You are on page 1of 9

วิธีการ

เรียนการสอน

การเรียนการสอนที่เน้นผ้้เรียนเป็ นสำาคัญ

กระบวนการเรียนร้้ท่ี เ น้น ผ้้เ รียนเป็ นสำา คัญ หมายถึง การ


จั ด การศึ ก ษาที่ ถื อ ว่ า ผู้ เ รี ย นสำา คั ญ ที่ สุ ด เป็ นกระบวนการ
จัดการศึกษาที่ตูองเนูนใหูผู้เรียนแสวงหาความรู้ และพัฒนา
ความรู้ ไ ดู ดู ว ยตนเอง หรื อ รวมทั้ ง มี ก ารฝึ กและปฏิ บั ติ ใ น
สภาพจริงของการทำางาน มีการเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนกับสังคม
และการประยุกต์ใชู มีการจัดกิจกรรมและกระบวนการใหูผู้
เรียนไดูคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินและสรูางสรรค์สิ่ง
ต่างๆ

นอกจากนี้ ตู อ งส่ ง เสริ ม ใหู ผู้ เ รี ย นสาม ารถ พั ฒ นาต าม


ธรรมชาติ แ ละเต็ ม ตามศั ก ยภาพ โดยสะทู อ นจากการที่
นักศึกษาสามารถเลือกเรียนรายวิชา หรือเลือกทำาโครงงาน
หรือชิ้นงานในหัวขูอที่สนใจในขอบเขตเนื้อหาของวิชานั้นๆ

ร้ปแบบการจัดการเรียนร้้ในระดับการอุดมศึกษาตาม
แนวทางเน้นผ้้เรียนเป็ นสำาคัญ ซึ่งมุุงพัฒนาความร้แ
้ ละทักษะ
ทางวิช าชีพ ทัก ษะชีวิต และทัก ษะสัง คม มีป รากฏในวงการ
1
ศึกษาไทยหลายร้ปแบบตัวอยุางเชุน

1) การเรียนร้้จากกรณีปัญหา (Problem-based Learning

: PBL)

เป็ นร้ป แบบการเรียนร้้ท่ี ใ ห้ ผ้เ รีย นควบคุ ม การเรีย นร้้


ด้ ว ยตนเ อง ผ้้ เรี ย น คิ ด และดำา เ นิ น ก ารเ รี ย นร้้ กำา หน ด
วัตถุประสงค์ และเลือกแหลุง เรียนร้้ด้ว ยตนเอง โดยผ้้สอน
เป็ นผ้้ ใ ห้ คำา แนะนำา เป็ นการสุ ง เสริ ม ให้ เ กิ ด การแก้ ปั ญหา
มากกวุ า การจำา เนื้ อหาข้ อ เท็ จ จริ ง เป็ นการสุ ง เสริ ม การ
ทำา งานเป็ นกลุุ ม และพั ฒ นาทั ก ษะทางสั ง คม ซึ่ ง วิ ธี ก ารนี้ จ ะ
ทำาได้ดีในการจัดการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา เพราะผ้้
เรียนมีร ะดับ ความสามารถทางการคิ ด และการดำา เนิ น การ
ด้วยตนเองได้ดี
เงื่ อนไขที่ ทำา ให้ เ กิ ด การเรี ย นร้้ ประกอบด้ ว ย ความร้้
เดิม ของผ้้เ รียน ทำา ให้เ กิด ความเข้าใจข้อม้ลใหมุได้ การจั ด
สถานการณ์ท่ีเหมือนจริง สุงเสริมการแสดงออกและการนำา
ไปใช้อยุางมีประสิทธิภาพ การให้โอกาสผ้้เรียนได้ไตรุตรอง
ข้อ ม้ล อยุ า งลึ ก ซึ้ ง ทำา ให้ ผ้ เ รี ย นตอบคำา ถาม จดบัน ทึ ก สอน
เพื่อน สรุป วิพากษ์วิจารณ์สมมติฐานที่ได้ต้ังไว้ได้ดี

