 เป็นปรากฎการณ์ถา่ ยโอนพล ังงานจากจุดหนึง่

่ ก
ไปสูอ ี จุดหนึง่

 อนุภาคของต ัวกลางทีค ่ ลืน

่ เคลือ
่ นทีผ
่ า่ นเกิด
การสน่ ั โดยไม่มก
ี ารเคลือ
่ นทีต่ ามคลืน่
 1.1 คลืน ่ กล (Mechanical wave) คือ
คลืน
่ ทีต่ อ
้ งอาศยต ั ัวกลางในการสง ่ ผ่านพล ังงาน
่ คลืน
เชน ่ น้ำ คลืน ี ง คลืน
่ เสย ่ ในเสน ้ เชอ
ื ก
คลืน่ ในสปริง เป็นต้น

1.2 คลืน
่ แม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic
wave) คือ คลืน ่ ทีไ่ ม่ตอ
้ งอาศยต ั ัวกลางในการ
่ ผ่านพล ังงาน แต่จะใชว้ ธ
สง ิ เี หนีย
่ วนำ
 2.1 คลืน ่ ตามขวาง (Transverse wave)
คือ คลืน่ ทีอ่ นุภาคต ัวกลางมีการเคลือ ่ นทีใ่ นแนวตงั้
ฉากก ับทิศทางการเคลือ ่ นทีข
่ องคลืน
่ แผ่ออกไป
เชน่ คลืน ่ ในเสน ้ เชอ
ื ก คลืน่ ผิวน้ำ และ
คลืน่ แม่เหล็กไฟฟ้า
 2.2 คลืน ่ ตามยาว (Longitudinal wave)
คือ คลืน ่ ทีเ่ กิดจากอนุภาคต ัวกลางเคลือ ่ นทีไ่ ปกล ับ
หรือสน่ ั ในแนวเดียวก ับทิศทางทีค ่ ลืน
่ เคลือ่ นทีไ่ ป
เชน่ คลืน ่ เสย ี ง คลืน
่ ทีเ่ กิดจากการอ ัด และขยาย
ของสปริง เป็นต้น
 3.1 คลืน ่ ดล (Pulse Wave) คือคลืน ่ ทีเ่ กิด
จากการสน ่ ั ของแหล่งกำเนิด หรือรบกวนต ัวกลาง
่ งเวลาสน
เป็นชว ั้ ๆ ทำให้เกิดคลืน
่ แผ่ออกไปจำนวน
น้อยๆ เพียง 1 หรือ 2 คลืน ่

3.2 คลืน ่ ต่อเนือ ่ ง (Continuous Wave) คือ

คลืน่ ทีเ่ กิดจากการสน ่ ั ของแหล่งกำเนิด รบกวน
ต ัวกลางอย่างต่อเนือ ่ ง ทำให้เกิดคลืน ่ แผ่ออกไป
อย่างต่อเนือ ่ ง