Professional Documents
Culture Documents
พระพูดได้
ตอน
ขันติ ท้ อแท้ ความเบื่อ กับการไม่ เห็นสัจธรรม
โยมถาม
พระตอบ
แม้ นว่าความจาได้ หมายรู้ ยังมีมาให้ ทรงทราบเป็ นระยะว่า อะไรใช่ อะไรไม่ใช้ แต่ก็ก็ยงั ไม่ทรงรู้ แจ้ ง
ในลาดับที่การฝึ กจิตให้ ไม่ถึงจุดหมาย ยังไม่จบในรูปฌาน ยังไม่ครบในอรูปฌาณ จนกระทัง่
พระองค์ทรงฝึ กการละในส่วนหยาบของรูปกายและนามกายได้ หมดแล้ ว มีความจาได้ หมายรู้ว่า
ตรงนี ้ไม่ใช้ นิพพาน ละทิ ้งจากสภาวะการถือครององค์คณ ุ แห่งฌานทังที
้ ่มีรูปกาย และที่ไม่มีรูปกาย
เข้ าไปอยู่ในสมาบัติที่เอาพระนิพพานเป็ นที่หมายว่า ต้ องมีอายตนะนันอยู
้ ่ ต้ องไปอย่างนี ้ๆ ก็ยงั ทรง
หลงไปถึง ๖ ปี ที่ป่าดงคสิริ นัน้
ครัน้ เมื่อ ต้ องท้ อแท้ อยู่ เราก็ร้ ูว่าท้ อแท้ อยู่ แล้ วหายใจเข้ ายาวววววว,
ครัน้ เมื่อ ต้ องท้ อแท้ อยู่ เราก็ร้ ูว่าท้ อแท้ อยู่ แล้ วหายใจออกยาวววววว,
พระพูดได้ ตอน ขันติ ท้ อแท้ ความเบื่อ กับการไม่ เห็นสัจธรรม| 3
ครัน้ เมื่อ ต้ องท้ อแท้ อยู่ เราก็ร้ ูว่าท้ อแท้ อยู่ แล้ วหายใจเข้ าสัน้ (เมื่อรู้ตวั อยู่ว่าเขาละเอียดดีแล้ ว),
ครัน้ เมื่อ ต้ องท้ อแท้ อยู่ เราก้ ร้ ูว่าท้ อแท้ อยู่ แล้ วหายใจออกสัน้ (เมื่อรู้ตวั อยู่ว่าเขาละเอียดดีแล้ ว),
...
...
ครัน้ เมื่อ ละความท้ อแท้ ได้ แล้ ว ก็ร้ ูว่าไม่มีความท้ อแท้ อยู่ในตนแล้ ว หายใจเข้ ายาวววว ก็ได้ ,
ครัน้ เมื่อ ละความท้ อแท้ ได้ แล้ ว ก็ร้ ูว่าไม่มีความท้ อแท้ อยู่ในตนแล้ ว หายใจออกยาวววว ก็ได้ ,
ครัน้ เมื่อ ละความท้ อแท้ ได้ แล้ ว ก็ร้ ูว่าไม่มีความท้ อแท้ อยู่ในตนแล้ ว หายใจเข้ าสัน้ (ละเอียด) ก็ได้ ,
ครัน้ เมื่อ ละความท้ อแท้ ได้ แล้ ว ก็ร้ ูว่าไม่มีความท้ อแท้ อยู่ในตนแล้ ว หายใจออกสัน้ (ละเอียด) ก็ได้ ,
...
...
