Professional Documents
Culture Documents
ระบบจํานวนเต็ม
สาระการเรียนรู
2.1 จํานวนเต็ม (2 ชั่วโมง)
2.2 การเปรียบเทียบจํานวนเต็ม (2 ชั่วโมง)
2.3 สมบัติของจํานวนเต็ม (3 ชั่วโมง)
2.4 การบวก การลบ การคูณ และการหาร
จํานวนเต็ม (10 ชั่วโมง)
35
36 สื่อเสริมสาระการเรียนรู คณิตศาสตรพื้นฐาน ม.1
MATH
Series
2.1 จํานวนเต็ม
จุดประสงคการเรียนรู
ดานความรู : นักเรียนสามารถ
1. ระบุหรือยกตัวอยางจํานวนเต็มบวก จํานวนเต็มลบ และศูนยได
2. ระบุจํานวนตามเงื่อนไขที่กําหนดได
ดานทักษะ / กระบวนการ : นักเรียนมีความสามารถใน
1. การระบุหรือยกตัวอยาง และอธิบายลักษณะของจํานวนเต็มบวก
จํานวนเต็มลบ และศูนยได
2. การคิดคํานวณ
3. การแกปญหา
4. การใหเหตุผล
5. การสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนําเสนอ
6. การเชื่อมโยงกับศาสตรอื่น ๆ ได
7. ความคิดริเริ่มสรางสรรค
ดานคุณลักษณะ : ปลูกฝงใหนักเรียน
1. มีความรับผิดชอบ
2. มีความสนใจใฝรู
3. มีความรอบคอบ มีระเบียบวินัย
4. มีความเชื่อมั่นในตนเอง
5. มีวิจารณญาณและทํางานอยางเปนระบบ
6. ตระหนักในคุณคา และมีเจตคติที่ดีตอวิชาคณิตศาสตร
จํานวนเต็ม (Integer)
หนวยการเรียนรูที่ผานมา นักเรียนไดรูจักจํานวนนับแลว หรือเรียกจํานวนนับอีกอยางหนึ่งวา
จํานวนเต็มบวก ซึ่งไดแก 1, 2, 3, 4, 5, . . .
พิจารณาเสนจํานวนตอไปนี้
-4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4
แผนผังแสดงความสัมพันธของ
จํานวนเต็ม ซึ่งประกอบดวย จํานวนเต็มบวก ศูนย และจํานวนเต็มลบ
จํานวนเต็ม
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
รูหรือไม
จํานวนเต็มที่นอยที่สุดที่สามารถเขียนไดโดยใชตัวเลขสองตัว
(หามใชเลข 0 มากกวาหนึ่งตัว)
จํานวนเต็มลบ
จากการพยากรณอากาศแสดงอุณหภูมิของอากาศในประเทศยุโรปในเดือนมกราคมของป
หนึ่งพบวา
อุณหภูมิของประเทศเดนมารก -25 ๐F
อุณหภูมิของประเทศสวิตเซอรแลนด -20 ๐F
อุณหภูมิของประเทศฝรั่งเศส -18 ๐F
อุณหภูมิของประเทศอังกฤษ -15 ๐F
นักเรียนจะพบวา -25, -20, -18 และ -15 เปนจํานวนเต็มที่มีเครื่องมหายลบอยูขางหนา
นักเรียนเขาใจความหมายของจํานวนเหลานี้หรือไม ? ………………………………………
จงพิจารณาเสนจํานวนตอไปนี้
5–8
5–7
5–6
5–5
5–4
5–3
5–2
5–1
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
จากเสนจํานวนจะเห็นผลตางของจํานวนสองจํานวน ดังนี้
5–1=4 5–5=0
5–2=3 5 – 6 = -1
5–3=2 5 – 7 = -2
5–4=1 5 – 8 = -3
เรียกจํานวน -1, -2, -3 วา จํานวนเต็มลบ
-1 อานวา ลบหนึ่ง
-2 อานวา ลบสอง
-3 อานวา ลบสาม
นักเรียนจะสังเกตเห็นวา
เมื่ อตั วตั้ง น อยกว า ตั วลบ ผลลัพ ธที่ไ ดจะเปน จํานวนลบเสมอ และเมื่อตัวลบเพิ่มขึ้น
คําตอบที่ไดจะมีคาลดลงเรื่อย ๆ เรียกวา จํานวนลบ หรือจํานวนเต็มลบ
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
จํานวนที่ตองการคือ -1, 1, 3, 2
2) พิจารณาเสนจํานวน
Series
2.2 การเปรียบเทียบจํานวนเต็
นวน ม
จุดประสงคการเรียนรู
ดานความรู : นักเรียนสามารถ
1. เปรียบเทียบจํานวนเต็มไดถูกตอง
ดานทักษะ / กระบวนการ : นักเรียนมีความสามารถใน
1. การอธิบายเกี่ยวกับการเปรียบเทียบจํานวนเต็มได
2. การแกปญหา
3. การใหเหตุผล
4. การสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนําเสนอ
5. การเชื่อมโยงกับศาสตรอื่น ๆ ได
6. ความคิดริเริ่มสรางสรรค
ดานคุณลักษณะ : ปลูกฝงใหนักเรียน
1. มีความรับผิดชอบ
2. มีความสนใจใฝรู
3. มีความรอบคอบ มีระเบียบวินัย
4. มีความเชื่อมั่นในตนเอง
5. มีวิจารณญาณและทํางานอยางเปนระบบ
6. ตระหนักในคุณคา และมีเจตคติที่ดีตอวิชาคณิตศาสตร
การเปรียบเทียบจํานวนเต็ม
นักเรียนพิจารณาจํานวนบนเสนจํานวนและสังเกตจํานวนที่แตกตางกันบนเสนจํานวน
-4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4
1) จํานวนที่อยูทางขวามือของศูนยแตกตางกับจํานวนที่อยูทางซายมืออยางไร
…………………………………………………………………………………………...
2) ถานําจํานวนบนเสนจํานวนมาเขียนเรียงลําดับจากซาย (-4) ไปขวา (4) จํานวนเพิ่มขึ้น
หรือลดลงอยางไร
…………………………………………………………………………………………...
สรุปลักษณะของจํานวนบนเสนจํานวน ดังนี้
จํา นวนที่ อยู ท างขวามื อ จะมากกว า จํ า นวนเต็ มที่ อ ยูท างซ า ยมือ เสมอ ดั ง นั้น บนเส น
จํานวน จํานวนเต็มลบที่อยูทางขวามือจะมากกวาจํานวนเต็มลบที่อยูทางซายมือ หรือจํานวนเต็ม
ลบที่อยูทางซายมือบนเสนจํานวนจะนอยกวาจํานวนเต็มลบที่อยูทางขวามือบนเสนจํานวน
ตัวอยางที่ 1 จงเติมคําตอบลงในชองวางตอไปนี้ใหถูกตอง
1) 5 มากกวา 3 ใชสัญลักษณ ..........5.>.3............
2) -6 นอยกวา -5 ใชสัญลักษณ ..........-6.<.-5..........
3) -1 .............. 0 ใชสัญลักษณ ...............................
4) -80 .............. -40 ใชสัญลักษณ ...............................
