You are on page 1of 8

ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา มีอยู่หลายทัศนะ ดังตูอไปนี้

องค์กรร่วมสาขาเทคโนโลยีทางการศึกษา ประเทศอังกฤษ (Council for Educational


Technology for the United Kingdom - CET) อธิบายว่า "เทคโนโลยีทางการศึกษา
หมายถึงการพัฒนาการนำาไปใช้และการประเมินระบบ วิธีการดำาเนิ นงาน และอุปกรณ์ต่าง ๆ
ทั้งนี้ เพื่อทำาให้การเรียนร้้ของคนเราให้ดีขึ้น"

ดร.วิจิตร ศรีสะอ้าน ให้ความหมายว่า เทคโนโลยีทางการศึกษา เป็ นศาสตร์ท่ีว่าด้วย


วิธีการทางการศึกษา ครอบคลุมระบบการนำาวิธีการ มาปรับปรุงประสิทธิภาพของการ
ศึกษาให้ส้งขึ้น โดยครอบคลุมองค์ประกอบ 3 ประการ คือ วัสดุ อุปกรณ์หรือเครื่องมือ วิธี
การ

ดร. เปรื่อง กุมุท ได้กล่าวถึงทางการศึกษา ไม่ใช่เครื่องมือ แต่เป็ นแผนการหรือวิธี


การทำางานอย่างเป็ นระบบ ให้บรรลุผลตามแผนการ

ศ้นย์บทเรียนโปรแกรมแห่งชาติ ประเทศอังกฤษ (National Centre for


Programmed Learning , UK) อธิบายว่า "เทคโนโลยีทางการศึกษาคือ การนำาความร้้
ทางวิทยาศาสตร์ท่ีเกี่ยวกับเรื่องการเรียนร้้ และเงื่อนไขของการเรียนร้้ มาใช้เพื่อเสริมสร้าง
ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการสอนและการฝึ กอบรม แต่ถ้าหากปราศจากหลักการ
ทางวิทยาศาสตร์แล้ว เทคโนโลยีทางการศึกษาจะแสวงหาวิธีดำาเนิ นการโดยการทดลองเพื่อ
เสริมสร้างสถานภาพองการเรียนร้้ให้ดีขึ้น"

คณะกรรมมาธิการสาขาเทคโนโลยีการสอน ประเทศสหรัฐอเมริกา (The


Commission on Instructional Technology . USA) ได้อธิบายว่า "เทคโนโลยีทางการ
ศึกษาคือการนำาแนวความคิดที่เป็ นระบบไปใช้ในการออกแบบ ดำาเนิ นการ และประเมิน
กระบวนการเรียนการสอนทั้งกระบวนการในร้ปของวัตถุประสงค์เฉพาะ ซึง ่ มีพ้ ืนฐานมาจาก
ผลการวิจัยเกี่ยวกับการเรียนร้้และการสื่อความหมายของมนุษย์เรา อีกทั้งนำาเอาทรัพยากร
มนุษย์และทรัพยากรอื่น ๆ มาผสมผสานกัน ทั้งนี้ เพื่อก่อให้เกิดประสิทธิภาพของการเรียนร้้ท่ี
ส้งยิง
่ ขึ้น"

Edgar Dale กล่าวว่า เทคโนโลยีทางการศึกษา ไม่ใช่เครื่องมือ แต่เป็ นแผนการหรือวิธีการ


ทำางานอย่างเป็ นระบบ ให้บรรลุตามแผนการ

ครรชิต มาลัยวงษ์ กล่าวว่า "การใช้เทคโนโลยีสำาหรับผ้้ท่ีอย่้ในวงการศึกษา ก็คงจะ


เรียกว่า เทคโนโลยีทางการศึกษา ส่วนผ้้ท่ีอย่้ในวงการธุรกิจและอุตสาหกรรม อาจเรียกว่า
เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึง ่ มองว่า เทคโนโลยีทางการศึกษา และเทคโนโลยีสารสนเทศ
เป็ นการใช้เทคโนโลยีลก
ั ษณะเดียวกัน แต่มีจุดม่งุ หมายแตกต่างกัน"

