You are on page 1of 20

www.turnleftthai.blogspot.

com เลี้ยวซ้าย ฉบับที่ 65 พฤศจิกายน 53 ราคา 20 บาท

พระสงฆ์
ควรยุ่ง
การเมือง
หรือไม่?
โดย ลั่นทมขาว
หน้า 4

การเดินทางของ
“ลัทธิมาร์คซ”์
ในสยาม
โดย ลมบ้าหมู

ชะตา ไพร่
หน้า 7

ยุโรปลุกเป็นไฟ
ปกป้อง
“ไม่ขอทนาย ไม่ขอประกัน ไม่ขออภัยโทษ” รัฐสวัสดิการ
โดย กองบรรณาธิการ
หน้า 12

ขออวยชัยอวยพรนักสู้ประชาธิปไตย ความเป็นมา
จงมีชัยได้โชคทุกข์โศกคลาย และโครงสร้าง
สี่ปีผ่านยืนหยัดคู่สหาย ผู้พิพากษา
สุดท้ายหมายเห็นสิทธิ์ผองประชา
ของศาลไทย
องค์กรเลี้ยวซ้าย, โดย ประเวศ ประชานุกูล
6 พฤศจิกายน 53 หน้า 10
กลับหัวเป็นหาง
โดย กองบรรณาธิการ

ในอนาคตสังคมนิยมจะมีหน้าตาอย่างไร?
สาเหตุสำ�คัญที่นักมาร์คซิสต์รวมถึงมาร์คซ์เอง ไม่ยอมลงรายละเอียดว่าสังคมนิยมจะมีหน้าตาอย่างไร ก็เพราะเรามองว่าสังคมหลัง
ทุนนิยม (หรือ “สังคมนิยม” นั้นเอง) ต้องออกแบบโดยคนธรรมดาทั้งปวงร่วมกัน

อย่างไรก็ตามสังคมนิยมน่าจะ.....

1.ต้องไม่มีการขูดรีดโดยนายทุน
2.ต้องมีสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมเต็มที่สำ�หรับหญิง ชาย เกย์ กะเทย ทอม ดี้ ฯลฯ
3.ต้องมีเสรีภาพความเท่าเทียมสำ�หรับคนทั่วโลกโดยไม่คำ�นึงถึงเชื้อชาติ ภาษา ถิ่นที่อยู่อาศัย หรือความเชื่อ ฯลฯ
4.ต้องเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ในโลก ซึ่งแปลว่ามันต้องมีประชาธิปไตยแบบมี
ส่วนร่วมเต็มที่ ประชาชนต้องร่วมกันวางแผนการผลิต และประชาชนต้องสามารถควบคุมผู้แทนได้ตลอดเวลา
5.ต้องลดความแตกต่างระหว่างคนในด้านที่นำ�ไปสู่การใช้อำ�นาจหรืออิทธิพล เช่นความแตกต่างระหว่างชนบทกับเมืองระหว่างคนที่
ทำ�งานในอาชีพต่างๆ ต้องยกเลิกพรมแดนต่างๆ เครื่องไม้เครื่องมือในการใช้ความรุนแรง อาวุธ ต้องอยู่ในมือของประชาชนทุกคน
6.ต้องเพิ่มเสรีภาพที่จะแตกต่างกันในด้านของวิถีชีวิต รสนิยม และความสร้างสรรค์
เศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วม (Participatory Economy หรือ “Parecon”) (ดู Michael Albert, 2003, “Parecon”, Verso) และ (ดู Alex
Callinicos, 2003, “An Anti-Capitalist Manifesto”, Polity Press)

1.ต้องยกเลิกการถือครองปัจจัยการผลิตแบบเอกชน เพราะผลผลิตจากการทำ�งานของมนุษย์ส่วนใหญ่ถูกขโมยไปในรูปแบบกำ�ไรใน
ระบบขูดรีดก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำ�ทางชนชั้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ทำ�ให้การผลิตถูกควบคุมโดยตลาดโดยไม่มี
การวางแผน ก่อให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่มาจากการแข่งขัน ทำ�ให้เกิดการกดขี่ทางเพศหรือเชื้อชาติ และความรุนแรงในสงครามและแม้แต่ใน
ครอบครัว มนุษย์ไม่เป็นตัวของตัวเอง ดำ�รงอยู่ในสภาพแปลกแยกจากสิ่งที่ตนเองสร้าง และตกอยู่ภายใต้เผด็จการทางเศรษฐกิจ
2.ต้องยกเลิกตลาด ตลาดใช้ความสามารถในการซื้อเป็นเครื่องมือชี้ขาด ไม่มีการวางแผน มีแต่การผลิตล้นเกินอย่างสิ้นเปลือง และ
มองข้ามความต้องการแท้ของมนุษย์ส่วนใหญ่เป็นประจำ�
3.ถ้าจะมีการวางแผนการผลิตในรูปแบบประชาธิปไตยแท้ แผนการผลิตต้องมีหลายระดับ และมนุษย์ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการ
ออกแบบและเลือกแผน ถ้าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น เราต้องยกเลิกระบบ “แบ่งงานกันทำ�” ในรูปแบบปัจจุบัน เพราะงานที่ใช้สมองมาก ใช้ฝีมือ
หรือใช้แรงงานกายน้อย หรือเป็นงานทีจ่ �ำ เป็นต้องใช้ขอ้ มูลเกีย่ วกับโลกจริงมาก นำ�ไปสูอ่ �ำ นาจในการตัดสินใจ สังคมใหม่เราต้องสร้างลักษณะ
การทำ�งานใหม่ที่ผสมงานซ้ำ�ซากกับงานสมองในอัตราส่วนเท่าๆ กัน หรือต้องมีการเวียนกันทำ�หน้าที่ที่แตกต่างกันไป
4.ต้องมีการเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับระบบการศึกษาและการฝึกฝีมือ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเท่ากัน ไม่ใช่ว่าต้องมานั่งสอบกันเพื่อ”คัด
เลือกคนออก”อย่างทีพ่ บทุกวันนี้ นอกจากนีก้ ารเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างต้องเป็นสิทธิพนื้ ฐานอีกด้วย ซึง่ แปลว่าสือ่ ต่างๆ ต้องอยูใ่ นมือของชุมชน
และสังคมโดยรวม ไม่ใช่ถูกนำ�มาเป็นทรัพย์สินของกลุ่มทุนหรือชนชั้นปกครอง
5.ในช่วงแรกๆ ของการสร้างระบบใหม่ ก่อนที่จะมีระบบคอมมิวนิสต์สมบูรณ์ คงจะต้องมีระบบการคำ�นวณ “ค่าตอบแทน” หรือค่าจ้าง
เงินเดือนนั้นเอง แต่มันต้องมาจากการคำ�นวณ “ความกระตือรือร้น” มากกว่าการดูฝีมือ หรือลักษณะงาน
6.ต้องค่อยๆ ลดความจำ�เป็นในการใช้เงินลง ให้สูญหายไปในที่สุด แจกจ่ายสินค้าจำ�เป็นฟรี
7.การผลิตควรจะได้รับการควบคุมและวางแผนจากสภาที่มีทั้งผู้แทนของผู้ผลิตกับผู้บริโภค และทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากการ
ผลิต ก็ต้องมีตัวแทนในสภาอีกด้วย ในบางกรณีการวางแผนและตัดสินใจเราทำ�ได้ในหน่วยเล็กๆ
8.ในการกำ�จัดการกดขี่ทางเพศ เราต้องระเบิดกรอบแคบๆ ของสถาบันครอบครัวปัจจุบันทิ้งไป เพื่อให้ “งานบ้าน” เช่นการทำ�ความ
สะอาด การสักผ้า การประกอบอาหาร และการเลี้ยงดูเด็กและคนชรา กลายเป็นภาระร่วมของสังคม

เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 2


สถานีนี้..เลี้ยวซ้าย
โดย ฮิปโป

ทุนนิยมคือสาเหตุของการกดขี่สตรี

ในโลกแห่งทุนนิยมนั้นการกดขี่ขูดรีด โหดร้ายสำ�หรับมนุษย์ สตรีจริงๆต้องต่อสู้ไปพร้อมกันกับการสลายชนชั้นด้วย เพราะผู้ชาย


ทุกคนผูซ้ งึ่ ไร้ปจั จัยการผลิต และการกดขีข่ ดู รีดในระบบทุนนิยมก็ไม่ ไม่ใช่ต้นเหตุของการกดขี่ แต่เป็นนายทุนต่างหากที่เป็นต้นเหตุ
ได้เลือกเพศ ทุกคนทีเ่ ป็นผูไ้ ร้ปจั จัยการผลิต เป็นชนชัน้ กรรมาชีพไม่ เพราะในระบบทุนิยมนั้น พวกนายทุนได้เป็นผู้สร้างภาระให้
ว่าจะเป็นแรงงานสมองหรือแรงงานกายก็ตามแต่ ล้วนถูกทุนนิยม กับผูห้ ญิง คือผูห้ ญิงต้องทำ�งานนอกบ้าน พร้อมกับต้องแบกรับภาระ
กดหัวและทำ�ลายความเป็นมนุษย์ของทุกคน ฉะนัน้ แล้วการปลดแอก เรื่องการเลี้ยงลูกไว้ด้วย ซึ่งเป็นเหมือนโซ่ตรวนที่คอยล่ามผู้หญิงไว้
ของชนชั้นกรรมาชีพ จึงเป็นเรื่องของเราทุกคน ไม่ว่าจะหญิงหรือ เพราะการที่ผู้หญิงต้องออกไปเป็นแรงงานรับจ้างนอกบ้าน ผู้หญิงก็
ชายก็ตามแต่ เราควรที่จะมุ่งประเด็นไปที่ตัวต้นเหตุที่แท้จริงอย่าง ยังคงต้องแบกรับหน้าทีก่ ารเป็นแม่ทเี่ ลีย้ งดูลกู โดยทีร่ ฐั นัน้ ไม่ได้ชว่ ย
ทุนนิยม เพื่อกำ�จัดการกดขี่และการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แบ่งเบาภาระของผู้หญิงเลย
อย่างถอนรากถอนรากโคนและเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจริงๆ ถ้ารัฐมีสวัสดิการเพือ่ การเลีย้ งดูพลเมือง ทีย่ งั ไม่เติบโตมาเป็น
มีแนวคิดหนึ่งซึ่งเป็นแนวคิดที่พูดเรื่องการปลดแอกสตรีจาก แรงงานได้ก็จะลดภาระของผู้หญิงได้ เพราะเด็กเหล่านี้ก็คือแรงงาน
ความไม่เท่าเทียม คือแนวคิดเฟมินิสต์ แนวคิดเฟมินิสต์มีสองแบบ ในอนาคตนัน้ เอง เพราะฉะนัน้ การเลีย้ งดูเด็กจึงเป็นหน้าทีข่ องรัฐ และ
คือ แนวคิดเฟมินิสต์แบบเสรีนิยม จะเป็นแนวคิดที่ต้องการเปลี่ยน เป็นภาระของรัฐที่จะต้องมาดูแลร่วมกัน และการที่จะผลักดันให้เกิด
ระบบกฎหมายหรือการปฏิรปู การเมือง ให้ผหู้ ญิงได้มบี ทบาทเพือ่ ลด การเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง เหล่ากรรมาชีพทุกคนไม่ว่าจะเพศใด
ทอนอำ�นาจของผูช้ ายลง แต่กย็ งั คงรักษารูปแบบการเมืองและระบบ ก็ตามแต่ ต้องร่วมมือกันโดยไม่แบ่งแยกหญิงหรือชาย ไม่ชงิ ดีชงิ เด่น
เศรษฐกิจไว้คงเดิม เพียงแต่เน้นให้ผู้หญิงนั้นได้มีบทบาททางการ ในเรือ่ งเพศ และโจมตีแต่เพศชายเพียงอย่างเดียว เพราะผูช้ ายก็เป็น
เมือง และเข้าถึงการปกครองมากขึน้ เท่านัน้ เอง ส่วนแนวคิดเฟมินสิ ต์ ผู้ที่ถูกนายทุนกดขี่และละเมิดความเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับผู้หญิง
ทีเ่ ป็นแนวก้าวหน้านัน้ ก็มงุ่ เน้นทีจ่ ะเปลีย่ นแปลงระบบรัฐและครอบครัว ฉะนั้นแล้วแนวคิดเฟมินิสต์จึงไม่ได้ปลดแอกสตรีได้ทั้งหมด
ให้ลดบทบาทและหน้าทีข่ องผูช้ ายลง แต่ไม่วา่ จะเป็นแนวคิดเฟมินสิ ต์ แม้แนวคิดเฟมินิสต์จะมีเจตนาที่ดีในการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของ
แบบใด ก็ยังคงประนีประนอมกับฝ่ายทุนนิยมอยู่ดี ถึงแม้จะมีความ สตรี แต่ก็ยังคงเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในระบบทุนนิยม แต่ไม่สามารถ
ตั้งใจจริงที่จะช่วยปลดแอกสตรีก็ตาม ช่วยปลดแอกสตรีได้อย่างแท้จริง มิหน้ำ�ซ้ำ�ยังเป็นการแบ่งแยกเพศ
เพราะประเด็นเรือ่ งของการกดขีท่ างเพศนัน้ เราต้องมองทีอ่ งค์ ที่จะเป็นอุปสรรค์ ที่ทำ�ลายความสามัคคีของชนชั้นกรรมาชีพด้วย
รวมว่าไม่สามารถที่จะแยกออกจากเรื่องของชนชั้นได้เลย เฟมินิสต์ กันเองอีก จะมีเหตุผลอันใดเล่า ที่เราเหล่ากรรมมาชีพจะมาโจมตี
ส่วนใหญ่มักที่จะจ้องทำ�ลายแต่อภิสิทธิ์ที่ผู้ชายได้รับ และต้องการที่ กันเอง เพราะเราไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม ล้วนแต่มีศัตรูตัวเดียวกัน
จะเอาชนะผู้ชาย โดยการแย่งเอาระบบที่ผู้ชายได้ครอบครองมาเป็น คือทุนนิยม ถ้าอยากจะปลดแอกของมนุษยชาติอย่างยั่งยืน เราต้อง
ของผู้หญิงบ้าง เฟมินิสต์เป็นเพียงทฤษฎีที่ต่อต้านอำ�นาจของผู้ชาย ทำ�ลายล้างทุนนิยม เมื่อใดที่ทุนนิยมสลายตัวไปแล้ว เมื่อนั้นทุกเพศ
อย่างเดียว โดยไม่ค�ำ นึงถึงการสามัคคีทางชนชัน้ ทีไ่ ม่วา่ จะเพศหญิง ไม่วา่ จะเป็นเพศใดทีม่ อี ยูใ่ นโลก ก็จะมีสทิ ธิและเสรีภาพอย่างแท้จริง
หรือเพศชายล้วนถูกกดขี่ด้วยทุนนิยมทั้งสิ้น โดยหญิงชายจะได้รบั ศักดิศ์ รีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน โดยมิแบ่ง
แต่มาร์คซิสต์มองประเด็นการกดขี่ทางเพศว่า เกิดจากความ แยก
สัมพันธ์ในการผลิตทางชนชั้น ฉะนั้นการกดขี่ขูดรีดแรงงานกับการ
กดขีส่ ตรี เป็นเรือ่ งทีไ่ ม่สามารถแยกออกจากกันได้เลย ถ้าจะปลดแอก
เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 3
สังคมใหม่
โดย ลั่นทมขาว

พระสงฆ์ควรยุ่งการเมืองหรือไม่?

เมื่อถูกตั้งคำ�ถามนี้ คนจำ�นวนมากในสังคมไทยอาจตอบ(โดย ตอนนั้นครูไม่ค่อยให้เหตุผลเท่าไร แค่ให้เรารับฟังเชื่อฟังไป ถ้าพวก


