท
โยคะการละคร ขอเสนอ... ละครโยคะ เพื่อความรู กลับบาน เวลาพวกเคาหนีไปเที่ยวคา”
และความบันเทิง แกพอแม พี่นอง ทุกทาน...เอา! เรเขามา เร พี่ออด พี่มาลี เปนคนพากยเสียงตัวละคร
เขามา...ละครของเราจะเริ่มตน ณ บัดนี้ ฉากที่ ๑
กอนอื่น ขอแนะนํา ผูแสดงนําดังนี้ (นักแสดง ยืนขึ้น เคยสงสัยไหมคะ? วาทําไม หมอเขียว ถึงบอกให
ตามลําดับ) พวกเรา ทําโยคะอาสนะแบบ “ผอนคลาย สบายๆ” ไมทํา
จ้ํา เปน ผูแสดง ทาเหยียดหลัง แบบที่๑ (ถูกตอง) ... แรงๆ เอาเยอะๆ
พับตัวลงจากขอสะโพก หลังเหยียดตรงเปนไม ลองมาดูกันนะคะ วามีอะไรเกิดขึ้นกับ ๓ เกลอใน
กระดาน รางกายเราบาง
บี เปน ผูแสดง ทาเหยียดหลัง แบบที่๒ (อันตราย)...
โกงหลัง ขยมตัว เพื่อใหกมไดมากๆ เอาหัวมุดๆลง เสียงหมอเขียว เอา! กมตัว... ทําชาๆ สบายๆ ตึง...เทาที่
ไป รูสึกสบาย และมีพลังที่สุด (จ้ํา: ทําทา
พี่ปุ พี่สุ เปน เสนเลือด (ทาประจําตัว... กางแขน รอนลม เหยียดหลัง)
ชมเวหา)
“เสนเลือด ลําเลียงอาหารคา”

1002 10
เสนเลือด (ยืนขึ้น ดึงเชือก) เฮอ! ไดเหยียดแลวคอย ๑. เสนเลือดก็ตีบ ทําใหเลือดไปเลี้ยงเสนประสาทไมพอ
ยังชั่วหนอย (ทําทากระแดะๆ ) เสนเลือด อาจเปนเหน็บชา และเกิดการบาดเจ็บได
นอนขดตัวอยูตั้งนาน...นาน เมื้อย...เมื่อย ๒. เสนประสาทก็ตึงเกินไป อาจทําใหเราปวดหลัง แลว
เสนประสาท ใชแลว ไดยืดเสนยืดสาย เสนประสาท ลามไปปวดแขน ปวดขาได
คอย ซูซา คึกคักหนอย...แบบนี้ใหไป ๓. เสนเอ็นก็เลยตองดึง ๒ สหายกลับมา เพื่อไมใหเสน
เตะปป ๑๐ ปป ก็ยังไดเลย! เลือด และเสนประสาทเคาเจ็บตัวมากเกินไป
เสนเอ็น จริงแฮะ! เสนเอ็นก็ชอบเหยียดยืดนะ (ทํา
ทากั๊ตจัง อาราเร ดีใจ) ไมงั้นเสนเอ็นเซ็ง หากเราทําอาสนะแคพอดีๆ ก็จะรูสึกสบาย และผอน
นาดูเลย เวลาคุณจ้ํา แกอยูเฉยๆ เสนเอ็น คลาย ทําเสร็จแลว ก็สดชื่นแข็งแรง
รูสึกเหมือน หนังสะติ๊กตากแหง แขง...แข็ง หากเราทําอาสนะมากเกินพอดี แทนที่จะดี กลับบาดเจ็บ
(ทําหนาเมื่อย) ปวดหลัง เสนเอ็นฉีกขาด ตองเสียเงิน เสียเวลาไปหาหมออีก
นะคะ
ฉากที่ ๒
ทีนี้เรามาลองทําทาเหยียดหลังแบบที่ ๒ กันนะคะ ฉากที่๔
เสียงพากย เรามาลองดูการทําทาเหยียดหลัง ๒ แบบ
เสียงพากยโหดๆ เอา! กมตัว ทําแรงๆ เอาเยอะๆ ทําใหได คือแบบโกงหลัง และแบบพับตัวลงไป เปนไม
เหมือนครูนะ ไมงั้นไมเทห(บี:ทําทากมตัว กระดาน แบบไหนจะมีผลอยางไร
แบบขยม)
เสนเลือด โอย! ดึงตึงขนาดเนี้ยะ เสนเลือดตีบพอดี
เดี๋ยวเลือดไปเลี้ยงเสนประสาทไมพอ เปน
เหน็บชา และอาจบาดเจ็บไดนะเนี่ย (ดึง
แบบ ชักคะเยอ) บี อยากกมใหไดเยอะๆ แตหลังแข็ง ลงเยอะไมได ก็
เสนประสาท เสนประสาทก็เจ็บนะ เดี๋ยวคุณบีก็ปวด เลยโกงเอา ดวยการโกงหลัง แลวมุดหัวลงไป ทําแบบนี้
หลังหรอก พอปวดหลังนะ เดี๋ยวก็ลามไป หมอนรองกระดูกอาจปูดออกมา(ชี้ตําแหนงหมอนรองกระดูก)
ปวดแขน ปวดขาดวย ถายังเปนเด็ก ปูดออกมาแลว ก็เดงกลับเขาที่ได แตถาสูงวัย
เสนเลือด + เสนประสาท เสนเอ็นจา! ชวยดึงพวกเรากลับ แลว หมอนรองกระดูกปูดออกมาและไมยอมเดงกับเขาที่
บานที พวกเราตึง และเจ็บจนจะทนไม หมอนรองกระดูกปลิ้นคาอยูอยางนั้น ยิ่งทําก็จะยิ่งแยลง เปน
ไหวอยูแลว โรคหมอนรองกระดูกกดทับเสนประสาท ตองปวดหลัง มารอง
เสนเอ็น ไดครับทาน เดี๋ยวจัดให ทันทีเลย (เริ่ม โอดโอยกันอีก
สาวเชือก อยางตั้งใจ) (บี ถอยหลังคืน
กลับ เลิกขยม)
เสนเลือด + เสนประสาท เฮอ! คอยยังชั่วหนอย เสนเลือด
+ เสนประสาท ไมตายแลว (ยิ้ม)
เสียงพากย ละครของเราก็จบลงแลว ขอเสียงตบมือ ทีนี้เรามาดูแบบที่ จ้ํา พับตัวลงไป เปนไมกระดาน
ใหนักแสดงของเราดวยคะ (แปะๆ) แบบนี้ ถึงแมวาจะกมไมไดมาก แต หมอนรองกระดูก
(๓ เกลอ ลาโรง) ปลอดภัยกวา และถาอยากจะกมตัวใหไดมากขึ้น ก็ใหขยับ
ฉากที่๓ สะโพก (กน) ไปขางหลังกอน ทําใหเหยียดขาไดมากขึ้น กม
จ้ํา กับ บี นอนทาศพ มีแตเสียงบรรยาย ไดงายขึ้น (รายละเอียด หาอานไดจาก การวิเคราะหทา
เสียงพากย เห็นไหมคะ เวลาเรากมตัวแบบ เร็วๆ อานะพื้นฐานโดยนักกายภาพบําบัด ของ อ.คมปกรณ
แรงๆ เอาเยอะๆ ทําดวยความโลภ ๓ เกลอของเรา ลิมปสุทธิรัชต หนา ๔๕ และ หนา ๕๒)
ก็เจ็บตัวนาดูเลย
1002 11
ฉากที่๕ สมาธิ ไมจดจอ กับการทําอาสนะแบบมีสติ มีสมาธิ จดจออยู
เสียงพากย คราวนี้ ทุกคนลองนั่งเหยียดขา มือวาง กับตัวเอง รับรูความรูสึกที่เกิดขึ้นภายในรางกาย...เปนยังไง
บนขา เอามือทําปูไต กมตัวจากขอสะโพก หลังตรงเปนไม กันบาง รูสึกสงบ สบาย และผอนคลาย มีความสุขใชไหมคะ
กระดาน กมไปเรื่อยๆ สุดแลวคางไว ถาใช... ใหพูดเสียงพรอมๆ กันวา...ความสุข...มีความสุข...มี
ทีนี้ หันไปดูเพื่อนขางซาย เรากับเพื่อนใครทําได ความสุขจังเลย!