ชัยยงค์ (2523) อธิบายถึง เทคโนโลยีทางการศึกษาไว้อย่างละเอียดว่า "เทคโนโลยี


เป็ นระบบการประยุกต์ผลิตกรรมทางวิทยาศาสตร์ (วัสดุ) และผลิตกรรมของวิศวกรรม (อุป
กรณ์) โดยยึดหลักทางพฤติกรรมศาสตร์ (วิธีการ) มาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพทางการ
ศึกษาทั้งในด้านบริหารด้านวิชาการ และด้านบริการ" หรืออีกนัยหนึ่ ง เทคโนโลยีทางการ
ศึกษา เป็ นระบบการนำาวัสดุ อุปกรณ์และวิธีการมาใช้ในการปรับปรุงระบบการศึกษาเพื่อให้
มีประสิทธิภาพส้งขึ้น วัสดุ (Material) หมายถึงผลิตกรรมทางวิทยาศาสตร์ สิง ่ ที่มีการผุผัง
สิ้นเปลืองได้ง่าย เช่น ชอร์ค ดินสอ ฟิ ล์ม กระดาษ ส่วนอุปกรณ์ (Equipment) หมายถึง
ผลิตกรรมทางวิศวกรรมที่เป็ นเครื่องมือค่าง ๆ เช่น โต๊ะกระดานดำา เก้าอี้ เครื่องฉาย เครื่อง
เสียง เครื่องรับโทรทัศน์ ฯลฯ และวิธีการ (Technique) หมายถึงระบบ กระบวนการ
กิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องคำานึ งถึงหลักจิตวิทยา หลักสังคมวิทยา ภาษา ฯลฯ ที่นำามาใช้ในการ
ศึกษา เช่น การสาธิต ทดลอง กล่ม ุ สัมพันธ์ เป็ นต้น
จากความหมายของเทคโนโลยีทางการศึกษาตามที่กล่าวมานั้น ต่างเน้นให้เห็นได้อย่าง
ชัดเจนว่า บทบาทและหน้าที่หลักของเทคโนโลยีทางการศึกษาคือ การพัฒนาประสิทธิผ ์ ล
ของกระบวนการของการเรียนร้้

ชาวกรีกโบราณ ได้ใช้วัสดุในการสอนประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมือง ด้วยการแสดงละคร


เพื่อสร้างเจตคติทางจรรยาและการเมือง ใช้ดนตรีเพื่อสร้างอารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ
ศึกษาของชาวกรีก และโรมันโบราณ ยังได้ย้ ำาถึงความสำาคัญของการศึกษานอกสถานที่ด้วย
การสอนศิลปวิจก ั ษ์ ในสมัยนั้นได้ใช้ร้ปปั้ น และแกะสลักช่วยสอนแล้ว คนสำาคัญ ๆ ของกรีก
และโรมันสมัยนั้น ต่างเห็นความสำาคัญของทัศนวัสดุในการสอน ว่าทัศนวัสดุชว ่ ยการ
ปาฐกถาได้มาก

เพลโต นักปราชญ์ชาวกรีก ได้ย้ ำาถึงความสำาคัญของคำาพ้ดที่ใช้กันนั้นว่า เมื่อพ้ดไปแล้วอะไร


เป็ นความหมายที่อย่้เบื้องหลังสิง
่ นั้น จึงได้กระตุ้นให้ใช้วัตถุประกอบเพื่อช่วยให้เข้าใจได้ดีขึ้น

