Professional Documents
Culture Documents
Interview
Interview
การหาความรู ้ เกียวกับงาน
วิธีหาความรู ้ ง่าย ๆ คือ หาเอกสารต่าง ๆ ทีเกี ยวข้ องมาอ่าน ติดตามเรืองของ (บริ ษ ั ท) ที
ปรากฏในหนังสื อพิมพ์ รายงานประจํ าปี ความเห็นของคนทีอยู่ในสาขางานนั น ๆ รวมทั งคู่แข่งด้ วย
และในปั จจุบ ั นนี ยิ งสะดวกง่ายดายขึ นโดยการค้นหาจากเว็ บไซต์ของบริ ษ ั ท หรื อหน่วยงานนั นๆ
การเตรียมพูดถึงความสามารถของผู ้ สมัคร
เป็ นเรื องทีสําคั ญทีสุ ดทีผู ้ สมั ครต้ องทํ า โดยอาจจะทํ าการ์
ดขนาด 3" x 5" ด้ านหนึ งให้เขียน
สิ งทีผู้สมั ครต้ องการให้นายจ้ างรู ้ เกียวกั บตั วผู ้สมั คร 5 อย่าง อีกด้ านหนึ งให้จดคํ าถามทีผู้สมั คร
ต้ องการถามนายจ้ างในระหว่างการสัมภาษณ์เอาไว้ 5 คํ าถาม เอาไว้ ให้พร้อม และซ้อมถาม ซ้อม
ตอบคํ าถามต่าง ๆ ทั ง10 ข้ อนี ให้คล่องแคล่ว ให้บิดามารดาหรื อคนในครอบครัวและเพือนสนิทฟัง
การถาม-ตอบ ของผู ้ สมัคร และแก้ไขตามทีเขาวิจารณ์
ภาษากายในการสอบสั มภาษณ์
ภาษากายมีความสําคั ญในการสอบสัมภาษณ์มาก ในปั จจุบ ั นหลั กสู ตรการฝึ กอบรมด้านการ
บริ หารและการสัมภาษณ์มั กบรรจุเนื อหาเกียวกั บ "ภาษากาย" และการแปลความหมายเอาไว้ ด้วย
ฉะนั น
1. ผู ้ เข้าสอบสัมภาษณ์ อย่าพูดโกหก หรื อเสแสร้ งใดๆ
2.ผู ้ สัมภาษณ์ต ้องการเห็นผู ้ สมั ครมีความเชือมั น เพราะผู ้ มีความเชือมั นย่อมตอบคํ าถามและ
ให้ข ้ อมูลแก่ผู ้สัมภาษณ์ด้วยการแสดงความคิดริ เริ มสร้างสรรค์ และโต้ ตอบปัญหาต่างๆ
วิธีลดความตืนเต้ นและสร้ างความเชือมั น คือหาความรูเกี้ ยวกั บคนในหน่วยงานนั น และ
ซ้อมการถามตอบสัมภาษณ์ก ั บเพือนสนิท ถ้าไม่สามารถหาเพือนมาช่วยได้ ให้ใช้เทปอั ดเสี ยงพูด
ของผู ้ สมั คร อย่าหยุดแม้จะพูดได้ ไม่ดี อย่าลบเทปทิ ง แล้ วอั ดใหม่ครั งแล้วครั งเล่า เพราะฟั งแล้วไม่
ชอบใจ แต่ให้ฟังเหมือนกั บว่าผู ้ สมั ครฟั งเสี ยงใครอยู่ก็ไม่รู้ ลองวิ จารณ์ว่านํ าเสี ยงน่าสนใจและเชือ
ได้ หรื อไม่ ให้ ฝึ กจนกว่าจะพอใจ และไม่ว่าจะฝึ กกั บเพือน หรื อฝึ กกั บเทป อย่าใช้บทพูด คนเราไม่
จําเป็ นต้ องพูดเหมือนกั นทุกครั ง ทุกครั งทีท่านพยายามพูดเหมือนเดิมแต่ใช้ ค ํ าพูดแตกต่างออกไป