เยอะกวากัน (พักใหดู ๑๐ วินาที) แลวหันไปดูเพื่อนขางขวา สรุป
เปนยังไงบาง (พักใหดู ๑๐ วินาที) [ทําแบบไมจดจอ หันซาย สุดทายนี้ คณะโยคะการละคร ก็หวังใจวาเพื่อนๆ จะ
ที ขวาที] ไดฝกโยคะแบบมีสติ มีสมาธิ ดูตัวเอง ดูรางกาย ลมหายใจ
ทีนี้ เอาหัวกลับมาตรงกลาง ดูขาตัวเอง หลับตาลง จิตใจของเรา ไมตองไปดูคนอื่นเขา ไมตองไปแขงกับใคร
เบาๆ (พัก ๑๐ วินาที) หายใจเขา ทองพอง หายใจออก ผอน ตอนนี้ เขากับเรา...ไมเกี่ยวกัน
คลาย ทองแฟบลง ขอใหทุกทาน มีความสุข กับการฝกโยคะอาสนะ
หายใจชาๆ สบายๆ ... รับรูความรูสึกที่ ทองพอง อยางถูกตอง มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งกายและใจคะ
ทองแฟบ และการกดนวดที่ชองทอง กระเพาะอาหาร ลําไส สวัสดีคะ
ตับ มาม ไต (คางไว ๑ นาที) แสดงครั้งแรกที่ คายหมอเขียว โรงเรียนฝกผูนํา พลตรีจําลอง
คอยๆ ยืดตัวขึ้น พักในทานั่งพัก...รับรูความรูสึกที่ ศรีเมือง จ. กาญจนบุรี ระยะเวลาแสดง ๑๐ นาที ผูแสดง ๘
เกิดขึ้นจากการคลายตัวของชองทอง แผนหลัง เห็นความ คน คนพากย ๒ คน อุปกรณ เชือกสีตางกัน ๓ เสน..
แตกตางของการทําโยคะอาสนะ แบบตามองดูเพื่อน ไมมี

วีระพงษ ไกรวิทย และจิรวรรณ ตั้งจิตเมธี แปลและเรียบเรียง


สิ่งรบกวนจิตใจกับอาการที่ปรากฏภายนอกทั้ง ๔ ซึ่งมีความละเอียดและซอนอยูภายใน สวนอาการสองอยาง
“ทุกขเทารมนัสยางคเมชยัตวศวาสะ-ปรัศวาสา หลังนั้น คืออาการสั่นของรางกายและลมหายใจที่ถูกรบกวน
วิ-กเษปะสหภุวะห” เปนขอความในโยคะสูตรบทที่ ๑ เปนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยตรงทางรางกาย และ
ประโยคหรือโศลกที่ ๓๑ แปลไดความวา ความเจ็บปวดและ สามารถสังเกตเห็นไดงาย คราวนี้ลองมาพิจารณาอาการทั้งสี่
ความทุกข (ทุกข) ความหดหูใจ (โทมนัส) การสั่นของรางกาย อยางในรายละเอียดกัน
สวนตางๆ (อังคเมชยัตวะ) และความแปรปรวนของลมหายใจ ทุกข หมายรวมถึงทั้งความเจ็บปวดทางกายและ
เขาและลมหายใจออก (ศวาสะ-ปรัศวาสะ) อาการทั้ง ๔ อยาง ความทุกขทางใจ บอยครั้งที่ความทุกขทางใจกอใหเกิดความ
นี้เกิดขึ้นเพราะวาจิตถูกรบกวน(นั่นเอง) เจ็บปวดทางกาย หรืออยางนอยที่สุดก็นําไปสูความไมสบาย
สิ่งรบกวนจิตใจนั้น เกิดขึ้นอยูภายในและอาจจะไม ทางกาย ความเจ็บปวดหรือความไมสบายทางกายสามารถ
สามารถรับรูไดงายนัก แตการปรากฏตัวของมันสามารถดูได ตรวจพบไดงายๆ โดยดูจากการที่บุคคลนั้นมักจะปรับเปลี่ยน
จากอาการภายนอกที่เกิดขึ้นมาพรอมๆ กัน ซึ่งก็คืออาการ ทาทางของตนเองอยูบอยๆ (เชน ขณะอยูในทานั่ง เมื่อมี
ภายนอกทั้งสี่อยางที่กลาวถึงแลวขางตน อาการทั้งสี่นี้จะตอง ความรูสึกไมสบายทางรางกาย ไมวาจะเปนความปวด เมื่อย
มีอยางนอยหนึ่งอยางปรากฏขึ้นเมื่อมีสิ่งรบกวนจิตใจ และ ชา ทําใหตองปรับเปลี่ยนทาอยูบอยๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความไม
ความเขมขนของอาการภายนอกที่เกิดขึ้นนั้นจะแปรเปลี่ยนไป สบายที่เกิดขึ้นทางกายนั้น -ผูแ ปล)
ตามความหนักเบาของกิจกรรม(ที่รบกวนจิต) เนื่องจาก เทารมนัสยะ (โทมนัส) คือความหดหูสิ้นหวังทางใจ
อาการที่เกิดขึ้นภายนอกเหลานี้เปนผลมาจากจิตใจถูกรบกวน ยอมนําไปสูสภาวะที่ออนระโหยโรยแรงทางรางกาย ไมวาจะ
ดังนั้น เทคนิควิธีที่ใชในการควบคุมการรบกวนจิตใจยอมชวย มากหรือนอยก็ตาม ก็สามารถที่จะสังเกตเห็นไดจากทาทาง
ขจัดความเขมขนของอาการภายนอกที่เกิดขึ้นดวย และการปรับเปลี่ยนทาทางของรางกายเชนเดียวกัน
อาการ 2 อยางแรกคือทุกขและโทมนัสนั้น คอนขาง อาการสั่นในสวนตางๆ ของรางกายและสิ่งรบกวน
เปนเรื่องของจิตใจแตมีผลกระทบตอรางกาย อาการทั้งสองนี้ จังหวะการหายใจก็เปนสัญญาณที่คอนขางสังเกต หรือจับตอง
เปนเครื่องมืออยางงาย ที่ใชในการตรวจสอบสิ่งรบกวนจิตใจ ไดงาย สิ่งรบกวนจิตใจใดๆ ยอมกอใหเกิดอาการสั่นของ

1002 12
รางกาย และการเปลี่ยนแปลงหรือการรบกวนจังหวะการ และบริสุทธิ์ หรืออยางนอยที่สุดในโศลกที่ ๑:๓๔ ก็กลาวถึง
หายใจที่ราบเรียบปกติ ซึ่งอาจจะกระทบตอลมหายใจเขาหรือ การควบคุมและลดอาการภายนอกเหลานี้
ลมหายใจออกหรือทั้งสองทาง แมแตสิ่งรบกวนจิตใจหรือ “ตัต-ประติเษธารถเมกะ-ตัตวาภยาสะห” คือ
อารมณที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ก็สามารถทําใหเกิดอาการทั้ง ขอความในโยคะสูตรบทที่ ๑ โศลกที่ ๓๒ แปลไดความวา
สองคืออาการสั่นทางกาย (อังคเมชยัตวะ) และการแปร การแกไขการรบกวนจิตใจทําไดโดย ๑) ฝกตามหลักหรือ
เปลี่ยนจังหวะของการหายใจ (ศวาสะ-ปรัศวาสะ) ความเขม วิธีการอยางหนึ่งที่ไดแนะนําไว ๒) ทําตามหลักอภยาสะหรือ
ขนของอาการสั่นและการแปรเปลี่ยนจังหวะของการหายใจจะ การฝกปฏิบัติอยางสม่ําเสมอตามอัษฏางคโยคะ (มรรค ๘
เปนสัดสวนโดยตรง กับความเขมขนของการรบกวนทางจิตใจ ของโยคะ)
ความจริงแลว การหายใจของคนเรานั้นมีความสัมพันธใกลชิด คําสําคัญในโศลกนี้คือ เอกะตัตวาภยาสะห การแปล
กับสภาวะของจิตใจ กลาวไดวารูปแบบเฉพาะของการรบกวน ความหมายในโศลกนี้ จะแตกตางกันไปขึ้นอยูกับการแตก