5) -100 .............. -60 ใชสัญลักษณ ...............................
6) -1 .............. -7 ใชสัญลักษณ ...............................
7) 2 .............. -2 ใชสัญลักษณ ...............................
8) -3,000 .............. -280 ใชสัญลักษณ ...............................
9) -20 .............. -200 ใชสัญลักษณ ...............................
10) -150 .............. -160 ใชสัญลักษณ ...............................
Series
2.3 สมบัติของจํานวนเต็ม
จุดประสงคการเรียนรู
ดานความรู : นักเรียนสามารถ
1. บอกสมบัติของจํานวนเต็มได
2. ใชสมบัติของจํานวนเต็มในการแกปญหาได
ดานทักษะ / กระบวนการ : นักเรียนมีความสามารถใน
1. การอธิบายเกี่ยวกับสมบัติของจํานวนเต็มได
2. การแสดงวิธีการใชสมบัติของจํานวนเต็มในการแกปญหาได
3. การแกปญหาและการใหเหตุผล
4. การสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนําเสนอ
5. การเชื่อมโยงกับศาสตรอื่น ๆ ได
6. ความคิดริเริ่มสรางสรรค
ดานคุณลักษณะ : ปลูกฝงใหนักเรียน
1. มีความรับผิดชอบ
2. มีความสนใจใฝรู
3. มีความรอบคอบ มีระเบียบวินัย
4. มีความเชื่อมั่นในตนเอง
5. มีวิจารณญาณและทํางานอยางเปนระบบ
6. ตระหนักในคุณคา และมีเจตคติที่ดีตอวิชาคณิตศาสตร
สมบัติของจํานวนเต็ม
1. ประโยคทางคณิตศาสตร
ตัวอยางที่ 1 จงพิจารณาประโยคตอไปนี้
a–1<5
ในที่นี้ตัวแปรคือ a
แทนคา a = 3 จะได 3 – 1 < 5
2<5 เปนจริง
ดังนั้น a – 1 < 5 เปนจริง เมื่อ a = 3
แทนคา a = 9 จะได 9 – 1 < 5
8<5 เปนเท็จ
ดังนั้น a – 1 < 5 เปนเท็จ เมื่อ a = 9
ตัวอยางที่ 2 จงพิจารณาประโยคตอไปนี้
ประโยค
ประโยค ตัวแปร คาของตัวแปร
จริง เท็จ
1. 28 – 3 = 25 - - /
2. 5 – a = 2 a 3 /
3. x – 7 = 8 10
4. c + 5 = 8 2
5. 20 – a = 15 5
6. n – 9 = 13 4
7. 2d + 6 = 9 1
8. 40 – 6 = 34 -
9. 3a + 2 = 8 1
10. 2y – 1 = 3 2
2. สมบัติเกี่ยวกับการบวกและการคูณจํานวนเต็ม
ใหนักเรียนชวยกันพิจารณา ดังนี้
ประโยคที่ 1 20 + 60 = 80
ประโยคที่ 2 60 + 20 = 80
1) ลักษณะของประโยคทั้งสองมีความแตกตางกันอยางไร
…………………………………………………………………………………………...
2) คําตอบของประโยคทั้งสองเทากันหรือไม
…………………………………………………………………………………………...
นักเรียนชวยกันสรุปสมบัติของการบวกขางตนวาเปน………………………………………
เมื่อ a และ b แทนจํานวนเต็มใด ๆ แลว a + b = b + a
เรียกวา………………….…………………………
ใหนักเรียนชวยกันพิจารณา ดังนี้
ประโยคที่ 1 (10 + 20) + 60 = 30 + 60 = 90
ประโยคที่ 2 10 + (20 + 60) = 10 + 80 = 90
1) ลักษณะของประโยคทั้งสองมีความแตกตางกันอยางไร
…………………………………………………………………………………………...
2) คําตอบของประโยคทั้งสองเทากันหรือไม
…………………………………………………………………………………………...
นักเรียนชวยกันสรุปสมบัติของการบวกขางตนวาเปน………………………………………
จงเติมคําตอบลงในชองวางตอไปนี้ใหสมบูรณ
ประโยคที่เปนจริง จํานวนที่แทนตัวแปร สมบัติของจํานวนเต็ม
1. m + 6 = 6 + 8 สมบัติการสลับที่สําหรับการบวก
2. 11 + 25 = n + 11
3. 4 + (p + 27) = (q + 14) + r p = ……, q =……, r = ……
4. (a + 100) + 990 = 405 + (x + y) a = ……, x = ……, y = ……
5. (37 + 91) + 86 = c + (37 + d) c = ……, d = ……
ใหนักเรียนชวยกันพิจารณา ดังนี้
ประโยคที่ 1 10 × 20 = 200
ประโยคที่ 2 20 × 10 = 200
1) ลักษณะของประโยคทั้งสองมีความแตกตางกันอยางไร
…………………………………………………………………………………………...
2) ผลคูณของประโยคทั้งสองเทากันหรือไม
…………………………………………………………………………………………...
นักเรียนชวยกันสรุปสมบัติของการคูณขางตนวาเปน………………………………………
ใหนักเรียนชวยกันพิจารณา ดังนี้
ประโยคที่ 1 (10 × 20) × 60 = 200 × 60 = 12,000
ประโยคที่ 2 10 × (20 × 60) = 10 × 1,200 = 12,000
1) ลักษณะของประโยคทั้งสองมีความแตกตางกันอยางไร
…………………………………………………………………………………………...
2) ผลคูณของประโยคทั้งสองเทากันหรือไม
…………………………………………………………………………………………...
3) การนําวงเล็บมาแบงกลุมทําใหมีผลตอผลลัพธของการคูณหรือไม
…………………………………………………………………………………………...
นักเรียนชวยกันสรุปสมบัติของการคูณขางตนวาเปน………………………………………
เมื่อ a, b และ c แทนจํานวนเต็มใด ๆ แลว (a × b) × c = a × (b × c)
เรียกวา………………….……………………………
ใหนักเรียนชวยกันพิจารณา ดังนี้
ประโยคที่ 1 10 × (20 + 60) = 10 × 80 = 800
ประโยคที่ 2 (10 × 20) + (10 × 60) = 200 + 600 = 800
1) ลักษณะของประโยคทั้งสองมีความแตกตางกันอยางไร
…………………………………………………………………………………………...
2) ผลลัพธของประโยคทั้งสองเทากันหรือไม
…………………………………………………………………………………………...