2) การเรียนร้้เป็ นรายบุคคล (individual study)

เนื่ องจากผ้้ เ รี ย นแตุ ล ะบุ ค คลมี ค วามสามารถในการ


เรียนร้้ และความสนใจในการเรียนร้้ท่ีแตกตุางกัน ดังนั้ นจึง
จำาเป็ นที่จะต้องมีเทคนิ คหลายวิธี เพื่อชุวยให้การจัดการเรียน
ในกลุุมใหญุสามารถตอบสนองผ้้เรียนแตุละคนที่แตกตุางกัน
ได้ด้วย อาทิ

2.1 เทคนิ คการใช้ Concept Mapping ที่ มี ห ลั ก การใช้


ตรวจสอบความคิ ด ของผ้้ เ รี ย นวุ า คิ ด อะไร เข้ า ใจสิ่ ง ที่ เ รี ย น
อยุางไรแล้วแสดงออกมาเป็ นกราฟฟิ ก

2.2 เทคนิ ค Learning Contracts คือ สัญญาที่ผ้เรียนกับ


ผ้้สอนรุวมกัน กำา หนด เพื่อใช้เ ป็ นหลัก ยึด ในการเรียนวุาจะ
เรียนอะไร อยุางไร เวลาใด ใช้เกณฑ์อะไรประเมิน

2.3 เทคนิ ค Know –Want-Learned ใช้เชื่อมโยงความร้้

เดิมกับความร้้ใหมุ ผสมผสานกับการใช้ Mapping ความร้เ้ ดิม


เทคนิ คการรายงานหน้าชั้นที่ให้ผ้เรียนไปศึกษาค้นคว้าด้วย
ตนเองมานำาเสนอหน้าชั้นซึ่งอาจมีกิจกรรมทดสอบผ้้ฟังด้วย

2.4 เทคนิ คกระบวนการกลุุม (Group Process) เป็ นการ


เรียนที่ทำาให้ผ้เรียนได้รุวมมือกัน แลกเปลี่ยนความร้้ความคิด
ซึ่งกันและกัน เพื่อให้บรรลุเป้ าหมายเดียวกัน เพื่อแก้ปัญหา
ให้สำาเร็จตามวัตถุประสงค์

3) การเรียนร้้แบบสรรคนิ ยม (Constructivism)

การเรียนร้้แบบนี้ มีความเชื่อพื้นฐานวุา “ผ้้เรียนเป็ นผ้้


สร้างความร้้โดยการอาศัยประสบการณ์แหุงชีวิตที่ได้รับเพื่อ
ค้ น หาความจริ ง โดยมี ร ากฐานจากทฤษฎี จิ ต วิ ท ยาและ
ปรัชญาการศึก ษาที่หลากหลาย ซึ่งนัก ทฤษฎีสรรคนิ ยมได้
ประยุกต์ทฤษฎีจิตวิทยาและปรัชญาการศึกษาดังกลุาวในร้ป
แบบและมุมมองใหมุ ซึ่งแบุงออกเป็ น 2 กลุุมใหญุ คือ

3.1 กลุุ ม ที่ เ น้ น กระบวนการร้้ คิ ด ในตั ว บุ ค คล (radical


constructivism or personal Constructivism or
cognitive oriented constructivist theories) เป็ นกลุุมที่
เน้ น การเรี ย นร้้ ข องมนุ ษ ย์ เ ป็ นรายบุ ค คล โดยมี
ความเชื่ อวุ า มนุ ษ ย์ แ ตุ ล ะคนร้้ วิ ธี เ รี ย นและร้้ วิ ธี คิ ด
เพื่อสร้างองค์ความร้้ด้วยตนเอง
3.2 กลุุ ม ที่ เ น้ น การสร้ า งความร้้ โ ดยอาศั ย ปฏิ สั ม พั น ธ์
ท า ง สั ง ค ม (Social constructivism or socially
oriented constructivist theories) เป็ นกลุุ ม ที่ เน้ น วุ า
ความร้้ คือ ผลผลิต ทางสัง คม โดยมีข้อตกลงเบื้อ ง
ต้นสองประการ คือ 1) ความร้ต
้ ้องสัมพันธ์กบ
ั ชุมชน
2) ปั จจัยทางวัฒนธรรมสังคมและประวัติศาสตร์
มี ผ ลตุ อ การเรี ย นร้้ ดั ง นั้ น คร้ จึ ง มี บทบาทเป็ นผ้้
อำานวยความสะดวกในการเรียนร้้