จิตใจอยางใดอยางหนึ่ง อาจนําไปสูการเปลี่ยนแปลงลักษณะ คําศัพทของคําประสมและการใหความหมายของคํา คําขาง
ของการหายใจ อาจเปนไปไดที่เราจะระบุรูปแบบของอารมณ ตนมาจากคํา ๓ คําประกอบกันคือ เอกะ (หนึ่ง) + ตัตวะ
หรือการรบกวนจิตใจไดอยางละเอียดชัดเจน เมื่อเราสังเกต (หลักการ) + อภยาสะ (การปฏิบัติหรือศึกษา) ซึ่งการแตก
เห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการหายใจ ตัวอยางเชน เมื่อ คําศัพทในลักษณะเชนนี้ทําใหสามารถตีความไดเปน ๒ ความ
มีอารมณโกรธ ลมหายใจออกจะมีความเดนชัด เร็ว และแรง หมายตามที่กลาวไวขางตน ในความหมายแรกนั้นอรรถกถา
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยางเดนชัดนี้ ก็สามารถทําใหรูถึง จารยสมัยกอน บางทานที่ศึกษาตามแนวทางปรัชญาอทไวตะ
ความเขมขนของอารมณโกรธ จนนึกถึงคําพังเพยที่วา “โกรธ เวทานตะไดแปลความ “เอกะตัตวะ” วาเปนหลักการหรือ
เหมือนวัวบา” ความผิดหวังเสียใจนําไปสูลมหายใจออกที่ชา ความจริงสูงสุด นั่นคือพรหมัน ดังนั้นเขาจึงแปลความวาการ
และยาว ความกังวลใจนําไปสูลมหายใจเขา-ออกที่ตื้นและสั้น รบกวนจิตสามารถถูกแกไขโดยการนั่งสมาธิใครครวญจนเขา
การตกใจอยางแรงอาจทําใหเกิดการหยุดหายใจสั้นๆ ความ ถึงพรหมัน การแปลความเชนนี้ดูเหมือนวาจะไมไดรับการ
สนุกสนานนําไปสูการหยุดหายใจสั้นๆ เชนกันแตลมหายใจจะ ยอมรับไดงายนัก เพราะมันขึ้นอยูกับการยอมรับในปรัชญา
ไมตื้นมากนัก 2
อทไวตะ (ในขณะที่อีกดานหนึ่งนักวิชาการสวนใหญก็มี
อาการสั่นทางกาย และการเปลี่ยนจังหวะของการ ความเห็นวา ปตัญชลียอมรับแนวคิดทวินิยมของปรัชญาสาง
หายใจมีความสัมพันธอยางใกลชิดกับสิ่งรบกวนทางจิตใจมาก 3
ขยะ ) อีกประการหนึ่งของการตีความตามความหมายแรกนี้
เสียจนกระทั่งมันจะเกิดขึ้นควบคูกันทุกๆ ครั้งเมื่อมีสิ่งรบกวน ก็มีความไมชัดเจนตอการทําความเขาใจโศลกนี้ เพราะการ
จิตใจใดๆ เกิดขึ้น อยางไรก็ตามหากการรบกวนจิตใจไมไดมี
กําลังหรือความรุนแรงมากนัก อาการทั้งสองอยางที่เกิดขึ้นนี้ก็
2
จะเบาบางมากและอาจไมสามารถสังเกตเห็นไดโดยงาย โดย แนวคิดอทไวตะเวทานตะ กลาววา สิ่งตางๆ ในโลกลวนเปนมายาหรือทุก
เฉพาะถาผูสังเกตไมไดสังเกตอยางละเอียดประณีตมากๆ สิ่ง สิ่งเปนเพียงภาพปรากฏของพรหมัน (หรือพรหม) ซึ่งเปนความจริงสูงสุดเพียง
รบกวนจิตใจซึ่งยากที่จะจัดการไดนั้น สามารถที่จะเอาชนะได หนึ่งเดียว พรหมันจึงอยูในทุกๆ สิ่ง หากมีความเขาใจวามีพรหมันอยูในทุกสิ่ง
โดยการควบคุม และการลดอาการภายนอกที่เกิดขึ้นเหลานั้น และสามารถปฏิบัตติ อทุกสิ่งไดเชนเดียวกับที่ปฏิบัติตอพรหมัน ผูนั้นก็จะเขาสู
โดยอาศัยวิธีการบางอยางซึ่งสามารถปฏิบัติได เพราะวาโดย ความหลุดพน เชน มนุษยไมวาจะรวย จน มีฐานะสูงหรือต่ํา หรือแมแตสัตว
ตางๆ ตางก็มีพรหมันอยู หากบุคคลสามารถรักและเคารพในมนุษยและสัตว
ธรรมชาติแลวการควบคุมรางกาย เปนสิ่งที่ทําไดงายกวาการ
ตางๆ ไดอยางเทาเทียมกันเหมือนรักและเคารพในพรหมันแลว เขาผูนั้นก็จะ
ควบคุมจิตใจ อยางนอยที่สุดวัตถุประสงคอยางหนึ่งของการ เขาสูการหลุดพน (ผูแ ปล)
ฝกอาสนะและปราณายามะ (ของหฐโยคะ) ก็เพื่อที่จะสามารถ 3
แนวคิดทวินิยมของปรัชญาสางขยะ กลาววา สิ่งตางๆ ในโลกประกอบขึ้น
ควบคุมจิตและอาการของมันผานการระงับการสั่นของราง ดวยสองสิ่งคือ ปุรุษะ กับประกฤติ ปุรษุ ะคือจิต หรือตัวสํานึกรู หรือสวนของ
กาย (ดวยการฝกอาสนะ) และควบคุมจังหวะการหายใจให วิญญาณ สวนประกฤติคือสสาร หรือวัตถุ หรือรางกายที่ประกอบขึ้นจากธาตุ
ดําเนินไปอยางราบเรียบเปนปกติ (ดวยการฝกปราณายามะ) ตางๆ รวมกัน อันไดแก ดิน น้ํา ไฟ ลม อากาศ ซึ่งการหลุดพนของปตัญชลี
อาสนะ และปราณายมะของปตัญชลีก็มีวัตถุประสงคอยาง ตามแนวคิดของปรัชญาสางขยะนี้คือการฝกโยคะเพือ่ ใหปุรษุ ะหรือจิตเกิด
เดียวกัน(กับหฐโยคะ) ในโยคะสูตรของปตัญชลี โศลกที่ ๑: สํานึกรูวาตนเองไมใชสิ่งเดียวกันกับประกฤติอกี ตอไป เมื่อนั้นจิตหรือตัวรูจะ
๓๓-๑:๓๙ กลาวถึงเทคนิคหรือวิธีทั้งเจ็ด เพื่อทําใหจิตตั้งมั่น แยกออกจากสิ่งที่ถูกรูคือประกฤติหรือวัตถุธาตุตา ง ๆ ทําใหผูฝกเขาสูสภาวะ
หลุดพนจากการเวียนวายตายเกิด (ผูแปล)
1002 13
ตีความคําวา เอกะตัตวะ วาเปน “หลักการหนึ่ง” มีความ ตะ-ประสาทนะ” (กระบวนการบรรลุถึงสภาวะอันสงบสุขของ
คลุมเครือมากเนื่องจากมิไดชี้ชัดวาหลักการหนึ่งนี้คืออะไร จน จิต) และ “มนัสสถิตินิพันธนัม” (วิธีการผูกหรือทําจิตใหนิ่ง)
บางคนถึงกับกลาววา อะไรหรือวิธีใดก็ตามที่ผูฝกพบวาอาจมี การแปลความเชนนี้ดูเหมือนจะเหมาะสมที่สุด ในบริบทของ
ประโยชนตอการเอาชนะการรบกวนจิตใจ (จิตตะ วิ-กเษปะ) โศลกนี้
ก็ตรงกับความหมายของขอความนี้ทั้งหมด เอกสารอางอิง :
เมื่อการรบกวนจิตใจถูกกําจัดออกไป ผลก็คือจิตจะ Karambelkar, P. V. (1986). PATANJALA YOGA
สงบนิ่ง คําวาเอกะตัตวะควรจะไดรับการแปลความวาเปน SUTRAS Sanskrta Sutras with Transliteration,
หนึ่งในหลักการหรือเทคนิคหรือวิธีการตางๆ ในการฝกปฏิบัติ Translation & Commentary. Lonavla : Kaivalyadhama.
