You are on page 1of 2

เรื องจริ ต ๖ โดยหลวงปู ่ ตื อ ่ หลวงปู ตอท่ ื านเมตตามาสอนต่ อ เรื องจริ ต ๖ มี ความสํ าคัญดังนี ๑.

"การโมโหจนลื มตัวนั นโง่ หรื อฉลาด เบี ยดเบี ยนตนเองทํ าร้ ายตนเองหรื อเปล่ า เมื อรู ว่ ้ าโง่ แล้ ว ที หลังอย่ าทํ า ให้ คด ิ ไว้ เสมอว่ า กรรมใครกรรมมัน กรรมทังหลายมาแต่ เหตุ หากเราไม่ เคยทํ ากรรมนี ั จุ ไว้ กอ ่ นในอดี ต วิ บากกรรมนี ก็ ไม่ เกิ ดขึ นกับเราในปจ บัน หากพวกเจ้ าเข้ าใจกฎของกรรมอันเป็ น อริ ยสัจขันสู ง ซึ งเที ยงเสมอและให้ ผลไม่ ผิ ดตัวด้ วย ก็ จงหยุ ดต่ อกรรมลงแค่ นี ยอมรับนับถื อกฎของ กรรม สร้ างอโหสิ กรรมให้ เกิ ดขึ นแก่ จต ิ สร้ างอภัยทานให้ เกิ ดขึ นแก่ จต ิ ” ๒. "อยากไปพระนิ พาน ก็ ต้ องไม่ ติ ดอะไรทังนั น ดี -เลว,ติ ดกลิ น, ติ ดสี ,ติ ดรส,ติ ดสถานที , ติ ด ร่ างกายของครู บาอาจารย์ ซึ งไม่ เที ยงทังสิ น อะไรที เข้ ามากระทบทางทวารทัง ๖ หรื ออายตนะ ๖ ต้ องวาง ให้ ได้ รู อารมณ์ ้ ตามจริ ตที เกิ ดให้ ได้ ศึ กษากรรมฐานแก้ ให้ ดี ๆ ต้ องคล่ องจริ ง ๆ จึ งจะชนะอารมณ์ ตามจริ ต ได้ ” ๓. "ขี เกี ยจเป็ นอารมณ์ หลง เมื อรู แล้ ้ วว่ ามันไม่ ดี ก็ จงอย่ าทํ าจิ ตให้ อยู ในอารมณ์ ่ ขเกี ี ยจสิ การ ตํ าหนิ กรรมผู อื ้ นเท่ ากับเราไปยึ ด เอากรรมของเขามาไว้ ที ใจเราแทน เราว่ าเขาขี เกี ยจ ก็ หมายความว่ าเราไปยึ ดเอาตัวขี เกี ยจของเขามาไว้ ทจิ ี ตของเรา หรื อเอาอุ ปาทานของเขา มาเป็ นอุ ปาทาน ของเรา เหมื อนในกรณี เรื องคนจับปลาสวาย เราไปว่ าเขาบ้ า เราเลยไปเอาความบ้ าจากเขามาไว้ ทใจเรา ี เราไปว่ าเขาทะลึ ง เราก็ ไปเอาความทะลึ งของเขามาไว้ ทใจเรา ี การตํ าหนิ กรรมให้ ผลอย่ างนี ” ๔. "คนขี เกี ยจทํ างานใดๆ ก็ ไม่ สํ าเร็ จ ปฏิ บต ัิ ธรรมใดๆ ก็ ไม่ สํ าเร็ จ คนจะไปนิ พพานนั นขี เกี ยจไม่ ได้ แม้ เห็ นคนอื นเขาขี เกี ยจ แล้ วนึ กตํ าหนิ กรรมของเขา ก็ เท่ ากับไปยกเอาความขี เกี ยจ ของเขามาไว้ ในจิ ตของเรา เพราะเห็ นอารมณ์ หลง (โมหะ) เป็ นของดี ยกตัวอย่ างเช่ น เห็ นถังขยะเต็ ม แต่ ผม ้ ู ห ี น้ าที ไม่ ยกไปเททิ ง เดิ นผ่ านครังใด พอเห็ นจิ ตก็ นึ กตํ าหนิ กรรมของเขาว่ าขี เกี ยจ (แม้ ในพระวิ นัย หากเห็ นของสงฆ์ ชา ํ รุ ด หรื อใช้ ของสงฆ์ แล้ วทิ งไม่ เก็ บเข้ าที เดิ นผ่ าน ๑ ครัง เห็ นแล้ วไม่ ซ่ อมแซม หรื อ บอกให้ ผอ ้ ู นที ืมี หน้ าที มาซ่ อม เดิ นผ่ านทุ กครังหากยังวางเฉย จะถู กปรับอาบัตท ิ กครังที ุ เดิ นผ่ านแล้ วเห็ น ยิ งไปตํ าหนิ กรรมเข้ าด้ วย ก็ จะมี ผลเหมื อนพวกเจ้ านี แหละ) เหตุ ผลเพราะเดิ นผ่ านครังใด อารมณ์ ปฏิ ฆะก็ เกิ ดเมื อนัน เป็ นขี เกี ยจบวกขี เกี ยจ อารมณ์ กย ็ งเกิ ิ ด จิ ตก็ ยิ งเศร้ าหมอง แล้ วขาดทุ นหรื อได้ กา ํ ไรล่ ะ” ั หาไม่ ั หาได้ ๕. "การเลิ กคิ ดเลิ กทํ าอี ก ก็ ยังแก้ ปญ ได้ ต้ องยกกรรมฐานแก้ จริ ตขึ นมาแก้ จึ งจะแก้ ปญ ถ้ าไม่ คล่ องก็ เห็ นจะแก้ ไม่ ได้ จริ ต ๖ ก็ กิ นจิ ตไปจนตาย พระนิ พพานก็ หวังไม่ ได้ "

รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ สื บสงวน

You might also like