Professional Documents
Culture Documents
คำสอนการฝัดร่อน
คำสอนการฝัดร่อน
-1-
เลวีนิติ10.10 เจ้าจงแยกของบริสุทธิ์จากของสาธารณ์ของมลทินจากของไม่มลทิน
ถ้าเราอยากให้พระเจ้าใช้ชีวิตของเรา เราต้องถามตัวเองว่าชีวิตของเราจะเป็นพระพรกับคนได้มากมายแค่ไหน
มัทธิว13.19 เมื่อผู้ใดได้ยินคําบอกเล่าเรื่องแผ่นดินพระเจ้าแต่ไม่เข้าใจ มารร้ายก็มาฉวยเอาพืชซึ่งหว่านในใจ
เขานั้นไป
เสีย นั่นแหละได้แก่เมล็ดพืชซึ่งหว่านตกริมหนทาง
- คน 1 คนผ่านสถานการณ์หนึ่ง ๆ ได้มิได้หมายความว่าเขาจะผ่านทุกสถานการณ์
- ยิ่งเราเป็นคนที่ปรารถนาให้พระเจ้าใช้มากที่สุด พระเจ้ายิ่งต้องฝัดร่อนเรามากขึ้นเท่านี้น
มัทธิว3.12 พระหัตถ์ของพระองค์ถือพลั่วพร้อมแล้ว และจะทรงชําระลานข้าวของพระองค์ให้ทั่ว พระองค์จะทรง
เก็บ
ข้าวของพระองค์ไว้ในยุ้งฉาง แต่พระองค์จะทรงเผาแกลบด้วยไฟที่ไม่รู้ดับ"
- พระเจ้าจะต้องทําอะไรกับคนของพระองค์ เพื่อคนของพระองค์จะเป็นคนที่พระเจ้าใช้ได้
2. มาร
ลูกา 22.21 แต่ดูเถิด มือของผู้ที่จะอายัดเราไว้ก็อยู่กับเราบนโต๊ะ
- มารขอพระเจ้ามาทดลองผู้เชื่อ เหมือนที่มารทดลองโยบ
จุดมุ่งหมายของการฝัดร่อน
1. จุดมุ่งหมายของพระเจ้า
- เพื่อสรรหาบุคคลที่เป็นพงศ์พันธุ์บริสุทธิ์ของพระเจ้า
! -3-
- ในยามที่สถานการณ์กดดันเรามากที่สุด จะเป็นตัวบอกว่าเราเป็นอย่างไร
อพยพ30.29 จงชําระให้บริสุทธิ์ เพื่อจะได้บริสุทธิ์ที่สุด และอะไรมาถูกสิ่งเหล่านั้นก็บริสุทธิ์ด้วย
- เราต้องบริสุทธิ์มิใช่เพียงเพื่อพระเจ้าจะใช้เรา แต่เพื่อเราจะเห็นการทรงสถิตย์ของพระเจ้า
สดุดี20.6 บัดนี้ ข้าพเจ้าทราบว่าพระเจ้าจะทรงช่วยผู้ที่พระองค์ทรงเจิมไว้ พระองค์จะทรงตอบเขาจากฟ้าสวรรค์
อัน
บริสุทธิ์ของพระองค์ และโดยชัยชนะอันทรงอานุภาพด้วยพระหัตถ์ขวาของพระองค์
- คต.ต้องตัดสินใจตอนนี้ว่าเราจะเดินติดตามพระเจ้าจนวันสุดท้าย
- วันนี้เรากําลังรับใช้พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ใจของเราต้องเริงร่าในพระเจ้า
- ถ้าเราเป็นเหมือนพระเจ้ามาก ลูกหลานของเราก็จะเป็นเหมือนพระเจ้าด้วย
2. จุดมุ่งหมายของมาร
- เพื่อทําให้ชีวิตของเราหลงเจิ่น และเดินออกจากทางของพระเจ้า
ยอนห์10.10 ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลักและฆ่าและทําลายเสีย เราได้มาเพื่อเขาทั้งหลายจะได้ชีวิต และจะได้
อย่าง
ครบบริบูรณ์
- อย่าให้โอกาสมาร อย่าเปิดช่องให้มาร
ลูกา22.31 "ซีโมน ซีโมนเอ๋ย ดูเถิด ซาตานได้ขอพวกท่านไว้ เพื่อจะฝัดร่อนเหมือนฝัดข้าวสาลี
- น้ําหนักชีวิตของเรามีผลมาก ถ้าชีวิตมีน้ําหนักเราจะไม่ตกออกจากตะแกรง
- ชีวิตคต.อยู่ในสงครามตลอดเวลา
- ไม่มีอะไรเป็นเกราะกําบังที่เข้มแข็งได้เท่ากับชีวิตที่เดินกับพระเจ้าทุกวันอย่างเข้มแข็ง
- ชีวิตคต.ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราต้องเดินกับพระเจ้าตลอดเวลา
ฮีบรู12.27-29 เพราะท่านทั้งหลายก็รู้อยู่แล้วว่า ต่อมาภายหลังเมื่อเอซาวอยากได้รับพรนั้นเป็นมรดก เขาก็ได้
รับคํา
ปฏิเสธ เพราะเขาไม่มีหนทางแก้ไขเลย ถึงแม้ว่าได้กลับใจแสวงหาจนน้ําตาไหล ท่านทั้ง
หลายไม่ได้มา
ถึงภูเขาที่จะถูกต้องด้วยมือได้ และถึงไฟที่ไหม้อยู่ และถึงที่มืด ถึงที่มืดมิด และถึงที่ลมพายุ
และถึง
เสียงแตร และถึงพระสุรเสียงตรัส ซึ่งคนเหล่านั้นที่ได้ยินแล้วได้อ้อนวอนขอไม่ให้ตรัสแก่เขา
อีก
! -4-
- เมื่อเราเป็นคนของพระเจ้า ผลแห่งชีวิตจะต้องออกมา
- พระเจ้าช่วยเราผ่านคุณภาพชีวิตของเรากับพระเจ้า ในวินาทีวิกฤตคนจะแสดงตัวตนที่แท้จริงของตนเอง
