การใช้งาน RFID Modules แบบที่ 1.

PrintWhatYouLike on RFID (Radio Frequency Identification) http://www.printwhatyoulike.com/print?url=http%3A%2F%2Fwww.rfidbasic.com%2Fmain.php%3Ft...
1 of 9 09-Jun-10 1:17 AM
การใชงาน RFID Modules แบบที่ 1
การใชงานไมโครคอนโทรลเลอร PSoC กับโมดูลอารเอฟไอดี
(Using the PSoC microcontroller with RFID Module.)
RFID คือ อะไร
R FID ยอ มาจากคําวา Radio Frequency Identification เปนระบบฉลากหรือปายอิเล็กทรอนิกส (Tag) ถูกพัฒนามาตั้งแตป ค.ศ. 1980 ปายนี้สามารถอานและเขียนคาขอมูล
ไดโดยผาน คลื่นวิทยุ จากที่มีระยะหาง ดังนั้นเมื่อนําปายนี้ไปติดอยูกับวัตถุตางๆแลวบันทึกขอมูลของวัตถุนั้นใว เชน ผลิต ที่ไหน ใครเปนผูผลิต ผลิตอยางไร ผลิตวันไหน และเมื่อ
ไร ประกอบไปดวยชิ้นสวนกี่ชิ้น และแตละชิ้น มาจากที่ไหน ก็จะสามารถใชปายนี้เปนตัวระบุเอกลักษณของวัตถุได การอานขอมูลของวัตถุนั้น ไมจําเปนตองถูกตองหรือสัมผัสที่ตัว
วัตถุ (Contact-Less)
RFID ทํางานอยางไร
สวนประกอบของระบบ RFID
ส วนประกอบในระบบ RFID จะมีหลักๆ อยู 2 สวนดวยกัน คือ สวนแรกคือฉลากหรือปายขนาดเล็กที่จะถูก ผนึกอยูกับวัตถุที่เราสนใจ โดยฉลากนี้จะทําการบันทึกขอมูลเกี่ยวกับวัตถุชิ้นนั้นๆ เอาไวฉ ลากดังกลาว มีชื่อเรียก
วา ทรานสพอนเดอร (Transponder, Transmitter & Responder) หรือที่เรียกกันโดยทั่ว ไปวา ?แท็ก? (Tag) สวนที่สองก็คืออุปกรณสําหรับอานหรือเขียนขอมูลภายในแท็ก มีชื่อเรียกวา ทรานสซิฟเวอร (Transceiver,
Transmitter & Receiver) หรือที่เรียกกันโดยทั่ว ๆ ไปวา ?เครื่องอาน? โดยปกติแท็ก จะไม?มีแบตเตอรี่อยู?ภายในหรือไม?จําเป?นต?องรับแหล?งจ?ายไฟใด ๆ เพราะจะทํางานโดยอาศัยพลังงานไฟฟ?าที่เกิดจากการเหนี่
ยวนําคลื่นแม?เหล็กไฟฟ?าจากตัวอ?าน แท็กชนิดนี้เ รียกวาแท็กพาสซีฟ (Passive Tag) มีน้ําหนักเบาและมีขนาดเล็ก แตมีแท็กอีกชนิดหนึ่งที่เ รียกวาชนิดแอ็กทีฟ (Active tag) จะมีแบตเตอรี่อยูภ ายใน
RFID Tag
1. แท็กชนิดแอ็กตีฟ (Active Tag) แท็กชนิดนี้จะมีแบตเตอรี่อยูภ ายในซึ่งใชเ ปนแหลงจายไฟขนาดเล็ก เพื่อปอนพลังงานไฟฟาใหแท็กทํางานโดยปกติ โดยแท็กชนิดนี้มีฟงกชั่นการทํางานทั่วไปทั้งอานและเขียนขอมูล

