สืบทอดจตนารมณ์วีรชนเดือนพฤษภา -เมษายน

“ทุกคนเท่ากัน”

เปลวเทียน ส่องทาง

ประวัติศาสตร์การเมืองไทย เมื่อวันที่ 23 กุมพาพันธ์

2534 ได้เขียนไว้ว่า มีการยึดอำานาจโดยการรัฐประหารของ
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (รสช.) จากรัฐบาลชาติชาย
ชุณหวัณ(ซึ่งเป็ นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรก หลัง
จากสิ้นสุดระบอบเปรมาธิปไตย ในยุค “ประชาธิปไตยครึง่
ใบ”) นำาโดยพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ผ้บ
้ ัญชาการทหาร
ส้งสุดในขณะนั้ น
และนั บเป็ นเวลาร่วม 18 ปี แล้วที่ สังคมไทยได้ส้ญเสีย
วีรชนผ้้หาญกล้าต่อส้้กับระบอบเผด็จการทหารสุจินดาส่วน
เสี้ยวหนึ่ งของระบอบอำามาตยาธิปไตย ในเหตุการณ์พฤษภา
ทมิฬเมื่อปี 2535

การต่อส้้และเจตนารมณ์ของวีรชนเดือนพฤษภา ก็เพื่อ
ต้องการให้สังคมไทยเป็ นประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีต้อง
มาจากการเลือกตั้ง และผลพวงจาการเสียสละเลือดเนื้ อ
ชีวิตของวีรชนทำาให้มีรฐั ธรรมน้ ญฉบับ 2540 รัฐธรรมน้ ญที่

1
ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุดในสังคมไทย และทำาให้
สื่อมวลชนไทยมีเสรีภาพมากขึ้น

การรัฐประหาร 2549 โดยเผด็จการคมช. เพื่อยึดอำานาจ

จากรัฐบาลทักษิณที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
โดยมีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำาโดย สนธิ
ลิ่มทองสกุล พิภพ ธงไชย จำาลอง ศรีเมือง สมเกียรติ
พงษ์ไพบ้ลย์ สมศักดิ์ โกสัยสุข สุรย
ิ ะใส ตักกะศิลา
เป็ นต้น (ล้วนเคยร่วมต่อส้้ในเหตุการณ์พฤษภา 35 )

มีองค์กรประชาสังคม ผ้ด
้ ีมีคุณธรรมต่างๆ เช่น ประเวศ
วะสี อานั นท์ ปั นยารชุณ พลเดช ปิ่ นประทีป ไพบ้ลย์
วัฒนธรรมศิร ิ สุลักษณ์ ศิวลักษ์ รสนา โตสิตระก้ล
สมชาย หอมละออ สุรช
ิ ัย หวันแก้ว จรัส สุวรรณมาลา
โคทม อารียา สมชาย แสวงการ และอีกหลายๆคนร่วม
สนั บสนุ นทั้งทางตรงและไม่เปิ ดเผย ซึ่งหลายคนก็ได้
ประโยชน์อำานาจตำาแหน่งในสภานิ ติบัญญัตแห่งชาติ(สนช.)
และสมัยรัฐบาลสุรยุทธ์ ตลอดทั้งสื่อมวลชน เช่น ASTV
ผ้้จด
ั การ สื่อเครือเนชัน
่ เป็ นต้น ที่ทำาหน้าที่ใส่ร้ายป้ ายสี
แต่งเติมข้อม้ลข้อเท็จจริง เพื่อสนั บสนุ นอย่างเปิ ดเผยด้วย
เช่นกัน

2
การต่อส้้และเจตนารมณ์ของวีรชนไพร่คนเสื้ อแดง ก็เพื่อ
ต้องการให้สังคมไทยเป็ นประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีต้อง
มาจากการเลือกตั้ง โค่นล้มระบอบอำามาตยาธิปไตย ที่มี
อำานาจกองทัพเป็ นฐานสำาคัญทางกองกำาลัง โดยมีหลักการ
สำาคัญที่ไม่ต้องการให้อำานาจนอกระบบ เช่น องคมนตรี
กองทัพ ศาล ฯลฯ แทรกแซงทางการเมือง