เหล่านี ้ เป็ นเบื ้องต้ นของอาการที่จะทาให้ แจ้ งในธรรม และเหตุปัจจัยในการเกิด/ดับได้ ด้วยตนเอง
อาณาปาณาสติ มี ๑๖ ระดับ ให้ ร้ ู ให้ เห็น ให้ เป็ น ให้ มากยิ่งๆขึ ้นไปในเบื ้องต้ น กิจอื่นย่อมไม่ทาให้
เอิบอิ่มไปมากกว่านี ้ในเบื ้องแรก ที่ความวุ่นวายของเรามากระทบเรา หรื ออายตนะของเราไปเกียว
เอาสวะพวกนันเข้ ้ ามาเอง สมถะนี ้ย่อมนาสุขในเบื ้องต้ นมาสู่ตนเองได้ ไม่ให้ มีความท้ อแท้ เกิดขึ ้น
อีก ถ้ าเกิดก็ร้ ูได้ เร็ว รู้เร็วแล้ วก็ละได้ เร็ว ธรรมอื่นๆที่ละเอียดผ่องใสมากกว่า ก็จะผุดขึ ้นมาให้ ร้ ู ให้
เห็น ให้ เป็ น ได้ เอง โดยไม่ต้องไปค้ นหาที่ไหน หยุด ในสิ่งที่ไม่ใช่เรื่ องของเราไว้ ทาแต่เฉพาะในกิจที่
กาหนดแล้ วว่าต้ องทา แล้ วทุกอย่างจะสาเร็จเอง
อย่างนี่ ก็มี ก็เป็ นการเกิด/ดับ เกิดขึ ้น แล้ วดับไป คุณโยมก้ เห็นได้ มในตาราของปรมัตธรรมคัมภีร์
ที่สดุ แห่งธรรมในการตังต้
้ นเจริญมาตลอดเส้ นสายปลายทางของมหาสติปัฏฐาน ๔ ที่มีลมหายใจ
เข้ าออก เป็ นตัวนาทางนัน้ จึงสามารถก่อให้ เกิดพลังในสัทธาเบื ้องต้ น ไปจนถึงในการรับรู้ เห็น
เป็ นไป ถึงในอาการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้ า และปั ญญาในการรับรู้ , ศึกษาค้ นคว้ า, ปฏิบตั ิธรรม
ต่อไป ให้ อยู่ในกรอบของปริยตั ิธรรม, ให้ มีปฏิเวทธรรมเป็ นขอบฝั่ งคันคลองให้ เราได้ มองเพื่อการไม่
หลงออกไปนอกเส้ นทาง, เหล่านี ้ก็มีอยู่ในตัวของคุณโยมเองครบถ้ วนแล้ ว แต่เรามองไม่เห็นให้ ครบ
เป็ นวงรอบของสัมพันธภาพของพระนิพพาน เราจึงหลงกันอยู่อย่างนี ้ เรื่ อยๆไป
ธรรมได้ ยาก จึงสัทธาออกบวชได้ มากเมื่อได้ ร้ ู เห็น และเป็ นไปได้ ในสัจจะธรรม ที่พบเจอได้ อยากยิ่ง
อย่างนัน้
จากนันก็
้ จะมีการให้ ศกึ ษาค้ นคว้ า หรื อทบทวนไปในปรมัตถธรรมให้ มาก คือธรรมที่บอกเหตุปัจจัย
ในการเกิด การดับ ที่พระพุทธเจ้ าทรงใช้ ในการโปรดโยมมารดา ในภพภูมิที่เขาไม่มีรูปกายให้
มองเห็นกันได้ แบบเรา คือการสอน และให้ ทาในสิ่งที่มองไม่เห็น (ญาณะกรณี) เป็ นกิจที่ไม่ได้ ลืมตา
ทา (จักขุกรณี) เหมือนอย่างที่เราสามารถทาได้ ง่ายกว่า ตามระดับของปั ญญาที่ปรับปรุงได้
สัจธรรม ทังหลาย
้ ทังที
้ ่พระพุทธเจ้ าทรงค้ นพบเอง โดยไม่มีใครสอน ได้ มาจากการมองไม่เห็น
การไม่ร้ ู การรู้ผิด การหลงผิด ไปถึง ๖ ปี ที่ป่าดงคสิริ นัน้ บัดนี ้ พระพุทธเจ้ า ทรงไม่ต้องการให้
พระพูดได้ ตอน ขันติ ท้ อแท้ ความเบื่อ กับการไม่ เห็นสัจธรรม| 6
เราทังหลายพึ
้ งเจริญในสติ คือการกาหนดรู้ และมีสมั ปชัญญะ คือการพิจารณาตาม ว่าตังแต่ ้
อนันตจักรวาล มาจนถึงโลก และสัตว์โลกทัง้ ๓๑ ภพนี ้ และสรรพสิ่งทังหลาย ้ รวมทังตั
้ วเราเองนี ้
มันไม่เที่ยง มีเกิด/ดับ ไปเป็ นธรรมดา เป็ นทุกข์ แล้ วในที่สดุ มันก็ไม่มีอะไร มันก็จะไปเกิด/ดับใหม่
ตามวงรอบของมัน ตามเหตุปัจจัยที่ปรุงแต่งกันไปด้ วยความไม่ร้ ูจรองอีกนันแหละ ้