ลงในแท็กได และการที่ตองใชแบตเตอรี่จึงทําใหแท็กชนิดแอคตีฟมีอายุการใชงานจํากัดตามอายุของแบตเตอรี่ เมื่อแบตเตอรี่หมดก็ตองนําแท็กไปทิ้งไมสามารถนํากลับมาใชใ หมได เนื่องจากจะมีการซีล (seal) ที่ตัว
แท็กจึงไมสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ไ ด อยางไรก็ตามถาสามารถออกแบบวงจรของแท็กใหกินกระแสไฟนอยๆ ก็อาจจะมีอายุการใชงานนานนับสิบป แท็กชนิดแอ็กทีฟนี้จะมีหนวยความจําภายในขนาดใหญไดถึง 1
เมกะไบตมีกําลังสงสูงและระยะการรับสงขอมูลไกลสูงสุดถึง 6 เมตร ซึ่งไกลกวาแท็กชนิดพาสซีฟ นอกจากนี้ยังทํางานในบริเวณที่มีสัญญาณรบกวนไดดี แมแท็กชนิดนี้จะมีขอดีอยูหลายขอแตก็มีขอเสียเรื่องราคาตอ
หนวยซึ่งแพง
2. แท็กชนิดพาสซีฟ (Passive Tag) จะไมมีแบตเตอรี่อยูภายในหรือไมจําเปนตองรับแหลงจายไฟใด ๆ เพราะจะทํางานโดยอาศัยพลังงานไฟฟาที่เ กิดจากการเหนี่ยวนําคลื่นแมเ หล็กไฟฟาจากตัวอานตองมูล จึงทําให
แท็กชนิดพาสซีฟมีน้ําหนักเบาและเล็ก ราคาถูกกวา และมีอายุการใชงานไมจํากัด แตขอเสียก็คือระยะการรับสงขอมูลใกล ประมาณไมเ กิน 1.5 เมตร มีหนวยความจําขนาดเล็กซึ่งโดยทั่ว ๆ ไปประมาณ 32 ถึง 128 บิต
และตัวเครื่องอานจะตองมีความไวและกําลังที่สูง นอกจากนี้แท็กชนิดพาสซีฟมักจะมีปญหาเมื่อนําไปใชงานในสิ่งแวดลอมที่มีสัญญาณแมเ หล็กไฟฟารบกวนสูงอีกดวยนแตเ มื่อพิจารณาเรื่องราคาก็ทําใหแท็กชนิดนี้ไ ด
รับความนิยมมากกวา
RFID Reader
2 of 9 09-Jun-10 1:17 AM
คูมือMifare Read/Write Module รุน RFM015M-1
วงจรสําหรับการทดลอง (Logic diagram)
รูปแบบคําสั่งการติดตอกับตัวอาน
Header : Communication header มีขนาด 1 ไบต มีคาเปน 0xBA บอกวาเปนการติดตอจาก Host ไปสูโมดูล
Len : ความยาวของขอมูลที่สงนับจาก Command ถึง Checksum มีขนาด 1 ไบต
Command : คําสั่ง มีขนาด 1 ไบต
3 of 9 09-Jun-10 1:17 AM
Data : ขอมูลที่สง ขึ้นอยูกับคําสั่ง

Checksum : คา Checksum เกิดจากการ xor กันตั้งแต Header ถึง Data มีขนาด 1 ไบต
Header : Communication header มีขนาด 1 ไบต มีคาเปน 0xBD บอกวาเปนการติดตอจากโมดูล ไปสู Host
Len : ความยาวของขอมูลที่สงนับจาก Command ถึง Checksum มีขนาด 1 ไบต
Command : เปนคําสั่งที่ไ ดรับจาก Host มีขนาด 1 ไบต
Status : สถานะการทํางาน มีขนาด 1 ไบต
4 of 9 09-Jun-10 1:17 AM
Data : ขอมูลที่สง ขึ้นอยูกับคําสั่ง

Checksum : คา Checksum เกิดจากการ xor กันตั้งแต Header ถึง Data มีขนาด 1 ไบต
รูปแบบคําสั่งใหตัวอาน อานคา Serial number ของแท็ก
คําสั่งในรูปเลขฐานสิบหกที่สงใหกับตัวอาน 0xBA,0x02,0x01,0xB9
5 of 9 09-Jun-10 1:17 AM
ผลการทดลองเมื่อไมมีแท็ก
6 of 9 09-Jun-10 1:17 AM
ผลการทดลองเมื่อมีแท็ก
ไฟลทดสอบ Source Code และ ไฟลสําหรับทดสอบ Hex file
//----------------------------------------------------------------------------
// Mifare Read/Write RFID Module
// Model RFM015M-1
//----------------------------------------------------------------------------
#include <m8c.h> // part specific constants and macros