ไม่คดิ อะไรมาก)ว่า “พุทธศาสนาห้ามไม่ให้พระสงฆ์ยงุ่ ในเรือ่ งการเมือง” เราค้นคว้าต่อก็อาจพบ “เหตุผล” ที่พวกนั้นอ้าง คือเขาจะพูดว่าพระ
และประเด็นนี้กลายเป็นเรื่องสำ�คัญเมือ่ ทหารและรัฐบาลอำ�มาตย์จบั สงฆ์ไม่ควรมายุ่งในเรื่อง “โลก” แต่ในขณะนั้นไม่มีผู้ใหญ่ที่วิจารณ์
พระเสื้อแดงมาสึกพร้อมมัดตัวเหมือนเป็นโจร ยิ่งกว่านั้นมหาเถร พระสงฆ์ทพี่ ดู สนับสนุนผูม้ อี �ำ นาจในสังคม เพราะจะมีการเสนอว่าการ
สมาคมก็มองว่าพระเสื้อแดง “ทำ�ตัวไม่ถูกต้อง” อีกด้วย เคารพคนข้างบนหรือผู้ใหญ่ในสังคมเป็นเรื่องถูกต้องและ “ไม่เกี่ยว
และสำ�หรับนักมาร์คซิสต์สงั คมนิยม อาจมีค�ำ ถามเพิม่ เติมตาม กับการเมือง”
มาว่า “ทำ�ไมนักมาร์คซิสต์ต้องไปสนใจเรื่องศาสนาหรือพระสงฆ์ ในช่วงนั้นซึ่งตรงกับสงครามเวียดนาม พวกเราทราบกันผ่าน
ด้วย”? ผู้เขียนจะขอตอบคำ�ถามที่สองก่อน.... ข่าวว่าพระสงฆ์ในเวียดนามเดินขบวนประท้วงสงคราม บางคนถึง
คาร์ล มาร์คซ์ เคยเสนอว่า “ศาสนาคือหัวใจในโลกที่ไร้หัวใจ” กับเผาตัวเอง แต่ครูบาอาจารย์เราจะสอนว่าพวกพระเวียดนามเขา
คือมนุษย์เชือ่ ในศาสนาเมือ่ โลกรอบตัวเราแย่และไร้หวั ใจ หรือมนุษย์ ใช้ศาสนา “ในทางที่ผิด”
เชื่อในศาสนาเมื่อมองไม่ออกว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไรด้วยตนเอง แต่ศาสนาไม่ใช่สูตรคณิตศาสตร์ มันไม่มีการใช้ในทางที่ “ถูก”
จึงหาที่พึ่ง ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด คำ�สั่งสอน หรือเทวดาศักดิ์สิทธิ์ ดัง หรือ “ผิด” มีแต่การใช้ศาสนาในโลกจริงในหลายรูปแบบเท่านัน้ คาร์ล
นัน้ ความเชือ่ ในศาสนา ถึงแม้วา่ ขัดกับหลักวิทยาศาสตร์ แต่ตอ้ งถือว่า มาร์คซ์ ได้วจิ ารณ์นกั คิดเยอรมันชือ่ ฟอย์บคั ในเรือ่ งนี้ มาร์คซ์ อธิบาย
ผู้เชื่อไม่ได้โง่ และเราต้องเข้าใจว่าเขามีเหตุผลในการเชื่อศาสนา ยิ่ง ว่า “ศาสนาไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในคัมภีร์” คนที่เอาคัมภีร์มาฟาดหัวกันเป็น
กว่านั้นเวลามนุษย์ออกมาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมและเสรีภาพใน คนที่เถียงกันในเรื่องไร้สาระ หลุดโลก นามธรรม เพราะนิยามของ
อดีต บ่อยครั้งจะใช้ความคิดศาสนาเพื่อให้กำ�ลังใจและความชอบ “ศาสนา” คือ “การปฏิบัติศาสนาในโลกจริงโดยมนุษย์” นี่คือสาเหตุ
ธรรมในการต่อสู้ ไม่วา่ จะเป็นการต่อสูข้ องคนอินเดียทีใ่ ช้พทุ ธศาสนา ที่ศาสนาอาจถูกใช้ในการให้กำ�ลังใจกับคนที่สู้กับเผด็จการ และอาจ
ในการสู้กับระบบวรรณะ ไม่ว่าจะเป็นพวกฝ่ายซ้าย Levellers กับ ถูกใช้เพือ่ ให้ความชอบธรรมกับอำ�มาตย์เผด็จการได้ในสังคมเดียวกัน
Diggers ในการปฏิวัติอังกฤษปี ค.ศ. 1640 ที่เชื่อว่าพระเจ้าไม่ได้ เวลาอำ�มาตย์ใช้ศาสนาเพือ่ กดขีป่ ระชาชน เราจะโจมตีศาสนา
สร้างโลกให้คนมีอำ�นาจผูกขาดการครอบครองทีด่ นิ หรือไม่วา่ จะเป็น เวลาพระสงฆ์ศาสนาพุทธบางคนในศรีลังกามีส่วนในการกดขี่ชาว
นักต่อสู้ชาวปาเลสไตน์ที่ใช้ศาสนาอิสลามเพื่อเป็นกำ�ลังใจในการ ทมิฬ เราจะโจมตีเขา แต่เวลาพระสงฆ์พม่าเดินขบวนต้านเผด็จการ
ปลดแอกตนเอง เราจะตบมือสนับสนุน
ยิง่ กว่านัน้ เราทราบดีวา่ คาร์ล มาร์คซ์ ศึกษาคัมภีรค์ ริสต์อย่าง ภายหลังจากทีเ่ ข้ามหาวิทยาลัยผูเ้ ขียนเริม่ รูว้ า่ ความคิดว่า “พระ
ละเอียดจนมาร์คซ์มักจะใช้สำ�นวนต่างๆ จากคัมภีร์ในหนังสือ “ว่า สงฆ์ไทยไม่ควรยุ่งในเรื่องการเมือง” เป็นความคิดที่เพาะมาจากยุค
ด้วยทุน” เราทราบดีว่า โทนี่ คลิฟ ตอนติดคุกอยู่ นั่งอ่านคัมภีร์เป็น เผด็จการ
ภาษารัสเซียเพือ่ สอนภาษารัสเซียให้กบั ตัวเอง และเราทราบดีวา่ นัก การใช้ศาสนาพุทธในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้าง
สังคมนิยมไทยในอดีต ได้ศึกษาและทำ�ความเข้าใจกับศาสนาพุทธ คูข่ นานกับสถานการณ์ทางการเมือง ในยุคศักดินาทีอ่ ำ�นาจปกครอง
อย่างดี แต่นั้นไม่ได้แปลว่าเราต้องนับถือศาสนานะ ผู้เขียนคิดว่าถ้า กระจัดกระจาย การบริหารศาสนาพุทธก็จะไม่รวมศูนย์ แต่พอรัชกาล
เราเข้าใจโลกและเข้าใจศาสนา เราจะปฏิเสธศาสนาในฐานะทีม่ นั เป็น ทีห่ า้ รวมศูนย์การปกครองในรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ก็มกี ารพยายาม
ความเชือ่ ทีไ่ ม่ชว่ ยอะไรในการต่อสูแ้ ละไม่ชว่ ยในการเข้าใจโลกเท่าไร รวมศูนย์ควบคุมศาสนาในปี ๒๔๔๕ด้วย ต่อมาเก้าปีหลังการปฏิวัติ
นอกจากนักมาร์คซิสต์จะต้องเป็นคนเสื้อแดง เพราะเสื้อแดง ๒๔๗๕ มีการปฏิรปู ศาสนาพุทธให้มโี ครงสร้างบริหารทีเ่ ป็นประชาธิปไตย
คือขบวนการเคลื่อนไหวของคนจนเพื่อประชาธิปไตยแล้ว นักมาร์ค แต่พอจอมพลสฤษดิ์ยึดอำ�นาจผ่านรัฐประหาร และปกครองประเทศ
ซิสต์จะต้องไม่ดูถูกชาวพุทธ และเราจะปลื้มเวลาพระสงฆ์มาร่วม ด้วยเผด็จการ มีการออกพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ในปี ๒๕๐๕ ซึ่ง
ชุมนุมกับคนเสื้อแดง กลับมารวมศูนย์อำ�นาจใหม่ และพระสังฆราชมีอำ�นาจบัญชาการ
ผูเ้ ขียนจำ�ได้วา่ ตอนทีเ่ ป็นเด็กในโรงเรียน ซึง่ ตรงกับสมัยเผด็จ คณะสงฆ์ทางมหาเถรสมาคมในลักษณะเผด็จการ ทัง้ นีฝ้ า่ ยเผด็จการ
การสฤษดิ์และถนอม ครูมักจะสอนว่าพระสงฆ์ต้องไม่ยุ่งการเมือง อ้างว่า “เพื่อประสิทธิภาพในการบริหาร” (เหมือนข้ออ้างในการนำ�
เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 4
มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ!!) แต่ในความเป็นจริงเขากระทำ�ไปเพือ่ อย่างไรก็ตาม ชาวพุทธส่วนใหญ่ในไทยจะมองว่าควร
ให้ทหารเผด็จการควบคุมพระสงฆ์ เพราะในยุคนัน้ พระสงฆ์หลายคน มีพระสงฆ์ ..... มีไว้ทำ�ไม?
มาจากครอบครัวคนจนและสนับสนุนแนวคิดของพรรคคอมมิวนิสต์
ในประเทศลาวก็เช่นกัน พระสงฆ์สว่ นใหญ่ตคี วามศาสนาพุทธว่าเรา ในประการแรก การที่ผู้ชายบวชเป็นพระ เขาเชื่อว่าสร้างบุญ
ต้องสร้างความเป็นธรรมทางสังคม เขาจึงร่วมมือกับคอมมิวนิสต์ลาว ให้แม่ (หรือพ่อแม่) ใครๆ ก็อยากได้บญ ุ ถ้าเชือ่ ในเรือ่ งแบบนัน้ ผูช้ าย
จริงๆ แล้วประวัติศาสตร์ไทยสอนให้เรารู้ว่ามีการใช้ศาสนา หลายคนก็ไปบวชชั่วคราวเพราะเหตุนี้ มันเป็นระบบคิดที่ช่วยให้
พุทธ เพื่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองมาตลอด เช่นกบฏผู้มีบุญใน ศาสนาอยู่ต่อไป เพราะส่งเสริมการบวช
อดีต ที่ต่อต้านอำ�นาจกษัตริย์โดยอ้าง “พระศรีอริยเมตไตรย์” หรือ ในประการที่สองพระสงฆ์มีหน้าที่ทำ�พิธีศาสนา นั่งสวดมนต์
การแยกขั้วระหว่างพระสงฆ์ฝ่ายซ้ายที่สนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ ในงานศพ งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ บินทบาตรทุกวันเพื่อให้
เช่นกลุ่มพระภิกษุสามเณรจากวัดมหาธาตุและที่อื่นๆ ที่เรียกร้องให้ ประชาชนได้บญ ุ จากการตักบาตร ถ้าไม่มพี ระสงฆ์กค็ งมีพธิ ไี ม่ได้ คน
ยกเลิกกฎหมายบริหารพระสงฆ์ของเผด็จการในปี ๒๕๑๘ กับพระ ที่ไม่นับถือศาสนาอาจไม่แคร์ แต่ชาวพุทธคงให้ความสำ�คัญตรงนี้
สงฆ์ฟาสซิสต์ฝา่ ยขวาอย่าง กิตติวฑ ุ โฒ ทีม่ องว่า “การฆ่าคอมมิวนิสต์ ประการสุดท้าย พระสงฆ์เป็นครู ซึ่งเป็นบทบาทหน้าที่ที่เรา
ไม่บาป” ฝ่ายรัฐไทยร่วมกับสหรัฐอเมริกาก็พยายามใช้พระสงฆ์สาย ต้องให้ความสำ�คัญมากกว่าเรื่องบุญหรือพิธีกรรม พระสงฆ์มีหน้าที่
ธรรมยุตใิ นสมัยนัน้ เพือ่ เชิดชูความคิดอนุรกั ษ์นยิ มและต้านคอมมิวนิสต์ ในการเป็นครูที่ชี้แจงเรื่องราวต่างๆของธรรมะ และการปฏิบัติตัวใน
ต่อมาหลังป่าแตก ก็มีพระสงฆ์ประเภท “แนวเอ็นจีโอ” (กลุ่ม สังคม ในอดีตก่อนที่จะมีโรงเรียนรัฐ วัดเป็นโรงเรียนที่สำ�คัญ แต่ใน
เสขิยธรรม) ที่สนับสนุนชาวบ้าน มีสาย พุทธทาสภิกขุ ที่พยายาม ยุคนี้พระสงฆ์ก็ยังมีบทบาทในการเป็นครูบ้าง ไม่ว่าเราจะชอบหรือ
ใช้ศาสนาโดยไม่เจือปนความเชื่ออื่นๆ หรือการให้ความสำ�คัญกับ ไม่ชอบ และแน่นอนพระสงฆ์ที่เป็นครูจะมีทั้งพวกฝ่ายขวาปฏิกิริยา
วัตถุ มีแนวสันติอโศก ที่เข้ามาต่อต้านเผด็จการสุจินดาในปี ๒๕๓๕ และพวกที่อยู่ข้างประชาธิปไตยและความเป็นธรรม
แล้วหันมาสนับสนุนพันธมิตรฯ ในช่วงหลัง สันติอโศกมีบทบาท บ่อยครัง้ พระสงฆ์ทเี่ ป็นครูฝา่ ยอนุรกั ษ์นยิ มจะพยายามสอนให้
ทางการเมืองในการยับยัง้ สิทธิของสตรีในการควบคุมร่างกายตนเอง ประชาชนเชื่อฟังผู้นำ�ชั้นสูง และจะพูดอีกว่าเราไม่ต้องไปคิดเรื่อง
ด้วย เพราะพวกนีร้ ณรงค์ตอ่ ต้านสิทธิทำ�แท้ง ซึง่ ทำ�ให้ผหู้ ญิงจำ�นวน สังคม เพราะเราควร “เปลีย่ นตนเอง” และสูตรพุทธศาสนาแนวปฏิกริ ยิ า
มากต้องเสีย่ งกับการทำ�แท้งทีไ่ ม่ปลอดภัยและผิดกฎหมาย นอกจาก แบบนีจ้ ะอ้างว่าต้อง “ไม่เกีย่ วกับการเมือง” ซึง่ ไม่ตา่ งจากพวกทีเ่ สนอ
นี้มีแนวธรรมกายที่เฉลิมฉลองทรัพย์สินและความร่ำ�รวย เพราะมอง ว่าความคิดกระแสหลักอื่นๆ ที่สอนให้เราหมอบคลาน “ไม่เกี่ยวกับ
ว่ามนุษย์สามารถซื้อบุญได้ การเมือง” ด้วย แต่เราน่าจะมองออกว่าเป็นคำ�โกหก
สรุปแล้วประวัติศาสตร์ไทยเต็มไปด้วยพระสงฆ์ที่เคลื่อนไหว พระสงฆ์ที่เป็นครูที่อยู่ข้างประชาธิปไตยและความเป็นธรรม
ทางการเมืองตลอดเวลา และรัฐพยายามเข้ามาควบคุมอย่างต่อเนือ่ ง ย่อมพูด ย่อมสอน ย่อมปฏิบัติ เพื่อให้ประชาชนสร้างประชาธิปไตย
เช่นการบังคับให้พระสงฆ์ของธรรมกายและสันติอโศกต้องไม่นุ่งผ้า และคัดค้านความไม่เป็นธรรม
เหลือง และต้องไม่เรียกตัวเองว่า “พระสงฆ์” หรือการจับพระสงฆ์เสือ้ ชาวพุทธที่รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมอาจฟันธงได้
แดงมาสึกเป็นต้น แต่ประเด็นที่นักประชาธิปไตยและนักสังคมนิยม เลยว่า “พระสงฆ์ทไี่ ม่ใช่เสือ้ แดง เป็นพระสงฆ์ทไี่ ม่ท�ำ หน้าทีใ่ นสังคม”
ต้องถามคือ ทำ�ไมรัฐต้องเข้ามายุ่งเรื่องศาสนาด้วย? รัฐมีสิทธิ์อะไร และผู้เขียนในฐานะนักมาร์คซิสต์ที่ไม่เชื่อในศาสนา ก็จะเห็นด้วย
ที่จะระบุว่าพุทธศาสนาต้องนับถือแบบไหน? มีสิทธิ์อะไรที่จะระบุว่า เพราะถ้าพระสงฆ์ไม่ออกมาชี้ว่าอะไรถูกอะไรผิด และไม่ออกมาให้
สตรี “บวชไม่ได้” นี่คือสาเหตุที่พวกบอลเชวิค รวมถึง เลนิน เสนอ กำ�ลังใจกับคนที่สู้เพื่อความเป็นธรรมและเสรีภาพ เขาเป็นพระที่ไร้
อย่างชัดเจนท่ามกลางการปฏิวัติรัสเซียว่าศาสนาต้องเป็นเรื่องส่วน ประโยชน์ ไม่ควรมี เพราะเรือ่ งสวดมนต์หรือการทำ�บุญเป็นเรือ่ งรอง
ตัวอย่างเดียว รัฐห้ามมายุ่ง เพราะตอนนั้นรัฐบาลของกษัตริย์ซาร์จะ ขอสดุดีพระสงฆ์เสื้อแดง และขอประณามอำ�มาตย์และทหาร
ห้ามการนับถือศาสนาอื่น นอกจากศาสนาคริสต์สายกษัตริย์อนุรักษ์ ป่าเถื่อนที่จับพระสงฆ์เสื้อแดงไปสึก
นิยมของรัสเซีย
แล้วถ้าเราพิจารณาบทบาทพระสงฆ์ในสังคม เราจะมีข้อสรุป
อะไร? คำ�ตอบขึน้ อยูก่ บั ว่าเราอยูฝ่ า่ ยอำ�มาตย์หรือฝ่ายประชาธิปไตย
และความเป็นธรรม ลองพิจารณาเรือ่ งนีจ้ ากจุดยืนฝ่ายประชาธิปไตย
และความเป็นธรรม...
พระสงฆ์มีไว้ทำ�ไม? มีหลายสาเหตุที่ชาวพุทธอยากให้มีพระ
สงฆ์ แต่การมีหรือไม่มีพระ ไม่ใช่สิ่งเดียวกับการมีหรือไม่มีพุทธ
ศาสนา เพราะความเชือ่ ในแนวพุทธ ไม่ตอ้ งมีพระสงฆ์กไ็ ด้ ประชาชน
ธรรมดาก็นำ�ความเชื่อนั้นไปปฏิบัติได้

เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 5


จัดตั้ง
โดย สมุดบันทึกสีแดง

น้ำ�ท่วมและน้ำ�ท่วมปาก

ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับผู้ที่ซึ่งกำ�ลัง มันไม่ใช่ของการให้ทาน หรือ โยนเศษเงินมาให้โดยคนบางกลุ่ม


