Are you sure?
This action might not be possible to undo. Are you sure you want to continue?
จดหมายขาว
www.thaiyogainstitute.com
คุยกันกอน
ปฏิทินกิจกรรม
สะกิด สะเกา
ปกิณกะ สุขภาพ
แนะนําหนังสือ
จดหมายจากเพื่อนครู
เลงเลาเรื่อง
จากเครือขายภูมิภาค
ตําราโยคะดั้งเดิม
บนเสนทางพัฒนาจิต
จิตสิกขา, เครือขายชีวิตสิกขา, กรีนไลฟ
การสอนที่แทจริง
น้ําแร, ขาวกลอง, กลิ่นกับโรคพารคินสัน
ฟสิกส 6 บท สุดงาย
โยคะกับคนตั้งครรภ
ทาคันไถครึ่งตัว
โยคะบําบัดอาการทางจิต
การเดินทางดานในของจิต
โคริงกะ ดอกไมแหงแสงอันยิ่งใหญ
ฉบับเดือน กรกฏาคม 2553
2
2
3
4
4
6
8
9
10
12
จดหมายขาว โยคะสารัตถะ วิถีชีวิตเพื่อสุขภาวะ
ที่ปรึกษา
แกว วิฑูรยเธียร ธีรเดช อุทัยวิทยารัตน นพ.ยงยุทธ วงศภิรมยศานติ์ นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์
กองบรรณาธิการ
กวี คงภักดีพงษ, จิรวรรณ ตั้งจิตเมธี, จีระพร ประโยชนวิบูล, ชนาพร เหลืองระฆัง, ณัตฐิยา ปยมหันต, ณัฏฐวรดี ศิ
ริกุลภัทรศรี, ธนวัชร เกตนวิมุต, ธัญยธรณ อรัณยชลาลัย, ธีรินทร อุชชิน, พรจันทร จันทนไพรวัน, รัฐธนันท พิริยะ
กุลชัย, วรรณวิภา มาลัยนวล, วัลลภา ณะนวล, วิสาขา ไผงาม, วีระพงษ ไกรวิทย, ศันสนีย นิรามิษ, สมจิตร
ประดิษฐสมัย, สมดุล หมั่นเพียรการ
สถาบันโยคะวิชาการ มูลนิธิหมอชาวบาน
201 ซอยรามคําแหง 36/1 บางกะป กทม.10240
โทรศัพท 02 732 2016-7, 081 401 7744
โทรสาร 02 732 2811
อีเมล yogasaratta@yahoo.co.th
เว็บไซท www.thaiyogainstitute.com
สิ่งตีพิมพ
1007 1
พวกเราตออายุกันเขามาอยางสม่ําเสมอ
ซึ่งก็
เดือนนี้มาพรอมกับฝนอันชุมชื่น หลังจากรอนแลง
มานาน ปลายเดือนมิถุนายน ไดมีโอกาสเจอเพื่อนครูที่มา ขอขอบคุณอยางสูง และถาอยากเสนอแนะอะไร เขียนมา กริ๊ง
จากภูมิภาคในงานประชุมวิชาการ คุยกันถึงเนื้อหาในจุลสาร มา อีเมลมา ไดเลยนะครับ
กลับมาที่ทํางาน ก็มาเลาใหนองๆ ฟง รูสึกปลื้มใจที่จุลสารเรา
นักเขียนหลายทานสงตนฉบับไมทันจริงๆ ขออภัย
ไดทําหนาที่ ไดทําประโยชน ในฐานะของคนทําสื่อ สิ่งที่จะ สําหรับสมาชิกทางไปรษณีย คอยดูวันหมดอายุที่มุมขวาบน
ชวยเราไดมากก็คือ การตอบรับจากผูอานนั่นเอง ไมใชเรื่อง ของสติกเกอรนะ ใครหมดก็ตออายุไดเลย โอนเขาบัญชี
ของกําลังใจเทานั้น แตที่สําคัญคือ มันทําใหเราเห็นรูปธรรม ธนาคารไทยพาณิชย สาขาเตาปูน ในนามกวี คงภักดีพงษ
วาควรจะเดินไปทางไหน อยางไร จึงจะตอบโจทยผูอานได
เลขบัญชี 141 2 13988 – 1
______________________________________________________________________________________________
เรื่องของอภิธรรม (ตอ) ที่เดิม ซอยรามคําแหง 36/1
จิตสิกขา วันเสารที่ 17 กรกฏาคม 9.00 – 12.00 น. คุยกัน
--------------------------------------------------------โยคะอาสนะขั้นพื้นฐานเพื่อความสุข สถาบันฯ จัดอบรม มนุษยศาสตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
อาสนะพื้นฐานเดือนละครั้ง สําหรับเดือนกรกฏาคม เต็มไป ชั้น 6 หอง 262 เวลา 9.00-15.00 น.
แลว ครั้งตอไปเปนวันอาทิตยที่ 15 สิงหาคม 2553 ณ คณะ
---------------------------------------------------------เชิญอัพเดทขาวสถาบันฯ เปน fan ในเฟสบุคที่ http://www. และทาง Twitter ที่ http://twitter.com/yogathai
facebook.com/pages/thaiyogainstitute/208189084154
--------------------------------------------------------สวัสดีครับพี่นองชาวโยคะ ฉบับนี้ฝายผลิตภัณฑขอแนะนํา “เสื้อยืดโยคะสีเทา” ดานหนาเปน
ตัวอักษร Thai Yoga Institute พรอมรูปทาบิดสันหลัง ดานหลังเปนโศลกโยคะสูตร “นิ่ง สบาย
ใช แรงแตนอย มีสติ” ขนาด XS อก 35” ความยาว 24”, S = 36-25 , M = 39-27, L = 44-29,
XL = 48-31 ราคา 190 บาท จัดสงทางไปรษณียไดครับ (คิดคาสงตามจริง)
มีทั้งคอกลม และ คอวี ผาเนื้อดี ไมยืด ไมยวย ใสสบาย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ศิลปะแหงการดําเนินชีวิต Anti Aging ชีวิตสิกขาลัย ขอ
เชิญทานเขารวมการอบรมเชิงปฏิบัติการ ที่ประยุกตการฝก
เทคนิคการดูแลกายจิต วยศาสตรแหงภูมิปญญาตะวันออก,
ศิลปะแหงการสื่อสารดวยหัวใจที่ออนโยน และ ศาสตรแหง
การดําเนินชีวิตตามรอยวิถีธรรม ที่พรอมจะพาคุณไปสู ‘วิถี
ชีวิตแหงการชะลอวัย’ ไดดวยตัวคุณเอง ทั้งวิถีทางกาย ทาง
วาจา และทางใจ ดวยกิจกรรมในหลักสูตรศิลปะแหงการ
ดําเนินชีวิตนี้ จะพาคุณเขาไปสัมผัสพื้นที่ตนกําเนิดแหงความ
ชราที่แทจริง ที่คุณเองมักสรางมันขึ้นในตัวบอยๆ ซึ่งหากคุณ
เรียนรูกับตนเหตุ คุณก็สามารถยับยั้งมันไดดวยตนเอง ถา
เพียงรู ‘เคล็ดลับ’ โดยไมตองรอใหถึงวัยแหงความรวงโรย
เขาครอบงําจนสุดจะตานทาน เพราะเมื่อถึงเวลานั้นอาจจะไม
ทันการเสียแลว
1007 2
สิ่งที่คุณจะเรียนรูจากกิจกรรมเพื่อนําไปฝกฝน และ
ประยุกตใชไดดวยตนเอง ไมตองพึ่งมีดหมอ ไมตองพึ่งยา
อาหารเสริม หรือ เครื่องสําอางราคาแพง ดวยหลักการที่เนน
ในดาน ‘การปองกันและดูแล’ แทนที่จะใช ‘การรักษา’ ที่ปลาย
เหตุ
เปดโลกทัศนและใหโอกาสตัวเอง เรียนรูที่จะหัน
กลับไปหาตนทางแหงความชรา ความออนวัยที่ถูกครอบงํา
และกลืนกินไปดวยกาลเวลา แกะรองรอยแหง ‘ตนเหตุ’
ออกไป แลวเติมเต็ม ‘ตนทาง’ แบบใหมใหตนเอง เพื่อผลของ
อรุณรุงแหงชีวิตที่มีคุณคา และความมั่นคงทางใจในการมุงไป
สูศักยภาพของการดูแลตนเองในทุกแงมุม
ณ หอง 261 คณะมนุษยศาสตร มหาวิทยาลัยศรีนค
รินทรวิโรฆ ซอยสุขุมวิท 23 วันเสารที่ 24 กรกฏาคม 2553
เวลา 8.30-17.00 น. คาลงทะเบียน 550 บาท สอบถาม
“อยากหยุดหัวใจไวที่ปลายฟา
อยากหยุดเวลา
รายละเอียดเพิ่มเติม โทร 084-643-9245, 087-678-1669
นาฬิกาแหงชีวิตไวในตัวคุณ”
.............................................................................
“อาสาสรางสุข: สุขใจผูให สุขกายผูรับ” สรางสุขาเพื่อ สรางหองน้ําเพื่อสุขอนามัยใหกับชาวเรกะติ ตามกําลังและ
ศรัทธา จํานวน 60 หอง ขนาด 2 x 2 เมตร มุงหลังคา
สุขอนามัยใหกับชาวเรกะติ เผากะเหรี่ยง อ.ทาสองยาง ตาก
ชุมชนบานเรกะติ มีอายุเกาแกกวา 100 ป มี กระเบื้องลอน งบประมาณ หองละ 4,000 บาท ไมมีคาจาง/
ประชากรประมาณ 200 คน ใน 60 หลังคาเรือน สวนใหญนับ คาแรงงาน เพราะใชแรงงานชาวเรกะติชวยกันทํา
รวมบริจาค ไดที่ ครูดล/เครือขายชีวิตสิกขา โทร.
ถือศาสนาพุทธ อยูในถิ่นทุรกันดารหางไกลความเจริญ ยังไม
มีไฟฟาใช ประชาชนมีฐานะยากจน สวนใหญขาดการศึกษา 087 678-1669, 089 – 899 - 0094 ภายในวันที่ 31 ก.ค. ชื่อ
เพราะยังไมมีโรงเรียน มีอาชีพหลักคือทํานาทําไร สภาพ บัญชี ธนวัชร เกตนวิมุต ธ.ไทยพาณิชย จก. สาขาสํานักรัช
บานเรือนเปนไปตามสภาพธรรมชาติ ที่พอจะหาวัสดุทําได โยธิน เลขที่ 111 – 236270-0 บัญชีออมทรัพย กรณีทานที่
ปจจุบันชุมชนเรกะติยังประสพปญหา ขาดแคลนหองน้ําหอง ตองการใบอนุโมทนาบัตร กรุณาแจงชื่อ-สกุล, จํานวนเงิน, ที่
สุขาที่ถูกสุขอนามัยซึ่งมักเปนที่มาของโรคระบาดตาง ๆ และ อยูในการสงกลับ, เบอรติดตอกลับของผูบริจาค ใหชัดเจน
และสงไปที่ E-mail: tanawatk@gmail.com หรือ แฟกซ:
กลิ่นรบกวน
เครือขายชีวิตสิกขา ขอเชิญทานที่มีจิตกุศลรวม 02-900-5429
.................................................................................
