Professional Documents
Culture Documents
ธงชัย วินิจจะกูล
เมื่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่สองใกล้เสด็จสวรรคต กลุ่มเจ้านายและขุนนางในขณะนั้นเห็นว่าราชบัลลังก์สมควรเป็น
ของกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ พระราชโอรสพระองค์โตผู้มีอิทธิพลและบทบาทในราชสานักเรียบร้อยแล้ว
แต่ทว่าทรงประสูติจากพระสนม เจ้าฟ้ามงกุฎพระราชโอรสพระองค์แรกในสมเด็จพระบรมราชินีศรีสุริเยนทรามาตย์
ทว่าพระชันษาอ่อนกว่าถึง 16 พรรษา จึงเสด็จออกผนวชก่อนพระราชบิดาสวรรคตไม่กี่วัน
และทรงอยู่ในสมณเพศต่อมา 27 ปี
พระองค์ต้องทรงต่อสู้ต่อรองและรอโอกาสต่อมาอีกนาน กว่าที่พระองค์จะทรงสามารถรวบรวมพระราชอานาจได้
เข้มแข็ง บางครั้งความขัดแย้งปะทุจนเกือบเป็นความพินาศดังเช่นวิกฤตการณ์วังหน้าในปี 2417
เมื่อระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เผชิญหน้ากับกระแสประชาธิปไตยที่ก่อตัวในหมู่ปัญญาชนผู้มีการศึกษา
ผู้มีบารมีและอิทธิพลในระบอบเดิมเหล่านี้มีบทบาทสาคัญไม่น้อยไปกว่าพระเจ้าอยู่หัวเองในการถ่วงรั้งไม่ยอมให้
สามัญชนมีอานาจมากไป ด้วยเห็นว่าสามัญชนยังด้อยการศึกษา ขาดความรู้ความเข้าใจ ยังไม่พร้อมปกครอง
ตนเอง
อวสานของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในแง่หนึ่งคือ ผลของระบอบการเมืองของผู้มีบารมีเหล่านี้
ซึ่งแวดล้อมพระเจ้าอยู่หัวอยู่ในขณะนั้นหลัง 2475 ผู้นาของคณะราษฎรขัดแย้งกับกลุ่มเจ้าอย่างหนัก
ใช้เวลาหลายปีกว่าจะสยบฝ่ายเจ้าสาเร็จ ผู้นาคณะราษฎรจึงอยู่ในฐานะผู้กาหนดชะตากรรมของราชบัลลังก์เสียเอง
ซึ่งหมายถึงการจากัดบทบาทอานาจของพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ให้ออกพ้นไปจากการเมืองโดยสิ้นเชิง
ยิ่งเข้าใกล้ระยะสาคัญของการเปลี่ยนแปลง ผู้ใหญ่ผู้มีบารมีเหล่านี้ยิ่งต้องทาทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าความ
เปลี่ยนแปลงสาคัญอยู่ในวิสัยที่ตนสามารถกาหนดควบคุมได้ จะปล่อยให้ใครมีอานาจมากแต่นอกลู่นอกทางที่ตน
ประสงค์ไม่ได้
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องในอดีตทั้งสิ้น
หมายเหตุ