You are on page 1of 5

1

คําวินิจฉัยศาลฎีกา ณ วันศุกร์ ที 26 กุมภาพันธ์ 2553 โดย ไพศาล พืชมงคล @paisalvision (รวบรวมโดย @moui)

• ศาลกําลังวินิจฉัยเรื องการถือหุน้ แทน


• ประเด็นที ๒ อัยการมีอาํ นาจยืนคําร้องคดีน" ีหรื อไม่
• ศาลกําลังตั"งประเด็นวินิจฉัยเกียวกับการใช้อาํ นาจหน้าทีแล้ว
• ศาลวินิจฉัยสรุ ปประเด็นนี"วา่ ผูร้ ้องมีอาํ นาจยืนคําร้องคดีน" ี
• คําพิพากษาจะมี ๔ ส่วนๆแรกเป็ นการสรุ ปคําร้องของอัยการ ส่วนทีสองเป็ นการสรุ ปคําคัดค้านของผูค้ ดั ค้านทุกราย
• ส่วนทีสามเป็ นการสรุ ปการสืบพยานของทั"งสองฝ่ ายและทีศาลเรี ยกมาตามระบบไต่สวน
• ส่วนที ๔ เป็ นการวินิจฉัยทั"งข้อเท็จจริ งและข้อกฎหมายและสรุ ปคําตัดสิ น
• ขณะนี"ศาลกําลังสรุ ปเรื องการนําสืบพยานหลักฐานโดยสรุ ปส่วนทีไม่ได้โต้แย้งกันแล้วจะสรุ ปส่ วนทีต่างกันต่อไป
• ศาลกําลังสรุ ปการถือหุน้ ก่อนทีทกั ษิณจะเป็ นนายก และกําลังเเริ มต้นเกียวกับการเพิมทุน
• ศาลกําลังสรุ ปเกียวกับเรื องเงินปันผลว่าใครได้รับเท่าใด รวม ๖ พันกว่าล้าน
• ศาลกําลังสรุ ปเกียวกับ คตส.ว่ามีอาํ นาจหน้าทีอย่างไรและทํางานอย่างไร และศาลจะพิจารณาการใช้อาํ นาจของทักษิณและ
เรื องรํารวยผิดปกติตอ่ ไป
• ศาลสรุ ปความเห็นของ คตส. ต่อไปจะวินิจฉัยประเด็นพิพาททีโต้เถียงกัน
• ประเด็นแรกทีกาํ ลังวินิจฉัยคือ คตส.มีอาํ นาจหรื อไม่อย่างไร ได้ยกประกาศ คมช.ฉบับที ๓๐ ขึ"นสรุ ปว่าเป็ นอย่างไร
• ศาลวินิจฉัยว่าศาล ฎีกาฯมีอาํ นาจพิจารณาพิพากษาคดีน" ีตามประกาศ คมช.ฉบับที ๓๐และ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญ คดีน" ี
ไม่ใช่คดีละเมิดดังทีผคู ้ ดั ค้านสู้
• ศาลวินิจฉัยว่า คตส.มีอาํ นาจตรวจสอบคดีน" ี ภายใต้อาํ นาจตามประกาศ ฉบับที ๓๐ และมีอาํ นาจตั"งอนุกรรมการไต่สวนได้
ด้วย
• วินิจฉัยต่อไปว่าเมือ คตส.ตรวจสอบไม่เสร็จในหนึงปี ก็ให้ ปปช.ดําเนินการต่อได้ และ ปปช.มีอาํ นาจดําเนินการต่อไปได้
• ศาลวินิจฉัยต่อไปว่า คตส.ได้ให้โอกาสผูถ้ ูกกล่าวหาชี"แจงและขอพิ◌ุสูจน์ทรัพย์สินอย่างเต็มที ไม่ได้ปิดกั"นผูถ้ ูกกล่าวหา
ตามทีอา้ ง
• ศาลวินิจฉัยว่านายกล้า ณรงค์ นายบรรเจิดและนายแก้วสรร ไม่มีส่วนได้เสียหรื อคุณสมบัติตอ้ งห้ามหรื อเป็ นปรปักษ์กบั ผู้
ถูกกล่าวหาตาม ทีกล่าวอ้าง
• ศาลวินิจฉัยว่า ปปช.แต่งตั"งตามประกาศ คมช.และรัฐธรรมนูญรับรองความชอบด้วยกฎหมายและให้ทาํ หน้าทีต่อไปจึงมี
อํานาจตามกฎหมาย
• ศาลวินิจฉัยเรื องทรัพย์สินทีผูค้ ดั ค้านต่อสูว้ า่ ไม่ได้แยกให้ชดั เจนผิดขั"นตอนว่าเป็ นหน้าทีผกู ้ ล่าวสหาต้องพิสูจน์ต่อศาล
• ศาลวินิจฉัยข้อต่อสูเ้ รื องสํานวนไม่สมบูรณ์วา่ ข้อไม่สมบูรณ์น" นั อัยการและ ปปช.ได้ร่วมกันพิจารณาแล้วชอบด้วยกฎหมาย
• ศาลวินิจฉัยว่าคดีน" ีไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็ นคดีร ํารวยผิดปกติ ศาลฎีกาไม่จาํ ต้องรอฟังผลคดีอาญาทีคา้ งอยูใ่ นศาลและไม่ตอ้ ง
พิจารณาต่อหน้า
• ศาลกําลังตั"งประเด็นวินิจฉัยเกียวกับการใช้อาํ นาจหน้าทีของทักษิณทีเกียวกับคดีน" ี
2

