You are on page 1of 70

5.

1 Dipmeter survey
ค่ามุมเอียงเท (dip angle) แสดงถึงการเอียงตัว
ของชนหิ ้ั นทีกระท
่ ากับระนาบในแนวราบ ส่วน
ทิศทางการวางตัว (azimuth) ของโครงสร ้าง
ทางธรณี วท ิ ยาเป็ นการเปรียบเทียบการวางตัว

กับขัวเหนื ้
อของแม่เหล็กและขัวเหนื อทาง
ภูมศิ าสตร ์
ในการหาค่ามุมเอียงเทของชนหิ ้ั นทีอยู
่ ใ่ ต ้ผิวดิน
่ จะต
จาเป็ นอย่างยิงที ่ ้องได ้ข ้อมูลการวางตัวของ
้ั นจากหลุมเจาะอย่างน้อย 3 หลุมทีไม่
ชนหิ ่ อยู่
ในแนวเส ้นตรงเดียวกัน ซึงท ่ าได ้ยากเนื่องจาก
จะต ้องมีหลุมเจาะถึง 3 หลุมเป็ นอย่างน้อยและ
ชนหิ้ั นทีต
่ ้องการศึกษาต ้องผ่านหลุมเจาะทัง้ 3

หลุมด ้วย ทาให ้สินเปลื ้
องทังเวลาและค่ าใช ้จ่าย
ในการเจาะมาก
ค่ามุมเอียงเทและทิศทางการวางตัวของโครงสร ้าง
ทางธรณี วท ่ ้จาก dipmeter มี
ิ ยาทีได
ประโยชน์อย่างมาก เนื่ องจากใช ้หลุมเจาะเพียง
1 หลุม ก็สามารถทราบได ้ถึงทิศทางการวางตัว
ของชนหิ้ั น และยังสามารถนาไปหา
ความสัมพันธ ์ของชนหิ ้ั นต่างๆระหว่างหลุมเจาะ
ช่วยในการแปลความหมายถึงการพัฒนาของ
้ั นจากหลุมเจาะหนึ่ งไปยังหลุมเจาะใน
ชนหิ
บริเวณใกล ้เคียง
นอกจากนั้นยังใช ้ในการกาหนดตาแหน่ งหลุม
่ ม การหาลักษณะโครงสร ้าง
เจาะสารวจเพิมเติ
ทางธรณี วท
ิ ยาทีน่่ าสนใจอืนๆ ่ เช่น รอยเลือน

หรือ รอยสัมผัสไม่ตอ ่ เนื่ อง
5.1.1 Dipmeter tools
่ อประกอบด ้วยตัวตรวจวัด
หลักการของเครืองมื
้ บ
(electrode) อย่างน้อย 3 ตัว ติดตังอยู ่ น
่ งฉากกั
แขนทีตั ้ ่ อ แต่ละแขน
บแกนของเครืองมื
่ นและกันสาหร ับกรณี ทมี
ทามุม 120 องศาซึงกั ี่
3 แขน และ 90 องศาสาหร ับกรณี ทมี ี่ 4 แขน
ตัวตรวจวัดแต่ละตัวจะวัดค่าความต ้านทานที่
ผนังของหลุมเจาะ

เมือเครื ่ อผ่านบริเวณทีเป็
องมื ่ นรอยต่อของชนหิ
้ั น
ตัวตรวจวัดแต่ละตัวจะแสดงลักษณะการ

