You are on page 1of 6

มงคลสูตร ครั้งที่ ๓
โดยพระอาจารย ชยสาโร ณ โรงเรี ยนป ญญาประที ป ปากช อง โดยพระอาจารย ชยสาโร ณ โรงเรี ยนป ญญาประที ป ปากช อง โดยพระอาจารย ชยสาโร ณ โรงเรี ยนป ญญาประที ป ปากช อง โดยพระอาจารย ชยสาโร ณ โรงเรี ยนป ญญาประที ป ปากช อง
วั นพระครั้ งที่ วั นพระครั้ งที่ วั นพระครั้ งที่ วั นพระครั้ งที่ ๔ ๔ ๔ ๔ วั นที่ วั นที่ วั นที่ วั นที่ ๑๔ ๑๔ ๑๔ ๑๔ สิ งหาคม สิ งหาคม สิ งหาคม สิ งหาคม ๒๕๕๒ ๒๕๕๒ ๒๕๕๒ ๒๕๕๒
วันนี้จะอธิบายบทวาดวย ป ปป ปฏิ ฏิ ฏิ ฏิ รูปะเทสะวาโส จะ รูปะเทสะวาโส จะ รูปะเทสะวาโส จะ รูปะเทสะวาโส จะ การอยูในประเทศอันสมควร ในบทแรกที่วา
ตองคบบัณฑิ ต ไม ใหคบพาล บู ชาบุ คคลที่ ควรบู ชา จะเป นไดในเมื่ อเราอยู ในชุ มนุ ม ในสังคมที่ มี
นักปราชญบัณฑิต มีบุคคลคนที่ควรบูชา บางคนยังไมเขาใจหลักพุทธศาสนา ยังมองวาพุ ทธศาสนา
ไมคอยสนใจสังคมสิ่งแวดลอม เนนเรื่องตัวบุ คคล จะมีคนพูดเรื่องนี้บ อยว าพุ ทธศาสนาสนใจแต ตัว
บุ คคลว าใหสงบ สบาย ไม เป นทุ กข ก็จบ เอาแค นั้นพอ จริ งๆแลวพระพุ ทธเจาไม ไดสอนอย างนั้น
เลย พระพุทธเจาทานสอนวาภายนอกภายในตองสอดคลองกัน

เมื่อคนสวนมากมีจิตใจไมคอยเขมแข็ง เราตองพยายามสรางสิ่ง เมื่อคนสวนมากมีจิตใจไมคอยเขมแข็ง เราตองพยายามสรางสิ่ง เมื่อคนสวนมากมีจิตใจไมคอยเขมแข็ง เราตองพยายามสรางสิ่ง เมื่อคนสวนมากมีจิตใจไมคอยเขมแข็ง เราตองพยายามสรางสิ่งแวดลอมที่ชวนใหการทําความดี แวดลอมที่ชวนใหการทําความดี แวดลอมที่ชวนใหการทําความดี แวดลอมที่ชวนใหการทําความดี
งายกวาทําความชั่ว งายกวาทําความชั่ว งายกวาทําความชั่ว งายกวาทําความชั่ว จริงอยูถึงจะมีสิ่งแวดลอมที่ไมดีก็จะมี คนจํ านวนนอยที่ จิ ตใจเขมแข็ง ถึงจะไม มี ใคร
ชักชวนทํ าความดี เขาก็ตั้งมั่ นในความดี อยู แลว แต คนส วนมากจิ ตใจยังตองขึ้นอยู กับสิ่ งแวดลอมมาก
ทานใหเราพยายามสรางสิ่งแวดลอมที่ ดี ใหสรางชุมชน สรางสังคมที่ดี นั่นก็เปนแง ของสิ่ งที่ เราทํ าได


เมื่ อเราอยู ในสังคมไม ใช ว าเราตองเป นเหยื่ อของสังคม สังคมเป นอย างไรเราตองปรับตัวตามสังคม
เพราะวาเราทุกคนมีสวนในการสรางสังคมที่ดีกวาได เชน คนหลายคนบอกวาเขาดื่มเหลาเพราะว าใน
สังคมเขาดื่มกัน เหมือนกับวาสังคมเปนของตายตัว เราทุกคนมีหนาที่ตองปรับตามกระแส แตกระแส