จะทํ าให้ผู ้สมั ครเพิ มความมั นใจขึ น
3. การแต่งกายในวั นสอบสัมภาษณ์ เสื อผ้ าทีใช้แต่งในการเข้าสัมภาษณ์ควรเป็ นชุ ดทีสุ ภาพ
สะอาด ดูว่าผู้ สมั ค รให้ความเอาใจใส่ ต ั งแต่หัวจรดเท้ า ทั งรู ปแบบและสี สันควรเข้ ากั นได้ก ั บ
วั ฒนธรรมการแต่งกายของพนั กงานในหน่วยงานทีท่านเข้ ารับการคิดเลือก
4. ยกมือไหว้ท ั กทาย ถ้ าผู ้ สัมภาษณ์จั บมือ ให้จ ั บอย่างกระชั บอย่างจั บนานเกินไป ขณะจั บ
มือให้มองหน้าและยิ มให้ ก่อนอืนผู ้ สมั ครต้องให้เวลากั บตั วเองทีจะทํ าให้ต ั วให้สบาย การมอง
รอบๆ ห้องจะทํ าให้รู้สึกผ่อนคลายได้บ้ าง สบตากับผู ้ สัมภาษณ์หายใจลึกๆ เว้ นระยะ และ
เตรี ยมพร้ อมทีจะฟั งผูส้ ัมภาษณ์
5. ท่าทางการนั งในขณะสอบสัมภาษณ์ให้น ั งสบาย ๆ ไม่ยืนตั ว ไม่ค ํ าโต๊ะ นั งมั นคง ก้นชิด
หนั ก วางแขนไว้ ข ้างลํ าตั ว อย่านั งแบบพั กผ่อน วางศีรษะนิ ง อย่าหลบตา แต่อย่าถึงกับจ้ องเขม็ง
ขณะผู ้ สัมภาษณ์พูด ให้มองผู ้พูด ขณะตอบ ให้กวาดสายตามองกรรมการสอบทุก ๆ คน
6. ขณะตอบให้สังเกตว่ าผู้สัมภาษณ์สนใจฟั งผู ้ สมั ครหรื อไม่ ถ้าไม่ฟังให้ เปลียนจั งหวะการ
พูด คํ าแนะนํ าให้ใช้โดยความระมั ดระวั ง ถ้ าตอบไปแล้วผู ้ สัมภาษณ์มีท่าทางสงสัย ให้พิจารณาดูว่า
ผู ้ สมั ครได้ พูดอะไรไป และเรี ยนถามผู ้ สัมภาษณ์ว่าต้ องการข้อมูลอะไรเพิ มเติมอีก
แนวคําถามและตอบในการสอบสั มภาษณ์
ผู ้ สมั ครควรศึกษาแนวคํ าถาม และตอบอย่างคร่ าวๆ ว่ า คํ าถามในการสอบสัมภาษณ์จะเป็ น
อย่างไรได้บ้ าง และเมือเผชิญกับคํ าถามประเภทนี จะต้องตอบในลั กษณะใดจึงจะเหมาะสมและมี
นํ าหนั กพอทีจะทํ าให้เรามีความโดดเด่นกว่าผู้ สมั ครรายอืนๆ ได้
2. การศึกษาและการฝึ กงาน
แนวถาม: คํ าถามลั กษณะนี จะมุ่งไปยั งการหาข้ อมูลเกี ยวกั บการเรี ยนและคะแนนทีผู ้ สมั ครได้ รับ
โดยเฉพาะอย่างยิ งในกรณีทีผู ้ สมั ครไม่มีประสบการณ์การทํ างานมาก่ อนเลย หรื อมีบ้างนิดหน่อย ผู ้
สัมภาษณ์ก็จะเน้ นไปยั งจุดนี และนอกจากนี ก็อาจจะรวมคํ าถามเกียวกับกิจกรรมนอกหลั กสู ตร เข้ า
