Professional Documents
Culture Documents
อวัยวะหาเรื่อง
อวัยวะหาเรื่อง
ชยางกูร
ต.ในเมือง อ.เมือง
จ.อุบลราชธานี
34000
ตุลาคม 2551
เรื่อง สงตนฉบับเพื่อพิจารณา
เรียน สํานักพิมพ
1. ตา
2. หู
3. จมูก
4. ปาก
5. คอ
6. แขน
7. ขา
8. มือ
9. เทา
10.เล็บ
ตา
คอเปนสวนของรางกายที่มีโครงสรางกระดูกไมคอยแข็งแรง เปนการเรียงตอกันของกระดูกแต
ละชิ้นเปนขอๆ ซึ่งสามารถยืดหยุนขยับไดอยางออนนอมหากพบวาการโอนนอมถอมลงมันเห็นสิ่งที่
ดีกวาตั้งตรงแข็งทื่อ แนนอนวากมคอลงทีไรก็ตองไดเห็นตัวเองเสมอละ ถาไมนึกรังเกียจตัวเองจนกม
คอลงไมไดก็คงไมใชเรื่องหนักหนาอะไรในเวลาที่ไดเจอสิ่งรอบๆตัวแลวมองยอนดูตัวเองสินะ จะโนม
คอเพื่ออะไรก็แลวแต ยังไงก็ลืมตาเอาไวทุกครั้งก็แลวกันจะไดเห็นตัวเองในขณะนั้นเสมอ และในที่สุด
ก็จะรูสึกวาที่แทก็กมใหแกตัวเองนั่นแหละ ดวยวากมทุกครั้งมันก็เจอตัวเองทุกที ถาไมใชคอพับงอเขา
ตาก็คงกมมองดูตัวเองไมได คอก็เปนอวัยวะสวนที่คอยดึงใหเราอยูติดกับตัวเอง ไมวายังไง ศรีษะอัน
เปนสวนที่สามารถไปไกลไดดวยสมอง ความคิด ตาดู หูฟง จมูกดมกลิ่น ปากวา ก็ยังมีคอดึงทั้งหมดให
อยูกับตัว ไมอยางนั้นจะใหใครดูแลตัวเองแทนได ตองเห็นความสําคัญของคอในขอนี้อยางมากๆ แมจะ
เปนสวนแคบๆสั้นๆแตแบกภาระหลักที่สําคัญและขามไปไมได มันเห็นเลยวาคอนั้นหนักแคไหน
นอกจากจะคอยดึงไมใหไปตามความคิด สิ่งที่ไดเห็น ไดยิน ไดกลิ่น ไดรสแลว ยังตองสงผานทุกอยาง
จากศรีษะไปตามตัวและบางอยางจากตัวขึ้นไปยังศรีษะ แมจะเปนชองทางสําคัญขนาดนี้ก็ยังโอนออน
ผอนตรงไดเสมอ เพื่อใหไดกมเงยหันหนาไดตามตองการ โชคดีที่คอไมแข็งเหมือนทอประปา ไมเปน
สวนที่สําคัญแลวออนไมได ถาเปนอยางนั้นก็ไมตางกับใสปลอกคอแลวคอแข็งเปนทอประปา คง
ทรมานนาดู
ไมนานมานี้ที่หมูบานแหงหนึ่ง เด็กๆกําลังชวยกันดูแลแปลงผักสวนครัวที่โรงเรียน เพื่อนํามา
เปนอาหารกลางวัน แตละคนก็กมหนากมตารดน้ํา พรวนดินอยางแข็งขัน มีเด็กคนหนึ่งชื่อหนูดี ไม
ทํางานแตคอยเอานิ้วไปจิ้มตนคอเพื่อนๆแลวใหทายวาเปนนิ้วไหน ถาทายถูกก็จะไปจิ้มคนอื่นตอ ถา
ทายไมถูกก็จะหัวเราะเยาะชอบใจอยางมาก พอมาเจอหนูนิดๆก็พูดวา อยานะ ไปที่ไหนก็ไปไกลๆเลย
ไมทํางานแลวยังมารบกวนคนอื่น หนูดีก็เดินไปกระซิบหนูนาใหลองไปจิ้มคอหนูนิดดูซิวาเธอจะวามั้ย
หนูนาก็ทําตามแลวก็โดนหนูนิดวามาเหมือนหนูดี พอเลิกเรียนจะกลับบานทั้งสองคนจึงชวนกันไปถาม
หนูนิดวา หนูนิดทําไมแคเอานิ้วจิ้มคอถึงตองมาวาพวกเราดวย หนูนิดก็ตอบวา อาว ก็คอไมใชของเลนนี่
สองคนก็หัวเราะแลวหนูนาจึงถามวา คอนะเหรอไมใชของเลน ไมจริงหรอก ทําไมจะเลนไมได หนูนิด
ก็บอกวา คอนะอยูระหวางขอไขกับงองู ถาเลนกับคอแลวควายตกใจก็จะไปเหยียบไขแตกหรือไมก็วิ่ง
ไปโดนงูกัด ไปทางไหนก็ไมได ไมดีทั้งนั้น คอจึงไมใชของเลนนะสิ รูรึเปลา ทีหลังอยาเลนคอ เห็นมั้ย
วาไมวาจะไปทางไหนก็มีแตสูญเสียหือ หนูดีกับหนูนาจึงพยักหนาและพูดวา เราจะถือวาเปนเหตุผลที่
นาฟง เอาละ แลวจะทบทวนดูก็แลวกัน ไปละนะ
เวลากางติดคอมันเปนเรื่องลําบากจริงๆ มินาละคนที่เปนกางขวางคอจึงถูกรังเกียจอยางมาก ก็
มันสรางความเดือดรอนอยูตลอดเวลาที่ติดอยูนี่นะ อยูเฉยๆก็ยังเจ็บเพราะกางเล็กๆนั่น ถาลองกลืน
น้ําลายละก็รูเลยวากระดูกแมเพียงเศษเล็กๆก็กลืนไมได มันแหลมคมเปนอันตราย ขาวเหนียวคําโตๆ
อาจชวยใหกางที่ปกคอหลุดออกก็ได แตอาจไมเสมอไปทุกครั้ง ที่กางปกคอนั้นเกี่ยวกับปากโดยตรง
สวนเรื่องของกางขวางคอนี่มันมักเกี่ยวของโดยรวมหลายสวนและไมงายที่จะหลุดออกโดยใชขาว
เหนียว ทําใหกลืนไมเขาคายไมออกอยูนั่นแหละ คงไมมีใครจัดการกับกางที่ขวางคอดวยการเคาะคอ
หรือเขยาและบีบคอ เคนใหกางหลุด เพราะปญหามันอยูขางในคอ ตองแกภายในคอจึงจะถูกจุด แลว
เรื่องของกางขวางคอนี่ละ จําเปนจะตองเผชิญหนากับกางโดยตรงอยางนั้นดวยรึเปลา อะไรที่จะเปน
เครื่องมือเอากางที่ขวางคอออกไดบางหรือวามือเปลา ชีวิตมีคอเดียวเทานั้นนี่นะจะเปลี่ยนคอคงไมได
จึงไมใชหนทางที่จะเดินหนีกางที่ขวางคอ แตเพื่อที่ชีวิตจะดําเนินตอไปไดก็ตองสูไมถอยและยอยกาง
ใหหมดไปเหมือนน้ํายอยที่หลอมสิ่งที่ลงไปในทองใหกลายเปนสวนหนึ่งในรางกายตอไป กางที่ขวาง
คออยูหากถูกยอยและหลอมเขามาอยางนั้นมันก็จะเปนประโยชนกวาที่จะขวางคอหลายเทา นาจะเปน
หนทางที่ควรทําเมื่อเจอกางขวางคอ เพราะคงไมมีใครเอากางที่ติดคอใหไปติดที่สวนอื่นแทนนะ คอไม
มีอะไรมากมายที่จะจัดการกับกางนอกจากปรับตัวและใชเวลาใหกางที่ติดนั้นหลุดออก มันจึงเปนสวนที่
สูอยางใจเย็นที่สุดเลย ปากซึ่งเปนสวนที่เกี่ยวของโดยตรงนาจะใจรอนกวาและบนวากางติดคอไปตั้ง
นานแลว หรือไปขอใหชวยเอากางออกซะเลย และก็จะเปนอยางนั้นอยูแลวถาปากมีความรับผิดชอบ
เมื่อกางติดคอถาไมชวยตัวเองก็ตองใหคนอื่นชวยไมใชเลี้ยงกางใหขวางคอ เพราะมันผิดเต็มประตู
ปลอยไวไมได คอไมใชที่อยูของกาง อยูแลวไมมีดีมีแตเสีย มีอยูสองทางที่มันตองไป ถาไมลงคอไปก็
ออกทางเกาที่ปากทางเดิมที่มันเขามา ชีวิตที่เจอกางขวางคอก็มีสองทางพอๆกัน ถาไมสามารถรับเขามา
ไวใหเกิดประโยชนตอชีวิตไดอยางถึงที่สุดแลวก็ตองสลัดทิ้ง เปนหนทางที่ไมไดกําไรก็เทาทุน แตถา
เลี้ยงกางไวก็มีแตจะลําบากจากคออาจลุกลามเปนเรื่องใหญที่ไมนายินดี
สมัยกอนบานสวนใหญเปนบานทรงไทย มีใตถุนโลงมองเห็นรอบดาน ชายคนหนึ่งนั่งอยูใต
ถุนบานมองไปยังรั้วก็เห็นสุนัขตัวหนึ่งกําลังลอดรั้วหนามเขามา แตเขามาไดครึ่งตัวก็ถูกลวดหนามเกี่ยว
และติดอยูที่รั้ว เขาก็รองตะโกนไลมันวาไปๆ ภรรยาซึ่งอยูบนบานไดยินเสียงก็รองถามลงมาวา มีอะไร
หรือพี่ เขาก็บอกวา หมามันจะลอดเขามาในบาน ไมมีอะไรหรอก แลวเขาก็ตะโกนไปๆอยูหลายครั้ง จน
ภรรยาชะโงกหนาออกไปดูจึงรองบอกวา หมามันเขามาตั้งครึ่งตัวพี่ไลมันใหออกไปมันจะไปไดยังไงก็
ติดรั้วหนามอยูอยางนั้นนะพี่ เขาก็เลยลุกเดินไปดึงลวดหนามขึ้นใหมันลอดไดและพูดวา เอา เอากาง
ขวางคอออกใหแลวไปสิ แตมันก็วิ่งเขามาในบานและไปฉี่รดตนไมกับเสาบานแลวกระโดดขึ้นไปนอน
บนแครที่เขานั่งอยูเมื่อครู เขาก็ไลมันลงแตมันไมไปแถมยังขูสูจะกัดเขาดวย ภรรยาก็รองบอกวา พี่จะทํา