ประสบภัยน้ำ�ท่วมอยู่ในขณะนี้ ข่าวที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นก็ได้เห็น อีกเรื่องหนึ่งที่กำ�ลังจะกลายเป็นเรื่องที่น้ำ�ท่วมปาก คือ การ
คือ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกมาปรามไม่ให้มีการตั้งเต๊น คอรัปชั่นในวงการความยุติธรรม ทั้งๆ ที่มีหลักฐานมัดตัวขนาดนี้
เพือ่ รับบริจาคสิง่ ของเพือ่ ไปช่วยเหลือคนทีป่ ระสบภัยน้ำ�ท่วม ถ้าใคร ฝ่ายอำ�มาตย์กจ็ ะพยายามดิน้ หลุดไปให้ได้ แต่ประเด็นทีค่ วรระวังคือ
อยากช่วยเหลือผู้ที่ประสบความเดือดร้อนก็ให้ไปขออนุญาติ กทม. ตอนนีฝ้ า่ ยอำ�มาตย์มนั จะเฉยๆ เรือ่ งพรรคประชาธิปตั ยไม่ได้ แน่นอน
ก่อน คิดดูก็แล้วกัน ผู้ว่าคนนี้เลือดสีอะไรทำ�ไมใจดำ�อย่างนี้ เรื่อง มันต้องการให้พรรคประชาธิปตั ย์รอด ถ้ามันให้โทษพรรคประชาธิปตั ย์
อุทกภัยเป็นเรื่องที่แก้ไม่ตกมาหลายยุค ประเด็นที่คุยกันได้อย่างไม่ เลยมันจะดูน่าเกลียดมากเกินไปและเป็นการเพิ่มความโกรธให้กับ
เต็มปากในเรื่องนี้คือ ชลประธาน และ เขื่อน ไม่ได้ออกแบบเพื่อรับ คนเสื้อแดงซึ่งพวกอำ�มาตย์ก็รู้ตรงนี้ดี อย่างไรก็ตามพวกมันต้องทำ�
ใช้คนส่วนใหญ่ ซึง่ บ่อยครัง้ มีการกักน้ำ�เพือ่ กันน้ำ�ไม่ให้ไหลหลากเข้า อะไรสักอย่าง
พื้นที่ กทม. ที่ฝ่ายอำ�มาตย์คิดว่าสำ�คัญบางแห่ง ส่วนพื้นที่อื่นๆใน ผู้เขียนคิดว่ามันคงไม่เอาทหารออกมาทำ�รัฐประหารอย่าง
กทม. โดยเฉพาะพืน้ ทีย่ ากจนก็ปล่อยให้รบั มือน้�ำ ท่วมตามมีตามเกิด โจ่งแจ้งอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นการประเมินผิดก็ได้ เพราะผู้เขียนเห็น
ประเด็นเรือ่ งภัยธรรมชาติถงึ แม้วา่ จะเป็นเรือ่ งทีค่ วบคุมไม่ได้ แต่เป็น ด้วยกับมุมมองทีว่ า่ ถ้าพวกมันทำ�อย่างนัน้ พวกมันได้ไม่คมุ้ เสีย สิง่ ที่
เรื่องที่เตรียมมาตรการรับมือได้เพื่อให้เกิดผลเสียหายน้อยที่สุดได้ พวกอำ�มาตย์อาจจะนำ�มาเพื่อฝ่าวิกฤติของพวกมันและเพื่อทำ�
เหมือนกับประเทศที่พัฒนาแล้ว รัฐประหารซ้ำ�อีกรูปแบบหนึ่งคือ “รัฐบาลแห่งชาติ” ซึ่ง ถ้ามันเลือก
สิ่งที่ทึ่งในประเทศไทยตอนนี้คือ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะลิ้งเข้า ใช้หนทางนีจ้ ริง พวกมันก็จะลากระยะเวลาไม่ให้มกี ารเลือกตัง้ ไปอีก
ประเด็นการเมือง ความเสมอภาค และ ความเป็นประชาธิปไตย เช่น นาน และแน่นอนคนที่พวกมันแต่งตั้งเข้ามาก็คงหนีไม่พ้นคนของ
การที่คนเสื้อแดงออกมารณรงค์เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเสื้อแดงเพราะ พวกมัน เพื่อมาทำ�ลายขบวนการของคนเสื้อแดง
รัฐบาลทรราชอภิสทิ ธิ์ ให้ความช่วยเหลือล่าช้า บ้างก็มกี ระแสวิพากษ์ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่รับมือได้ โดยการที่พวกเรา
วิจารณ์เพือ่ ดักทาง การออกมาของไฮโซทีจ่ ะออกให้ความช่วยเหลือ ต้องออกมารณรงค์ดักทางก่อนว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเราก็จะ
แบบสังคมสงเคราะห์หรือแบบมาเอาหน้าซึ่งมันก็หนีไม่พ้นประเด็น ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ เพราะมันเท่ากับเป็นการทำ�รัฐประหารซ้ำ� สิ่ง
ความสัมพันธ์แบบไพร่กับอำ�มาตย์อยู่ดี ประเด็นนี้ผู้เขียนมองว่าน่า ที่พวกเราต้องการมีอย่างเดียวคือ ประชาธิปไตย และ จัดการเลือก
สนใจมาก การต่อสู้เรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยมันทำ�ให้เกิดความ ตั้งใหม่ด้วยกติกาที่เป็นธรรม ที่คนเสื้อแดงเห็นด้วยเท่านั้น
ชัดเจนเรื่อง “สิทธิ” มากขึ้น โดยเฉพาะในประเด็น คนธรรมดาเมื่อ
ประสบปัญหาเขาจะได้รับการช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการอย่างมี ป้องกันการทำ�รัฐประหารซ้ำ� พวกเราไม่เอา “รัฐบาลแห่งชาติ ”
ศักดิศ์ รีในฐานะทีเ่ ขาเป็นเจ้าของประเทศผูเ้ สียภาษี เพราะเรือ่ งสิทธิ
เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 6
ในช่วงระยะก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง แนวคิดลัทธิมาร์ค
เยาวชนเลี้ยวซ้็าย ซ์ได้เริ่มมีอิทธิพลในหมู่คนไทยแล้ว โดยเฉพาะนักศึกษาปัญญาชน
โดย ลมบ้าหมู ในภาคอีสาน ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองมีหลักฐานระบุว่า
ฝ่ายคอมมิวนิสต์สยามมีสมาชิกอยู่ 325 คน และปรากฏว่ามีกจิ กรรม
การเคลื่อนไหวกันอย่างกว้างขวาง “คณะคอมมิวนิสต์สยาม” และ
“คณะคอมมิวนิสต์หนุ่มสยาม” ได้แจกใบปลิวโจมตีคณะราษฎรว่า
เป็น “คณะราษฎรปลอมและไม่อาจแก้ไขปัญหาของราษฎรได้” แต่มี
นักมาร์คซิสต์บางกลุม่ ทีอ่ า้ งว่า คอมมิวนิสต์มสี ว่ นในการเปลีย่ นแปลง
การปกครองเพือ่ “ทำ�ลายอำ�นาจเจ้าขุนมูลนาย” ผลจากการเคลือ่ นไหว
การเดินทางของ“ลัทธิมาร์คซ์”ในสยาม ของฝ่ายคอมมิวนิสต์ในยุคนั้น ทำ�ให้รัฐบาลพระยามโนปกรณ์นิติ
ธาดาประกาศใช้ พรบ.ว่าด้วยคอมมิวนิสต์ พ.ศ. 2476 ออกมาบังคับ
ใช้ ส่งผลให้การเคลือ่ นไหวของฝ่ายคอมมิวนิสต์ในกรุงเทพฯและภาค
กลางลดลง แต่กลับคึกคักมากขึ้นทางภาคอีสานในปี พ.ศ. 2477
วันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1917 (พ.ศ. 2560) ที่ใกล้ถึงนี้จะเป็น ครั้นเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากที่กองทัพญี่ปุ่นบุก
วันครบรอบ 93 ปี ของการปฏิวัติสังคมนิยมในประเทศรัสเซีย หรือ เข้าประเทศไทย กลุ่มผู้นิยมลัทธิ์มาร์คซ์ที่มีเชื้อสายจีนและต่อต้าน
ที่ชาวสังคมนิยมยกให้เป็น “การเปิดศักราชใหม่ของโลก” ศักราชที่ ญี่ปุ่นมาตั้งแต่ช่วงสงครามจีน – ญี่ปุ่น ในปี 2480 อยู่แล้ว จึงได้ถือ
ประชาชน คนงานธรรมดาหาเช้ากินค่ำ� จะขึ้นมามีอำ�นาจในการ เอาการต่อต้านญี่ปุ่นเป็นภารกิจเฉพาะหน้า โดยมีการก่อตั้งเป็น
กำ�หนดชะตาชีวิตของตนเองและสังคม ความสำ�คัญของการปฏิวัติ ขบวนการต่อต้านญี่ปุ่นขึ้น ต่อมาในเดือน พ.ย. 2485 ผู้นิยมลัทธิ์
ในครั้งนี้ได้ทำ�ให้ชาวโลกได้ตระหนักถึงคุณค่า และพลังแห่งความ มาร์คซ์กลุม่ ต่างๆจึงได้สง่ ตัวแทนมาประชุมร่วมกันทีจ่ งั หวัดนครสวรรค์
สามัคคีของชนชั้นคนงาน ที่แสดงให้เห็นว่า คนงานและคนยากจน เพือ่ สร้างความสามัคคีในการต่อต้านญีป่ นุ่ และถือเป็นการประชุมก่อ
ที่เป็นประชากรส่วนมากของโลกเท่านั้นจะเป็นผู้ครองโลก ไม่ใช่อยู่ ตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ไทย(พคท.) โดยให้ถือเอาวันที่ 1 ธ.ค. 2485
ใต้ตีนของ “อำ�มาตย์นายทุน” ตลอดไป เป็นวันก่อตั้งพรรคอย่างเป็นทางการ และเนื่องจาก พคท. มีสมาชิก
“สยาม” ประเทศเล็กๆ ประเทศหนึง่ ในอุษาคเนย์ ก็ได้รบั อิทธิพล ที่มีคนเชื้อสายจีนอยู่มากจึงได้กำ�หนดคำ�ขวัญ “คัดค้านจักรพรรดิ
ดังกล่าวจากการปฏิวตั ใิ หญ่ในครัง้ นัน้ ช่วงแรกของการลงหลักปักฐาน นิยมญี่ปุ่น คัดค้านเผด็จการจอมพล ป.พิบูลสงคราม” ซึ่งเป็นการ
ลัทธิมาร์คซ์ในสยาม ตัวละครหลักในยุคนั้นมักจะเป็นชาวจีนและ ประสานให้เข้ากับยุทธศาสตร์ตอ่ ต้านญีป่ นุ่ ของพรรคคอมมิวนิสต์จนี
เวียดนาม ทีล่ ภี้ ยั มาอยูใ่ นสยามและใช้โอกาสนีใ้ นการเผยแพร่อดุ มการณ์ ภายหลังที่สงครามโลกยุติลง รัฐบาลไทยต้องอาศัยความ
จากหลักฐานทางเอกสารของหอจดหมายเหตุแห่งชาติ (ช่วงปลาย สนับสนุนของสหภาพโซเวียต เพื่อให้ไทยได้ถูกยอมรับเข้าเป็นรัฐ
พ.ศ. 2463)ได้ระบุวา่ บุคคลแรกทีเ่ คลือ่ นไหวทางการเมืองโดยยึดถือ สมาชิกของสหประชาชาติ ดังนัน้ ไทยจึงต้องยกเลิก พรบ.คอมมิวนิต์
ลัทธิมาร์คซ์ในสยาม คือ ทำ�จีนซำ�หรือถ่ำ�จันซาม เขาได้จัดตั้งกลุ่ม ฉบับ พ.ศ. 2476 และ 2478 พรรคคอมมิวนิต์ไทยจึงสามารถดำ�เนิน
ศึกษาขึ้น สำ�หรับเป็นสถานที่รวบรวมอั้งยี่กลุ่มต่างๆให้เป็นคณะ กิจกรรมได้โดยเปิดเผยและอิสระจากพรรคคอมมิวนิต์จีน ส่วน
เดียวกัน มีการจัดทำ�หนังสือพิมพ์จนี “คิวเซ็ง” พร้อมทัง้ เปิดห้องสมุด สถานการณ์ดา้ นการเมืองในขณะนัน้ นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย
ที่มีชื่อว่า “เปลี่ยนแปลงประเทศจีน” แต่ไม่นานเขาก็ถูกรัฐบาลสยาม กลุ่มของนายปรีดี พนมยงค์ พรรคสหชีพและพรรคแนวรัฐธรรมนูญ
เนรเทศ ด้วยข้อหาวิพากษ์วิจารณ์อังกฤษ ญี่ปุ่น และยกย่องระบบ ได้ขึ้นมามีอำ�นาจ ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการศึกษา ส่งผลให้
สาธารณรัฐกับบอลเชวิค แนวคิดลัทธิมาร์คซ์กบั แนวคิดสังคมนิยมอืน่ ๆเติบโตขึน้ และเริม่ เป็น
กิจกรรมการเคลื่อนไหวของฝ่ายผู้นิยมลัทธิมาร์คซ์ในสยามมี ที่ยอมรับจากปัญญาชนในยุคนั้นอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งเกิดการ
ความคึกมากขึน้ ในปลายปี พ.ศ. 2472 แม้จะมีการปราบปรามจับกุม รัฐประหารในปี 2490 ขบวนการภาคประชาชนและนักการเมืองฝ่าย
จากรัฐบาลสยามอย่างหนัก แต่การเคลือ่ นไหวของขบวนการคอมมิวนิสต์ ตรงข้ามกับคณะรัฐประหาร ถูกคุกคาม จับกุม และปราบปรามอย่าง
ในสยามก็หาได้หยุดชะงักลงไม่ จนเข้าสู่ปี พ.ศ. 2473 ในเดือน หนัก จนเป็นเหตุให้เกิดการลุกขึ้นต่อต้านอยู่หลายครั้ง ทั้งในกรณี
กันยายน ก็ได้มีการจัดตั้ง “คณะคอมมิวนิสต์สยาม” ขึ้น โดยมีโฮจิ กบฏเสนาธิการ กบฏวังหลวง และกบฏแมนฮัตตัน
มินห์เป็นประธาน และมีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นคนจีนกับเวียดนาม ในสมัยของคณะรัฐประหารปี 2490 ทีม่ จี อมพล ป. พิบลู สงคราม
ประมาณปี พ.ศ. 2479 รัฐบาลสยามได้เข้าจับกุมครั้งใหญ่ องค์กรนี้ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น รัฐไทยได้ยอมรับความช่วยเหลือทั้งด้าน
จึงสลายตัวลง ต่อมาระหว่างปี 2480 – 2481 ทางโคมินเทิรน์ ได้สง่ ตัว เศรษฐกิจและการทหารจากสหรัฐฯโดยปราศจากขอบเขต พร้อมทั้ง
แทนชื่อ ลี่คีซิง(หลี่ฉีซิง) มาจัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ในสยามขึ้นใหม่ ได้เข้าร่วมนโยบาย “ปิดล้อม” ฝ่ายคอมมิวนิสต์ โดยเริ่มต้นด้วยการ
ซึง่ เป็นพรรคทีก่ อ่ ตัง้ โดยคนจีนล้วนๆ ต่อมาพรรคจึงได้ขยายบทบาท สนับสนุนสหรัฐฯในการรับรองรัฐบาลหุ่นของฝรั่งเศสในเวียดนาม
ไปยังคนไทยเชื้อสายจีนและคนไทยอีกทีหนึ่ง จนกระทั่งมีการแยก ลาว กัมพูชา และดำ�เนินการปิดศูนย์การเคลื่อนไหวของขบวนการ
ตัวออกมาตั้งพรรคของไทยในเวลาต่อมา ปลดแอกเวียดนามในกรุงเทพ ที่รัฐบาลในสมัยนายปรีดี พนมยงค์
เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 7
เคยให้การสนับสนุน ต่อมาในปี พ.ศ. 2493 รัฐบาลจอมพล ป. พิบูล ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน หนังสือที่เกี่ยวกับลัทธิสังคมนิยมสามารถ
สงคราม ได้ตดั สินใจลงนามเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯและส่งทหารไทย วางขายตามแผงได้อย่างเปิดเผยและมียอดจำ�หน่ายทีด่ ี และนับตัง้ แต่
ไปร่วมในสงครามเกาหลี ซึ่งได้รับการต่อต้านเป็นอย่างมากจาก ที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2517 ออกมา ก็ได้ก่อให้เกิด
ปัญญาชนและประชาชนทัว่ ไป จนก่อให้เกิดเป็นการเคลือ่ นไหวคัดค้าน ความตื่นตัวในด้านสิทธิประชาธิปไตยครั้งใหญ่ ซึ่งก่อให้เกิดความ
สงครามที่มีชื่อเรียกว่า “ขบวนการสันติภาพ” หวั่นวิตกในบรรดาผู้มีอำ�นาจและกลุ่มอนุรักษ์นิยมอย่างมาก จนนำ�
หลังจากการปราบปราม “ขบวนการสันติภาพ” ยุตลิ ง รัฐบาล ไปสู่เหตุการณ์สังหารหมู่เพื่อฟื้นคืนอำ�นาจเผด็จการและเพื่อยุติ
ได้ออก พรบ.คอมมิวนิสต์ พ.ศ. 2495 ออกมาบังคับใช้ ซึ่งกลายเป็น บทบาทของนักศึกษาในเช้าวันที่ 6 ตุลา 2519 ในที่สุด และจาก
กฎหมายครอบจักรวาล ที่บรรดาชนชั้นปกครองใช้เป็นเครื่องมือใน เหตุการณ์นี้เองที่ได้บีบบังคับให้นักศึกษากับประชาชนที่ถูกคุกคาม
การควบคุมและปราบปรามประชาชนต่อมาอีหลายปี ในปี 2498 ไล่ล่า ต้องหนีเข้าป่าร่วมต่อสู้กับ พคท. จำ�นวนกว่า 3000 คน โดย
รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม เปิดให้มีการรื้อฟื้นประชาธิปไตย มี นักศึกษากับประชาชนทีห่ ลบภัยเข้าป่า เริม่ มีมาตัง้ แต่กรณี 14 ตุลาคม
การประกาศใช้ พรบ.พรรคการเมือง ซึง่ ทำ�ให้การจัดตัง้ พรรคการเมือง 2516 แล้ว
ในยุคนั้นต่างผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด แม้พรรคคอมมิวนิสต์ที่ไม่ได้รับ ผลสืบเนื่องจากกรณี 6 ตุลา พคท.ได้ร่วมกับสมาชิกบางส่วน
อนุญาตให้จัดตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็มีพรรคฝ่ายซ้ายจัด จากพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายที่ก้าวหน้า และนักศึกษาปัญญาชนที่
ตัง้ ขึน้ มาหลายพรรค อาทิ พรรคสังคมนิยม พรรคขบวนการไฮด์ปาร์ค หลบภัยเข้าป่า จัดตั้ง “แนวร่วมกองกำ�ลังประสานงานรักชาติรัก
พรรคสังคมประชาธิปไตย พรรคกรรมกร พรรคเศรษฐกร เป็นต้น ประชาธิปไตย”(กปชป.) โดย กปชป. จะมีภาระหน้าที่ติดต่อประสาน
และเมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไปพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายก็ได้รับเลือกตั้ง งานและปรึกษาหารือกับบรรดากลุม่ การเมืองและองค์กรมวลชนต่างๆ
เข้ามาหลายคน รวมทั้ง พคท. ทีม่ กี ารประสานแนวทางกันเป็นอย่าง แต่แนวร่วม กปชป. ก็เป็นเช่นเดียวกับแนวร่วมอื่นๆของ พคท. คือ
ดี ล้วนอยูภ่ ายใต้การชีน้ ำ� ไม่คอ่ ยมีบทบาทหรือความคิดเห็นทีเ่ ป็นอิสระ
เข้าสูพ่ ทุ ธศตวรรษที่ 25 หลังการรัฐประหารขึน้ มามีอำ�นาจของ มากนัก และนั่นจึงนำ�ไปสู่ความแตกแยกกันในที่สุด
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในปี พ.ศ. 2501 ซึ่งถือกันว่าเป็นยุคมืดของ ความผิดพลาดที่เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง จนนำ�ไปสู่
ประชาธิปไตยไทยอย่างแท้จริง มีสงั่ การปราบปรามฝ่ายคอมมิวนิสต์ ความปราชัยของ พคท. มาจากการเดินตามก้นพรรคคอมมิวนิสต์จนี
อย่างรุนแรงและบ้าคลั่ง ประชาชนหลายพันคนถูกจับขังลืมในข้อหา อย่างไม่ลืมหูลืมตา และจากการไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงตาม
อันธพาลและข้อหาการกระทำ�อันเป็นคอมมิวนิสต์ มีผถู้ กู สัง่ ประหาร สภาพความเป็นจริงของสังคมไทยในระดับนำ� ตัวอย่างจากกรณีหนึง่
ตามคำ�สั่งมาตรา 17 โดยไม่ต้องขึ้นศาล รวมทั้งหมด 13 คน (ใน ที่เป็นการดำ�เนินนโยบายที่ผิดพลาดของ พคท. คือ การประกาศรับ
จำ�นวนนี้มีผู้ถูกกล่าวหาเป็นคอมมิวนิสต์ 4 คน) ผลจากการปราบ แนวทางตามทฤษฎีสามโลก และลัทธิคดั ค้านการครองความเป็นเจ้า
ปรามอย่างหนักในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และสมัยจอมพล โลกของจีนมาใช้ ในปลาย พ.ศ. 2520 – 2521 ซึ่งส่งผลให้ พคท.
ถนอม กิตติขจร ผู้สานต่อนโยบายจากรัฐบาลเดิม ก็ได้ส่งผลให้ ต้องเป็นกลายศัตรูกับโซเวียต ลาว และเวียดนามไปโดยปริยาย ผล
ขบวนการประชาชนซบเซาลงอย่างมาก จนกระทั่งถึงยุค 14 ตุลา สะเทือนจากการยอมรับทฤษฎีสามโลก ทำ�ให้งานปฏิวัติของ พคท.
2516 ขบวนการภาคประชาชนจึงฟื้นตัวใหม่อีกครั้ง ยิ่งประสบความยากลำ�บากมากขึ้น เพราะลาวกับเวียดนามได้ตัด
7 สิงหาคม 2508 หลังจาก พคท. ย้ายศูนย์การนำ�สู่ภาคอีสาน ความช่วยเหลือแก่ พคท. ทุกๆทาง ทั้งในด้านฐานที่ตั้ง เส้นทาง
และถือหลักหลบหลีกมาตลอด ก็ได้เกิดการปะทะกับกองกำ�ลังฝ่าย ลำ�เลียงความช่วยเหลือด้านการขนส่ง การฝึกทหาร ด้านการแพทย์
รัฐบาลขึ้นครั้งแรกที่บ้านนาบัว จังหวัดนครพนม และจากเหตุการณ์ และยังต้องหวั่นเกรงภัยสงครามจากทางด้านลาวและเวียดนามอีก
นี้เองที่ผลักดันให้ พคท. จำ�เป็นต้องดำ�เนินการด้วยอาวุธ โดยมีการ เหตุที่ พคท. รับทฤษฎีสามโลกของจีนมาใช้ ก็เนื่องมาจาก
ตั้ง “กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย” ขึ้นในวันที่ 19 ความเชื่อที่ว่า “จักรวรรดิโซเวียตกับสมุน” กำ�ลังจะขยายอิทธิพลเข้า
พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 และภายใต้เงื่อนไขเผด็จการ “ถนอม – มายังแถบอินโดจีนและจะเข้าครอบครองประเทศไทย ดังนั้น พคท.
ประภาส” การต่อสู้ด้วยอาวุธของ พคท. ก็ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงได้เปลี่ยนนโยบายไปแสวงหาความร่วมมือจากรัฐบาลไทยและ
(จากปี 2508 – 2515 มีเขตจังหวัดที่อยู่ภายใต้การปฏิบัติการทาง อเมริกา เพื่อทำ�แนวร่วมต่อต้านโซเวียตกับเวียดนาม แต่ความ
ทหารของกองทัพปลดแอกถึง 30 จังหวัด) บวกกับนโยบายต่อต้าน พยายามดังกล่าวก็ไม่เป็นผลสำ�เร็จนัก เพราะภาพที่ปรากฏออกมา
อเมริกาและรัฐบาลทหารของ พคท. ทีม่ ที ศิ ทางเดียวกันกับขบวนการ ก็มีแต่รัฐบาลไทยร่วมมือกับอเมริกาบุกเข้าเวียดนาม ในขณะที่
นักศึกษาในขณะนั้น จึงส่งผลให้ พคท. เติบโตและมีแนวร่วมที่กว้าง เวียดนามก็ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยตนเอง ส่วนโซเวียตก็ไม่มีทีท่าว่าจะ
ขวางขึ้น และยิ่งมีการปรามปรามไล่ล่าประชาชนมากเท่าไหร่ พคท. ครอบงำ�ประเทศไทยแต่อย่างใด
ก็ยิ่งเข้มแข็ง จนเป็นศัตรูหลักที่รัฐบาลต้องทุ่มงบประมาณจำ�นวน สถานการณ์ของ พคท. ยิ่งแย่ลงมากขึ้น เมื่อรัฐบาลไทยเดิน
มหาศาลเพื่อปราบปราม ตามก้นอเมริกา ฟื้นคืนความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีน (ซึ่งนั่นก็ไม่ได้
ภายหลังเหตุการณ์โค่นล้มเผด็จการ ถนอม – ประภาส เมื่อ หมายความว่ารัฐบาลไทยจะยอมรับพรรคคอมมิวนิสต์ เพราะทาง
14 ตุลาคม 2516 ขบวนการสังคมนิยมที่เคยซบเซาก็กลับตื่นฟื้นคืน ภาครัฐก็ยงั มีนโยบายปราบปรามอยู)่ ความสำ�เร็จในการเจรจาระหว่าง
สถานการณ์หลัง 14 ตุลา ได้ท�ำ ให้ประชาชนมีสทิ ธิเสรีภาพมากอย่าง รัฐบาลทั้งสองประเทศ นอกจากการแลกเปลี่ยนกันทางการค้าแล้ว
เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 8
รัฐบาลจีนก็ยังมีความจำ�เป็นต้องปิด “สถานีวิทยุเสียงประชาชนแห่ง
ประเทศไทย” (ว.สปท.) เพื่อแลกเปลี่ยนกับความสะดวกในการให้ รักที่อบอุ่นนั้นถูกพราก
ความช่วยเหลือแก่เขมรแดงที่จีนต้องได้รับจากไทย และนั่นก็ทำ�ให้
พคท.ต้องปฏิบตั งิ านอย่างยากลำ�บากลงในทุกด้าน โดยเฉพาะปัญหา
โดย พจนา คำ�หนัก
ความไม่เป็นเอกภาพในหมู่แนวร่วมและนิสิตนักศึกษา ที่เริ่มมองว่า
พคท.ไม่จริงจังและขาดความเป็นตัวของตัวเอง ซึง่ ทำ�ให้สมาชิก พคท. ฝนตก น้ำ�ท่วม ท้องหิว
ในส่วนต่างๆกระจัดกระจาย และสลายตัวกลับสูเ่ มืองในตอนนัน้ จำ�นวน ลมพลิ้ว หวิวเหว่ เหน็จหน่าย
มาก
ถึงช่วงปี 2522 – 2523 สถานการณ์ปฏิวตั พิ ลิกผันอีกครัง้ หนึง่ พ่อแม่ ไม่อยู่ ข้างกาย
เมื่อความขัดแย้งภายในพรรคปะทุขึ้น ระหว่างนักศึกษาปัญญาชน แล้วจะ มีใคร ทดแทน
กับสหายนำ�รุน่ อาวุโส “ผูไ้ ม่ยอมรับสภาพการเปลีย่ นแปลงทีเ่ ป็นจริง
ของสังคม” ประกอบกับความขัดแย้งในขบวนการคอมมิวนิสต์สากล
ทีร่ นุ แรงถึงขัน้ ทีเ่ วียดนามยกกำ�ลังบุกกัมพูชาและจีนทำ�สงครามเพือ่
ยืนรอ นั่งรอ โดดเดี่ยว
สั่งสอนเวียดนาม ในสถานการณ์ปฏิวัติที่ล่อแล่ พลิกผันนี้เอง ฝ่าย คอยเหลียว ดูเขา ทั้งสอง
รัฐบาลไทยทีเ่ คยใช้แต่นโยบายปราบปรามมาตลอด ก็เปลีย่ นมาเป็น ไม่อาจ กลั้นน้ำ� ตานอง
วิธีการประนีประนอมในปี 2523 โดยฉวยโอกาสดำ�เนินนโยบาย โซ่ตรวน จองจำ� จากไป
“การเมืองนำ�ทหาร” ทีเ่ รียกว่า “นโยบาย 66/23” ตามมาด้วยนโยบาย
เร่งรัดพัฒนาชนบท อีสานเขียว และใต้ร่มเย็น ส่งผลให้ผู้เข้าร่วม
ขบวนการปฏิวัติทั้งกรรมกร ชาวนา นักศึกษา ปัญญาชน ที่เบื่อ ชีวิต พลิกผัน เกินคาด
สงคราม ทยอยกันออกมามอบตัว เข้าโครงการผูร้ ว่ มพัฒนาชาติไทย อยู่อย่าง จำ�กัด ฉไน
เป็นจำ�นวนมาก จนกระทั่ง พ.ศ. 2525 พรรคคอมมิวนิสต์แห่ง
ประเทศไทยจึงล่มสลายลงในที่สุด
คนชั้น ตัวเล็ก กรรมใด
นับแต่การปราบปรามนักศึกษาในวันที่ 6 ตุลา 2519 และหลัง ไร้ด้วย ศักดิศรี ตัวตน
จาก พคท. ล่มสลายลง ขบวนการสังคมนิยมไทยก็ซบเซาลงอีกครั้ง
แต่การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในบ้านเราก็ไม่เคยหยุดลง เมื่อเข้าปี หัวใจ เปราะบาง ถูกย่ำ�
2535 ขบวนการประชาชนก็เกิดขึ้นมาฟาดฟันกับเผด็จการอีก แต่
ขบวนการสังคมนิยมในยุคนั้นก็ไม่ค่อยมีบทบาทมากนัก จนกระทั้ง เช้าค่ำ� ดิ้นรน บนถนน
เกิดการรัฐประหารปี 2549 กระแสการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม รับจ้าง ค่าแรง ต่ำ�จน
ก็ขยายตัวออกไปอย่างทีไ่ ม่เคยปรากฏมีมาก่อนในประวัตศิ าสตร์ ส่ง อดทน ท้าทาย ชะตา
ผลให้กระแสสังคมนิยมที่เคยซบเซา เริ่มกลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้งใน
ปัจจุบัน
เราชาวสังคมนิยมเชือ่ ว่า เมือ่ ใดก็ตามทีพ่ นี่ อ้ งชนชัน้ ผูใ้ ช้แรงงาน แรงน้อย รึสู้ แรงใหญ่
ได้รู้จักกับ “ลัทธิสังคมนิยม” เขาทั้งหลายก็จะต้องหันมาสนใจลัทธิ ผู้เถื่อน ดาหน้า เทศนา
สังคมนิยมกันหมด เพราะลัทธิสังคมนิยม ถือหลักความยุตธิ รรมและ กำ�หนด กฎ กติกา
หลักแห่งผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง และเราได้ระบุอย่าง
ชัดเจนว่า “เมื่อใดดวงอาทิตย์แห่งระบบสังคมนิยมได้เริ่มโผล่ที่ขอบ คนดี ต้องมา ปกครอง
ฟ้า เมื่อนั้นคือยามสนธยาหรือจุดจบของลัทธิอำ�มาตย์นายทุน”
เรามัน ไอ้ตัว กระจ้อย
* อ้างอิง
- พลิกแผ่นดิน ตอน ขบวนการสังคมนิยมในไทย : ประจวบ อัมพะ
รับผล พลอยเสีย ทั้งผอง
เศวต แหงนหน้า สู้แสง ฟ้าลำ�พอง
- สายธารประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทย : สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ ป่าวร้อง ว่านี่ คืออธรรม
แหงนหน้า สู้แสง ฟ้าลำ�พอง
ป่าวร้อง ว่านี่ คืออธรรม!
เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 9
ถามทาง
โดย ประเวศ ประภานุกูล