ไว้ ด้วย เช่ น การเป็ นสมาชิกของชมรมต่างๆ ระหว่ างเรี ยน ข้ อมูลเหล่านี จะช่ วยให้ผู ้ สัมภาษณ์ท ํ าการ
ประเมินผลการให้คะแนนได้ ง่ายขึ น เพราะพอจะมองออกว่าผู ้ สมั ครเป็ นคนเช่นไร
แนวตอบ: ในทํ านองเดียวกัน คํ าถามเกียวกั บการศึ กษาและการฝึ กงานก็ง่ายต่อการตอบเช่ นกั น นอก
เสี ยจากผู ้ สมั ครไม่ได้ เตรี ยมการไว้ ล่วงหน้า ในกรณี ทีผู ้ สมั ครทํ าคะแนนได้ ไม่ดี ผู ้ สัมภาษณ์ก็อาจจะ
ถามถึงสาเหตุทีทํ าให้เขาได้ คะแนนไม่ดีน ั น แต่ผู ้ สมัครก็ไม่ควรจะแก้ตั วไปเสี ยทุกกรณี ไป ควร
ยอมรั บในจุดด้อยของตนเองบ้ าง เพราะความจริ งแล้ ว ผู้ สัมภาษณ์อาจไม่ต ้ องการถามลึกไปถึง
เหตุผลของการทํ าคะแนนได้ ดีหรื อไม่ดี แต่ทีถามเพราะต้ องการทีจะทดสอบว่า ผู ้ สมั ครมี
ความสามารถในการแสดงออกได้ ดีแค่ไหนเพียงใดเมือต้ องเผชิ ญกั บคํ าถามในลั กษณะนี
3. ประสบการณ์ ในการทํางาน
แนวถาม: ทีจริ งแล้ วในจดหมายสมั ครงาน และประวั ติย่อก็จะให้รายละเอียดเกี ยวกั บประวั ติการ
ทํ างานอยู่แล้ว แต่ทีต้ องถามลึกลงไปอีก ก็เพือดูรายละเอียดอืนๆ เป็ นต้นว่า ความสามารถในการ
ทํ างานเป็ นอย่างไร การทํ าตั วเข้ ากั บเพือนร่ วมงานเป็ นอย่างไร และทํ าไมจึงออกจากงานทีว่านี
4. สิ งกระตุ้นและแรงดลใจ
แนวถาม: ผู ้ สัมภาษณ์อ าจต้ องการทราบสิ งกระตุ ้ นใจ และความกระตือรื อร้ นของผู ้ สมั ครว่าสนใจ
งานประเภทใดเป็ นพิเศษ ซึ งก็อาจจะถามคํ าถามประเภท เช่น ทํ าไมเลือกสมัครตําแหน่งนี คํ าถามใน
ลั กษณะนี ผู ้ สัมภาษณ์สามารถตรวจสอบได้ ว่าผู ้ สมัครมีความทะเยอทะยานสู งหรื อตํ าไป และมีทาง
เป็ นไปได้หรื อไม่ หรื อเป็ นแค่เพียงความฝั นเท่านั น
แนวตอบ: ผู ้ สมั ครควรรู ้ต ั วเองว่ า เราต้องการทํ าอะไรในขณะนี มีแผนการอะไรบ้ าง และในอนาคต
มีแผนการอะไร ไม่ควรตอบว่า ยั งไม่มีแผนการทีแน่นอน เพราะจะทํ าให้ดูเหมือนว่า เป็ นคนหลั ก
ลอย และไม่สามารถรับผิดชอบตั วเองได้
ควรแสดงความกระตือรื อร้ นและความทะเยอทะยานแต่พอดี ไม่มากหรื อน้ อยเกินไป และ
ผู ้ สมั ครไม่ควรแสดงออกถึงความเป็ นผู ้มีความทะเยอทะยานจนเกินไป เพราะจะทํ าให้พลาดโอกาส
ได้ ทีเป็ นเช่นนี ก็เพราะว่าผู้สัมภาษณ์อาจมองว่ าผู ้สมั ครมีความทะเยอทะยานมาก อาจไม่ค่อยจะ