ทุกกระแสในสังคมเปนของไมแนนอนเปลี่ยนแปลงไดตลอดเวลา ฉะนั้นเราเห็นไดชัดว าสังคมมี หลาย
กระแส เรามีทางเลือกวากระแสดื่มหรือกระแสไมดื่มเปนตน
ในการปรับปรุ งแกไขชุ มชนใหเป นสังคมที่ ดี นั้น จะทํ าไดมากนอยแค ไหนอยู ที่ ว าทุ กวันนี้สังคม
เปนอยางไร เปนโอกาสที่คนเราจะศึกษาเรียนรู จะไดปฎิ บัติ ไดเขาถึง ไม ใชสิ่ งง ายเลย ในโลกนี้มี สัก
หกพันลาน เจ็ดพันลานคน แต ว าคนส วนมากอยู ในประเทศที่ ยากที่ จะศึกษาและปฎิ บัติ ธรรม
อยางเชนในประเทศอิสลาม เปนตน ประเทศอิสลามถือวาคนที่เกิดในตระกูลอิสลามตองเปนอิสลาม
ตลอดไป ถาแค อ านหนังสื อของ
ศาสนาอื่ นถื อว าผิ ด แมแต ใน
มาเลเซี ยประเทศเพื่ อนบานเรา
ถาเราส งหนังสื อไปเผยแผ ที่ นั่ น
ตองพิมพหนาปกวา “¯·- ··· “¯·- ··· “¯·- ··· “¯·- ···
.·-· ··,” .·-· ··,” .·-· ··,” .·-· ··,” คื อถาหากเรา
ไม ระบุ อย างนั้น ถื อว าเราทํ าผิ ด
กฎหมาย สมมุติวาอาตมาไปมาเลเซียแลวไปเทศน ถามีคนอิสลามมาฟ ง อาตมาจะติ ดคุ กไดเพราะว า
เทศนใหคนอิสลามฟงทั้งๆ ที่อาตมาไมรู
เป นอันว าคนที่ เกิ ดในประเทศอิ สลามก็ไม มี โอกาสที่จะเรี ยนรูหลักพุ ทธศาสนา แมแต ในหมู ชาว
คริสตหรือผูที่นับถือศาสนาอื่น ถึงแมวาจะไมผิดกฎหมายเขาก็ไม อยากใหประชาชนอ าน เพราะกลัว
ว าเดี๋ ยวเกิ ดสงสัยจะสับสน มี การอธิ บายหรื อการกล าวตู พุ ทธศาสนาใหคนไม เขาใจใหคนไม
ศรัทธา อันนี้ก็เป นสิ่ งกี ดกันที่ เป นทางการ แต นอกจากนั้นแลวถาเราอยู ในที่ กันดาร เช น อยู ที่
แอฟริ กาห างไกลความเจริ ญ ถึงแมว าไม มี ใครขัดของ ไม รูจะเรี ยนไดอย างไรเพราะว าไม มี สื่ อ ไม มีวัด
ไม มี พระ ไม มี อาจารย ถาเราดู โลกของเราแลว ในประเทศที่ เอื้อหรื อว าทํ าใหคนสามารถศึกษาพุ ทธ


ศาสนาไดก็มี ไม มากนัก ในโลกตะวันตกอย างเช นบานอาตมาที่ อังกฤษหรื ออเมริ กาก็มี โอกาสมากขึ้น
เพราะวาหนังสือก็มี ทุกวันนี้อินเตอรเน็ตก็ทําใหคนสามารถศึกษาพุ ทธธรรมไดเหมื อนกัน แต ว าที่ จะ
ขาดก็จะขาดครูบาอาจารย ขาดผูมีความรู โดยเฉพาะในทางปฎิบัติ
เราเกิดในประเทศไทยถึงแมวาพุทธศาสนาในประเทศไทยมีปญหาเยอะ ป ญหาในสถาบันสงฆ
ก็มี ป ญหาในหมู คฤหัสถก็มี แต จะว าไปแลวน าจะเรี ยกว าเป นประเทศอันสมควรมาก เพราะว า