หรือแสดงตัวตนตามคุณภาพชีวิตของตนเองนั่นเอง
- คต.ต้องเป็นคนที่ตัดสินใจเสมอเมื่อพระวิญญาณพระเจ้ามาเตือนเรา
- ความอ่อนแอต้องไม่แช่อยู่ในชีวิตของเรา เราต้องให้น้ําหนักชีวิตของพระเยซูอยู่ในเรา
- ศัตรูที่สําคัญหลายครั้งจึงมิใช่มาร แต่คือตัวเรานั่นเอง คต.จึงต้องระมัดระวังรักษาชีวิตของตัวเองไว้ให้ดี
ต้องไม่มีเหตุผลจอมปลอม
เหตุผลของการฝัดร่อนของพระเจ้า
1. เพื่อจัดการกับความชั่วร้าย
ปฐมกาล11.11-12 ตั้งแต่เชมมีบุตรคืออารปัคชาดแล้ว ก็มีอายุต่อไปอีกห้าร้อยปี มีบุตรชายหญิงอีกหลายคน
เมื่อ
อารปัคชาด มีอายุได้สามสิบห้าปี ก็มีบุตรชื่อเชลาห์
2. เพื่อคนชอบธรรมจะออกจากความอธรรม
- พระเจ้าให้โอกาสทั้งคนอธรรมและคนชอบธรรมเท่ากัน จึงไม่มีใครสามารถต่อว่าพระเจ้าได้
- รากฐนของผู้ชอบธรรมจะไม่สั่นคลอน
- ผู้ชอบธรรมจะปรารถนารับใช้พระเจ้า
3. เพื่อแยกคนเต็มที่กับคนไม่เต็มที่
เฉลยธรรมบัญญัติ1.36 เว้นแต่คาเลบบุตรเยฟุนเนห์ เขาจะเห็นเมืองนั้น และเราจะให้แผ่นดินที่เขาได้เหยียบนั้น
แก่เขา
และแก่ลูกหลาน เพราะเขาได้ตามพระเจ้าอย่างสุดใจ"
- มนุษย์อาจจะแกล้งพระเจ้าและหลอกผู้นํา คต.ต้องถามตัวเองว่าวันนี้เราจะรับใช้พระเจ้าเต็มที่หรือไม่
เฉลยธรรมบัญญัติ4.19 และจงระวังให้ดีเกรงว่าพวกท่านเงยหน้าขึ้นดูท้องฟ้าและเมื่อท่านเห็นดวงอาทิตย์ ดวง
จันทร์
และดวงดาว คือบริวารของท้องฟ้า พวกท่านจะถูกเหนี่ยวรั้งให้นมัสการและ
ปรนนิบัติสิ่งเหล่า
นั้นเป็นสิ่งซึ่งพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของพวกท่านทรงแบ่งแก่ชนชาติทั้งหลายทั่วใต้
ฟ้าทั้งสิ้น
- เราต้องรับใช้พระเจ้าอย่างเต็มที่
- เราต้องไม่มีเงื่อนไข ใจของเราต้องพร้อมที่จะให้พระเจ้าใช้เรา
4. เพื่อแยกคนติดตามพระเจ้าเที่ยงแท้และจอมปลอม
- ชีวิตคต.ไม่สามารถเหยียบเรือ 2 แคมได้
- เรื่องการเดินกับพระเจ้าเป็นเรื่องสุด ๆ รับใช้พระเจ้าก็ต้องรับใช้แบบสุด ๆ ด้วย
- เฉลยธรรมบัญญัติ4.3 นัยน์ตาของท่านทั้งหลายได้เห็นการซึ่งพระเจ้าทรงกระทํา เพราะเหตุพระบาอัลเป
โอร์แล้ว
- คต.ต้องเป็นคนที่สัตย์จริงกับตัวเองตลอดเวลา
โยชูวา14.8-9 แต่ส่วนพี่น้องซึ่งขึ้นไปพร้อมกับข้าพเจ้าได้กระทําให้จิตใจของประชาชนกลัว แต่ข้าพเจ้าได้ติดตาม
พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพเจ้าอย่างสุดใจ ในวันนั้นโมเสสได้ปฏิญาณว่า "แท้จริงแผ่นดินซึ่งเท้าของท่านได้เหยียบ
ย่ําไปนั้น จะตกเป็นมรดกของท่านและของบุตรหลานของท่านสืบไปเป็นนิตย์ เพราะว่าท่านได้ติดตามพระเยโฮวาห์
พระเจ้าของข้าพเจ้าอย่างสุดใจ
โยชูวา14.14 เฮโบรนจึงตกเป็นมรดกแก่คาเลบบุตรเยฟุนเนห์ตระกูลเคนัสจนทุกวันนี้ เพราะว่าท่านติดตามพระ
เยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลอย่างสุดใจ
- เราหว่านสิ่งใด เราจะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น
- เราต้องคิดแบบพระเจ้า และเราจะลงเอยแบบพระเจ้า
- มองให้ไกล แล้วไปให้ถึง
5. เพื่อแยกคนที่รักพระเจ้ากับคนที่รักโลกนี้
มก.12.30 และพวกท่านจงรักพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของท่าน ด้วยสุดความคิดและด้วยสิ้นสุดกําลังของท่าน
ยน.5.42 แต่เรารู้ว่าท่านไม่มีความรักพระเจ้าในตัวท่าน
- ถ้าเรารักพระเจ้า เราจะไม่ถามพระเจ้าว่าทําไม
- ถ้าเราไม่รักพระเจ้าสุดใจ เราจะไม่สามารถไปถึงมาตรฐานของพระเจ้าได้
- ถ้าเรารักพระเจ้าจริง เราจะไม่บอกว่าเราเสียสละเพื่อพระเจ้า
- การรู้และเข้าใจและดําเนินอยู่ในความเข้าใจ
- พระเจ้าต้องมาเขย่าใจของเราได้ ไม่ใช่แค่มนุษย์ หรือคําเทศนา
