You are on page 1of 1

นาฬิ กาตัดกังวล.

[๑]เพราะความไม่รู้คืออวิชชาจึงเกิ ดการประกอบก ั นของธาตุธรรมทั งหลาย[๒]พ้ นจากความไม่รู้แล้วไม่มีการรวมธาตุธรรม [๓]พ้ นจากจากการประกอบธาตุ


ธรรมแล้วไม่มีวิญญาน [๔]พ้ นจากวิญญานแล้ วไม่มีนามรู ป [๕]พ้ นจากนามรู ปแล้วไม่มีสัมพั นธภาพ [๖]พ้ นจากสัมพั นธภาพแล้วไม่รู้สึกสัมผั ส[๗]พ้ นจากสัมผั สแล้ วไม่มีความเห็น
[๘]พ้ นจากความเห็นแล้วไม่มีความอยาก [๙]พ้ นจากความอยากแล้วไม่มีการปรุ งแต่ง [๑๐]พ้ นจากการปรุ งแต่งแล้วไม่มีการครอบครอง [๑๑]พ้ นจากการครอบครองแล้วไม่มีการเกิ ด
[๑๒]พ้ นจากการเกิ ดแล้วไม่มีความเสือมและความตาย[O]..พ้ นจากความเสือมและความตายแล้วด้วยวิชชาคือความรู ้จริ งจึงจะไม่ต ้ องหลงวนเวียนอยู่ในวงจรของการเกิ ดทุกนีข์อีก..[O]
ทุกข์.มี ๒ คือ.[อ๑]ทุกข์ จากการหลงติดอยู่ในความสุขทางกามทั ง๑๐ ระดับ และ ทุกข์จากการหลงติดอยู่ในการยึดถือความเป็ นตั วตนบุคคลเราเขา[อ๒]ให้สํารวจว่ามีทุกข์ อยู่อย่างไร
ในกายและใจของเรา [อ๓]ให้ก ํ าหนดการละวางกายและใจออกไปจากทุกข์ท ั งสองนั น[อ๔]ให้ละวางความทุกข์เหล่านั นออกไปอย่างชาญฉลาดแปดขั นตอน [ม๑]มีทิฐิว่าจะละวาง
ทุกข์เหล่านั นให้ได้ [ม๒]มีดําริ ว่าจะละวางทุกข์เหล่านั นอย่างไร [ม๓]ก ํ าหนดกรอบการพูดจาไม่ให้วนไปหาทุกข์เหล่านั นอีก [ม๔]ก ํ าหนดกรอบการปฏิบ ั ติไม่ให้เกี ยวข้ องก ั บทุกข์
เหล่านั น [ม๕]ก ํ าหนดกรอบการเลี ยงชีวิตไม่ให้เกี ยวข้ องก ั บทุกข์เหล่านั[ม๖]มี
น ความเพียรพยายามไม่ขาดตอน [ม๗]มีสติก ํ าหนดรู ้ไว้ ไม่ขาดสาย[ม๘]มีจิตตั งมั นมีใจมั นคงร่ าเริ งเบิก
บานแจ่มใสอยู่แต่ในสมถธรรมเพือการละวางกายและใจของตนในส่วนหยาบให้พ ้ นไปจากทุกข์ท ๒เหล่ ั ง านี ด้วยความอ่อนโยนควรแก่ งานในวิปัสสนาธรรม เพือการละวางกายและใจ
ของตนในส่วนละเอียดให้พ ้ นไปจากทุกข์เหล่านี[O]ไปสู่อายตนะนิพพานทีเป็ นบรมสุขอย่างยิ ง [O] นิพพานัง ปรมั ง สุ ขั ง.. นิพพานัง ปรมั ง สุ ญญัง...นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ [O]
ทีระลึกจาก พระชัยอนันต์ ชยาภิรโต วัดท่าตอนพระอารามหลวง ต.ท่ าตอน อ.แม่ อาย จ.เชียงใหม่ [Chaianunt@gmail.com] สํ าหรับทํากรอบนาฬิ กา

You might also like