ขอเชิญรวมปฏิบัติธรรม 5 วัน 4 คืน เจริญวิปสสนา กรกฎาคม 2553 (ไมมีคาใชจายในการรวมปฏิบัติธรรม)
Email:
กรรมฐานตามแนวทางหลวงพอเทียน นําฝกกรรมฐาน โดย สําหรับผูสนใจสามารถแจงยืนยันการเขารวมไดที่
พระอธิการครรชิต อกิญจโน ระหวางวันที่ 23 – 27 jivitasikkha@gmail.com โทร. (089) 983 4064 (ครูแดง)
กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ณ อาคารเอนกประสงค วัดสวนแกว หรือ (087) 678 1669 (ครูดล)
จังหวัดนนทบุรี เริ่มลงทะเบียนตั้งแต 13.00 น. วันศุกรที่ 23
……………………………………….………………..
ทุกวิชาสามารถเรียนไดทั้งเด็กและผูใหญ
สนใจ
กรีนไลฟฯ บางบอน หนึ่งในองคกรเครือขายสถาบันโยคะฯ
โปรดโทรจองเวลาที่ กรีนไลฟฯ ทุกวันเวนวันพฤหัสบดี เวลา
จัดกิจกรรมพิเศษ ในวันเสาร/อาทิตย
09.30-20.00น โทร 02 899 7377 และ 02 899 7477
{มวยไทย 10.00-12.00น
อนึ่ง วันอาทิตยในสัปดาหที่สองของทุกเดือน มีการ
{ดนตรี / รําไทย 13.00-15.00น
เสวนาเกี่ยวกับธรรมะ สุขภาพ และอื่นๆ ที่มีประโยชน โดยไม
{ภาษาอังกฤษ 15.00-17.00น
มีคาใชจาย
{นอกจากนี้ทุกๆวันยังมีสอนวายน้ําอีกดวย
.............................................................................
สมาธิ ทํางาย ไดประโยชน วันอาทิตยที่ 11 กรกฎาคม ลองฝกสมาธิตามแนวทางของโยคะ ที่สามารถทําไดอยาง
2553 เวลา 10.00 – 12.00 น. ณ กรีนไลฟ บางบอน ทํา หลากหลาย โดย กวี คงภักดีพงษ สนใจโทร 082 455 7575
ความเขาใจวาสมาธิเปนเรื่องที่ทุกคนฝกได มีประโยชน และ
____________________________________________________________________________________________
โดย สดใส
“อิทธิพลของการสอนแทบจะไมบังเกิดผลใดๆ ยกเวนกับผูที่มีความสุขในการเรียนอยูแลว ซึ่งการสอนก็แทบไมจําเปน”
เอ็ดเวิรด กิบบอน (ค.ศ. 1737-1794) นักประวัติศาสตรชาวอังกฤษ
“ในการสอน ประการแรกคือ หาเหตุผลใหไดวาทําไมคุณตองการใหนักศึกษาเรียนรูวิชานั้น และคุณตองการใหเขารู
อะไร แลววิธีการสอนก็จะตามมาเองโดยสามัญสํานึก”
“ในการสอนนั้น นักศึกษาควรไดถกความคิด คิดเกี่ยวกับสิ่งตางๆ และคุยเกี่ยวกับสิ่งตางๆ กับครูโดยตรง”
ริชารด ไฟยนแมน จากหนังสือ “ฟสิกส 6 บท สุดงาย”
1007 3
ถาคุณเชื่อวาน้ําแร ดีกวาน้ําดื่มทั่วไป ขอใหคิดใหม
นักวิจัยจากหองทดลอง ซี เครสท แคนาดาพบวา
เจาหนาที่คนหนึ่งปวยหลังจากดื่มนําแร จึงไดเริ่มตนทําการ
วิจัย
สิ่งที่พบคือรอยละ 70 ของนําแรที่บรรจุขวด มีเชื้อ
แบคทีเรียปนอยู ซึ่งแบคทีเรียเหลานี้ก็มีหลากหลายกวา 500
สายพันธุ ทั้งระดับของแบคทีเรียก็มีปริมาณสูงเกินกวาที่จะรับ
ได
นักวิจัยชุดนี้กลาววา แบคทีเรียไมไดทําใหเกิดโรค
เสมอไป แตอยางไรก็ตาม ผูทมี่ ีความเสี่ยง เชน คนสูงอายุ
คนปวย คนตั้งครรภ ควรจะระมัดระวังเปนพิเศษ และคิดใหดี
กอนจะดื่มนําแรบรรจุขวด
Source: 110th general meeting, American Society for
Microbiology, San Diego, May 25, 2010
โดย สดใส
ถาสามารถเปลี่ยนมาบริโภคธัญพืช ที่ผานกระบวนการขัดสี
นอย เชน ขาวสาลี หรือ ขาวบาเลย
นักวิจัยจากฮารวาดกลาววา สวนที่มีประโยชนตอ
สุขภาพ มาจากขาวกลองและธัญพืช ขาวกลองมีใยอาหาร แร
ธาตุ วิตามิน และเคมีพืช ไฟโตเคมิเคิล ที่สําคัญขาวกลองไม
เพิ่มระดับน้ําตาลในเลือดมากอยางขาวขาว
Source: Archives of Internal Medicine, 2010; 170: 961-9
สูดดมเพื่อดูวาคุณจะเปนโรคพารกินสันหรือไม
การดมกลิ่นเปนวีธีทดสอบงายๆ ที่สามารถบอกได
วาคุณจะเปนโรคพารกินสันหรือไม ซึ่งเปนโรคที่มีผลตอทักษะ
การเคลื่อนไหวเมื่อเรามีอายุมากขึ้น
การหยอนสมรรถภาพของประสาทสัมผัสการไดกลิ่น
เปนสัญญาณเริ่มแรกที่อาจนําไปสูการพัฒนาโรคนี้ไดในเวลา
ตอมา นักวิจัยที่คิดคนวิธีทดสอบนี้หวังวาจะชวยสนับสนุนการ
บําบัดรักษาโรคนี้ไดตั้งแตระยะแรกๆ
กินขาวกลองเพื่อลดความเสี่ยงการเปนเบาหวาน
ปจจุบันยังไมมีวิธีรักษาโรคพารกินสัน ซึ่งเปนโรคที่
คนตะวันตกเริ่มหันมาบริโภคขาว ตั้งแตศตวรรษที่
แลว เพราะเขาคิดวาเปนทางเลือกเพื่อสุขภาพ แตพวกเขาก็ สงผลตอทักษะการเคลื่อนไหว การพูด อารมณและพฤติกรรม
ซึ่งอาการจะแยลงอยางรวดเร็วเมื่อเรามีอายุมากขึ้นดวย นัก
เลือกรับประทานขาวขาวซึ่งงายแกการหุงตม
ปจจุบัน แนวโนมใหมคือ เปลี่ยนการบริโภคขาวขาว วิจัยจากมหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมันนี ที่คิดคนวิธีทดสอบ
มาเปนขาวกลอง ซึ่งเปนหนึ่งในการตัดสินใจอันสําคัญที่จะ นี้ กลาววา การทดสอบนี้จะชวยแพทยใหตรวจจับโรคนี้ไดใน
ชวยหลีกเลี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อันเปนโรคที่เกิดจาก ระยะแรกๆ ซึ่งเปนชวงที่ยาตานโรคจะทํางานไดผลดีที่สุด
และสามารถชะลอการเติบโตของโรคไดอีกดวย
การใชชีวิตประจําวัน
การเปลี่ยนมาบริโภคขาวกลอง ชวยลดความเสี่ยง Source: Proceedings of the European Society of Human
ของการเกิดโรคได ถึง 16% และยังลดไดไปกวานั้น คือ 36% Genetics, June 13, 2010
__________________________________________________________________________________________
ฟสิกส 6 บท สุดงาย
แปลโดย ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ, ศล
จากตนฉบับ Six Easy Pieces
เขียนโดย ริชารด ไฟยนแมน
Richard P. Feynman
ตอนที่ซื้อหนังสือเลมนี้มาอาน ก็เพราะอยากเขาใจ
พวกฟสิกสยากๆ บาง ซึ่งหนังสือก็ไดทําหนาที่นั้น ตรงตาม
ชื่อที่ตั้งไว โดยเฉพาะ 3 บทแรก (แต 3 บทหลัง อานก็ยังงงๆ
อยูเหมือนกัน)
สวนเหตุผลที่แนะนําหนังสือเลมนี้ ใหกับเพื่อนครู
โยคะก็เพราะวา ขณะอานหนังสือเลมนี้ รูสึกวาตัวเองมีความ
เขาใจเนื้อหาที่อธิบายไวในพระเวท ในสวนที่วาดวยจักรวาล
1007 4
โดย กองบรรณาธิการ
มากขึ้น มีความรูสึกวาตัวเองเกิดความเขาใจในเรื่อง “รูป” ที่
อธิบายไวในอภิธรรมมากขึ้น
จากที่เราเคยเขาใจวา สสารก็อยางนึง พลังงานก็
อยางนึง ควอนตัมฟสิกสไดพิสูจนวา ทั้งสองสิ่งนี้จริงๆ แลวมา
จากฐานเดียวกัน
เคยลองใชความกลาหาญเขาไปอาน
เรื่องราวเกี่ยวกับควอนตัมฟสิกสอยูบาง ก็ตองถอยทัพกลับ
ซึ่งปรากฏวาหนังสือเลมนี้ชวยทําลายกําแพงนั้นลงได คือไม
ตองรูลึก ไมตองเขาใจสมการ แตไฟยนแมน (และผูแปลเปน
ภาษไทย) สามารถทําใหคนอานเขาใจได เชน
จักรวาลประกอบดวยดาวฤกษ ดาวฤกษก็ประกอบ
ดวยอะตอม ซึ่งชนิดเดียวกับอะตอมที่พบบนโลก (107) พูด
งายๆ วา สิ่งที่ประกอบขึ้นเปนตัวเรานั้น ครั้งหนึ่งเคยไดรับ
การ “ปรุง” ภายในดาวฤกษแลวถูกพนออกมา (109)
ไฟยนแมนบอกวา ถาโลกกําลังจะแตก และเขามี
โอกาสบันทึกประโยคที่สั้นที่สุด
เพื่อสงตอใหกับมนุษยรุน
ตอไป คําบันทึกจะเปนดังนี้ “ทุกสิ่งสรางจากอะตอม อันเปน
อนุภาคขนาดเล็กที่เคลื่อนที่ไปมาอยางไมหยุดหยอน เมื่ออยู
หางกันเล็กนอยจะดึงดูดกันและกัน แตเมื่อถูกบีบเขาหากันจะ
ผลักดันกัน” (หนา 39) ซึ่งแสดงวา ทั้งหลายทั้งปวงแวดลอม
ตัวเรานี้ ลดลงที่สุดก็คืออะตอม คือรูป นั่นเอง (เราไมพูดถึง
จิต เจตสิก ซึ่งริชารด ฟายนแมนไมไดกลาวถึงแตอยางใด)
อะตอมนั้นนาทึ่งมาก ดูแคเรื่องขนาด ถาอยากรูวา
อะตอมของแอปเปลใหญขนาดไหน ใหขยายลูกแอปเปลใหมี
ขนาดเทากับขนาดของโลกแลว อะตอมในแอปเปลจะมีขนาด
ประมาณแอปเปลกอนขยาย (หนา 41)
ไฟยนแมนบอกวา เราอธิบายทุกสิ่งไดดวยอะตอม
เชน ถาอะตอมทั้งหมดเคลื่อยที่ในทิศทางเดียวกัน กระแสการ
ไหลของอะตอมก็คือลม (หนา 67)
สวนการเคลื่อนที่ภายในแบบสุมคือ ความรอน (67)
คลื่นของความหนาแนนสวนเกิน เมื่ออนุภาคเหลานี้
เคลื่อนที่กรูกันออกไป คือ เสียง (หนา 68)
อะตอมมีธรรมชาติอยูหลายๆ อยาง เชนมันมีประจุ
มันมีแรง ที่เรารูจักกันวาสนามไฟฟา (หนา 70)
อะตอมยังมีธรรมชาติในการสั่น ความถี่ในการสั่น
นับเปนจํานวนรอบที่สั่นตอวินาที ความแตกตางของความถี่
ในการสั่นนี่เอง ที่ทําใหอะตอม ทําอะไรตางๆ มากมาย (72)
เชน
ความถี่
พฤติกรรม
ชื่อเรียก
อยางหยาบ
จํานวนรอบที่สั่น ตอ วินาที
2
10 (100)
5 X 105 – 106
108
1010
5 X 1014 – 1015
1018
1021
1024
1027
1007 5
การรบกวนทางไฟฟา
สนาม
การกระจายสัญญาณวิทยุ.