โจฮันน์ อะมอส คอมินิอุส (Johannes Amos comenius ค.ศ. 1592 - 1670) เป็ นผ้้ท่ี
พยายามใช้วัตถุ สิง่ ของช่วยในการสอนอย่างจริงจังจนได้รับเกียรติว่าเป็ นบิดาแห่งโสต
ทัศนศึกษา ท่านผ้้น้ี เป็ นพระในนิ กายโปรแตสแตนท์ ในตำาแหน่งสังฆราชแห่งโมราเวีย
เยอรมัน ท่านมีแนวคิดในเรื่องวิธีการสอนใหม่ โดยได้ย้ ำาความสำาคัญของสิ่งของ ของจริง ใน
การสอน และได้รวบรวมหลักการสอนจากประสบการณ์ท่ีทำาการสอนมาถึง 40 ปี คอมินิอุส
ได้แต่งหนังสือสำาคัญ ๆ ไว้มากมาย ที่สำาคัญยิ่งคือ หนังสือ Obis Sensualium Pictus หรือ
โลกในร้ปภาพ ซึ่งพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1685 เป็ นหนังสือที่ใช้มากและมีอิทธิพลมาก ใช้
ร้ปภาพเป็ นหัวใจของเรื่องมีร้ปภาพประกอบการเรียนถึง 150 ร้ป บทเรียนบทหนึ่ ง จะมี
ร้ปภาพประกอบร้ปหนึ่ ง เรื่องต่าง ๆ ที่มีในหนังสือ เช่น พระเจ้า สวรรค์ อากาศโลก ต้นไม้
เป็ นต้น

ธอร์นไดค์ นักจิตวิทยาการศึกษาชาวอเมริกัน ที่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางการ


ศึกษาประกอบหลักการทางจิตวิทยา เขาได้เริ่มสร้างห้องทดลองทางจิตวิทยาเกี่ยวกับสัตว์
ในชณะที่เขายังเป็ นนักศึกษาอย่้ ต่อมาได้ร่วมเป็ นอาจารย์สอน ในมหาวิทยาลัยโคลัมเบียใน
ปี 1898 และได้ใช้ชีวิตเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เบื้องต้นการใช้เทคโนโลยีทางการศึกษา โดยได้
ทดลองทางจิตวิทยาเกี่ยวกับ การตอบสนองของสัตว์และมนุษย์ ในปี ค.ศ. 1912 เขาได้
ออกแบบสื่อการสอน เพื่อให้ตอบสนองเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิง ่
การสอนแบบโปรแกรม จึงได้ช่ ือว่า เป็ นคนแรกที่ริเริ่มเทคโนโลยีการศึกษาแนวใหม่

บี เอฟ สกินเนอร์ เป็ นผ้้ใช้แนวคิดใหม่ทางจิตวิทยาเกี่ยวกับสิ่งเร้าและผลตอบสนองโดย


คำานึ งถึงธรรมชาติ ของมนุษย์ เขาได้ทำาการทดลองกับสัตว์โดยฝึ กเป็ นขั้นๆ เป็ นผ้้ท่ีมีช่ ือเสียง
ในการสอนแบบโปรแกรม และเป็ นผ้้ท่ีคิดเครื่องช่วยสอน ได้เป็ นผลสำาเร็จเป็ นคนแรก
แนวคิดทางเทคโนโลยีการศึกษาปั จจุบัน ได้รากฐานมาจากแนวความคิดของสกินเนอร์เป็ น
ส่วนมาก

แนวคิดทางการศึกษาของบุคคลทั้งหลายเหล่านี้ พัฒนาไปพร้อม ๆ กับความก้าวหน้าทางสิง ่


ประดิษฐ์คิดค้นของนักวิทยาศาสตร์ ที่ส่งผลให้เทคโนโลยีการศึกษาเจริญก้าวหน้า เช่น การ
ผลิตกระดาษ การพิมพ์ การถ่ายภาพ การฉายภาพ การบันทึกเสียง วิทยุ-โทรทัศน์ การ
บันทึกภาพ จนถึงยุคคอมพิวเตอร์ในปั จจุบัน