• ศาลวินิจฉัยว่าคําร้อง ของผูร้ ้องไม่เคลือบคลุม และครบถ้วนตามกฎหมายและไม่จาํ ต้องบรรยายรายละเอียดของทรัพย์สิน


เพราะเป็ น เรื องต้องพิสูจน์ในศาล
• ศาลวินิจฉัยว่าการออกตัวB สัญญาใช้เงินิของผูค้ ดั ค้านที ๕(บรรณพจน์)แก่ผคู้ ดั ค้านที ๑ (พจมาน) มีพริ ุ ธ
• ศาลกําลังสรุ ปและพิจารณาพยานทีเกียวกับการเพิม ทุน การจ่ายค่าหุน้ การออกตัว เงิน การไม่คดิ ดอกเบี"ย และการโอนหุน้
• ศาลวินิจฉัยว่าการซื"อหุน้ เพิม ทุนของชินคอร์ปของบุคคลต่างๆ เป็ นการซื"อและถือแทนผูถ้ ูกกล่าวหาและผูค้ ดั ค้า◌่นที ๑
(ทักษิณและภริ ยา)
• ศาลวินิจฉัยว่าการประเมินภาษีและการรํารวยผิดปกติเป็ นคนละเรื องกัน ข้อต่อสูฟ้ ังไม่ข"นึ
• ศาลกําลังสรุ ปพยานเกียวกับเครื อข่ายการประกอบธุรกิจโทรคมนาคมทั"งระบบว่าเชือมโยงกันอย่างไร
• ศาลวินิจฉัยว่าผู ้ ถูกกล่าวหาและผูค้ ดั ค้านที ๑ ถือหุน้ ชินคอร์ปเกินครึ งมีอาํ นาจควบคุมบริ ษทั ผ่านทางกรรมการแม้ในขณะที
ผูถ้ ูกกล่าวหาเป็ นนายก
• ศาลกําลังจะวินิจฉัยว่าใครเป็ นผูด้ าํ เนินการในการขายหุน้ ชินแก่เทมาเส็ก
• ข้อเท็จจริ งกําลังชี"ไปว่าใครคือผูด้ าํ เนินการเจรจาและขายหุน้ ชินแก่เทมาเส็ก
• ศาลวินิจฉัยข้อเท็จจริ งเป็ นเอกฉันท์วา่ ทักษิณและพจมานเป็ นเจ้าของหุน้ ในขณะเป็ นนนายกทั"ง ๒ วาระ
• ศาลกําลังพิจาณาการยกเลิกค่าสัมปทานโทรศัพท์แล้วออกกฎหมายสรรพสามิตว่าเป็ นการใช้อาํ นาจไม่ชอบหรื อไม่
• ศาลวินิจฉัยว่าการเก็บภาษีสรรพสามิตก็เพือเก็บรายได้เข้ารัฐ การทีให้เอาค่าสัมปทานโทรศัพท์มาหักจากอัตราภาษีจึง
ขัดแย้งกัน
• ศาลกําลังจะวินิจฉัยเรื องภาษีสรรพสามิตพอดีข" นึ เพลงชาติ จึงฟังไม่ได้