ศาลยุติธรรม : ยุติอย่างเป็นธรรม หรือ ยุติความเป็นธรรม


ตอนที่ 1 ความเป็นมาและโครงสร้างผู้พิพากษาของศาลไทย

ท่ามกลางกระแสเรียกร้องประชาธิปไตย การเรียกร้องความ ประเทศอังกฤษ คือ พระองค์เจ้ารพีพฒ ั นศักดิ์ เมือ่ จบการศึกษากลับ


ยุติธรรม ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงแห่งกระบวนการยุติธรรม ตัว มา พระองค์เจ้ารพี ได้ก่อตั้งศาลขึ้น โดยใช้ระบบกล่าวหาเช่นเดียว
ตนที่มี 2 มาตรฐาน เมื่อกล่าวถึงกระบวนการยุติธรรมย่อมหลีกเลี่ยง กับที่ใช้ในประเทศอังกฤษตามที่พระองค์ทรงศึกษามา พร้อมทั้งร่าง
การกล่าวถึงศาลไม่พน้ ศาลซึง่ เป็นส่วนยอดของกระบวนการยุตธิ รรม กฎหมายต่างๆ กม.ที่สำ�คัญคือ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ในอดีตการโจมตีกระบวนการยุตธิ รรมได้ยกเว้นศาลไว้ให้อยูใ่ นฐานะ กฎหมายลักษณะอาญา(ภายหลังถูกยกเลิกและใช้ประมวลกฎหมาย
เป็นทีย่ อมรับในความเป็นกลาง ในความบริสทุ ธิย์ ตุ ธิ รรม แต่ปจั จุบนั อาญาจนทุกวันนี้) ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(ว่าด้วย
ส่วนยอดของกระบวนการยุตธิ รรมกลับเป็นทีว่ พิ ากษ์วจิ ารณ์มากทีส่ ดุ วิธีการดำ�เนินคดีในศาลสำ�หรับคดีแพ่ง) และประมวลกฎหมายวิธี
พิจารณาความอาญา(วิธีดำ�เนินคดีในศาลสำ�หรับคดีอาญา ตลอด
บทความนี้มุ่งแสดงถึงโครงสร้างอันเป็นสาเหตุแห่ง จนการสอบสวน การควบคุมผู้ต้องหา การออกหมายจับ กล่าวโดย
ความเป็น 2 มาตรฐานของศาล สรุป เป็นวิธีดำ�เนินคดีตั้งแต่ชั้นตำ�รวจจนจบคดีที่ศาลฎีกา)
การวิพากษ์วิจารณ์สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ต้องทำ�ความรู้จักเข้าใจถึงสิ่ง ในส่วนระบบกฎหมายวิธพี จิ ารณาความนี้ อาจารย์ผมบางท่าน
นั้นก่อน และการทำ�ความเข้าใจก็ต้องศึกษาประวัติศาสตร์ ความ เคยวิเคราะห์ว่าเป็น กม. ของระบบไต่สวน ซึ่งต้องให้อำ�นาจแก่ศาล
เป็นมาก่อนเป็นอันดับแรก ในตอนแรกนี้จึงจะกล่าวถึงประวัติความ ในฐานะผู้ไต่สวนค้นหาความจริง แต่โดยที่บ้านเราใช้ระบบกล่าวหา
เป็นมาของศาลไทย ศาลยุติธรรม จากนั้นจะกล่าวถึงโครงสร้างผู้ ซึ่งศาลต้องวางตัวเป็นกลาง ให้คู่ความ 2 ฝ่ายต่อสู้คดีกันด้วยพยาน
พิพากษา และเปรียบเทียบกับระบบของประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง หลักฐานให้ศาลตัดสิน ทำ�ให้ กม. ให้อำ�นาจศาลมากเกินควร
อเมริกาในท้ายที่สุด นอกจากระบบกฎหมายทีข่ ดั แย้งกับระบบปฏิบตั ดิ งั กล่าวแล้ว
ในทางรัฐศาสตร์ถือว่ารัฐไทยก่อกำ�เนิดขึ้นในสมัย ร.5 แห่งยุค สิ่งหนึ่งที่ตกทอดมาถึงปัจจุบันนี้คือ ข้อหา ละเมิดอำ�นาจศาล โดย
รัตนโกสินทร์ ศาลไทย ตลอดจนระบบกฎหมาย ที่ใช้อยู่ในทุกวันนี้ก็ เฉพาะข้อหาดูหมิน่ ศาล เป็นส่วนหนึง่ ของการละเมิดอำ�นาจศาล เป็น
เกิดขึ้นในยุคนี้เช่นกัน ในสมัยนั้นรัฐไทย ตกอยู่ภายใต้สนธิสัญญา กม. ของระบบสมบูรณาญาสิทธิราชโดยแท้ กล่าวคือ ในระบบ
สิทธิสภาพนอกอาณาเขตแก่มหาอำ�นาจตะวันตก โดยไม่เว้นแม้แต่ สมบูรณาญาสิทธิราช กษัตริย์เป็นผู้ทรงอำ�นาจเด็ดขาดทั้ง 3 อำ�นาจ
สหรัฐอเมริกา มหามิตรในปัจจุบนั นี้ หรือแม้แต่ประเทศญีป่ นุ่ ประเทศ ทั้ง บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ การตั้งศาลเป็นเพียงการแบ่งงาน
ในเอเชีย ก็ได้มีสิทธิสภาพนอกอาณาเขตเหนือรัฐไทยเช่นกัน ทั้งนี้ ของกษัตริย์ในการตัดสินคดี ให้องค์กรที่ตั้งขึ้นทำ�งานแทนเท่านั้น
เป็นมรดกตกทอดมาจากสมัย ร.4 ที่มุ่งรักษาอาณาจักรให้พ้นจาก ศาลในยุคนัน้ จึงมีลกั ษณะเป็นองค์กรหนึง่ หรือหน่วยงานหนึง่ ทีท่ �ำ งาน
การยึดครองของมหาอำ�นาจตะวันตก จึงได้ยอมทำ�สนธิสญ ั ญาทีเ่ สีย ให้แก่กษัตริย์ ทำ�งานแทนกษัตริย ์ ศาลจึงมีสภาพเป็นตัวแทนกษัตริย ์
เปรียบเช่นนี้ การจะแก้ไขยกเลิกสนธิสัญญานี้จึงต้องเริ่มจากการ กษัตริย์ที่ใครผู้ใดจะล่วงละเมิดไม่ได้ ศาลจึงต้องทำ�งานภายใต้พระ
ปรับปรุงระบบกฎหมายและระบบศาล ให้เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ ปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ และต้องมีบทบัญญัตหิ า้ มละเมิดอำ�นาจ
ก่อน ซึ่งได้เริ่มต้นและเสร็จสมบูรณ์ในสมัย ร.5 นี้เอง ศาลรวมถึงห้ามดูหมิน่ ศาล เพือ่ ความศักดิส์ ทิ ธิข์ องศาลทีท่ �ำ งานภาย
สิทธิสภาพนอกอาณาเขต คือ สนธิสญ ั ญาทีร่ ะบุให้คนของชาติ ใต้พระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์
นัน้ ไม่ตอ้ งขึน้ ศาลไทยเมือ่ กระทำ�ผิดในไทย แต่ให้ขนึ้ ศาลของประเทศ พร้อมกับการก่อตั้งศาลและระบบกฎหมายดังกล่าว พระองค์
ตนแทน เจ้ารพี ได้ก่อตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้นในศาล เปิดสอนกฎหมายเพื่อ
ในเบื้องต้น ร.5 ได้ส่งเจ้าชายพระองค์หนึ่งไปเรียนกฎหมายที่ ผลิตนักกฎหมายป้อนให้เป็นผู้พิพากษาของศาล(ในทางกฎหมาย

เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 10


ได้อธิบายว่า ผูพ้ พิ ากษา ไม่ใช่ศาล แต่โดยทีศ่ าลเป็นองค์กรทีท่ �ำ งาน กล่าวโดยสรุป ผู้พิพากษาก็มีการเลื่อนตำ�แหน่งไม่ต่างจาก
โดยผู้พิพากษา ผู้พิพากษากับศาลจึงแยกจากกันไม่ออก) การสอน ข้าราชการพลเรือนทั่วไป
กฎหมายบรรยายโดยผู้พิพากษาทั้งหมด การจัดสอบคัดเลือกผู้พิพากษา การพิจารณาเลื่อนตำ�แหน่งผู้
การปฏิวัติของคณะราษฎรเมื่อ 24 มิถุนายน 2475 เป็นการ พิพากษา ตลอดจนการพิจารณาลงโทษทางวินัยแก่ผู้พิพากษา เป็น
เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของอำ�นาจฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ อำ�นาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดหนึ่ง ชื่อคณะกรรมการตุลาการ
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของฝ่ายตุลาการ หรือทีเ่ รียกย่อว่า กต. กต.ประกอบด้วยผูพ้ พิ ากษาทีย่ งั ดำ�รงตำ�แหน่ง
เมือ่ อ.ปรีดี พนมยงค์ ก่อตัง้ มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และ ทั้งหมด ส่วนใหญ่ของ กต. เป็น กต. โดยตำ�แหน่ง มี กต. บางส่วน
การเมือง(ปี 2495 จอมพล ป.ได้เปลี่ยนชื่อธรรมศาสตร์โดยตัดคำ�ว่า ที่เป็นผู้พิพากษาที่มาจากการเลือกตั้งของผู้พิพากษา และประธาน
“วิชา” และคำ�ว่า "และการเมือง" ออก) เมื่อปี 2477 การสอน กม. ได้ ศาลฎีกาเป็นประธาน กต. โดยตำ�แหน่ง
ย้ายมาที่ธรรมศาสตร์ โรงเรียน กม. ของศาลจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น จากประวัตคิ วามเป็นมาของศาลและโครงสร้างของผูพ้ พิ ากษา
"เนติบัณฑิตยสภา" พร้อมทั้งกำ�หนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัคร ดังกล่าว ศาลไทยเป็นองค์กรทีก่ อ่ ตัง้ โดยผูท้ รงอำ�นาจเด็ดขาดในสมัย
สอบเป็นผู้พิพากษาว่า ต้องผ่านการอบรมกฎหมายของสำ�นักอบรม สมบูรณาญาสิทธิราช สัญลักษณ์ตลอดจนรูปแบบพิธีการของศาล
กฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา(นอกเหนือจากการจบ กม. จาก และผูพ้ พิ ากษายังคงเดิมเฉกเช่นเมือ่ เริม่ ตัง้ ไม่วา่ จะเป็นการ "กระทำ�
มหาวิทยาลัย) ซึ่งเรียกกันว่า "จบเนติบัณฑิต" อันเป็นระบบที่ใช้กัน ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์" การ "โปรดเกล้าพระราชทาน
มาจนถึงปัจจุบนั ทัง้ นีก้ ารอบรมกฎหมายของเนติ ใช้ผพู้ พิ ากษาหรือ แต่งตั้งผู้พิพากษา" หรือแม้แต่บทบัญญัติว่าด้วยการดูหมิ่นศาล อีก
ผู้พิพากษาที่เกษียณเป็นอาจารย์ผู้บรรยาย ที่สำ�คัญหลักสูตร กม. ทั้งโครงสร้างของผู้พิพากษาก็เป็นโครงสร้างของข้าราชการประจำ�
ของเนติใช้แนวทางการตีความ กม. ตามแนวคำ�พิพากษาศาลฎีกา(เรียก ไม่มีส่วนใดเชื่อมโยงถึงประชาชน หรือชี้ว่าประชาชนเป็นเจ้าของ
สั้นๆว่า ฎีกา) อำ�นาจนีเ้ ลย ประชาชนไม่มี และไม่เคยมี ส่วนร่วมในการเข้าสูต่ �ำ แหน่ง
ผูท้ มี่ สี ทิ ธิสมัครสอบเป็นผูพ้ พิ ากษา นอกจากต้องจบเนติ(อ่าน ของผูพ้ พิ ากษา การสอบคัดเลือกผูพ้ พิ ากษาไม่แตกต่างอะไรกับการ
ว่า "เน" หรือ "เน-ติ" ก็ได้ แต่ทั่วไปจะอ่านว่า "เน")แล้ว จะต้องมี สอบเข้ารับราชการของข้าราชการพลเรือนอื่นๆเลย
คุณสมบัติอื่นอีก คือ ทีส่ �ำ คัญ คุณสมบัตขิ องผูม้ สี ทิ ธิสมัครสอบเป็นผูพ้ พิ ากษา ระบบ
1.มีอายุ 25 ปีขึ้นไป การสอบคัดเลือก ระบบการเลื่อนตำ�แหน่ง ล้วนแต่สร้างให้เกิดเครือ
2.มีประสบการทำ�งานอย่างน้อย 2 ปี ในอาชีพที่กำ�หนด เช่น ข่ายที่ผู้พิพากษาระดับสูงหรือระดับบริหาร สามารถแทรกแซงการ
ทนายความ อัยการ นิตกิ ร สำ�หรับอาชีพทนายความ นอกจากมีอายุ ทำ�งานของผู้พิพากษาได้ รวมทั้งสร้างทัศนคติร่วมของผู้พิพากษา
งาน 2 ปีแล้ว ยังได้ก�ำ หนดให้ต้องว่าความอย่างน้อย 20 คดี(เพื่อ ของศาลทั้งระบบ ซึ่งจะกล่าวในตอนต่อไป
ป้องกันการทำ�ใบอนุญาตทนายความโดยไม่ได้ทำ�งานจริง ส่วนนี้ยัง
มีปัญหาในทางปฏิบัติที่จะกล่าวต่อไป)
มีข้อสังเกตอีกอย่าง คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครสอบเป็น
พนักงานอัยการ เป็นคุณสมบัตเิ ดียวกับผูม้ สี ทิ ธิสมัครสอบผูพ้ พิ ากษา
จากคุณสมบัติดังกล่าว ผู้มีสิทธิสมัครสอบ ไม่จำ�เป็นต้องมาจาก
ทนายความ หรืออัยการ เฉกเช่นประเทศต้นตำ�รับศาลที่รับมา
เมื่อสอบผ่านแล้ว จะได้รับการบรรจุเป็น "ผู้ช่วยผู้พิพากษา"
และต้องเข้าอบรมทัง้ ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิ การอบรมภาคทฤษฎี
นี้ ไม่เคยมีการเปิดเผยกับคนนอกว่ามีการอบรมอะไรบ้าง แต่กม็ ขี า่ ว
เล็ดลอดออกมาว่า มีการสอน "วิชาเขียนคำ�พิพากษา" ด้วย ส่วนการ
อบรมภาคปฏิบัติ จะส่งผู้ช่วยผู้พิพากษาไปฝึกงานกับผู้พิพากษา
ระดับหัวหน้าคณะในศาลใหญ่ในกรุงเทพ คือ ศาลแพ่ง ศาลอาญา
ศาลแพ่งธนบุรี และศาลอาญาธนบุรี
หลังผ่านการอบรมทัง้ 2 ภาคดังกล่าว ยังไม่ถอื ว่าเป็นผูพ้ พิ ากษา
จนกว่าจะได้รับการ "โปรดเกล้าพระราชทานแต่งตั้ง" ก่อน เมื่อได้
รับโปรดเกล้าแล้ว จะถูกส่งไปเป็นผู้พิพากษาศาลเล็ก คือศาลแขวง
และต้องไปเริม่ ต้นชีวติ การเป็นผูพ้ พิ ากษาจากเมืองทีห่ า่ งไกลกรุงเทพฯ
เมื่ออายุงานเพิ่มขึ้นก็จะได้รับการเลื่อนตำ�แหน่ง โดยไปประจำ�ศาล
ที่ใหญ่ขึ้นอย่างศาลจังหวัด และค่อยๆขยับย้ายเข้าใกล้กรุงเทพฯ
มากขึ้น

เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 11


ประชาธิปไตยแรงงาน
โดย กองบรรณาธิการ

ยุโรปลุกเป็นไฟ ปกป้องรัฐสวัสดิการ
ลีออน ตรอทสกี เคยอธิบายว่าในยามที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
ชนชั้นกรรมาชีพอาจหดหู่กลัวการตกงาน และหมดกำ�ลังใจในการ
ต่อสู้ หรืออาจโกรธเคืองจนลุกเป็นไฟ การลุกฮือต่อสูข้ องคนงานและ กลุม่ คนหรือพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายทีค่ อยให้การศึกษา และทำ�ความ
นักศึกษาในฝรั่งเศส กรีส และสเปน ในรอบหกเดือนที่ผ่านมาแสดง เข้าใจกับปัญหาเศรษฐกิจจากมุมมองกรรมาชีพและคนจน
ว่ากรรมาชีพในหลายประเทศของยุโรปตะวันตกเคืองและลุกเป็นไฟ ในทางกลับกัน ถ้าในประเทศไหนมีรฐั บาลทีอ่ า้ งว่าเป็น “พรรค
แล้ว สังคมนิยม” แต่ยงั ใช้นโยบายกลไกตลาด หรือพยายามตัดสวัสดิการ
สิง่ ทีช่ ว่ ยให้กรรมาชีพหรือประชาชนธรรมดา รวมถึงนักศึกษา มันก็อาจจะสร้างความสับสนในขบวนการแรงงานหรือประชาชน
ออกมาต่อสูอ้ ย่างดุเดือดท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ คือปัจจัยทางการ อังกฤษเป็นตัวอย่างทีด่ ี เพราะรัฐบาลพรรคแรงงานทีพ่ งึ่ แพ้การเลือก
เมือง ความมั่นใจในตนเอง และการจัดตั้ง ตั้ง เป็นรัฐบาลแบบนั้น
วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ระเบิดขึ้นในปี ๒๕๕๑ เกิดจากปัญหา การที่รัฐต่างๆ ต้องเข้ามาอุ้มธนาคารและบริษัทเอกชน และ
ฟองสบู่แตกในตลาดการเงินของสหรัฐอเมริกา เพราะมีการปล่อยกู้ การทีค่ นจำ�นวนมากตกงานและจ่ายภาษีนอ้ ยลง มีผลทำ�ให้รฐั ติดหนี้
ให้คนจนเพื่อซื้อบ้าน มีการปั่นราคาอสังหาริมทรัพย์ มีการขายหนี้ สูงขึ้น ซึ่งถ้าสามารถพยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็ไม่ใช่ปัญหาร้าย
คนจนต่อ สูธ่ นาคารใหญ่ๆ ทัว่ โลก โดยในแต่ละขัน้ ตอนนายธนาคาร แรงเท่าไร
จะกอบโกยกำ�ไรและโบนัส แต่พอคนจนเริม่ จ่ายหนีค้ นื ไม่ได้ ทุกอย่าง แต่ปรากฏว่าปัญหาเริม่ ดูรา้ ยแรงเมือ่ เกิดการพนันในตลาดการ
พังลงมา ราคาอสังหาริมทรัพย์กต็ กต่� ำ ซึง่ ยิง่ ทำ�ให้มลู ค่าหนีส้ นิ ตกต่�
ำ เงินโดยนายทุน เพราะเมือ่ มีการเพิม่ หนีส้ าธารณะของหลายประเทศ
ในที่สุดมีปัญหาวิกฤตในระบบธนาคารทั่วโลก และรัฐของประเทศ พวกนักลงทุนก็จะพนันในความเข้มแข็งของเศรษฐกิจของประเทศ
ต่างๆ ต้องก้าวเข้ามาอุม้ และจ่ายหนีใ้ ห้ธนาคารเอกชน และต้องลงทุน เหล่านัน้ เพือ่ กินกำ�ไรเฉพาะหน้า เช่นในเรือ่ งการซือ้ ขายเงินตราล่วง
งบประมาณรัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำ�ลังหดตัวลงตามวิกฤต หน้า หรือการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล หรือแม้แต่ในการซื้อขายหนี้
สภาพนี้เกิดขึ้นทั่วโลก ในสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน แต่ใน สินต่างๆ ผลคือรัฐบาลขนาดเล็กอย่างรัฐบาลประเทศกรีซ ก็ถกู กดดัน
กรณีจนี มีการทุม่ เทงบประมาณรัฐมหาศาลเพือ่ พยุงเศรษฐกิจ และมี มากจากนายทุน เวลารัฐบาลกรีซจะกู้เงินเพิ่มก็พบว่าอัตราดอกเบี้ย
การปกปิดปัญหาธนาคารซึง่ ล้วนแต่เป็นของรัฐ การทีจ่ นี ยังขยายตัว พุ่งขึ้นสูง ซึ่งยิ่งทำ�ให้หนี้สาธารณะเพิ่มอีก ในกรณีกรีซ ประเทศนี้กู้
ได้ ช่วยเศรษฐกิจของบางประเทศ เช่นไทย เยอรมัน และออสเตรเลีย เงินจากธนาคารเยอรมันเพือ่ ขยายการลงทุน แต่พอวิกฤตเกิดขึน้ ทัว่
แต่มันอาจเป็นสภาพชั่วคราว เพราะรากฐานของปัญหาเศรษฐกิจ โลก ธนาคารต่างๆ เริ่มใกล้จะล้มละลาย และรัฐต้องเข้ามาช่วย กรณี
โลกมาจาก “แนวโน้มในการลดลงของอัตรากำ�ไร” และ “การผลิตล้น ประเทศปอร์ตุเกส สเปน และไอร์แลนด์ ก็คล้ายกัน ในที่สุดพวก
เกิน” ของระบบทุนนิยม ซึ่งทำ�ให้นายทุนพยายามสร้างฟองสบู่เพื่อ นายทุนก็กดดันให้รฐั บาลกรีซตัดสวัสดิการและทำ�ลายมาตรฐานการ
กอบกู้กำ�ไรแต่แรก จ้างงาน
ประชาชนจำ�นวนมากในตะวันตกเข้าใจว่าวิกฤตนี้เป็นวิกฤต นอกจากนี้ ในปีนฝี้ า่ ยนายทุน นายธนาคาร และรัฐบาลอนุรกั ษ์
ของกลไกตลาดเสรีและบริษทั เอกชน และผูท้ กี่ า้ วเข้ามาแก้ปญ ั หาคือ นิยม เริ่มตั้งตัวได้ มีการกดดันต่างๆ นาๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์
ภาครัฐ ปรากฏการณ์นี้ทำ�ลายความเชื่อมั่นของประชาชน ในทฤษฏี ของนายทุนธนาคาร เพราะตามความยุติธรรมสามัญ ถ้าธนาคารก่อ
เสรีนิยมกลไกตลาดที่พวกนักเศรษฐศาสตร์กระแสหลักเสนอมาใน วิกฤตแต่แรก และรัฐต้องนำ�งบประมาณมาอุ้ม ธนาคารควรจะจ่าย
รอบสามสิบปีที่ผ่านมา เพราะพวกนี้เคยเสนอว่ากลไกตลาดเป็นสิ่ง หนี้คืนให้รัฐ แต่ปรากฏว่านายธนาคารไม่ยอม แถมหน้าด้านเพิ่ม
ที่มี “ประสิทธิภาพสูงสุด” ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเขาเคย โบนัสให้ตนเอง แล้วหันไปเรียกร้องให้รฐั บาลยุโรปตัดสวัสดิการและ
เสนออีกว่ารัฐควรถอยออกห่าง “เพราะขาดประสิทธิภาพ” การลงทุนของรัฐ เพื่อจ่ายหนี้แทนธนาคาร ซึ่งการตัดงบประมาณ
ความอ่อนแอของแนวคิดเสรีนิยมกลไกตลาดเสรีนี้ มีส่วนใน และสวัสดิการของรัฐแบบนี้อาจเสี่ยงกับการทำ�ให้เศรษฐกิจหดลง
การทำ�ลายความชอบธรรมของนายทุนและชนชัน้ ปกครองในสายตา และเกิดวิกฤตรอบสองก็ได้
ประชาชน และมันช่วยให้นกั สหภาพแรงงาน และประชาชนโดยทัว่ ไป ความไม่เป็นธรรมมหาศาลอันนี้ ยิง่ ทำ�ให้กรรมาชีพและประชาชน
มั่นใจมากขึ้นในการต่อสู้เพื่อสังคมอื่นที่เป็นธรรม ที่ไม่ใช่ระบบ “มือ โกรธแค้นมากขึ้น และมั่นใจในการต่อสู้
ใครยาวสาวได้สาวเอา” แต่ความมั่นใจนี้เกิดขึ้นได้เร็ว ถ้าในสังคมมี เราต้องเข้าใจว่า นอกจากการบังคับให้ประชาชนจ่ายหนี้แทน
เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 12
นายธนาคารแล้ว มันกลายเป็นโอกาสทองสำ�หรับพรรคอนุรกั ษ์นยิ ม
ในอังกฤษ และฝรัง่ เศส ทีจ่ ะตัดและทำ�ลายรัฐสวัสดิการ และมาตรฐาน
การจ้างงานโดยทัว่ ไป เกินความจำ�เป็นทีอ่ าจมาจากระดับหนีส้ าธารณะ ขอเชิญร่วมกลุ่มศึกษา “มีดี”
ทั้งนี้เพื่อเพิ่มอัตรากำ�ไรของกลุ่มทุน การที่รัฐบาลทั่วยุโรปกำ�ลังเปิด ทุกวันจันทร์ เวลา 15.30 - 18.00 น
ศึกด้านกว้างกับประชาชนทุกคน ไม่ใช่แค่คนงานกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ณ ลานห้าค่าย ชั้น 3 ตึกกิจกรรม
เสี่ยงกับการที่สหภาพแรงงานต่างๆ จะจับมือร่วมกันต่อสู้ในรูปแบบ ม.รามคำ�แหง (หัวหมาก)
การนัดหยุดงานทั่วไป และสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นแล้วใน กรีส กับ ฝรั่งเศส จัดโดย พรรคทำ�เพื่อนักศึกษาจริงๆ
นอกจากนี้คนหนุ่มสาวและนักศึกษา ซึ่งมองว่าอนาคตตนเองกำ�ลัง ร่วมกับ กลุ่มเยาวชนเลี้ยวซ้าย
จะถูกทำ�ลาย ก็ออกมาสู้ด้วย
สิง่ ทีน่ า่ สนใจเกีย่ วกับฝรัง่ เศสคือ ในรอบ 20 ปีทผี่ า่ นมา รัฐบาล 1 พ.ย. 53
ฝรั่งเศสของทุกพรรค ไม่ว่าจะเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม หรือพรรค “ขบวนการสังคมนิยม” ประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางชนชั้นใน
“สังคมนิยมประชาธิปไตย” เคยพยายามตัดรัฐสวัสดิการ แล้วโดน สังคมไทย
คัดค้านอย่างรุนแรงจากสหภาพแรงงานจนทำ�ไม่ได้ นอกจากนี้
สหภาพแรงงานฝรั่งเศสไม่ได้แพ้การต่อสู้ในรอบ 30 ปี ซึ่งแตกต่าง 8 พ.ย. 53
มากกับกรณีอังกฤษ “แอนนี่ บรูค” กับแนวคิดสตรีนิยม 2 ขั้ว
ยิ่งกว่านั้นในการต่อสู้ของคนงานฝรั่งเศส พรรคมาร์คซิสต์
สังคมนิยม สายตรอทสกี ของสากลที่สี่ ซึ่งปัจจุบันกำ�ลังสร้าง “พรรค 15 พ.ย. 53
ใหม่ต่อต้านทุนนิยม” (NPA) ได้ใช้อิทธิพลที่มีในบางสถานที่ทำ�งาน 3G คืออะไร ทำ�ไมถึงยังไม่มีใช้ในบ้านเรา?
เช่นรถไฟ ไปรษณีย์ และโรงพยาบาล เพื่อสร้างคณะกรรมการคน
งานรากหญ้า (Coordinations) ที่ครอบคลุมหลายสหภาพและหลาย 22 พ.ย. 53
สถานทีท่ �ำ งาน เพือ่ นำ�การต่อสูท้ ดี่ เุ ดือด และป้องกันไม่ให้ผนู้ �ำ แรงงาน “ธงชาติ” กับมายาชาตินิยมไทย
ระดับชาติมาห้ามและหยุดการต่อสู้ ซึ่งเป็นสันดานของผู้นำ�แบบนั้น
นักศึกษาฝรั่งเศสมีประวัติการสร้างกรรมการรากหญ้าเช่นกัน 29 พ.ย. 53
ภายใต้อิทธิพลของฝ่ายซ้าย สังคมนิยมหรือเสรีนิยม อย่างไหนควรเป็นทางเลือกของเรา “คน
ในประเทศกรีซ ฝ่ายซ้ายที่ซ้ายกว่ารัฐบาลพรรคสังคมนิยม รากหญ้า”?
ประชาธิปไตย มีความเข้มแข็งเป็นอันดับหนึง่ ของยุโรป และฝ่ายซ้าย
เหล่านี้ได้จัดตั้งและสนับสนุนการต่อสู้ของนักสหภาพแรงงานราก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
หญ้า ทั้งๆ ที่มีการคัดค้านจากรัฐบาลและผู้นำ�แรงงานระดับชาติ โทร 087 330 1961 E-mail : turnleft_youth@hotmail.com