FM โทรทัศน
เรดาร
แสง
รังสี X
รังสีแกมมา นิวเคลียร.
รังสีแกมมา มนุษยสราง.
รังสีแกมมา ในรังสีคอสมิก.
คลื่น
อนุภาค
จากตาราง
สิ่งที่เราเคยคิดวาเปนคลื่นสามารถ
ประพฤติตัวเหมือนเปนอนุภาค
และอนุภาคก็ประพฤติตัว
เหมือนเปนคลื่น อันที่จริงแลว ทุกสิ่งทุกอยางประพฤติตัว
เหมือนกัน ไมมีเสนแบงระหวางคลื่นกับอนุภาค ดังนั้นกล
ศาสตรควอนตัมจึงผสานรวมแนวความคิดเรื่องสนามและคลื่น
เขาเปนเรื่องเดียวกันกับอนุภาค (หนา 78)
ไฟฟาพลศาสตรเชิงควอนตัมเปนทฤษฎีพื้นฐานของ
เคมีทั้งหมดและเปนพื้นฐานของชีวิต ดังนั้นถาชีวิตสามารถ
ถูกลดทอนลงได ก็จะเหลือเปนเคมี และก็เหลือเปนฟสิกสใน
ที่สุด (หนา 79)
พูดงายๆ ฟสิกสคือฐาน เมื่อซับซอนขึ้นก็เปน อนิ
นทรียเคมี-หรือ เคมีเชิงฟสิกส เมื่อซับซอนไปอีก ก็เปน
อินทรียเคมี ซับซอนกวานั้นก็คือ ชีววิทยาเชิงโมเลกุล
ซับซอนลงไปอีกก็คือชีวิต (หนา 94)
จากทั้งหมดขางตน ไมวาจะเปน มนุษย เปนแสงที่
เราเห็น เปนเสียงที่เราไดยิน เปนกลิ่นที่เราดม เปนรสที่เราชิม
เปนมวลที่เราสัมผัส
ก็ลวนมาจากสิ่งพื้นฐานที่ไฟยนแมน
เรียกวาอะตอม ที่พระพุทธเจาเรียกวา รูป นั่นเอง
อีกประเด็นที่นาสนใจคือ พระพุทธเจาบอกวา คน
สัตวตางๆ นั้น ไมแตกตางกัน แตพืช ทั้งๆ ที่มีชีวิต
พระพุทธเจากลับไมรวมพืชเปนหมวดหมูเดียวกับคน ประเด็น
นี้ไฟยนแมนบอกวา คนและสัตวลวนมีระบบประสาท เราไม
อาจพบสัตวที่ไมมีเสนประสาทเลย แตเราพบสิ่งมีชีวิตที่ไร
เสนประสาทได เชน พืช ซึ่งไมมีทั้งเสนประสาทหรือกลามเนื้อ
(หนา 96) ซึ่งสะทอนวา คําสอนของพระพุทธองคนั้น ลึกซึ้ง
ยิ่งนัก โดยไฟยนแมนมาอธิบายในศัพทวิทยาศาสตร ทําให
เราเขาใจไดดีขึ้น
ไฟยนแมน ไดรับรางวัลโนเบลสาขาฟสิกสดวย แต
สิ่งที่ไฟยนแมนภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต กลับไมใชผลงานการ
คนพบที่ทําใหเขาไดรางวัล ไฟยนแมนภาคภูมิใจกับ การ
บรรยายวิชาฟสิกสพื้นฐาน ใหกับนักศึกษาปริญญาตรีในชวง
เวลา 3 ป ซึ่งมีการบันทึกคําบรรยายนั้น และนํามาเรียบเรียง
เปนหนังสือ ซึ่ง “ฟสิกส 6 บทสุดงาย” นี้ ก็เปนสวนหนึ่งของ
การบรรยายชุดนั้นนั่นเอง
คิดวาเปนหนังสือเลมนึงที่ครูโยคะผูสนใจในเรื่องการ
พัฒนาจิตนาจะไดมีโอกาสอาน
สวัสดีคะ มิส Pregnancy มาแบงปนดวยคนนะคะพี่
เละ พี่โรจน และทุกคน
ตามตํารา ทานวา การฝกอาสนะระหวางตั้งทองนี่
โดยทั่วไปควรเริ่มตนฝกกันที่สัปดาหที่ 16 เนื่องจาก ชวง 12
สัปดาหแรก วาที่คุณแมมักมีอาการแพทอง ซึ่งแสดงอาการ
ตางๆ กันในแตละคน เชน เวียนหัว งวงนอน ออนเพลียงาย
เหลานี้เปนผลจากการเปลี่ยนแปลงของฮอรโมน และที่สําคัญ
การแทง สวนใหญมักเกิดขึ้นในชวง 12 สัปดาหแรกของการ
ตั้งทอง
ซึ่งสวนใหญที่เกิดขึ้นก็เพราะความผิดปกติของ
โครโมโซม (ไขหรือสเปรม) หรือความพิการอยางรุนแรงของ
ตัวออน
ครั้นเมื่อผาน 12 สัปดาหไปไดแลว อาการแพจะ
ลดลง หรือหายเปนปลิดทิ้งอัตโนมัติเลยก็มี คุณแมอาจทอด
เวลาดูแลรางกายตนเองไปอีกสามสี่สัปดาห เพื่อใหแนใจวา
อารมณดีแลวนะ โชคดีไมมีการแทงเกิดขึ้นแลว จึงเริ่มฝก
อาสนะไดอยางสบายใจ
สําหรับแดง กอนตั้งทองลูกคนแรก ก็เรียนโยคะจบ
มาหนึ่งคอรส 80 ครั้ง ก็เริ่มสนใจวา สักวันหนึ่ง ถาทอง ฉันจะ
ฝกโยคะ ไฟแรงนาดู แตก็ไดขอมูลเบื้องตนละวาจะเริ่มฝก
หลัง 16 สัปดาห ยังจําไดวา ไดหนังสือมาหนึ่งเลมจากเพื่อน
รัก คอโยคะดวยกัน หนังสือนั้นชื่อวา หัวใจแหงโยคะ คนหา
ทวงทาและมรรคาเฉพาะตัว (ฉบับพิมพครั้งแรกเลยนา) ชื่น
ชอบเนื้อหา เริ่มคนหาผูแปล : ครูธีรเดช อุทัยวิทยารัตน แปล
ไดเฉียบคมมาก
เคาตองเปนครูโยคะที่เรารอคอยแนๆ
ติดตามงานหนังสือของพี่เละมาตั้งแตนั้นเลยนะเนี่ย ขอบอก
(แฟนคลับที่สมัครเอาเอง)
เลมนี้อานทุกวัน วันละนิดละหนอย แตอา นทุกตัว
อานซ้ําไปมา ตอนนั้นยังทํางานอยู ขึ้นรถสํานักงานใชเวลา
อานบนรถ แสนจะแฮปป รอเวลาเมื่อไหรจะไดขนึ้ รถกลับบาน
ฟะ อยากอานๆ และก็ เอาละสิ ที่ฉันฝกมา ฉันก็ไดแตอาสนะ
นะ ฉันไมเคยรูเลยวา โยคะเปนอะไรมากไปกวาอาสนะ
อานกันเสร็จ ปรึกษากับเพื่อนวา ไหนๆ เราลองสอน
กันเปนเรื่องเปนราว เรามาออกแบบอาสนะใหกับคนเรียน (ที่
มีอยู 4 คน) กันนะ จากเดิมที่เปนอาสนะแบบเปะๆ ที่เคย
เรียนมา เรามาดัดแปลง จัดกลุมอาสนะ ใหเขากับผูเรียน
เหมือน แทนที่เราจะเปนรานขายเสื้อโหล ก็เปลี่ยนมาเปนราน
ตัดเสื้อซะ ชวยดูใหลูกคาดวยวา แบบไหนเหมาะไมเหมาะกับ
เคา นับ เปนชวงชีวิตที่มีความสุขมาก ไปเดินเลือกซื้อผาลาย
ดอกไม แลวจางแมบานใกลบานเย็บอาสนะตามขนาดที่เรา
1007 6
โดย แมแดง
ชอบ และวางแบบเอง จากที่เคยคิดจะฝก ก็ริอานเปนคนสอน
ซะเลย ทองไปสอนไป คนเรียน อึ้ง สิ ฮาๆ คนเรียนติดใจ คน
สอนก็สอนไปจนลาคลอดเลยละ เมาทมานาน มาตอคะ
พอเขาสูไตรมาสสอง ตําราทานวา คุณแมสวนมาก
จะหายจากอาการแพ ดูสดใส แข็งแรงเหมือนปกติ มีพลังใจ
ลึกๆ กวาปกติดวยซ้ํา ตอนนี้ทานวาเริ่มฝกได ทั้งวายน้ํา และ
สันทนาการอื่นๆ ที่ชอบ รวมถึงอาสนะ แตครูตองดูแลอาสนะ
ใหดีวา ควรเปนอาสนะกลุมใด ระหวาง ยืน นั่ง นอน
สําหรับแดง ฝกไดหลายหลายทานะ แตจะเลี่ยงทาที่
ตองนอนหงายเปนเวลานาน เชนทาศพ เพราะมดลูกเริ่ม
ขยายตัว หากนอนหงายนาน จะเกิดการกดทับไปที่เสนเลือด
ทําใหการไหลเวียนเลือดไมดี มีผลตอเจาตัวนอยในทอง ยิ่ง
ชวงปลายไตรมาสสอง
ก็ยิ่งรูสึกอึดอัดเวลานอนหงายราบ
นานๆ
และอยางที่พี่เละแนะนํา ทาที่ชวยบรรเทาการปวด
หลังคือทากระตายเด็ก ทาสุนัขบิดขี้เกียจก็ชวยไดดีมาก แดง
จะเมื่อยลาหลังสวนลาง และสะโพก เชิงกรานมากๆ รูสึกวา
ลูกจะอยูคอนมาทางซาย จะเมื่อยสะโพกซายมากกวาขวา
ชัดเจน เวลาที่ลูกดิ้นสัมผัสไดเลยวา ทองจะโยมาทางซาย ตน
ขาซายก็รูสึกชาๆ
ผิดกับขวาซึ่งไมรูสึกเจ็บชาแตอยางใด
(สงสัยโตขึ้น จะหัวเอียงซายรึเปลาเนี่ย)
ทาผีเสื้อก็เปนอีกทา ที่บริหารอุงเชิงกรานใหยืดหยุน
เตรียมพรอมไวสําหรับการคลอดเอง บางตําราทานวา ทานี้
ชวยตะลอมใหศีรษะเด็กลงสูอุงเชิงกรานไดอยางลงตัว แตทั้ง
แดงวาอยาไปเครียดเลยนะ วาฝกทานี้แลวยืนยันวาจะไดผล
เชนนี้ เชนนั้น เพราะไมวาจะกี่กระบวนทาหรือฝกมานาน
เทาไร หากลูกยังนอนในทาขวางหรือไมกลับหัวลง คุณหมอ
สูติฯ เคาตองพิจารณาผาอยูดี ซึ่งก็ปลอดภัยกับแมและเด็กนะ
ไมตองเสียใจวาฝกโยคะมาตั้งนาน
ก็คลอดเองไมไดอยูดี
(โยคะเคาไมผิดนา อิอิ)
อันวาดวยเรื่องคลอดเอง หรือผาคลอด การคลอด
เองก็คงเปนฝนของคนเปนแมละเนอะ ฉันกําลังจะเปนแม ฉัน
รัก ฉันทําได ทนได แลกไดทุกอยาง ไรเงื่อนไขและขอบเขต
การคลอดเองเปนกระบวนการธรรมชาติ ที่ปลอดภัยสําหรับ
แมและเด็ก แตมันก็เลือกไมไดนะ หากลูกเราในทองเปนสวน
นอยไมใชสวนใหญ ที่จะไมกลับหัว หรือขวาง หรือภาวะอื่นๆ
ที่คนทองอาจตองเจอ เชน รกเกาะต่ํา มีเนื้องอก มีภาวะความ
ดันสูง ฯลฯ การตัดสินใจผาก็คงเปนทางที่ปลอดภัยกวาการ