4) การเรียนร้้จากการสอนแบบเอส ไอ พี

การสอนแบบเอส ไอ พี เป็ นร้ป แบบการสอนที่ พัฒนา


ขึ้น เพื่อฝึ กทัก ษะทางการสอนให้ กับ ผ้้เ รี ยนระดับ อุด มศึ ก ษา
สาขาวิ ช าการศึ ก ษาให้ มี ค วามร้้ ค วามเข้ า ใจ และความ
สามารถเกี่ยวกับทักษะการสอน โดยผลที่เกิดกับผ้้เรียนมีผล
ทางตรง คือ การมีทักษะการสอน การมีความร้้ ความเข้าใจ
เกี่ ย วกั บ ทั ก ษะทางการสอนและผลทางอ้ อ ม คื อ การสร้ า ง
ความร้้ด้วยตนเอง ความรุวมมือในการเรียนร้้ และความพึง
พอใจในการเรียนร้้

วิ ธีก ารที่ ใ ช้ ใ นการสอน คือ การทดลองฝึ กปฏิ บั ติ จ ริ ง


อยุ า งเข้ ม ข้ น ตุ อ เนื่ อง และเป็ นระบบ โดยการสอนแบบ
จุลภาค มีท่ีให้ผ้เรียนทุกคนมีบทบาทในการฝึ กทดลองตั้งแตุ
เริ่ ม ต้ น จนสิ้ น สุ ด การฝึ ก ขั้ น ตอนการสอน คื อ ขั้ น ความร้้
ความเข้าใจ ขั้นสำารวจ วิเคราะห์และออกแบบการฝึ กทักษะ
ขั้นฝึ กทักษะ ขั้นประเมินผล โครงสร้างทางสังคมของร้ปแบบ
การสอนอยุ้ ใ นระดั บ ปานกลางถึ ง ตำ่ า ในขณะที่ ผ้ เ รี ย นฝึ ก
ทดลองทั ก ษะการสอนนั้ น ผ้้ ส อนต้ อ ง ให้ ก ารชุ ว ยเ หลื อ
สนั บ สนุ น อยุ า งใกล้ ชิ ด สิ่ ง ที่ จ ะทำา ให้ ก ารฝึ กเป็ นไปอยุ า งมี
ประสิ ท ธิ ภ าพและประสิ ท ธิ ผ ล คื อ ความพร้ อ มของระบบ
ส นั บ ส นุ น ไ ด้ แกุ ห้ อ ง ป ฏิ บั ติ ก า ร ส อน ห้ อ ง สื่ อ เ อ ก ส า ร
หลักส้ตรและการสอน และเครื่องมือโสตทัศน้ปกรณ์ตุาง ๆ ที่
เกี่ยวข้อง

5) การเรียนร้้แบบแสวงหาความร้้ได้ด้วยตนเอง (Self-

Study)

การเรียนร้้แบบนี้ เป็ นการให้ผ้เรียนศึกษาและแสวงหา


ความร้้ด้วยตนเอง เชุน การจัดการเรียนการสอนแบบสืบค้น
(Inquiry Instruction) ก า ร เ รี ย น แ บ บ ค้ น พ บ (Discovery

Learning) การเรี ย นแบบแก้ ปั ญหา (Problem Solving) การ

เรียนร้้เชิงประสบการณ์ (Experiential Learning) ซึ่งการเรียน


การสอนแบบแสวงหาความร้้ด้วยตนเองนี้ ใช้ในการเรียนร้้ท้ัง
ที่เป็ นรายบุคคล และกระบวนการกลุุม