อยางนั้นไมไดหรอกมาเอาอาหารไปหลอกใหมันลงก็ได เขาก็เลยเดินขึ้นบานไปเปดตูกับขาวซึ่งมีจาน
ปลานิลทอดกับไกทอดอยูสองจาน เขาหยิบจานปลาออกมา ภรรยาก็มองดูแลวบอกวา หมามันไมชอบ
ปลาหรอกทําไมไมเอาไกไปใหมันละพี่ เขาก็ตอบวา เอาปลาใหมันดีแลวเหลือไกไวกิน ภรรยาก็บอกวา
ฉันไมไดใหมันกินแคเอาไปหลอกมันเทานั้นเอาไกไปซี หมามันชอบหยอกไก มันไมหยอกปลาหรอก
เขาจึงเปลี่ยนเอาจานไกไปหลอกใหมันลงจากแคร แตวามันกระโดดแยงไกไปไดแลววิ่งหนีลอดรั้ว
หนามออกไปเลย เขาเลยเดินกลับขึ้นบานอยางเสียดาย ภรรยาเห็นเขาเดินมือเปลามาก็ถามวา ไกละพี่
เขาตอบวา มันเอาไปกินซะฉิบ เห็นมั้ยละ ภรรยาก็บอกวา ชางเถอะพี่ใหมันเอาไกไปกินดีกวาไดปลาไป
กิน ปลามีประโยชนบํารุงสมองนะ เขาก็พูดวา ไมชอบปลามันมีกางเยอะกินแลวกางติดคอนี่นา ภรรยาก็
บอกวา พี่ตองหัดกินปลาไมใหกางติดคอไมใชไมกินปลาเพราะกลัวกางติดคอ ปลอยใหหมามันกินไก
เถอะ ฉันก็รูวากินปลามันยากกวากินไก เพราะไกไมมีกาง แตพี่คิดดูสิวาเรื่องยากๆเอาใหหมา แลวเอา
เรื่องงายๆมานะ ไมอายมันเหรอ แลวถาใหปลามันไปและเรากินไก ถามันเกิดฉลาดขึ้นมากวาเราแยเลย
เขาก็ตอบวา เออ ก็ใหมันฉลาดไปเลยจะไดทําประโยชนและเปนที่พึ่งใหเราตอไปได อยาเปนกางขวาง
คอมันเลย
คอนอกจากจะเปนสวนตอที่สําคัญของตัวเราแลว ยังเปนจุดศูนยรวมการขนสงสื่อสารระหวาง
รางกายอยางถนนเสนใหญที่สุดก็วาได มีทั้งหลอดลม หลอดอาหาร เสนเลือด เสนประสาท เสนเอ็น
สารพัดเสนทั้งเสนใหญเสนเล็ก รวมอยูในคอ ดีที่มันเปนเสนใครเสนมัน ถาขามเสนล้ําแดนผิดลูละ
เสียศูนยแน ชวงคอยาวๆนั้นดูสวยระหงดี บางแหงก็เอาหวงเหล็กมาสวมคอเรียงกันหลายๆหวงเพื่อค้ํา
คอใหยาวเขาไวแบบที่ชนเผาคอยาวนั่นไง ดูคอแลวนึกถึงลําตนของตนไมที่มีทอหลายๆทอรวมอยูขาง
ใน ไวสงผานสิ่งสําคัญไปหลอเลี้ยงสวนตางๆของตนและตัว แตลําตนของตนไมจะใหญขึ้นๆตามอายุ
ของตน สวนคอนั้นยังไงก็เปนแคอุโมงคที่ไมคอยขยายมากมายนัก ตนไมอายุเปนรอยป ลําตนคนโอบ
ไมมิดตองมีหลายคนโอบจึงจะไดรอบ ยากที่จะโคนงายๆ แตวาคอนอกจากจะเหี่ยวเหลียวก็ยากแลวยัง
ออนงอนแงนไมแข็งแรงเหมือนลําตนของตนไมที่แก ก็เลยอวดไมไดแมอายุจะไมนอยก็ตาม ตนคอที่
อวดไดมักจะเปนตนคอที่ยังออนไมใชตนคอที่แก เวลาจะอวดคอก็ทําคอแข็งตั้งตรง ทําใหเห็นวาลําตน
อวดแกสวนลําคอก็อวดเกง
ที่หมูบานแหงหนึ่งมีงานเลี้ยงฉลองเนื่องในวันปใหม ทุกคนตางแตงตัวสวมเครื่องประดับมา
อวดกัน เครื่องประดับที่ทุกคนนิยมนํามาใสในงานก็คือสรอยทํามือที่ทํามาจากเม็ดตาดําตาแดงรอยเปน
สายสรอยนั่นเอง นายหนุมนั้นบาดเจ็บที่คอจึงตองสวมปลอกคอก็เลยใสสรอยตาดําตาแดงไมได แตเขา
ก็รอยสรอยตาดําตาแดงแลวสวมที่ขอมือมาในงาน สาวสวยเห็นเขาใสสรอยที่มือก็เลยถามวา หนุมจะ
เมื่อไหรจะถอดปลอกคอไดละจะ หนุมก็ตอบวา ไมรูสิ แลวแตหมอ สาวก็เลยปลอบใจวา นาเสียดายนะ
อดสวมสรอยตาดําตาแดง เขาก็หัวเราะหึๆแลวบอกวา โอย ไมเปนไรหรอก มันไมใชสิ่งสําคัญซะหนอย
แตฉันก็ทําสรอยตาดําตาแดงมาอวดดวยนะ นี่ไง แลวก็ยกมือใหสวยดู สวยมองดูสรอยเขาแลวพูดวา
สวยดี เสียดายไมไดสวมคอ เขาจึงบอกวา ไมเห็นจะเสียดายเลย จริงๆแลวคอไมไดมีไวสวมสรอยนา
สวยก็เถียงวา อาว ถาไมสวมสรอยแลวเอาไวสวมอะไร เขาก็ตอบทันทีวา ก็สวมเสื้อนะสิ เสื้อทุกตัวตอง
มีคอเสื้อใชมั้ยละและจําเปนตองสวมเสื้อ นั่นแหละคือสิ่งที่ตองสวมคอ ฉันก็สวมเสื้อมานี่ไง ไม
จําเปนตองสวมสรอยทับเสื้ออีกชั้นใหเมื่อยคอ เพราะคอไมไดวาง เห็นมั้ย สวยก็มองดูเสื้อที่เขาใสแลวก็
สายหนาและเดินไปที่อื่น หนุมหัวเราะชอบใจ
สวนคอเปนแคอวัยวะที่มีชวงสั้นๆ ไมนาจะมีเรื่องมากมายอะไรได แตมันก็มีอยูดี โดยเฉพาะ
คอที่มีเครื่องประดับสวม ทําใหตองชูคอแข็งทื่อจึงจะสะดุดตา มันก็ไมไดหนักอะไรจนถึงกับไปกดทับ
เสนประสาทก็จริง แตมันทําใหเดือดรอนไดอยางนาหวาดเสียวกวานั้น ถาถูกกระชากสรอยจะนากลัวมั้ย
ละ มันเปนการเอากระดูกมาแขวนคอชัดๆ เรียกวาหาเรื่องไดลงคอ ซึ่งก็เปนเรื่องที่ชอบกันมากๆ เพราะ
สรอยคอนั้นมีมาตั้งแตยุคดึกดําบรรพ หากไมชอบก็แปลก แมไมใชเรื่องบังคับแตมันซึมซับมานานแสน
นาน สรอยที่ทําดวยโลหะเชน ทองคํา เงิน สามกษัตริย มีความนิยมอยางแพรหลาย แตเรื่องก็อาจเกิดขึ้น
แมไมใชเพราะคนก็อาจจะมาจากฟา ในเวลาฝนฟาคะนองตองหลบอยูในที่ๆปลอดภัยเอาไว เดี๋ยวฟาจับ
ไดจะมีโทษโดยไมไตสวนที่มาที่ไป ถารอดไดก็บุญหนักหนานาอัศจรรย แมจะเปนเชนนี้ก็ยังไมเสื่อม
ความนิยมในการสวมสรอยคอ ไมรูวาเหตุผลเพราะอะไร ที่แนๆไมนาจะทําใหคอยาวขึ้น เรื่องของคอ
นั้นถาเปนคอเดียวกันก็ถึงไหนถึงกัน มันไมหยุด ตรงขามกับแตกคอกัน อันนี้ใครไมเกี่ยวก็ถอยไป
เพราะตอใหคอแตกก็ไมชวยใหหูรับรู มันคงตองลางคอแลวมาคุยกันใหม นาจะเขาใจในความ
เหมือนกันของกระดูกคอซึ่งก็มีจํานวนเทากัน เพราะฉะนั้นคอไหนก็แคนั้น ไมวาจะคอสั้น คอยาว มันก็
ไมตางกันมากมายอะไร เรื่องที่คอหามาก็ไมไดนอยหนาไปกวาสวนอื่นเทาไหร บางครั้งแมไมถูกคอแต
ถูกโรคก็มี
สิ่งมีชีวิตที่มีคอยาวที่สุดในโลกคือยีราฟ มันคงไมหนวกหูเหมือนสัตวอื่นสินะก็คอยาวอยางนั้น
คอยีราฟมีดีโดยไมตองใสสรอยแถมเปนจุดขายไดอยางดีทําเงินใหสวนสัตวตั้งมากมาย คอยีราฟทําให
มันเห็นยอดไมสูงๆได แลวมันก็ไมพลาดของดีๆอยางนั้น การเกิดมาคอยาวมันก็โชคดีอยางนี้นี่เอง สวน
คนหากินอยูแตเบื้องลางเพราะคอไมยาวแบบยีราฟ ทวาก็มีการเก็บยอดไมที่อยูสูงมากินดวยวิธีของคน
เหมือนกัน แบบวาคอสั้นแตจะกินเหมือนคอยาว เรียกวาฝนธรรมชาติมั้ยละเนี่ย ยีราฟมีคอยาวเพื่อหากิน
แบบไมตองไปแยงกับสัตวอื่นๆที่กินอยูเบื้องลางแลวนะ แหมมันก็ยังไมพนถูกแยงพื้นที่หากินจนได
ทั้งๆที่มันอุตสาหมีคอยาวเพื่อหากินอยางสงบและสันติตามที่ธรรมชาติใหมาเพื่อประโยชนในการอยู
รอด กลับจะไมไดประโยชนอยางที่ธรรมชาติตั้งใจ คงตองใหยีราฟกวาดคอลงมากินเบื้องลางใหรูซะ
บางวาการแยงกินอยางตะกละมันไมเคารพธรรมชาติแลวเกิดผลตอสวนรวมอยางไร เห็นไดชัดเลยวาคอ
เปนอวัยวะสวนที่ธรรมชาติใหมาคอยคุมขอบเขตของตัวเอง ถามันเกินเลยไมมีขอบเขตก็ลองคิดดูเถอะ
