Professional Documents
Culture Documents
ี ่
] [ ไทย
كتاب الأخلق
] باللغة التايلندية [
สำานักงานความร่วมมือเพือ
่ การเผยแพร่และสอนอิสลาม อัร-ร็อบวะฮฺ กรุง
ริยาด
1429 – 2008
2
อุปนิสัยทีด
่ ี
ความประเสริฐและคุณค่าของการมีอุปนิสัยทีด
่ ี
1. พระองค์อัลลอฮฺ ได้กล่าวชืน
่ ชมท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัย
ฮิ วะสัลลัม ว่า :
«م ُ ُ على َ َك ل َ ّ وإ ِن
ٍ ظي
ِ ع
َ قٍ خل َ »
ความว่า “และแท้จริงเจ้านัน
้ คือผู้ทีต่ ัง้ มัน
่ อยู่บนอุปนิสัยอันยิง่
ใหญ่” (อัล-เกาะลัม : 4)
3
ความว่า “เอาไหม ฉันจะบอกพวกท่านว่าใครคือคนทีฉ
่ ันรัก
มากทีส
่ ุด และจะได้อยู่ใกล้ชิดกับฉันมากทีส
่ ุดในวันกิยามะฮฺ
?” พวกเขานิง่ เงียบ ท่านจึงกล่าวทวนอีกสองหรือสามครัง้
พวกเขาตอบว่า “ได้ โอ้ท่านผู้เป็ นรอซูลแห่งอัลลอฮฺ” ท่าน
จึงกล่าวว่า “คือ ผู้ทีม
่ ีอุปนิสัยดีทีส
่ ุดในหมู่พวกเจ้า” (หะ
ดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยอะห์มัด : 6735 ดู อัส-สิลสิละฮฺ อัศ-
เศาะฮีหะฮฺ : 206)
มุอ์มินทีม
่ ีอีมานสมบูรณ์ทีส
่ ุด คือ ผููทีม
่ ีอุปนิสัยดีทีส
่ ด
ุ
และด้วยอุปนิสัยทีด
่ ีของมุอ์มิน ทำาให้เขาสามารถบรรลุถึงระดับ
ผู้ถือศีลอดและยืนละหมาดกลางคืน มนุษย์ทีด
่ ีทีส
่ ุด คือ ผู้ทีม
่ ี
อุปนิสัยดีทีส
่ ุด และมุอ์มินทีป
่ ระเสริฐทีส
่ ุด คือ ผู้ทีม
่ ีอุปนิสัยดีทีส
่ ุด
และจากจุดนีจ
้ ึงถือว่า การแสวงหาอุปนิสัยทีด
่ ีงามนัน
้ ประเสริฐกว่า
การแสวงหาทรัพย์สินเงินทอง
จากอบู ฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านรอซูล
ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
فى ِ م ْ ه
ُ خَياُر ِ ،ب ِ ه َ ّوالذ َ ة ِ ضّ ف ِ ْ ن الِ عاِدَ مَ َن كُ عاِد َ م َ س ُ »الّنا
د
ٌ جُنو
ُ ح ُ وا َ ُ ف
َ ذا َ ِ سل َم ِ إ َ ْ ال
َ والْر َ ،هوا ُ ق ْ ِ فى ال ِ م ْ ه
ُ خَياُر ِ ة ِ ّ هل ِيِ جا
.« فَ َ خت َلْ ها ا ِ ما ت ََناك ََر
َ ْ من َ و
َ ،ف َ َ ها ائ ْت َلَ ْ من
ِ ف َ عاَر َ َ ما ت َ فَ ،ة ٌ َجن ّدَ مُ
ความว่า “มนุษย์เปรียบเหมือนแร่ธาตุในดินเช่นเดียวกับแร่
เงินและแร่ทอง(หมายถึงต้นกำาเนิด ถ้าใครทีต
่ ้นกำาเนิดดีก็มัก
จะดีเรือ
่ ยไป) ผู้ทีด
่ ีทีส
่ ุดในสมัยญาฮิลียะฮฺก็(มัก)จะเป็ นผู้ทีด
่ ี
ทีส
่ ุดในสมัยอิสลามเมือ
่ เขาได้เข้าใจ(ในอิสลาม) และดวง
วิญญาณของมนุษย์นัน
