Professional Documents
Culture Documents
3G Japan Casestudy Article
3G Japan Casestudy Article
กรณีศกึ ษา 3G ในประเทศญีปุ่น
โดย วรวิสทุ ธิ ภิญโญยาง และ อรนุช เลิศสุวรรณกิจ
นอกจากนี D NTT DoCoMo ยังขาด application หรื อ service ที3ดงึ ดูดใจลูกค้ าให้ มาใช้ อย่าง
จริ งจัง บริ การบางอย่าง เช่น การคุยโทรศัพท์และเห็นหน้ าคูส่ นทนาอีกฝ่ าย (VDO Call) ยังไม่ได้ รับ
ความนิยมมากนัก เนื3องด้ วยผู้ใช้ ร้ ูสกึ เสียความเป็ นส่วนตัวไป
ในด้ านของบริการเสริ มที3ทาง KDDI นําเสนอให้ กบั ผู้ใช้ เพื3อเปิ ดตัวควบคูไ่ ปกับโครงข่าย 3G
และถือว่าเป็ น highlight ที3นอกจากช่วยดึงดูดผู้ใช้ ให้ หนั มาใช้ บริการของ KDDI ภายใต้ โครงข่าย 3G
แล้ ว ยังทําให้ ขยายโครงสร้ างธุรกิจของ KDDI ไปเป็ น Mobile Music Provider มาจนถึงทุกวันนี D นัน3 คือ
การเปิ ดตัวบริ การที3ชื3อว่า Chaku Uta เป็ นการดาวน์โหลด ringtone คุณภาพเสียงสูงใน format MP3
และ Chaku Uta Full การดาวน์โหลดเพลง MP3 ผ่านเครื อข่าย 3G แบบเต็มเพลงได้ และมีการ
วางแผนการตลาดร่วมกันกับบริ การที3ชื3อว่า EZ FM ในเดือนธันวาคม ปี 2003
กล่าวคือผู้ใช้ ที3ฟังวิทยุ FM ผ่านมือถือของ KDDI สามารถที3จะเรี ยกดูชื3อเพลง ชื3อศิลปิ น และ
ดาวน์โหลด Chaku Uta ที3กําลังฟั งอยูใ่ นตอนนันได้ D เป็ นการลดปั ญหาที3วา่ ผู้ใช้ นึกไม่ออกว่าจะต้ องการ
ดาวน์โหลดเพลงอะไรดี เนื3องจากจําชื3อเพลง หรื อ ชื3อศิลปิ นไม่ได้ และแน่นอนนอกจาก KDDI จะมี
ส่วนแบ่งรายได้ ใน Content เพลง จาก Chaku Uta และ Chaku Uta Full แล้ ว KDDI ยังเปิ ดช่องทาง
ให้ สามารถซื Dอ CD, DVD และสินค้ าอื3นๆที3เกี3ยวข้ องบน application ดังกล่าว เป็ นการเพิ3มรายได้ อีก
ช่องทางนึงของ KDDI อีกด้ วย
ทังหมดนี
D เD กิดจากการวางแผนที3ดีของ KDDI ไม่วา่ จะเป็ นทังD ในส่วนการร่วมมือกับกลุม่ ผู้
ให้ บริ การวิทยุ FM การเตรี ยมความพร้ อมกับผู้ผลิตเครื3 องโทรศัพท์ในการ เพิ3มความจุของ Memory
เพื3อรองรับการดาวน์โหลดเพลง รวมไปถึงการฝั ง FM Radio Chipset และติดตังD application เพิ3มเข้ า
ไปในเครื3 องโทรศัพท์ก่อนจัดจําหน่าย
ต่อมาในปี 2006 KDDI ยังขยายไปสูก่ ารให้ บริการในรูปแบบของ Music Store คล้ ายกับ
iTunes ของ apple มีชื3อว่า LISMO (Listen Mobile Service) โดยผู้ใช้ สามารถดาวน์โหลดเพลงจาก
LISMO Music Store และ แลกเปลี3ยนเพลงระหว่างเครื3องโทรศัพท์มือถือและเครื3 อง PC ได้ โดยเป็ น
บริ การที3ถกู ใจผู้ใช้ ชาวญี3 ปนเป็ ุ่ นอย่างมากเนื3องจากมีเพลงที3ตรงความต้ องการของลูกค้ ามากกว่าใน
iTunes Music Store ซึ3งเป็ นหนึง3 ในความตังใจของ D KDDI ที3ต้องการต่อเติมภาพของ FMC (Fixed
Mobile Convergence) ให้ ผ้ ใู ช้ ได้ รับรู้ด้วยเช่นเดียวกัน
กลยุทธต่างๆที3 KDDI ได้ นํามาใช้ นนั D ได้ สง่ ผลให้ บริการ 3G ของบริ ษัทประสบความสําเร็จเป็ น
อย่างสูง โดยในปี 2004 จํานวนผู้ใช้ ในโครงข่าย 3G ของ KDDI นันD มีสงู ถึง 16.8 ล้ านเลขหมาย
ในขณะที3 NTT DoCoMo ผู้บกุ เบิกตลาด 3G กลับมียอดผู้ใช้ อยู่ที3ประมาณ 8.4 ล้ านเลขหมายเท่านันD