มนุษย์ทงหลายผู
ั้ ้ เป็ นเวไนยสัตว์คยุ กันรู้เรื่ องดีกว่าสัตว์อื่น ด้ วยมีลมหายใจ พร้ อมกับสติคือการ
กาหนดรู้ พร้ อมกับสัมปชัญญะคือการพิจารณาตาม พึงเจริญในธรรมนี ้ให้ ยิ่งๆขึ ้นไป
ใครทาใครได้ เหมือนกันทังนั
้ น้ บริษัทการค้ าในปั จจุบนั เอาอาการอย่างนี ้ ไปเขียนเป็ นคู่มือการ
ทางานกันมากมาย แต่พวกเขาจะเจริญในทางโลก จึงต้ องไปทาที่บ้าน ที่ทางาน ที่ๆจะไปเกิดมา
เกิดได้ ไม่มีที่สิ ้นสุด
รู้อย่างนี ้ เห็นอย่างนี ้ เป็ นอย่างนี ้แล้ ว จึงมีปัญญาใฝ่ หาการรับรู้ต่อไปเป็ นปั ญญาขันที้ ่ ๑ ค้ นคว้ า
และศึกษาให้ แตกฉาน เป็ นปั ญญาในขันที ้ ่ ๒ ปฏิบตั ิตามแนวทางที่ได้ ศกึ ษาไว้ แล้ ว ให้ เกิดผลดีกบั
ตนแล้ ว เป็ นปั ญญาในชันที ้ ่๓
ระหว่างนี ้ กุศล ๑๐ ประการ ก็ จะถูกสร้ างขึ ้นมาเป็ นลาดับ ตามความแจ้ งในสัทธาทัง้ ๔ เรื่ อง และ
ปั ญญาทัง ๓ ลาดับนัน้
บารมีทงั ้ ๑๐ ประการ ในอีก ๓ ลาดับ เป็ นที่เรี ยกว่า ๓๐ ทัศ ก็จะถูกเสริมสร้ างขึ ้นมาเป็ นลาดับไป
เหมือนการก่ออิฐ ถือปูน เชื่อมเหล็ก สร้ างอาคารสูงขึ ้นไป ให้ เป็ นสง่า ผ่องใจ เบิกบาน ร่าเริง อยู่แต่
ในใจ ใจของแต่ละคน (ที่สงั เกตุได้ ด้วยผู้ร้ ูท่านอื่นด้ วย)
ความถึงพร้ อมด้ วย วิมตุ ิทงั ้ ๒ อาการ ก็จกั เกิดขึ ้นกับตน ด้ วยอาการอย่างใดอย่างหนึง่ เป็ นปกติ ทัง้
ทางใจ และทางปั ญญา มีวิมตุ ิ ๕ อาการ มีวิโมกข์ ๘ ลักษณะ เป็ นเสมือนเครื่ องวัดระดับ
ความสาเร็จในตน
อายตนะนิพพพานจึงอยู่ตรงนัน้ ให้ ร้ ูแล้ ว เห็นแล้ ว และเป็ นแล้ ว ด้ วยรูปกายนัน้ ทาให้ แจ้ งได้ แล้ ว
ว่า พ้ นจากรูปกายนี ้แล้ ว พ้ นจากนามกายทังปวงนี
้ ้แล้ ว ก็จกั มีแต่ธรรมกาย ที่จะเจริญอยู่ด้วยความ
ผ่องใสสว่างอยู่แต่ในที่ที่ไม่มีดวงดาวทุกชนิด แต่มีความสว่างเหมือนกลางวันตลอดเวลา และ
เข้ าถึงไม่ได้ ด้วยยาน ฌาณ และญาณส่วนหยาบใดๆในใจ ทังสิ ้ ้น
มีแต่บคุ คลผู้ฝึกจิตของตนได้ ดีแล้ วเท่านัน้ จึงจะได้ เข้ าถึง รู้ เห็น และเป็ นพระนิพพานธาตุ ตามที่
พระพุทธเจ้ าทุกพระองค์ทรงปฏิบตั ิมาได้ ด้วยดีแล้ วอย่างนี ้ เราจึงแจ้ งอย่างนี ้ ด้ วยการมีอาการอย่าง
นี ้ และเห็นไปในทัง้ ๓ นัย ๓ วิธีการของการเข้ าถึงอายตนะนี ้แล้ ว ด้ วยดี
ทังนี
้ ้ ขอให้ มีพร้ อมใน จรณะ ทัง้ ๑๕ ประการ เพื่อกันไว้ ให้ เป็ นกรอบในการศึกษาค้ นคว้ า ในส่วน
ละเอียด ให้ เกิดผลดีกบั ตนเองด้ วย และผู้อื่นด้ วยต่อไป ขออานวยพร
พระชัยอนันต์ ชยาภิรโต
วัดศรี ศากยะสิงหะวิหาร
กัฏมัณฑุ, เนปาล: (+977).98.0755.3326
๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓
Email: Chaianunt@gmail.com
FB: http://www.facebook.com/Jayabhirato
Group at: >>>DhammasalaNET<<
>>>DhammasalaTHAI<<<
Ebook:
http://www.scribd.com/Jayabhirato
Photo:
http://picasaweb.google.co.in/chaianunt
http://picasaweb.google.co.in/india2553