้ เปรียบเสมือนเหล่าทหารทีถ
่ ูกจัด
ระเบียบให้เป็ นกองพัน(ทีแ
่ ตกต่างกัน) ดังนัน
้ อันไหนทีม
่ ัน
4
ร้จ
ู ักและคุ้นเคยมันก็จะรวมกัน แต่อันไหนทีม
่ ันไม่รู้จักและ
คุ้นเคยมันก็จะไม่เข้ากัน” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ : 3336,
3493 และ มุสลิมตามสำานวนนี ้ : 2638)
มนุษย์ทีม
่ ีอุปนิสัยงามทีส
่ ุด
วิธีทีป
่ ระเสริฐทีส
่ ุด ง่ายทีส
่ ุด และสะดวกทีส
่ ุดในการประดับ
กายด้วยอุปนิสัยทีด
่ ี คือ การปฏิบัติตามแบบอย่างของท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ผู้ซึง่ มีอัลกุรอานเป็ นลักษณะนิสัย
ท่านเป็ นผู้ทีม
่ ีรูปร่างทีง่ ามสง่าทีส
่ ุดและมีอุปนิสัยดีทีส
่ ุด ท่านบริจาค
ให้กบ
ั ผู้ทีต
่ ระหนีก
่ ับท่าน ท่านให้อภัยต่อผู้ทีท
่ ำาร้ายท่าน ท่าน
เชือ
่ มสัมพันธ์กับผู้ทีต
่ ัดขาดกับท่าน และท่านทำาดีต่อผู้ทีท
่ ำาชัว
่ แก่
ท่าน สิง่ เหล่านีค
้ ือรากฐานของอุปนิสัยทีด
่ ี ดังนัน
้ เราจึงต้องปฏิบัติ
ตามท่านในทุกๆ อิริยาบทของท่าน ยกเว้นในสิง่ ทีอ
่ ัลลอฮฺได้เจาะจง
เป็ นการส่วนตัวสำาหรับท่าน ซึง่ เป็ นสิง่ ทีส
่ งวนสำาหรับท่านเท่านัน
้
ไม่มีผู้ใดสามารถมีส่วนเกีย
่ วโยงพัวพันได้ เช่น ความเป็ นนบี การรับ
วะห์ยู การมีภรรยามากกว่าสีค
่ น และการห้ามมิให้ผู้ใดแต่งงานกับ
ภรรยาของท่านหลังจากท่านเสียชีวิต การห้ามรับประทานจากของ
บริจาค การไม่มีมรดกตกทอดแก่ทายาท และสิง่ อืน
่ ๆ ทีเ่ ราต่าง
ทราบเป็ นอย่างดี
ในบทนี ้ ผู้เขียนได้นำาเสนออุปนิสัยหลักๆ ทีส
่ ำาคัญทีท
่ ่านนบี
ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้เรียกร้องให้ปฏิบัติและท่านเองได้
แสดงเป็ นตัวอย่างเพือ
่ ให้ชาวมุสลิมทุกคนได้ปฏิบัติตามเป็ นอาภรณ์
ประดับกาย
5
1. อัลลอฮฺ ได้ตรัสว่า :
ُ في رسكول الّلك
ن َ ن
َ ككا ْ مك
َ ِة ل
ٌ َ سكن
َ ح
َ ٌوةَ سك ْ هأ ِ ِ ُ َ ِ م ْ ُ ن ل َكَ كا َ َ »ل
َ ْقد
«ه ك َِثيًراَ ّ وذَك ََر الل
َ خَر
ِ م ال
َ و ْ َ وال ْي
َ ه َ ّ جو اللُ ي َْر
ความว่า “แท้จริงแล้วในตัวของท่านรอซูลนัน ้ มีแบบอย่างทีด ่ ี
สำาหรับผู้ทีห
่ วัง(จะพบกับ)พระองค์อัลลอฮฺและวันอาคิเราะฮฺ
และได้รำาลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺอย่างมากมาย” (อัล-อะห์
ซาบ : 21)
2. พระองค์ยังได้ตรัสว่า :
«ن
َ هِلي َ ْ ن ال
ِ جا ِ ع
َ ض
ْ ر ْ َ وأ
ِ ع َ ف ُ ْ مْر ِبال
ِ عْر
ْ فو
ُ وأ َ ْ ذ ال