นักเรียนชวยกันสรุปลักษณะความสัมพันธของจํานวนเต็มวาเปน……………………………
………………………………………
จงเติมคําตอบลงในชองวางตอไปนี้ใหสมบูรณ
1) 13 × (26 + 45) = (……… × 26) + (13 × ………)
2) (57 + 82) × 64 = (57 × ………) + (……… × 64)
3) 93 × 102 = ……… × (100 + ………)
= (……… × ………) + (93 × ………)
= ……… + ………
= ………
4) 99 × 76 = (100 – ………) × 76
= (………× 76) – (………× 76)
= ……… – ………
= ………
5) 112 × 998 = 112 × (……… – ………)
= (……… × ………) – (……… × ………)
= ……… – ……… = ………
สรุปสมบัติเกี่ยวกับการบวกและการคูณจํานวนเต็ม
รูไว ใชวา
การบวก การคูณ
สมบัติการสลับที่ (Commutative property)
เมื่อ a และ b แทนจํานวนเต็มใด ๆ แลว เมื่อ a และ b แทนจํานวนเต็มใด ๆ แลว
a+b=b+a a× b=b× a
สมบัติการเปลีย่ นหมู (Associative property)
เมื่อ a, b และ c แทนจํานวนเต็มใด ๆ เมื่อ a, b และ c แทนจํานวนเต็มใด ๆ
แลว (a + b) + c = a + (b + c) แลว (a × b) × c = a × (b × c)
สมบัติการแจกแจง (Distributive property)
เมื่อ a, b และ c แทนจํานวนเต็มใด ๆ แลว
a × (b + c) = (a × b) + (a × c)
(b + c ) × a = (b × a) + (c × a)
พิจารณาประโยคตอไปนี้
(1) 3 + 0 = 3 (2) 8 – 0 = 8
(3) 5 × 0 = 0 (4) 0 ÷ 9 = 0
1. จํานวนนับบวกศูนยมีคาเปนอยางไร
…………………………………………………………………………………………...
2. จํานวนนับลบศูนยมีคาเปนอยางไร
…………………………………………………………………………………………...
3. จํานวนนับคูณศูนยมีคาเปนอยางไร
…………………………………………………………………………………………...
4. ศูนยหารดวยจํานวนนับมีคาเปนอยางไร
…………………………………………………………………………………………...
พิจารณาตัวอยางตอไปนี้
(1) 2+0 = 2
0+2 = 2
ดังนั้น 2 + 0 = 0 + 2 = 2
จะเห็นวา จํานวนใด ๆ บวกกับ 0 จะไดจํานวนนั้น
จึงสรุปไดวา
เมื่อ a แทนจํานวนใด ๆ แลว a + 0 = 0 + a = a เรียกวา 0 วา เอกลักษณการบวก
(2) 9×0 = 0
0×9 = 0
ดังนั้น 9 × 0 = 0 × 9 = 0
จะเห็นวา จํานวนใด ๆ คูณกับ 0 จะได 0
จึงสรุปไดวา
เมื่อ a แทนจํานวนใด ๆ แลว a × 0 = 0 × a = 0
(3) 0 ÷ 10 = 100 = 0
0 =0
0 ÷ 255 = 255
ดังนั้น 9 × 0 = 0 × 9 = 0
จะเห็นวา 0 หารดวยจํานวนใด ๆ ที่ไมใช 0 จะได 0
จึงสรุปไดวา
ศูนยเปนตัวหารไมไดหรือไมใชศูนยเปนตัวหาร เนื่องจากผลหารนั้นหา
รูไว ใชวา คาไมได เพราะการที่ตัวหารเปนศูนยไดผลลัพธเปน 2 กรณี
1. ให 03 = 1 ดังนั้น 3 = 0 × 1 = 0 ซึ่งเปนเท็จ
และ 03 = 3 ดังนั้น 3 = 0 × 3 = 0 ซึ่งเปนเท็จ
2. ให 00 = 1 ดังนั้น 0 = 0 × 1 = 0 ซึ่งเปนจริง
และ 00 = 3 ดังนั้น 0 = 0 × 3 = 0 ซึ่งเปนจริง
จะเห็นไดวา เมื่อตัวหารเปนศูนยและตัวตั้งเปนจํานวนใด ๆ คําตอบที่ได
เปนทั้งจริงและเท็จ จึงสรุปไดวา ผลหารนั้น หาคาไมได
2. สมบัติของหนึ่ง
รูไว ใชวา
หนึ่ง (1) เปนจํานวนนับที่นอยที่สุด
พิจารณาประโยคตอไปนี้
(1) 11 × 1 = 11
1 × 11 = 11
(2) 55 × 1 = 55
1 × 55 = 55
1) จํานวนใด ๆ คูณกับหนึ่งมีผลลัพธมีคาเปนอยางไร
…………………………………………………………………………………………...
2) จํานวนใด ๆ เมื่อคูณกับหนึ่งแลวผลลัพธจะไดเทากับจํานวนนับนั้นเสมอหรือไม
…………………………………………………………………………………………...
ใหนักเรียนพิจารณาประโยคทางคณิตศาสตรวาเปนประโยคเปนจริงหรือเปนเท็จ ดังนี้
1) 33 ÷ 1 = 33 หรือ 33 1 = 33
2) (-22) ÷ 1 = -22 หรือ -221 = -22
3) 99
99 = 1
ชวยคนหาคําตอบใหหนอยนะ
1) จํานวนใด ๆ เมื่อหารดวยหนึ่งผลลัพธทีไดมีคาเปนอยางไร
…………………………………………………………………………………………...
2) จํานวนใด ๆ เมื่อหารดวยหนึ่งแลวผลลัพธจะไดเทากับจํานวนนั้นเสมอหรือไม
…………………………………………………………………………………………...
3) จํานวนใด ๆ ที่เทากันสองจํานวนหารกัน ผลลัพธจะไดเทากับหนึ่งเสมอหรือไม
…………………………………………………………………………………………...