การต่อสู้ของสหภาพแรงงานและประชาชนในยุโรป
ตะวันตกรอบนี้มีบทเรียนสำ�คัญสำ�หรับเราทุกคนคือ..

1.มันพิสจู น์วา่ เรือ่ ง “ชนชัน้ ” และการต่อสูท้ างชนชัน้ ไม่ได้หาย


ไปอย่างที่นักวิชาการอนุรักษ์นิยมชอบอ้าง
2.มันพิสูจน์ว่าคนงานในประเทศที่พัฒนา ที่มีรัฐสวัสดิการ ไม่
ได้เป็น “หมูอ้วน” หรือ “กรรมาชีพขุนนาง” แต่อย่างใด พร้อมกันนั้น
มันพิสูจน์ว่าคนหนุ่มสาวในแต่ละยุคแต่ละสมัยสนใจการเมืองและ
สามารถออกมาต่อสู้ได้เสมอ
3.มันพิสูจน์ความสำ�คัญของการต่อสู้แบบ “นัดหยุดงาน” ซึ่งมี
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมาก คนเสื้อแดงควรจะหันมาให้ความ
สำ�คัญกับการขยายการเมืองเสื้อแดงในหมู่นักสหภาพแรงงาน
4.มันพิสจู น์วา่ นักมาร์คซิสต์สงั คมนิยมจะต้องทำ�งานในขบวน
การแรงงาน โดยเน้นการทำ�แนวร่วมกับคนอืน่ ในชนชัน้ เดียวกัน เน้น
การนำ�จากล่างสู่บนของรากหญ้าเอง และเน้นความชัดเจนของ
การเมืองมาร์คซิสต์

เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 13


วิวาทะ
โดย ใจ อึ๊งภากรณ์

ตอบ "ใบตองแห้ง"
เรื่อง 34 ปี 6ตุลา ที่สุดแห่งความสามานย์

อ่านบทความของ ใบตองแห้ง เรื่อง 34 ปี 6ตุลา ที่สุดแห่งความ ตัวอย่างอืน่ ๆ ทัว่ โลกมีอกี แต่เกรงว่า “ใบตองแห้ง” ไม่ได้ทำ�การบ้าน
สามานย์ได้ทนี่ ี่ http://www.prachatai3.info/journal/2010/10/31386 มาเท่าที่ควร
และเรื่อง “เสรีประชาธิปไตย” อันนี้ก็ของเก่ามาฉายซ้ำ�อีก
ผมเห็นด้วยกับ “ใบตองแห้ง” เวลาเขาวิจารณ์คนเดือนตุลา “เสรีนิยม” ไม่ใช่ประชาธิปไตย เสรีนิยมคือแนวคิดกลไกตลาดแบบ
จำ�นวนมากโดยเขียนว่า “34 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก และแล้ว คน มือใครยาวสาวได้สาวเอา นักวิชาการเสรีนิยมในไทยสนับสนุน
ที่เคยผ่าน ‘6 ตุลา’ ร่วมครึ่งหนึ่งก็กลายไปเป็นผู้สนับสนุนเผด็จการ รัฐประหาร ๑๙ กันยา พรรคเสรีนิยมในไทยคือพรรคประชาธิปัตย์
และเผด็จการแฝงของอำ�มาตย์” อาจเพิ่มอีกได้ว่าพวกเอ็นจีโอที่เคย ในหลายๆ ประเทศมีการใช้รัฐเผด็จการเพื่อบังคับใช้กลไกตลาดเสรี
ท่องคำ�ขวัญ “คำ�ตอบอยู่ที่หมู่บ้าน” ก็หันมาอยู่ในกลุ่มคนเสื้อเหลือง ที่ทำ�ให้คนจนจนลงและคนรวยรวยมากขึ้น และเวลาใครที่เป็นอดีต
นี้ด้วย สำ�หรับเอ็นจีโอพวกนี้ “คำ�ตอบอยู่ที่รัฐประหาร” ซ้ายอ้างว่าต้องพัฒนาทุนนิยมตลาดเสรี เขาก็แค่ท่องสูตรเดิมของ
แต่ “ใบตองแห้ง” คงจะตาบอดไปข้างหนึ่ง เวลาเขียนต่อว่า พคท. ทีเ่ คยเสนอว่าเราต้องสร้างทุนนิยมหรือประชาชาติประชาธิปไตย
“เสือ้ แดงมีสโลแกนทีแ่ สดงออกถึงเนือ้ หาของสังคมนิยมบ้างหรือเปล่า ก่อน เพื่อทำ�ลายระบบเก่า
ไม่ตอ้ งไปถึงขัน้ ยึดทรัพย์นายทุน ยึดกิจการเป็นของรัฐ เอาแค่ออ่ นๆ “ใบตองแห้ง” ควรจะพยายามหลีกเลีย่ งการวิเคราะห์แบบ “กลไก
แบบขึ้นภาษีคนรวย เพิ่มรัฐสวัสดิการ ก็ยังไม่เห็นมีเลย”... เพราะ แข็งกระด้าง” ทีม่ องว่าเสือ้ แดงมาจากคนทีเ่ คยเลือกพรรคนายทุน ดัง
เสือ้ แดงเชียงใหม่กช็ ปู ระเด็นรัฐสวัสดิการ และภาษีกา้ วหน้า เสือ้ แดง นั้นจะซ้ายไม่ได้ เพราะในโลกจริงคนเสื้อแดงพัฒนาจิตสำ�นึกทาง
สมัชชาสังคมก้าวหน้า และเสื้อแดงเลี้ยวซ้าย ที่กรุงเทพฯ ก็รณรงค์ ชนชั้นของตนเองมาเรื่อยๆ อาจไม่ได้แสดงออกด้วยศัพท์หรือวาจา
เรื่องรัฐสวัสดิการ และเลี้ยวซ้าย ยังเน้นเรื่องสังคมนิยมอีกด้วย และ ทีช่ ดั เจนและเป็นซ้าย แต่มกี ารเข้าใจว่าตนเป็น “ไพร่” ทีถ่ กู กดขี่ และ
ในกลุม่ ซ้ายๆภายในขบวนการเสือ้ แดงเหล่านีม้ คี นเดือนตุลาอยูด่ ว้ ย สาเหตุที่เขาชอบทักษิณหรือไทยรักไทย มาจากผลประโยชน์ทาง
อดีต พคท. ก็มี ชนชั้นอีก เช่นเรื่องระบบสาธารณะสุขถ้วนหน้า หรือกองทุนหมู่บ้าน
การเป็น “ซ้าย” ไม่ใช่แค่พูดเรื่องการจับอาวุธ ซึ่งจริงๆ แล้ว ในความเป็นจริงคนเสื้อแดงรักทักษิณได้ โดยไม่ต้องตกเป็นเครื่อง
เป็นแนวที่ถูกพิสูจน์ว่าล้มเหลวจากประสบการณ์ของ พคท. มือของทักษิณหรือ พรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงเหล่านี้สามารถสู้
เวลา “ใบตองแห้ง” พูดถึงความคิดสังคมนิยม และบอกว่า เพื่อผลประโยชน์คนจนได้ โดยการนำ�ตนเองอีกด้วย นี่คือสภาพขัด
“ต้องขีดเส้นก่อนว่า สังคมนิยมไม่ใช่เสรีประชาธิปไตย สังคมนิยม แย้งกันเองที่เราเห็นและต้องเข้าใจในโลกจริง
เป็นเผด็จการรูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษชวนหัวอย่างยิ่ง แล้วพวกพันธมิตรฯ ที่อ้างตัวเป็นซ้ายละ? ใบตองแห้งควรจะ
ว่า People’s Democratic Dictatorship” ก็เป็นเพียงการขุดของเก่า ไปศึกษาขบวนการฟาสซิสต์ทั่วโลก เพราะฟาสซิสต์ ซึ่งรวมถึงพัน
มาฉายซ้ำ� ผมสงสัยว่าเขาไม่เคยเป็นมาร์คซิสต์ แค่สนับสนุนพรรค ธมิตรฯ จะพยายามใช้ศพั ท์ของฝ่ายซ้ายปนกับความคิดฝ่ายขวา เพือ่
คอมมิวนิสต์เท่านั้นเอง เพราะ “สังคมนิยม”ที่เขาพูดถึงคือระบบ ดึงคนชั้นกลางที่รู้สึกไม่พอใจกับอำ�นาจรัฐหรือนายทุนใหญ่เข้ามา
เผด็จการ สตาลิน-เหมา ซึง่ ล่มสลายไปทัว่ แล้ว ส่วนสังคมนิยมมาร์ค เป็นพวก และการที่อดีตฝ่ายซ้ายในกลุ่มพันธมิตรฯ ชื่นชมเผด็จการ
ซิสต์ยงั มีอยู่ และเน้นประชาธิปไตยสูงสุดด้วย ตัวอย่างทีด่ ที สี่ ดุ เพราะ เป็นการรักษาจุดยืนเดิมทีเ่ คยรักเผด็จการในจีนอีกด้วย แล้วเผด็จการ
มีอิทธิพลสูง คือพรรคใหม่ต้านทุนนิยม (NPA) ในฝรั่งเศส ซึ่งเติบโต พรรคคอมมิวนิสต์ในจีนตอนนีก้ �ำ ลังบังคับใช้แนวเศรษฐกิจอะไร? คำ�
มาจากสากลทีส่ ี่ หรือบางส่วนของพรรคซ้าย (Die Linke) ในเยอรมัน ตอบคือเสรีนิยมกลไกตลาด
เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 14
พลวัต อย่างเช่น Ben Gordon ผู้บริหารสูงสุดของ Mothercare (เงินเดือน
£6,458,000) และ Paul Walsh of Diageo (ค่าจ้าง £3,178,000)
งานวิจยั ของ TUC ได้แสดงไว้วา่ เงินเดือนรวมของพวกผูล้ งชือ่
สนับสนุนทั้ง ๓๕ คนนั้น ได้รับเกินกว่า £14.6 ล้าน ต่อปี
พวกเขาไม่ต้องมาวิตกว่าผลประโยชน์ของเขาจะถูกตัดลดลง
£10 ต่อสัปดาห์, รายได้ไม่พอต่อค่าเช่าบ้าน, หรือจะมีเงินพอซื้อเสื้อ
กันหนาวให้ลูกของเขาได้หรือไม่
จากการศึกษาของหน่วยงานของรัฐเมือ่ สัปดาห์ทผี่ า่ นมา แสดง
รัฐบาลโทรี่ ประกาศสงครามชนชั้นกับเรา ให้เห็นว่าหนึง่ ในห้าของเด็กอายุ ๗ ขวบ มีชวี ติ อยูใ่ นสภาพที่ “ยากจน
“เราต้องต่อสู้เดี่ยวนี้” อย่างยิง่ ” และอาศัยอยูก่ บั พ่อแม่ทมี่ รี ายได้รวมกันน้อยกว่า £254 ต่อ
สัปดาห์ – รวมผลประโยชน์ทุกอย่างแล้ว
น่าตกใจอย่างยิ่งที่พบต่อมาว่ามีเด็กอยู่ร้อยละ ๗ ที่มีรองเท้า
แปลโดย สหายโต้ง ใช้เพียงคู่เดียว
ที่มา : http://www.socialistworker.co.uk/art.php?id=22799 Socialist Worker ได้ไปกดดันต่อหน้า Osborne ขณะแถลง
ข่าว และเรายังสามารถรับรองได้ว่าตัวเลขดังกล่าวเวลานี้ ยังแย่ลง
แผนการจะเอาเงินจากการตัดสวัสดิการของเราไปใช้ของ กว่าเดิมอีกด้วย
George Osborne เป็นการประกาศสงครามชนชั้น
รัฐบาลโทรี่ จงใจที่จะวางแผนทุบมาตรฐานการครองชีพของผู้ การถดถอย
ใช้แรงงานและคนจนลงมา เพื่อจะเพิ่มผลกำ�ไรและความร่ำ�รวย ให้ เรามาทำ�ความเข้าใจกันให้ชัดก่อน ว่านี่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ
กับพวกนายธนาคารและเจ้านายทั้งหลาย อะไรระบบทุนนิยมก้าวเดินไปสูก่ ารถดถอย ทำ�ให้ระบบการเงินหยุด
ผูส้ งั เกตการณ์บางครัง้ ก็ให้ความเห็นว่าแผนของโทรีค่ รัง้ นี้ อัป ชะงัก และเป็นเหตุให้คนหลายล้านต้องตกงาน
ลักษณ์พอๆกันกับแผนของนาง Margaret Thatcher เมื่อครั้งที่เป็น รัฐบาลทัว่ โลกจัดการส่งเงินเป็นล้านล้านให้กบั พวกนายธนาคาร
รัฐบาลในช่วงปี 1980 ในอังกฤษพวกเขาได้รับไป £1.4 พันล้าน มันเป็นเงินประมาณ ๑๖
แต่มันไม่ใช่ มันแย่กว่ากันมาก เท่าของจำ�นวนเงินที่ Osborne คิดไว้ว่าจะตัดลดออกมาจากเราได้
มันลงลึกไปมากกว่า ความพยายามทีเ่ ลวร้ายของพวกอนุรกั ษ์ ตามที่เขาได้ทบทวนเมื่อสัปดาห์นี้
นิยม ตั้งแต่เมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้ว ขณะนี้หนี้สินอันเกิดจากวิกฤติกำ�ลังจะถูกชดใช้ให้แล้ว แต่
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำ�ไม จึงจะต้องมีคลื่นการต่อต้านที่เอา ไม่ใช่จากพวกผู้ที่ทำ�ให้มันเกิดขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่ามาเอาจาก
กันอย่างจริงจัง เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น พวกเด็กๆ จาก รร.อีตั้น พวกที่ตกเป็นเหยื่อแทน
พวกนี้ ก็จะเหยียบย่ำ�พวกชนชั้นเราลงติดดิน จะขอรับเงินสงเคราะห์ช่วยจากภาวะเศรษฐกิจรึ? ตอนนี้พวก
พวกเราจะต้องออกไปตามถนนในทุกๆเมือง ทุกๆตำ�บล ใน คุณต้องรับน้อยลง พิการหรือล้มป่วยลงรึ? พวกคุณต้องถูกติดตาม
สัปดาห์นี้ และเข้าร่วมคัดค้านการตัดลดในทุกๆเรือ่ ง ในพืน้ ทีข่ องเรา ตรวจสอบไต่สวน ประเมินผล และทีส่ ดุ ก็จะถูกกดให้ได้รบั ความช่วย
แต่เราจำ�เป็นต้องยกระดับจังหวะของการต่อสู้ และร่วมกันผลัก เหลือลดน้อยลง กำ�ลังทำ�งานอยู่ด้วยค่าจ้างเฉลี่ย ตามระเบียบอยู่รึ?
ดันให้เป็นการเคลื่อนไหวระดับชาติ หลังจากนี้ต้องเลิกหวังเบี้ยบำ�เหน็จบำ�นาญที่เป็นธรรม เลิกหวังว่า
นั่นหมายความว่าเราจะต้องรวมตัวกัน จัดตั้งกันเดี๋ยวนี้ ใน จะได้ปรับค่าจ้างขึ้น เพียงหวังว่าจะยังคงได้เท่าเดิมหรือต้องยอมรับ
ทุกๆสถานที่ทำ�งาน ในทุกๆชุมชน เพื่อสร้างระดับของการประท้วง การลดค่าจ้างลง
และการหยุดงาน ทีซ่ งึ่ ได้ระเบิดออกมาให้เราได้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว แต่ว่า Osborne ไม่ได้เพียงแค่พยายามจะตัดลดผลประโยชน์
อย่างทรงพลังที่ฝรั่งเศส จากสวัสดิการ ค่าตอบแทน และการบริการสาธารณะต่างๆ เป็นเงิน
พวกคนรวยชอบการตัดลดของ Osborne พวกหัวหน้าเจ้า รวมหลายหมืน่ ล้านเท่านัน้ สวัสดิการต่างๆทีพ่ วกเราผูใ้ ช้แรงงานทัง้
หน้าที่บริหาร ผู้ใช้ชีวิตอยู่บนความหรูหราแต่ลามก จะยิ้มให้กับข่าว หลายต่างจำ�เป็นต้องพึ่งพาในชีวิตประจำ�วัน แต่รัฐบาล Tories ยัง
ทีว่ า่ พวกคนตกงานจะถูกกดดันหนักขึน้ ให้กลายสภาพเป็นคนยากจน คิดทีจ่ ะปรับระบบของสังคม ให้เอือ้ ประโยชน์กบั ระบบทุนนิยมให้มาก
และพวกที่ทำ�งานอยู่ถูกบีบคั้นค่าแรงงานหนักยิ่งขึ้น ขึ้นอีกด้วย
ในหนังสือพิมพ์ เดลี่เทเลกร๊าฟ เมื่อวันจันทร์ มีข่าวว่า ผู้นำ� ดังนั้นไม่เพียงแต่ค่าเช่าจะขึ้นราคาเท่านั้น แต่พวกผู้เช่าอาจ
ทางธุรกิจ ๓๕ คนได้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแผนการตัดลดครั้งนี้ จะต้องมีปญ ั หาต้องย้ายออก หากกฎหมายเกีย่ วกับรายได้ ทีน่ �ำ เสนอ
คนชั่วประเภทไหนกัน ที่จะลงชื่อในหนังสืออย่างนั้น อย่างที่ ส่งมาจากคณะรัฐมนตรีเศรษฐี สามารถผ่านออกมา
จะเรียกร้องให้รัฐบาลให้เร่งรีบเหยียบย่ำ�คนที่จนที่สุดในสังคม คน ไม่เพียงแต่คา่ ใช้จา่ ยการศึกษาในวิทยาลัยจะถูกตัดลดลง แม้แต่

เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 15


สิ่งที่จะให้การศึกษาในระบบการเรียนการสอนนั้น หลังจากนี้ ยังจะ
ต้องถูกออกแบบให้สนองกับความต้องการของพวกผูน้ ำ�ในภาคธุรกิจ
มันมีการแปรรูปการไปรษณีย์ให้เป็นบริษัทเอกชน และยังมี สดุดีวีรประวัติ 4 ปีการลุกขึ้นสู้ของภาค
วิสาหกิจแกนหลักอื่นๆ (NHS) และแทนที่สถาบันการศึกษาต่างๆ
จะเปิดกว้างแต่กลับจะปิดแคบลง เฉพาะให้กับพวกผู้ดีมีเงินเท่านั้น
พลเมือง สดุดีอิฐก้อนแรก สุชาติ ณ บางไซ
และยังจะมีแนวคิดที่สุดโต่งที่เหยียบย่ำ�แบ่งแยก อีกด้วยว่าจะ
โดย นักข่าวชาวรากหญ้า
ต้องมีการกำ�หนดนิยามลงไปให้ชัด ว่าใครเป็นคนจนจริงหรือจนแค่
ที่มา : thaienews.blogspot.com
ไหนอย่างไรกันแน่
พรรคแรงงานพูดถูกที่ว่า การตัดลดสวัสดิการจะนำ�ไปสู่การ
ถดถอยรอบใหม่อีก มันเป็นความบ้าของระบบเศรษฐกิจ ที่หลังจาก
ตัดลดค่าใช้จา่ ยของรัฐลงมากแล้ว ในเวลาต่อมายังจะนำ�ไปสูก่ ารเรียก เมื่อ 1พ.ย.53 ตำ�รวจกองปราบฯ นำ�กำ�ลังเข้าจับกุม นายวราวุ
ร้องให้มีการตัดลดลงซ้ำ�อีก ธ ฐานังกรณ์ หรือ สุชาติ นาคบางไทร อดีตแกนนำ�กลุ่มคนวันเสาร์
อะไรจึงจะดีทสี่ ดุ สำ�หรับเศรษฐกิจของเจ้านาย นัน้ เป็นหลักคิด ไม่เอาเผด็จการ กลุ่มการเมืองภาคประชาชนกลุ่มแรกที่เปิดตัวต่อ
ในการเอาเปรียบผูใ้ ช้แรงงานตลอดมา นีไ่ ม่ใช่ปญ ั หาทางเทคนิคของ ต้านการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ความ บังเอิญอยู่ที่สุชาติถูก
นโยบายทางเศรษฐกิจแต่อย่างใด มันเป็นปัญหาของทางเลือกทางการ จับในวันที่ 1 พฤศจิกายนปีนี้ อันตรงกับวันแรกทีเ่ ขาเปิดตัวเป็นผูน้ ำ�
เมือง มันเป็นหลักคิดของรัฐบาล Tories ที่จะทำ�สงครามทางชนชั้น กลุ่มคนวันเสาร์เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2549 หรือครบรอบ 4 ปีแห่งการ
มันจึงจะต้องต่อสู้กัน ในกรีซและในฝรั่งเศสเราได้เห็นแล้ว ถึง ต่อต้านรัฐประหาร
การระดมมวลชนจำ�นวนมหาศาล ออกมาร่วมประท้วงคัดค้าน สร้าง ตำ�รวจอ้างเหตุการณ์จบั กุมว่า สืบเนือ่ งจากนายสุชาติ ได้ขนี้ ก
แรงบันดาลใจที่จะต้องต่อสู้ร่วมกัน ล่าวปราศรัยเวที นปช.ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2551
ชนชั้นผู้ปกครองทั่วยุโรปกำ�ลังมองดูผลลัพธ์ที่จะมีต่อมาจาก โดยมีเนื้อหาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง
นี้อย่างระมัดระวัง เราจะต้องเรียนรู้ทำ�ความเข้าใจระหว่างเรากันเอง การเข้าจับกุมตัวสุชาติได้เมื่อวานนี้ ขณะกำ�ลังนั่งรับประทาน
เรียกร้องการต่อสู้จากพวกเราแต่ละคน พวกเราผู้ใช้แรงงานจะต้อง อาหารทีบ่ ริเวณศูนย์อาหาร ชัน้ 6 ห้างสรรพสินค้าแพลททินมั่ แฟชัน่
ทำ�อย่างเดียวกัน มอลล์ สอบถามผู้ต้องหา ให้การยอมรับเป็นบุคคลตามหมายจับจริง
พร้อมๆกันไปกับการประท้วงในสัปดาห์นี้ พวกเราเรียกร้อง ซึง่ ในวันนีไ้ ด้กลับมาหาลูกที่ กทม. และนัดมารับประทานอาหารด้วย
การสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นในทุกหนทางที่เป็นไปได้ จากคนงา กัน เบือ้ งต้นเจ้าหน้าทีไ่ ด้ควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม
นทุกๆกลุ่ม ในทุกๆสถานประกอบการ ในทุกๆชุมชน ในทุกๆเมือง เพื่อดำ�เนินคดีต่อไป
ที่ต่อสู้คัดค้าน ในแผนตัดลด ในการรณรงค์ “สิทธิในการมีงานทำ�” สุชาติจะหมิน่ หรือไม่หมิน่ ฯตามข้อกล่าวหา สิง่ ทีเ่ ราอยากเรียก
ให้เข้มข้นมากขึ้น และปฏิเสธที่จะยอมให้รัฐบาลมาแบ่งแยกพวกเรา ร้องจากกระบวนการยุติธรรมคือต้องเปิดโอกาสให้เขาได้ประกัน ตัว
เป็นคนผิวสีหรือผิวขาว เป็นคนมีงานทำ�หรือเป็นคนตกงาน เป็น ไม่ใช่จับยัดคุกขังลืมเหมือนดา ตอร์ปิโด หรือใครๆที่โดนคดีนี้ และ
ลูกจ้างรัฐหรือเป็นลูกจ้างเอกชน เขาจะผิดหรือถูกนัน่ เป็นเรือ่ งทีต่ อ้ งว่ากันตามกระบวนยุตธิ รรมทีเ่ ป็น
เราต้องการการต่อสูใ้ นระดับใหญ่พอทีส่ ามารถจะมีผลสะเทือน ธรรม...ดังนั้นวันนี้มารำ�ลึกวีรประวัติการต่อสู้เบื้องแรกของภาค
ตีโต้กลับแผนของ Tories ได้ และเพือ่ จะให้ได้ผลดังกล่าว เราต้องการ ประชาชน ก่อนจะคลี่คลายขยายตัวมาเป็นเสื้อแดงทั่วไทย ฝ่าย
การต่อสู้คัดค้านที่กระจายออกไปให้กว้างขวางทั่วทุกๆภูมิภาค เท่า ประชาธิปไตยทัว่ มุมโลกอย่างทีเ่ ห็นกันเวลานี้ ซึง่ จะทำ�ให้เห็นคุณปู การ
ที่จะเป็นไปได้ อันสำ�คัญของสุชาติกับกลุ่มคนวันเสาร์...
สำ�หรับ Ed Miliband มันเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียของเขา ในฐานะ หลังรัฐประหาร19 กันยายน 2549 คนแรกทีอ่ อกมาต้องบันทึก
ผู้น�ำ คนใหม่ของพรรคแรงงาน ทีไ่ ม่ไปร่วมในงานทีส่ หภาพหลักๆได้ เป็นเกียรติยศแก่ ร.ต.ฉลาด วรฉัตร และทวี ไกรคุปต์ นักการเมือง
จัดเดินขบวนขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทั้งๆที่เมื่อเดือนกันยายน อาวุโส แต่เพราะมาน้อยเป็นวีรชนลุยเดีย่ ว เลยโดนพวกมันหิว้ ขึน้ รถ
ขณะทีเ่ ขาออกหาเสียงเพือ่ ตำ�แหน่งผูน้ �ำ ในพรรคแรงงานกับเหล่านัก ตู้ไปเก็บที่เซฟเฮาส์ทันควัน
สหภาพต่างๆอยู่นั้น เขาบอกว่าเขาจะไปร่วมงานประท้วง “อย่าง พอวันรุง่ ขึน้ กลุม่ เครือข่าย19กันยาต้านรัฐประหาร ซึง่ เป็นการ
แน่นอน “ รวมตัวกันหลวมๆของนักกิจกรรมนักศึกษาเก่าค่ายธรรมศาสตร์
อย่างไรก็ตาม พวกผู้สนับสนุนพรรคแรงงานหลายๆคน ต่าง ท่าพระจันทร์ บวกกับบก.ลายจุด และอาจารย์ใจ อึ๊งภากรณ์ ก็พากัน
ก็ต้องการจะเข้ามามีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวคัดค้าน แผนตัดลด แต่งดำ�ไปยกป้ายประท้วงที่ห้างแห่งหนึ่ง ไม่สนกฎอัยการศึกห้าม
ของรัฐบาลครั้งนี้ด้วย แผนรณรงค์ต่อสู้คัดค้านของเราจะต้องเปิด ชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน เพราะไปกัน5คนพอดี แม้แต่การจัด
กว้างให้กับพวกเขาด้วย ชุมนุมที่สนามบอลธรรมศาสตร์ไปกันเป็นร้อย แต่ก็ซอยแบ่งเป็นวง
รัฐบาล Tories ได้ประกาศสงครามกับชนชั้นเรา จึงถึงเวลา ละ5คน รวมแล้วก็ไม่เกิน5 ไม่ผิดกฎหมายเผด็จการ...นี่เป็นตำ�นาน
แล้วที่เราจะต้องตอบโต้กลับไป บทแรกของการลุกขึ้นสู้"ภาคพลเมือง"คือประท้วงแบบ"ดื้อแพ่ง"เชิง
เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 16
สัญลักษณ์ต่อกฎเกณฑ์เผด็จการ ข่าย19กันยาต้านรัฐประหารก็รวมพลคนกลุม่ หนึง่ อยูแ่ ถวสนามบอล
ต่อมาพวกคณะรัฐประหารก็สะดุง้ เฮือกไปมา แล้วหาว่าทักษิณ ธรรมศาสตร์แล้วพอได้ทกี่ เ็ คลือ่ นขบวนออกจากธรรมศาสตร์ทา่ พระ
มี"คลื่นใต้น้ำ�"จะต่อต้านการรัฐประหาร แต่ก็ไม่เห็นโผล่ซักที มี จันทร์เพื่อไปประท้วงที่หน้ากองทัพบก
กระทาชายนายหนึง่ โผล่มาจากรู ใช้ชอื่ แฝงว่า"เตมูจนิ "คุยคำ�เขือ่ งว่า ระหว่างเดินผ่านสนามหลวงที่สุชาติ นาคบางไทรกำ�ลังยืนบน
จะระดมคนมาต้านคมช.เป็นหมืน่ ฝ่ายประชาธิปไตยก็เห็นหน่วยก้าน เก้าอีใ้ ช้โทรโข่งด่าคมช.นัน้ ก็มเี สียงหนึง่ แทรกมาว่า"เฮ้ยๆนัน่ ใช่พวก
พอพึง่ พาได้ เลยโดดจะไปร่วม แต่กอ็ อกอาการแปลกๆคือไปจัดแถลง เราพวกต้านรัฐประหารใช่มั๊ย เห็นใส่เสื้อดำ�เหมือนกัน"ทางฝ่ายที่
ข่าวที่โรงแรมรอยัลก็ให้พวกกองเชียร์ควักค่าห้องประชุมแถลงข่าว กำ�ลังเดินขบวนบอก"ใช่" พวกสนามหลวงก็ยุติการอภิปรายแล้วแห่
ค่ากาแฟด้วย พอจะไปหา"บังสนธิ"หัวหน้าคณะรัฐประหารเพื่อยื่น เข้ามาร่วมเดินขบวนไปยังหน้ากองทัพบก คนตอนนั้นนับช่วยแล้ว
ข้อเรียกร้อง ก็ไม่องอาจมาดผูน้ ำ�การต่อต้าน หากแต่"กุมไข่"เข้าไป"ขอ เต็มทีค่ อื ซัก 300 คนเห็นจะได้..แต่นนั่ คือจุดเริม่ ต้นให้มเี สือ้ แดงเรือน
รับๆๆ"เป็นหลัก พอวันนัดหมายทีส่ นามหลวงทีว่ า่ จะมีคนขนมาเป็น แสนเรือนล้านเป็นไฟลามทุ่งในเวลาต่อมา
หมื่นก็หาย นายเตมูจินเลยกลายเป็น"คลื่นใต้น้ำ�ลวงโลก" บรรดาก นัน่ เป็นการเดินขบวนหนแรกทีจ่ ดั การโดย เครือข่าย 19 กันยา
องเชียร์ก็เลยเลิกพึ่งพาอาศัย แล้วหันมาพึ่งตัวเองแทน ต้านรัฐประหาร เป็นวันแรกทีเ่ ป็นจุดกำ�เนิดคนวันเสาร์ ทัง้ 2กลุม่ หลอม
1 พฤศจิกายน 2549 หลังรัฐประหาร 19 กันยายนไม่นานนัก รวมไปหน้ากองทัพบกโดยมิได้นัดหมาย และประการสำ�คัญทั้งที่
และหลังลุงนวมทอง ไพรวัลย์ "เสียสละ"ไป 1 วันเพื่อปลุกสังคมไทย ปลายฝนต้นหนาวแล้วก็ตาม พอขบวนเคลื่อนไปถึงหน้ากองทัพบก
ให้ออกมาต้านเผด็จการและทวงประชาธิปไตย กลุ่มคนใส่ชุดดำ�ก็ ฝนก็เทลงมาห่าใหญ่ เปียกกันมะล้อกมะแล้กไปตามๆกัน ฝนยังอยู่
ปรากฎตัวที่ท้องสนามหลวงฝั่งธรรมศาสตร์ มีเก้าอี้เล็กๆ 1 ตัว โทร คูฝ่ า่ ยประชาธิปไตยเรือ่ ยมา บางทีหลายครัง้ ก็มานอกฤดูหน้าตาเฉย!
โข่ง 1 อันไม่มีใครมีชื่อเสียงบิ๊กเนม เป็นผู้นำ�อะไรมาก่อนทั้งนั้น มีสิ่ง แต่ภาคประชาชนอย่างเครือ ข่าย19กันยาฯ และคนวันเสาร์ฯ
เดียวคือหัวใจที่จะขับไสเผด็จการ เรียกร้องประชาธิปไตยคืนมา ค่อยลดบทบาทลง เมือ่ ทัพหลวงอย่าง3เกลอเริม่ ออกศึกในปีถดั มา...
เนื่องจากกลุ่มคนที่ไปรวมตัวต้านรัฐประหารที่สนามหลวงนี้ แต่เมื่อไหร่ที่ภารกิจเรียกร้อง แน่นอนว่าภาคประชาชนไม่ได้ลี้กาย
เป็นคนชัน้ กลางในกรุงเทพฯ วันปกติตอ้ งทำ�มาหากิน พอวันอาทิตย์ สลายตัวไปไหน พวกเราจะกลับมาด้วยวุฒภิ าวะทีแ่ กร่งกล้า ประสบการณ์
เป็นวันfamily dayก็เลยนัดหมายเจอกันทุกวันเสาร์ นั่นคือปฐมบท ที่แกร่งกร้าน และยุทธวิธีที่จัดเจนขึ้นกว่าเมื่อแรกเป็นแน่
ของ"คนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ" และควรบันทึก ไว้เป็นวีรประวัตกิ ารต่อสูข้ องภาคพลเมืองไทย
แกนนำ�ก็ต้องหาชื่อแฝงไปก่อน จะสมศักดิ์ สมชาย สมหญิง ด้วยว่า นับจากจุดเริ่มต้นการลุกขึ้นสู้ของภาคพลเมืองเมื่อวันที่ 1
หรือสุชาติกว็ า่ กันไป และเนือ่ งจากเป็นภาคพลเมืองของแท้ไร้การจัด พฤศจิกายน 2549 แล้ว ต่อมาในวันที่ 5 สิงหาคม 2550 ก็เป็นครั้ง
ตัง้ ใดๆ ก็เปรียบเสมือนการต่อสูข้ องชาว"บางระจัน" เพียงแต่บางระจัน แรกที่ภาคพลเมืองผู้เรียกร้องต้องการประชาธิปไตยพากันใส่"เสื้อ
ยุคนี้มันเป็นยุค"ไซออน"แล้ว ก็เลยกลายเป็นรหัสวงในนัดหมายกัน แดง"ออกสู่ท้องถนนปรากฏต่อโลกเป็นครั้งแรก
ว่าพวกเขาคือชาว "บางไซ(ออน)" พอนักข่าวมาถามแกนนำ�ทีถ่ อื โทร โดยจุดเริม่ ต้นไอเดียมาจากใครยังต้องตามหาเพือ่ ให้"เครดิต"กัน
โข่งบนเวทีว่าชื่อแซ่อะไรไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เขาตอบไปว่า"ผม ต่อไป แต่คนแรกที่กำ�หนดสีสัญลักษณ์และนำ�พาการรณรงค์คือ
ชือ่ สุชาติ ณ บางไซ" นักข่าวเลยส่งเข้าไปทีโ่ รงพิมพ์เป็น"สุชาติ นาค บก.ลายจุด-สมบัติ บุญงามอนงค์ โดยตอนนั้นฝ่ายอำ�มาตย์จะเข็น
บางไทร" ที่ไปที่มาจุดเริ่มต้นของคนวันเสาร์ ขบวนการที่เป็นหน่อ รัฐธรรมนูญเผด็จการ2550ให้ผ่านจงได้ ฝ่ายประชาธิปไตยจึงใช้
เนื้อเสื้อแดงในเวลาต่อมา ก็เริ่มต้นจากตรงนั้นนั่นเอง สัญลักษณ์สแี ดง เหมือนกับ"ไฟแดง"ไม่ให้ผา่ นออกมาเป็นสัญลักษณ์
การต่อสู้ของภาคประชาชนเบื้องต้นก็ต้องบอกว่าใครคิดอะไร สำ�คัญ
ได้ก็ทำ�ไป ดังที่ปรากฏว่าขณะที่"สุชาติ นาคบางไทร"กำ�ลังเหยียบ ผลสรุปจบลงที่ฝ่ายอำ�มาตย์ใช้อำ�นาจทุกทางผ่านได้ฉิว
เก้าอีห้ วั โล้นอยูท่ า่ มกลางพีน่ อ้ งนับร้อยทีส่ นามหลวง เมือ่ 1 พฤศจิกายน เฉียด51:49% และสีแดงได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้อันสง่า
49 นัน้ ภายในธรรมศาสตร์ทา่ พระจันทร์เองทางบก.ลายจุดและเครือ งามและมีเกียรตินับแต่นั้น
เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 17
มารู้จัก “แนวมาร์คซิสต์” กันเถอะ..
โดย กองบรรณาธิการ