6) การเรียนร้้จากการทำางาน (Work-based Learning)

การเรียนร้้แบบนี้ เป็ นการจัดการเรียนการสอนที่สุง


เสริมผ้้เรียนให้เกิดพัฒนาการทุกด้าน ไมุวุาจะเป็ นการเรียนร้้
เนื้ อหาสาระ การฝึ กปฏิบัติจริง ฝึ กฝนทักษะทางสังคม ทักษะ
ชี วิ ต ทั ก ษะวิ ช าชี พ การพั ฒ นาทั ก ษะการคิ ด ขั้ น ส้ ง โดย
สถาบั น การศึ ก ษามั ก รุ ว มมื อ กั บ แหลุ ง งานในชุ ม ชน รั บ ผิ ด
ชอบการจั ด การเรี ย นการสอนรุ ว มกั น ตั้ ง แตุ ก ารกำา หนด
วั ต ถุ ป ระสงค์ การกำา หนดเนื้ อหากิ จ กรรม และวิ ธี ก าร
ประเมิน

7) การเรี ย นร้้ ท่ี เน้ น การวิ จั ย เพื่ อสร้ า งองค์ ค วามร้้

(Research–based Learning)
การเรียนร้้ท่ีเน้นการวิจัยถือได้วุาเป็ นหัวใจของบัณฑิต
ศึ ก ษา เพราะเป็ นการเรี ย นที่ เ น้น การแสวงหาความร้้ ด้ ว ย
ตนเองของผ้้ เ รี ย นโดยตรง เป็ นการพั ฒ นากระบวนการ
แสวงหาความร้้ และการทดสอบความสามารถทางการเรียน
ร้้ด้วยตนเองของผ้้เ รียน โดยร้ป แบบการเรียนการสอนอาจ
แบุง ได้เ ป็ น 4 ลัก ษณะใหญุ ๆ ได้แกุ การสอนโดยใช้วิ ธีวิ จัย
เป็ นวิ ธี ส อน การสอนโดยผ้้ เ รี ย นรุ ว มทำา โครงการวิ จั ย กั บ
อาจารย์ หรื อเป็ นผ้้ชุ ว ยโครงการวิจั ย ของอาจารย์ การสอน
โดยผ้้เรียนศึกษางานวิจัยของอาจารย์และของนักวิจัยชั้นนำา
ในศาสตร์ ท่ีศึ ก ษา และการสอนโดยใช้ ผลการวิ จัย ประกอบ
การสอน

8) การเรียนร้้ท่ีใช้วิธีสร้างผลงานจากการตกผลึกทาง

ปั ญญา (Crystal-Based Approach)

การจั ด การเรี ย นร้้ ใ นร้ ป แบบนี้ เป็ นการสุ ง เสริ ม ให้ ผ้


เรี ย นได้ ส ร้ า งสรรค์ ค วามร้้ ค วามคิ ด ด้ ว ยตนเองด้ ว ยการ
รวบรวม ทำา ความเข้าใจ สรุป วิเคราะห์ และสังเคราะห์จ าก
การศึก ษาด้ว ยตนเอง เหมาะสำา หรับ บัณ ฑิต ศึ ก ษา เพราะผ้้
เรียนที่เป็ นผ้้ใหญุ มีประสบการณ์เกี่ยวกับศาสตร์ท่ีศึกษามา
ในระดับหนึ่งแล้ว