• ศาลวินิจฉัยว่าการให้เอาค่าสัมปทานไปหักจากภาษีสรรพสามิตทําให้ ทศท.เสียเปรี ยบและเสี ยหายอย่างรุ นแรง
• ศาลวินิจฉัยว่าการทําเช่นนั"นทําให้ผปู ้ ระกอบการรายใหม่มีรายจ่ายสูงกว่าเอไอเอสมาก ยากทีผปู ้ ระกอบการรายใหม่จะเกิด
ได้
• ศาลวินิจฉัยด้วยเสียงข้างมากว่าการให้เอาค่าสัมปทานไปหักจากอัตราภาษีสรรพสามิตเป็ นการเออื"ประโยชน์แก่ชินคอรปทํา
ให้รัฐเสียหาย
• ศาลกําลังวินิจฉัยเรื องการลดอัตราค่าสัมปทานให้เอไอเอสเรื องบัตรเติมเงินค่าโทรศัพท์ล่วงหน้า
• ศาลฟังข้อเท็จจริ งตอนนี"วา่ การให้บริ การของเอไอเอสกับแทค และค่าบริ การปกติกบั บัตรเติมเงินล่วงหน้าต่างกัน
• ศาลเห็นว่าเอไอเอสไม่สามารถอ้างกรณี ลดค่าเชือมต่อของแทค มาเป็ นเหตุผลเพือลดเงินทีตอ้ งจ่ายแก่ ทศท ได้
• ศาลวินิจฉัยว่าการลด ค่าส่วนแบ่งหรื อค่าสัมปทานให้เอไอเอสในบริ การพรี เปดหรื อบัตรเติมเงินล่วง หน้าเป็ นการเออื"ประ
โยชนให้เอไอเอสแต่Hทาํ ให้รัฐเสียหาย
• ศาลกําลังพิจารณาข้อหาต่อไปคือเรื องการแก้ไขสัญญาโทรศัพท์วา่ เออื"ประโยชน์แก่เอไอเอสและชินคอรปหรื อไม่
• เนื"อหาข้อนี"คอื การใช้เครื อข่ายร่ วมกับผูใ้ ห้บริ การรายอืนทีตอ้ งจ่ายค่าใช้โครงข่ายว่าเป็ นค่าใช้จ่ายของใคร
• ศาลกําลังสรุ ปข้อเท็จจริ งว่าตามสัญญาสัมปทานระบุให้ใช้โครงข่ายของ ทศท.สัญญาระบุเป็ นหน้าทีเอไอเอสต้องลงทุนให้
พอ
• ศาลกําลังเข้าสู่จุด สําคัญคือเมือไปใช้โครงข่ายคนอืนและมีรายได้ ใครจ้องรับผิดค่าใช้จ่าย ทศทหรื อเอไอเอส แต่สญ ั ญาให้
เป็ นหน้าทีเอไอเอส
3

• ศาลวินิจฉัยด้วยเสียง ข้างมากว่าการแก้ไขสัญญาทีเอาค่าใช้เครื อข่ายมาหักจากส่วนแบ่งรายได้จึง เป็ นการเอื"อประโยชน์ให้