วาจะเกิดผลตอตัวยังไง หากคอดึงไมไหวอะไรจะเกิดขึ้น ถาไมใชเกิดเรื่องคอขาดบาดตาย ไมวาอวัยวะ
สวนที่อยูบนศรีษะจะชักเขยอออกไปไกลตัวแคไหนตามสิ่งที่ไดรับรู แตถาคอแข็งแรงยึดติดอยูกับตัวก็
ไมมีทางถลําออกนอกเขตความปลอดภัยตามธรรมชาติละนา ไมวาจะคิดไปไกลแคไหนมันก็อยูแคคอ
สุดทายแลวก็อยูที่ตัวเองอยูดี สิ่งใดเกิดแตตัวมันก็ไมไปไกลตัวเพราะมีคอคอยนํามาไว ณ ที่ตั้ง ถาอยาง
นั้นก็ทําดีไดดี ทําชั่วไดชั่วเห็นๆ ก็คงตองเลือกวาจะทําอะไรไดลงคอ หากยีราฟคอสั้นก็เพิ่มจํานวนการ
หากินในพื้นที่เบื้องลางก็เทานั้น มันจึงสมควรคอยาวนะถูกแลว
แขน
ไปไหนมาสามวาสองศอก ลองนึกไปก็คิดวาเอาแขนพาไปซะนั่น แตก็ไดรูวาไมลืมอวัยวะสวน
ที่เปนแขนละนะ หากขาดแขนไปก็หมดสนุกละ ชีวิตคงหงุดหงิดมากเพราะไมรูวาจะสั่งอะไรใหทํา
ตามใจและสมองไดอยางแขน อวัยวะสวนนี้นํามาซึ่งความเปนไปไดตามใจสั่งมา มันจึงเปนสวนที่
เรียกวาคูใจของชีวิตเราก็วาได แขนสองขางถูกสั่งจากสมองคนละดานมันจึงมีความแตกตางในความ
เหมือนกันอยู แตทั้งสองขางก็ไมเคยทํางานขัดใจเรา มันไมเคยทําอะไรโดยพละการแนๆ ผลงานของ
อวัยวะสวนนี้ถาไมสมหวังดังใจก็ไมไดเกิดแตแขนหากแตอยูที่ตัวสั่งการตางหากจริงมั้ย และเพราะมัน
ตองทําตามคําสั่งอยางเดียวมันจึงมีคุณสมบัติจับกังชั้นเยี่ยม ดังนั้นใครไมคิดวาตัวเองก็สามารถเปน
จับกังไดนั้นคงตองคิดอีกทีแลวละหากยังมีแขนอยู สําหรับฉันแลวพื้นฐานความสะดวกสบายก็ตอง
อาศัยแขนอันเปนจับกังชั้นเยี่ยมนี่มาตลอดเลยละ คิดอยางเดียวมันก็อยูในหัวและอยูบนคอเทานั้น ตองมี
แขนทําในสิ่งที่คิดมันจึงจะเกิดผลสมดังตั้งใจ คราวนี้มันก็จะสามวาสองศอกได แมแขนจะเปนอวัยวะที่
รองรับตามใจสั่งมาแตมันก็ยาวแคกระดูกแขนทอนสั้นๆเหมือนกัน ถาใจไปไกลกวาชวงแขนจะ
ไขวควาดวยวิธีไหนกันละ คงตองหาตัวชวยกันเอาเองแลวสินะ ถาแคแขนยังสนองใจตัวเองไดไมพอ
คนเรามันก็มักจะเกินสามวาสองศอกอยูเสมอ ยิ่งเวลาผานไปไกลก็ยิ่งคิดไปไกลถึงอวกาศนอกโลกโนน
ไมใชแคสามวาสองศอกหรอก
นายขยันกับนายขันแข็งหาเลี้ยงชีวิตดวยการรับจางแบกหาม วันหนึ่งมีสาวสวยคนหนึ่งมา
วาจางพวกเขาใหไปขนขาวของในบานของเธอซึ่งเปนของใชที่ใชแลว สวนใหญเปนของใชสวนตัว
จําพวกเสื้อผา ชุดชั้นใน กระเปา รองเทาและอื่นๆ ที่เธอไดนําใสกลองเปนจํานวนมากเพื่อนําไปบริจาค
รวมแลวก็ไดของถึงสามคันรถ ขยันกับขันแข็งยกของเหลานั้นขึ้นรถเสร็จแลวก็ไดรับคาจางไปจํานวน
ไมนอย พอกลับบานไปขยันก็ชวนขันแข็งไปนั่งดื่มเหลาดวยกัน ขยันพูดขึ้นวา ขามีความสุขมากใน
วันนี้ที่ไดยกของๆคนสวย ขันแข็งก็บอกวา ขาไมเห็นวามันพิเศษตรงไหน จะแบกจะยกอะไรก็
เหมือนๆกัน ขยันยกแกวขึ้นดื่มแลวพูดวา ไมเหมือนหรอกขาไดกลิ่นหอมของคนสวยดวยนะ ขันแข็งก็
เถียงวา เอ็งมันบา ขาไมสนใจหรอกแคทํางานใหสําเร็จมันก็จบแลว ขยันจึงหัวเราะและพูดวา เหอะๆ
เอ็งมันผิดวะ ใครวาจบ ยกของเสร็จแลวนะเหรอจบ เดี๋ยวรถก็ขนของไปใหคนอื่นแลวของก็จะถูกใช
แลวทิ้งตอไป ก็ตองขนของกันไปไมจบงายๆหรอก ขันแข็งก็เลยถามวา แลวแบกยังไง ขนอะไร ยกแบบ
ไหน มันจึงจะจบละหือ ขยันจึงตอบวา มีอยูตั้งหลายครั้งที่ถาสี่คนหามสามคนแหมีพระสวดทีไร นั่น
แหละจบ ไมมีสงไปใหคนอื่นตอ ขันแข็งฟงแลวก็บอกวา เออ แลวจะหามทําไมใหมันจบ เดี๋ยวก็ตกงาน
กันพอดี ขยันหัวเราะอีกแลวพูดวา ขาก็บอกแลววาเอ็งนะผิดๆตั้งแตคิดจะแบกหามและยกแลว ตอให
แบกเกงแคไหน ยกเกงยังไงก็ไมมีอะไรยั่งยืนใหแบกใหยกไปตลอดหรอกจริงมั้ยละ แลวเขาก็ยกแกว
เหลาขึ้นดื่ม ขันแข็งมองดูเขาดื่มจนหมดแกวแลวบอกวา อยารินเหลานะ อยา ขยันก็ถามวา ทําไม ขาจะ
ดื่มอีก ขันแข็งก็หัวเราะตอบวา เอ็งวาขาผิดหยกๆที่คิดจะยก แลวเอ็งจะยกแกวอีกทําไม ขานะมีแขนขาก็
ใชแขนขา จะแบก หาม ยก มันก็ไดแกตัวขา ถาเองวาผิด เอ็งก็อยายกสิ เหลาที่เหลือยกใหขาก็แลวกัน
มีคําพูดที่วารูไวใชวาใสบาแบกหาม เปนเครื่องเตือนสติใหไมมองขามสิ่งใดๆไป เวลาฟงคําวา
ใสบาแบกหามแลวมันรูสึกวาเปนภาระยังไงก็ไมรู มินาละถึงไดเปรียบวารูไวใชวาใสบาแบกหาม และ
นึกไปถึงผูที่ใชแรงงานที่คงจําเปนตองรับภาระซึ่งใครๆไมอยากแบกหามนั่น จริงๆแลวก็เปนหนาที่
โดยตรงของแขนไมใชหรือ ยก แบก หาม หรือแกวง ขวาง เหวี่ยง โหน โยน ลวนเปนงานที่สรรสราง
ผลงานทั้งนั้น ถาไมใชงานแขนอยางนี้แลวที่เหลือมันก็เปนแนว รํา ชกตอย นาดูตางกันมาก ทอนแขนรํา
สวยจะไมเขาตากรรมการถามาตอยมวย และเชนเดียวกัน แขนที่มีกลามเปนกระเปาะจะมากรีดกรายราย
รําก็ดูขํามากกวาสวย แตวาสมัยนี้ฉันอยากรําก็สวยมวยก็เปน เพื่อปองกันตัวมันก็เลยงงๆ โชคดีที่ตอน
เด็กโหนบารบอย ชวงแขนเลยเรียวใชงานไดทั้งรําและออกแรงในบางครั้ง กลามที่ตนแขนนี่เวลาขึ้น
แลวมันหายไปไดยากนัก ฉันก็ไดแตคาดวาจะไมเปนแขนนาวสาวโอลีฟกลามปอบอาย ถึงจะรูวาการใส
บาแบกหามเปนเรื่องที่หลายคนเกี่ยง แตมีแขนแลวก็ไมนาคิดมาก ยังไงเสียมีบามีไหลไวใชงานก็ดีกวา
ปลอยใหขอยึด ใชๆไปเถอะ แขนไมใชอวัยวะตองหาม รูสึกวาไมมีที่ไหนหามใชแขน ไมเหมือนอวัยวะ
สวนอื่นซึ่งบางแหงหามไมใหใช เชน หามสงเสียงดัง(ปาก) หามเขา(ทั้งตัว) หามขโมย(มือ เพราะแขน
หยิบไมได) ดังนั้นแขนจึงเปนสวนที่คอนขางใชไดอยางสากล
แขนเปนอวัยวะสื่อสารสากลอยางเชนจราจรรายนี้ เขาปฏิบัติหนาที่อยูตรงกลางสี่แยกหนึ่งเปน
ประจํา วันหนึ่งขณะโบกมืออยางแข็งขันอยูนั้น แขนเสื้อใตรักแรก็เกิดขาดกะทันหันจึงไมกลายกแขน
ขึ้นอีกเพราะมันขาดซะจนเกือบเปดไหล ก็เลยไดแตเปานกหวีดทํามือปดไปมาอยางเหนียมๆและหนีบ
รักแรเอาไว เด็กขายพวงมาลัยสังเกตเห็นเขามือไมตกยกไมขึ้นอยางที่เคยทําก็คิดวาเขาคงแยอาจหมด
แรงหรือกําลังจะเปนลม ก็เลยรีบเดินไปบอกชาวบานแถวนั้นใหชวยกันดูเผื่อวาจะชวยเหลือไดทัน
ชาวบานเห็นเขายกแขนไมขึ้นก็คิดวาจะเปนลมแลวจึงชวยโทรเรียกรถพยาบาล ไมนานรถพยาบาลก็
มาถึง เจาหนาที่เดินตรงไปหาเขาและถามวาคุณเปนอะไรมากรึเปลา ไหวมั้ย เขางงๆถามกลับไปวา ใคร
เปนอะไรครับ เจาหนาที่ก็บอกวา มีคนโทรแจงวาจราจรที่ปฏิบัติงานตรงสี่แยกนี้กําลังจะเปนลมใหเรา