24/2/00
6. แยกคนที่เชื่อฟังและไม่เชื่อฟังออก
- มนุษย์เป็นคนบาปมีแนวโน้มทําตามใจตนเอง เวลาพระเจ้ามองหาคนที่จะใช้ พระเจ้าจะมองหาคนที่เชื่อ
ฟังก่อน
- มีหลายคนฟังเสียงพระเจ้า แต่มีน้อยคนที่เชื่อฟังพระเจ้า
ปฐก3:17 พระองค์จึงตรัสแก่อาดัม {แปลว่า มนุษย์} ว่า"เพราะเหตุเจ้าเชื่อฟังคําพูดของภรรยา และกินผลไม้ที่
เราห้าม แผ่นดินจึงต้องถูกสาปเพราะตัวเจ้า เจ้าจะต้องหากินบนแผ่นดินด้วยความทุกข์ลําบากจนตลอดชีวิต
รม13:1 ทุกคนจงยอมอยู่ใต้บังคับของผู้ที่มีอํานาจปกครอง เพราะว่าไม่มีอํานาจใดเลยที่มิได้มาจากพระเจ้า และ
ผู้ที่ทรงอํานาจนั้น พระเจ้าทรงแต่งตั้งขึ้น
ฮบ13:7 ท่านทั้งหลายจงระลึกถึงหัวหน้าของท่าน ผู้ซึ่งได้ประกาศพระวจนะของพระเจ้าแก่ท่าน และจงพิจารณาดู
ผลปลายทางที่เกิดแก่เขา แล้วจงตามอย่างความเชื่อของเขา
- ถ้าไม่ถึงจุดแห่งการเชื่อฟังอย่างแท้จริงชีวิตจะมีปัญหา ไม่เดินถึงวันสุดท้าย
1ทธ4:11 จงสั่งและสอนสิ่งเหล่านี้
- ถ้าเราไม่เชื่อฟังพระเจ้าเราก็จะเชื่อฟังอย่างอื่นแทน
ทต1:16 เขาแสดงตัวว่ารู้จักพระเจ้า แต่ว่าในการกระทําของเขา เขาก็ปฏิเสธพระองค์ เขาเป็นคนน่าชัง ไม่เชื่อ
ฟังใคร และไม่เหมาะที่จะกระทํากรรมดีใดๆเลย
- การเชื่อฟังจริงจะต้องสะท้อนออกมาเป็นพฤติกรรม
อพย16:20 แต่เขามิได้เชื่อฟังโมเสส บางคนเก็บส่วนหนึ่งไว้จนรุ่งเช้า อาหารนั้นก็เน่าเป็นหนอน และบูดเหม็น
โมเสสจึงโกรธคนเหล่านั้น
! -7-
- โลกปัจจุบันวุ่นวายเพราะปราศจากการที่ให้พระเจ้ามาครอบครอง
- การครอบครองไม่เพียงแต่ความสามารถ ทักษะเท่านั้นแต่ต้องมีความพร้อมในด้านคุณลักษณะชีวิตด้วย
ฉธบ11:8 "เหตุฉะนี้ท่านทั้งหลายจงรักษาบัญญัติทั้งสิ้นซึ่งข้าพเจ้าได้บัญชาแก่ท่านทั้งหลายในวันนี้ เพื่อท่านทั้ง
หลายจะเข้มแข็ง และเข้าไปยึดเอาแผ่นดินซึ่งท่านทั้งหลายกําลังจะข้ามไปครอบครองนั้นมาเป็นกรรมสิทธิ์
ลก19:17 พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า "ดีแล้วเจ้าเป็นทาสที่ดี เพราะเจ้าสัตย์ซื่อในของเล็กน้อยเจ้าจงมีอํานาจครอบ
ครองสิบเมืองเถิด"
วว20:4-6 ข้าพเจ้าได้เห็นบัลลังก์หลายบัลลังก์ และผู้ที่นั่งบนบัลลังก์นั้น เป็นผู้ที่จะพิพากษา และข้าพเจ้ายังได้
เห็นดวงวิญญาณของคนทั้งปวงที่ถูกตัดศีรษะ เพราะเป็นพยานของพระเยซูและเพราะพระวจนะของพระเจ้า และผู้ที่ไม่
ได้บูชาสัตว์ร้ายนั้นหรือรูปของมัน และไม่ได้ติดเครื่องหมายของมันไว้ที่หน้าผากหรือที่มือของเขา คนเหล่านั้นกลับมี
ชีวิตขึ้นมาใหม่ และได้ครอบครองร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลาพันปี นอกจากคนเหล่านี้คนอื่นๆที่ตายแล้วไม่ได้กลับมี
ชีวิตอีกจนกว่าจะครบกําหนดพันปี นี่แหละคือการฟื้นจากความตายครั้งแรก ผู้ใดที่ได้มีส่วนในการฟื้นจากความตาย
ครั้งแรกก็เป็นสุขและบริสุทธิ์ ความตายครั้งที่สองจะไม่มีอํานาจเหนือคนเหล่านั้น แต่เขาจะเป็นปุโรหิตของพระเจ้าและ
ของพระคริสต์ และจะครอบครองร่วมกับพระองค์ตลอดเวลาพันปี
- คนที่ครอบครอง คือ คนที่มีคุณภาพชีวิต มีชีวิตที่ยืนหยัดจนวันสุดท้าย
รม12:8
ถ้าเป็นการเตือนสติก็จงเตือนสติ ถ้าเป็นการบริจาค ก็จงให้ด้วยใจกว้างขวาง ผู้ที่ครอบครอง ก็จงครอบครองด้วย
เอาใจใส่ ผู้ที่แสดงความเมตตา ก็จงแสดงด้วยใจยินดี
- ครอบครองโดยการเอาใจใส่
- เราต้องเริ่มต้นปกครองตนเองให้ครอบครองครัวเรือนตัวเอง
สภษ16:31
ศีรษะที่มีผมหงอกเป็นมงกุฎแห่งศักดิ์ศรี ผู้ดําเนินชีวิตด้วยความชอบธรรมจึงจะหาพบได้
- การที่เราจะดูแลคนอื่นได้เราต้องดูแลตนเองให้ได้ก่อน เราต้องเตรียมตัวเองอย่างแท้จริง