เอไอเอสทําให้รัฐเสี ยหาย
• ศาลกําลังพิจารณาข้อกล่าวหาเรื องการลดค่าใช้เครื อข่ายของ กสท.ให้กิจการในเครื องของชินคอรป
• ศาลวินิจฉัยว่าทําให้รัฐเสี ยหาย
• ศาลวินิจฉัยว่าการใช้เครื อข่ายเป็ นประโยชขน์ของเทมาเสก
• ศาลกําลังพิจารณาข้อหาต่อไปในเรื องดาวเทียมไทยคม ซึงมีประเด็นย่อย ๓ ประเด็น
• ประเด็นย่อยข้อแรกเป็ นเรื องดาวเทียมไอพีสตาร์วา่ มีการใช้อาํ นาจเอื"ประโยชน์ทาํ ให้รัฐเสี ยหายหรื อไม่
• ประเด็นย่อยแรกนี"คือดาวเทียมไอพีสตาร์เป็ นดาวเทียมหลักหรื อดาวเทียวดวงสํารอง ทีจะแทนดาวเทียมไทยคม ๔ ได้
หรื อไม่
• ถ้าไอพีสตาร์เป็ นดาวเทียมหลัก การอนุญาตจะผิดกฎหมายร่ วมทุน ถ้าเป็ นสํารองก็ไม่มีปัญหา
• ศาลสรุ ปข้อเท็จจริ งว่าดาวเทียมไอพีีสตาร์เป็ นดาวเทียวคนละประเภทกับดาวเทียมไทยคมหลัก จึงไม่เป็ นดาวเทียมสํารอง
แต่เป็ นดาวหลักดวงใหม่
• จึงต้องมีดาวเทียมสํารองอีกดวงหนึง แต่กลับเห็นชอบให้เป็ นดาวเทียมสํารองของไทยคม ๓
• ศาลจึงวินิจฉัยว่าการให้ดาวเทียมไอพีสตาร์เป็ นดาวเทียมสํารองจึงเ◌ื◌้อ"ือประโยชน์ให้ชินคอรปและรัฐเสี ยหาย ๔ พันล้าน
บาท
• ศาลกําลังพิจารณาว่าดาวเทียมไอพีสตาร์เป็ นเรื องใหม่นอกสัมปทานของดาวเทียมไทยคม ต้องเปิ ดประมูลให้มีการแข่งขัน
อย่างเป็ นธรรม
• ศาลจึงสรุ ปโดยมติขา้ ง มากว่าไอพีสตาร์เป็ นการได้สมั ปทานไปโดยไม่มีการประมูลตามกฎหมาย และยังได้รับส่งเสริ มการ
ลงทุนเป็ นการเอื"อประโยชน์
• ประเด็นรย่อยที ๒ คือการแก้ไขสัญญาเปลียนสัดส่วนการถือหุน้ ให้ชินคอรปถือหุน้ ในไทยคมน้อยลงว่าเออื"ประโยชน์
หรื อไม่
• ศาลสรุ ปข้อเท็จจริ งว่าสัญญากําหนดสัดส่วนการถือหุน้ ของไทยคมเพือ ความมัน คง ซึงอัยการเคยท้วงว่าการลดสัดส่วนเป็ น
การแก้ขอ้ สําคัญ
• ศาลอ้างคําเบิกความนายบวรศักดิHวา่ นายกโทรศัพท์มาตามเรื อง แต่เมือไม่มีการนําเสนอ ครม. รัฐมนตรี กลับให้แก้ไขสัญญา
ลดการถือหุน้
• ศาลจึงวินิจฉัยโดยมติ ข้างมากว่าการให้ลดสัดส่วนการถือหุน้ โดยไม่เสนอ ครม.เป็ นการไม่ชอบทําให้ชินคอรปไม่ตอ้ ง
จ่ายเงินเพิมทุนแต่ขายหุน้ ในตลาดแทน
• ประเด็นย่อยที ๓ คือการอนุมตั ิให้เอาค่าประกันภัยทีได้รับไปให้บริ ษทั เอาไปเช่าดาวเทียมอืนแทนทีเสี ยหายทําให้รัฐ
เสี ยหายหรื อไม่
• ศาลสรุ ปข้อเท็จจริ งว่าตามสัญญาถ้าดาวเทียมเดิมเสี ยหายได้รับชดใช้คา่ ประกันต้องเอาไปเป็ นค่าซ่อมหรื อหาใหม่
• ต่อมาดาวเทียมไทยคม ๓ เสียหายได้รับค่าประกันมา ไทยคมขอนําเงินไปเช่าช่องสัญญาแทนการสร้างใหม่
• ศาลจึงวินิจฉัยว่าการอนุมตั ิให้บริ ษทั รับเงินค่าสิ นไหมทดแทนไปเช่าช่องสัญญาณจึงผิดสัญญา และไม่ชอบ
4