เอารถมารับดวน แลวคุณเปนยังไง ขณะนั้นชาวบานก็แหกันมามุงดู เด็กขายพวงมาลัยพูดขึ้นวา ผมเห็น
พี่ยกแขนไมขึ้นนานแลว ไมตองปดบังหรอก ไมสบายก็ไปหาหมอเถอะครับ เขาจึงนึกออเมื่อรูวาทุกคน
เขาใจผิดก็เลยพูดวา ผมไมเปนอะไรครับ แขนเสื้อมันขาดก็เลยไมกลายกแขนนะครับ ทําใหทุกคนเซ็ง
เปดและแยกยายกันไปตามทาง เขาก็ยังทํางานจนออกเวร กอนจะออกเวรเขาเรียกเด็กขายพวงมาลัยมา
ขอบคุณวาขอบใจนะที่เปนหวง เด็กก็พูดวา แหมถาเปนผมจะไมอายเหมือนพี่หรอก เปนลูกผูชายอาย
ขนรักแรไปทําไม ยกแขนมันไปเลยใหรูวาเราผูชายของแทไมเห็นนาอายตรงไหน เขาก็บอกวา ไมได
อาย แตมันเสียภาพพจน เด็กก็รอง ออ นึกวาอายขนรักแร ที่แทก็กลัวเสียหนา แลวทําไมไมถอดเสื้อเลย
ละ ก็แกผาเอาหนารอดยังไงครับ
นอกจากใชแขนเพื่อการสื่อสารแลว ยังใหความสําราญในหลายครั้งมาตั้งแตโบราณกาล จึงมี
การรายรําในทุกๆชนชาติ แตวาเวลารําไมดีแลวโทษปโทษกลองนี่นะมันก็มีมาชานานพอกัน เวลาเขาดู
การรายรําเขาก็ดูคนรําอยูแลว ปกลองจะดีหรือไมก็ไมใชจุดขายนี่นา แลวจะไปโทษปโทษกลองหา
อะไร หรือจะใหคนปกลองลุกขึ้นมาชวยรํา โบราณวาไวก็นาคิด ถาถึงขนาดตองลุกขึ้นมาชวยกันรํา
แบบที่สมัยนี้ชอบเรียกวาบูรณาการ ดูยังไงก็ไมจืด แขนใครมันก็ทําตามเจาของสั่ง เกี่ยวอะไรกับปกลอง
หรือวาปกลองมีบทบาทมากกวาตัวจึงตองไปโทษปโทษกลอง เวลารําคนรําก็ออกหนาเวลาถูกวา
กลับมาลงขางหลังที่ปกลอง ทีหลังก็รําอยูขางหลังปขางหลังกลองซะเลยจะไดปลอดภัย การรํานั้นเปน
ศิลปะอยางหนึ่งพอๆกับการดําเนินชีวิต ที่ตองอาศัยแขนทําใหมีความสุข ทั้งแขนซายและแขนขวาตอง
ชวยกันเพราะชีวิตไมไดมีขางเดียว ศิลปะไมไดมีดานเดียว ไมใชขวาจัดหรือซายจัด ถากางแขนขางเดียว
จัดแถวๆก็จะชิดกวากางแขนสองขาง แมวาจํานวนคนจะเทากันแตไดแถวที่แผอาณาเขตไดกวางตางกัน
ดังนั้นจึงขาดแขนใดแขนหนึ่งไมได ชีวิตที่เต็มที่ตองมีแขนทั้งสองขางไวซายทีขวาที แหวกวายใน
กระแสชีวิตไปใหถึงฝงอยางปลอดภัย
เย็นวันหนึ่งหนุมนอยสองคนตกลงกันจะประลองงัดกลาม หากใครชนะก็จะไดสิทธิขาดจีบ
สาวสวยคนหนึ่งที่ทั้งสองคนพึงใจอยู ทั้งสองนั้นถนัดใชแขนคนละขางจึงตองงัดสลับขางกันสองครั้ง
ผลก็ชนะครั้งแพครั้งตามขางที่ถนัดเหมือนกัน ขณะที่ทั้งคูแขงกันอยูนั้นก็มีลุงคนหนึ่งนั่งดูอยูใกลๆ เมื่อ
ทั้งสองคนหาผูชนะไมได ลุงคนนั้นก็พูดขึ้นวา พอหนุมจะงัดกันไปทําไม ในเมื่อชนะกันคนละครั้งก็
เทากันแลวนี่ หนุมนอยคนหนึ่งก็บอกวา ก็เราจีบผูหญิงคนเดียวกันตองมีคนชนะคนแพ ลุงก็หัวเราะ
บอกวา โฮะๆ แขงเรือแขงพายแขงกันได แตแขงบุญวาสนาอยาไปคิดแขง โนนดูเมฆบนฟาสิ ใครจะ
เปนเมฆขาวใครจะเปนเมฆเทาละ หนุมนอยไมเขาใจก็ถามวา เกี่ยวอะไรกับเมฆนะลุง ลุงตอบวา เมฆ
ขาวมันลอยอยูขางบนใชไหม สวนเมฆเทามันลอยลงมาเปนฝนใหชุมฉ่ําชื่นใจใครๆก็ชอบเพราะไดใช
น้ําฝน เมฆที่ลอยต่ําลงมาเพื่อใหคุณคาบนดินเรียกวาชนะหรือแพละ แลวที่พอหนุมมาแขงกันนั้นจะเปน
เมฆขาวหรือเมฆเทา เรื่องอยางนี้ผูหญิงเขาเลือกไมใชเราไปเทฝนใสเขา ถาเขาไมชอบก็วิ่งหนีฝนไปก็
เทานั้น หนุมนอยก็รองออ ลุงเขาใจเรื่องนี้ดีคงมีเคล็ดลับดีๆใชมั้ย ลุงก็หัวเราะหึๆ ขาเห็นพอหนุมงัด
กลามก็เลยพูดใหฟงวา เรื่องอยางนี้มันไมไดอยูที่แขน เขาใจมั้ย หนุมนอยก็ตอบวา เขาใจแลวครับ แลวก็
แยกยายกันกลับไป แตหนุมคนหนึ่งแอบกลับมาถามลุงวา ลุงครับลุงมีทีเด็ดมั้ยครับชวยผมหนอยไดมั้ย
ครับทํายังไงลุงถึงไดแตงงาน ลุงหัวเราะหึๆๆแลวบอกวาขายังไมเคยแตงงานเลยพอหนุมจนปานนี้ขาก็
ยังแหงแลงอยูเพราะสมัยขามันยังไมมีฝนเทียม เฮอเสียดาย หนุมนอยสงสัยวา มีฝนเทียมมันเปนยังไง
เหรอลุง ลุงก็ตอบวา เอาก็ยกเมฆตามใจชอบนะสิ คงเจอเจาสาวที่ไมกลัวฝนเขาบางละ หนุมนอยหัวเราะ
คิกๆแลวบอกลุงวา ลุงครับผมวาเรื่องอยางนี้เกี่ยวกับแขนแนๆนะลุง ลุงสงสัยจึงถามกลับวา เกี่ยวยังไง
หือพอหนุม หนุมก็ตอบวา ก็เจาสาวที่จะยอมเปยกฝนนะถาเธอไมสามารถถือรมไดเธอก็ตองยอมเปยก
ฝนใชมั้ยละ ลุงก็พูดวา ออ ขาไมนามองขามแขนไปจริงๆ
ที่ขอมือมีสวนที่จับชีพจรไดชัดเจน แปลกแตจริงที่ไมมีใครสนใจความรูสึกคนอื่นจากชีพจร
ตรงขอมือแตกลับดูที่สีหนาทาทีซะมากกวา ซึ่งมันอาจไมตรงกับความรูสึกจริงๆก็เปนได การเสแสรง
แกลงทํานั้นมีถมเถไปและหลอกไดหนาตายซะดวย ชีพจรบอกอะไรไดบางนอกจากความรูสึก ฉันเคย
เห็นและถูกแมะซึ่งบอกไดวาอวัยวะภายในสวนไหนเปนอยางไรบาง แขนจึงเปนสวนที่คลายที่เก็บ
กลองดํา ซึ่งจุดที่นิยมตรวจสอบก็อยูตรงขอมือ มินาละสมัยโบราณจึงมีการทํากําไล สรอยขอมือเปน
เครื่องประดับอวัยวะสวนนี้และยังนิยมมาจนทุกวันนี้ ก็มีความสําคัญดุจกลองดําทีเดียวเชียวนี่เอง แมแต
นาฬิกาก็ยังสวมที่ขอมือ สองอยางนี้ทั้งชีพจรและนาฬิกาไมควรหยุดทั้งคู อยางไรก็ตามนาฬิกาที่หยุด
เดินถาเปลี่ยนถานใหมก็คงเดินตอไปได แตชีพจรไมเขาทํานองเปลี่ยนถานเพราะชีวิตเปนเพียงชวงหนึ่ง
ของเวลาเทานั้น นาฬิกาจึงอาจเดินตอไปโดยปราศจากชีพจร ถามันไมถูกทําลายไปพรอมแขนที่สวมทั้ง
ที่มันยังเดินอยูก็อาจไปอยูบนแขนใหมที่มีชีพจรเตนไปดวยกันเปนสวนหนึ่งของเวลาอีกชีวิตหนึ่ง จริงๆ
แลวนาฬิกาก็ไมไดอึดไปกวาชีวิตหรอก เพียงแตมันเปลี่ยนถานไดก็เทานั้น ถาเทียบกับชีพจรแลวมัน
ยากแตกตางกันจนตองไปเกิดใหม ก็คงเพราะชีพจรชีวิตเปนเพียงชวงหนึ่งของเวลาเทานั้นไมไดเสน
ใหญเหมือนนาฬิกานี่ และจวบจนเกิดอีกทีก็ยังมีนาฬิกา กับเวลาที่เวียนวายตายเกิดไมหยุด
แขนยาวอยางชะนีมีไวโหนอยางสนุกเชียว ฉันนึกถึงตอนเด็กๆที่โหนบารอยางสนุกสนาน มัน
เปนความรูสึกเขาใจคําวาสุดเหวี่ยงเปนยังไง ถาเหวี่ยงแรงไปจับไมมั่นก็หลนนะสิ ทําใหคิดวาจําเปนแค
ไหนตองสุดเหวี่ยง มีอะไรที่ตองทําใหสุดเหวี่ยง ถาเปนชะนีก็คงเมื่อหนีสัตวรายหรืออาจรวมถึงคน
สําหรับฉันมีหัวขอที่เกี่ยวของอยูอยาง สวย รวย เกง ดี คิดแลวมันนาทําใหสุดเหวี่ยงทุกขอเลยมั้ยละ
ชะนีจะมีความถี่ของการสุดเหวี่ยงบอยแคไหนก็ไมแนใจนัก แตดูแลวมันไมเอาเลยสักขอที่กลาวมา
หรือวาฉันตาไมถึงก็ไมทราบ อยางไรก็ตามก็ยังเปนแบบอยางใหคนเอาอยางละนา ก็ทารซานไงละโหน