#include "PSoCAPI.h" // PSoC API definitions for all User Modules
#include <stdlib.h>
BYTE RxdataBuff[21];
BYTE sel_card[4]={0xBA,0x02,0x01,0xB9}; // Select Mifare card command return 10 bytes
BYTE byte_length;
/*---------------------------------------------------------------------------------
void LCD_clr_line(unsigned char j)
function : clear LCD on line number j (0 or 1)
input line number j
----------------------------------------------------------------------------------*/
7 of 9 09-Jun-10 1:17 AM
void LCD_clr_line(unsigned char j)

{
LCD_1_Position(j,0);
LCD_1_PrCString(" ");
}
void main()
{
BYTE i;
char Cardf_Str[] = "Selected Card "; // Card selected string for 0x00 status
char Notag_Str[] = "No tag "; // No tag string for 0x01 status
char Colli_Str[] = "Collision occur"; // Collision occur string for 0x0A status
char Chksm_Str[] = "Checksum error "; // Checksum error string for 0xF0 status
LCD_1_Start(); // Initialize LCD

UART_1_CmdReset(); // Reset Command Buffer
UART_1_Start(UART_1_PARITY_NONE); // Start UART
LCD_1_Position(0,0); // Set LCD position
LCD_1_PrCString("BaudRate = 9600 ");
while(1)
{
PRT0DR |= 0X80;
while(PRT0DR & 0X80) //Test tag detect signal
{ // low level indicating tag in detection range;
LCD_1_Position(0,0); // high level indicating tag out.
LCD_1_PrString(Notag_Str); // Print "No tag" on the LCD ;
}
UART_1_CmdReset(); // Reset UART Command Buffer
for (i=0;i<4;i++)
{
UART_1_PutChar(sel_card[i]); // Send a character to UART TX port
}
if(UART_1_cGetChar()==0xBD)
{
byte_length = UART_1_cGetChar();
for (i=0;i<byte_length;i++)
{
RxdataBuff[i] = UART_1_cGetChar(); // Get a character from UART RX data register
}
LCD_1_Position(0,0);
switch(RxdataBuff[1]) // Check status byte
{
case 0x00: // If 0x00 : Operation success
LCD_1_PrString(Cardf_Str); // Print "Card selected" on the LCD ;
LCD_1_PrCString("SN: ");
for (i=2;i<6;i++)
{
LCD_1_PrHexByte(RxdataBuff[i]); // Print serial number of the card detected
}
8 of 9 09-Jun-10 1:17 AM
break;
case 0x01:
LCD_1_PrString(Notag_Str); // Print "No tag" on the LCD ;
LCD_clr_line(1);
break;
case 0x0A:
LCD_1_PrString(Colli_Str); // Print "Collision occur" on the LCD ;
LCD_clr_line(1);
break;
case 0xF0:
LCD_1_PrString(Chksm_Str); // Print "Checksum error" on the LCD ;
LCD_clr_line(1);
break;
}
}
else
{
LCD_1_PrCString("Cardreader error");
}
}
}
9 of 9 09-Jun-10 1:17 AM

การใช้งาน RFID Modules แบบที่ 1.

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

การใช้งาน RFID Modules แบบที่ 1.

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

PrintWhatYouLike on RFID (Radio Frequency Identification) http://www.printwhatyoulike.com/print?url=http%3A%2F%2Fwww.rfidbasic.com%2Fmain.php%3Ft...

การใชงาน RFID Modules แบบที่ 1

การใชงานไมโครคอนโทรลเลอร PSoC กับโมดูลอารเอฟไอดี

(Using the PSoC microcontroller with RFID Module.)

RFID คือ อะไร

คูมือMifare Read/Write Module รุน RFM015M-1

วงจรสําหรับการทดลอง (Logic diagram)

Data : ขอมูลที่สง ขึ้นอยูกับคําสั่ง

Data : ขอมูลที่สง ขึ้นอยูกับคําสั่ง

รูปแบบคําสั่งใหตัวอาน อานคา Serial number ของแท็ก

ไฟลทดสอบ Source Code และ ไฟลสําหรับทดสอบ Hex file

#include <m8c.h> // part specific constants and macros

void LCD_clr_line(unsigned char j)

LCD_1_Start(); // Initialize LCD

You might also like