َ َ ْ ع ِ خ
ُ »
ความว่า “เจ้า(มุหัมมัด)จงยึดถือไว้ซงึ่ การอภัย และจงใช้ให้
(ประชาชาติของเจ้า)กระทำาในสิง่ ทีด
่ ี และจงหลีกห่างจาก
พวกเบาปั ญญาทัง้ หลาย” (อัล-อะอฺรอฟ : 199)
6
ท่านกล่าวได้ว่า “แท้จริง ผู้ทีด
่ ีทีส
่ ุดในหมู่สูเจ้า คือ ผู้ทีม
่ ี
อุปนิสัยดีทีส
่ ุด” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ตามสำานวนนี ้ : 3559
และมุสลิม : 2321)
7
ّ ق
ط َ ء
ٍ ى َ ن
ْ ش ْ ع َ ّ سل
َ م َ و
َ هِ ْ عل َي
َ هُ ّ صّلى الل
َ ي َ ِ سئ
ّ ِ ل الن ّب ُ ما
َ
َ :ل
.ل َ قا َ ف
َ
ความว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไม่เคยถูก
ร้องขอสิง่ ใดแม้แต่สิง่ เดียว แล้วท่านตอบว่า “ไม่” (บันทึกโด
ยอัล-บุคอรีย์ตามสำานวนนี ้ : 6034, มุสลิม : 2311)
8
ความว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ไม่ถูก
ขอสิง่ ใดในการเข้ารับอิสลาม นอกจากท่านจะให้มัน อะนัส
ยังได้กล่าวต่อไปว่า มีชายคนหนึง่ มาหา ท่านเลยให้ฝูงแพะ
ทีอ
่ ย่ร
ู ะหว่างสองเนินเขาแก่เขา เขาเลยกลับไปหากลุ่มชน
ของเขาและบอกว่า “โอ้พรรคพวกเอ๋ย พวกท่านจงเข้ารับ
อิสลามเถิด เพราะแท้จริงนัน
้ มุหัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ
วะสัลลัม ได้ให้สิง่ ของในลักษณะทีเ่ ขาไม่กลัวจะเกิดความ
ยากจนเลย” (บันทึกโดยมุสลิม : 2312)
9
ความว่า ฉันได้ยินท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม
กล่าวว่า “พวกเจ้าจงอย่ากล่าวยกย่องฉัน (จนเกินเลย)
อย่างทีช
่ าวคริสเตียนได้ยกย่อง(อีซา)บุตรของนางมัรยัม
เพราะแท้จริง ฉันนีค
้ ือบ่าวของพระองค์ ดังนัน
้ พวกท่านจง
กล่าวว่า ’บ่าวของอัลลอฮฺและรอซูลของพระองค์’” (บันทึก
โดยอัล-บุคอรีย์ : 3445)
10
ความว่า “หากฉันได้รับเชิญให้ไปกินแค่แข้งหรือขา(ของแกะ
หรือแพะ) แน่นอนฉันจะตอบรับ และหากมีคนมอบแข้งหรือ
ขาให้แก่ฉัน แน่นอนฉันก็จะรับมันไว้” (บันทึกโดยอัล-บุคอ
รีย์ : 2568)
11
วิง่ ช้า” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ : 2908 และมุสลิมตาม
สำานวนนี ้ : 2307)
12
บังเกิดให้เป็ นผู้สร้างความลำาบาก” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์
ตามสำานวนนี ้ : 6128 และมุสลิม : 284)
13
ความว่า “ดังนัน
้ เจ้าจงยกโทษให้พวกเขา และจงอย่าถือสา
แท้จริงแล้วอัลลอฮฺนัน
้ ทรงรักผู้ทีท
่ ำาความดี” (อัล-มาอิดะฮฺ :
13)
14
ท่าน แล้วท่านก็ละหมาด เมือ