เบงคลอดเองนะ
แดงคิดวา ฝกโยคะ เพื่อฝกโยคะ เรียนรูความหมาย
ของโยคะใหลึกซึ้ง
คนหานิยามหรือแกนแทของโยคะใน
ความหมายของตัวเรา ไมใชเพื่อชวยใหคลอดงาย หรือ
แข็งแรง แมวาโยคะมีประโยชนมากมายตอชีวิตของเรา แตถึง
กระนั้น หากไมมีโยคะใหฝก เราก็สามารถรักษาดูแลรางกาย
ใหแข็งแรงได ไมวาจะเปนดวยอาหาร อารมณ หรือ การออก
กําลังกายอื่น ที่เราชื่นชอบ
พอมาไตรมาสสาม พุงที่โตขึ้นชัดเจน และการ
หายใจที่แรงขึ้น ทําใหทุกอิริยาบถเปนไปดวยจังหวะเนิบชา
แดงเริ่มฝกหายใจ ตอนนั้นยังไมไดเรียนปราณเลยคะ แตก็
ฝกหายใจยาวๆ ทั้งเขาและออก คิดเอาวามันจะชวยบรรเทา
ความปวดยามคลอดได ยิ่งชวงเขาสัปดาหที่ 30 เปนตนไป
การเดินเหินก็ไมเร็วเหมือนอยางเคย การฝกอาสนะในกลุม
การนั่งจะรูสึกสบายกวาการยืนหรือนอนคะ
พอชวงเขาหองคลอด มีแตลมหายใจเทานั้นที่ชวย
เราได ดวยความอวดดีของตัวเองนะ ฉันตองคลอดเองได ฉัน
จะไมรับยาใดๆ ขอเบงคลอดเองเทานั้น (ถายอนกลับไป จะ
ขอรับยาแกปวดบรรเทานะ มันไมสงผลกับลูกในทองหรอก
สุดโตงไปเองเรา) อูย ปวดทองหาใดปาน ใชลมหายใจลึกๆ
ทั้งเขาและออก ชวยบรรเทาความปวดไดดีเลยนะ แตไม
สามารถลุกขึ้นมาสลับขา หรือแขน หรืออาสนะอะไรไดเลย
นอนปวด ทนไปเรื่อยๆ ลมหายใจชวยไดมากตอนเบงคลอด
และการรับรูความรูสึกหลังเบบี๋ออกจากตัวเราไปแลว รูเลยวา
หมดแรง รูงี้ใชยาระงับปวด จะไดออมแรงไวบาง เพราะนับ
จากที่สายสะดือขาดจากกันไปแลว นั่นละคือสายสัมพันธของ
การเริ่มบทบาทใหม ลูกเกิด แมก็เกิด...
ตอนทอง เปนชวงเวลาแสนสุขของคนเปนแม ตอนนี้
กระแสโยคะก็ยังแรง
แดงวาเราก็ตองเลือกรับขอมูล
(Informed Consumer) ดวยนะ การตั้งครรภคุณภาพจะ
เกิดขึ้นได ตองประกอบดวยหลายอยาง หลักๆ สําหรับแดง
คือเรื่อง อาหารคะ ชวงทองเปนชวงเวลาที่เราตองเลือกกิน
อยางที่สุด ปริมาณแคอิ่มทอง กินจากสามมื้อเปนหกมื้อ
เพราะกินสามมื้อจะจุก แนนลิ้นป ยิ่งเดือนทายๆ นมแกวเดียว
ก็กินอยางอื่นตอไมไดแลว ตองซอยมื้ออาหารเอาเอง ประเภท
อาหารที่กินก็สําคัญ ผักผลไมเปนหลัก โปรตีนจากนมและถั่ว
ไมทานหมักดอง ไมน้ําอัดลม ไมชากาแฟ ไมขนมถุง ตอนนี้
พวกเราสถาบันโยคะ ก็หันมาใหความสําคัญกับอาหารแนว
ธรรมชาติ ซึ่งก็ดีกับคนทอง ทําใหทองไมผูก (คนทองจะมี
ปญหานี้อยูแลว) ถาไมแพทองแลวก็พิจารณาอาหารกอนกิน
ลงไป เพราะมันหมายถึงเราสองคนแมลูก ทองไว เพื่อ
เธอๆๆๆๆๆ ไมถุงพลาสติก (เลี่ยงใหไดมากที่สุดเทาที่จะทํา
1007 7
ได) ไมชูรส ไมเผ็ด ไมไมโครเวฟ แดงโชคดีมาก ชวงทอง
ตลอดเกาเดือน มื้อเชามีมามาคอยสงขาวใหกินในรถกอนไป
ทํางาน กลางวันมีเพื่อนทําปนโตมาใหถึงที่ เย็นกินขาวบาน
ออ มีตอนกลางวัน ที่เพื่อนๆ มักจะใชไมโครเวฟกัน เราก็วิ่ง
รอยเมตร ออกหางจากไมโครเวฟ ไปอยูคนละหองเลย (คิด
แลวยังขํา เพื่อลูก บราดีฟะเรา)
ชวงไตรมาสสุดทาย น้ําหนักจะมาเองเลย ฉะนั้น
ไตรมาสแรกกับสองไมตองใหน้ําหนักขึ้นเยอะ (น้ําหนักที่ดี
สําหรับคนทองคือ ขึ้นมาระหวาง 10-14 กิโล ทั้งนี้ขึ้นกับ
ดรรชนีมวลกาย :BMI กอนตั้งทองดวยนะ วากอนทองเราอวน
ไปหรือผอมไปหรือใชได) ไตรมาสสุดทายงดน้ําตาลและแปง
หรือใหนอยลงจะดีมาก บางคนน้ําหนักขึ้นมา 30 กิโล แตลูก
นอยออกมาแคสองโลสี่ก็มี
อันนี้ปญหาจะมาตกที่แมหลัง
คลอดนะ สวนของแดงขึ้นมา 10 กิโล ลูกออกมาสามโลสอง
คุณยายหมอสูติฯ ชม บอกวาเยี่ยมมาก หายากนะ ที่คนไขจะ
ทําไดพิกัดนี้ อูย ปลื้มๆๆ ชอบคําชม ฮาๆๆ
และเรื่องอารมณ ชวงทองจะออนไหวมาก จําไดวา
อานตนสมแสนรัก (ที่เคยอานหลายครั้ง) พออานตอนทอง
ทําไมรองไหไดขนาดนี้ฟะ เฮอ ตองเรียกอารมณกลับมา คือมี
สติหนอยนะ
ถารูตัววาออนไหวงาย
ตองไมจมอยูกับ
สถานการณนั้น อยางตอนนี้เหรอ ดูขาวจาเพียร เอกสมญา
ในทีวี โห รองไหเปนเตาเผา ทั้งที่ไมผูกพันไมรูจักกับเคาเลย
พอภาพเขามาพรอมเพลง ขอฝนใฝ ในฝนอันเหลือเชื่อฯ โห
สงสาร คิดไปเรื่อย ทําไมชีวิตคนเปนงี้ (ฟะ) รองไหสะอื้นฮักๆ
แบบไมรูตัว อือ อารมณคนทองนี่ไวใจไมไดจริงๆ เลย
สวนโยคะ ตอนนี้หลังจากที่ผานมาหลายป เรารู
แลววาโยคะเปนเรื่องที่ไกลไปกวาอาสนะ ฉะนั้น จึงไมกังวล
กับทวงทาและจํานวนการฝกอาสนะ
แตจะใหความสําคัญ
ตอนลูกคลอดออกมามากกวาวา โยคะจะชวยขจัดอารมณขุน
มัวในยามที่ตองนอนดึก หรืออดนอนทั้งคืนไดยังไง จะรักษา
อารมณใหดีตลอดซีนยังไง และจะเตรียมสุขภาพของตัวเองให
ดีไดยังไง หากตองอดนอนเปนเวลาหลายเดือน จึงหมั่นทอง
ไวแตเนิ่นๆ รักเธอใหมาก กอดเธอเขาไว อยางที่เคยอานมา
วา
“Before becoming a mother I had a hundred
theories on how to bring up children. Now I have seven
children and only one theory: Love them, especially
when they least deserve to be loved. “ Kate Samperi
กอนจะเปนแมคน ฉันมีทฤษฎีเปนรอยวาดวยการเลี้ยง
ลูก ตอนนี้ฉันมีลกู เจ็ดคน และเหลือเพียงทฤษฎีเดียวคือ รักพวก
เขา โดยเฉพาะเวลาที่แทบจะหาความนารักมิได เคท แซมเพริ
โดย ล.เลง เสียงกระดิ่งหยก (ไมใชมังกรบิน)
ทาคันไถครึ่งตัว
อาสนะในกลุมทากลับบนลงลาง
กลับบนลงลาง – กลับไปทําไม
สําหรับคนที่อยากเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนนิสัย เปลี่ยน
ความเคยชิน แลวก็ยังไดแคอยาก แตยังเปลี่ยนอะไรไมไดสัก
ที เพราะเรามักหลงไปตกรองเดิม ๆ อยูเสมอ เราขี้กลัว ไม
กลาเสี่ยง ไมกลาคิด ไมตัดสินใจ สับสน โกรธงาย เปนทาส
ของอดีตมาตลอดชีวิต A.G. Mohan แนะนําวาใหลองฝก
อาสนะในกลุมทากลับบนลงลาง (Yoga for Body, Breath,
and Mind p.109-124)
เพราะหากเราสามารถเอาชนะความกลัว จากการ
ทําอาสนะได เราก็อาจเอาชนะความกลัวในบริบทอื่นของชีวิต
ได เพราะกายใจมันติดกันอยู ถากายทําไดแลวใจก็อาจทําได
ตามไปดวย
แตหากเราตองไปสอนนักเรียนที่ยัง กลัว ๆ กลา ๆ
อยู ก็ควรจะเตรียม Sequence หรือชุดทาอาสนะเพื่อเตรียม
ความพรอมกอนก็จะดีไมนอย ไมอยางนั้น อาจมีการบาดเจ็บ
ที่คอ หรือหลังก็ได
เราอาจใหนักเรียนเริ่มจากทางาย ๆ เชน นอนราบ
กับพื้น แลวยกเทาขึ้นวางพักบนเกาอี้ แคใหเทาอยูเหนือ
ศีรษะ ก็นับวาเปนกาวแรกสูการฝกทากลับบนลงลางแลว
นอกจากประโยชนทางใจแลวยังมีประโยชนอื่นๆ คือ
เผาขยะ (Impurities)*
ในโยคะและอายุรเวท บอกวา ที่ทองสวนลาง (กะ
เอาวานาจะเปนแถว ๆ ใตสะดือ) มีขยะอยูกองหนึ่ง ขางบน
กองขยะนี้ก็มีไฟอัคนีอยูหนึ่งกอง ไฟจะเผาขยะที่เขามาใกล ๆ
ตามปกติ แรงโนมถวงของโลกจะ ดึงขยะกองนี้ให
ตกลงมาที่ทองสวนลางไฟก็เลย เผาขยะไมหมด แตพอเราเอา
ขาชี้ฟา ขยะในทองเราก็จะตกลงไป ใหไฟเผาขยะพอดี เราก็
จะแข็งแรงดี และไมปวย
เลือดคั่งที่ขา (คั่งนาน ๆ ชาวบานเรียกวา เสนเลือดขอด)
แคยกขาขึ้นสูง พักไวบนเกาอี้ หรือพาดบนกําแพง
เลือดที่คั่งคางในเสนเลือดดํา ก็จะไหลกลับมาฟอกที่ปอดได
1007 8