พระอริยเจาก็ไมเคยขาดสายจากประเทศไทย หรื อผูที่ เป นพระอริ ยสงฆก็ยังมี เหมื อนเดิ ม โอกาสที่ เรา
จะไดศึกษาปฏิ บัติ ธรรมมี มาก ถึงแมว าเป นคนยากจนก็ตามโอกาสมี เต็มที่ เช น ดวยการฟ งวิ ทยุ
ดวยการดู ที วี ดวยการอ านหนังสื อที่ แจกเป นธรรมทานไม ตองมี ค าใชจ ายใด ๆ นอกจากนั้นแลว
ถนนหนทางก็สะดวกสบาย ถึงจะเปนชาวบานไม ค อยจะมี สตางคก็ยังพอนั่ งรถโดยสารไปกราบพระ
ผูใหญได ถาเราเห็นวาสิ่งแวดลอมมีสวนสําคัญแลว เราต ถาเราเห็นวาสิ่งแวดลอมมีสวนสําคัญแลว เราต ถาเราเห็นวาสิ่งแวดลอมมีสวนสําคัญแลว เราต ถาเราเห็นวาสิ่งแวดลอมมีสวนสําคัญแลว เราตองการสิ่งแวดลอมที่จะชวยใหมากที่สุ ดใน องการสิ่งแวดลอมที่จะชวยใหมากที่สุ ดใน องการสิ่งแวดลอมที่จะชวยใหมากที่สุ ดใน องการสิ่งแวดลอมที่จะชวยใหมากที่สุ ดใน
การที่จะสรางชีวิตที่ดีงาม การที่เราเกิดในประเทศอยางเชนประเทศไทยนั้นก็เรียกวาเป นบุ ญ เป นสิ่ ง การที่จะสรางชีวิตที่ดีงาม การที่เราเกิดในประเทศอยางเชนประเทศไทยนั้นก็เรียกวาเป นบุ ญ เป นสิ่ ง การที่จะสรางชีวิตที่ดีงาม การที่เราเกิดในประเทศอยางเชนประเทศไทยนั้นก็เรียกวาเป นบุ ญ เป นสิ่ ง การที่จะสรางชีวิตที่ดีงาม การที่เราเกิดในประเทศอยางเชนประเทศไทยนั้นก็เรียกวาเป นบุ ญ เป นสิ่ ง
ที่เปนมงคล ที่เปนมงคล ที่เปนมงคล ที่เปนมงคล
ในสมัยพุทธกาลเราอาจจะเคยไดอานไดฟงวามีหลาย ๆ คนที่ไปฟงพระพุทธเจาแสดงพระธรรม
เทศนาแลวไดบรรลุธรรม ทั้ งที่ ฟ งแค หานาที สิ บนาที หนึ่ งชั่ วโมง โดยที่ ไม เคยปฎิ บัติ ธรรมมาก อน
เราอาจจะสงสัยว าทํ าไมมันจึงเป นไปได คํ าตอบง าย ๆ คื อผูที่ ไดเกิ ดในประเทศอันสมควรยิ่ งคื อ ผูที่ ไดเกิ ดในประเทศอันสมควรยิ่ งคื อ ผูที่ ไดเกิ ดในประเทศอันสมควรยิ่ งคื อ ผูที่ ไดเกิ ดในประเทศอันสมควรยิ่ งคื อ
มัชฌิ มประเทศในสมัยที่ มี พระพุ ทธเจาอยู เป นผูที่ เคยสรางสมบารมี ไวมาก เหมื อนกับพรอมที่ จะ มัชฌิ มประเทศในสมัยที่ มี พระพุ ทธเจาอยู เป นผูที่ เคยสรางสมบารมี ไวมาก เหมื อนกับพรอมที่ จะ มัชฌิ มประเทศในสมัยที่ มี พระพุ ทธเจาอยู เป นผูที่ เคยสรางสมบารมี ไวมาก เหมื อนกับพรอมที่ จะ มัชฌิ มประเทศในสมัยที่ มี พระพุ ทธเจาอยู เป นผูที่ เคยสรางสมบารมี ไวมาก เหมื อนกับพรอมที่ จะ