จุดประสงคการเรียนรู
ดานความรู : นักเรียนสามารถ
1. บอกความหมายและลักษณะของคาสัมบูรณและจํานวนตรงขามได
2. หาคาของคาสัมบูรณและจํานวนตรงขามได
3. บวก ลบ คูณ และหารจํานวนเต็มได
ดานทักษะ / กระบวนการ : นักเรียนมีความสามารถใน
1. อธิบายผลที่เกิดขึ้นจากการบวก การลบ การคูณและการหาร
จํานวนเต็ม พรอมทั้งบอกความสัมพันธของการดําเนินการได
2. การคิดคํานวณ
3. การแกปญหา
4. การใหเหตุผล
5. การสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนําเสนอ
6. การเชื่อมโยงกับศาสตรอื่น ๆ ได
7. ความคิดริเริ่มสรางสรรค
ดานคุณลักษณะ : ปลูกฝงใหนักเรียน
1. มีความรับผิดชอบ
2. มีความสนใจใฝรู
3. มีความรอบคอบ มีระเบียบวินัย
4. มีความเชื่อมั่นในตนเอง
5. มีวิจารณญาณและทํางานอยางเปนระบบ
6. ตระหนักในคุณคา และมีเจตคติที่ดีตอวิชาคณิตศาสตร
1. คาสัมบูรณและจํานวนตรงขาม
1.1 คาสัมบูรณ (Absolute value)
พิจารณาเสนจํานวนตอไปนี้
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
1) ระยะหางของจํานวนเต็มบนเสนจํานวนเทากันหรือไม ………………………
2) -5 อยูหางจาก 0 อยูเทาใด ………………………
3) 5 อยูหางจาก 0 อยูเทาใด ………………………
4) ระยะหางของ -5 และ 5 อยูหางจาก 0 เทากันหรือไม ………………………
จากขางตนจะพบวา
5 อยูหางจาก 0 เปนระยะ 5 หนวย
-5 อยูหางจาก 0 เปนระยะ 5 หนวย
ระยะที่เทากันนี้ คือ คาสัมบูรณของ 5 และ -5
กลาวไดวา คาสัมบูรณของ 5 เทากับ 5
คาสัมบูรณของ -5 เทากับ 5
จะเห็นวา คาสัมบูรณของ 5 และ -5 เหมือนกัน จึงสรุปไดวา
คาสัมบูรณของจํานวนใด ๆ เทากับระยะที่จํานวนนัน้ อยูหา งจาก 0 บนเสนจํานวน
1) จงบอกคาสัมบูรณจากเสนจํานวนตอไปนี้
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
จากรูป คาสัมบูรณของ…………เทากับ…………
คาสัมบูรณของ…………เทากับ…………
-10 -8 -6 -4 -2 0 2 4 6 8 10
จากรูป คาสัมบูรณของ…………เทากับ…………
คาสัมบูรณของ…………เทากับ…………
2) จงแสดงคาสัมบูรณตอไปนี้บนเสนจํานวน
คาสัมบูรณของ 1 และ -1
คาสัมบูรณของ -6 และ 6
1.2 สัญลักษณของคาสัมบูรณ
คาสัมบูรณของจํานวนใด ๆ เทากับระยะที่จํานวนนั้นอยูหางจาก 0 บนเสนจํานวน โดยมี
สัญลักษณคือ
และเมื่อ a แทนจํานวนใด ๆ จะได
⎧⎪ a, a > 0
⎪⎪
a = ⎪⎨ 0, a = 0
⎪⎪
⎪-a, a < 0
⎪⎩
พิจารณาเสนจํานวนตอไปนี้
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
5 อยูหางจาก 0 เปนระยะ 5 หนวย คาสัมบูรณของ 5 เทากับ 5 ใชสัญลักษณ 5
5 อานวา คาสัมบูรณของ 5 มีคาเทากับ 5
-5 อยูหางจาก 0 เปนระยะ 5 หนวย คาสัมบูรณของ -5 เทากับ 5 ใชสัญลักษณ -5
-5 อานวา คาสัมบูรณของ -5 มีคาเทากับ 5
ดังนั้น 5 = -5 = 5
-9 -7 -5 -3 -1 0 1 3 5 7 9
จากเสนจํานวนขางตน ทําใหทราบวา
จํานวนเต็มบวก 9 และจํานวนเต็มลบ -9 จํานวนเต็มทั้งสองจํานวนมีคาสัมบูรณเทากัน ซึ่ง
อยูคนละขางของ 0 และอยูหางจาก 0 เปนระยะ 9 หนวยเทากัน
ในกรณีเชนนี้ จะเรียก -9 เปนจํานวนตรงขามของ 9
จะเรียก 9 เปนจํานวนตรงขามของ 9
โดยทั่วไป กลาวไดวา
2. การบวกจํานวนเต็ม
2.1 การบวกจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มบวก
พิจารณาการบวกตอไปนี้
3+4 = F
-1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
การบวกขางตนเปนการหาผลบวกโดยใชเสนจํานวน โดยเริ่มตนที่ 0 นับไปทางขวาถึง 3
เมื่อบวกดวย 4 ใหนับเพิ่มไปทางขวา 4 หนวย ซึ่งจะไปสิ้นสุดที่ 7 จะได 7 เปนผลบวกของ 3
กับ 4
ดังนั้น 3 + 4 = 7
สรุปไวใช หลักการใชเสนจํานวน ถาเปนการบวกจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มบวก
7. เริ่มตนที่ 0
8. เคลือ่ นไปทางขวาเปนระยะที่เทากับจํานวนแรก
9. ณ ตําแหนงในขอ 2. ใหเคลื่อนไปทางขวาอีกครั้งเปนระยะที่เทากับอีก
จํานวนหนึ่ง ถึงจุดที่แทนจํานวนใด จํานวนนั้นเปนคําตอบ
พิจารณาการบวกจํานวนเต็มโดยใชคาสัมบูรณ ดังนี้
ตัวอยางที่ 3 10 + 12 = F
วิธีทํา คาสัมบูรณของ 10 หรือ 10 = 10
คาสัมบูรณของ 12 หรือ 12 = 12
เพราะฉะนั้น 10 + 12 = 10 + 12 = 22
ดังนั้น 10 + 12 = 22
ตัวอยางที่ 4 17 + 33 = F
วิธีทํา คาสัมบูรณของ 17 = ………………
คาสัมบูรณของ 33 = ………………
เพราะฉะนั้น 17 + 33 = ………………
ดังนั้น ………………………………
สรุปไวใช
การบวกจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มบวก ใหนําคาสัมบูรณ
ของจํานวนเต็มบวกทั้งสองมาบวกกัน ผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มบวก
2.2 การบวกจํานวนเต็มลบดวยจํานวนเต็มลบ
พิจารณาการบวกตอไปนี้
(-3) + (-4) = F
-1 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1
การบวกขางตนเปนการหาผลบวกโดยใชเสนจํานวน โดยเริ่มตนที่ 0 นับไปทางซายถึง -3
เมื่อบวกดวย -4 ใหนับลดไปทางซาย 4 หนวย ซึ่งจะไปสิ้นสุดที่ -7 จะได -7 เปนผลบวกของ -3
กับ -4
ดังนั้น (-3) + (-4) = -7
สรุปไวใช หลักการใชเสนจํานวน ถาเปนการบวกจํานวนเต็มลบดวยจํานวนเต็มลบ
4. เริ่มตนที่ 0
5. เคลือ่ นไปทางซายเปนระยะที่เทากับคาสัมบูรณของจํานวนแรก
6. ณ ตําแหนงในขอ 2. ใหเคลื่อนไปทางซายอีกครั้งเปนระยะที่เทากับ
คาสัมบูรณอีก จํา นวนหนึ่ง ถึงจุดที่แ ทนจํา นวนใด จํา นวนนั้น เปน
คําตอบ
-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1
วิธีการ 1. เริ่มตนที่ 0
2. เคลื่อนไปทางซายเปนระยะที่เทากับคาสัมบูรณของ -2
3. จาก -2 นับลดไปทางซายมือเทากับคาสัมบูรณของ -5 (5 หนวย) คือตําแหนง -7
ดังนั้น (-2) + (-5) = -7
พิจารณาการบวกจํานวนเต็มโดยใชคาสัมบูรณ ดังนี้
ตัวอยางที่ 6 (-15) + (-20) = F
วิธีทํา คาสัมบูรณของ -15 หรือ -15 = 15
คาสัมบูรณของ -20 หรือ -20 = 20
เพราะฉะนั้น -15 + -20 = 15 + 20 = 35
แตผลลัพธที่ไดตองเปนจํานวนลบ
ดังนั้น (-15) + (-20) = -35
ตัวอยางที่ 7 (-19) + (-21) = F
วิธีทํา คาสัมบูรณของ ……………… = ………………
คาสัมบูรณของ ……………… = ………………
เพราะฉะนั้น ……………… = ………………
แตผลลัพธที่ไดตองเปนจํานวนลบ
ดังนั้น ………………………………………………
สรุปไวใช
การบวกจํานวนเต็มลบดวยจํานวนเต็มลบ ใหนําคาสัมบูรณของ
จํานวนเต็มบวกทั้งสองมาบวกกัน ผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มลบ
-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1
ดังนั้น (-6) + (-3) = ……………
2) 2+6 = F
-1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
ดังนั้น 2 + 6 = ……………
3) (-4) + (-4) = F
-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1
ดังนั้น (-4) + (-4) = ……………
2. จงหาผลบวกตอไปนี้
1) 17 + 23 = …………… 2) 23 + 17 = ……………
3) (-4) + (-6) = …………… 4) (-6) + (-4) = ……………
5) (-8) + (-9) = …………… 6) (-9) + (-8) = ……………
7) (-20) + (-10) = …………… 8) (-10) + (-20) = ……………
9) (-54) + (-46) = …………… 10) (-46) + (-54) = ……………
จากผลลัพธที่ไดในขอ 3) ถึงขอ 10) การบวกจํานวนเต็มลบนาจะมีสมบัติ………………...