งาย เปนการลดภาระของเสนเลือดดํา จะไดไมตองทํางาน
มาก ระบบไหลเวียนของเลือด จะไดไมเหนื่อย
สุขภาพดี
สําหรับทากลับบนลงลาง ที่ยาก ๆ เชน ศีรษะ
อาสนะ ถาเราทําไดโดยที่ยังคงหายใจไดลึกและยาว
ก็แปลวา เรายังมีสุขภาพดี หรือ จะแปลกลับเปนวา
อาสนะนั้นทําใหเรามีสุขภาพดี แตคนทอง คนที่มีความดัน
เลือดต่ํา มีอาการเจ็บปวดที่คอ หรือเคยบาดเจ็บที่คอมากอน
อาจตองระวังสักหนอย
สวนมากที่ TYI สอนทาพื้นฐานก็มีเพียงทา คันไถ
ครึ่งตัว เราเพียงแคยกขาขึ้น โดยที่กนยังคงแตะพื้นอยู เลยไม
คอยอันตราย แตขนาดไมอันตราย อ.คมปกรณ ยังวา คนที่
กลามเนื้อหนาทอง และกลามเนื้อหลังไมมีแรง ยังรองโอดโอย
(1) เพราะ แอนหลัง (เอว) ชดเชย ทําใหปวดหลัง
ดังนั้นเวลาฝกก็ตองเฝาสังเกตุนักเรียนของเราใหดี หามแอน
เอวเปนอันขาด ถาไมมีแรงจริง ๆ ใหงอเขาชวย แลวคอย
เหยียดเขาออกไป
เราอาจบอกใหนักเรียน “แขมวทอง กดเอวแนบพื้น”
กอนยกขาขึ้นก็จะชวยใหหลังปลอดภัยไดนะ .... เลงวา
(2) เสนประสาท
- บางคนมีปญหาเสนประสาทตึงมาก พอถูกดึงมาก
ๆ ดึงไปจนถึงกานสมอง ก็เลยปวดหัว
- พอเสนประสาท ไมอยากใหเรายืดออกไป มาก
กวานี้อีกแลว กลามเนื้อมันจะเกร็งตัวไว เพื่อปองกันภัยไมให
เสนประสาทขาด บางคนกลามเนื้อคอ กลามเนื้อหลัง ตึงแข็ง
ขึ้นมาเปนลําเลย เอามือไปคลําดูก็ได
- ถาเสนประสาท สวนปลาย (ที่ตอมาจากกระดูกสัน
หลังบริเวณอก) อักเสบ เราจะรูสึกแสบ ๆ ซา ๆ เมื่อเรา
เคลื่อนไหวหรือเอียงตัว
หนาไมแก แลดูออนเยาว
มีคําถาม เรื่องทําทากลับบนลงลางแลว หนาไมแก
อาจารยคมปกรณ อธิบายวา.. “ทาคันไถ ครึ่งตัว ทําใหเลือด
ไหลมาเลี้ยงที่ใบหนา ทําใหเซลและเนื้อเยื่อ บริเวณใบหนา
ไดรับ อาหารดี ก็มีแนวโนม ที่จะทําใหแลดู ออนเยาว”
แปลวา เทียบกับเพื่อน รุนเดียวกันแลว ดูไมแก กอนวัย ไมได
แปลวา จะเปน อมตะแบบสาว 2,000 ป นะ
Flip Flop Injury และ ผาตัดกระดูกคอ
คนที่เคยประสบอุบัติเหตุ เชน รถชน และศีรษะ
สะบัดกลับ ทําใหเนื้อเยื่อรอบ ๆ คอบาดเจ็บ คนที่เคยผาตัด
กระดูกคอ (ไมวาจะเปน เพราะ กระดูกหัก (Flip Flop Injury) -รอยโรคเดิมจาก อุบัติเหตุ และการผาตัดกระดูกคอ
หมอนรองกระดูกเคลื่อน หินปูนเกาะ) ทั้ง 2 กรณีนี้จะทําให -เสนประสาท ตึงจนปวดหัว, กลามเนื้อเกร็งเกินไป, มีอาการ
คอไมสามารถ เคลื่อนไหวตามธรรมชาติ เวลาฝกทากลับบน แสบ ๆ ซา ๆ
ลงลาง จะตองระวังที่คอมาก ๆ ใหฝกตามสภาพของตนเอง
สุดทายนี้ ก็ขอใหทานผูอานมีความสุขกับทาอาสนะ
คุณครูทั้งหลายอยาเขาไปชวยจับ ชวยดัด จะไมปลอดภัย
กลับบนลงลาง อยาไดเปนเหมือนเลง ที่เคยคอปวดเปนเดือน
ๆ เพราะฝกวิปริตะกรณี มุทรา ครั้งละ 2 นาที เลยนะ ขอให
สรุป
กลับบนลงลาง กลับไปทําไม ก็กลับแลวมันตื่นเตนดี แคลวคลาดและโชคดีนะ..... โอมเพี้ยง
ไดมองโลกในอีกมุมหนึ่ง แกโรคขี้กลัว (จําไดวาครั้งแรกที่เลง *ปล. Impurities แปลวา สิ่งที่ไมบริสุทธิ์ แตเลงเรียก เอาเอง
ทําศีรษะอาสนะได ก็ตื่นเตน เหมือนกัน)
วา “กองขยะ” เพื่อใหเขาใจงาย
ไดเผาขยะ มีเลือดฝาดที่หนา แกเลือดคั่งที่ขา * ทากลับบนลงลาง มีคุณสมบัติ แบบ High Risk, High
สุขภาพแข็งแรง
Return ประโยชนมาก แตความเสี่ยงสูง ถาใครยังไมพรอม
หรือตนทุนยังไมพอ ก็อยาเพิ่งเสี่ยงเลยดีกวา
ตองระวัง
-เอวแอน เพราะกลามเนื้อ(ที่ใหยกขา) ไมแข็งแรง
______________________________________________________________________________________________
โยคะบําบัดอาการทางจิต
หลังจากไปอบรมการพยาบาลเฉพาะทางสุขภาพจิต
และจิตเวช ที่โรงพยาบาลสมเด็จเจาพระยา เปนเวลา 4
เดือน วันนี้มาทํางานวันแรก ไดมีโอกาสใหคําปรึกษาผูปวย
รายหนึ่งชวงบายโมง เนื่องจากตอนเชาอยูคลินิกยาตานไวรัส
คนเดียว ไมสามารถทิ้งคลินิกไปได ผูปวยยินดีรอตั้งแตเชา
คิดวาปญหาคงหนักพอสมควร ผูปวยระบุขอปรึกษาจิตแพทย
แตเนื่องจากโรงพยาบาลอาวอุดม
จะมีจิตแพทยจาก
โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวีมาตรวจใหเฉพาะวันศุกร
เทานั้น หลังจากทานอาหารเที่ยงเรียบรอย จึงรีบไปพบผูปวย
ซึ่งกําลังนั่งรออยูที่ OPD
ผูปวยเลาวา รูสึกผิดที่พูดกับเพื่อนวา “ไปตายซะ”
หลังจากนั้นเพื่อนก็กินยาฆาตัวตาย (สําเร็จ) เมื่อ 5 เดือนที่
แลว หลังจากนั้นผูปวยนอนไมหลับเลย ฝนเห็นเพื่อนตลอด
รองไหตลอด ไมสามารถทําใจได ไดปลอยใหผูปวยไดระบาย
เนื่องจากผูปวยบอกวาไมกลาปรึกษาใครเลย เพราะรูสึกผิด
ไดใชกระบวนการเทคนิคใหคําปรึกษา และโยคะ
อาสนะที่ร่ําเรียนมาจากสถาบันโยคะวิชาการ มาใชในการดูแล
ผูปวย พาผูปวยทําทาโยคะงายๆที่หองใหคําปรึกษา หลังทํา
ผูปวยพูดวา เมื่อกอนเวลาเจ็บปวดตามรางกายมักคิดวาผีของ
เพื่อนมาทํา มากดรางกายไว แตเมื่อกี้รูสึกตัว(ไดสติ)แลววา
การที่รางกายตึงมากเพราะรางกายไมแข็งแรง ไมยืดหยุน
มากกวา และจากพูดคุยผูปวยบอกวารูสึกดีขึ้น เริ่มมองเห็น
แสงสวางที่ปลายอุโมงค รูแลววาตนเองวิ่งหนีความคิดตลอด
แลวก็หนีไมได เหนื่อยมาก รูแลววาตนเองไปจมอยูกับ
1007 9
โดย จิ๊บ
อารมณเศรา และความคิดที่รูสึกผิด จนคิดอยากฆาตัวตาย
ไดชวนผูปวยคิด วา เหตุการณหนึ่งที่เกิดขึ้น นั้นมันมี เหตุ
ปจจัยมากมาย มันตอเนื่องเกี่ยวพันกันมาเรื่อยๆ ไมใชแค
สาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง เทานั้น ถาคําพูดนี้ทําใหคนตายได ถามี
คนบอกหมอใหไปตายซะ ทําไมหมอไมกินยาตายละ จริงอยู
คําพูดนี้อาจมีสวนบางแตอาจไมใชทั้งหมด
ผูปวยเริ่มเห็นดวย บอกวาจริงๆแลว เพื่อนทุกข
หลายอยาง จากคนรอบๆตัวเขา ไมใชเพราะตัวผูปวยเอง
ผูปวยเริ่มมองมุมมองใหม
ซึ่งแตเดิมผูปวยคิดอยางเดียว
เพื่อนตายเพราะตนเอง คําพูดตนเองฆาเพื่อน
หลังจากใหคําปรึกษา ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ผูให
คําปรึกษารูสึกดีใจ อยางนอยก็ชั่วขณะหนึ่งทําใหผูปวยไดสติ
ขึ้นมา แตไมไดวางใจแคนี้คะ ยังนัด Follow up ตอเนื่อง หวัง
วาตนเองจะเปนกัลยาณมิตรของผูปวย ชวยชี้แนะทางสวาง
ใหกับชีวิตซึ่งกําลังมืดมิด ไมรูทางออกของชีวิต อยูที่ใด แม
วันนี้ผูปวยแคเห็น แสงสวางที่ปลายอุโมงค ก็ดีกวาไมเห็น
อะไรเลย
วันนี้ดีใจที่ไดเปนพยาบาล ที่ดูแลดานจิตใจใหกับ
ผูปวย ดีใจที่ไดรูจักโยคะที่แทจริง และเราสามารถชวยผูปวย
ไดตลอดเวลา หากเราเขาใจอยางถองแทและปฏิบัติจนอยูใน
วิถีชีวิตของเรา ถาเราเขาใจโยคะเราไมกลาทิ้งโยคะแนนอน
เพราะโยคะคือเครื่องมือพาคุณออกจากทุกข และพาผูอื่นออก
จากทุกขไดเชนเดียวกัน เสมือนลมหายใจเปนเครื่องมือของ
อานาปานสติ
ดวยระลึกถึงคุณครู จิ๊บ (ญาดา) ศรีราชา 2 มิ.ย. 53
โดย วีระพงษ ไกรวิทย และจิรวรรณ ตั้งจิตเมธี แปลและเรียบเรียง
กระบวนการภาวนานี้ดําเนินไปอยางสมบูรณ จิตตะผูหยั่งรูกับ
การเดินทางดานในของจิตตะ
วัตถุที่ใชในการหยั่งรูจะกลายเปนหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นจึงไมมี