่ ท่านโค้งตัวลงรุกูอฺ ท่านก็จะ
วางเธอลง และเมือ
่ ท่านเงยหลังขึน
้ ท่านก็ยกเธอขึน
้ (บันทึก
โดยอัล-บุคอรีย์ตามสำานวนนี ้ : 5996 และมุสลิม : 543)
15
คนชรา แต่เมือ
่ เขาละหมาดเพือ
่ ตัวเขาเอง (ละหมาดคน
เดียว) เขาก็จงละหมาดนานๆตามแต่เขาประสงค์” (บันทึก
โดยอัล-บุคอรีย์ตามสำานวนนี ้ : 703 และมุสลิม : 467)
16
ความว่า มีเด็กชายชาวยิวคนหนึง่ ทีเ่ คยรับใช้ท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ล้มป่ วย ท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม จึงไปเยีย
่ มเขา ท่านได้นัง่ อยู่
ตรงศีรษะและกล่าวกับเขาว่า “จงรับอิสลามเถิด” เด็กคนนัน
้
จึงมองไปยังบิดาซึง่ อยู่ใกล้ ๆ เขา บิดาของเด็กคนนัน
้ ก็ได้
กล่าวขึน
้ ว่า “เจ้าจงเชือ
่ ฟั งอบุลกอซิม(หมายถึงท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม) เถอะ” เด็กจึงยอมรับ
อิสลาม จากนัน
้ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ก็
ออกมาพร้อมกับกล่าวว่า “ขอบคุณอัลลอฮฺ ผู้ทรงช่วยเหลือ
เขาให้รอดพ้นจากไฟนรก” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ : 1356)
17
ความว่า “ตัง้ แต่ฉันเข้ารับอิสลามมา ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ
อะลัยฮิ วะสัลลัม ไม่เคยปิ ดกัน
้ ฉัน(ไม่ให้เข้าพบท่าน) และ
เมือ
่ ใดทีท
่ ่านเห็นฉันท่านจะส่งยิม
้ ให้” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์
ตามสำานวนนี ้ : 6089 และมุสลิม : 2475)
18
ของท่านนองด้วยนำา
้ ตา (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ตามสำานวนนี ้
: 5050 และมุสลิม : 700)
19
บรรดาคนทีเ่ ขียนรูปพวกนี”้ (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ตาม
สำานวนนี ้ : 6109 และมุสลิม : 2107)
20
م
ْ ّ عن ِت
َ ما ِ ْ عل َي
َ ه َ زيٌزِ عَ م ْ ُ سك
ِ ف ُ ْ ن أ َنْ م
ِ ل ٌ سو ُ م َر ْ ُ جاءَك َ َ »ل
َ ْقد
«مٌ حيِ ف َر ٌ ءو ُ ن َر َ مِني ْ م
ِ ؤ ُ ْ م ِبال
ْ ُ عل َي ْك
َ صٌ ري ِ حَ
ความว่า “แท้จริงรอซูลคนหนึง่ จากหมู่พวกเจ้าได้มาถึงพวก
เจ้าแล้ว ซึง่ สิง่ ทีเ่ จ้าระกำาลำาบากนัน
้ ทำาให้เขาหนักใจเป็ น
อย่างยิง่ อีกทัง้ เขายังหวังดีต่อพวกเจ้า และยังเป็ นผู้มีเมตตา
ผู้กรุณาสงสารต่อบรรดาผู้ศรัทธา” (อัต-เตาบะฮฺ : 128)
21
น้อยนุฆ็อยร์ได้ทำาอะไรบ้างล่ะ ?” (บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์