เปลียนแปลงค่ ่ บความลึก
าความต ้านทานทีระดั

ทีแตกต่ ่ บความลึก
างกัน ค่าตาแหน่ งทีระดั
ต่างกันสามารถนามาคานวณเพือบอกลั ่ กษณะ
้ ามุมเอียงเทและทิศทางการ
การวางตัวทังค่
วางตัวของชนหิ ้ั นได ้
ข ้อมูลทีจ่ าเป็ นต ้องทราบก่อนการคานวณหาค่า
มุมเอียงเทและทิศทางการวางตัวของชนหิ ้ั น
1. การวางตัวของเครืองมื่ อซึงก
่ าหนดเป็ น ทิศ
ทางการวางตัวและความสัมพันธ ์กับตัวตรวจวัด
ที่ 1 ค่าทิศทางการวางตัวจะเป็ นมุมทีเกิ
่ ดจาก
ระนาบในแนวราบตัดตังฉากกั้ บแกนของ
่ อเทียบเคียงกับตัวตรวจวัดที่ 1 และ
เครืองมื
้ เหล็กโลก
ขัวแม่
2. ค่ามุมเอียงของหลุมเจาะและทิศทางการ
่ อในสมัยแรกถูกพัฒนาขึนโดยที
เครืองมื ้ ่ องมื
เครื ่ อ
มีวธิ ก ่ เนื่ อง
ี ารวัดค่าอย่างไม่ตอ
(discontinuous dipmeter) เช่น
anisotropy meter, SP dipmeter หรือ
lateral dipmeter เครืองมื ่ อเหล่านี ท
้ าการวัด
ค่า SP หรือค่าความต ้านทาน ตาแหน่ งและทิศ
ทางการวางตัวของหลุมเจาะ ตาแหน่ งของ
่ อ รวมทังต
เครืองมื ้ าแหน่ งของตัวตรวจวัดที่ 1
อาจใช ้ compass หรือ photoclinometer
1. Continuous dipmeter (CDM)
่ อระยะแรก ถูกออกแบบให ้ทางานได ้ดี
เป็ นเครืองมื
ในหลุมเจาะทีมี่ ขนาดระหว่าง 3.5 ถึง 19 นิ ว้
ประกอบด ้วยแขน 3 แขน ทามุม 120 องศาซึง่
กันและกัน ทาการวัดค่าความต ้านทานโดยใน
ระยะแรกมีตวั ตรวจวัดเป็ นแบบ microlog และ
ตัววัดค่ามุมเอียงของหลุมเป็ นแบบ
่ อแบบนี ว่้ า
Teleclinometer เรียกเครืองมื
CDM-T แสดงผลการเอียงของหลุมเป็ นแบบ
rectangular coordinate
ต่อมาปร ับปรุงและเปลียนตั่ วตรวจวัดไปใช ้แบบ
focused micro-device และตัววัดค่ามุมเอียงของ
หลุมเป็ นแบบ Poteclinometer เรียกเครืองมื ่ อแบบ
นี ว่้ า CDM-P ซึงช่
่ วยให ้สามารถอ่านค่าความ
ต ้านทานของชนหิ ้ั นเข ้าไปได ้ลึกมากขึนและแสดงผล

การเอียงของหลุมแบบ polar coordinate
เครืองมื่ อจะอ่านค่าและแสดงผลเป็ นค่ามุมเอียง ทิศ
ทางการวางตัวของหลุมเจาะ และตาแหน่ งของตัว
ตรวจวัดที่ 1 ส่วนค่ามุมเอียงเทของชนหิ ้ั นจะต ้องหา
จากความสัมพันธ ์ระหว่างค่าความต ้านทานทีวั่ ดได ้

ในการทางานเครืองมื ่ อนี อาจมี
้ ปัญหาบ ้าง
1. ในกรณี ทหลุ ี่ มเกิดเป็ นโพรง ตัวตรวจวัดตัวใด
ตัวหนึ่ งไม่สม ั ผัสกับผนังของหลุมเจาะ ทาให ้ค่า
ความต ้านทานมีคา่ เท่ากับค่าความต ้านทาน