แบบชะนีเลย ไมรูวาใครโหนเกงกวากัน ที่แนๆเรื่องโหนไดกลายเปนจุดขายของทารซานไปแลว สวน
ชะนีก็หากินในปาไปตามมีตามเกิด ไมไดแจงเกิดอยางทารซานซะงั้น โหนไดเหมือนกันแทๆตางกันก็
ตรงเปนชะนีก็เทานั้น ชะนีมีดีที่แขนถึงถูกชิงแจงเกิดมันก็ไมอดตาย แตที่แขงชิงกันเกิดแลวก็ไมรูสึกพอ
เหมือนอดอยากปากแหงตลอดมันก็อายชะนีนะเนี่ย ชะนีเปนตนแบบการใชแขนเพื่อประโยชนและ
เขาถึงเปาหมายอยางนาชื่นชม ไมวาอาหารจะอยูสวนไหนของตนไมก็เสร็จชะนีทั้งนั้น แลวเปาหมาย
ของชีวิตละมันอยูที่แขนพาหอยโหนไปเอามาใชมั้ย จะตามรอยชะนีหรือยังไงดีละ เปาหมายเรามัน
ยิ่งใหญกวารึเปลา ถาเพื่อการอยูรอดก็ไมตางจากชะนี แตถาเพื่อการหลุดพนก็อยาลืมชะนีก็แลวกัน ถา
มันโหนโจนทะยานผานความอยากและความตองการพื้นฐานไปไดเมื่อไหรก็อายชะนีอีกหน วาแลวก็
วางแขนแนบลําตัวเพราะไมรูจะยกขึ้นโหนไปไหน ไมรูจริงๆ
ขา
บัลเลตเปนระบําปลายเทาที่สวยงามอยางยิ่ง เทาที่สวมรองเทาบัลเลตดูแข็งแรงและออนโยน
ที่สุด ไมรูสึกวาเห็นเทาที่สวมรองเทาอื่นจะแข็งแรงไปกวานี้ เวลายืนบนปลายเทาแลวเห็นไดชัดเลยวา
เทามันยกตัวใหสูงขึ้นทันที นอกจากแข็งแรงกวารองเทาแบบไหนแลวยังทําใหดูดีตั้งแตศรีษะจรดปลาย
เทาจริงๆ โดยเฉพาะเทาที่โชวลีลาไดอยางสวยงามทั้งวางราบกับพื้นทั้งตั้งฉาบกับพื้น ไมวาจะลีลาไหน
ก็เพียบพรอมไปซะทุกดาน แข็งแรง ออนโยน สวยงาม นาดูอยางยิ่ง ถาไมใชนักบัลเลตก็คงไมไดสวม
รองเทาบัลเลต ยิ่งถารักอิสระก็รองเทาแตะนี่แหละที่เปนคูใจ เทาที่สวยสวมรองเทาอะไรก็ดูสวย บาง
โอกาสก็โชวเทาไดบางบางโอกาสก็ควรหอหุมเทามิดชิด ความจริงมันก็ไมมีอะไรมาก แคเทาเปนสวนที่
ไดรับโอกาสไมเทาอวัยวะสวนอื่นทั้งโดยสภาพและโดยมุมมอง สภาพที่มันอยูเบื้องลางก็จะตองทํางาน
ตางจากสวนที่อยูสวนบน คือเปนฐานหลักของทั้งตัว ถามันกระทบกระเทือนก็อาจลมทั้งยืน เพราะอยาง
นี้จึงมีมุมมองตอเทาหลายมุม โอกาสที่มันจะไดรับการชื่นชอบอยางเปดเผยโชวเทาไดเต็มที่ก็มีอยูบาง
อยางเชน สถานที่ๆหามสวมรองเทาเขาไป หรือบนที่นอน ก็คงไมมีใครสวมรองเทานอน แบบนี้เปน
โอกาสที่เทาจะไมถูกเหยียดหยามเหมือนชวงเวลาอื่น โดยเฉพาะตอนนอน เทาไดมีโอกาสเทาเทียมกับ
สวนอื่นของรางกาย คนที่นอนมากไมใชขี้เกียจแตใหเกียรติเทาตางหากใชมั้ยละ ฉันเคยใหเกียรติเทาถึง
ขนาดนอนยกขาสูงใชเทาวางบนหมอนขางที่พับครึ่งอีกที มันยังชวยลดอาการปวดขา เทาบวมไดดีดวย
แตวาเวลาไมไดนอนเทามันก็ตองลดฐานะลงไปเบื้องลางตามควรแกฐานะ เทาของผูนั่งกินนอนกินคงมี
วาสนาสูง ถาเปนผูมักใหญใฝสูงก็เสี่ยงหัวขมํากลายเปนคางคาวหอยหัวตัวชี้ลงเบื้องลาง แลวจะเจริญไป
ทางไหน
คูหนุมสาวชวนกันไปพักผอนที่บานพักริมทะเล หนุมบอกกับสาววาพี่จะอยูเคียงขางนองทุก
เวลา ไมวาจะไปไหนนองจะไมโดดเดี่ยวจะมีพี่อยูกับนองทุกฝกาว สาวก็ถามวา จริงรึเปลา เขาก็พยัก
หนาตอบวา แนนอน พี่สัญญา สาวก็ยิ้มพอใจ พอเขานอนเธอนึกอยากจะพิสูจนคําพูดของเขาก็รีบหลับ
และตื่นแตเชามืด เดินออกจากบานไปตามชายหาดจนมาถึงทะเล แลวถอยหลังกลับตามรอยเทาเดิมจน
มาถึงบาน จากนั้นก็เขาไปแอบอยูขางใน พอหนุมตื่นขึ้นมาก็หาแฟนไปทั่ว เมื่อเห็นรอยเทาบนหาด
ทรายเขาก็เดินตามไปจนถึงทะเล สาวเห็นเขาเดินไปหยุดอยูริมทะเลครูหนึ่งก็ลุนวาเขาจะตามเธอไปถึง
ไหน ทันทีทันใดเขาก็เดินถอยหลังกลับตามรอยเทาของเธอมาจนถึงบาน เมื่อเห็นดังนั้นเธอจึงเดิน
ออกมาทําเปนยิ้มและถามวา ไปไหนมาคะ เขาตอบวา ก็เดินตามนองนะสิ เธอจึงถามวา รูไดยังไงวานอง
อยูที่นี่ เขาก็ตอบวา ไมรูหรอก พี่เดินตามรอยเทานองไปจนจรดทะเล เมื่อสิ้นสุดรอยเทาที่นั่นพี่ก็กลับมา
นะจะ สาวก็พูดวา ก็ไหนพี่บอกวาจะอยูเคียงขางนองทุกฝกาว ทําไมตามนองไปถึงแคริมทะเลละ เขาก็
ตอบวา พี่ก็ทําตามสัญญานี่ครับ พี่ตามนองไปทุกกาว แตเมื่อลงทะเลนองคงไมไดกาวแลว นองตองวาย
น้ําใชมั้ยละ พี่ก็ตามสัญญาคือเดินถอยหลังตามรอยเทาของนองกลับมาเพราะเราตองอยูดวยกันทุกฝกาว
พี่เดินกลับมาอยางที่เคยสัญญาไวกับนองวาจะมีเรากาวไปดวยกันทุกเวลาไงละจะ สาวก็สะบัดหนาเดิน
ไปเก็บเสื้อผา เขาเดินตามไปและถามวาจะไปไหน พี่จะอยูกับใครละจะ เธอก็ตอบวา พี่ก็อยูกับรอยเทา
ไปก็แลวกัน
ขอเทาแพลงเจ็บไปทั้งขาไมเพียงแคเทา ทําใหกาวเดินไมไดดั่งใจ ตองพันผาเอาไวใหรูวา
ผิดปกติที่ไหน จะไดไมมองหาจนคิดไปเองวาเจ็บตรงอื่น มันก็แยกออกจากกันไมไดอยูแลวละ จะรักษา
ขอเทาก็ตองพักใชทั้งขาทั้งเทา ไดงอมืองอเทาเพราะใคร ขาหรือวาเทาที่เดินใหขอเทาแพลง อาการอยาง
นี้ทําใหชีวิตลําบากเปนเวลานานพอสมควร เรียกวาพอสมควรแกอะไรดีละ ขอเทาแพลงมีอาการบวม
ตามมา ถาประคบใหอุนจะชวยใหดีขึ้น มันเปนชวงเวลาที่ไดรับความประคบประหงมของสวนที่อยู
เบื้องลางอยางเทาแลวสิ คงมีนอยคนที่จะยอมไมกาวเดินนานๆ เวลาเดินแลวเจ็บก็เหมือนผิดที่เดิน จริงๆ
แลวอยากเดินแบบไมรูสึกวาผิดจึงตองรักษาใหหายโดยเร็ว รึวายอมรับอาการผิดปกติไมได ถาจะให
เลือกโทษใจตัวเองที่อยากเดินแลวรูสึกผิดที่เดิน กับโทษขาหรือเทาก็ไมรูที่ทําใหขอเทาแพลงจนสังขาร
ไมปกติจะเลือกอะไร สงสัยรีบยกโทษตั้งแตยังไมขอโทษมั้ง เทาแบกรับเราอยูมันก็เหมือนโทษตัวใคร
ไดถาไมใชเรา ดังนั้นขอเทาแพลงจึงเปนเรื่องปกติแตไมใชอาการปกติ เหมาะแกการดํารงตนอยูในความ
พอเพียง อยาเพิ่งทะเยอทะยานตอนอาการไมสมประกอบ ไมใชเรื่องที่เล็กหากพลาดพลั้งไดรับบาดเจ็บ
จะลุกลามไปถึงอวัยวะอื่นดวย เพราะอวัยวะทุกสวนมีสิทธิเจ็บไดถาเทามันไมแบกนะ ที่แททั้งตัวอยูได
ก็มีเทาเปนฐานที่มั่น และมีจิตใจเปนที่ตั้ง ฐานมันก็เลยยายไปเรื่อยเพื่ออยูกับที่ตั้งที่เหมาะสม เมื่อยืนอยู
บนฐานจะนึกถึงอะไรก็ตามสิ่งที่ไมนาลืมนึกถึงคือบรรพบุรุษที่เปนรากฐานใหเรายืนอยูบนฐานทั้งสอง
ขางนี้
ที่ฟลอรเตนรํามีการประกวดแขงขันลีลาศเพื่อครองตําแหนงนักเตนเทาไฟ หนิงกับโหนงเปนคู
เตนรําที่มีลีลาโดดเดนกวาทุกคูที่แขงขันกันอยู ทุกจังหวะเขาและเธอวาดขาเลนเทาเขากันไดดีตลอด จน
ใครๆก็ชมและตางก็คิดวาคูนี้คงควาตําแหนงไปครอง จนมาถึงจังหวะสุดทายเปนจังหวะชะ ชะ ชา กอน