ตามสำานวนนี ้ : 6129 และมุสลิม : 2150)
23
ความยุติธรรมของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม
มีรายงานจากท่านหญิงอาชิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา ว่า :
ة ال ِّتي َ ْ َ همهم َ ً قري َ
ِ ّ مي ِ خُزو ْ م َ ْ ة ال ِ مْرأ َ ْ ن ال ُ شأ ْ ُ ّ َ شا أ ْ َ ُ ن ّ أ
صّلى ُ فك َل ّم
َ ه ِ ّ ل الل ُ سو ُ ل َر َ قا َ ف َ ،ة ُ م َ سا َ هأ ُ َ َ :وفيه...ت ْ ق َ سَر َ
م ُ ّ َ َ
ْ َ »أت: م ّ َ ّ
ّ ث.«ه ِ دوِد الل ُ ح ُ ن ْ م ِ ّحد َ فى ِ ع ُ شف َ سل َ و َ هِ ْ علي َ ه ُ الل
َ َ
م
ْ ه ُ ّ م أن ْ ُ قب ْل َكَ ن َ ذي ِ ّ ك ال َ َ هل ْ ما أ َ ّ »إ ِن: ل َ قا َ م ّ ُ ث، ب َ َخت َط ْ فا َ م َ قا َ
مُ ه ِ في ِ َسَرق َ ذا َ ِ وإ َ ،ه ُ كو ُ ف ت ََر ُ ري ِ ش ّ م ال ُ ه ِ في ِ َسَرق َ ذا َ ِ كاُنوا إ َ
ت َ ن َ َ ل، وأ َيم الل ّه،عل َيه ال ْحد َ َف أ
َ ْ ة ب ِن َ مَ ِفاط ّ وأ ْ ِ ُ ْ َ ّ َ ِ ْ َ موا ُ قا ُ عي ِ ض ّ ال
.«ها َ َت ي َد ُ ع ْ َ قط َ َت ل ْ ق َ سَر َ د ٍ م ّ ح َ م ُ
ความว่า ชาวกุร็อยชฺต่างพากันเป็ นห่วงกรณีผู้หญิงตระกูล
มัคซูมทีข
่ โมยของ ...(พวกเขาจึงไปขอร้องให้อุสามะฮฺ บิน
ซัยด์ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ช่วยพูดกับท่านนบีเพือ
่ ไม่ให้ท่าน
ลงโทษตัดมือ) อุสามะฮฺ บิน ซัยด์ ก็ไปพูด ท่านรอซูล
ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม จึงกล่าว(ตำาหนิ)ว่า “เจ้าจะ
มาให้ความช่วยเหลือในบทลงโทษทีเ่ ป็ นบทบัญญัติขอ
งอัลลอฮฺกระนัน
้ หรือ ?” หลังจากนัน
้ ท่านก็ได้ลุกขึน
้ กล่าว
เทศนาและกล่าวว่า “แท้จริงแล้ว สาเหตุทีท
่ ำาให้ชนก่อนหน้า
พวกเจ้าต้องล่มสลายไปก็เพราะว่า เมือ
่ พวกเขาเห็นคนชัน
้
สูงขโมยพวกเขาก็ปล่อยตัว แต่เมือ
่ คนธรรมดาต้อยตำ่าขโมย
พวกเขากลับลงโทษ ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ หากว่า ฟาฏิมะฮฺ
บุตรสาวของมุหัมมัดขโมย แน่นอนฉันก็จะตัดมือนา“
(บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ตามสำานวนนี ้ : 3475 และมุสลิม :
1688)
24
จากท่านหญิงอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา กล่าวแก่ท่านรอซูล
ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ว่า :
ُ َ َن أ َ ْ عل َي َ ل أ ََتى
،د؟ ٍ ح ُ وم ِ أ ْ َن ي ْ م ِ ّشد َ كا َ م ٌ و ْ َك ي ْ ه َ ه ِ ّ ل الل َ سو ُ َيا َر