ของนาโคลน ่ านได ้จากกราฟจึงไม่แสดง
ค่าทีอ่

ลักษณะทีสามารถจะน าไปเปรียบเทียบกับ
กราฟทีได ่ ้จากตัวตรวจวัดตัวอืนๆที ่ ่ ออีก 2
เหลื
ตัว การแก ้ไขปัญหานี ท ้ าได ้โดยอาจทาการวัด
2 ครง้ั โดยตังเครื้ ่ อให ้วัดค่าในตาแหน่ งอืน
องมื ่
ี่ มเอียงมาก ทาให ้ตัวตรวจวัดตัว
2. ในกรณี ทหลุ
ใดตัวหนึ่ งถูกกดทับด ้วยนาหนั้ ่ อ
กของเครืองมื
ทาให ้ตัวตรวจวัดไปติดอยูก ่ อ
่ บั แกนของเครืองมื
ไม่สม
ั ผัสกับผนังของหลุมเจาะ

3. นาโคลนมี คา่ ความเค็มสูงมาก ค่าความต ้น
่ ้อาจไม่แสดงลักษณะทีท
ทานทีได ่ าให ้สามารถ
นามาใช ้ในการคานวณค่ามุมเอียงเทได ้

4. กรณี ของนาโคลนที ่ ้เป็ นนามั
ใช ้ น ซึงอาจมี
่ ชน้ั
บางๆของนามั ้ นอยูร่ ะหว่างตัวตรวจวัดและผนัง
2. High resolution dipmeter tool
(HDT)
่ อถูกออกแบบให ้มีตวั ตรวจวัด 4 ตัว อยู่
เครืองมื
บน hydraulic arm ช่วยในการแก ้ไขปัญหา
่ ดกับเครืองมื
ต่างๆทีเกิ ่ อทีมี ่ ตวั ตรวจวัด 3 ตัว
ตัวตรวจวัดเป็ นแบบ focused micro-device
มี caliper 2 ตัว แสดงผลออกมาทังบน ้
แผ่นฟิ ล ์มและบันทึกลงในเทปแม่เหล็ก
เครืองมื ้
่ อนี เหมาะส าหร ับทาการวัดในหลุมเจาะ
่ ขนาดระหว่าง 4.5 ถึง 18 นิ ว้ มีคา่ ความ
ทีมี
ละเอียดในแนวดิง่ 0.2 นิ ว้
ลักษณะเด่นของ HDT ทีส ่ าคัญคือ

1. ข ้อมูลถูกเก็บและส่งผ่านขึนมายั งผิวดินด ้วย
ระบบ elaborate telemetry system แบบ
Pulse Amplitude Modulation
Frequency Modulated (PAM-FM) ทาให ้
ี ารบกวนของข ้อมูลแต่ละชุด เนื่องจาก
ไม่มก

การส่งผ่านข ้อมูลทีความถี ่
แตกต่ างกัน

อัตราส่วนของสัญญาณต่อคลืนรบกวนดี ขน ึ้
ง่ายต่อการแปลงสัญญาณไปสูร่ ะบบ digital
2. ตัวตรวจวัดหมายเลข 0 ซึงอยู่ บ ่ นแขนที่ 1 จะ
บันทึกค่าเป็ นกราฟหมายเลข 5 ใช ้ในการแก ้
ค่าเนื่ องจากความแตกต่างของความเร็วในการ
่ วตรวจวัดแต่ละตัวด ้วยระบบคอมพิวเตอร ์
วัดทีตั
้ นทึกอยูใ่ นเทปแม่เหล็กเท่านั้น จะ
กราฟนี จะบั
ไม่เขียนลงบนแผ่นฟิ ล ์ม
3. PDT
่ อทีมี
เป็ นเครืองมื ่ ตวั ตรวจวัดแบบ focused
micro-device 3 ตัว ติดตังอยู ้ บ ่ น hydraulic
arm หรือ spring actuated arm
เช่นเดียวกับ HDT แต่มี caliper เพียง 1 ตัว
่ อทีมี
เป็ นเครืองมื ่ ความสามารถมากอันหนึ่ ง
่ านได ้แสดงทังบนฟิ
ข ้อมูลทีอ่ ้ ล ์มและบันทึกใน
เทปแม่เหล็ก
ถึงแม้ว่า HDT และ PDT จะช่วยในการแก ้ไข
ปัญหาบางประการของ CDM แต่ก็ยงั มีปัญหา
ในการทางานอยูบ ่ ้างในบางกรณี เช่น