ผู้ใช้ สามารถซื Dอสินค้ าที3ร้านสะดวกซื Dอ, ร้ านขายยา หรื อตู้ขายของอัตโนมัต,ิ ใช้ เป็ นบัตรผ่าน
โดยสารรถไฟฟ้า หรื อ ทําการ check-in ที3สนามบิน โดยทําการถือเครื3 องโทรศัพท์มือถือไปใกล้ ยงั เครื3 อง
อ่าน ข้ อมูลจะถูกส่งผ่านแบบไร้ สาย เพื3อทําธุรกรรมดังกล่าว นอกจากนี Dยังสามารถทําการดาวน์โหลด
ข้ อมูลของบัตรสมาชิกต่างๆ ที3มเี ยอะเกินไปในกระเป๋าสตางค์ของผู้ใช้ แล้ วนํา “Osaifu-Keitai” มาใช้
แทนบัตรสมาชิกเหล่านันได้ D
จากบริ การดังกล่าวเป็ นแรงดึงดูดทําให้ ลกู ค้ าจากโครงข่าย 2G เดิมของ DoCoMo โอนย้ ายมา
ใช้ โครงข่าย 3G กันเป็ นจํานวนมาก โดยจะเห็นได้ จากยอดจํานวนผู้ใช้ บริ การ FOMA (3G) ที3เพิ3มขึ Dน
อย่างก้ าวกระโดดจากปี 2004 ไปยัง 2005 และต่อเนื3องไปยัง 2006
จนในที3สดุ เดือน มกราคม 2006 จํานวนผู้ใช้ งานในโครงข่าย 3G ได้ สงู กว่า KDDI เป็ นครังD แรก และ
กลายเป็ นเจ้ าตลาดมาถึงทุกวันนี D
ตัวอย่ างบริการเสริมอืนๆ
“One Seg” บริ การเสริ มที3ทําให้ ผ้ ใู ช้ สามารถชมโทรทัศน์ผา่ นโทรศัพท์มือถือได้ (Digital
Mobile TV) และยังมีวีดีโอคลิปคอนเทนต์อื3นๆอีกมากมาย มีเกมให้ ร่วมสนุกเพื3อชิงรางวัลรับส่วนลดที3
ร้ านต่างๆได้ อีกด้ วย ซึ3งถือเป็ นอีกช่องทางหนึ3งที3สามารถจับมือร่วมกับพันธมิตรร้ านค้ าอื3นๆในการทํา
โฆษณาผ่านสื3อโทรศัพท์มือถือ (Mobile Advertising)
บริ การที3ชื3อ “Imadoco Search” สามารถแจ้ งได้ วา่ ขณะนี Dเด็กกําลังอยู่ที3ใด โดยที3เด็กจะมี
เครื3 องโทรศัพท์อกี เครื3 องพกติดต่อไว้ และจะส่งตําแหน่งแจ้ งกลับไปทันที เมื3อผู้ปกครองร้ องขอเพื3อ
ต้ องการสอบถามตําแหน่ง ซึ3งบริ การนี Dมีการนํา GPS มาเป็ นเทคโนโลยีเบื Dองหลังในการช่วยค้ นหา
ตําแหน่งของผู้ที3เราต้ องการติดตาม
สถานการณ์ ปัจจุบัน
ปั จจุบนั NTT DoCoMo มีสว่ นแบ่งการตลาดอยู่ที3ประมาณ 51.5% ตามมาด้ วยอันดับที3 2 คือ au
(KDDI) อยู่ที3 29% และอันดับ 3 คือ SoftBank อยู่ที3 18.7%
ในขณะที3คแู่ ข่งอันดับ 3 อย่าง Soft Bank ก็ประสบความสําเร็จเป็ นอย่างมากในช่วงปี 2007 เป็ นต้ น
มา โดยมียอดจํานวนผู้ใช้ บริ การเพิ3มสุทธิสงู กว่าผู้ให้ บริ การรายอื3นติดต่อกันกว่า 14 เดือนด้ วยกัน
แต่ทงนี
ั D D NTT DoCoMo ก็มิได้ หยุดนิ3งแต่อย่างใดและพยายามนําเสนอบริ การเสริ มใหม่ๆ
ออกมาอีกมากมายเพื3อดึงดูดลูกค้ าให้ กลับมายังเครื อข่ายของตน รวมถึงรักษาฐานผู้ใช้ เดิมกว่า 50%
ไว้ ให้ ได้ ภายใต้ แนวคิด “DoCoMo 2.0” ที3กําลังจะสื3อให้ ลกู ค้ าทราบถึงยุคใหม่แห่งการแข่งขัน
โดยมีบริ การที3โดดเด่น เช่น “Chokkan Game” เป็ นเกมที3ต้องอาศัยการมีสว่ นร่วมของผู้เล่น
ต้ องแสดงท่าทางเคลื3อนไหวในขณะที3เล่นเกม โดยจะมีเซ็นเซอร์ จบั ความเคลื3อนไหวที3ฝังไว้ ในเครื3 อง
หรื อด้ วยซอฟต์แวร์ ที3ตรวจจับการเคลื3อนไหวผ่านกล้ องดิจิตอล ซึ3งเป็ นนวัตกรรมใหม่ในวงการ
เทคโนโลยีเกมบนเครื3 องโทรศัพท์มือถือ คล้ ายๆกับเครื3 องเล่นเกมคอนโซลชื3อดัง “Wii” จากบริ ษัท
Nintendo
NTT DoCoMo เป็ นบริ ษัทที3มีจดุ เด่นในเรื3 องทิศทางของเทคโนโลยีและการคิดค้ นนวัตกรรม
ใหม่ๆเสมอมา และจะเป็ นบริ ษัทแรกๆของโลกที3กําลังจะก้ าวไปสูย่ คุ โครงข่าย 4G ในอีกไม่กี3ปีข้ างหน้ า