………………………………………
3. จงหาผลลัพธโดยบวกสองจํานวนที่อยูในวงเล็บใหญกอน
1) 5 + [2 + 8] =…………………… 2) [5 + 2] + 8 =…………….
=…………………… =…………….
3) (-4) + [(-6) + (-3)] =…………………… 4) [(-4) + (-6)] + (-3) =…………….
=…………………… =…………….
5) (-3) + [(-7) + (-9)] =…………………… 6) [(-3) + (-7)] + (-9) =…………….
=…………………… =…………….
7) [(-2) + (-10)] + (-5) =…………………… 8) (-2) + [(-10) + (-5)] =…………….
=…………………… =…………….
9) [(-7) + (-12)] + (-8) =…………………… 10) (-7) + [(-12) + (-8)] =…………….
=…………………… =…………….
4. จงหาจํานวนเต็มที่แทน x แลวทําใหไดประโยคที่เปนจริง
1) x + (-4) = -8 ; x = ……………………
2) x + (-7) = -15 ; x = ……………………
3) x + (-11) = -23 ; x = ……………………
4) x + (-16) = -38 ; x = ……………………
5) x + (-29) = -59 ; x = ……………………
2. การบวกจํานวนเต็ม (ตอ)
2.3 การบวกจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มลบและการบวกจํานวนเต็มลบดวย
จํานวนเต็มบวก
การบวกจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มลบ ในกรณีที่จํานวนเต็มบวกมีคาสัมบูรณมากกวา
พิจารณาการบวกตอไปนี้
6 + (-4) = F
-1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
การบวกขางตนเปนการหาผลบวกโดยใชเสนจํานวน โดยเริ่มตนที่ 0 นับไปทางขวาถึง 6
เมื่อบวกดวย -4 ใหนับลดไปทางซาย 4 หนวย ซึ่งจะไปสิ้นสุดที่ 2 จะได 2 เปนผลบวกของ 6
กับ -4
ดังนั้น 6 + (-4) = 2
ตัวอยางที่ 8 9 + (-8) = F
-1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
วิธีการ 1. เริ่มตนที่ …………
2. เคลื่อนไปทางขวาเปนระยะที่เทากับคาสัมบูรณของ…………
3. จาก……นับลดไปทางซายมือเทากับคาสัมบูรณของ……ซึ่งจะไปสิ้นสุดที่……...
ดังนั้น 9 + (-8) = …………….
พิจารณาการบวกจํานวนเต็มโดยใชคาสัมบูรณ ดังนี้
ตัวอยางที่ 9 13 + (-9) = F
วิธีทํา คาสัมบูรณของ 13 หรือ 13 = 13
คาสัมบูรณของ -9 หรือ -9 = 9
นําคาสัมบูรณที่มากกวาเปนตัวตั้งแลวลบดวยคาสัมบูรณที่นอยกวา
ได 13 – -9 = 13 – 9 = 4
แตผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มบวก ตามจํานวนที่มีคาสัมบูรณมากกวา
ดังนั้น 13 + (-9) = 4
ตัวอยางที่ 10 39 + (-12) = F
วิธีทํา คาสัมบูรณของ …………………… = ……………………
คาสัมบูรณของ …………………… = ……………………
นําคาสัมบูรณที่มากกวาเปนตัวตั้งแลวลบดวยคาสัมบูรณที่นอยกวา
ได ………………………………………………………………
แตผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มบวก ตามจํานวนที่มีคาสัมบูรณมากกวา
ดังนั้น ………………………………………………………………
การบวกจํานวนเต็มลบดวยจํานวนเต็มบวก ในกรณีที่จํานวนเต็มบวกมีคาสัมบูรณมากกวา
พิจารณาการบวกตอไปนี้
ตัวอยางที่ 11 (-4) + 7 = F
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
วิธีการ 1. เริ่มตนที่ 0
2. เคลื่อนไปทางซายเปนระยะที่เทากับคาสัมบูรณของ -4
3. จาก -4 นับเพิ่มไปทางขวามือเทากับคาสัมบูรณของ 7 ซึ่งจะไปสิ้นสุดที่ 3
ดังนั้น (-4) + 7 = 3
ตัวอยางที่ 12 (-4) + 7 = F
วิธีทํา คาสัมบูรณของ -4 = 4
คาสัมบูรณของ 7 = 7
นําคาสัมบูรณที่มากกวาเปนตัวตั้งแลวลบดวยคาสัมบูรณที่นอยกวา
ได 7 – -4 = 7–4 = 3
แตผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มบวก ตามจํานวนที่มีคาสัมบูรณมากกวา เชนเดียวกับ
การหาผลบวกโดยใชเสนจํานวน
ดังนั้น (-4) + 7 = 3
ตัวอยางที่ 13 (-12) + 16 = F
วิธีทํา คาสัมบูรณของ …………………… = ……………………
คาสัมบูรณของ …………………… = ……………………
นําคาสัมบูรณที่มากกวาเปนตัวตั้งแลวลบดวยคาสัมบูรณที่นอยกวา
ได ………………………………………………………………
แตผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มบวก ตามจํานวนที่มีคาสัมบูรณมากกวา
ดังนั้น ………………………………………………………………
สรุปไวใช การบวกจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มลบหรือการบวกจํานวน
เต็มลบดวยจํานวนเต็มบวก ในกรณีที่จํานวนเต็มบวกมีคาสัมบูรณมากกวา
ให นํ า ค า สั ม บู ร ณ ข องจํ า นวนที่ ม ากกว า เป น ตั ว ตั้ ง แล ว ลบด ว ยค า สั ม บู ร ณ ข อง
จํานวนที่นอยกวา ผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มบวก
การบวกจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มลบ ในกรณีที่จํานวนเต็มลบมีคาสัมบูรณมากกวา
พิจารณาการบวกตอไปนี้
ตัวอยางที่ 14 4 + (-8) = F
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
วิธีการ 1. เริ่มตนที่ 0
2. เคลื่อนไปทางขวาเปนระยะที่เทากับคาสัมบูรณของ -4
3. จาก 4 นับลดไปทางซายมือเทากับคาสัมบูรณของ -8 ซึ่งจะไปสิ้นสุดที่ -4
ดังนั้น 4 + (-8) = -4
ตัวอยางที่ 15 4 + (-8) = F
วิธีทํา คาสัมบูรณของ 4 หรือ 4 = 4
คาสัมบูรณของ -8 หรือ -8 = 8
นําคาสัมบูรณที่มากกวาเปนตัวตั้งแลวลบดวยคาสัมบูรณที่นอยกวา
ได -8 – 4 = 8–4 = 4
แตผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มลบ ตามจํานวนที่มีคาสัมบูรณมากกวา เชนเดียวกับ
การหาผลบวกโดยใชเสนจํานวน
ดังนั้น 4 + (-8) = -4
ตัวอยางที่ 16 9 + (-12) = F
วิธีทํา คาสัมบูรณของ …………………… = ……………………
คาสัมบูรณของ …………………… = ……………………
นําคาสัมบูรณที่มากกวาเปนตัวตั้งแลวลบดวยคาสัมบูรณที่นอยกวา