วิธีการเรียนร้้เริ่มจากการทำา ความเข้าใจกับผ้้เรียนให้
เข้ า ใจวั ต ถุ ป ระสงค์ ข องการเรี ย นร้้ ต ามแนวนี้ จากนั้ น
ทำา ความเข้ า ใจในเนื้ อหาและประเด็ น หลั ก ๆ ของรายวิ ช า
มอบหมายให้ผ้เรียนไปศึกษาวิเคราะห์เ อกสาร แนวคิดตาม
ประเด็น ที่ กำา หนด แล้ว ให้ ผ้เ รีย นพัฒ นาแนวคิ ด ในประเด็ น
ตุาง ๆ แยกทีละประเด็น โดยให้ผ้เรียนเขียนประเด็นเหลุ า
นั้ น เป็ นผลงานในลั ก ษณะที่ เ ป็ นแนวคิ ด ของตนเองที่ ผุ า น
การกลั่นกรอง วิเคราะห์เจาะลึกจนตกผลึกทางความคิดเป็ น
ของตนเอง จากนั้ นจึงนำา เสนอให้กลุุมเพื่อนได้ชุวยวิเคราะห์
วิจารณ์อีกครั้ง

ระบบการเรียนการสอน

ความหมาย
เป็ นการนำาเอาวิธีระบบ หรือการจัดระบบมาใช้ใน
่ ประกอบด้วยข้อม้ลที่ป้อน (Input)
การเรียนการสอน ซึง
กระบวนการ (Process) และมีผลผลิต (Output) เชุน ระบบ
การสอน จะมีองค์ประกอบยุอย ๆ เชุน ระบบคร้ผ้สอน ระบบ
นักเรียน ระบบสื่อการสอน ระบบการเลือกและใช้ส่ ือการ
สอน หรือแหลุงการเรียนร้้ ซึ่งหนุ วยยุอยเหลุานี้ สามารถ
ทำางานในหน้าที่ของตนอยุางมีอิสระ แตุถ้าหนุ วยยุอยนั้นมี
การเปลี่ยนแปลงก็จะสุงผลกระทบถึงหนุ วยยุอยอื่น ๆ
ด้วย ระบบการสอนที่มีการออกแบบโดยใช้วิธี
ระบบ (Systematic approach) มีการทดลองใช้อยุางกว้างขวาง
มีการกำาหนดขั้นตอนการสอน เชุน มีการกำาหนด
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม ออกแบบกิจกรรมการเรียนร้้
การใช้แหลุงความร้้ ให้สามารถตอบสนองตุอความแตกตุาง
ระหวุางบุคคลของผ้้เรียน เชุน วัย เพศ อัตราการเรียนร้้
ความสามารถทางด้านสติปัญญา ความสนใจ ความถนัด
ประสบการณ์เดิม ตลอดจนพื้นฐานทางวัฒนธรรม ซึ่งคร้ผ้
สอนและนักเทคโนโลยีการศึกษา จะเข้ามามีบทบาทสำาคัญ
ในการออกแบบพัฒนาระบบการสอน

องค์ประกอบของระบบการเรียนการสอน
ระบบการเรียนการสอนประกอบด้วยสุวน
ยุอยๆ ตุาง ๆ ซึง
่ มีความเกี่ยวพันกันและกัน สุวนที่สำาคัญคือ
กระบวนการเรียนการสอน ผ้้สอนและผ้้เรียน
ย้เนสโก ( UNESCO ) ได้เสนอร้ปแบบขององค์ประกอบของ
ระบบการเรียนการสอนไว้
โดยมีองค์ประกอบ 6 สุวน คือ
1. องค์ประกอบของการสอนจะประกอบด้วย ผ้้สอน ผ้้เรียน
สื่อ การเรียนการสอน
วิธีสอนซึง
่ ทำางานประสานสัมพันธ์กัน อันจะเป็ นพาหะหรือ
แนวทางผสมกลมกลืนกับเนื้ อหาวิชา
2. กิจกรรมการเรียนการสอน จะต้องมีส่ ือการเรียนการสอน
และแหลุงที่มาของสื่อการเรียนการสอนเหลุานั้น
3. ผ้้สอนต้องหาแนวทาง แนะนำาชุวยเหลือผ้้เรียนให้เกิดการ
เรียนร้้ท่ีดีท่ีสุด
4. การเสริมกำาลังใจ การจ้งใจแกุผเ้ รียน นับวุามีอิทธิพลตุอ
การที่จะเสริมสร้างความสนใจ
ให้การเรียนการสอนมีคุณภาพ
5. การประเมินผล ผลที่ออกมาอยุางมีประสิทธิภาพโดยการ
ประเมินทั้งระบบ
เพื่อด้วุาผลที่ได้น้ันเป็ นอยุางไร
เป็ นการนำาข้อม้ล ข้อเท็จจริงมาเปรียบเทียบกับ
ประสิทธิผลของระบบ เพื่อการแก้ไขปรับปรุงตุอไป
6. ผลที่ได้รับทั้งประเมิน เพื่อประเมินผลในการปรับปรุงและ
เปรียบเทียบกับการลงทุนในทางการศึกษาวุา เป็ นอยุางไร
นอกจากนี้ บุญชม ศรีสะอาด ได้กลุาวถึงองค์ประกอบของ
ระบบการเรียนการสอน ได้แกุ ตัวป้ อน กระบวนการ และ
ผลิต ดังภาพ