IV วิธีรักษาชีวิตเพื่อเผชิญกับการฝัดร่อน
1. การระมัดระวังดําเนินชีวิตตามพระวจนะของพระเจ้า
- คนของพระเจ้าและพระวจนะของพระเจ้าแยกกันไม่ออก
- ไม่ยึดพระคัมภีร์แบบมั่ว ๆ แต่ยึดด้วยความถูกต้อง
สดด119:9
หนุ่มๆ จะรักษาทางของตนให้บริสุทธิ์ได้อย่างไรโดยระแวดระวังตามพระวจนะของพระองค์
- ปัญหาของคต.ไม่ใช่ไม่รู้ว่าพระคัมภีร์สอนอย่างไร แต่เขาไม่ยอมเชื่อฟังและตัดสินใจทําตามพระคัมภีร์
ต่างหาก
! -8-
ยน17:17
ขอทรงโปรดชําระเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความจริง พระวจนะของพระองค์เป็นความจริง
- เราต้องเปลี่ยนคนให้ยึดตามแบบพระวจนะของพระเจ้า
ยด20
แต่ส่วนท่านที่รักทั้งหลายนั้น จงสร้างตัวของท่านขึ้นบนหลักคําสอนอันบริสุทธิ์ของท่านที่เชื่อกันอยู่ และจงอธิษฐานใน
พระวิญญาณบริสุทธิ์
- สร้างตนเองขึ้นบนหลักคําสอน
- ถ้าผู้นําไม่รักพระวจนะของพระเจ้าแล้วคนภายใต้การดูแลจะรักพระวจนะของพระเจ้าได้อย่างไร และคง
เป็นเรื่องแปลกด้วย
1ทธ5:16
ถ้าหญิงผู้มีความเชื่อคนใดมีญาติพี่น้องที่เป็นแม่ม่าย ก็ให้เขาช่วยเลี้ยงดู อย่าให้เป็นภาระของคริสตจักรเลย เพื่อค
ริสตจักรจะได้สงเคราะห์คนที่เป็นแม่ม่ายไร้ที่พึ่งจริงๆ
- บางคนอาจตื่นแต้นร้อนรนเอาจริงเอาจังแต่ไม่มีพระคัมภีร์ก็หลงหายไป ดังนั้นเราต้องให้พระคัมภีร์ถ่วข
ชีวิตของเราให้สมดุล แม้เราถูกผลักไปที่ใดเราก็ยังกลับมาที่เดิมไม่มีคนใดไม่มีสถานการณ์ใดทําให้เรา
ต้องล้มลงเหยียดยาว
- พระวจนะไม่ได้ประหารให้ตายแต่ให้เรามีชีวิตอยู่
- คนที่รักพระวจนะเขาก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิต แม้ใครพูด ใครสอนเราก็ยินดีเปิดใจรับฟังเสมอ
1.1 ความคิด
สภษ27:19
ในน้ํา คนเห็นหน้าคนฉันใด ความคิดของคนก็ส่อคนฉันนั้น
- ความคิดก็ส่อคนคนนั้น
ฟป4:8
ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ในที่สุดนี้ขอจงใคร่ครวญถึงสิ่งที่จริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่
ทรงคุณ คือถ้ามีสิ่งใดที่ล้ําเลิศ สิ่งใดที่ควรแก่การสรรเสริญ ก็ขอจงใคร่ครวญดู
- คิดในสิ่งที่ดีงาม
อสย55:8-9
ดูเถิด เจ้าจะร้องเรียกประชาชาติซึ่งเจ้าไม่รู้จัก และประชาชาติซึ่งไม่รู้จักเจ้าจะวิ่งมาหาเจ้า เหตุด้วยพระเจ้าของเจ้า
และเพราะองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล เพราะพระองค์ทรงให้เจ้าได้รับเกียรติ "จงแสวงหาพระเจ้า เมื่อจะพบพระองค์ได้
จงทูลพระองค์ ขณะพระองค์ทรงอยู่ใกล้
- พระคัมภีร์เขียนไว้ให้เราทําตามยิ่งถ้าเราศึกษามากก็จะเข้าใจลึกซึ้งมากขึ้น
1คร14:20
ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ความคิดของท่านอย่าให้เป็นอย่างเด็ก ในเรื่องความชั่วร้าย จงเป็นอย่างทารก แต่ฝ่ายความ
คิดจงให้เป็นอย่างผู้ใหญ่
- ความคิดของเราเป็นแบบผู้ใหญ่อย่าเป็นเหมือนเด็ก เราต้องเติบโตขึ้นในการเดินติดตามพระเจ้า
2คร10:5
คือทําลายความคิดที่มีเหตุผลจอมปลอม และทิฐิมานะทุกประการที่ตั้งตัวขึ้นขัดขวางความรู้ของพระเจ้า และน้อมนํา
ความคิดทุกประการให้เข้าอยู่ใต้บังคับจนถึงรับฟังพระคริสต์
- เป็นความคิดที่มีเหตุผลจอมปลอม
- อย่าให้เราคิดว่าเราเคยฟังคําสอนนี้แล้วหลายรอบแล้วไม่อยากฟังอีก แต่เราต้องปราถนาให้พระเจ้ามา
พูดกับเรา
- การที่เราคิดตามพระเจ้าจะเป็นพระพร
1.2 คําพูด
มลค2:17
เจ้าได้กระทําให้พระเจ้าอ่อนระอาพระทัยด้วยคําพูดของเจ้า เจ้ายังจะกล่าวว่า "เราทั้งหลายกระทําให้พระองค์อ่อน
พระทัยสถานใด" ก็ด้วยกล่าวว่า "ทุกคนที่กระทําความชั่วก็เป็นคนดีในสายพระเนตรพระเจ้า และพระองค์ทรงพอ