เริ่มเตนหนิงพูดกับโหนงวา ชวงสุดทายแลว ปลอยไปตามจังหวะใหมากที่สุดนะไมตองคิดมาก หนิงไม
หวังอะไรมากหรอก โหนงก็ไมตองเกร็งจนเกินไป เมื่อจบชุดนี้แลวก็จะประกาศผล โหนงอยาตื่นเตน
นะเดี๋ยวจะทําไดไมดีตอนจบจะตกมาตาย โหนงก็พยักหนา อืมๆรูแลว จะพยายามใหดีที่สุด หนิงพูดตอ
อีกวา จับจังหวะไวแลวจินตนาการใหเขากับจังหวะ ไมตองคิดอะไร ใหจังหวะพาเราไป มันจะเปน
ความรูสึกที่สอดคลองกับจังหวะและเปนธรรมชาติมากที่สุด โหนงก็บอกวา รูแลว พอเพลงเริ่มตนขึ้น
ทั้งคูก็เตนโดยมีสายตาทุกคูจองจับตาดูดวยเปนตัวเก็งในการแขงขัน โหนงมีอาการไมคอยคลองเทา
และหนาตาไมคอยยิ้ม หนิงรูสึกวาไมปกติจึงถามวา เปนอะไรโหนง เขาก็ตอบวา หนิงบอกให
จินตนาการและปลอยใหจังหวะพาไปจนรูสึกเขาถึงอารมณตามจังหวะ โหนงทําแลวแตแนใจเหรอวา
มันใชไดนะ หนิงก็บอกวา แนนอน แลวโหนงรูสึกยังไง เขาก็ตอบวา มันเหมือนกําลังถูกดาวาชะ ชะ ชา
อยูตลอดเวลา โหนงจะกาวเทาไมออกอยูแลว กาวทีก็มีแต ชะ ชะ ชา พอลงเทาเขาจังหวะและมองเห็น
สายตาที่ดูอยูรอบๆก็รูสึกตานั่นบอกวา หนอยแน ตลอดเวลามีแตเสียงชะ ชะ ชา หนอยแน หนิงบอกสิ
วาโหนงทําดีแลวใชมั้ย แลวเพลงก็จบพอดี หนิงไมทันตอบ เสียงปรบมือก็ดังขึ้น เมื่อประกาศผล ทั้งคูก็
ไดครองตําแหนงนักเตนเทาไฟตามที่ทุกคนคาดคิด โหนงบอกกับหนิงวา ไมนาเชื่อวาเราจะไดตําแหนง
จังหวะสุดทายโหนงรูสึกวาถูกรุมดาวาชะ ชะ ชา หนอยแน เกือบวิ่งหนีไปแลวละ ถาไมใชเพราะหนิง
จับมืออยู ปานนี้คงไมอยูฟงผลแลวมั้ง ไมวาจะเตนเขาจังหวะแคไหน เนนเทายังไง มันก็ยังชะ ชะ ชาๆ
อยูได จนหมดกําลังใจเตน ทีหลังถาจะเตนจังหวะชะ ชะ ชา โหนงจะไมเอาอารมณเพลงมาเปนแรง
บันดาลใจแลว กลัวมันจะมากไปจนโมโหขึ้นมาเทามันจะลุกเปนไฟ
พรมเช็ดเทาเปนบริเวณที่เทาเหยียบแลวไดรับการยอมรับใหเดินตอไปอยางไมรังเกียจ ถาเปน
บริเวณอื่นนอกจากพรมเช็ดเทาหากไดไปย่ําเดินมา คิดวาสะอาดพอที่จะไมใหนึกระแวงมั้ย บนโลกนี้มี
ที่ไหนที่ไวใจไดเพียงพออยางพรมเช็ดเทา บนพื้นที่เพียงนอยนิดหากกาวไปอยูบนพรมก็เปลี่ยน
ความรูสึกที่มีตอเทาไปได ดูๆแลวก็นึกถึงพรมวิเศษที่ใครก็กาวไปยืนอยูบนนั้นได เปนสิ่งที่มี
ความหมายตอเทาไมนอย เพราะชวยทําใหภาพพจนของเทาขาวสะอาดปราศจากมลทิน เพราะฉะนั้นที่
ใดมีพรมเช็ดเทาที่นั่นก็คงปราศจากมลทิน แมคนเราจะไมหยุดอยูบนพรมเช็ดเทานาน แตเราก็ควรจะ
เดินไปอยูบนนั้นเสียบางเพื่อเทาของเรา กอนจะเดินๆๆอยางไมกลัวมลทิน ชีวิตถามีที่พักอยางพักเทาบน
พรมแลวสะอาดผองใสบางก็จะดีเชนกัน เหมือนเปนที่ตั้งที่ไมใหญแคเพียงแตพอตัวแตมีฐานดีนาชื่นชม
คงไมยากที่จะหาที่ตั้งอยางนี้ไดสําหรับชีวิตที่ตั้งใจพักพรอมกับเทา หากไมมีที่ไปจริงๆก็สวดมนตกอน
นอน อยาลืมอาบน้ําก็แลวกัน ชีวิตจะไดสะอาดตาสะอาดใจไมมีกลิ่นติดตัว เทาสะอาดแลวกาวไหนก็
มั่นใจ ชีวิตที่พรอมกาวไปขางหนาตองพรอมตั้งแตศรีษะจรดปลายเทา คิดดีทําดีเทาดี ไมเปนที่รังเกียจ
แนนอน เพราะเปนผูไมลืมเทา ดังนั้นไปที่ไหนก็ไมตองไปหาเทาเอาขางหนา เดินไปเดินมาอาจมีราคา
คาเดินก็เปนได ถาเดินเพื่อการกุศลก็ยิ่งดี
ที่หองเรียนนาฏศิลป ครูสอนนักเรียนหญิงรําเพลงไทยเดิมอยางเขมขน นักเรียนทุกคนตองถอด
รองเทากอนเขาหองเรียน วิมลมีกลิ่นเทาเหม็นจนเพื่อนๆไมอยากอยูใกล ครูใหทุกคนซอมอยูพักใหญก็
เรียกใหมานั่งรวมกันแลวบอกใหวิมลออกมารําเปนตัวอยางใหเพื่อนดูเพราะเธอรําสวย ครูพูดกับ
นักเรียนวา ทุกคนดูวิมลเปนตัวอยางนะ เอาวิมลรําใหเพื่อนดูซิ เมื่ออยูหนาหองซึ่งมีพัดลมเปาตรง
ตําแหนงที่เธอยืนพอดีก็ยิ่งกระจายกลิ่นเทาอยางรุนแรง ทําใหเพื่อนๆหลายคนตองอุดจมูกทนดูเธอรําจน
จบเพลง พอรําเสร็จครูก็หันมาพูดวา เพื่อนรําใหดูแลวทําไมไมขอบคุณละ ทุกคนจึงปรบมือ อรนุช
กระซิบกับอรจิตวา นี่เธอรูสึกมั้ยวากลิ่นเทาวิมลนะแรงมาก ถาเปนเธอๆจะยืนยิ้มอยางนั้นไดมั้ย มันนา
อายจะตาย ฉันคงไมกลายิ้มอยูไดหรอก อรจิตก็พูดวา วิมลรูตัววาเทาเหม็นรึเปลาก็ไมรูสินะ ก็เลยไมอาย
เหมือนเรา อรนุชก็เถียงวา กลิ่นกระจายไปทั้งหองอยางนี้ยังไมรูตัวอีกเหรอ ฉันวาวิมลรูแตไมอาย
ตางหาก อรจิตก็บอกวา แลวถาอายจะชวยอะไรได มันสายไปแลวนี่ ทุกคนก็แทบไมมีใครไมอุดจมูก
พัดลมก็เปาตลอด กลิ่นมันก็ไมหยุดเหม็น ฉันวาวิมลยืนยิ้มก็ไมแปลกในเมื่อรอบตัวเธอฟุงตลบไปดวย
กลิ่นและกระจายไมหยุด เธอก็คงจะใชความสงบสยบความเคลื่อนไหวโดยไมอายยังไงละ
เทาเปนอวัยวะเบื้องลางที่ครองตําแหนงเดิมอยูอยางไมเคยเปลี่ยน เคยเปนฐานอยูยังไงก็ยังตอง
เปนฐานอยูอยางนั้น ทําหนาที่แบบไมตองเลื่อนตําแหนง หากมีใครยกระดับมันขึ้นละก็ คงมีการเลี้ยง
ฉลองตําแหนงแบบแสดงฤทธิ์เดชพอสมควร เพราะนานๆทีจะไดยกระดับ มันคงอัดอั้นอยูไมนอย แต
ยังไงก็ตามคนเราก็มักอุนใจเวลาเทาแตะอยูกับพื้นมากกวาเวลาที่เทาไมไดแตะอยูบนพื้น นั่นก็คงเพราะ
เปนหวงตําแหนงของเทาแทนมันมั้ง เวลานั่งเครื่องบินตอใหโกแคไหนก็คงไมมีใครไมอยากถึงพื้น เพื่อ
จะไดวางเทาในตําแหนงเดิมของมัน หลังจากยกระดับขามหัวหลายตอหลายสิ่งอยางที่อยูเบื้องลางมา
เปนระยะเวลาหนึ่ง ถึงแมเทาจะเปนสวนลางของรางกายแตเปนสวนที่ขาดไมได มองขามไมได ยกยอง
ออกหนาออกตาไดในระดับหนึ่ง เพราะเราก็ไมใชสิ่งที่สมบูรณแบบ ยอมมีสวนที่อยูสูงบาง กลางบาง
ต่ําบาง เทาอยูในสวนที่ต่ําของเราแตก็ยังเปนฐานที่ทําใหเรายืนอยูได มันจึงไมสมควรไดรับการดูถูก
การดูแลเทาอาจไมตองลงทุนมากแคทําความสะอาดใหเพียงพอ จะสวมรองเทาหรือไมสวมรองเทาก็
แลวแต เวลาเดินก็ควรนึกถึงเทาที่มันเปนฐานรองรับตัวเราอยูไมใชนึกไปไกลกวามันเรื่อยเลย อยางนี้
เมื่อไหรจะวางฐานที่มั่นไดสักที มัวแตหาที่ตั้งไปเรื่อย เลยมีรอยประทับฐานชั่วคราวเปนทางเดิน ถา
ชีวิตเราไมมีที่ตั้งที่หยุดเปนฐานที่มั่นได คงเหนื่อยไปชั่วชีวิต ไมเพียงแตเทาที่เหนื่อยจริงมั้ยละ
เทาสิ่งใดไดรับการนิยมและไมถูกรังเกียจอยางเทาหมีบาง เห็นวามันเอาเขาปากแลวมีความสุข
นักใชมั้ย แตแหมไมคอยยุติธรรมเทาไหรนะนี่ที่ไปแยงเทามันมา ของๆใครๆก็หวง ฉันวาอยาไปเอาเทา
หมีมาบํารุงเทาเราเลย มันคงไมชวยใหชีวิตยืนยงอยูไดอยางมั่นคงอะไรหรอก ขนาดหมีมันยังลม แมจะ