ในขั้นสมาปตติ(สมาบัติ) และสมาธิ
เมื่อผูฝกปฏิบัติเขาถึงจิตตประสาทนะหรือสภาวะอัน ความแตกตางระหวางทั้งสองสิ่ง (ผูรูกับสิ่งที่ถูกรู) รวมถึง
สงบสุขแหงจิต จากการปฏิบัติตามแนวทางของโยคะสูตรใน กระบวนการหยั่งรูก็ไมอาจแยกออกจากสองสิ่งนี้ได นั่นคือ
โศลกที่ ๑:๓๓ ถึง ๑:๔๐ แลว ลองมาดูกันตอวาโศลกถัดไปป ความหมายของวลี ครหีตฤ-ครหณะ-คราหเยษุ ตัตสถะตัญชลีกลาวถึงอะไร “กษีณวฤตเตร-อภิชาตัสเยวะ มเณร- ตทัญชนตา ซึ่งการหลอมรวมของทั้งสามสวน (ผูรู สิ่งที่ถูกรู
ครหีตฤ-ครหณะ-คราหเยษุ ตัตสถะ-ตทัญชนตา สมา และกระบวนการรู) ถือเปนอันหนึ่งอันเดียวกันอยางสมบูรณ
เมื่อทั้งสามสวนไดหลอมรวมเปนหนึ่ง
ปตติห” (๑:๔๑) แปลวา ในกระบวนการที่ทําใหวัตถุ(ที่ถูก พูดอีกอยางหนึ่งวา
หยั่งรู) ผูหยั่งรู และการหยั่งรูหลอมรวมเปนหนึ่งเดียวกัน ณ เดียวกันแลว ก็จะไมมีการทํางานของตัวกระบวนการ(รู)อีก
ที่ใดที่หนึ่ง คุณสมบัติตางๆ หรือผลของกระบวนการรวมเปน ตอไป
กระบวนการหลอมรวมเปนหนึ่งเดียวอยางสมบูรณ
หนึ่งเดียวกันนั้นก็จะปรากฏออกมา เปรียบเหมือนอัญมณีที่
สมบูรณไรตําหนิ
ถูกวางลงบนพื้นผิวที่ใดที่หนึ่งซึ่งมันไม ของผูรูและสิ่งที่ถูกรู รวมถึงคุณสมบัติที่เกิดขึ้นจากกระบวน
เพียงแตจะยึดครองพื้นที่นั้นเทานั้น แตยังยึดครองเอาคุณสม การนี้อยางครบถวนสมบูรณจะเกิดขึ้นไดเฉพาะในกรณีที่พฤติ
บัติตางๆ ของมันไวดวย ครั้นเมื่อพฤติ(หรือการปรุงแตงซัด ของจิตออนกําลังลง นั่นคือพฤติของจิตเกิดขึ้นไดคอนขางยาก
สาย)ของจิตไดออนกําลังลงแลว
จิตจะเปนอภิชาตะหรือมี และมีกําลังออนเสียจนกระทั่งไมสามารถรบกวนจิตได (ทําให
ความใสบริสุทธิ์อยางยิ่ง ซึ่งในสภาวะเชนนี้เรียกวา สมาปตติ จิตมีคุณสมบัติที่ใสบริสุทธิ์อยางยิ่ง ตรงกับที่ปตัญชลีใชคําวา
2
1
“อภิชาตะ” -ผูแปล)
(Samapatti)
เพื่ออธิบายปรากฏการณนี้ใหเขาใจยิ่งขึ้น จึงมีการ
อรรถกถาจารยเกือบทั้งหมดไดแปลความหมายของ
คําวา “สมาปตติ” เหมือนกับคําวา สมาธิ แตการแปลเชนนี้ ยกตัวอยางอัญมณีหรือคริสตัลที่ไรตําหนิ เมื่อนําอัญมณีนั้นไป
นับวาผิดทีเดียว ทั้งสองคําเปนศัพทเทคนิคในโยคะศาสตร ถา วางไวบนพื้นผิวสี อัญมณีก็จะดูดซับสีจากพื้นผิวที่รองรับมัน
ศัพทสองคํานี้แปลความหมายแลวเปนคําเดียวกัน
และ ไวราวกับวาอัญมณีนั้น ไดหลอมรวมหรือกลายเปนสวนหนึ่ง
เหมือนกัน
หมายความวาศัพทสองคํานี้ถูกสรางขึ้นเพื่อ ของพื้นผิวสีอันนั้นไป ยิ่งอัญมณีนั้นไรตําหนิมากเทาไร การ
หมายถึงสิ่งเดียวกัน ซึ่งเปนเรื่องที่ไมควรจะเกิดขึ้นในทาง หลอมรวมก็จะยิ่งเขาใกลความสมบูรณมากเทานั้น การสง
วิทยาศาสตร
โดยเฉพาะปตัญชลีไมควรจะทําสิ่งผิดพลาด ผานของแสงเขาไปในอัญมณีก็จะยิ่งสมบูรณ ซึ่งหมายความ
อยางรุนแรงเชนนั้น ถาศัพทสองคํานี้มีความหมายเดียวกัน วาอัญมณีไดดูดซับสีของพื้นผิวที่รองรับไดทั้งหมด (ถามณีนั้น
เขาควรจะใชคําใดคําหนึ่งเพียงคําเดียว
แตนั่นก็ยังไมใช มีตําหนิแมเพียงนอยนิด การสงผานของแสงก็จะไมสมบูรณ)
กระบวนการหลอมรวมทั้งหมดหรือสมาปตตินี้เปน
ประเด็น คําวาสมาปตติและคําวาสมาธิมีความเกี่ยวของกัน
อยางใกลชิดมาก แตก็มีความแตกตางกัน คําวาสมาปตติ กระบวนการเปลี่ยนแปลงอยางตอเนื่อง โดยบรรลุถึงสภาวะ
สามารถแยกคําออกเปน สัม (คําอุปสรรคเติมหนาคําหลัก หรือขั้นตอนตางๆ หลายขั้นตอนดวยกัน และเพื่อทําความ
เราอาจจะแบงสภาวะหรือ
หมายถึงความสมบูรณ) + อา (หมายถึงไปสู หรือใน) + ปต เขาใจกระบวนการนี้ใหชัดเจน
(หมายถึงตก) + ติ (คําปจจัยเติมทายคําหลักหมายถึงการ ขั้นตอนที่แนนอนไวจํานวนหนึ่ง กระบวนการสมาปตติจึงถูก
เคลื่อนไหวหรือกระบวนการ) ดังนี้คําวาสมาปตติแปลความ แบงออกเปนสี่สภาวะดวยกัน เราอาจกลาวถึงสภาวะหลักสอง
ตามตัวอักษรจึงหมายถึง กระบวนการหลอมรวมของจิตตะ อยางโดยแตละอยางยังแบงออกเปนสองสภาวะยอยดวย สมา
เขากับวัตถุที่ใชในการภาวนาหรือคราหยะอยางสมบูรณ เมื่อ ปตติที่สําคัญสองอยางแรกตามลําดับคือ วิตรรกะ(Vitarka1
สมาปตติเปนคําสันสกฤต ในทางพุทธ(บาลี) ใชคําวา สมาบัติ แปลวา ถึง
พรอม หมายถึงการเขาถึงอารมณของสมาธิในระดับฌาน สมาบัติมี ๘
อยาง ไดแก รูปฌาน ๔ และอรูปฌาน ๔ (ที่มา
http://www.larnbuddhism.com/grammathan/meditation.html)
1007 10
2
อภิชาตะหรืออภิชาติ หมายถึง การเกิดในตระกูลสูงหรือเกิดมาเปนผูมี
คุณธรรมศีลธรรมสูง เปนบุคคลอันประเสริฐ เปรียบไดกับผูที่ฝกจิตมาดีแลว
จนจิตมีความใสบริสุทธิ์อยางยิ่ง อุปมาเหมือนอัญมณีที่ไรตําหนิ มีคุณคา
และมีความงดงามมาก
3
วิตก) และวิจาระ(Vicara-วิจาร) ซึ่งแตละอยางแบงแยกยอย
ออกเปน สวิตรรกา-นิรวิตรรกา(Savitarka-Nirvitarka) และ
สวิจารา-นิรวิจารา(Savicara-Nirvicara) (รวมเปน ๔ สมา
ปตติ)
เมื่อผูปฏิบัติบําเพ็ญเพียรไปจนสิ้นสุดกระบวนการ
ทั้งหมดนี้ก็จะเขาถึงสภาวะที่คงความสงบนิ่งแทบจะไมเปลี่ยน
แปลงเปนระยะเวลาหนึ่ง และสภาวะสงบนิ่งโดยเปรียบเทียบ
นี้ก็คือ
ผลของกระบวนการสมาปตติทั้งสี่ขั้นตอนนั่นเอง
สภาวะอันสงบนิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไดรับการตั้งชื่อวา
สมาธิ
(Samadhi) และสมาธินี้ก็เปนจุดหมายปลายทางของสมาปตติ
ทั้ง ๔ ขางตน ซึ่งเรียกวา สพีชะ สมาธิ (Sabija Samadhi)
ตามที่ระบุไวในโศลก ๑:๔๖ (ซึ่งจะกลาวถึงรายละเอียดใน
ตอนตอๆ ไป) ดังนั้นเราอาจกลาวไดวาผลของกระบวนการ
สมาปตติก็คือ สมาธิ อยางไรก็ตามเงื่อนไขดังกลาวอาจจะไม
เปนจริงในทางตรงกันขามกลาวคือ
สมาธิทุกชนิดไม
จําเปนตองเปนผลมาจากกระบวนการของสมาปตติ เชน นิรพี
ชะ สมาธิ (Nirbija Samadhi) ไมไดเกิดขึ้นจากกระบวนการ
สมาปตติ อยางนอยก็ตามที่บอกไวในปตัญชลีโยคะสูตร
อรรถกถาจารยบางทานไดกลาวถึงสมาปตติอีกสอง
อยางคือ สานันทะ และ สาสมิตา อยางไรก็ตามปตัญชลีไมได
กลาวถึงสองสิ่งนี้ และคําจํากัดความของทานที่มีตอคําวาสมา
ปตติก็ไมไดสอดคลองกับความหมายของสองคํานี้ ทั้งอนันทะ
และอสมิตา(Ananda and Asmita) ตางก็เปนความรูสึกหรือ
การรับรูของตัวจิตเอง ซึ่งที่จริงมันไมไดมาจากวัตถุภายนอก
หรือวัตถุที่เลือกขึ้นมาสําหรับการทําสมาธิ ดังนั้นเมื่อจิตตะ
กาวพนจากสภาวะของวิจาระเขาสูสภาวะอนันทะ มันก็ไมได
เปนการหยั่งรูโดยตรงไปที่วิสัย (หรือวัตถุที่ถูกเลือกไวสําหรับ
การทําธารณา ธยานะ และสมาธิ) แตจิตตะกําลังรับรูสภาวะ
อนันทะ ซึ่งในความเปนจริงแลวเกิดขึ้นนอกกระบวนการสมา
ปตติ ดังนั้นสภาวะที่รับรูนี้จึงไมไดเปนเรื่องของการหลอมรวม
ของผูรูกับวัตถุที่ถูกรู และดังนั้นจึงไมสามารถจัดเขาเปนสมา
ปตติใดๆ ได เปนที่เขาใจกันอยางชัดเจนวา ตามคําอธิบาย
ของปตัญชลีนั้น ไมมีสมาปตติเกิดขึ้นหลังจากที่จิตตะกาวพน