บรรลุ กา บรรลุ กา บรรลุ กา บรรลุ การฟงธรรมของทานเหลานั้นเปรียบเทียบไดกับเปนฟางเสนสุดทาย ทานฟงนิดเดียวทานก็ รฟงธรรมของทานเหลานั้นเปรียบเทียบไดกับเปนฟางเสนสุดทาย ทานฟงนิดเดียวทานก็ รฟงธรรมของทานเหลานั้นเปรียบเทียบไดกับเปนฟางเสนสุดทาย ทานฟงนิดเดียวทานก็ รฟงธรรมของทานเหลานั้นเปรียบเทียบไดกับเปนฟางเสนสุดทาย ทานฟงนิดเดียวทานก็
พรอมแลว หลวงพอชาท านเคยเปรี ยบเที ยบเหมื อนลู กโป งใหญ ทํ าไมเข็มเล็ก ๆ ก็ทํ าลายลูกโป ง พรอมแลว หลวงพอชาท านเคยเปรี ยบเที ยบเหมื อนลู กโป งใหญ ทํ าไมเข็มเล็ก ๆ ก็ทํ าลายลูกโป ง พรอมแลว หลวงพอชาท านเคยเปรี ยบเที ยบเหมื อนลู กโป งใหญ ทํ าไมเข็มเล็ก ๆ ก็ทํ าลายลูกโป ง พรอมแลว หลวงพอชาท านเคยเปรี ยบเที ยบเหมื อนลู กโป งใหญ ทํ าไมเข็มเล็ก ๆ ก็ทํ าลายลูกโป ง


ใหญ ๆ ได เข็มเล มเล็ก ๆ นี้ท านเที ยบเหมื อนกับพระธรรมเทศนา ลู กโป งก็เหมื อนกับอวิ ชชา ใหญ ๆ ได เข็มเล มเล็ก ๆ นี้ท านเที ยบเหมื อนกับพระธรรมเทศนา ลู กโป งก็เหมื อนกับอวิ ชชา ใหญ ๆ ได เข็มเล มเล็ก ๆ นี้ท านเที ยบเหมื อนกับพระธรรมเทศนา ลู กโป งก็เหมื อนกับอวิ ชชา ใหญ ๆ ได เข็มเล มเล็ก ๆ นี้ท านเที ยบเหมื อนกับพระธรรมเทศนา ลู กโป งก็เหมื อนกับอวิ ชชา
พรอมแ พรอมแ พรอมแ พรอมแลวทั้งเหตุทั้งปจจัยก็บรรลุได ลวทั้งเหตุทั้งปจจัยก็บรรลุได ลวทั้งเหตุทั้งปจจัยก็บรรลุได ลวทั้งเหตุทั้งปจจัยก็บรรลุได
ในชีวิตคนเราไมไดเกิดมาเปนกระดานขาว มีกรรมติดตัวมาจากชาติ ก อน คํ าว ากรรมนี้ไม ใช สิ่ งที่
ไม ดี กรรมเป นคํ ากลางหรื อผลกรรม ถากรรมดี เราเรี ยกว าเป นบุ ญ การที่ เราไดเกิ ดในประเทศอัน
สมควรก็เปนผลบุญกุศลที่เคยทําไวแตชาติกอน ทํ าใหเกิ ดเป นมนุ ษย อยู ในประเทศอันสมควร น า
สังเกตว าคนบางคนปฏิ เสธเรื่ องธรรมะตั้งแต เด็กทั้ง ๆ ที่ เป นคนฉลาด ทั้ง ๆ ที่ อยู ในประเทศอัน
สมควร แต ว าฟ งแลวไม เขาหู ไม มี ความสนใจเลย เป นเพราะไม เคยทํ าบุ ญในปางก อน นอกจากเกิ ด
ความสนใจแลว ทุ กคนก็อยู ในความเคยชิ นเสี ยส วนใหญ การกระทํ าของเราที่ เป นอัตโนมัติ ก็เป นผล
การกระทําในอดีต นี่เปนเรื่องนาศึกษามาก
สิ่งที่จะเกิดจากตัวเราในเวลาเกิดเรื่องวิกฤติที่ไมคาดวาจะเกิดขึ้นได ไมมีเวลาที่ จะตั้งสติ อะไรเปน
ปฏิกิ ริ ยาที่ ออกมาทันที จะไดเห็นภาวะจิ ตของตัวเอง ความเจริญในธรรมไดมากนอยแค ไหน ผูที่ เคย ผูที่ เคย ผูที่ เคย ผูที่ เคย