م َ َ نأ َ َ و َ ن َ َ »ل: ل َ َ قا َ ف َ
ْ ه ُ ْ من ِ ت ُ قي ِ ما ل َ ّشد َ كا َ ك ِ م ِ و ْ ق ْ م ِ ت ُ قي ِ قدْ ل
د
ِ ْ عبَ ن ِ ْل ب َ د َياِلي ِ ْ عب َ ن ِ ْ عَلى اب َ سي ِ ف ْ َت ن ُ ض ْ عَر َ ْة إ ِذ ِ َ قب َ ع َ ْ م ال َ و ْ َي
َ ْ َ فان ْطَل َ
م ٌ مو ُ ه ْ م َ وأَنا َ ت ُ ق َ ،ت ُ ْما أَرد َ جب ِْني إ َِلى ِ ُم ي ْ َ فل َ ل ٍ َ ك ُل
َ
ت ُ ع ْ ف َ فَر َ ،ب ِ ِ عال َ ّ ن الث ِ قْر َ ِ ق إ ِل ّ ب ْ ف ِ َ ست ْ مأ ْ َ فل َ هي ِ ج
ْ و َ عَلى َ
َ َ ْ
ها َ في ِ ذا َ ِ فإ َ ت ُ فن َظَْر َ ،قدْ أظَل ّت ِْني َ ة ٍ َ حاب َ س َ ِ ذا أَنا ب َ ِ فإ َ سي ِ َرأ
لَ و ْ ق َ ع َ م ِ س َ ْقد َ ل ّ ج َ و َ عّز َ ه َ ّ ن الل ّ ِ إ: ل َ قا َ ف َ داِني َ فَنا َ ل ُ ري ِ ْ جب ِ
ل
ِ جَبا ِ ك ال ْ َ مل َ َ ك َ ْ ث إ ِليَ َ ع َ َ قدْ ب َ و َ ،ك َ ْ علي َ َ دوا ّ ما َر َ و َ ك َ كل َ َ م ِ و ْ ق َ
ْ
ل ِ جَبا ِ ْ ك ال ُ َ مل َ داِني َ فَنا َ :ل َ قا َ .«م ْ ه ِ في ِ ت َ ْ شئ ِ ما َ ِ مَرهُ ب ُ ل ِت َأ
َ و
ل ْ ق َ ع َ م ِ س َ ْقد َ ه َ ّ ن الل ّ ِ مدُ إ ّ ح َ م ُ ل َيا َ قا َ م ّ ُ ث،ي ّ َ عل َ م َ ّ سل َ و َ
مَرِني ْ َ ْ ك إ ِليَ َ ّ عث َِني َرب َ و ْ ُ مل َ َ َ كل َ َ م َ
ُ ك ل ِت َأ َ َ قدْ ب َ ل ِ جَبا ِ ك ال َ وأَنا َ ك ِ و ْ ق
َ َ ق ُ َ َ
م
ُ ه ِ ْ علي َ ِ ن أطْب ْ تأ َ ْ شئ ِ ن ْ ِ ت؟ إ َ ْ شئ ِ ما َ ف َ ،ك َ ر ِ م ْ ب ِأ
:م َ ّ سل َ و َ ه ِ ْ عل َي َ ه ُ ّ صّلى الل َ ه ِ ّ ل الل ُ سو ُ ه َر ُ َل ل َ قا َ ف َ .«ن ِ ْ شب َي َ خ ْ َ ال
َ َ َ ْ »ب
ه
ُ َحد ْ و َ ه َ ّ عب ُدُ الل ْ َن ي ْ م َ م ْ ه ِ ِ صل َب ْ نأ ْ م ِ ه ُ ّ ج الل َ ر ِ خ ْ ُن ي ْ جو أ ُ ل أْر َ
.«شي ًْئا َ ه ِ ِ رك ب ُ ِ ش ْ ُل َ ي
ความว่า โอ้ ท่านรอซูล ท่านเคยเจอวันใดทีห ่ นักยิง่ กว่าวัน
สงครามอุหุดไหม? ท่านตอบว่า “แท้จริงแล้ว ฉันเคยเจอกับ
(การต่อต้าน)จากเผ่าพันธ์ุ(กุเรชมักกะฮฺทีป
่ ฏิเสธศรัทธา)พวก
ของเจ้า และทีร
่ ุนแรงทีส
่ ุดทีฉ
่ ันได้รับ (การต่อต้าน) จาก
พวกเขาก็คอ
ื ในวันอัล-อะเกาะบะฮฺ ตอนทีฉ
่ ันเสนอตัวฉันต่อ
บุตรอิบนุ อับดิยาลีล บินอับดิกุลาล (คือ ผู้กว้างขวางแห่ง
เมืองฏออิฟคนหนึง่ เป็ นชาวอาหรับเผ่าษะกีฟ ซึง่ เหตุการณ์
นีเ้ กิดขึน
้ เมือ
่ เดือนเชาวาล ปี ที ่ 10 ของการประกาศศาสนา
อิสลามทีม