จากสภาวะนิรวิจาระ สมาปตติ และดังที่กลาวมาขางตนแลว
วาไมมีสมาปตติในภาวะกอนหรือระหวางนิรพีชะ สมาธิ
3
ภาวะจิตที่เปนสมาธิมีความประณีตชัดเจนผองใสและมีกําลังมากนอย
แตกตางกันหลายระดับ ความตางของระดับนั้นกําหนดดวยคุณสมบัติของจิตที่
เปนองคประกอบรวมของสมาธิในขณะนั้น องคประกอบเหลานี้ไดแก วิตก
(การจรดจิตลงในอารมณ) วิจาร (การที่จติ เคลาอยูกับอารมณ) ปติ (ความอิ่ม
ใจ) สุข อุเบกขา (ความมีใจเปนกลาง) และเอกัคคตา (จิตมีอารมณแนวแนเปน
หนึ่งเดียว) (ดูเพิ่มเติมในพระธรรมปฎก, 303)
1007 11
ตามที่ไดเคยกลาวไวในโยคะสูตรโศลกที่ ๑:๑๗ ไมมี
ที่ใดที่ปตัญชลีกลาวถึงความหลากหลายของสมาธิ อันไดแก
สวิตรรกะ นิรวิตรรกะ สวิจาระ นิรวิจาระ สานันทะ และสาสมิ
ตา
มีเพียงอรรถกถาจารยบางทานที่กลาวถึงสิ่งเหลานี้ใน
ฐานะขั้นตอนตางๆ ของสมาธิ และขั้นตอนยอยของสัม
ประชญาตะ สมาธิ ในความเปนจริงแลวคําเหลานี้ไมเคยอยู
ในปตัญชลีโยคะสูตรเลย มีเพียงสองคําที่ใกลเคียงกับขั้นตอน
ที่กลาวไวในสมาปตติคือ สวิตรรกะ และสวิจาระ
ในปรัชญาสายเวทานตะไดกลาวถึงสองขั้นตอนของ
สมาธิซึ่งเปนที่นิยมกันคือ
สวิกัลปะ
และนิรวิกัลปะ
(Savikalpa and Nirvikalpa) ทั้งสองคํานี้เปนคําที่แปลกแยก
จากปตัญชลีโยคะสูตรโดยสิ้นเชิง คําวา วิกัลปะ เปน
ศัพทเทคนิคในโยคะสูตรมีความหมายวา ความเพอฝนหรือ
จินตนาการ (อางในโศลก ๑:๙) ดังนั้นทั้งสองคําขางตนจึง
หมายถึง เต็มไปดวยความเพอฝนหรือจินตนาการ และ
ปราศจากความเพอฝนหรือจินตนาการตามลําดับ อรรถกถา
จารยบางทานที่โนมเอียงไปทางปรัชญาเวทานตะ ไดเทียบ
เคียงความหมายของคําวา สวิกัลปะ เทากับ สพีชะ และนิรวิ
กัลปะ เทากับ นิรพีชะ แตการเทียบเคียงเชนนี้ก็ไมถูกตอง
เพราะการฝกสมาธิทั้งสามขั้นตอน ที่กลาวถึงในปตัญชลีโยคะ
สูตรนั้นหลีกเลี่ยงที่จะเขาไปเกี่ยวของกับความเพอฝน หรือ
จินตนาการใดๆ หรือการฝกสมาธิดังกลาวทั้งหมดนั้นเปนนิรวิ
กัลปะตามคําอธิบายของปตัญชลีโยคะสูตรนั่นเอง
เอกสารอางอิง :
๑. Karambelkar, P. V. (1986). PATANJALA YOGA SUTRAS
Sanskrta Sutras with Transliteration, Translation &
Commentary. Lonavla : Kaivalyadhama.
๒. พระธรรมปฎก (ป.อ. ปยุตฺโต) (๒๕๔๓). พุทธธรรม.
กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
แผนภูมิ โครงสราง ปตัญชลีโยคะสูตร
__________________________________________________________________________________
โคริงกะ – ดอกไมแหงแสงอันยิ่งใหญ
ศิลปะบําบัดการจัดดอกไมโคริงกะ ในงานสานจิตร
เสวนา ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2553 ที่ผานมา เมื่อ
แรกไดยินชื่อหัวขอการอบรมในหองยอยเรื่องนี้ รูสึกนาสนใจ
เปนอยางมาก และเมื่อไดมีโอกาสเขามารวมก็ไมรูสึกผิดหวัง
เลย กิจกรรมนี้จัดโดยมูลนิธิ MOA ไทย ซึ่งตนทางของมูลนิธิ
นี้ คือ ทานโมกิจิ โอกาดะผูปรารถนาการใชชีวิตอยางเปน
ศิลปะ ไดใหความสนใจ “ดอกไม” ที่มีพลังชีวิตตามธรรมชาติ
เปนผลึกแหงความงามตามธรรมชาติ และนําดอกไมมาใช
ประโยชนในการดํารงชีวิตและการบําบัดรักษา
ศิลปะบําบัดเปนการปฏิบัติ ที่มีวัตถุประสงคในการ
“บําบัดรักษา”
ความเครียดที่มีกันอยูมากมายของปจเจก
บุคคล ครอบครัว และสังคมปจจุบัน ดวยวิธีการจัด “ดอกไม
โคริงกะ” ที่ทานโอกาดะเปนผูนําเสนอ ตามทฤษฎีแหงศิลปะ
ของโอกาดะซึ่งเรียบงาย
แตมีความลึกซึ้งถึงความเขาใจ
ธรรมชาติอยางยากจะบรรยาย ชวยในการเยียวยาจิตใจผูคน
ไดอยางเหลือเชื่อ แมในเวลาอันสั้นที่มีโอกาสไดสัมผัส ยัง
ชวยใหเกิดความรูสึกดีๆ ไดไมยากเย็น
ทานโอกาดะ กลาวถึงเรื่องอิทธิพลของความงามวา
มนุษยเราเมื่อไดเพลิดเพลินและสัมผัสกับความงาม อาทิเชน
ดอกไม ศิลปะวัตถุ ทัศนียภาพอันงดงาม จะทําใหจิตใจราเริง
สดใส ลืมความทุกข และเกิดความหวังที่จะตอสูตอไป อีกทั้ง
1007 12
โดย วรรณวิภา มาลัยนวล
ยังสงผลที่ดีตอระบบสมอง ทําใหสมองหลั่งฮอรโมน ซึ่งจะ
นําไปสูการมีสุขภาพดีทั้งจิตและกาย
การเพลิดเพลินกับ
ความงามอยูเสมอในชีวิตประจําวัน จะทําใหจิตใจแจมใส ไม
ทอแท และมีความหวัง แลวยังสงผลใหมีจิตใจเอื้ออาทรตอ
ผูอื่น กิริยาวาจาก็งดงามตามไปดวย และเมื่อจิตใจ และกิริยา
วาจางดงาม ก็จะทําใหเกิดสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว ที่
ทํางาน และในหมูมิตรสหาย
ทานโมกิจิ โอกาดะ มีแนวคิดที่วา “ความงามจะทํา
ใหจิตใจงดงาม การดําเนินชีวิต และสังคมก็จะงดงาม
กลาวคือ การเพลิดเพลินความงาม จะทําใหความเจ็บปวย
ความขัดสนหมดไป เกิดเปนความสุข”
ในศิลปะการจัดดอกไมแบบโคริงกะ จะมองวาพืช
ทุกชนิดไมวาจะเปน ดอกไม กิ่งไม ตนหญาตางก็มีชีวิตจิตใจ
จึงสื่อสารกับจิตใจและคําพูดของมนุษยได เมื่อไดทราบเรื่องนี้
และปฏิบัติกับพืชดวยความรักแลว จะทําใหมีชีวิตชีวา และอยู
ไดนาน เวลาที่เราไดคนพบตําแหนงที่งดงามที่สุดของดอกไม
และรูสึกประทับใจวางามจริงๆ จากใจแลว จะสงผลใหเพิ่มสงา
ราศีใหแกทั้งตัวเราและดอกไม
ในขั้นตอนการฝก เหลาอาสาสมัครของ MOA ซึ่ง
เปนผูที่มีประสบการณในการจัดดอกไมแนวทางนี้ไดแยกยาย
กันประจําโตะของผูเขาอบรม เพื่อชวยใหคําแนะนํา แตกอนที่
จะเริ่มจัดดอกไมกันทางทีมงานก็ไดนําภาพ slide สวยๆ ของ
ดอกไมที่งดงามตามธรรมชาติ ทั้งสี่ฤดูกาล มาใหชมกันพรอม
กับเพลงบรรเลงประกอบอันไพเราะ
ชวยสรางบรรยากาศ
ภายในหองอบรม ใหอบอวลไปดวยความงามแหงธรรมชาติ
ผานทางจักษุประสาทและโสตประสาท
หลังจากนั้นก็ไดเวลาเริ่มฝกปฏิบัติ
ขั้นตอนการ
เรียนรูในการจัดดอกไมแบบโคริงกะแบบพื้นฐานในวันนี้ เริ่ม
ดวยการสาธิตโดยทีมงานซึ่งทานไดเลือกแจกันทรงสูงใหญ
แลวเลือกกิ่งเข็มสีขาวที่ตัดมาใหมๆ บรรจงหามุมที่สวยที่สุด
ของดอกไมและกิ่งไม ปกลงไปในแจกัน จากนั้นทานก็คอยๆ
บรรจงคัดสรรดอกลิลลี่สีชมพูสวยสด เลือกมุมที่สวยที่สุดและ
ปกเขาแซมทีละดอก ๆ จนปรากฏเปนแจกันใหญอยูหนา
หองประชุม ที่ลงตัวเหมาะสมกับที่ดอกไม ใบไม ทุกดอกทุก
ใบ จะไดอวดโฉมใหประจักษกบั สายตาพวกเรา
จากนั้นมือใหมหัดจัดดอกไมแบบโคริงกะก็ไดเวลา
เริ่มปฏิบัติเอง ขั้นตอนกระบวนการเริ่มจาก การจัดเตรียม
อุปกรณสวนตัวใหพรอม คือ 1) กรรไกรสําหรับตัดกิ่งไม
ดอกไม 2) ผาพลาสติกสําหรับรองเศษกิ่งและใบที่ตัดทิ้ง 3)
ผาขนหนูผืนเล็กสําหรับรองน้ํา และเช็ดน้ํา 4) กาน้ําไว
สําหรับใชเติมน้ําลงในแจกัน
ขั้นตอนการจัดดอกไม
1) ดูดอกไม : ยืนทําสมาธิสักครู กอนที่จะหยิบผาขนหนูติด
ไวในมือ สัมผัสความงามดวยการดูดอกไม ใบไม ราวกับกําลัง
เดินเลนในสวนดอกไม เดินดูใหทั่วทุกประเภทดอกและใบ
ธรรมชาติจะปรับเปลี่ยนตัวเองใหงดงามอยูเสมอ รับรูถึงความ
งาม รูปลักษณ สีสันของธรรมชาติ อีกทั้งรับรูถึงพลังแหงชีวิต
ในขณะที่เราดูดอกไมนั้น
เราจะพบคุณคาของความงามที่