ไมเคยเห็นหมีตัวเปนๆแตก็เคยฝนเห็นหมี วามันกับฉันเจอกันเขาอยางจัง ก็เลยควาไมยาวๆเอาไวในมือ
เพื่อสู ที่ไมวิ่งหนีเพราะฝเทาไมดี หนีไปก็ไมมั่นใจวาหนีพน เอาเปนวาสูกับมันเลยดีกวา ถาเปนเรื่องจริง
ฉันจะทําแบบนี้รึเปลาก็คงไมแนใจ แตคงมีเวลามองกันระหวางหมีกับฉันแลวคอยตัดสินใจวาจะเอา
ยังไง เทาใครแน เทาใครดี ใครควรจะรักษาเทาเอาไวก็คงจะรู มันอาจไมเห็นวาเทาตัวเองมีดีแคไหน แต
คนรู ถึงขนาดเอาเขาปากอยางมีความสุข หมีมันไมเดินไปเหยียบอึบางก็แลวไป ไมใชเรื่องที่จะมี
ความสุขบนความทุกขของสิ่งอื่นเลยนะนี่ หมีมีเทาไวเดินเชนเดียวกับเรา ตําแหนงของเทาหมีและเทา
เราก็ตําแหนงเดียวกัน ควรใหเกียรติเทาของมันเชนเดียวกับเทาของเราในฐานะอยูในตําแหนงเทากัน คือ
เอาใจใสดูแลตามควรแกฐานะ ไมใชมาตมยําทําแกงกันซะ เทาหมีหรือเทาคนก็อยูในฐานะเดียวกัน มัน
ก็ตองการฐาน เราก็ตองการฐาน จึงจะยืนอยูได มันกับเราก็ยืนบนฐานเชนเดียวกัน นาจะเปนเผาพันธุที่
ไมแปลกแยกกันใชมั้ย แตควรเปนเผาพันธุที่เหมือนๆกันชื่อพันธุวา พันธผูกกันและกัน แบบวาอยูบน
ฐานที่ไมเอาความทุกขของใครเปนที่ตั้ง ทาจะอยูบนพื้นฐานแหงความสุขดีตั้งแตตัวจดเทา เพราะชีวิต
ไมไดอยูไกลไปจากเทาและยืนอยูบนเทาดีๆนี่เอง
เล็บ
เล็บเปนหนาตางสุภาพ เวลาที่เล็บมีสีชมพูเปนความหมายวาอยากทําอะไรทําไปเลยรางกาย
พรอมเต็มที่ไมตองเปนหวง สวนใหญก็คงมีเล็บสีนี้ทั้งนั้น นอกจากคนไมสบายเชนเปนโรคตับเล็บ
อาจจะเหลือง โรคหัวใจเล็บก็คงจะเขียวคล้ํา แตถาเล็บสีแดงแจ ก็อาจเปนอาการชนิดหนึ่งที่กลัวไมสวย
เรื่องนี้รักษายาก เผลอๆเล็บมีสีไมเหมือนกันเปนความนิยมมากกวาจะมองถึงสิ่งผิดปกติก็มันสีไม
เหมือนกันทุกนิ้ว วินิจฉัยยังไงไดละ สมัยกอนโรคขาดสารอาหารยังมีอยูทั่วไป คนที่เปนโรคนี้เล็บจะมี
ฝาขาว บางทีเรียกเล็บออกดอก ถาเปนเมื่อกอนคงไมอายเพราะเปนกันเยอะ แตตอนนี้มีการใหความรู
เรื่องการบริโภคเพื่อใหไดรับสารอาหารครบถวนอยางมาก ถาเล็บออกดอกก็ไมรูจะอางวายังไง ที่สําคัญ
เวลาคบกับใครเขาจะเชื่อแคไหนวามีความจริงใจตอกัน ขนาดตัวเองยังไมจริงจังจริงใจตอตัวเองถึงขั้น
เล็บออกดอก ประสาอะไรกับคนอื่นที่จะไปมีใจใหใครนะ เล็บเปนสวนที่อยูบนปลายนิ้วแมไมใชสวนที่
แข็งแรงอะไร แตก็เปนอาวุธไดเมื่อจวนตัว ยิ่งเล็บออกดอกดวยก็ยิ่งไมนาไวใจสินะ สําหรับคนที่เลือด
จางอยางฉันเล็บก็สีชมพูจางเหมือนกัน มันไมปดบังสภาพภายในเลย นอกจากจะบงบอกสภาพขางใน
ของเราแลว เล็บยังบอกเรื่องราวภายนอกที่เราสัมผัสดวย เชน คนสูบบุหรี่เล็บก็จะเหลือง ทาเล็บนานๆก็
เล็บเหลืองไดเชนกัน ถาเล็บช้ําเลือดก็อาจถูกทับหรือสวมรองเทาคับจนเกินไปเล็บก็อาจฮอเลือด ไมวา
จะทําอะไรก็ไดรับผลสะทอนมายังเล็บเสมอ มันเปนกระจกสองตัวเราที่ไมเคยบิดเบือนหรือปดบังความ
เปนจริง ถาไมทาเล็บเอาไวหรอกนะ
ณ เมืองๆหนึ่ง เจาเมืองจัดงานตอนรับแขกที่มาเยือนดวยการแสดงฟอนเล็บอันเปนเอกลักษณ
ของคนเมืองนี้ เปนที่ประทับใจแกแขกที่มาเยือนเปนอยางมาก จนถึงกับคิดจะใหมีการแสดงอยางนี้ใน
เมืองของตัวเองบาง เมื่อกลับไปยังบานเมืองแลวจึงปรึกษากับภริยาวา เรานาจะริเริ่มใหมีการแสดงของ
เราใหนาประทับใจบางนะแตเอาแบบนาจดจํายิ่งกวาที่ไปเห็นมา เวลามีแขกมาเยือนจะไดจดจําไปไมรู
ลืม เธอก็ถามวา จะใหมีฟอนเล็บหรือคะ เขาก็ตอบวา ฟอนเล็บแบบของเรา ทํายังไงใหนาประทับใจได
ละ เธอจึงเสนอวา ก็เปลี่ยนเล็บใหมสิคะ ใชเล็บในแบบของเรา ดวยเล็บปลอมที่เพนทสวยงามแลวติด
ใหนักแสดงออกไปฟอน เมื่อจบการแสดงก็ถอดเล็บมอบใหแขกเก็บไวเปนที่ระลึกดีมั้ยคะ เขาก็คิดเห็น
วา แขกจะเอาเล็บไปทําอะไรละ เธอก็ตอบวา แหมคุณก็ ทําอยางกับแขกไมเคยมีไมเคยใชเล็บ เขาจะเอา
ไปทําอะไรก็เรื่องของเขา จะทําอะไรก็คงจะนึกถึงเรานะคะ เขาก็เดินไปนั่งดูเล็บอยูพักหนึ่งแลวพูดวา
เล็บปลอมมันใชทําอะไรเหมือนเล็บที่มีชีวิตไดเหรอ ผมไมคิดวามันจะทําอะไรได ยุงยากแขกที่จะเก็บ
เอาไปเปนที่ระลึกเปลาๆ อาจทําใหมองเราอยางไมประทับใจอีกดวย เล็บปลอมไมมีประโยชนหรอก
เธอก็พูดวา ใครวาไมมีประโยชนคะ เล็บที่ไมมีชีวิตนะของขึ้นชื่อเลยรูมั้ย และทําใหจดจําไปนานเขา
เรียกวายําเล็บมือนางคะ ถาไมอยากเก็บไวตอไปก็มีทางเลือกที่เปนประโยชนได เห็นรึยังคะวามัน
สมควรเปนของที่ระลึกใหจดจําไดแคไหน เขาก็พูดวา คุณคิดไดยังไง เธอก็ตอบวา ออ ฉันก็คิดในดานที่
คุณคงคิดไมถึง ในเมื่อคุณถามฉันก็คงหมายความวาคุณยังคิดไมถึง แลวคุณวายังไงละ เขาก็ตอบวา ผม
ไมกลาคิดอะไรตอหรอก กลัวจะไมแคถอดเล็บ ผมไมอยากเห็นสิ่งที่ผมคิดไมถึง
ถอดเล็บถอดเขี้ยวแลวเปนยังไง ถาลองใหนึกภาพก็คงเปนการทารุณกรรมดีๆนี่เอง ของที่มีอยู
กับตัวไมไดไปแยงใครมา ทําไมตองใหถอดดวย มันนาจะเปนสิ่งที่ผูครอบครองมีสิทธิโดยชอบตามกฎ
ธรรมชาติ ถากฎใดไปฝนกฎธรรมชาติหากไมบาก็เพี้ยน นอกจากจะไมเขาใจ ไมเห็นใจ ความเปนไป
ของธรรมชาติแลว ยังกอใหเกิดความวิปริตผิดธรรมชาติอีกดวย แลวทีนี้ฝายไหนกันละที่นากลัวกวากัน
ในความเปนจริงคนหรือสิ่งใดที่มีเล็บ ถาไมจําเปนอยางยิ่งก็คงไมถอดเล็บ ตอนที่เล็บไดรับบาดเจ็บฮอ
เลือดจนเปดนั่นแหละจึงจะยอมถอดเพื่อใหเล็บใหมงอกขึ้นมา อันนี้ตองแสดงความเสียใจดวยกับคนที่
หวังใหถอดเล็บแลวจะไมมีเล็บอีกตอไป เพราะยังไงก็ตองมีเล็บงอกขึ้นมาใหมใหเห็น เพราะฉะนั้นควร
ยอมรับในสิ่งที่เปนธรรมชาติจะดีกวา เหมือนกับการหวังจะริดรอนความเปนตัวตนของใคร คนนะ
ไมใชบอนไซจะไดตัดแตงเปนไปในรูปโฉมที่คนอื่นตองการ ควรจะมีและเปนในสิ่งที่ไดสรางไดรับมา
ดวยตัวเอง เพราะทุกคนยอมถูกหลอหลอมโดยสภาพที่เปนอยูขณะมีชีวิตจนมีความเปนตัวตนของแตละ
คน ซึ่งไมเหมือนกันทั้งหมดทุกคน ขึ้นอยูกับหลายอยางทั้งในและนอกตัว ฉะนั้นแมจะมีหรือเปนในสิ่ง
ที่แตกตางก็เปนสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติของคนๆนั้น ไมใชสิ่งที่ใครจะมามีสิทธิเหนือกวาหรือให
ทําลายหรือถอดเล็บซะ คิดเสียวาตางคนนั้นเกิดมาแตกรรม เมื่อเปนเชนนี้ก็นาจะใหแตละคนเปนในสิ่ง