ที่ไดกลาวถึงไวในโยคะสูตรทั้งเจ็ดโศลกตามลําดับตั้งแต ๑:
๓๓-๑:๓๙ ซึ่งไดรับการแนะนําใหปฏิบัติเพื่อการบรรลุถึง “จิต
จีระพร ถอดความและเรียบเรียง
จดหมายขาวเคยลงเรื่องหมอเขียว หรืออาจารยใจ 3. บริโภคสิ่งที่ยอยงาย
เพชร มีทรัพย ไป 2 ครั้งแลว แตก็ยังมีประเด็นตางๆ อีก 4. เที่ยวไปในกาลอันสมควร
มากมายที่นาเรียนรู ในโอกาสเริ่มคอลัมนใหมนี้ เราขอ 5. ประพฤติเพียรดั่งพรหม เมตตากรุณามุทิตาอุเบกขา
อนุญาตสัมภาษณสดจากอาจารยฯ เลย 6. เปนผูมีศีล
สารัตถะ ทําไมมาสนใจ 7. คบมิตรที่ดีงาม
เรื่องธรรมชาติบําบัด ตามแนว หรืออยางการที่พระองคกลาววา ความสมดุล = เจ็บปวย
เศรษฐกิจพอเพียง นอย เบากาย มีกําลัง เบาใจ อยูอยางผาสุก (หลักกกจูปม
อ.ใจเพชร เดิมที ไมสนใจ สูตร) ฯลฯ
องคความรู แนวธรรมชาติบําบัด นอกจากนั้นพระพุทธเจายังตรัสเรื่องความสมดุล
ไมคิดวาเคาจะมีประโยชนอะไรคิด รอน - เย็น การเปนผูมีโรคนอย มีทุกขนอย การมีผลเสมอกัน
ไมเย็นนัก / ไมรอนนัก เปนกลาง เปนสิ่งที่ควรแกความเพียร
เพียงวาแพทยแผนปจจุบันมีเครื่องมือดี และมีการวิจัยมาก
การปรับรอน - เย็น ดวยสิ่งทีหาไดงาย ไมมีโทษ เปนการ
มาย สามารถแกปญหาไดมากกวา เราเรียนมาทางดาน
ปฏิบัติเพื่อความดับทุกข คนจะพนทุกขไดโดยสิ่งที่หาไดงาย
วิทยาศาสตร ทั้งในและตางประเทศ อยางไรก็ตาม ปฏิบัติ
และไมมีโทษ
ราชการมา 17 ป ก็มีแตเจอผูปวยมากขึ้น มีโรคเรื้อรังและ
และยิ่งเมื่อพิจารณาวา พระพุทธเจาบําเพ็ญธรรมตั้ง
รุนแรงเพิ่มขึ้น ทั้งที่ทุมเทสุดฝมือ กลับแกปญหาไดเพียง
20 อสงไขย 100,000 กัลป (อสงไขยหมายถึงจํานวนที่นับไม
20% เทานั้น จึงสนใจที่ศึกษาแพทยแผนไทย, แผนทางเลือก,
ถวน ผูสัมภาษณ) 1 กัลป คิดเปนเวลาคือ มีภูเขาเวฬุบรรพต
แพทยพื้นบาน ซึ่งก็ยังแกปญหาไดไมเดนชัด แมไดนําทุก
ขนาดกวางยาวและสูง 1 โยชน ซึ่ง 1 โยชน = 16 กิโลเมตร
แผนที่ศึกษามาปฏิบัติจริง ก็แกปญหาไดเพียง 40% เทานั้น
ทุก ๆ 100 ป ใหนางฟาเอาผาใยบัวที่นิ่มมาก มาปด 1 ครั้ง
เพราะ 3 สิ่งนี้ยังมีอยู คือ มีโรคมากขึ้นเจ็บปวยเรื้อรัง,
จนภูเขานั้นราบเปนหนากลอง นับเปน 1 กัลป แลวแสนกัลป
คาใชจายสูง, พึ่งตนเองนอยลง เจอทางตัน เปนความ
จะยาวขนาดไหน ยิ่งอสงไขยแลวก็ยิ่งยาวนานไปอีก
ลมเหลวของการดูแลสุขภาพ เห็นความหายนะของมนุษย ก็
เปรียบเทียบกับวิวัฒนาการการแพทยแผนปจจุบันกี่รอยปเอง
เครียด จึงไปปฏิบัติธรรม
กับคนเรียนแพทย 7 ป เทียบกับพระพุทธเจาไมไดเลย ไม
ในระหวางปฏิบัติธรรม ไดพบวาพระพุทธเจาตรัส
เพียงเทานั้น การสอนของพระองคยังเปนอกาลิโก คือไม
เกี่ยวกับสุขภาพไวมากมาย คิดวานาจะเปนคําตอบที่เรา
ลาสมัย เปนจริงตลอดกาล ไมมีใครลบลางได โดยพระองค
แสวงหาและเปนคําตอบทั้งหมด ของ ”ความสมดุล”
ตรัสวาอยาเพิ่งเชื่อใหพิสูจนเอง ผูฝกฝนและปฏิบัติพึงรูเห็นได
ยกตัวอยางเชน หลักปฏิบัติที่เปนตนเหตุใหสุขภาพแข็งแรง
ดวยตนเอง เปนการเชื้อเชิญหรือทาทายใหมาพิสูจนได
อายุยืน 7 ประการ (หลักอนายุสูตร) ไดแก
เอหิปสสิโก แลวทําไมเราจะไมศึกษาหลักพระพุทธเจาละ นั่น
1. เปนผูทําความสบายแกตนเอง (แข็งแรง)
คือจุดเริ่มตน
2. รูจักประมาณในสิ่งที่สบาย
1002 14
จึงมาพิสูจน ตามหลัก หาไดงาย ไมมีโทษ “หาได สารัตถะ คุณหมอมีงานเยอะมาก มีวิธียางไรให
งาย“ นั้นจะตองเปนของที่อยูใกลตัวเรามากที่สุด หรืออยูในตัว ตัวเองมีความสมดุลชีวิต
เรา และถานําหลักนี้มาใช ตองสามารถแกปญหาได คือมี อ.ใจเพชร พระพุทธเจาใหความสําคัญเรื่องสมดุลมาก
ความผาสุก ยั่งยืน ใหอิสระภาพแกตน “ไมมโี ทษ” คือ ไมมี มีคนถามพระพุทธทําอยางไรใหพนทุกขได พระพุทธเจาตรัส
ผลขางเคียง ไมแพง จึงเปนคําตอบที่ ปลดแอก วา “ เราไมพัก เราไมเพียร จึงขามโมษะสงสารได จึงพน
ในขณะเดียวกัน คําตรัสของ “ในหลวง” ในเรื่อง ทุกข หรือพูดงายๆ วา ทานมีความความสมดุล คือทานรู
เศรษฐกิจพอเพียงก็สอดคลองกัน คือการบริหารแบบคนจนจะ เพียร ในตอนที่ไมควรพัก และ รูพัก ในตอนที่ไมควรเพียร
ทําใหเกิดความกาวหนา ใชทุนนอย หาไดงาย แกปญหา หลักสมดุล รูเพียร รูพัก คือคอยอานตัวเอง
เศรษฐกิจได ลดความเดือดรอน ไมมีโทษ โดยเราก็ดําเนินไป ตลอดเวลา เพียรเทาไหรพลังชีวิตจึงไมพรอง พักเทาไหร