เทคโนโลยีก่อประโยชน์แก่ระบบการศึกษามากขึ้น การนำาเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษา
สามารถเร่งอัตราการเรียนร้้ให้เร็วขึ้น ลดภาระทางด้านการบริหารของคร้และยังทำาหน้าที่
แทนคร้ในการถ่ายทอดเรื่องราวหรือข่าวสารประจำาวันต่าง ๆ
เทคโนโลยีเน้นการศึกษาไปส่้ความเป็ นส่วนบุคคลมากขึ้น การนำาเอาเทคโนโลยีมาใช้อย่าง
เหมาะสมนั้นเป็ นการขยายขอบเขตของการเรียนร้้ออกไปได้อย่างกว้าง
เทคโนโลยีทำาให้การสอนมีพลังยิ่งขึ้น ระบบการสื่อสารในปั จจุบันได้ช่วยเพิ่มความสามารถ
ให้กับคนเรา ดังนั้นสื่อการสอนในยุคใหม่น้ี จึงสามารถจำาลองสถานการณ์จริง ช่วยร่นระยะ
ทางและเหตุการณ์ท่ีอย่้คนซีกโลกมาส่้นักเรียนได้
เทคโนโลยีทำาให้การเรียนเป็ นไปอย่างฉับพลันยิ่งขึ้น เทคโนโลยีการสอนเปรียบเสมือน
สะพานที่เชื่อมโยงระหว่างที่อย่้ภาย นอกโรงเรียนและโลกที่อย่้ภายในโรงเรียน
เทคโนโลยีสามารถทำาให้เกิดความเสมอภาคของการศึกษามากขึ้น
ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้ทุกหนแห่ง เทคโนโลยีพร้อมที่จะหยิบยื่นความ
ร้้ให้แก่ทุกคนเสมอ

Technology in education (หรือ Tools technology)


Technology in education หมายถึงวิธีการต่าง ๆ ที่นำามาใช้ในการนำาเสนอเนื้ อหาสาระ
ทางการศึกษาหรือการฝึ กอบรม ได้แก่ โทรทัศน์ ห้องปฏิบัติการภาษา เครื่องฉายประเภท
ต่าง ๆ ( หรือที่เรียกว่า สื่อการสอน)

Technology of education (หรือ System technology)


Technology of education หมายถึง เป็ นการนำาเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ อักทั้งวัสดุ
และวิธีการมาผสมผสานกัน เพื่อมุ่งไปส่้การพัฒนากระบวนการจัดการศึกษาให้มี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สาขาวิชานี้ ได้กล่าวถึงการนำาเครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ อักทั้งบรรดาวัสดุ และวิธีการมา


ผสมผสานกัน เพื่อมุ่งไปส่้การพัฒนากระบวนการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่ง
แนวความคิดดังกล่าวมีจุดประสงค์หลายประการด้วยกัน เช่น

เพือ
่ เพิม
่ พูนคุณภาพของการเรียน และผลสัมฤทธิข
์ องการเรียนรูู
ลดเวลาทีใ่ ชูในการเรียนรููใหูนูอยลง
เพิม
่ ประสิทธิภาพของผููสอนใหูมีความสามารถต่อการสอนผููเรียน
ทีม
่ ีปริมาณมากขึน
้ โดยทีไ่ ม่ทำาใหู การ เรียนรููดูอยคุณภาพลง
ลดค่าใชูจ่ายใหูนูอยลง โดยไม่กระทบกระเทือนคุณภาพของการ
เรียน

เทคโนโลยีการสอน (Instructional Technology) เป็ นส่วนหนึ่ งของเทคโนโลยีการศึกษา


ซึ่งหมายถึง การ เทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอน เทคโนโลยีการ
ศึกษาที่กล่าวถึงกันส่วนใหญ่ จึงเป็ นเรื่องของ เทคโนโลยีทางการเรียนการสอน

ในการเรียนการสอน หรือการทำาให้ผ้เรียนเกิดการเรียนร้้น้ัน เป็ นกระบวนการที่ต้องใช้