ตัวป้ อนหรือปั จจัยนำา เข้าระบบ คือ สุวนประกอบตุางๆ ที่


นำาเข้าสุ้ระบบได้แกุ ผ้้สอน ผ้้สอน ผ้้เรียน หลักส้ตรสิ่งอำานวย
ค ว า ม ส ะ ด ว ก
ผ้้สอนหรือคร้ เป็ นองค์ประกอบสำา คัญที่ จ ะทำา ให้ก ารเรียน
การสอนบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ ซึ่งขึ้นอยุ้กับคุณลักษณะ
หลายประการได้ แ กุ คุ ณ ลั ก ษณะด้ า นพุ ท ธิ พิ สั ย เชุ น ความร้้
ความสามารถความร้้ จำา แนกเป็ นความร้้ ใ นเนื้ อหาสาระที่
สอนความร้้ในเทคนิ คการสอนตุางความตั้งใจในการสอนฯลฯ

ผ้้เรียนเป็ นองค์ประกอบที่สำา คัญที่สุดในระบบ


การเรี ย นการสอนซึ่ ง จะบรรลุ ผ ลสำา เร็ จ ได้ ยุ อ มขึ้ น อยุ้ กั บ
คุณลักษณะของผ้้เรียนหลายประการ เชุน ความถนัด ความร้้
พื้ นฐานเดิม ความพร้อ มความสนใจและความพากเพี ย รใน
ก า ร เ รี ย น ทั ก ษ ะ ใ น ก า ร เ รี ย น ร้้ ฯ ล ฯ
หลักส้ตรเป็ นองค์ประกอบหลักทีจะทำาให้ผ้เรียนเกิดการเรียน
ร้้
หลักส้ตรประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐาน 4 ประการ
คื อ
-วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ ก า ร เ รี ย น ร้้

-เ นื้ อ ห า ส า ร ะ ที่ เ รี ย น

-กิจกรรมการเรียนการสอน(รวมวิธีสอนและสื่อการเรียนการ

ส อ น )แ ล ะ

-การประเมิน สิ่งอำานวยความสะดวก อาจเรียกอีกอยุางวุา "