ตามหลักการที่วา ซึ่งตองใชปญญาอยางลึกซึ้ง เรียกวาเปนสุด พลังชีวิตจึงเต็ม ศักยภาพแตละคนไมเทากัน ดูศักยภาพเรา
ยอดแหงความทาทาย เพียรเต็มที่ ลาก็พัก แลวคอยเพียรใหม “เพียรเต็มที่ พัก
การแกปญหาและการพัฒนาแทจริง เกิดจากคน พอดี”
ลําบาก แลวใชปญญานั้นแกความลําบากได คือภูมิปญญาที่ ทํางานไดมาก ไมบางาน ไมหลงงาน รูวางานมี
แทจริง ประหยัด เรียบงาย แกปญหาได ทุกคนมีสิทธิ์ ประโยชน งานคือสาระสําคัญที่ควรทํา ทําแลวโลกได
แกปญหาทั้งหมด ไมวาคนจน หรือ คนรวย ประโยชน เปนการทํางานใหโลก ขณะเดียวกัน เราไมควร
เราจึงสนใจธรรมชาติ และเริ่มบูรณาการองคความรู หลงงาน ทํางานดวยความสุข ยินดี โดยใช อิทธิบาท 4 คือ
ทุกแผนเขาดวยกันกับหลักพุทธธรรม และเศรษฐกิจพอเพียง ฉันทะ (ความพอใจ) , วิริยะ (ความเพียร) , จิตตะ (ความเอา
หาความสมดุล เพื่อชวยดับทุกข หาสิ่งที่เปนกลาง เปนเอก ใจใหรือจิตใจจดจอ) , วิมังสา (การตรวจสอบใครครวญหรือ
ที่แกปญหาได ประเมินผล) ทําใหเกิดพลัง เห็นคุณคาในงาน ทําไดแบบนี้
ไดใชหลักของพระพุทธเจา และในหลวง จึงทําใหไม สารเอ็นโดรฟน (สารสุข) จะหลั่งออกมาจากตอมพิทูอิทารี ทํา
หลงทาง ไมหาของแพง จึงมาหาของใกลตัว แลวก็สําเร็จ ใหเซลลเนื้อเยื่อ แข็งแรง เพียรเต็มที่ แลวพักใหพอดี รูจักจุด
เปนปฏิหาริย คือลดปญหาผูปวยไดถึง 90% ทําใหเขามีสภาพ พอดีของตน รูจัก “อานตัวเอง”
เจ็บปวยนอยลง โดยใชเวลาเพียง 5-7 วัน นั่นคือการยืนยันวา แตพุดอยางนี้ ตัวเองก็ทําไมได 100% ตลอดเวลา
หลักของพระพุทธเจาและในหลวงตรัสเปนจริง เราก็มี หรอกนะ บางครั้งก็มุงานหนักมาก มีบางเปนบางคราว แตเรา
ความหวัง จะไมทําประจํา คือถางานหนักมากตลอดเวลา จะทําใหเรา
ตั้งไว 3 ประเด็นในการใหความผาสุกแกมนุษย คือ แกวง เปราะบาง แตถางานหนักบางเปนบางคราว จะทําให
- ทําอยางไรจะไดสิ่งที่ประหยัดเรียบงายที่สุด เราแกรงขึ้น
- ทําอยางไรใหมีประสิทธิภาพสูงสุดในการแกปญหา ตัวอยางก็มี คือชวงหนึ่งโหมงานมาก เลยไมสบาย
- พึ่งตนเองไดสูงสุด นานเปนอาทิตย ถอนพิษทุกอยางก็ไมหาย มาลองตรวจใจ
หลัก “ความสมดุล” ของพระพุทธเจาและในหลวง ทรงตรัสวา จึงพบกวา “ตัวเองกดดันตัวเอง” ไมใหอภัยตัวเอง ไมพอใจ
พระพุทธเจา ความสมดุล คือ การดับทุกข ตัวเอง ไมชอบใจตัวเอง เครียด มาจากใจที่ ยึดมั่น มาจาก
ในหลวง ความสมดุล คือ ความมั่นคง การที่เราทําอะไรแบบเปะเกินไป ความจริงของชีวิตเปนแบบ
จากการนําหลักของทั้ง 2 พระองคมาเปนแกน แลว เปะไมได ธรรมชาตินั้นยืดหยุน แตตอนนั้นจิตเราไมรูจัก
นําแพทยแผนทางเลือกตาง ๆ มารวมกันใช เปนวิธี ใช ยืดหยุน เราควรจึงเพียรเต็มที่ พักใหพอดี เปนประจํา
อุปกรณทองถิ่นเปนหลัก ประหยัด เรียบงาย ปลอดภัยมี ยืดหยุนบางกาละ ใจก็คลาย ทําใหเราแกรงขึ้น พอคลายใจ
ประสิทธิภาพสูงสุด สามารถลดปญหาลงได สามารถ ลงไดแลว ไขก็ดีขึ้น สรุปแลวเปนไขใจ
แกปญหาใหจบลงได โดยเรียกวา ”แพทยวิถีพุทธ” เปน
องคความรูใหมของโลก ซึ่งนาจะเปนทางเลือกหนึ่งของสังคม พบวาคนเราควรทําแคเทาที่ทําได (ดวยความเพียร
และไมสงวนลิขสิทธิ์ สําหรับแพทยแผนปจจุบันก็ยังคงมี เต็มที่นะ) เวลามีงานมาก ใหชั่งน้ําหนักดูวาอันไหนสําคัญ
ประโยชนและใชไดอยู โดยเฉพาะเชน กรณีอุบัติเหตุ กรณี ที่สุด ณ วินาทีนั้น ใหคาสิ่งนั้นสําคัญที่สุด สวนงานอื่นใหถือ
ฉุกเฉิน ใชเปนยาแกชั่วคราว เปนตน เปนเรื่องไมสําคัญ ใหมันเปนเรื่องของโลก มันไมใชเรื่อง
1002 15
สําคัญสําหรับเราในตอนนั้น เมื่อกําลังอยูกับปจจุบัน ทําสิ่ง อุเบกขาเปนการปลอยวาง ไมทุกข มีความเขาใจอยางถูกตอง
สําคัญที่สุดอยู ขณะเดียวกัน มีสิ่งอื่นมาแทรก เราก็ลอง วา จะทําอะไรก็ตามมีทั้งสําเร็จและไมสําเร็จ มันไมเที่ยง
วิเคราะหวาสิ่งที่มาแทรกนั้นสําคัญกวางานปจจุบันที่ทํามั้ย ถา ปลอยใหผลเปนเรื่องของโลก ไมวา จะปรากฏออกมาเปน
สําคัญกวา ใหถือวางานที่กําลังทําอยูเปนเรื่องไมสําคัญ ณ ประโยชน หรือโทษ ความสําเร็จของเราคือ ไมทุกข -
เวลานั้น เชน กําลังเรงงานบางอยาง แตมผี ูปวยหนักมาพบ ปลอยวางได ความสําเร็จของเราคือ ยิ่งทํายิ่งลดความชั่ว
เราเห็นความจําเปนที่จะตองชวยผูปวยหนักกอน นั่นคือ เรา ความเดือดรอน ยิ่งทํายิ่งปลอยวาง ปลอยวางทั้งชั่วและความ
ชั่งน้ําหนักหาสิ่งที่มีความสําคัญสูงสุด เมื่อบําบัดผูปวยหนัก ดี แตไมลดการทําความดี จึงมีความสุขในการทํางาน ไดทั้ง