ตอบข้อวิจารณ์สังคมนิยมที่เรามักได้ยิน

1.“แนวมาร์คซิสต์ล้าสมัย มาร์คซ์เขียนหนังสือไว้นาน กลไกตลาดของทุนนิยม นอกจากจะสร้างวิกฤตเป็นประจำ�แล้ว


แล้ว ตั้งแต่ค.ศ. 1848 แต่ทุนนิยมเปลี่ยนไป โดย ซึง่ ทำ�ลายพลังการผลิตอย่างสิน้ เปลือง ยังเป็นระบบ “มือใครยาวสาว
เฉพาะในยุคโลกาภิวัตน์” ได้สาวเอา” ไม่สามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานของคนส่วน
หลักสำ�คัญในวิธีการเข้าใจโลกของชาวมาร์คซิสต์ คือการใช้ ใหญ่ในโลกได้เลย
“วิภาษวิธ”ี ซึง่ เน้นว่าทุกอย่างต้องเปลีย่ นแปลงเสมอ ดังนัน้ นักมาร์ค
ซิสต์ไม่เคยคิดว่าโลกสมัยนีเ้ หมือนโลกสมัยมาร์คซ์ เรามีการพัฒนาท 4.“สังคมนิยมอุดมการณ์เกินไป เพราะมนุษย์เห็นแก่
ฤษฏีตลอด แต่อย่างไรก็ตาม มาร์คซ์กับ เองเกิลส์ ได้ทำ�นายอนาคต ตัว และทุนนิยมสอดคล้องกับธรรมชาติมนุษย์”
ของทุนนิยมว่าจะแพร่กระจายไปทัว่ โลก และมีปรากฏการณ์ของโลกา มนุษย์มนี สิ ยั ใจคอทีส่ ลับซับซ้อน ไม่ใช่มติ เิ ดียว มนุษย์เห็นแก่
ภิวัตน์ (ดูแถลงการณ์พรรคคอมมิวนิสต์) ตัวและเห็นแก่ส่วนรวมพร้อมกัน การเน้นอันใดอันหนึ่งขึ้นอยู่กับ
ในยุคปัจจุบนั ทุนนิยมสร้างความเหลือ่ มล้�ำ ผ่านการกดขี่ สร้าง สภาพแวดล้อม ถ้าสังคมเน้นการแย่งชิงเอารัดเอาเปรียบกัน มนุษย์
สงคราม และวิกฤตเศรษฐกิจ การต่อสู้เพื่อสังคมนิยมยิ่งเป็นเรื่อง จะมีแนวโน้มเห็นแก่ตัว ถ้าสังคมเคารพทุกคนและให้สิทธิเสรีภาพ
จำ�เป็น ถ้วนหน้าและความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ มนุษย์จะเห็นแก่สว่ นรวม
ในประวัติศาสตร์มนุษย์ ทุนนิยมเป็นเพียงยุคสั้นๆ ยุคหนึ่งเท่านั้น ยุ
2.“สังคมนิยมเป็นแนวคิดเผด็จการ ทุนนิยมดีกว่า คอื่นๆ ในอดีตดำ�รงอยู่นานกว่ามาก และยุคบุพกาลเป็นยุคที่มนุษย์
เพราะสร้างประชาธิปไตย” ไม่มชี นชัน้ และร่วมมือกัน ดังนัน้ การทีจ่ ะเสนอว่าทุนนิยม “เหมาะกับ
เผด็จการทีเ่ ห็นกันในโลกและเรียกตัวเองว่า “สังคมนิยม” หรือ ธรรมชาติมนุษย์” ไม่มีน้ำ�หนักเลย
“คอมมิวนิสต์ เป็นแนว สตาลิน-เหมา ที่บิดเบือนแนวมาร์คซิสต์หลัง
การพ่ายแพ้ของการปฏิวตั ริ สั เซีย ส่วนทุนนิยมไม่เคยเป็นประชาธิปไตย 5.“สังคมนิยมอุดมการณ์เกินไปเพราะมนุษย์เกิดมาไ
เต็มใบ เพราะประชาชนคุมเศรษฐกิจไม่ได้ และในหลายประเทศ ม่เท่าเทียมกัน ต้องมีผู้ใหญ่ผู้น้อยอยู่ดี"
ทุนนิยมอย่างไทยในยุคอำ�มาตย์ ยังไม่มปี ระชาธิปไตยทางการเมือง มนุษย์เกิดมาไม่เหมือนกัน นั้นคือความงดงามของมนุษย์ แต่
เลย ความแตกต่างกันนี้ไม่ได้หมายความว่ามนุษย์บางคนดีกว่าหรือเก่ง
กว่าคนอืน่ ในทุกเรือ่ ง เพราะบางคนอาจเก่งในด้านคณิตศาสตร์ การ
3.“การที่พรรคคอมมิวนิสต์ล่มสลายในยุโรปตะวันอ ใช้ภาษา หรือศิลปะ หรือบางคนอาจเก่งในด้านการเข้าใจคนอื่น การ
อก และจีนกับเวียดนามหันมาใช้ทุนนิยม พิสูจน์ว่า บริหารจัดการ หรือในเรื่องอื่นๆ ที่มีอีกมากมาย ดังนั้นมันไม่มีความ
จำ�เป็นเลยที่จะมี “ผู้ใหญ่กับผู้น้อย”
สังคมนิยมใช้ไม่ได้” ทุนนิยมและระบบชนชั้นทำ�ลายความสร้างสรรค์ของคนส่วน
สิ่งที่ล่มสลายไปไม่ใช่ “สังคมนิยม” แต่เป็นเผด็จการ “ทุนนิยม
ใหญ่ เพราะกีดกันการพัฒนาตนเองของมนุษย์ในรูปแบบหลากหลาย
โดยรัฐ” ที่ปิดประเทศ ระดมทุนภายใน และบริหารทุนนิยมโดย
คนที่มีโอกาสชีวิตจริงเป็นแค่คนรวยหรือคนมีอำ�นาจเท่านั้น และ
ข้าราชการแดง สิ่งที่เปลี่ยนไปคือวิธีบริหารทุนนิยม จากการเน้นรัฐ
คนรวยปัจจุบัน รวยเพราะบรรพบุรุษเคยปล้นหรือเอาเปรียบคนอื่น
ไปสู่กลไกตลาดเสรี แต่วิกฤตเศรษฐกิจโลกปัจจุบันก็พิสูจน์ว่ากลไก
มา ความร่ำ�รวยไม่ได้มาจากการขยันทำ�งาน ถ้าไม่เชื่อก็ไปดูสภาพ
ตลาดเสรีสร้างวิกฤตเช่นกัน และรัฐในประเทศตะวันตกก็ต้องเข้าแก้
ความเป็นอยูข่ องกรรมกรโรงงาน หรือเกษตรกรรายย่อย ทีต่ อ้ งทำ�งาน
ปัญหาด้วยการอุ้มธนาคาร กระตุ้นเศรษฐกิจ และจ่ายหนี้แทนบริษทั
หนักตลอดชีวิต
เอกชน

เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 18
6.“แนวมาร์คซิสต์เน้นวัตถุ และระบบเศรษฐกิจ ใน แบบที่ไร้การวางแผน และในการคิดบัญชีกำ�ไรขาดทุน ไม่มีการ
ลักษณะกลไก ไม่สนใจจิตใจมนุษย์เหมือนศาสนา” พิจารณาคุณค่าของโลกธรรมชาติเลย
แนวคิดมาร์คซิสต์พิจารณาทุกแง่ทุกมุมของโลกมนุษย์ ไม่ว่า
จะเป็นเศรษฐศาสตร์ การเมือง ประวัติศาสตร์ ศิลปะ วิทยาศาสตร์ 10.“ทฤษฏีมาร์คซิสต์เป็นมหาวาทกรรมเพื่อควบคุมเ
ปรัชญา ศาสนา หรือความรู้สึกของคน เช่นในเรื่อง “สภาวะแปลก ราไม่ให้คิดเองเป็น"
แยก (Alienation)” เป็นต้น แต่ที่คนอาจเชื่อว่าแนวมาร์คซิสต์เน้นแต่ อันนี้เป็นคำ�พูดเหลวไหลของพวก “โพสต์โมเดิร์น” ที่เคยผิด
วัตถุ และระบบเศรษฐกิจ ในลักษณะกลไก ไม่สนใจจิตใจมนุษย์เหมือน หวังในแนว สตาลิน-เหมา แล้วอ้างว่าตนเองหันไปปฏิเสธทุกทฤษฏี
ศาสนา ก็เพราะแนวคิด สตาลิน-เหมา ของพรรคคอมมิวนิสต์เคยมี แต่ในความเป็นจริงพวกนีไ้ ด้แต่ปลดแอกสมองตนเอง ไม่สามารถทำ�
ลักษณะแบบนั้น อะไรอย่างเป็นรูปธรรมเพือ่ เปลีย่ นแปลงโลกได้ วิธที จี่ ะจัดการกับการ
ใช้ทฤษฏีแบบ “เผด็จการสั่งลงมา” คือการถกเถียงอย่างเสรีด้วย
7.“แนวมาร์คซิสต์เน้นแต่ชนชั้น ละเลยการกดขี่ทาง เหตุผลจากโลกจริงและการกำ�จัดระบบเผด็จการทุกรูปแบบ
เพศ ชนเผ่า หรือสีผิว”
11.“มันเป็นความคิดของนักวิชาการ “หอคอยงาช้าง”
ไม่จริงแนวมาร์คซิสต์มองว่าระบบชนชั้นในสังคม นำ�ไปสู่การ “พวกห้องแอร์” “พวกหนอนหนังสือ” เราควรลงมือ
กดขี่ในรูปแบบอื่นๆ เช่นทางเพศ ทางเชื้อชาติ หรือเรื่องสีผิว โดยที่ ปฏิบัติมากกว่า”
เราไม่สามารถแยกเรือ่ งต่างๆ เหล่านีอ้ อกจากกันได้ ดังนัน้ ชาวมาร์ค ไม่มใี ครในโลกทีอ่ อกไปปฏิบตั ไิ ด้โดยไม่อาศัยทฤษฏีหรือความ
ซิสต์จะต่อสู้กับการกดขี่ทางชนชั้น การกดขี่ทางเพศ และการกดขี่ คิดเลย คนที่ปฏิเสธแนวมาร์คซิสต์ในการปฏิบัติ เช่นพวกเอ็นจีโอ
ทางเชื้อชาติหรือสีผิวพร้อมๆ กัน แค่หันไปรับแนวคิดและทฤษฏีของอำ�มาตย์หรือนายทุนมาใช้แทน
เท่านั้น แค่ประกาศว่าไม่สนใจทฤษฏีไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่
8.“กรรมาชีพกำ�ลังหายไปในโลกสมัยใหม่ และ แน่นอน มีนกั วิชาการหอคอยงาช้างทีพ่ ดู เขียนอย่างเดียวและไม่ออก
กรรมาชีพอ่อนแอ” ไปเคลื่อนไหวหรือจัดตั้งพรรคเลย มาร์คซ์เคยวิจารณ์คนแบบนี้โดย
จำ�นวนคนทีเ่ ป็นลูกจ้างในระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ทวั่ โลกกำ�ลัง เสนอว่า “นักปรัชญาแค่บรรยายโลกในหลายรูปแบบ ในขณะที่เป้า
เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าลดลงแต่อย่างใด ในขณะเดียวกันหน้าที่ หมายของเราคือการเปลีย่ นโลก” นักมาร์คซิสต์ไม่ใช้พวก “มาร์คซิสต์
การงานของลูกจ้างกรรมาชีพก็เปลีย่ นไปตามการพัฒนาของทุนนิยม วิชาการ” เพราะเรามองว่ามนุษย์ทุกคนเป็นปัญญาชนได้
ในประเทศพัฒนากรรมาชีพในภาคบริการ เช่น ธนาคาร การขนส่ง
การศึกษา ระบบสาธารณสุข หรือการสื่อสาร อาจเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบ 12.“มันเป็นความคิดของคนที่หัวรุนแรง”
กับกรรมาชีพในโรงงานอุตสาหกรรม แต่นั้นไม่ได้หมายความว่า ในโลกแห่งทุนนิยม คนที่มองต่างจากกระแสหลักมักถูกป้ายสี
กรรมาชีพหายไปหรืออ่อนแอลงแต่อย่างใด กรรมาชีพเป็นผู้ทำ�งาน ว่า “หัวรุนแรง” ในยุคอำ�มาตย์ไทย คนเสือ้ แดงทีเ่ รียกร้องประชาธิปไตย
ในระบบทุนนิยม ถ้าไม่มกี รรมาชีพจะไม่มกี ารผลิตอะไรทัง้ สิน้ และจะ ด้วยมือเปล่าถูกตราหน้าว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” ในขณะที่ทหารผู้ยิง
ไม่มีการบริการใดๆ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย ประชาชนเป็น “ผู้ปกป้องความสงบ” นักมาร์คซิสต์ไม่ได้ก่อสงคราม
การแบ่งประชากรในสังคมเป็นชนชั้น มีความสำ�คัญสำ�หรับ ไม่ได้ทิ้งระเบิด ไม่ได้เข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าที่ออกมาเรียกร้อง
การวิเคราะห์ อำ�นาจ ความเชือ่ สภาพความเป็นอยู่ และผลประโยชน์ ประชาธิปไตย ไม่ได้ทำ�รัฐประหารเพื่อทำ�ลายประชาธิปไตย ไม่ได้
ของกลุ่มต่างๆ ดังนั้นการวิเคราะห์ปัญหาสังคมจากมุมมองชนชั้น ทำ�ลายชีวิตของคนจนทั่วโลกด้วยการกดขี่ขูดรีด และไม่ได้เป็นคนที่
เป็นการวิเคราะห์ที่มีพลัง นำ�มนุษย์คนอืน่ มาเป็นทาส ตรงกันข้ามเราพยายามกำ�จัดความรุนแรง
ป่าเถื่อนดังกล่าวจากโลก แต่แน่นอน ชนชั้นปกครองคงไม่ยอมอะไร
9.“มาร์คซิสต์บูชาอุตสาหกรรม ไม่สามารถแก้ปัญหา ง่ายๆ เราก็ตอ้ งรูจ้ กั ป้องกันตัวจากความรุนแรงของอำ�มาตย์ ซึง่ แปล
สิ่งแวดล้อมได้” ว่ามวลชนใช้สันติวิธีตลอดไปในทุกกรณีไม่ได้
นักมาร์คซิสต์เข้าใจดีว่าในระบบทุนนิยม ไม่มีการบริหาร
เศรษฐกิจด้วยเหตุผลและปัญญา มีแต่การเร่งการผลิตเพือ่ สะสมและ 13.“สังคมนิยมไม่มีในโลกจริง”
กอบโกยผลประโยชน์เฉพาะหน้าโดยนายทุนเท่านัน้ วิธแี ก้ไขปัญหา ใช่มนุษย์อยู่ในยุคที่ยังพยายามต่อสู้เพื่อสร้างสังคมนิยม บาง
สิง่ แวดล้อมไม่ใช่การถอยหลังไปสูย่ คุ แห่งความยากจนก่อนทุนนิยม ครัง้ เดินหน้า บางครัง้ ถอยหลัง แต่มนั เพียงแต่หมายความว่าสังคมนิยม
แต่เราต้องเข้ามาร่วมกันบริหารพลังการผลิตของทุนนิยมเพือ่ มนุษย์ คืออนาคตของมนุษย์ ในยุคอดีตเวลาคนฝันถึงประชาธิปไตย หรือ
ทัง้ โลกแทน และเพือ่ ให้มกี ารผลิตแบบยัง่ ยืน ปัญหาสำ�คัญของทุนนิยม การเลิกทาส ก็จะมีคนพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะไม่มสี งั คมไหนเป็น
และกลไกตลาดคือ การบริหารอยู่ในมือคนส่วยน้อย มีการแข่งขัน จริงอย่างนั้น แต่ทุกสังคมย่อมมีการเปลี่ยนแปลง

เลี้ยวซ้าย พฤศจิกายน 53 หน้า 19


ร่วมกันสร้างองค์กรสังคมนิยม
เพื่อ
ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และประชาธิปไตย
- สังคมนิยมเป็นระบบที่ตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ผ่านการวางแผนร่วมกัน
ในรูปแบบประชาธิปไตย
- สังคมนิยมต้องสร้างโดยมวลชนกรรมาชีพ จากล่างสู่บน สร้างโดยอภิสิทธิ์ชนไม่ได้
- เรางต้องมีพรรคการเมืองของกรรมาชีพและคนจน เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง
- สมาชิกทุกคนต้องจ่ายค่าบำ�รุง 1 % ของรายได้ (50 บาท / เดือนขั้นต่ำ�)
- สมาชิกต้องอ่านและช่วยกันขายหนังสือพิมพ์ของพรรคเพื่อขยายสมาชิก
และอิทธิพลทางความคิด

รายละเอียดเพิ่มเติม : E-mail : pcpthai@gmail.com


ติดต่อกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ : turnleft2008@gmail.com
ที่อยู่ไปรษณีย์ : ตู้ ป.ณ. 123 ไปรษณีย์คลองจั่น บางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
(พรรคฯ ยังไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมายพรรคการเมือง)

You might also like