1. นาโคลนมี คา่ ความเค็มสูงมาก ทาให ้การ
จาแนกลักษณะของกราฟทาได ้ยาก
2. หลุมเอียงมาก ซึงท่ าให ้เกิดนาหนั
้ กกดทับตัว
ตรวจวัด ต่อมาได ้มีการแก ้ไขโดยการทาให ้
่ อมีนาหนั
เครืองมื ้ กเบาขึน้ (HDT-F)
่ ้วิธเี จาะแบบหมุน ซึงจะท
3. หลุมเจาะทีใช ่ าให ้เกิด
ลักษณะของรอยเจาะทีคล ่ ้ายกับลักษณะของ
รอยต่อระหว่างชนหิ้ั นและมีคา่ ความต ้านทานสูง

่ อมีการหมุนในหลุมเจาะด ้วย
4. ถ ้าเครืองมื
้ั นมีมุมเอียงเทมาก ค่า
ความเร็วสูงและชนหิ
ทิศทางการวางตัว ทีได ่ ้จากตัวตรวจวัดอาจมี

การเปลียนแปลงค่ ่ วตรวจวัดตัว
าได ้สูง เมือตั
แรกกับตัวสุดท ้ายผ่านรอยต่อระหว่างชนหิ ้ั น
4. Sedimentary dipmeter (SHDT)
or Dual Dipmeter tool
่ อถูกออกแบบขึนมาเพื
เครืองมื ้ ่
อแก ้ไขปัญหาหรือ
่ ดขึนกั
ข ้อจากัดทีเกิ ้ บเครืองมื
่ อทีใช ่ ้มาก่อน

ประกอบด ้วยแขน 4 แขน ซึงออกแบบให ้ตัว
ตรวจวัดสัมผัสกับผนังของหลุมเจาะตลอดเวลา
แม้วา่ หลุมเจาะจะมีรปู ร่างเป็ นวงรี แต่ละแขนมี
ตัวตรวจวัด 2 ตัววางห่างกัน 3 cm ทาการ
บันทึกค่าทีทุ่ กๆ 2.5 mm ซึงท ่ าให ้ได ้ข ้อมูล
ทางด ้านการเอียงเทของตะกอนทีละเอี ่ ยดมาก
ขึน้
เนื่ องจากบันทึกข ้อมูลความต ้านทานถึง 8 ชุด
การวัดค่าการเอียงตัวของเครืองมื่ อได ้ร ับการ
ึ ้ ้วย inclinometry system
ปร ับปรุงให ้ดีขนด
แบบใหม่ มีความละเอียดในการเอียงตัวของ
่ อที่ + 0.2 องศา และความละเอียดของ
เครืองมื
ค่าทิศทางการวางตัวที่ + 2 องศา มี
accelerometer ทีใช ่ ้ในการแก ้ค่าอัน
เนื่ องมาจากความแตกต่างของความเร็วของ
่ อขณะวัดค่า ใช ้ Emex survey
เครืองมื
5.1.2 Log presentation
่ ้จากเครืองมื
ข ้อมูลทีได ่ อแสดงผลออกมาใน