นั้นเรียบรอยแลว ก็กลับมาทํางานที่คางอยู ซึ่งตอนนี้กลับมา ประโยชนตนและประโยชนทาน ประโยชนตนก็คือเราไมทุกข
เปนงานที่สําคัญที่สุดแทนแลว เรามีความผาสุกในการทํา ประโยชนทานก็คือ ผลจากสิ่งที่เรา
ไมวากําลังทําอะไร ใหเห็นคุณคา เห็นประโยชน ทําใหกับทาน จึงไมทุกขใจในการทํางาน
ของสิ่งที่กําลังทํา เปนการฝกจิต เปนการดู ณ ปจจุบันขณะ สารัตถะ อยากใหฝากขอคิดถึงครูโยคะ
และมีความสุขกับสิ่งนั้น ซึ่งเราจะพบสัจจธรรมวา จริงๆ อ.ใจเพชร หากมองจากหลักธรรมะของพระพุทธเจา
แลวคนเราทําอะไรไดไมมาก (แตคิดไดมาก) คิดมากมี การทําโยคะใหมีประสิทธิภาพสูงสุด คือทําดวยความพอดี
แตเสียเวลา ฟุงมากจะกินกําลังเรา เอาแตพอประมาณ ไม ทําทาอาสนะดวยจิตใจที่ยืดหยุน ทําทาอาสนะดวยความตึง
ตองสมบูรณแบบมาก ไมตองคิดมาก ไมฟุงซาน เคยมีครูบา พอดี โดยมีเปาหมายอยูที่ความสบาย มีพลัง เบากาย มี
อาจารยสอนวา ใหใชขอมูลที่มีอยูจริง ณ ปจจุบัน หรือ กําลัง นั่นคือประโยชนสูงสุดของโยคะ
ใกลเคียงปจจุบัน ไมเอาขอมูลอดีต ไมเอาขอมูลอนาคต อยา เมื่อเราพิจารณา จะเห็นวาจุดพอดีของคนแตละคน
วางแผนยาวเกินไป วางแผนสั้น ๆ ใกล ๆ คือ ความจริง ทํา นั้นไมเทากัน จึงควรยึดที่ความจริงของโยคะ ไมใชยึดที่ตํารา
ปจจุบันใหดีที่สุด ซึ่งมันชัดเจน จะพลาดนอย เปลืองพลัง คนที่ยึดตําราจะไมประสบความสําเร็จในการทําโยคะ คนยึด
นอย อยูกับเหตุการณใกล ๆ มีความพรอมที่จะปรับชีวิตให ความจริงของโยคะจะประสบความสําเร็จ ความจริงมีคา
สมดุล จะมีความสุข มากกวาตํารา ดูตัวเองจุดพอดีตรงไหนทําแลวไดพลัง
นอกจากนั้น ใหใชวิปสสนา ใชปญญาไตรตรอง ชีวิตที่สุด นั่นแหละคือ โยคะที่แทจริง ถาขณะที่ฝกแลว
ผลเสียถาเรายึดติดตรงนั้น ใชปญญาไตรตรองผลดีหากเราไม ทําทาผิดจากตําราแตถูกสรีระกับคนนั้น ๆ อยางหลังจึงจะ
ยึดติดตรงนั้น ทําซ้ําไปซ้ํามา ทําแลวจะเปนพลังลางทุกข เรียกวาถูก โยคะจะมีประโยชนเต็มที่ก็ตอเมื่อ ทําโดยไมยึด
ในจิต ทําใหปลอยวาง จิตจะเลือกไมทุกข จึงทําใหเราปลอย มั่นถือมั่น ทําโดยอาศัยความพอดีของแตละคน ทาที่ทําแลว
วาง ทําใหเรามีความสุข ลดละสิ่งที่ไมดี และทําจิตใจใหผาสุก มีพลังชีวิตนั่นแหละคือทาที่มีประโยชนสูงสุด เอาทานั้น
ไมติดยึดสิ่งใด ๆ เปนหลักเปนเกณฑ แมผิดจากตํารา แตถูกสรีระเอาตรงนั้น
ในทํานองเดียวกัน ใชสมถะเสริมพลัง ทําใหเกิด ไมใชเฉพาะแตเรื่องทา จิตใจและหลักความคิดก็เหมือนกัน
ความสงบไดเร็ว ทําใหเกิดความผาสุกมากขึ้น พระพุทธเจา จิตใจที่สบาย หลักคิดที่นําไปสูความสมดุลนั้นคือถูก แม
แนะใหใชทั้งคู ใหเกิดประโยชนแทงทะลุธาตุ บรรลุธรรม อาจจะไมตรงตามตํารา
เขาถึงความสุข มีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา ปรารถนาให ทีมทําการสัมภาษณไดราว 30 นาที ก็ตองรีบสรุปจบ เพราะ
สัตวโลกทั้งตนเองและผูอื่นพนทุกข หรือไดรับสิ่งที่ดีและเปน อาจารยฯ มีธุระตออีกเยอะมาก แตแคนี้ก็เปนการบานฝาก
ประโยชน กรุณา ลงมือกระทําใหเกิดการพนทุกขหรือไดรับ เพื่อนๆ ผูอานไดโขอยู พบกันใหมคราวหนา อยากใหไป
สิ่งที่ดี เปนประโยชน มุทิตา ยินดีเมื่อเกิดสิ่งที่มีประโยชน สัมภาษณใคร บอกเราไดเลยนะคะ
อุเบกขา การปลอยวางไมอยากไดสิ่งใด ๆ ตอบแทนกลับคืน
เปนการคิดดีทําดี พากเพียรเต็มที่ถึงแมผลลัพธจะยังไมเกิด
ใหเห็นเปนรูปธรรม แตที่แนๆ ผลดีนั้นเกิดขึ้นในใจเราแลว

ณัฏฐวรดี ศิริกุลภัทรศรี, ศันสนีย นิรามิษ แปลและเรียบเรียง


The Clasp Knife Reflex Clasp Knife Reflex มีอาการเหมือนใบมีดของมีด
พับที่มีแรงตานเมื่อเวลาจะพับเก็บแลวจูๆ ก็พับเก็บลงไปใน
1002 16
รองเก็บจนเกิดเสียง รีเฟล็กซชนิดนี้เปนอีกชนิดหนึ่งที่เกิด ตําแหนงเดิมและดึงตัวใหสุดประมาณ 30 วินาที นี่เปนการดึง
จากกลามเนื้อยึดตัว แตรีเฟล็กซนี้จะทําใหกลามเนื้อผอน เอ็นที่ Quadricep ของขา (รูป 1.6) จะมีการพูดถึง
คลายมากกวาเกร็งตัว การกระตุนสําหรับรีเฟล็กซนั้นไมใช รายละเอียดในบทตอไป จากนั้นคลายทาและลองสํารวจอีก
การเคลื่อนไหวของ muscle spindle แตเปนแรงตึงจากการ ครั้ง วาคุณสามารถพับตัวไปขางหนาโดยที่เหยียดเขาตรงได
หดตัวของตัวรับความรูสึกของเอ็นกลามเนื้อ ความตึงที่ยืด มากแคไหน ความแตกตางจะถูกวัดจาก Golgi tendon organ