พระทัยคนเหล่านั้น" หรือโดยถามว่า "พระเจ้าแห่งความยุติธรรมอยู่ที่ไหน"
- เราต้องระมัดระวังโดยพูดตามแบบพระคัมภีร์
คส3:8
ฝ่ายภรรยาจงยอมฟังสามีของตน ซึ่งเป็นการสมควรในองค์พระผู้เป็นเจ้า
2ธส215
! -9-
ก. ในชีวิตส่วนตัว
1ธส4:4,7,11-13
ให้ท่านทุกคนรู้จักมีภรรยาในทางบริสุทธิ์ และในทางที่มีเกียรติพราะพระเจ้ามิได้ทรงเรียกเราให้เป็นคนลามก แต่ทรง
เรียกเราให้เป็นคนบริสุทธิ์และจงตั้งเป้าว่าจะอยู่อย่างสงบ และทํากิจธุระส่วนของตน และทําการงานด้วยมือของ
ตนเอง เหมือนอย่างที่เรากําชับท่านแล้ว เพื่อท่านจะได้เป็นที่นับถือของคนภายนอก และท่านจะไม่ต้องพึ่งอาศัยใคร
เลย ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย เราไม่อยากให้ท่านไม่ทราบความจริงเรื่องคนที่ล่วงหลับไปแล้ว เพื่อท่านจะไม่เป็นทุกข์
โศกเศร้า อย่างคนอื่นๆที่ไม่มีความหวัง
2ปต3:14
เหตุฉะนั้นพวกที่รัก เมื่อท่านทั้งหลายยังคอยสิ่งเหล่านี้อยู่ ท่านก็จงอุตส่าห์ให้พระองค์ทรงพบท่านทั้งหลายมีใจสงบ
ปราศจากมลทินและข้อตําหนิ
- พระเจ้าอยากสร้างเราก่อนเพราะสิ่งที่พระเจ้าให้เรารับใช้พระเจ้ามากขึ้น
ข. การรับใช้
2ทธ1:3
เมื่อข้าพเจ้าระลึกถึงท่านในการอธิษฐานอยู่เสมอนั้น ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าซึ่งข้าพเจ้าได้รับใช้ ด้วยจิตสํานึกอัน
บริสุทธิ์เช่นบรรพบุรุษของข้าพเจ้า
- ถ้าชีวิตดีย่อมเกิดผล
- การดูดซิมพระวจะของพระเจ้าไม่ใช่แค่สมองเท่านั้น แต่ด้วยใจ
- คนที่มีพระคัมภีร์จะไม่ค่อยมีปัญหากับตนเองและคนอื่น
- พระวจนะต้องทําให้เราสูงขึ้น
2. ดําเนินชีวิตในพระคุณและพัฒนาความสัมพันธ์ในการรู้จักพระเจ้ามากขึ้น
- ขึ้นต้นด้วยความเชื่อสุดท้ายก็โดยความเชื่อ
- อย่าดูหมิ่นพระคุณของพระเจ้า
2ปต:18
แต่ขอท่านทั้งหลายจงเจริญขึ้นในพระคุณและในความรู้ ซึ่งมาจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของ
เรา พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ทั้งในปัจจุบันนี้และตลอดไปเป็นนิตย์ อาเมน
- อย่าให้เราเป็นเหมือนคจ.ซาร์ดิสที่ว่า "มีชีวิตอยู่แต่ตายแล้ว"
- รากปัญหาคือ คนไม่มีความสัมพันธ์ลึกซื้งกับพระเจ้าอย่างแท้จริงแม้ไม่ต้องขออะไรพระเจ้าก็จะเทพระพร
ลงมาแน่นอน
- เราต้องมาถึงจุดแห่งการรู้น้ําพระทัยของพระเจ้า รู้ว่าพระเจ้าคิดอย่างไรในสิ่งที่เราจะทํา
- ค.ส.พ. ของเราต้องลึกซึ้งมากขึ้น ๆ
กจ2:25
เพราะกษัตริย์ดาวิดได้ทรงกล่าวถึงพระองค์ว่า "ข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรงหน้าข้าพเจ้าเสมอ เพราะว่า
พระองค์ประทับที่มือขวาของข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะมิได้หวั่นไหว
- ตั้งพระเจ้าตรงหน้าเสมอ
- เราไม่สามารถต่อสู้กับมากฝ่ายร่างกายได้ "จิตใจพร้อมแล้วก็จริงแต่กายยังอ่อนกําลังอยู่"
- อย่าปล่อยใจของเราให้แข็งกระด้างต่อพระเจ้า
ฟป3:10 ข้าพเจ้าต้องการจะรู้จักพระองค์ และได้รับประสบการณ์ในฤทธิ์เดช เนื่องในการที่พระองค์ทรงคืน
พระชนม์นั้น และร่วมทุกข์กับพระองค์ คือยอมตั้งอารมณ์ตายเหมือนพระองค์
ยก4:6 แต่พระองค์ก็ได้ทรงประทานพระคุณเพิ่มขึ้นอีก เหตุฉะนั้นพระคัมภีร์จึงกล่าวว่า พระเจ้าทรงต่อสู้ผู้ที่หยิ่ง
จองหอง แต่ทรงประทานพระคุณแก่คนที่ใจถ่อม
! - 10 -
6. เฝ้าระวังในการอธิษฐาน
(มัทธิว26:41) ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังและอธิษฐาน เพื่อท่านจะไม่ต้องถูกทดลอง จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่กาย
ยังอ่อนกําลัง"
! - 11 -