ได ………………………………………………………………
แตผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มลบ ตามจํานวนที่มีคาสัมบูรณมากกวา
ดังนั้น ………………………………………………………………
การบวกจํานวนเต็มลบดวยจํานวนเต็มบวก ในกรณีที่จํานวนเต็มลบมีคาสัมบูรณมากกวา
พิจารณาการบวกตอไปนี้
ตัวอยางที่ 17 (-5) + 4 = F
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
วิธีการ 1. เริ่มตนที่ 0
2. เคลื่อนไปทางซายเปนระยะที่เทากับคาสัมบูรณของ -5
3. จาก -5 นับเพิ่มไปทางขวามือเทากับคาสัมบูรณของ 4 ซึ่งจะไปสิ้นสุดที่ -1
ดังนั้น (-5) + 4 = -1
ตัวอยางที่ 18 (-5) + 4 = F
วิธีทํา คาสัมบูรณของ -5 = 4
คาสัมบูรณของ 4 = 8
นําคาสัมบูรณที่มากกวาเปนตัวตั้งแลวลบดวยคาสัมบูรณที่นอยกวา
ได -5 – 4 = 5–4 = 1
แตผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มลบ ตามจํานวนที่มีคาสัมบูรณมากกวา เชนเดียวกับ
การหาผลบวกโดยใชเสนจํานวน
ดังนั้น (-5) + 4 = -1
ตัวอยางที่ 19 (-12) + 9 = F
วิธีทํา คาสัมบูรณของ …………………… = ……………………
คาสัมบูรณของ …………………… = ……………………
นําคาสัมบูรณที่มากกวาเปนตัวตั้งแลวลบดวยคาสัมบูรณที่นอยกวา
ได ………………………………………………………………
แตผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มลบ ตามจํานวนที่มีคาสัมบูรณมากกวา
ดังนั้น ………………………………………………………………
สรุปไวใช การบวกจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มลบหรือการบวกจํานวน
เต็ม ลบดวยจํ านวนเต็ม บวก ในกรณี ที่จํ า นวนเต็ มลบมี คาสั มบู รณ ม ากกว า
ให นํ า ค า สั ม บู ร ณ ข องจํ า นวนที่ ม ากกว า เป น ตั ว ตั้ ง แล ว ลบด ว ยค า สั ม บู ร ณ ข อง
จํานวนที่นอยกวา ผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มลบ
สงสัยไหมครับ ?
ถาเปนการบวกระหวางจํานวนเต็มบวกกับจํานวนเต็มลบ ในกรณีที่
จํานวนเต็มทั้งสองมีคาสัมบูรณเทากัน จะเกิดอะไรขึ้น ชวยตอบหนอยนะครับ
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………
สรุปอีกครั้ง การบวกจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มลบหรือการบวก
จํานวนเต็มลบดวยจํานวนเต็มบวก
ในกรณีที่จํานวนเต็มบวกมีคาสัมบูรณมากกวา ใหนําคาสัมบูรณของจํานวนที่มากกวาเปน
ตัวตั้ง แลวลบดวยคาสัมบูรณของจํานวนที่นอยกวา ผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มบวก
ในกรณีที่จํานวนเต็มลบมีคาสัมบูรณมากกวา ใหนําคาสัมบูรณของจํานวนที่มากกวาเปน
ตัวตั้ง แลวลบดวยคาสัมบูรณของจํานวนที่นอยกวา ผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มลบ
3. การลบจํานวนเต็ม
3.1 การลบจํานวนเต็มโดยใชเสนจํานวน
ใหนักเรียนพิจารณาการลบจํานวนเต็มตอไปนี้
1) การลบจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มบวก
9–4=5
-1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
2) การลบจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มลบ
9 – (-4) = 13
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13
3) การลบจํานวนเต็มลบดวยจํานวนเต็มบวก
(-9) – 4 = -13
3.2 การลบจํานวนเต็มโดยใชจํานวนตรงขาม
พิจารณาการลบจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มลบ สัมพันธกับการบวกจํานวนเต็มบวกกับ
จํานวนเต็มบวก ตอไปนี้
5 – (-3)
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
5+3
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
7 – (-4)
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11
7+4
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11
พิจารณาความสัมพันธของการลบจํานวนเต็มและการบวกจํานวนเต็มดังแสดงไวขางตน จะ
เห็นวา
การลบจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มลบ การบวกจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มบวก
5 – (-3) = 8 5+3=8
จะได 5 – (-3) = 5+3
7 – (-4) = 11 7 + 4 = 11
จะได 7 – (-4) = 7+4
# #
a – (-b) = a+b
หรือ a–b = a + (-b)
สมบัติของการลบจํานวนเต็ม
ถา a และ b เปนจํานวนใด ๆ
a – b = a + (-b)
ตัวอยางที่ 20 1) 4 – 2 = 4 + จํานวนตรงขามของ 2
= 4 + (-2)
2) 2 – 4 = 2 + จํานวนตรงขามของ 4
= 2 + (-4)
3) (-4) – 2 = (-4) + จํานวนตรงขามของ…………
= ……………………
4) (-4) – (-2) = (-4) + จํานวนตรงขามของ…………
= ……………………
5) 4 – (-2) = …………………………………………
= ……………………
ตัวอยางที่ 21 จงหาผลลบ 5 – 12
วิธีทํา 5 – 12 = 5 + (-12)
= -7
ตอบ -7
ตัวอยางที่ 22 จงหาผลลบ (-5) – 12
วิธีทํา (-5) – 12 = (-5) + (-12)
= ……………
ตอบ ……………
ตัวอยางที่ 23 จงหาผลลบ 5 – (-12)
วิธีทํา 5 – (-12) = 5 + ……………
= ……………
ตอบ ……………
5. จงหาคาของ
1) (a + b) – c เมื่อ a = -5, b = -21, c = -18
(a + b) – c = ……………………………………………………..
= ……………………………………………………..
= ……………………………………………………..
2) a + (b – c) เมื่อ a = 14, b = -32, c = -50
a + (b – c) = ……………………………………………………..
= ……………………………………………………..
= ……………………………………………………..
3) a – (b – c) เมื่อ a = -100, b = 54, c = -45
a – (b – c) = ……………………………………………………..