ทํ าบุ ญในกาลก อนจะเป นผูที่ สรางความเคยชิ นในการมี วิ นัย ในการมี น้ํ าใจ ในการเป นคนดี ใน ทํ าบุ ญในกาลก อนจะเป นผูที่ สรางความเคยชิ นในการมี วิ นัย ในการมี น้ํ าใจ ในการเป นคนดี ใน ทํ าบุ ญในกาลก อนจะเป นผูที่ สรางความเคยชิ นในการมี วิ นัย ในการมี น้ํ าใจ ในการเป นคนดี ใน ทํ าบุ ญในกาลก อนจะเป นผูที่ สรางความเคยชิ นในการมี วิ นัย ในการมี น้ํ าใจ ในการเป นคนดี ใน
ประการตาง ๆ รูสึกว าชอบ แลวจิ ตใจนอมไปสู ความดี ประการตาง ๆ รูสึกว าชอบ แลวจิ ตใจนอมไปสู ความดี ประการตาง ๆ รูสึกว าชอบ แลวจิ ตใจนอมไปสู ความดี ประการตาง ๆ รูสึกว าชอบ แลวจิ ตใจนอมไปสู ความดี เรี ยกว า ปุ พเพ จะ กะตะปุ ญญะตา ปุ พเพ จะ กะตะปุ ญญะตา ปุ พเพ จะ กะตะปุ ญญะตา ปุ พเพ จะ กะตะปุ ญญะตา หรื อ
การเปนผูทําบุญไวในกาลกอน
สําหรับผูที่มีนิสัยดีอย างนั้น นิสัยหมายถึงความเคยชินในทางที่ดีตาง ๆ การปฏิบัติธรรมน าจะ
ง ายกว าคนไม เคยทํ าที่ รูสึกตองฝ นใจในทุ ก ๆ เรื่ อง นั่ นถื อว าเป นมงคล เหมื อนเราเคยทํ างานใน
อดีตแลวเราก็มีเงินเปนทุนที่จะไดลงทุนที่จะไดใชจายเพื่อประโยชนเพื่ อความสุ ข สองขอนี้ตางจากสาม
ขอแรก ซึ่ งมงคลสามขอแรกคื อสิ่ งที่
เราควรจะทํ า “ควรจะ” ห างไกลจาก
พาล “ควรจะ” คบบัณฑิ ต “ควร
จะ” บู ชาบุ คคลที่ ควรบู ชา ขอที่สี่ กับ
หานี้จะใหเราเขาใจเหตุ ป จจัยที่ ทํ าให
ความดีความงามปรากฏอยูในปจจุบัน
แต การเกิ ดในประเทศอันสมควรและ


การเคยทําบุญในปางกอนมีผลดีตอปจจุ บันเปนสิ่งที่ทําใหเราไดรับรูรับทราบ ในขณะเดียวกันขอคิด
ก็คือเราตองพยายามทําบุญ เราตองพยายามสรางบุญกุศลเพื่ออนาคตที่เปนมงคล เมื่อมงคลเกิดแลว
จากสิ่งเหลานี้เราตองรักษาไว ทําใหเราไดสัมผัสไดประโยชนจากมงคล
ตอไปขอที่สาม อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ อัตตะสัมมาปะณิธิ จะ กา กา กา การตั้งตนไวชอบ รตั้งตนไวชอบ รตั้งตนไวชอบ รตั้งตนไวชอบ หมายถึงความสําคัญของการตั้งตนไว การตั้งตนไว การตั้งตนไว การตั้งตนไว
ถูกตอง ถูกตอง ถูกตอง ถูกตอง เชน เราเดินทาง สําคัญที่สุดคือกาวแรก ถากาวแรกถูกโอกาสที่ กาวต อ ๆ ไปจะถูกมี สู ง กาว
แรกผิ ดก็มี โอกาสที่ จะหลงทางไดง าย ฉะนั้นเราตองใหความสํ าคัญกับกาวแรกมาก การตั้งตนไวให