สิ่ ง แวดล้ อ มการเรี ย น" เชุ น ห้ อ งเรี ย น สถานที่ เ รี ย น ซึ่ ง


ประกอบด้ ว ยโต๊ ะ เก้ า อี้ แสดงสวุ า ง ฯลฯกร ะบว นการ
( Process ) ในระบบการเรียนการสอนก็คือ การดำา เนิ น การ
สอนซึ่งเป็ นการนำาเอาตัวป้ อนเป็ นวัตถุดิบในระบบมาดำาเนิ น
การเพื่อให้เกิดผลผลิตตามที่ต้องการ ในการดำาเนิ นการสอน
อาจมีกิจกรรมตุางๆ หลายกิจกรรม ได้แกุ การตรวจสอบและ
เสริ ม พื้ นฐานการสร้ า งความพร้ อ มในการเรี ย น การใช้
เทคนิ ค การสอนตุ า ง ๆและอาจใช้ กิ จ กรรมเสริ ม การตรวจ
สอบและเสริมพื้นฐาน เป็ นกิจกรรมที่ทำาให้ผ้สอนร้้จักผ้้เรียน
และได้ข้อสนเทศที่นำามาใช้ชุวยเหลือผ้้เรียนที่ยังขาดพื้นฐาน
ที่ จำา เ ป็ น กุ อ น เ รี ย น
ใ ห้ ไ ด้ มี พื้ น ฐ า น ที่ พ ร้ อ ม ที่ จ ะ เ รี ย น โ ด ย ไ มุ มี ปั ญ ห า ใ ด ๆ
การสร้ า งความพร้ อ มในการเรี ย น เมื่ อเริ่ ม ชั่ ว โมง
เรียน โดยทั่วไปแล้ว จะมีผ้เรียนที่ยังไมุพร้อมที่จะเรียน เชุน
พ้ ด คุ ย กั น คิ ด ถึ ง เรื่ องอื่ น ๆ ฯลฯ ถ้ า ผ้้ ส อนเริ่ ม บรรยายไป
เรื่ อยๆ อาจไมุ ไ ด้ ผ ลตามที่ ต้ อ งการโดยเฉพาะในชุ ว งต้ น
ชั่วโมงนั้นจึงควรดึงความสนใจของผ้้เรียนให้เ ข้าสุ้ก ารเรียน
โดยเร็วซึ่งทำาได้หลายวิธีเชุนใช้คำา ถามใช้ส่ ือโสตทัศน้ปกรณ์
ชุวยเร้าความสนใจ หรือยกเรื่องที่เกี่ยวข้องมาเลุาให้นักเรียน
ฟั ง ในการสร้างความพร้อมไมุควรใช้เวลามากเกินไป นุ าจะ
ใช้เวลาไมุเกิน 5 นาที และทำาทุกครั้งที่สอน เมื่อพบวุาผ้้เรียน

ยังไมุพร้อมผลผลิต ( Output) ผลผลิตคือผลที่เกิดขึ้นในระบบ


ซึ่งเป็ นเป้ าหมายปลายทางของระบบ สำาหรับระบบการเรียน
การสอนผลผลิต ที่ต้องการก็คือการเปลี่ ยนแปลงพฤติกรรม
ของผ้้เรียนไปในทางที่พึงประสงค์ เป็ นการพัฒนาที่ดีในด้าน
-พุ ท ธิ พิ สั ย (Cognitive) เกี่ ย วข้ อ งกั บ ความร้้ ความจำา ความ
เ ข้ า ใ จ ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ สั ง เ ค ร า ะ ห์ แ ล ะ ป ร ะ เ มิ น ผ ล
-จิตพิสัย(Affective)เกี่ยวข้องกับเจตคติ และความร้้สึกนึ กคิด
เชุ น ความร้้ สึ ก ซาบซึ้ ง ตุ อ ดนตรี หรื อ งานศิ ล ปะเป็ นต้ น
-ทักษะพิสัย(Psychomotor) เป็ นเรื่องเกี่ยวกับทักษะตุาง ๆ เชุน
ทั ก ษ ะ ก าร เ ลุ นฟุ ต บ อล ทั ก ษะ ก าร พิ ม พ์ หรื อทั ก ษ ะก าร
ป ร ะ ดิ ษ ฐ์ ตั ว อั ก ษ ร เ ป็ น ต้ น
การติดตามผล ประเมิน ผล และปรับปรุง เพื่อให้ ก าร
เรี ย นการสอนบรรลุ ผ ลอยุ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ ผ้้ ส อนจะต้ อ ง
พิ จ ารณาองค์ ป ระกอบตุ า งๆทั้ ง หมดในระบบโดยพิ จ ารณา
ผลผลิตวุาได้ผลเป็ นไปดังที่มุงหวังไว้หรือไมุมีจุดบกพรุองใน
สุวนใดที่จะต้องแก้ไข ปรับปรุงบ้าง

You might also like