ลักษณะทีแตกต่ ้
างกันขึนอยู ก
่ บั ชนิดของ
่ อทีใช
เครืองมื ่ ้ ในกรณี ทใชี่ ้เครืองมื
่ อแบบ 3
แขน จะได ้กราฟ 7 เส ้น แยกเป็ น 2 ส่วน
1. ด ้านซ ้ายประกอบด ้วย
- ค่าการวางตัวของตัวตรวจวัดที่ 1 เทียบกับขัว้
เหนื อของแม่เหล็กโลก 1 เส ้น
- ค่าการวางตัวของตัวตรวจวัดที่ 1 เทียบกับ
หลุมเจาะ 1 เส ้น
2. ด ้านขวาประกอบด ้วย
- ค่าความต ้านทานของตัวตรวจวัดที่ 1 ถึง 3
จานวน 3 เส ้น
- ขนาดเส ้นผ่านศูนย ์กลางของหลุมเจาะ 1 เส ้น
ในกรณี ทใช ี่ ้เครืองมื
่ อทีมี
่ 4 แขน แยกเป็ น 2
ส่วน
1. ด ้านซ ้ายประกอบด ้วยกราฟ 3 เส ้น
ี่ องมื
เช่นเดียวกับในกรณี ทเครื ่ อเป็ นแบบ 3 แขน
2. ด ้านขวาประกอบด ้วย
ค่าความต ้านทานของตัวตรวจวัดที่ 1 ถึง 4
จานวน 4 เส ้น หรืออาจแสดงเพียง 2 เส ้นของ
ตัวตรวจวัดที่ 1 และ 2 เพือให
่ ้สามารถอ่าน
ข ้อมูลจาก caliper log ได ้ง่ายขึน้ ในกรณี ที่
5.1.3 Graphic presentation
่ ้จะต ้องนามาคานวณเพือหาค่
ข ้อมูลต่างๆทีได ่ า
มุมเอียงเทและการวางตัวของชนหิ ้ั นอีกครงหนึ
้ั ่ ง
การแสดงผลอาจอยูใ่ นรูปของตารางหรือในรูป
ี่ นกราฟฟิ กยัง
ของกราฟฟิ กก็ได ้ ในกรณี ทเป็
แสดงได ้ในหลายลักษณะ
1. Arrow plots or Tadpole plots
เป็ นการแสดงผลทีนิ ่ ยมทีสุ
่ ดวิธห
ี นึ่ ง scale ใน

แนวดิงบอกถึ งความลึก ส่วน scale ในแนวราบ
บอกถึงค่ามุมเอียงเท อยูใ่ นช่วงระหว่าง 0 ถึง
90 องศา แต่ละจุด (tadpole head) แสดงค่า

มุมเอียงเททีความลึ กต่างๆ ขีดเล็กๆ (tadpole
่ อออกจากจุดแสดงทิศทางการวางตัว
tail) ทีต่

ของแต่ละจุดเทียบกับขัวเหนื อทางภูมศ ิ าสตร ์
นอกจากนั้นยังแสดงค่ามุมเอียงเทและการ
่ บทุกๆ 50 หรือ 100
วางตัวของหลุมเจาะทีระดั
ลักษณะของจุดแต่ละจุดยังมีความหมายแตกต่าง
กันอีก คือ จุดสีดาแสดงว่าข ้อมูลมีคณ
ุ ภาพดี
ส่วนจุดสีขาวโปร่งแสดงว่าไม่ทราบถึงคุณภาพ
ของข ้อมูล
นอกจาก arrow plots แล ้วยังมีการแสดงผล
่ วมด ้วย เช่น Azimuth rose plots
อย่างอืนร่
โดยการแสดง rose diagram ของค่าทิศ
ทางการวางตัวของชนหิ ้ั นในแต่ละช่วง ปกติจะ
ใช ้ช่วงละ 50 เมตร rose diagram นี มี ้
ประโยชน์ชว่ ยในการบอกถึง รอยผิดวิสยั ทิศ
ทางการวางตัวของโครงสร ้าง และ รอยเลือน ่
เป็ นต ้น หรือ Dip histrogram เป็ นการแสดง

ค่าความถีของค่ ่
ามุมเอียงตัวในแต่ละช่วง ซึงมี
2. Separation of Dip and
Azimuth (Soda) plots
การแสดงผลในลักษณะนี ให ้ ้ผลเช่นเดียวกับ
Arrow plots อาศัยจุดเป็ นตัวบอกค่ามุมเอียง
เทและค่าทิศทางการวางตัว โดยเขียนแยกกัน
่ ใ่ นช่วง
เป็ น 2 trace คือค่ามุมเอียงเท ซึงอยู
ระหว่าง 0 ถึง 90 องศาและทิศทางการวางตัว