ที่ตัวเองมีกรรมเปนกําเนิด จะไดไมตองคอยไปมุงถอดเล็บถอดเขี้ยวผูใด คลายกําลังพยายามที่จะเหนือ
กรรม ในที่สุดก็เขาไปพัวพันในบวงกรรม เขี้ยวเล็บมีไวใหชีวิตไดฟนฝาอุปสรรค การคิดไปถอดเล็บ
ถอดเขี้ยวใครก็ไมตางจากมุงเอาชีวิตเขา ถาเราไมมีปญญารักษาชีวิตเขาก็ไมควรแตะตองเล็บของเขา
เชนกัน
ที่บานริมปลายนาของมานะ เขาและภรรยากําลังนั่งลอมวงกินขาวเย็นหลังจากที่ทํานามาทั้งวัน
ภรรยาเขาเห็นเล็บมือยาวๆดําๆของเขาก็บอกวา หยุดกอนพี่เล็บยาวสกปรกไปตัดเล็บเสียกอนแลวลาง
มือใหสะอาด เดี๋ยวเชื้อโรคจะเขาปากนะ เขาก็ทําตามโดยไมชา พอกินขาวเสร็จก็รีบเขานอนเพราะ
พรุงนี้เชาผูใหญบานจะพาเจาหนาที่ทางการมาเยี่ยมสารทุกขสุขดิบของชาวบานรวมถึงเขาดวย เมื่อรุง
เชาเขาก็ออกไปทํานาเหมือนเชนปกติทุกวัน โดยมีหอขาวที่ภรรยาเตรียมใหเผื่อผูมาเยี่ยมดวย ประมาณ
ใกลเที่ยงผูใหญกับเจาหนาที่ก็มาถึงนา ตอนนั้นเขากําลังเตรียมตัวกินขาวกลางวันพอดีจึงเชิญทั้งหมดกิน
ขาวดวยกัน ทุกคนก็นั่งลงลอมวงหยิบกินกันคนละนิดพอเปนมารยาท เขาสังเกตที่นิ้วมือของเจาหนาที่ๆ
มากับผูใหญเห็นเล็บยาวทุกนิ้วเลย ก็ไมกลาบอกวาสกปรกไดแตนั่งเงียบ พอกินขาวเสร็จและไดพูดคุย
กันพอสมควรผูใหญกับเจาหนาที่ก็ไปเยี่ยมคนอื่นตอ เขากลับบานในตอนเย็นและนั่งกินขาวกับภรรยา
อยูๆผูใหญก็เดินมาหาเขาจึงเชิญผูใหญกินขาวเย็นดวยกัน ผูใหญนั่งลงเลาวาเมื่อกลางวันหลังกินขาวไม
นานเจาหนาที่ก็ทองเสีย สงสัยเพราะอาหารกลางวัน เขาก็พูดวา ไมใชหรอกผูใหญ ผมเห็นเล็บมือเขา
ยาวทุกนิ้วเลยแตไมกลาบอกวาสกปรกไดแตปลอยใหเปบขาวไปอยางเงียบๆ ผูใหญก็แยงวา เฮย เล็บมือ
เขาไมไดมาเปอนดินอยางเราจะสกปรกไดยังไง เขาก็สายหนาบอกวา จริงอยู มือพวกเขาคงเปอนแต
กระดาษ ไมไดเปอนดินอยางเรา แตอยาลืมสิวา อะไรๆในงานก็มาลงบนกระดาษ สารพัดสารเพยิ่งกวา
ชักแมน้ําทั้งหาและมหาสมุทร ไมวาจะสิ่งที่อยูบนดิน ในน้ํา ในอากาศ มันก็มาอยูบนกระดาษหมด มือที่
เปอนดินอยางเราเทียบไมติดกับมือที่เปอนกระดาษอยางเขานะผูใหญ ที่ทองเสียนะอยามาวาเพราะ
อาหารกลางวันเลย มันแคสวนเล็กนอยเทานั้น
เล็บที่ยาวออกมาอาจถูกตัดเพื่อความสะอาด สวยงาม หรืออะไรก็แลวแต สวนใหญตัดแลวก็ทิ้ง
ไปไมไดสนใจเล็บนั้นหรอก เพียงแตตอนตัดนั้นบางความเชื่อจะไมตัดเล็บวันพุธ เล็บจะยาวไดตองใช
เวลาหลายวัน ตอนจะตัดฉันก็คิดวาถาเลือกวันมันก็ไมเสียหายอะไร ของไมเนาไมเสียอยูบนนิ้วไดนาน
ตราบเทาเชื้อโรคตายแลวตายอีกก็ยังไมเนา แลวยังคิดวามีดตัดเล็บก็เปนอาวุธที่ใชเพื่อตัดปลายเล็บอยาง
ที่คุนเคยยังไงก็ไมรู ปกติทุกคนจะหวงเนื้อเยื่อตัวเองไมยอมใหผูใดมาเชือดเฉือน ไมยอมใหใครมาแตะ
ตองแมเพียงปลายเล็บ แตกลับใชมีดตัดเล็บอยางคุนเคย ฉันคิดอีกทีก็นึกไปวามีดตัดเล็บเปนเหมือนคน
ประเภทหอกขางแคร เปนศัตรูในคราบของมิตร แบบเดียวกับที่เราใชมีดตัดเล็บอยางกับเปนมิตร จริงๆ
แลวมันตัดสวนที่เปนเนื้อเยื่อเราอยางลอยนวล คนแบบนี้ถาหากเปนคนที่ฉันไดเจอคงไมเรียก
บุพเพสันนิวาส ถึงแมพรหมก็คงไมลิขิต ฟาก็ไมนาสงมา ที่มองเห็นก็เปนเพียงสิ่งที่ไมอาจนับญาติเปน
เผาพันธุเดียวกันได ฉันวาถาเห็นงูกับแขกก็นาจัดการเก็บไอมีดตัดเล็บนั่นซะกอน ปลอยงูกับแขกก็แลว
กัน เดี๋ยวแขกกับงูก็จัดการกันเองละนา หรือไมก็ปลอยใหเตากินไอมีดตัดเล็บซะ ถาจะตัดเล็บวันพุธตัด
มันตอหนาเตาไปเลยเปนไงใหรูวาอยางมีดตัดเล็บนั้นมันสมควรเปนอาหารเตานัก ไมใชเล็บของเรา
หรอก แมเพียงปลายเล็บเราก็ไมใชอาหารของเตา อีกอยางวันพุธก็ไมใชวันของมีดตัดเล็บอยูแลว ซึ่งเตา
ก็กินอาหารทุกวันไมเฉพาะแควันพุธดวยนะพี่นอง คิดแลวมีดตัดเล็บก็เปนเพียงสิ่งไมมีชีวิตแตมันชาง
คลายคนประเภทศัตรูจําแลงกายมาเปนมิตรเปะเลย แบบทําตัวเหมือนเปนสิ่งไมมีชีวิตเชนนั้น ถานั่นเปน
จุดหมายก็รีบๆไปเถอะ เตารออยูมั้ง รอทุกวันเลย คงไมไดมีแคเตาดวยซ้ําละที่รออยู แลวชาติหนาฉันใด
จะจํามั้ยนะวาอยาแตะตองแมเพียงปลายเล็บ เพราะแขกกับงูยังไมไดถูกจัดการ ถาเจอกับฉันก็เจอแขก
กับงูดวย ถาระลึกไมไดวาทํากับคนอื่นเชนดั่งเปนมีดตัดเล็บมันเปนยังไง ก็ลองเอามีดตัดเล็บตัวเองแบบ
ติดเนื้อไดยิ่งชัดเลย แลวจะรูวาไอที่ทํากับคนอื่นแมเพียงปลายเล็บมันเปนแบบไหน และไมใชสิ่งที่จะทํา
ไดอยางลอยนวล เพราะเล็บนั้นไมไดเกิดขึ้นมาเพื่อมีดตัดเล็บ ถึงจะเปนมีดตัดเล็บก็เอาเล็บไปเปนของ
ตัวไมไดอยูดี ฉันก็เลยเห็นมีดตัดเล็บเปนสิ่งรับใชที่ไรความหมาย และมันก็ไมไดครอบครองเล็บของ
ฉันไมวาชาติไหนก็ตาม
ฉันมีเล็บที่ไมแข็งไมออนจนเกินไป อยางดีก็เอามาแคะขี้มูก ขี้หู ขี้ตา แคะเปลือกบางอยางซึ่งก็
คงเปนเปลือกบางๆเทานั้น มันก็เลยกระชากเปลือกหนาๆของบางอยางไมได ถายืมเซลตนแบบของสิ่ง
ใดมาปลูกถายเปลี่ยนเล็บฉันเสียไดก็อยากขอมีเล็บ เชนกรงเล็บเสือ ไมมากมายอะไรหรอก เอาแคเทาที่
มี10นิ้วก็พอ ฉันไมคิดวาเปนเรื่องบาบอเกินไปเพราะทุกเรื่องที่เคยเกิดขึ้นบนโลกลวนเปนเรื่องบาบอมา
กอนทั้งนั้น คือฉันคิดวายังดีกวาคิดไปแยงเล็บเสือมา นั่นมันไมไดบาแตผิดมหันตอยางเจตนาซึ่งตองรับ
กรรมอยางอางบาบอไมได ที่อยากมีกรงเล็บเหมือนเสือนั้นเพราะอะไรๆมันก็ตองจับใหมั่นคั้นใหตายจึง
จะเอาตัวรอดได รับรองวาไมใหเสียเสือ ฉันไมสนับสนุนใหเอาสวนใดของเสือหรือสัตวอื่นมาแมเพียง
ปลายเล็บ หากทําไดก็ยอมบาบอเปลี่ยนแปลงเซลจนมีเล็บเหมือนเสือละ สําหรับฉันแคเพนทเล็บมันยัง
ไมใช แตอยากเลี้ยงเล็บอันใหมที่งอกมาจากนิ้วเองเปนเหมือนเล็บเสือ นั่นแหละใชเลย สงสัยวาที่
ธรรมชาติใหเล็บมาเปนแบบนี้ก็คงไมคิดวาฉันคูควรกับกรงเล็บอยางเสือ เอาเถอะ ฉันจะเรียนรูสัญชาติ
ญาณเสือใหดี เผื่อสักวันจะควรคูกับเล็บที่มีไดอยางเสือ ไมใหเปนเหมือนเรื่องบินอยางนกที่เครื่องตก
บอยๆ ก็มันไมใชนกละมั้ง เล็บเสือไมควรไปแตะตองแมเพียงปลายเล็บ ฉะนั้นคิดเผื่อเวลาเกาตอนคัน
ใหรอบคอบกอนก็ดีเหมือนกัน จะไดเกาที่ๆคันตรงจุดไปเลยไมตองเกาเปนวงกวาง คงเจ็บทีเดียวแหละ
ทีนี้ก็ตองรูแลวละมั้งจะเล็บเสือหรือเล็บอะไรก็ไมควรแตะตองแมเพียงปลายเล็บ จะถึงขั้นเย็บหรือไม
เย็บก็เจ็บไดเชนกัน