• ศาลสรุ ปคําวินิจฉัยโดยมติขา้ งมากว่าเรื องไอพีสตาร์ท" งั ๓ ประเด็นเป็ นการใช้อาํ นาจไม่ชอบเอื"อประโยชน์แก่ชินคอรปและ


ไทยคม
• ศาลกําลังวินิจฉัยเรื องการให้กเู้ งินแก่พม่าว่าทําโดยชอบและเอื"อไทยคมหรื อไม่
• ศาลสรุ ปข้อเท็จจริ งว่ากรณีเกียวกับการดําเนินตามนโยบายของรัฐบาลในเรื องโครงสร้างพื"นฐานไม่ใช่โทรคมนาคม
• ศาลระบุวา่ กรมเอเซียเคยติงว่าจะมีขอ้ ครหาว่านายกมีผลประโยชน์เกียวข้องในกรณี เป็ นเรื องโทรคมนาคม
• แต่กลับมีการสัง การให้สินเชือแก่พม่าทางด้านโทรคมนาคม ๔ พันล้าน เพิมจากเดิมแค่ ๓ พัน เป็ น ๔ พันล้านและมีการ
ติดตามความคืบหน้าตลอดมา
• ศาลระบุวา่ การใช้เงินกูข้ องพม่านั"น ไทยคมเป็ นทีปรึ กษาและจัดหา มีผลประโยชน์มาแต่ตน้
• ศาลยังระบุวา่ ในการประชุมระหว่างประเทศ มีพา◌่นทองแท้และเจ้าหน้าทีไทยคมร่ วมไปเจรจากับพม่าด้วย ทีอา้ งว่าไม่
เกียวกันฟังไม่ข" ึน
• ศาลระบุวา่ ทักษิณสัง สุรเกียรติให้บอกพม่าว่าอนุมตั ิการกู้ ๔ พันล้านและลดอัตราดอกเบี"ย ต่อมา ครม ก็อนุมตั ิ
• ต่อมาก็เปลียนเงือนไข ขยายเวลาชําระ ลดอัตราดอกเบี"ยตํากว่าทุน ผิดวัตถุประสงค์ของเอกซิมแบงค์
• มีการสัง ให้ต" งั งบประมาณชดเชยค่าดอกเบี"ยแทนพม่า
• ศาลจึงวินิจฉัยด้วยมติขา้ งมากว่าการอนุมตั ิเงนกูพ้ ม่าเป็ นการเเอื"อประโยชน์แก่ไทยคมและชินคอรป
• ศาลกําลังวินิจฉัยว่าทั"ง ๕ กรณี ทีวินิจฉัยมาเป็ นการใช้อาํ นาจหน้าทีโดยไม่ชอบหรื อไม่
• ศาลกําลังสรุ ปตัวบทกฎหมายเกียวกับอาจนาจหน้าที กระทรวง ทบวง กรม นายก รัฐมนตรี ในการบริ หารว่าเป็ นอย่างไร
• ศาลกําลังสรุ ปบทกฎหมายเกียวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับรัฐวิสาหกิจ ว่าอํานาจสูงสุดและการกํากับเป็ นอย่างไร
• การสรุ ปข้อกฎหมายเพือ แสดงว่าอํานาจของนายกรัฐมนตรี มีอาํ นาจกํากับ ควบคุม สัง การ ให้คุณให้โทษ ต่อส่วนราชการ
รัฐวิสาหกิจอย่างไร
• ศาลเห็นว่านายกมีอาํ นาจกํากับดูแลรับผิดชอบอยูด่ ว้ ย ทั"ง ๕ กรณีนายกเกียวข้อชัดแจ้ง ๒ กรณี คือเรื องภาษีสรรพสามิตและ
ให้กแู้ ก่พม่า
• ศาลเห็นว่าอีก ๓ กรณีทีเหลือ นายกเกีี ยวข้องในฐานะกํากับดูแล
• ศาลโดยเสียงข้างมากเห็นว่าการดําเนินการทั"ง ๕ กรณี เป็ นการใช้อาํ นาจไม่ชอบเอื"ชินคอรป
• ศาลกําลังวินิจฉัยว่าเงินจากการขายหุน้ ทีถูกอายัดจะตกเป็ นของรัฐหรื อไม่
• ศาลเห็นว่าเงินค่าขายหุน้ เป็ นทรัพย์สินทีได้มาโดยไม่สมควรจากการปฏิบตั ิหน้าทีนายก ศาลมีอาํ นาจสัง ให้ตกเป็ นของ
แผ่นดินได้
• ศาลกําลังวินิจฉัยทรัพย์ส่วนของคุณหญิงว่าจะให้ตกเป็ นของแผ่นดินได้หรื อไม่ ได้ความว่าผูค้ ดั ค้านจัดการเรื องการเงิน
ตลอด
• และผูค้ ดั ค้านยังเกียวข้องกับการหลีกเลียงกฎหมาย ทั"งทักษิณและคุณหญิงไม่อาจอ้างว่าเป็ นสิ นสมรสได้ ศาลจึงมีอาํ นาจสัง
ได้
• ต่อไปศาลกําลังวินิจฉัยว่าทัพย์ใดต้องให้ตกเป็ นของแผ่นดินหรื อไม่
• ศาลระบุวา่ ทรัพย์ทีจะให้ตกเป็ นของแผ่นดินคือทีเพิมผิดปกติ หรื อได้มาโดยไม่สมควรในการปฏิบตั ิหน้าที
• ศาลกําลังจะพิจารณาใช้อาํ นาจทั"งตามประกาศ คมช และ กฎหมาย ปปช.
5