เทคนิ คและวิธีการมากมาย ไม่มีเทคนิ คหรือวิธีการใดที่เราจะยอมรับกันได้ว่า ดีท่ีสุดสำาหรับ
การเรียนการสอน เทคนิ คและวิธีการแต่ละอย่างก็มีความเหมาะสมตามสภาพการณ์และ
เนื้ อหาวิชาที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็เป็ นที่ยอมรับ กันโดยทั่วไปว่า การเรียนการสอนที่มี
วัสดุอุปกรณ์ตลอดจน เครื่องมือ วิธีการ ช่วยอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผ้เรียนได้รับความร้้
และประสบการณ์ มากกว่าการเรียนการสอน โดยให้นักเรียนฟั งแต่เพียงคำาพ้ด แต่เพียง
อย่างเดียว
แนวโน้มของการศึกษาในปั จจุบน ั เปิ ดโอกาสให้ผ้เรียนได้รับประสบการณ์อย่างกว้างขวาง
แทนการฟั งแต่เพียงคำาบอกเล่าของคร้ ทั้งนี้ เป็ นผลเนื่ องมาจากจำานวนผ้้เรียนเพิ่มมากขึ้น
การขยายตัวของสาขาวิทยาการต่าง ๆ ทำาให้สง ิ่ ที่ผ้เรียนจะต้องเรียนร้้มากขึ้น จึงมีความ
จำาเป็ นอย่างยิง
่ ที่จะต้องหาทางให้ผ้เรียนร้้สง
ิ่ ต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด โดยใช้เวลาในการเรียน
น้อยกว่าเดิม

การเรียนการสอนที่ปฏิบัติได้จริง ส่วนใหญ่ เราไม่สามารถจัดประสบการณ์ตรง ให้กับผ้้เรียน


ได้ทุกเนื้ อหาเนื่ องจากอาจมีข้อจำากัดบางประการณ์ เช่น

ตูองลงทุนมาก
ตูองใชูเวลานานมาก อาจเป็ นหลายวัน หลายปี หรือปลายรูอยปี
มีความยุ่งยากซับซูอนมาก
ความรููบางอย่างไม่อาจสัมผัสไดูโดยตรง

ดังนั้น นอกเหนื อจากการให้ผ้เรียนได้รับประสบการณ์ตรงแล้ว เรายังมีความจำาเป็ นต้องจัด


ประสบการณ์อย่างอื่นให้ผ้เรียนได้รับ แทนประสบการณ์ตรงด้วย เช่น การใช้ร้ปภาพ
หนังสือ แผนภ้มิ วิทยุโทรทัศน์ วิธีการอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อให้ผลผลิตทางการศึกษามี
คุณภาพส้งสุด

การจัดประสบการณ์ในการเรียนการสอนที่มีการใช้ส่ ือการเรียนการสอน คร้มักเน้นหนักที่


การใช้วสั ดุอุปกรณ์เป็ นสำาคัญ ซึ่งไม่อาจรับรองหรือเชื่อถือได้ว่าจะบรรลุจุดประสงค์ท้ังนี้
เพราะการใช้วัสดุอุปกรณ์กับคร้ ซึ่งมีชีวต ิ จิตใจ มีอารมณ์ มีสภาพแวดล้อม ไม่คงที่ จำาเป็ นจะ
ต้องปรับกระบวนการในการใช้ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงอย่้เสมอ วิธก ี ารกระบวน
การต่าง ๆ ที่นำามาใช้ จะต้องเป็ นวิทยาศาสตร์ท่ีเชื่อถือได้ ซึ่งก็คือการใช้เทคโนโลยีทางการ
ศึกษานั่นเอง

การเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเป็ นผลมาจากองค์ประกอบ 3 ประการ

ปั ญหาหรือวิกฤตการณ์ทีเ่ กิดขึน
้ ในปั จจุบัน และแนวโนูมของ
ปั ญหาทีค
่ าดว่าจะเกิดขึน
้ ในอนาคต
เอกลักษณ์ ค่านิยม และเจตคติในปั จจุบัน รวมถึงแนวโนูม
ความรููและเทคโนโลยีทีม
่ ีอยู่ในปั จจุบัน และทีจ
่ ะมีขึน
้ ในอนาคต

มิลเลอร์ (Willam C. Miller , 1981 อ้างจาก ครรซิต มาลัยวงษ์ 2540 : 39) สรุปว่าการ
ศึกษาในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปดังนี้

จัดเป็ นการศึกษาในระบบนูอยลง
ค่าใชูจ่ายจะตูองถูกลง
สอนเรือ
่ งทีไ่ ม่เป็ นประโยชน์มากขึน