เทียบกับขัวเหนื อทางภูมศ ่ คา่ ระหว่าง
ิ าสตร ์ ซึงมี
0 ถึง 360 องศา มีประโยชน์มากสาหร ับการ
แปลความหมายการเอียงตัวของโครงสร ้าง
3. Azimuth frequency plots
ค่าทิศทางการวางตัวของชนหิ ้ั นแต่ละช่วงเขียน
อยูใ่ นรูปของ circular histogram (Wulff or
Schmidt net) ค่าการวางตัวอ่านตามเข็ม
นาฬก ิ าจาก 0 ถึง 360 องศา ค่าความถี่
กาหนดเป็ นความยาวร ัศมีของวงกลม ช่วงห่าง
้ั
ของแต่ละชนควรก าหนดให ้อยูเ่ ฉพาะในแต่ละ
หน่ วยหิน ค่ามุมเอียงเทของชนหิ้ั นก็สามารถ
แสดงได ้ในทานองเดียวกัน เหมาะสาหร ับการ
่ โครงสร ้างซบั ซ ้อนมาก
วิเคราะห ์บริเวณทีมี
4. Polar plots
• ลักษณะการแสดงผลนี คล ้ ้ายกับ Azimuth
frequency plots เพียงแต่เพิม ่ concentric

circle ซึงแสดงค่ ่
ามุมเอียงเทจาก 0 ทีขอบด ้าน
นอก ไปยัง 90 องศาทีศู ่ นย ์กลาง แต่ละจุดจึง

ขึนอยู ก ้ ามุมเอียงเทและค่าการวางตัว
่ บั ทังค่
อาจมีการผสมระหว่าง Azimuth frequency
plots และ Polar plots แต่เหมาะสมเฉพาะ
่ ามุมเอียงเทมีคา่ น้อย เรียกลักษณะนี ว่้ า
เมือค่
POLAR-F plot
5. Formation Anomaly
Simulation Trace (FAST) plots
การแสดงผลในลักษณะนี จะเขี ้ ยนอยูบ
่ นแผ่นใส
แสดงระนาบของชนหิ ้ั นตัดกับผนังของหลุม
่ นทรงกระบอก ซึงท
เจาะทีเป็ ่ าให ้สามารถเห็น
มุมเอียงเทของชนหิ ้ั นทีอยู
่ บ ่ นแท่งหิน (core)
ได ้ วิธก ้ ข ้อดีในด ้านทีแสดงให
ี ารนี มี ่ ้เห็นถึง
ปรากฏการณ์ทางเทคโทนิ คส ์หรือความไม่
่ นๆของตะกอนได ้ดี
ต่อเนื่ องทีเด่
6. Stick plots

การแสดงผลลักษณะนี แสดงระนาบช ้ั นเอียงเท
นหิ
กับระนาบค่าการวางตัวตามแนวตัง้ ค่าการ
วางตัวมักแสดงเป็ น 6 ค่า คือ 360O, 30O,
60O, 90O, 120O, 150O แต่อาจแสดงเป็ นค่า

อืนๆได ้เช่นกัน การแสดงผลในลักษณะนีท ้ าให ้
สามารถศึกษาค่ามุมเอียงเทจากภาพตัดขวาง
ของหลุมเจาะทีก ่ าหนดให ้ไม่มก
ี ารเอียงตัวของ
หลุมได ้ดี
7. Cross-section plots
การแสดงแบบนี เป็ ้ นการประยุกต ์มาจาก Stick plots
่ คา่ การ
ให ้เห็นถึงค่ามุมเอียงเทบนภาพตัดขวางทีมี
วางตัวต่างกัน
8. Borehole geometry plots

การแสดงผลลักษณะนี จะแสดง caliper 2 เส ้น
่ อในหลุมเจาะ ตาแหน่ ง
ตาแหน่ งของเครืองมื
ของแขนที่ 1 และการวางตัวของหลุมเจาะ
5.1.4 Application
1. Tectonic or structural
application
่ ้จากเครืองมื
ค่ามุมเอียงเททีได ่ อถูกใช ้เป็ นข ้อมูล