่ ักกะฮฺ หลังจากการเสียชีวิตของอบู ฏอลิบ และ
ท่านหญิงเคาะดีญะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา ภริยาผู้มี
บทบาทสำาคัญในการเผยแพร่อิสลาม, ดู ฟั ตหุล บารีย์ :
6/363 – ผู้แปล) แล้วเขาไม่ตอบรับต่อข้อเรียกร้องของฉัน
25
แล้วฉันก็ผละตัวออกไปด้วยใบหน้าทีเ่ ศร้าหมอง แล้วฉันก็มา
หยุดทีค
่ วน “ก็อรนุลซะอาลิบ” ฉันจึงเงยศีรษะขึน
้ และพบว่า
ฉันได้ถูกเมฆก้อนหนึง่ ลอยมาบัง ฉันจึงเพ่งมองออกไป
ปรากฏว่ามีมลาอิกะฮฺญิบรีลอยู่ในนัน
้ ท่านเรียกฉันและบอก
ว่า ’แท้จริง อัลลอฮฺทรงได้ยินคำาพูดของกลุ่มชนพวกท่าน(พ
วกกุเรชทีป
่ ฏิเสธศรัทธา)ต่อท่าน และสิง่ ทีพ
่ วกเขาต่อต้าน
ท่าน และพระองค์ทรงส่งมลาอิกะฮฺทีค
่ อยดูแลภูเขาเพือ
่ ให้
ท่านสัง่ การให้เขาทำาสิง่ ทีท
่ ่านประสงค์ต่อพวกเขาเหล่านัน
้ ‘”
ท่านรอซูลเล่าต่อว่า “แล้วมะลาอิกะฮฺภูเขาก็เรียกฉันและให้
สลามแก่ฉัน แล้วกล่าวว่า ‘โอ้ มุหัมมัด แท้จริงอัลลอฮฺทรง
ได้ยินคำาพูดของกลุ่มชนของท่านต่อท่าน และข้าคือมลาอิก
ะฮฺทีค
่ อยดูแลภูเขา ซึง่ พระผู้อภิบาลของท่านได้ส่งตัวข้าให้
ท่านสัง่ ข้าในงานของท่าน แล้วท่านต้องการอะไร? หากท่าน
ต้องการให้ฉันนำาสองภูเขามาทับพวกเขา(ฉันก็จะทำา)’ ท่าน
รอซูล ตอบว่า : “ทว่าฉันหวังว่าอัลลอฮฺจะให้กำาเนิดทายาท
ของพวกเขาทีก
่ ราบไหว้อัลลอฮฺแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่ตัง้ ภา
คีใดๆ กับพระองค์ออกมาจากก้นหลัง(หมายถึงทีก
่ ำาเนิดอสุจิ
ในร่างกายมนุษย์-ผู้แปล) ของพวกเขา” (บันทึกโดยอัล-บุ
คอรีย์ : 3231 และมุสลิมตามสำานวนนี ้ : 1795)
27
ตัวไป แล้วได้มก
ี ารขุดหลุมในดินเพือ
่ วางตัวเขาลงไปในนัน
้
แล้วเลือ
่ ยก็ถูกนำามาวางไว้บนหัวของเขา แล้วก็เลือ
่ ยหัวของ
เขาจนแยกเป็ นเป็ นสองส่วน และเขาได้ถูกหวีผมด้วยหวี
เหล็กจนกระทัง่ เหลือแต่เนือ
้ และกระดูก แต่สิง่ นัน
้ ก็ไม่
สามารถจะหันเหเขาให้ออกจากศาสนาแต่อย่างใด ขอสา
บานต่ออัลลอฮฺ ว่าแน่แท้ งาน(อิสลาม)นีจ
้ ะต้องลุล่วง
สมบูรณ์จนกระทัง่ คนขีพ
่ าหนะสามารถจะเดินทางจากเมือง
ศ็อนอาอ์จนถึงเมืองหัฏเราะเมาต์(ทัง้ สองเมืองอยู่ในประเทศ
เยเมน)ได้(อย่างปลอดภัย) โดยไม่กลัวผู้ใดนอกจากอัลลอฮฺ
และ(ไม่กลัวสิง่ ใดเลย)นอกจากแค่ว่ากลัวหมาจิง้ จอกจะมา
ทำาร้ายฝูงแกะของเขาเท่านัน
้ เพียงแต่พวกเจ้าใจร้อน”
(บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ : 6943)
28