• ศาลกําลังพิจารณาส่วนเงินปันผลว่าเพิม ขึ"นผิดปกติหรื อไม่ ซึงต้องถือเรื องรํารวยผิดปกติเป็ นหลัก ต้องเป็ นของแผ่นดินทั"ง


จํานวน
• ส่วนค่าขายหุน้ ต้องแยกส่วนทีมีเดิมและส่วนเพิม ราคาทีเพิมจากวันรับตําแหน่งจึงได้มาโดยไม่สมควร
• ศาลถือว่าราคา ๓๐,๒๐๐ ล้านมีมาแต่เดิม ไม่อาจให้ตกเป็ นของแผ่นดินได้
• ต่อไปศาลกําลังวินิจฉัยว่าจะให้ถอนอายัดทรัพย์ทีไม่ตอ้ งคืนหรื อไม่
• ศาลพิพากษาว่าทรัพย์ตกเป็ นของแผ่นดิน ๔๖,๓๗๓ ล่"านบาท พร้อมดอกผลของเงินดังกล่าว
• เงินส่วนทีเหลือประมาณ ๓๐,๐๐๐ ล้านบาทในบัญชีหลายคน
• ศาลให้เพิกถอนการอายัดเงินหลังจากทีได้ตกเป็ นของแผ่นดิน แต่ปรากฎว่ากรมสรรพากรได้อายัดค่าภาษีไว้ประมาณ
๑๒,๐๐๐ล้านบาท
• ผมเชือในความยุติธรรมของศาล และคําตัดสิ นก็เป็ นไปตามทีผมเคยคาดการณ์ไว้และได้บอกกล่าวไว้ลว่ งหน้าหลายเดือน
แล้ว

You might also like