พืนฐานในการก าหนดค่ามุมเอียงเทของ

โครงสร ้างโดยทัวไปในบริ เวณนั้น ค่ามุมเอียงเท
่ ดปกติไปจากค่ามุมเอียงเทปกติในบริเวณ
ทีผิ
นั้นทังขนาดและทิ
้ ศทาง มักเกิดเนื่ องจากการ
แปรสภาพของโครงสร ้างเช่น รอยเลือน ่ รอย
สัมผัสไม่ตอ่ เนื่ อง การคดโค ้ง โครงสร ้างทีเกิ
่ ด
เป็ นบริเวณแคบๆ เช่น โดมเกลือหิน ซึง่
สามารถสังเกตเห็นได ้

รอยเลือนสามารถสั งเกตเห็นได ้จากการ

เปลียนแปลงค่ ามุมเอียงเทอย่างฉับพลันจากหิน
ด ้านหนึ่ งของรอยเลือนไปยั
่ งอีกหินอีกด ้านหนึ่ ง
ของรอยเลือน ่
รอยสัมผัสไม่ตอ่ เนื่ องสังเกตจากการเปลียนแปลง

้ ศทางและค่ามุมเอียงเทจากหินชุดหนึ่ งไป
ทังทิ
ยังหินอีกชุดหนึ่ ง
บริเวณใกล ้โดมเกลือหินค่ามุมเอียงเทจะมีคา่ มาก
่ างจากโดมเกลือหิน
และน้อยลงเมือห่
2. Structural mapping
จากค่ามุมเอียงเทและทิศทางการวางตัวของ
โครงสร ้างต่างๆทีวั่ ดได ้จากเครืองมื
่ อสามารถ

นามาสร ้างเป็ นแผนทีโครงสร ้างทางธรณีวท
ิ ยา
หรือภาพตัดขวางทางธรณี วท ิ ยาแสดงลักษณะ
โครงสร ้างได ้
3. Sedimentary applications
ค่ามุมเอียงเทและทิศทางการวางตัวบ่งบอกถึงกาว
วางตัวของชนหิ้ั นกักเก็บ ซึงอาจอาศั
่ ยข ้อมูล
ของการวางตัวของโครงสร ้างทางหินตะกอน
ต่างๆ เช่น cross bedding, paleocurrent,
slumps และ drapes ลักษณะทีส ่ าคัญของหิน
ตะกอนของชนกั ้ั กเก็บในแต่ละช่วงสามารถ
นาไปสูก ่ ารแปลความหมายถึงขบวนการสะสม
ตัวได ้
นอกจากนั้นค่าความต ้านทานและมุมเอียงเทจะมี
ความสัมพันธ ์กับความหนาของชนหิ ้ั น
ปรากฏการณ์ทเกิ ี่ ดซาๆกั
้ น การพัฒนาของหิน
ในแนวดิง่ ขนาดของเม็ดตะกอน ส่วนประกอบ
้ั น จุดกาเนิ ดของรอยต่อของชน้ั
ชนิ ดของชนหิ
้ ยวของชนหิ
หิน หรือ ความเป็ นเนื อเดี ้ั น
4. Stratigraphic application
การวิเคราะห ์ค่ามุมเอียงเทให ้ผลในด ้านของการ
ลาดับชนหิ ้ั น การเกิดรอยสัมผัสไม่ตอ ่ เนื่ อง เป็ น
ต ้น ค่ามุมเอียงเทและค่าการวางตัวของชนหิ ้ั น
ยังสามารถนามาคานวณหาความหนาจริงของ
้ั นได ้ เมือน
ชนหิ ่ ามาคานวณเป็ นปริมาตรก็

สามารถทีจะประเมิ นถึงศักยภาพของชนหิ ้ั น
นั้นๆได ้

You might also like