แตกตางไดอยางชัดเจน คําตอบหนึ่งที่ผุดขึ้นในใจก็คือ ทุกสิ่ง
ลวนมีคุณคาและความงามในตนเอง อยูที่วาเราเคยมองเห็น
หรือไม
2) ยืนยันจิตใจตนเอง และเลือกดอกไม ดอกไมที่ดูโดดเดน
ดูราวจะสื่อสารกับเรา ชั่วขณะหนึ่งที่จิตสัมผัสในขณะนั้น ให
ความสําคัญกับความรูสึกของตนเอง และเลือกดอกไมขึ้นมา 1
กาน ตรงนี้เองที่พบวาจิตของเราเริ่มแกวงไกว มีเพียงหนึ่ง
เดียวเทานั้นหรือที่เราตองเลือก ตองตัดสิน ถาหากนี่จะเปน
การตัดสินใจครั้งสําคัญ จิตของเราจะวางใจกับการเลือกนั้นได
อยางไร บทเรียนขั้นที่สองในการเห็นจิตตนเองกําลังเกิดขึ้น
เมื่อเลือกแลวก็บรรจงหยิบเบามือ ผาขนหนูผืนเล็กคอยรอง
กานไมใหน้ําหกเลอะเทอะไดเปนอยางดี
3) ชมดอกไม : เลือกมาแลว คราวนี้ก็ถึงความชมดอกไม ชม
ดูใหถี่ถวน ทุกแงมุม ทุกสวนสัด ดมกลิ่นของดอกไม จัดแตง
กิ่งใบที่เบียดเสียดกันใหอยูในสภาพดี คลี่กลีบและใบอยาง
1007 13
ทะนุถนอม ความออนโยนที่ตองกระทํากับกลีบบางๆ ใบ
ออนๆ
กลอมเกลาเจาของมือใหตองพยายามแผวเบาและ
ออนโยนอยางที่สุด จิตใจในขณะนั้นก็พลอยออนโยนตามไป
ดวย ลมหายใจเรื่อยๆ ตามธรรมชาติ กลิ่นจางๆ ที่โชยเขา
จมูก
พาใหระลึกไดถึงความละเอียดออนของกลิ่นที่กําลัง
สัมผัสอยูภายในชองจมูก
4) เช็ดใบ : ใบบางใบอาจจะเปอนดิน ใชผานุมๆ หรือ
กระดาษทิชชูชุบน้ําเช็ดใหสะอาด ใบสะอาด ใจก็จะไดสะอาด
ตามไปดวย
5) ดูดีและสวยที่สุด : หมุนดูดอกไมชาๆ ดอก ใบ กิ่ง คอยๆ
โนมลงมาพลางดูไปดวย มองหาตําแหนงที่เห็นแลวสวยที่สุด
เอียงทุกมุม เปลี่ยนมุม เปลี่ยนทิศทางทีละนอย หามุมที่สวย
ที่สุด
ยืนยันตําแหนงที่รูสึกวาดอกไมจะสวยที่สุด และมี
ชีวิตชีวาที่สุด ถาดอกไมพูดได นี่คือเวลาที่จะสื่อสารกับ
ดอกไม เมื่อลองทําดูตามคําแนะนําของผูสอน จึงไดรูสึกราว
กับวา ดอกไมพรอมจะอวดโฉมความงามออกมาเอง ในมุมที่
ดอกไมเองรูวาตัวเองจะสวยมากที่สุด
ซึ่งอันนี้ตองลองฝก
ปฏิบัติดูแลวจะพบวา ดอกไมรูและสื่อสารได เหมือนใจคนเรา
เชนกันที่รูวาตัวเองมีอะไรที่เปนขอเดนของตนเองเชนกัน
6) แจกัน : เมื่อไดมุมที่สวยที่สุดของดอกไมพรอมแล เดินไป
เลือกดูแจกันที่รูสึกวานาจะเขากันไดกับดอกไมที่เลือกมา
เชื่อมั่นในเอกลักษณของตนเองในการเลือก ‘ไมมีคําวาผิด’
เพราะดอกไมและแจกัน พรอมจะประสานสอดคลองกันเอง
ใหเลือกใบที่คิดวานาจะเขากันไดโดยความรูสึก
7) วางแจกัน : หมุนแจกันในมุมตางๆ กําหนดดานหนาของ
แจกันที่ตองการจะวาง กําหนดไดแลว มองตําแหนงที่จะวาง
แลวจึงประคองแจกันวางลงพอดีตําแหนงที่ตองการ ราวกับวา
จะเปนการตัดสินใจครั้งเดียว ที่จะไมขยับเขยื้อนอีก แลวดูใจ
ของตนเองขณะที่วางลง
8) ใสน้ําในแจกัน 8 สวน : นํากาน้ําคอยเทน้ําใสในแจกันดวย
ความระมัดระวัง ประมาณ 8/10 สวนของแจกัน แลวก็จะได
พบสติของตนเอง ขณะน้ําคอยๆ เทลง พลาดไปบาง หก
เกินไปบาง อยูที่วาจิตใจสั่นคลอนหรือมั่นคงอยางไร
9) จัดดอกไมลงแจกัน : หยิบดอกไมมาดู กําหนดตําแหนงที่
เลือกไวแลว ทิศทาง มุม ความยาว ตัดปลายกานเฉียงๆ
ดวยความยาวที่คิดวาเหมาะสมและสวยที่สุด การตัดเฉียงจะ
ชวยใหการดูดน้ําเปนไปไดดีกวาตัดตรง และการตัดเฉียงจะ
ชวยใหสามารถแนบกับของแจกันไดดี ในบางครั้งที่ตองการ
มุมเอียงและใหเกิดการขัดแนบไวกับขอบของแจกัน จากนั้น
คอยใชมือบรรจงวางดอกไมลงในแจกัน หลายๆ คนพบวา ใน
จุดนี้ดอกไมเองจะหมุนตัวตางจากที่ตั้งใจจะวาง ซึ่งจากการ
หมุนตัวนั้นกลับพบวามุมนั้นตางหากที่สวยที่สุด ทําใหชื่นชม
ระคนแปลกใจ ราวกับดอกไมจะหันหามุมของตนเอง ให
เหมาะกับแจกันใบนั้น บางคนก็พบวา การขืนธรรมชาติ
เปนไปไมได แตหากโอนออนตามธรรมชาติ ก็จะพบความ
งามที่เหมาะสมอีกทางหนึ่ง บางคนพบวาดอกไมไมอยากยืน
ตรง แตตองการเอียงโคงลง เพื่อใหมุมที่เห็นเปนสวนบนของ
ดอก มากกวาดานขางของดอก หลากหลายมุมมองที่เกิดการ
เรียนรูธรรมชาติ ขณะจัดดอกไมเพียงแคกา นเดียวลงในแจกัน
10)
เช็ดและเก็บทําความสะอาดบริเวณรอบแจกัน
:
องคประกอบของการจัดวาง สิ่งแวดลอมที่เรียบรอย ชวยให
ดอกไมดูโดดเดนและอวดโฉมไดงดงาม
11) ชื่นชมผลงานที่ตนเองจัด : ถอยหลังออกมาแลวมองกลับ
เขาไปที่ดอกไมและแจกันที่เพิ่งจัดเสร็จ พบความงามที่เกิด
จากความตั้งใจ ความเอาใจใส ความละเอียด ที่อาจเคยมอง
ผาน หรือ อาจไมเคยมองซ้ํา ดูราวกับจะสอนวาหันกลับมา
มอง มาใครครวญ แลวจะพบความจริงอันงดงามบางอยางที่
ซอนอยู
12) ชื่นชมผลงานที่ผูอื่นจัด : เพื่อนรวมโตะจัดดอกไม
เปรียบดังคนใกลชิดในครอบครัว กอนออกไปชื่นชมเพื่อนๆ
ในโตะอื่น ลองชื่นชมผลงานของเพื่อนในโตะเดียวกันกอน ฝก
มุทิตาจิตกับคนใกลชิด มองหาความงามของคนใกลตัว กอน
จะกระโจนออกไปขางนอก
ในวันนั้นไดมีโอกาสรวมกิจกรรมนี้ โดยทางผูจัดเปด
โอกาสใหผูเขาอบรมไดจัดกัน 3 รอบ ในสองรอบแรกนั้นใช
ดอกไมเพียงกานเดียว สวนในรอบสุดทายจึงจะเปดโอกาสให
ใชดอกไมไดมากกวาหนึ่ง ใชสวนประกอบอื่นไดเพิ่มเติมตาม
ความตองการ โดยมีขอแมที่ควรจดจําอยูวา ดอกไมใหม
หรือใบไมใบใหมที่จะนําขามารวมแจกัน ตองไมทําใหดอกที่
อยูเดิมตองไดรับผลกระทบ ไมวาจะการขยับ หรือ การ
เบียดเสียดจนเกินไป ทําใหใจคิดไปพลางวา ชางลึกซึ้งใน
เรื่องความสัมพันธของการอยูรวมกันอะไรเชนนี้ หากมีสิ่งใหม
เขามา สิ่งเกาก็ยังตองสามารถคงอยูไดอยางปกติ จึงจะมีสันติ
สุขของการอยูรวม ไมตางอะไรกับชีวิตคน คนเกาควรจะได
มีพื้นที่ในการคงอยู และการเขามาของคนใหมไมควรสงผล
กระทบจนคนเกาตองกระเทือน และคนเกาก็ตองพรอมจะโอบ
กอดตอนรับคนใหมเขาอยูดวยกัน
เพื่อรวมกันสรางสรรค
ความงดงามและสันติสุขตอไป.. ….
กลับบานวันนั้นดวยใจที่รื่นรมย
ภาพดอกไม
หลากหลายแบบในแจกันยังติดตาตรึงใจ ศิลปะบําบัดการจัด
ดอกไมโคริงกะ… .”จัดดอกไม จัดใจ”... เปนแบบนี้นี่เอง
สนใจสัมผัสความรูสึกแปลกใหม ในศิลปะการจัด
ดอกไมเพื่อการบําบัด สมัครอบรมจัดดอกไมรวมกับมูลนิธิ
MOA ไทย ไดที่ 02-641-1185 งานนี้ไมมีคาโฆษณา แตเห็น
คุณคาและอยากนํามาบอกตอคะ …
เดือน มิถุนายน 2553 มีผูบริจาคสนับสนุนการทํางานของสถาบันฯ ดังนี้
ครูจิรสุดา ชูบุญ
ครูชุติมา อรุณมาศ
ครูประนอม เตโชภาส ครูญาณีรัตน สุรพงษยิ่งเจริญ ครูชนาพร เหลืองระฆัง จากกิจกรรมโยคะธรรมหรรษา 555
ครูพิกุล รินแกว งานสานจิตรเสวนา 2
ครูเพ็ชรรัตน เดชวรสิทธิ (สวนโมกขฯ)
ครูภาวิณี นิ่มสุวรรณสิน ขออุทิศสวนกุศลใหแดคุณแมปวยลั้ง แซฉั่ว เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ป แหงการเสียชีวิต
เพื่อนครูทุกทานที่เขารวมกิจกรรมจิตสิกขาประจําเดือนมิถุนายน
สรุปยอดบริจาคประจําเดือนมิถุนายน 2553 ทั้งสิ้น
1007 14
471.-บาท
1,000.-บาท
1,000.-บาท
500.-บาท
591.-บาท
2,666.-บาท
800.-บาท
7,028 บาท
This action might not be possible to undo. Are you sure you want to continue?