คนเราแม้มีความจริงใจแต่ถ้าไม่เฝ้าระวังอธิษฐานจะทําให้เราละทิ้งพระเจ้าได้ เหมือนเดมาสที่เคยร่วมรับใช้เคียง
บ่าเคียงไหล่กับอ.เปาโลยังหลงรักโลกไปได้
ชีวิตคต.เป็นชีวิตที่เผชิญกับสงครามฝ่ายวิญญาณ ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังในการอธิษฐานกับพระเจ้า เราต้อง
เผชิญปัญหาด้วยความชื่นชมยินดี
พระเยซูอธิษฐานที่สวนเกทเสมาเนเพราะอยากได้กําลังจากพระเจ้า
พระเยซูอดอาหาร 40 วัน 40 คืนเพราะต้องการกําลังจาพระเจ้า
การอธิษฐานเป็นกุญแจที่สําคัญดอกหนึ่งที่ทําให้เราปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าด้วยชัยชนะได้
ถ้าเราไม่อธิษฐานชีวิตของเราจะเฉื่อยชา ไม่กระตือรือร้น หมดกําลังได้ง่าย ๆ
ผู้นําต้องอธิษฐาน ถ้าเราไม่อธิษฐานคนภายใต้ความดูแลของเราจะอธิษฐานหรือไม่
เราอย่าอธิษฐานน้อยกว่าที่พระเจ้าต้องการให้เราอธิษฐาน
ถ้าเราอธิษฐานเราจะสามารถเคลื่อนคนไปได้ในการรับใช้พระเจ้า การอธิษฐานเป็นการปกป้องตนเอง ปกป้องลูก
แกะ
(มก.13:33 , 36) งเฝ้าระวังและอธิษฐานอยู่ เพราะท่านไม่รู้ว่าเวลาวันนั้นจะมาถึงเมื่อไร จงเฝ้าระวังอยู่ กลัว
ว่าจะมาฉับพลันและจะพบท่านนอนหลับอยู่
(1 เธสะโลนิกา5:6) เหตุฉะนั้นเราอย่าหลับเหมือนอย่างคนอื่น แต่ให้เราเฝ้าระวังและไม่เมามาย
7. ยําเกรงพระเจ้า
ถ้าเรายําเกรงพระเจ้าเราจะระมัดระวังในการดําเนินชีวิต เราจะไม่ทําให้พระองค์ทรงเสียพระทัยในชีวิตของเรา เรา
จะสําแดงชีวิตออกมาอย่างเป็นธรรมชาติโดยที่ไม่ได้อวดอ้างใคร
ความยําเกรงพระเจ้าเป็นชีวิตของเราส่วนตัวกับพระเจ้า
คนที่ยําเกรงพระเจ้าจะรู้ว่าสิ่งใดควรทําและสิ่งใดไม่ควรทํา
(2 คร.5:11 ) พราะเหตุที่เราเกรงกลัวองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างจับใจ เราจึงชักชวนคนทั้งหลาย เราเป็นอย่างไรก็
เป็นที่ประจักษ์แก่พระเจ้า และข้าพเจ้าหวังว่าเราได้ปรากฏประจักษ์แก่จิตสํานึกผิดและชอบของท่านด้วย
(2คร7:1) ดูก่อนท่านที่รัก เมื่อเรามีพระสัญญาเช่นนี้แล้ว ให้เราชําระตัวเราให้ปราศจากมลทินทุกอย่างของเนื้อ
หนัง และวิญญาณจิต และจงทําให้มีความบริสุทธิ์ครบถ้วนโดยความเกรงกลัวพระเจ้า
V. สิ่งที่พระเจ้าใช้เป็นอุปกรณ์ในการกลั่นกรอง/ฝัดร่อนชีวิต
(โรม 8:28) เรารู้ว่า พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง คือคนทั้งปวงที่พระองค์ได้ทรงเรียก
ตามพระประสงค์ของพระองค์
1. เศรษฐกิจปากท้อง สงสารตัวเอง
เมื่อเจอความทุกข์ยากลําบากเราตอบสนองอย่างไร สิ่งเหล่านี้ก็เป็นตัวทดสอบใจว่าเราอยู่เพื่อพระเจ้า หรืออยู่
เพื่อเราเอง
เอซาวขายสิทธิบุตรหัวปีเพราะเรื่องความหิว เรื่องปากท้อง
ใจเราต้องมีความมั่งคงในการเดินติดตามพระเจ้า ใจเราต้องไม่ละทิ้งทางของพระเจ้าไป
(อพย16:3) คนอิสราเอลกล่าวแก่ท่านทั้งสองว่า "พวกข้าพเจ้าตายเสียด้วยพระหัตถ์ของพระเจ้าตั้งแต่อยู่ใน
ประเทศอียิปต์ ขณะเมื่อนั่งอยู่ใกล้หม้อเนื้อและรับประทานอาหารอิ่มหนําจะดีกว่า นี่ท่านกลับนําพวกข้าพเจ้าออกมาใน
ถิ่นทุรกันดารอย่างนี้ เพื่อจะให้ชุมนุมชนทั้งหมดหิวตายเท่านั้น"
อิสราเอลยกเรื่องปากท้องมาบ่นต่อว่าโมเสส
(กดว11:32) วันนั้นคนก็เที่ยวจับนกคุ่มทั้งวันและคืน และตลอดวันรุ่งขึ้นด้วย คนที่จับได้น้อยที่สุดได้ถึงสิบโฮเมอร์
แล้วเขาเอามาวางตากทั่วค่าย
สารวนอยู่กับปากท้อง
(กดว 21:5) และประชาชนก็บ่นว่าพระเจ้าและว่าโมเสสว่า "ทําไมพาเราออกจากอียิปต์มาตายในถิ่นทุรกันดาร
เพราะไม่มีอาหารและไม่มีน้ํา เราเบื่ออาหารอันไร้ค่านี้"