= ……………………………………………………..
= ……………………………………………………..
4. การคูณจํานวนเต็ม
4.1 การคูณจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มบวก
การคูณจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มบวก คือการคูณจํานวนนับดวยจํานวนนับ ดังตัวอยาง
1) 3 × 4 = 4 + 4 + 4 = 12
3 × 4 = 4 × 3 มีสมบัติการสลับที่การคูณ
ดังนั้น 3 × 4 = 4 × 3 = 12
2) 4 × 7 = 7 + 7 + 7 + 7 = 28
4 × 7 = 7 × 4 มีสมบัติการสลับที่การคูณ
ดังนั้น 4 × 7 = 7 × 4 = 28
จะเห็นวา
การคูณจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มบวก จะไดผลลัพธเปนจํานวนเต็มบวก
ตัวอยางที่ 25 1) 6×9 = 54
2) 7×8 = ………………
3) 8×9 = ………………
4) 9×8 = ………………
4.2 การคูณจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มลบหรือการคูณจํานวนเต็มลบดวย
จํานวนเต็มบวก
การคูณจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มลบ สามารถหาผลคูณโดยใชความหมายของการคูณ
และการบวกจํานวนเต็มลบ ดังตัวอยาง
5 × (-3) = (-3) + (-3) + (-3) + (-3) + (-3)
= -15
หรือ 5 × (-3) = (-3) × 5 (สมบัติการสลับที่การคูณ)
= (-5) + (-5) + (-5)
= -(5 + 5 + 5)
= -(5 × 3)
= -15
ดังนั้น 5 × (-3) = (-3) × 5 = -(5 × 3) = -15
จะพบวา 5 × (-3) = -( 5 × -3 )
= -(5 × 3)
= -15
และ (-5) × 3 = -( -5 × 3 )
= -(5 × 3)
= -15
สรุปไวใช
การคูณจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มลบ หรือ การคูณจํานวนเต็มลบ
ดวยจํานวนเต็มบวก มีหลักการดังนี้
1. ใหหาคาสัมบูรณของจํานวนเต็มทั้งสอง
2. ใหนําคาสัมบูรณของจํานวนเต็มทั้งสองมาคูณกัน
3. ผลลัพธที่ไดในขอ 2 ใหตอบเปนจํานวนเต็มลบ
ตัวอยางที่ 26 1) (-6) × 9 = -( -6 × 9 )
= -(6 × 9)
= -54
2) 7 × (-8) = ………………
= ………………
= ………………
3) (-15) × 3 = -(15 × 3)
= -45
4) 19 × (-2) = ………………
= ………………
5) (-12) × 9 = ………………
= ………………
4.3 การคูณจํานวนเต็มลบดวยจํานวนเต็มลบ
พิจารณาตัวอยางตอไปนี้
(-3) × (-4) = ,
เนื่องจาก
(-4) + 4 = 0 (จํานวนตรงขามบวกกันเทากับศูนย)
นํา (-3) คูณทั้งสองขาง จะได
(-3) × [(-4) + 4] = (-3) × 0
[(-3) × (-4)] + [(-3) × 4] = 0 (สมบัติการแจกแจง)
[(-3) × (-4)] + (-12) =0
นํา 12 มาบวกทั้งสองขาง จะได
[(-3) × (-4)] + (-12) + 12 = 0 + 12
[(-3) × (-4)] + 0 = 0 + 12 (จํานวนตรงขามบวกกันเทากับศูนย)
(-3) × (-4) = 12
ดั้งนั้น (-3) × (-4) = 12
หรือ (-3) × (-4) = -3 × -4 = 3 × 4 = 12
สรุปไวใช
การคูณจํานวนเต็มลบดวยจํานวนเต็มลบ มีหลักการดังนี้
1. ใหหาคาสัมบูรณของจํานวนเต็มทั้งสอง
2. ใหนําคาสัมบูรณของจํานวนเต็มทั้งสองมาคูณกัน
3. ผลลัพธที่ไดในขอ 2 ใหตอบเปนจํานวนเต็มบวก
ขอสังเกตที่ไมควรมองขาม
การคูณจํานวนเต็มสองจํานวนใด ๆ
1. จํานวนที่มีเครื่องหมาย เหมือนกัน คูณกัน ไดผลลัพธเปนจํานวนเต็มบวก
ตัวอยาง 2 × 5 = 10
(-2) × (-5) = 10
2. จํานวนที่มีเครื่องหมาย ตางกัน คูณกัน ไดผลลัพธเปนจํานวนเต็มลบ
ตัวอยาง 2 × (-5) = -10
(-2) × 5 = -10
3. จงหาจํานวนเต็มที่แทน y แลวทําใหไดประโยคที่เปนจริง
1) y × 6 = -12 ; y = ………… 2) 5 × y = -5 ; y = ……………
3) (-2) × y = 6 ; y = ………… 4) (-1) × y = 1 ; y = …………….
5) y × 1 = -1 ; y = ………… 6) 100 × y = -200 ; y = …………
7) 7 × (-10) × y = -70 ; y = ………… 8) (-1) × y = 2 ; y = ………….
9) (-1) × y × (-1) = y ; y = ………… 10) (-5) × y × (-5) = -125 ; y = ……….