สอนเป็ นระบบรายบุคคลมากขึน

สอนในเรือ
่ งทีเ่ ห็นจริงเห็นจังมากขึน

สอนเรือ
่ งเกีย
่ วกับมนุษย์ธรรมมากขึน

บทเรียนสนุกสนานมากขึน

เป็ นการเรียนตลอกชีวิต

ความหมายเทคโนโลยีทางการศึกษา

ดร.เปรื่อง กุมุท ได้กล่าวถึงความหมายของเทคโนโลยีการศึกษาว่า เป็ นการ


ขยายขอบข่ายของการใช้ส่ ือการสอน ให้กว้างขวางขึ้นทั้งในด้านบุคคล วัสดุ
เครื่องมือ สถานที่ และกิจกรรมต่างๆในกระบวนการเรียนการสอน
(boonpan edt01.htm)

Edgar Dale กล่าวว่า เทคโนโลยีทางการศึกษา ไม่ใช่เครื่องมือ แต่เป็ น


แผนการหรือวิธีการทำางานอย่างเป็ นระบบ ให้บรรลุผลตามแผนการ
(boonpan edt01.htm)

นอกจากนี้ เทคโนโลยีทางการศึกษา เป็ นการขยายแนวคิดเกี่ยวกับโสต


ทัศนศึกษา ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เนื่ องจากโสตทัศนศึกษาหมายถึง การ
ศึกษาเกี่ยวกับการใช้ตาดูหูฟัง ดังนั้ นอุปกรณ์ในสมัยก่อนมักเน้นการใช้
ประสาทสัมผัส ด้านการฟั งและการดูเป็ นหลัก จึงใช้คำาว่าโสตทัศนอุปกรณ์
เทคโนโลยีทางการศึกษา มีความหมายที่กว้างกว่า ซึ่งอาจจะพิจารณาจาก
ความคิดรวบยอดของเทคโนโลยีได้เป็ น 2 ประการ คือ
1. ความคิดรวบยอดทางวิทยาศาสตร์กายภาพ ตามความคิดรวบยอดนี้
เทคโนโลยีทางการศึกษาหมายถึง การประยุกต์วิทยาศาสตร์กายภาพ ในรูป
ของสิ่งประดิษฐ์ เช่น เครื่องฉายภาพยนตร์ โทรทัศน์ ฯลฯ มาใช้สำาหรับการ
เรียนรู้ของนั กเรียนเป็ นส่วนใหญ่ การใช้เครื่องมือเหล่านี้ มักคำานึ งถึง
เฉพาะการควบคุมให้เครื่องทำางาน มักไม่คำานึ งถึงจิตวิทยาการเรียนรู้ โดย
เฉพาะเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล และการเลือกสื่อให้ตรงกับเนื้ อหา
วิชา
ความหมายของเทคโนโลยีทางการศึกษา ตามความคิดรวบยอดนี้ ทำาให้
บทบาทของเทคโนโลยีทางการศึกษาแคบลงไป คือมีเพียงวัสดุ และอุปกรณ์
เท่านั้ น ไม่รวมวิธีการ หรือปฏิกิรย
ิ าสัมพันธ์อ่ ืน ๆ เข้าไปด้วย ซึง่ ตามความ
หมายนี้ ก็คือ "โสตทัศนศึกษา" นั ่นเอง
2. ความคิดรวบยอดทางพฤติกรรมศาสตร์ เป็ นการนำาวิธีการทางจิตวิทยา
มนุ ษยวิทยา กระบวนการกลุ่ม ภาษา การสื่อความหมาย การบริหาร
เครื่องยนต์กลไก การรับรู้มาใช้ควบคู่กับผลิตกรรมทางวิทยาศาสตร์และ
วิศวกรรม เพื่อให้ผู้เรียน เปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยิ่งขึ้นมิใช่เพียงการใช้เครื่องมืออุปกรณ์เท่านั้ น แต่รวมถึงวิธีการทาง
วิทยาศาสตร์เข้าไปด้วย มิใช่วัสดุ หรืออุปกรณ์ แต่เพียงอย่างเดียว
(boonpan edt01.htm)