หยุนนี้ทําใหกลามเนื้อที่ติดกับเอ็นผอนคลายและขอตอโคงงอ วาสามารถกระตุนกลามเนื้อเอ็นใหผอนคลายจากรีเฟล็กซของ
ขึ้น (รูป 1.8) clasp knife ไดอยางไร
ตัวรับความรูสึกสําหรับรีเฟลกซ clasp knife นี้คือ Golgi tendon organ จะไวตอการกระตุนดวยมือ
Golgi tendon organ ปกติตัวรับโดยสวนมากจะอยูใกลๆกับ เทาๆกับการที่กลามเนื้อตึง ถาคุณจัดการจุดเชื่อมของระบบ
ศูนยกลางระบบกลามเนื้อ และเสนเอ็นที่เชื่อมตอกับเนื้อเยื่อ กลามเนื้อและเอ็นตางๆในรางกายไดอยางคลองแคลว นั่นคือ
ตางๆของเสนใยกลามเนื้อ ดังนั้น Golgi tendon organ จึง Golgi tendon organs จะสงผลใหเสนใยกลามเนื้อตางๆผอน
ทํางานจากการหดตัวของเซลลกลามเนื้อ ที่อยูตอเนื่องกันของ คลาย นี่คือเหตุผลที่วาทําไมการนวดแบบลึกถึงรูสึกผอน
ตัวรับ จากการศึกษาพบวา Golgi tendon organ ไมมี คลาย และนี่ยังเปนเหตุผลวาทําไมนักนวดบําบัดถึงตองการ
ความรูสึกสัมพันธกับปฏิกิริยาการเหยียดเฉยๆ แตมันจะเริ่ม ลดแรงตึงของกลามเนื้อเฉพาะจุด เพื่อที่จะสงผลโดยตรงไปยัง
กระตุนกระแสประสาทไปยังไขสันหลังทันทีที่เสนใยกลามเนื้อ จุดเชื่อมๆตางๆของระบบกลามเนื้อและเอ็น มันเปนวิธีการ
กระตุก บําบัดดวยการจับกระดูกสันหลังแบบเกา ดวยการคอยกระตุน
จากนั้นเกิดอะไรขึ้น? นี่คือใจความสําคัญ: สัญญาณ การรีเฟล็กซของ clasp knife ซึ่งมีประสิทธิ์ภาพเทากับการทํา
ความรูสึกของแอกซอน ยังไปไมถึงเซลลประสาทสั่งการ ใหกลามเนื้อหดตัว สิ่งที่นาแปลกใจคือหลังจากนั้นอีก 1-2 วัน
โดยตรง (ซึ่งจะเพิ่มแรงกระทําและกระตุนการหดตัวของ ผูไดรับการบําบัดที่มีโอกาสแกไขอาการตางๆ ของระบบ
กลามเนื้อ) แตเซลลประสาท Inhibitory Inter neurons จะลด กลามเนื้อจะสามารถคลายความตึงไดมากกวาตอนแรก
แรงกระทําของเซลลประสาทสั่งการ ทําใหกลามเนื้อคลายตัว ถึงแมวา คุณสามารถทดสอบผลจากการกระตุน
ลง ถาคุณกระตุนตัวรับ รีเฟล็กซจะผอนคลายกลามเนื้อ (รูป ความตึงตามสวนตางๆของรางกายดวยตัวเอง ใหลองเกร็ง
1.8) มันเปนวงจรที่แนนอนวาการหดตัวของเสนใยกลามเนื้อ กลามเนื้อ Adductor ซึ่งอยูบริเวณขาดานใน เพราะการดึง
จะหยุดการกระทําลงดวยตนเอง วงจรนี้จะทํางานเหมือนกับ กลามเนื้อ Adductors ใหแนนกวากลามเนื้อสวนอื่นๆจะจํากัด
เครื่องตัดกระแสไฟฟา ที่จะดับลงหากมีอุณหภูมิรอนจนถึงที่ ความสามารถในการนั่งใหตัวตรงขณะที่ฝกโยคะ เริ่มจากให
กําหนด เคยมีรายงานถึงมนุษยยอดพลังที่สามารถยกรถให คุณลองนั่งในทา Svastikasana หรือทา Sidddhasana
พนจากเด็กได อาจจะเปนเพราะไดแรงจากระบบประสาท จากนั้นคลายทาและนั่งใหสะโพกติดกับกําแพง โดยใหเขาและ
ทั้งหมดที่รวมกันตานรีเฟล็กซนี้ คลายกับเครื่องตัด ขาเหยียดตรงไปใหมากที่สุดเพื่อยืดกลามเนื้อ Adductor ให
กระแสไฟฟาที่หยุดการทํางานเมื่อมีความรอนเกินกําหนด ใน มากเทาที่จะเปนไปได ลองดึงขาและกลามเนื้อ Adductor ทั้ง
ชีวิตประจําวันเราจะเห็นทาทางที่เกิดจากรีเฟล็กซ clasp คูใหตึงที่สุดพรอมกับกระตุน Golgi tendon organ จาก
knife จากภาพโดยรวม เชน เมื่อนักงัดขอตั้งแขนตานกันซัก กลามเนื้อดานในดวยการถูเร็วๆ จะชวยใหคุณเหยียดขาได
ครู ทันใดนั้นคนที่ออนแอกวาพลิกแขนแลวแพไป (รูป 1.8) มากขึ้น เอ็นกลามเนื้อ Adductor บางเสนจะอยูที่ขาดานใน
ไมวาจะเปนการตั้งใจหรือไม แตเรามักจะใชรีเฟล็กซ ใกลๆกับอวัยวะสืบพันธุ บางเสนจะเรียบแบนมากซึ่งอยูไป
แบบ clasp knife ขณะที่ฝกหฐโยคะเปนประจํา เพื่อใหเห็นถึง ทางดานหลังมากขึ้น ทั้งหมดจะมาจากกระดูกคูที่ชื่อวา
ผลกระทบและไดรับประโยชนที่จะเกิดขึ้น ใหคุณลองสํารวจ Inferior Public Rami (รูป 1.12) ซึ่งรวมตัวกันอยูในรูปตัว V
อยางคราวๆ วาคุณสามารถพับตัวไปขางหนาโดยใหเขา อยูตรงอวัยวะสืบพันธุ
เหยียดตรงไดมากนอยแคไหน โดยเฉพาะในชวงเวลาเชา ขณะที่คุณนวดกลามเนื้อ Adductors ที่กําลังตึงอยู
จากนั้นใหงอเขาจนใหลําตัวพับลงไปแนบกับขาได คงอยูใน ซักครู คุณจะรูสึกวากลามเนื้อผอนคลายทีละนอย เห็นไดจาก
ทาโดยแขนทั้งสองขางกอดรอบขา เพื่อใหหลังเหยียดอยูใน การที่คุณสามารถเหยียดขาไดสมบูรณขึ้น จากนั้นใหลอง
ตําแหนงที่สัมพันธกับกระดูกเชิงกรานอยางสบาย จากนั้น ตรวจสอบความพัฒนาในทานั่งอีกครั้ง การผสมกันระหวาง