(มธ4:3 - 4) ส่วนผู้ผจญมาหาพระองค์ทูลว่า "ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงสั่งก้อนหินเหล่านี้ให้กลายเป็น
พระกระยาหาร"
ฝ่ายพระองค์ตรัสตอบว่า "มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า "มนุษย์จะบํารุงชีวิตด้วยอาหารสิ่งเดียวหามิได้ แต่บํารุงด้วยพระ
วจนะทุกคํา ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า
มารมาทดสอบพระเยซูเรื่อง อาหาร เรื่องปากเรื่องท้อง
(ฟป4:11) ข้าพเจ้าไม่ได้บ่นถึงเรื่องความขัดสน เพราะข้าพเจ้าจะมีฐานะอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็เรียนรู้แล้วที่จะ
พอใจอยู่อย่างนั้น
อ.เปาโลเรียนรู้ที่จะอยู่เช่นนี้ไม่ว่าจะมีกินหรือไม่มีกินก็ตาม
ปัญหาไม่ใช่เรื่องอิ่มอาหาร แต่ขาดการอิ่มใจ
เราต้องพาคนมาถึงจุดแห่งการสัมผัสพระเจ้าแบกกางเขนเดินติดตามพระเยซูไป
(รม16:18) เพราะว่าคนเหล่านั้น ไม่ได้ปรนนิบัติพระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา แต่ได้ปรนนิบัติท้องของตัวเอง
และได้ล่อลวงคนซื่อให้หลงด้วยคําดีคําอ่อนหวาน
ไม่ได้ปรนนิบัติพระเจ้าแต่ได้ปรนนิบัติปากท้อง
(ฟป4:12) ข้าพเจ้ารู้จักที่จะเผชิญกับความตกต่ํา และรู้จักที่จะเผชิญกับความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าในกรณีใดๆ
ข้าพเจ้ารู้จักเคล็ดลับที่จะเผชิญกับความอิ่มท้องและความอดอยาก ความสมบูรณ์พูนสุข และความขัดสน
(มธ10:31) เหตุฉะนั้นอย่ากลัวเลย ท่านทั้งหลายก็ประเสริฐกว่านกกระจาบหลายตัว
อย่าให้เราละทิ้งทางของพระเจ้าไปเพราะว่าเราขาดแคลนในทรัพย์สินเงินทอง เรื่องปากท้อง แต่พระเจ้าสัญญา
ว่าพระองค์จะไม่ให้ลูกของพระองค์เป็นหนี้ผู้ใด
2. สภาพการณ์ / สถานการณ์ที่ดูดีภายนอก
ถ้าเราไม่สามารถมองเหตุการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งเราจะไม่เข้าใจในน้ําพระทัยของพระเจ้า
! - 13 -
(ลก17:32) จงระลึกถึงภรรยาโลทนั้นเถิด
เราไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อวัตถุสิ่งของภายนอก แม้เราจะมีมากหรือมีน้อยก็ตาม เราจะไม่ยึดกับสิ่งเหล่านี้
(ลก18:22-23) เมื่อพระเยซูทรงได้ยินอย่างนั้น พระองค์ตรัสแก่เขาว่า "ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง จงไปขายบรรดา
สิ่งของซึ่งท่านมีอยู่แจกจ่ายให้คนอนาถา ท่านจึงจะมีทรัพย์สมบัติในสวรรค์ แล้วจงตามเรามาและเป็นสาวกของเรา"
แต่เมื่อเขาได้ยินอย่างนั้นก็เป็นทุกข์นัก เพราะเขาเป็นคนมั่งมีมาก
เรื่องของเศรษฐีหนุ่มที่ยังยึดติดกับสิ่งของภายนอกซึ่งเป็นอุปสรรคในการรับใช้พระเจ้า
(มธ13:22) และพืชซึ่งหว่านกลางหนามนั้น ได้แก่บุคคลที่ได้ฟังพระวจนะ แล้วความกังวลตามธรรมดาโลก และ
ความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติรัดพระวจนะนั้นเสีย จึงไม่เกิดผล
การติดยึดอยู่กับสิ่งของภายนอกจึงทําให้ไม่สามารถเกิดผลได้
7. ความตาย
(ปฐก19:19) ดูเถิด ผู้รับใช้ของท่านเป็นที่โปรดปรานในสายตาของท่านแล้ว และท่านได้สําแดงความกรุณาอันยิ่ง
ใหญ่ในการช่วยชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะหนีไปที่เนินเขาไม่ได้ เกรงว่าภัยภิบัตินั้นจะตามทัน และข้าพเจ้าจะตาย
เสีย
ความกลัวตาย
(ปฐก20:11) อับราฮัมทูลว่า "เพราะข้าพระบาทคิดว่า ในที่นี้ไม่มีความยําเกรงพระเจ้าเสียเลย คนเขาจะฆ่าข้า
พระบาทเสียเพราะอยากได้ภรรยาของข้าพระบาท
อับราฮัมโกหกเพราะกลัวตาย
(ปฐก26:9) อาบีเมเลคจึงทรงเรียกอิสอัคมาเฝ้า และตรัสว่า "แน่ะนางเป็นภรรยาของเจ้า ทําไมเจ้าจะพูดว่า เธอ
เป็นน้องสาวของข้าพระบาท' อิสอัคทูลพระองค์ว่า "เพราะข้าพระบาทคิดว่า 'มิฉะนั้นข้าจะตายเพราะนาง'