เป้ าหมายของเทคโนโลยีการศึกษา
1. การขยายพิสัยของทรัพยากรของการเรียนร้้ กล่าวคือ แหล่งทรัพยากร
การเรียนรู้ มิได้หมายถึงแต่เพียงตำารา ครู และอุปกรณ์การสอน ที่โรงเรียน
มีอยู่เท่านั้ น แนวคิดทางเทคโนโลยีทางการศึกษา ต้องการให้ผู้เรียนมี
โอกาสเรียนจากแหล่งความรู้ที่กว้างขวางออกไปอีก แหล่งทรัพยากรการ
เรียนรู้ครอบคลุมถึงเรื่องต่างๆ เช่น
1.1 คน คนเป็ นแหล่งทรัพยากรการเรียนร้้ที่สำาคัญ ซึ่งได้แก่ ครู และ
วิทยากรอื่น ซึ่งอยู่นอกโรงเรียน เช่น เกษตรกร ตำารวจ บุรุษไปรษณี ย์
เป็ นต้น
1.2 วัสดุและเครื่องมือ ได้แก่ โสตทัศนวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ภาพยนตร์
วิทยุ โทรทัศน์ เครื่องวิดีโอเทป ของจริงของจำาลองสิ่งพิมพ์ รวมไปถึงการ
ใช้ส่ ือมวลชนต่างๆ
1.3 เทคนิ ค-วิธีการ แต่เดิมนั้ นการเรียนการสอนส่วนมาก ใช้วิธีให้ครูเป็ น
คนบอกเนื้ อหา แก่ผู้เรียนปั จจุบันนั้ น เปิ ดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า
ด้วยตนเองได้มากที่สุด ครูเป็ นเพียง ผ้วู างแผนแนะแนวทางเท่านั้ น
1.4 สถานที่ อันได้แก่ โรงเรียน ห้องปฏิบัติการทดลอง โรงฝึ กงาน ไร่นา
ฟาร์ม ที่ทำาการรัฐบาล ภูเขา แม่น้ ำา ทะเล หรือสถานที่ใด ๆ ที่ช่วยเพิ่ม
ประสบการณ์ท่ีดีแก่ผู้เรียนได้
2. การเน้นการเรียนร้้แบบเอกัตบุคคล ถึงแม้นักเรียนจะล้นชั้น และ
กระจัดกระจาย ยากแก่การจัดการศึกษาตามความแตกต่างระหว่างบุคคลได้
นั กการศึกษาและนั กจิตวิทยาได้พยายามคิด หาวิธีนำาเอาระบบการเรียน
แบบตัวต่อตัวมาใช้ แต่แทนที่จะใช้ครูสอนนั กเรียนทีละคน เขาก็คิด ‘แบบ
เรียนโปรแกรม’ ซึ่งทำาหน้าที่สอน ซึง่ เหมือนกับครูมาสอน นั กเรียนจะ
เรียนด้วยตนเอง จากแบบเรียนด้วยตนเองในรูปแบบเรียนเป็ นเล่ม หรือ
เครื่องสอนหรือสื่อประสมหลายๆ อย่าง จะเรียนช้าหรือเร็วก็ทำาได้ตาม
ความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน
3. การใช้วิธีวิเคราะห์ระบบในการศึกษา การใช้วิธีระบบ ในการปฏิบัติหรือ
แก้ปัญหา เป็ นวิธีการที่เป็ นวิทยาศาสตร์ ที่เชื่อถือได้ว่าจะสามารถแก้ปัญหา
หรือช่วยให้งานบรรลุเป้ าหมายได้ เนื่ องจากกระบวนการของวิธีระบบ
เป็ นการวิเคราะห์องค์ประกอบของงานหรือของระบบ อย่างมีเหตุผล หา
ทางให้ส่วนต่าง ๆ ของระบบทำางาน ประสานสัมพันธ์กันอย่างมี
ประสิทธิภาพ
4. พัฒนาเครื่องมือ -วัสดุอุปกรณ์ทางการศึกษา วัสดุและเครื่องมือต่าง ๆ ที่
ใช้ในการศึกษา หรือการเรียนการสอนปั จจุบันจะต้องมีการพัฒนา ให้มี
ศักยภาพ หรือขีดความสามารถในการทำางานให้สูงยิง่ ขึ้นไปอีก

You might also like