พยายามเหยียดเขาใหมากขึ้น โดยใหหนาอกยังคงอยูใน การนวดเอ็นกลามเนื้อ Adductors กับการออกแรงเหยียดยืด

1002 17
กลามเนื้อ Adductor อยางเต็มที่จะชวยยับยั้งประสาทสั่งการ หลังปกลาง) เปนผลใหเสนประสาทจํานวนหนึ่ง เกิดการกระตุนไปยัง
ที่สั่งการไปยังกลามเนื้อเหลานี้ ทําใหกลามเนื้อผอนคลายและ เซลลกลามเนื้อกระดูก (+ ผลการทํางานของจุดประสานประสาทใน
ระบบลดลง) ผลสุดทายก็คือทําใหกลามเนื้อผอนคลายหรือคลายตัว
ชวยใหคุณนั่งไดตรงและสบายขึ้น
ดังเชนผูที่แพการงัดขอ
การที่ดึงกลามเนื้อ Quadriceps ที่ขาและการนวด
กลามเนื้อ Adductors ไปดวยนั้นทําใหเราสังเกตเห็นการ
ทํางานของรีเฟล็กซ clasp knife วาทําอยางไร และยังชวยให
คุณสงบนิ่งอยางสบายเมื่อคางอยูในทาเปนเวลา 10-15 วินาที
ดังเชนที่เราฝกกันในหฐโยคะเปนประจํา ในกรณีนี้ถาคุณไม
ตองการใหเปนการรีเฟล็กซแบบ myotatic stretch อยาออก
แรงมากนัก และอยาอยูในทาที่รูสึกไมสบายตัวถาคุณไมได
เตรียมตัวรีเฟล็กซแบบ flexion ซึ่งจะกลาวในตอนถัดไป
รูป 1.8 การรีเฟล็กซแบบ clasp knife: กลามเนื้อพยายาม
กระตุน Golgi tendon organ ซึ่งรับความรูสึกสงเขาไปที่ประสาทไขสัน
หลังกระตุนไปยังเซลลประสาทประสานงาน (+ ที่เสนประสาทไขสันหลัง
ปกบน) จากนั้นจะสงไปยับยั้งเซลลประสาทสั่งการ (ที่เสนประสาทไขสัน

เครือขายครูโยคะศรีราชา ครูญาดา
วิถีโยคะในชีวิตประจําวัน สําหรับทางใจ เพราะเวลาเราทุกขเราจะรูเลยวาเราเผลอไปคิด
ฉันไดรับเมลลจากสถาบันฯ รูสึกเปนเกียรติและ เผลอไปรูสึก เผลอไปตอตาน เราไมไดยอมรับความคิด
โอกาสอันยิ่งใหญสําหรับฉัน อันที่จริงแลวลึกๆฉันใฝฝนอยาก ความรูสึกเหลานั้นอยางที่มันเปนจริง บางครั้งเราโกรธแตเรา
เปนนักเขียนอยูเหมือนกัน ฉันจึงเชื่อวาพรที่เราใหตัวเองนั้น ไมยอมรับวาเราโกรธ แตหากเรารูตัวทัน (ถาหากเราเจริญสติ
สําคัญเปนอันดับแรกคือเราตองปรารถนาและใฝฝนกอน พรที่ บอยๆ) เราจะเห็นความโกรธ และเรารูธรรมชาติความรูสึก
ประเสริฐคือพรที่เปนประโยชนตอตนเองและผูอื่น จะสื่อถึงพร มันเปนของชั่วคราว มันอยูในอํานาจของความไมแนนอน
ของธรรมชาติอันศักดิ์สิทธเสมอ พรที่ปรารถนาใหตัวเองและ หากเรารูทัน เราเขาใจธรรมชาติของมัน เราจะยอมรับมันได
ผูอื่นพบความสุข สงบเย็นเปนพรอันสูงสุดไมชาก็เร็ว และจึงปลอยวางมันได
ในฐานะที่เปนครูโยคะ เวลาเจอใครๆ มักจะถามเรา เวลาวางฉันจึงชอบอยูคนเดียว ปดโทรศัพทวันเสาร
วา ทําโยคะทุกวันหรือเปลา ฉันนิ่งสักครูกอนจะตอบเพราะ อาทิตยหรือนอกเวลางานของฉัน ดูอาจจะเห็นแกตัวซักหนอย
ฉันคิดวาในสิ่งที่เขาถามคือ ฉันทําโยคะอาสนะทุกวันหรือ แตฉันคิดวามันสําคัญสําหรับชีวิตมนุษย ที่เราจะตองรูจักตัว
เปลา แตสําหรับฉันแลวโยคะของฉันคือการฝกการยอมรับ เราเองวา หากเรายังไมสามารถดูแลจิตใจของเราเองได เราจะ
ตัวเราเองอยางที่เราเปน ยอมรับความคิด ความรูสึกอยางที่ ชวยเหลือผูอื่นไดอยางไร การชวยเหลือของเราอาจชวยผิดๆ
มันเกิดขึ้น นี่คือวิถีโยคะของฉัน ฉันจึงถือโอกาสนี้ไดอธิบาย อาจทําใหเขาหางเหินเปาหมายชีวิตที่แทจริงยิ่งกวาเดิม เรา
ความหมายโยคะที่แทจริง เราจะเห็นวาถาเราเขาใจโยคะที่ อาจสรางกรรมโดยไมรูตัว ดังนั้นฉันจึงหมั่นพากเพียรในการ
แทจริงแลว เราสามารถปฏิบัติโยคะไดทุกที่ทุกเวลาแมอยู ฝกการรูทันความคิด รูทันอารมณ การคลุกคลีหมูเพื่อนยังมี
กลางถนน หรืออยูกลางตลาด บางแตไมมากแลว เพราะกลัวทุกข เวลาทุกขเขามาเราตั้งตัว
ทุกวันฉันตระหนักถึงเปาหมายของโยคะเสมอ คือ ไมทัน เรามักเผลอไปกับการตอตานและเห็นดวย ทุกขที่ผาน
เพื่อการหลุดพน ฉันชอบฟงธรรม ฉันเห็นวาเปาหมายทาง มาทําใหฉันระมัดระวังตัวมากขึ้น ฉันกลัวความสุขที่มาชั่ว
ธรรมกับเปาหมายโยคะคือสิ่งเดียวกัน ดังนั้นฉันจึงคิดวา การ คราว เพราะความสุขชั่วคราวทําใหเรายึดติดไดงาย ปลอย
ฝกการเจริญสติและการปฏิบัติโยคะ เปนวิถีสูการหลุดพน วางไดยาก ดังนั้นฉันจึงตอบตัวเองวาฉันเพียรอยูในวิถีโยคะ
การหลุดพนไมไดทําไดงาย หากขาดการเจริญสมาธิ และ ตลอดเวลา
เจริญสติ เวลาเราสอนโยคะเราพูดเสมอวา “ทําไดเทาไหร เลาเรื่องดวยหัวใจ
เทานั้น ยอมรับตัวเองอยางที่มันเปน” ดูอาจงายแตไมงาย
1002 18

You might also like