5. การหารจํานวนเต็ม
การหารจํานวนเต็มดวยจํานวนเต็มอาจเปนการหารลงตัวหรือเปนการหารไมลงตัวก็ได แตใน
หัวขอนี้จะกลาวถึงเฉพาะการหารจํานวนเต็มดวยจํานวนเต็มที่เปนการหารลงตัว ซึ่งมีผลหารเปน
จํานวนเต็มและเศษเปน 0
การหารจํานวนเต็มดวยจํานวนเต็มที่เปนการหารลงตัว อาศัยการคูณตามขอตกลงดังนี้
ตัวตั้ง
= ผลหาร
ตัวหาร
จะไดวา ตัวหาร × ผลหาร = ตัวตัง้
พิจารณา 96 = 8
12
จะไดวา 12 × 8 = 96
ในทางคณิตศาสตร อาจเขียน a ÷ b ดวย ab
ตัวอยางที่ 29 จงหาผลหาร 16
-4
16 อีกวิธีที่นาสน
วิธีทํา ให -4 = ………
16 = (-4) × (-4)
จะได (-4)× ……… = 16 16 = (-4)×(-4)
เนื่องจาก (-4)×(-4) = 16 -4 -4
ดังนั้น ……… = ……… = -4
นั่นคือ 16 = ………
-4
ตัวอยางที่ 30 จงหาผลหาร -16-4
วิธีทํา ให -16 = ………
-4
จะได (-4)× ……… = -16 อีกวิธีที่นาสน
เนื่องจาก …………… = 16 -16 = 4 × (-4)
-16 = 4 ×(-4)
ดังนั้น ……… = ……… -4 -4
นั่นคือ -16 = ……… =4
-4
หลักในการหารจํานวนเต็ม มีดังนี้
1) การหารจํานวนเต็ม เมื่อตัวตั้งและตัวหารเปนจํานวนเต็มบวกทั้งคู ผลลัพธที่
ไดเปนจํานวนเต็มบวก เชน 108
12 = 9
2) การหารจํานวนเต็ม เมื่อตัวตั้งหรือตัวหารตัวใดตัวหนึ่งเปนจํานวนเต็มลบ
โดยที่จํานวนอีกจํานวนหนึ่งเปนจํานวนเต็มบวก ผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็ม
ลบ เชน -144 12
12 = -12 และ -12 = -1
3) การหารจํานวนเต็ม เมื่อตัวตั้งและตัวหารเปนจํานวนเต็มลบทั้งคู ผลลัพธที่
ไดเปนจํานวนเต็มบวก เชน -49
-7 = 7
ตัวอยางที่ 31 จงหาผลหารของ 50
-5
วิธีทํา เนื่องจาก 50 = (-5) × (-10)
50 = (-5)×(-10)
-5 -5
= -10
ดังนั้น 50
-5 = -10
2. จงหาผลหาร
1) 12 ÷ (-2) = …………………… 2) 48 ÷ (-4) = ……………………
3) 36 ÷ (-6) = …………………… 4) 64 ÷ (-8) = ……………………
5) 110 ÷ (-10) = …………………… 6) (-72) ÷ 8 = ……………………
7) (-56) ÷ 7 = …………………… 8) (-54) ÷ 6 = ……………………
9) (-75) ÷ 5 = …………………… 10) (-124) ÷ 4 = ……………………
11) (-12) ÷ (-2) = …………………… 12) (-10) ÷ (-5) = ……………………
13) (-16) ÷ (-4) = …………………… 14) (-48) ÷ (-6) = ……………………
15) {48 ÷ (-6)} ÷ (-2) = ………………… 16) 48 ÷ {(-6) ÷ (-2) = …………………
17) {45 ÷ (-3)} ÷ (-3) = ………………… 18) (-45) ÷ {3 ÷ (-3)} = …………………
19) {(-64) ÷ 8} ÷ {(-8) ÷ (-4)} = ……………………
3. จงหาจํานวนเต็มที่แทน z แลวทําใหไดประโยคที่เปนจริง
1) z ÷ (-3) = 4 ; z = …………….
2) 15 ÷ z = -5 ; z = …………….
3) (-16) ÷ z = -4 ; z = …………….
4) z ÷ 1 = 12 ; z = …………….
5) (-32) ÷ z = 1 ; z = …………….
6) [(-64) ÷ 8] ÷ z = 2 ; z = …………….
7) [45 ÷ (-3)] ÷ (-5) = z ; z = …………….
8) [(-72) ÷ (-9)] ÷ 2 = z ; z = …………….
9) z ÷ [(-7) ÷ 7] = -5 ; z = …………….
10) 20 ÷ [8 ÷ (-z)] = -5 ; z = …………….
4. นุชไปตลาดกับแมและแมตองการซื้อขาวสาร 12 ถุง ราคาถุงละ 55 บาท แมถามนุชวาแมตอง
จายเงินกี่บาท ถานุชตองคิดคําตอบในใจ นุชจะมีวิธีคิดอยางรวดเร็วไดอยางไร จงอธิบาย
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………
ชวนคิดคณิตศาสตร
ทําไมไมใช 0 เปนตัวหาร
ลองทํากิจกรรมดู แลวคุณจะรู
6. บทสรุปสงทาย
1. การบวกจํานวนเต็ม
1.1 การบวกจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มบวก ใหนําคาสัมบูรณของจํานวนเต็มบวก
ทั้งสองมาบวกกัน ผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มบวก
1.2 การบวกจํานวนเต็มลบดวยจํานวนเต็มลบ ใหนําคาสัมบูรณของจํานวนเต็มบวก
ทั้งสองมาบวกกัน ผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มบวก
1.3 การบวกจํ า นวนเต็ ม บวกด ว ยจํ า นวนเต็ ม ลบ หรื อ การบวกจํ า นวนเต็ ม ลบด ว ย
จํานวนเต็มบวก
1) ในกรณีที่จํานวนเต็มบวกมีคาสัมบูรณมากกวา ใหนําคาสัมบูรณของจํานวน
ที่มากกวาเปนตัวตั้ง แลวลบดวยคาสัมบูรณของจํานวนที่นอยกวา ผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็ม
บวก
2) ในกรณีที่จํานวนเต็มลบมีคาสัมบูรณมากกวา ใหนําคาสัมบูรณของจํานวนที่
มากกวาเปนตัวตั้ง แลวลบดวยคาสัมบูรณของจํานวนที่นอยกวา ผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มลบ
2. การลบจํานวนเต็ม
ใหใชสมบัติที่วา ถา a และ b เปนจํานวนใด ๆ แลว
a – b = a + (-b)
ชวนคิดคณิตศาสตร
สามเหลี่ยมกลปะทะวงลอกล
ลองทํากิจกรรมดู แลวคุณจะรู
1. สามเหลี่ยมกล
ชวนคิดคณิตศาสตร
ปริศนาจํานวนเต็ม ภาค 1
ลองทํากิจกรรมดู แลวคุณจะรู
ขอตกลง ใหนักเรียนเติมจํานวนเต็มใน F ใหถูกตอง เมื่อกําหนดใหจํานวนที่อยูในสดมภที่
หนึ่งเปนตัวตั้ง และจํานวนที่อยูในแถวที่หนึ่งเปนตัวบวก หรือตัวลบ
+ 0 -3 4
5 5 2 9
-1
-1 -4 3
-3 -2
- 5
-1 1
-6 -4
-1
-1 -5
6. บทสรุปสงทาย (ตอ)
3. การคูณจํานวนเต็ม
3.1 การคูณจํานวนเต็มบวกดวยจํานวนเต็มบวก จะไดผลลัพธเปนจํานวนเต็มบวก
3.2 การคู ณ จํ า นวนเต็ ม บวกด ว ยจํ า นวนเต็ ม ลบ หรื อ การคู ณ จํ า นวนเต็ ม ลบด ว ย
จํานวนเต็มบวก จะไดผลลัพธเปนจํานวนเต็มลบ
3.3 การคูณจํานวนเต็มลบดวยจํานวนเต็มลบ จะไดผลลัพธเปนจํานวนเต็มบวก
4. การหารจํานวนเต็ม มีหลักการดังนี้
4.1 การหารจํานวนเต็ม เมื่อตัวตั้งและตัวหารเปนจํานวนเต็มบวกทั้งคู ผลลัพธที่ไดเปน
จํานวนเต็มบวก
4.2 การหารจํานวนเต็ม เมื่อตัวตั้งหรือตัวหารตัวใดตัวหนึ่งเปนจํานวนเต็มลบ โดยที่
จํานวนอีกจํานวนหนึ่งเปนจํานวนเต็มบวก ผลลัพธที่ไดเปนจํานวนเต็มลบ
4.3 การหารจํานวนเต็ม เมื่อตัวตั้งและตัวหารเปนจํานวนเต็มลบทั้งคู ผลลัพธที่ไดเปน
จํานวนเต็มบวก
ชวนคิดคณิตศาสตร
× 4 -9 2
8 -8
-3 -12
35 -14
6 12
÷ 2 -2 -4
1
8
-2
2