จิ ตใจเป นบุ ญเป นกุ ศล การที่ อาตมาสอนการนั่ งทํ าสมาธิ ก อนจะเริ่ มดู ลมหายใจตองตั้งตนไวชอบ
ก อน ใหจิ ตใจมี ความสนใจมี ความตั้งใจ เพราะถาขาดความสนใจความตั้งใจแลวก็สักแต ว านั่งเฉย ๆ
เดี๋ยวก็งวง เดี๋ยวก็เบื่อ
การตั้งตนไวชอบนั้นอยู ที่ การตั้งปณิ ธาน การตั้งอกตั้งใจในการตองพยายามดํ าเนิ นชี วิ ตอย าง
เปนผูมี จิ ตใจเอื้อเฟ อเผื่อแผ ต อคนอื่ น มี เมตตาใหอภัยคนอื่ น มี จิ ตใจที่ ตั้งมั่นอยู ในศี ล มี จิ ตใจที่ คอย
ละสิ่ งที่ ไม ดี ไปเรื่ อย ๆ บํ าเพ็ญในสิ่ งดี ๆ คื อเรามี โครงสราง มี แนวทาง มี อุ ดมการณที่ ถู กตอง มี
เปาหมายชีวิตที่ชัดเจนที่ตั้งตนไวชอบ ถาเราตั้งตนไวชอบแลวพอจะทํ าอะไร จะพู ดอะไรก็นึกขึ้นมา
ไดว า ไม ใดหรอก ไม ตรงกับเป าหมาย
ชี วิ ตเรา เรากํ าลังจะเผลอแลว ตองตั้ง
ตนใหม
…สุ ดทายจะขอเล าถึงพุ ทธบทบท
หนึ่ งที่ พระพุ ทธองคตรัสไวว า ผูที่ เคย
ประมาท ผูที่เคยทําอะไรไมดี ในอดี ตแต
สํ านึ กตัวตั้งตนใหม นั้น ท านบอกว า
งามมาก งามเหมื อนพระจันทรเต็มดวงที่ พนจากเมฆที่ เคยบดบัง นึกภาพออกไหมว าเหมื อนกับ
พระจันทรเต็มดวง แตเรามองไมเห็นเพราะมีเมฆป ดบังเอาไว ถาพระจันทรเต็มดวงโผล พนจากเมฆจะ
สวยมาก ความรูสึกจะสวยกวาคืนที่ไมมีเมฆเลย เพราะความแตกต างจากสิ่ งที่ เคยเป นกับสิ่ งที่ ปรากฏ
ขึ้นมา จะประทับใจมาก


พระพุทธเจาสอนว าจิ ตใจของเรา การกระทํ าของเราในอดีตเคยเปนอยางไร ไมจําเปนตองเปน
อยางนั้นตลอดไป เราทุกคนสามารถกลับตัว ตั้งตนไวใหม เปลี่ยนจากคนประมาทเปลี่ยนเปนคน
ไมประมาทได ถาเราทํ าอยางนั้นไดพระพุทธองคทรงสรรเสริญ และบอกว าเปนสิ่งที่ งดงามนาดูมาก
วันนี้สามขอในบทที่ สอง ข อแรก ข อแรก ข อแรก ข อแรกความสําคัญของการเกิดในประเทศอันสมควรซึ่งเกิดจากการสราง
ความผูกพันกับพระพุทธศาสนาในอดีต ข อที่ สอง ข อที่ สอง ข อที่ สอง ข อที่ สอง มงคล ความดีความงาม ความสุข ความสบาย
ที่เกิดจากนิสัยดี ๆ ที่เราเคยสรางสมไว ทั้งในชาตินี้ในชาติกอน ข อที่ สาม ข อที่ สาม ข อที่ สาม ข อที่ สามการมีเปาหมายชีวิ ตที่ชัดเจน
การตั้งตนไวดีแลว เมื่อเราเผลอหรือเราลืม การตั้ งตนไวใหมก็เรียกวาเปนการตั้งตนไวชอบเหมือนกัน
วันนี้คงพอสมควร …

You might also like