พอใจกั บอะไรได้ง่าย ๆ และอาจจะอยู่ทํ างานได้ ไม่นานก็ออกไปหางานใหม่ทํ า ซึ งจะทํ าให้บริ ษ ั ท
เสี ยเงินและเสี ยเวลาในการคั ดเลือกผู ้ สมัครประเภทนี ไปโดยเปล่าประโยชน์
คํ าถามว่ า “ถ้ าคุณต้องไปทํ างานต่างจั งหวั ดคุณจะไปได้หรื อไม่” ก็ไม่ควรด่วนตั ดสิ นใจ
ปฏิเสธ ควรคิดดูให้รอบคอบเสี ยก่อน หรื อถ้ าไม่มีปัญหาอะไร ก็ควรแสดงให้เห็นว่า เรามีความ
ต้ องการทํ างานนี จริ งๆ แต่ท ั งนี ผู ้ สมั ครก็ควรเตรี ยมให้พร้ อมว่าสามารถปฏิบ ั ติตามนั นได้ หรื อไม่
6. ความชํานาญพิเศษ
แนวถาม: งานประเภททีต้องอาศั ยชํ านาญพิเศษ เช่น ทางด้านวิ ทยาศาสตร์ หรื องานประเภทวิ ชาชี พ
ต่าง ๆ ซึ งในการทดสอบผู ้ สมั ครนั น นอกจากจะให้ผู ้ สมั ครทํ าข้อสอบข้ อเขียนแล้ ว ผู ้ สัมภาษณ์
อาจจะต้ องการรายละเอียดเพิ มเติม โดยเรี ยกเข้ ารับการสอบสัมภาษณ์อีกครั งหนึ ง ก่ อนตั ดสิ นใจรับ
ผู ้ ใดผู ้ หนึ งเข้าทํ างาน และการให้มีก ารสอบสัมภาษณ์ด้ วยนี ยั งจะสามารถทดสอบได้ว่ า ผู ้ สมั ครมี
ความฉับไวในการตอบข้ อซักถามได้ ดีเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ งในช่วงเวลา เร่ งด่วน จะแก้
สถานการณ์เฉพาะหน้ าได้ดีเพียงใด เป็ นต้ น
แนวตอบ: ควรติดตามข่าว และความเคลือนไหวในเหตุการณ์รอบๆ ตั วเรา โดยผ่านสื อต่าง ๆ เช่น
โทรทั ศน์ วิ ทยุ และหนั งสื อพิมพ์ หรื อนิตยสารต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ ง ความเคลือนไหวและ
กิจการของบริ ษ ั ทหรื อหน่วยงานทีเราต้ องการสมั คร เข้าทํ างานนั น ให้มากทีสุ ดเท่าทีจะมากได้
7. สุ ขภาพ
แนวถาม: โดยมากเกี ยวกั บเรื องสุ ขภาพนี ผู ้ สัมภาษณ์สามารถดูได้จากใบรับรองแพทย์ทีแนบมา
ด้ วย แต่บางครั งทีต้องถามเกียวกับเรื องสุ ขภาพอีก ก็เพราะว่างานบางอย่างก็ต้ องการทราบ
รายละเอียดเกียวกั บสุ ขภาพเป็ นพิเศษ
แนวตอบ: เกี ยวกั บเรื องสุ ขภาพนี ก็คงไม่ต้ องเตรี ยมตั วอะไรมาก เพียงแต่ตอบไปตามความจริ ง และ
ควรพิจารณาดูวา่ สุ ขภาพของเราเป็ นอย่างไร เป็ นอุปสรรคต่องานทีจะทํ าหรื อเปล่า และงานนั นระบุ
คุณสมบั ติของผู ้ สมั ครไว้ อย่างไร