อิสอัคกลัวจึงโกหก ซึ่งได้รับวิญญาณแห่งการโกหกจากอับราฮัม
(ดนล6:10 , 16 , 23) 10 มื่อดาเนียลทราบว่าลงพระนามในหนังสือสําคัญนั้นแล้ว ท่านก็ไปยังเรือนของท่าน ที่
มีหน้าต่างห้องชั้นบนของท่านเปิดตรงไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และท่านก็คุกเข่าลงวันละสามครั้งอธิษฐานและโมทนา
พระคุณต่อพระเจ้าของท่าน ดังที่ท่านได้เคยกระทํามาแต่ก่อน 16 แล้วพระราชาจึงทรงบัญชา เขาก็นําดาเนียลมาทิ้ง
ในถ้ําสิงห์ พระราชาตรัสแก่ดาเนียลว่า "ขอพระเจ้าของท่านผู้ที่ท่านปรนนิบัติอยู่เนืองนิตย์นั้น จงทรงช่วยกู้ท่าน
เถิด"23 ฝ่ายพระราชาก็โสมนัสในพระทัยเป็นล้นพ้น และทรงบัญชาให้นําดาเนียลออกมาจากถ้ํา เขาจึงเอาดาเนีย
ลออกจากถ้ํา ไม่ปรากฏว่ามีอันตรายอย่างไรบนตัวท่านเลย เพราะท่านได้วางใจในพระเจ้าของท่าน
ดาเนียลไม่หวาดกลัวความตาย
(ดนล3:16 , 14) 6 ผู้ใดที่มิได้กราบลงนมัสการก็ให้โยนผู้นั้นทันทีเข้าไปในเตาที่ไฟลุกอยู่" 14 เนบูคัดเนสซาร์
ทรงกล่าวแก่เขาว่า "ชัดรัคเมชาคและเอเบดเนโกเอ๋ย เป็นความจริงหรือไม่ ที่เจ้ามิได้ปรนนิบัติพระของเราหรือ
นมัสการปฏิมากรทองคําซึ่งเราได้ตั้งไว้
เพื่อนของดาเนียลก็ไม่กลัวความตายเพราะยืนหยัดในทางของพระเจ้าในที่สุดพระเจ้าทรงปกป้องเขาไว้
(ลก22:42) ่า "พระบิดาเจ้าข้า ถ้าพระองค์พอพระทัย ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด แต่อย่างไรก็ดี
อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์เถิด"
พระเยซูคริสต์
(กจ20:22-24) นี่แน่ะ บัดนี้พระวิญญาณพันผูกข้าพเจ้า จึงจําเป็นจะต้องไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ไม่ทราบว่าจะมี
อะไรเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าที่นั่นบ้าง เว้นไว้แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงเป็นพยานแก่ข้าพเจ้าในทุกบ้านทุกเมืองว่า
เครื่องจําจองและความยากลําบากคอยท่าข้าพเจ้าอยู่ แต่ข้าพเจ้ามิได้ถือว่า ชีวิตของข้าพเจ้าเป็นสิ่งมีค่าและประเสริฐ
สําหรับตัวข้าพเจ้า แต่ในชีวิตของข้าพเจ้าขอทําหน้าที่ให้สําเร็จก็แล้วกัน และทําการปรนนิบัติที่ได้รับมอบหมายจาก
พระเยซูเจ้า คือที่จะเป็นพยานถึงข่าวประเสริฐ ซึ่งสําแดงพระคุณของพระเจ้านั้น
(กจ21:13) ฝ่ายเปาโลตอบว่า "เหตุไฉนท่านทั้งหลายจึงร้องไห้และทําให้ข้าพเจ้าช้ําใจ ด้วยข้าพเจ้าเต็มใจพร้อมที่
จะไปให้เขาผูกมัดไว้อย่างเดียวก็หามิได้ แต่เต็มใจพร้อมที่จะตายที่กรุงเยรูซาเล็มด้วย เพราะเห็นแก่พระนามของพระ
เยซูคริสตเจ้า"
(มธ16:28) รากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ในพวกท่านที่ยืนอยู่ที่นี่ มีบางคนที่ยังจะไม่รู้รสความตาย
จนกว่าจะได้เห็นบุตรมนุษย์เสด็จมาด้วยราชอํานาจของพระองค์ท่าน"
(ฮบ9:17) มีข้อกําหนดสําหรับมนุษย์ไว้แล้วว่าจะตายครั้งเดียว และหลังจากนั้นก็จะมีการพิพากษาฉันใด
(วว14:13) และข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงจากสวรรค์สั่งว่า "จงเขียนไว้เถิดว่า ตั้งแต่นี้ต่อไป คนทั้งหลายที่ตาย
เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเป็นสุข" และพระวิญญาณตรัสว่า "จริงอย่างนั้น เขาได้หยุดพักจากการงานของเขา เพราะ
การงานที่เขาได้กระทํานั้นจะติดตามเขาไป"
(วว2:13) "เรารู้จักที่อยู่ของเจ้า รู้ว่าที่นั่งของซาตานอยู่ที่ไหน เจ้ายึดนามของเราไว้มั่น และไม่ปฏิเสธความเชื่อใน
เรา แม้ในเวลาที่อันทีพาผู้เป็นพยานที่ซื่อสัตย์ของเราต้องถูกฆ่าในท่ามกลางพวกเจ้า ในที่ซึ่งซาตานอยู่
! - 16 -