การต่อส้้เพื่อประชาธิปไตยของวีรชนเดือนพฤษภาคม นั้ น
ถ้กชนชั้นปกครองในช่วงนั้ นกล่าวหาใส่ร้ายป้ ายสีเพื่อ
ทำาลายความชอบธรรมว่า เป็ นพวกคอมมิวนิ สต์ ต้องการส
ภาเปชิเดี่ยม

การต่อส้้เพื่อประชาธิปไตยของวีรชนคนเสื้ อแดง ถ้กรัฐบาล

์ นชั้นปกครองปั จจุบัน ใส่ร้ายป้ ายสีเพื่อทำาลาย
อภิสิทธิช
ความชอบธรรมว่า เป็ นพวกก่อการร้าย ล้มสถาบัน

กล่าวได้ว่า โดยเนื้ อแท้แล้ว เจตนารมณ์วีรชนเดือนพฤษภา

และเจตนารมณ์ของวีรชนไพร่คนเสื้ อแดง เป็ นเจตนารมณ์
เดียวกัน ก็เพื่อต้องการให้ประชาธิปไตยในสังคมไทยสมบูรณ์
ต้องการให้อำานาจอธิปไตยเป็ นของประชาชน ต้องการให้เสียง

3
ประชาชนเป็ นเสียงสวรรค์ และต้องการบอกว่า ทุกคนมีหนึ่ ง
์ นึ่ งเสียงเท่ากันในการเลือกผู้บริหารผู้ปกครองประเทศ
สิทธิห
ที่มีกติกา มีวาระที่แน่นอน

ไม่ว่าพวกเขาไพร่หรือผู้ดีอำามาตย์ ไม่ว่าพวกเขาจบป.4 หรือ

ดอกเตอร์ ไม่ว่าพวกเขาเป็ นผู้หญิง ผู้ชายหรือเพศที่สาม
ไม่ว่าพวกเขาเป็ นเศรษฐีหรือยากจก ไม่ว่าพวกเขานายทุน
หรือกรรมกรลูกจ้าง ไม่ว่าพวกเขาชาวนาหรือนายทุนเจ้า
ที่ดิน ฯลฯ
เพราะ………ทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน

เจตนารมณ์วีรชนเดือนพฤษภาและเจตนารมณ์ของวีรชน
ไพร่คนเสื้ อแดง เป็ นเจตนารมณ์ท่ีไม่ต้องการให้สังคมไทย
์ น” ไม่ต้องการให้สังคมไทย
เป็ นสังคมที่มี”ระบอบอภิสิทธิช
เป็ นสังคม”สองมาตรฐาน” ไม่ต้องการให้สังคมไทยล้าหลัง
คำ่าครึ ไม่ต้องการให้สังคมไทยไร้อารยะ ไม่ต้องการให้
สังคมไทยเป็ นสังคมที่ไร้เสรีภาพ และไม่ต้องการให้สังคม
ไทยเป็ นสังคมที่คนเพียงหยิบมือเดียวเอารัดเอาเปรียบกดขี่
คนส่วนใหญ่ในแผ่นดิน
เพราะ…… คนเราล้วนเท่าเทียมกัน

4
วีรชนเดือนพฤษภาและวีรชนไพร่คนเสื้ อแดง พวกเขาจึง
เลือกที่ลุกขึ้นส้้กับอำานาจอธรรม พวกเขาจึงยืนหยัดต่อส้้
ด้วยแนวทางสันติ อสิงหาและปราศจากอาวุธ
พวกเขาสละได้แม้แต่ชีวต
ิ เพื่ออนาคตของสังคมไทย เพื่อ
คนรุ่นหลัง เพื่อพวกเราทุกคน

ขอคารวะจิตใจกล้าส้้ กล้าเสียสละของวีรชนเดือนพฤษภา
35 และวีรชนไพร่คนเสื้ อแดงเดือนเมษายน 53