Professional Documents
Culture Documents
ประเภทของยาตามกฎหมาย ความสำคัญและการจำแนก
ประเภทของยาตามกฎหมาย ความสำคัญและการจำแนก
o สถานที่ขายยาแผนปั จจุบนั มีป้ายทำด้วยวัตถุถาวร สี น ้ำเงิน ขนาดกว้างยาวไม่นอ้ ยกว่า 20 × 70 เซนติเมตร และมีขอ้ ความเป็ นตัวอักษร
ไทยสี ขาวสู งไม่นอ้ ยกว่า 3 เซนติเมตร ว่า “สถานที่ขายยาแผนปั จจุบนั ”
o สถานที่ขายยาแผนปั จจุบนั เฉพาะยาบรรจุเสร็ จทีมิใช่ยาอันตรายหรื อยาควบคุมพิเศษ
o หรื อสถานที่ขายยาแผนโบราณ มีป้ายทำด้วยวัตถุถาวร สี เขียว ขนาดกว้าง ยาว ไม่นอ้ ยกว่า 20 × 70 เซนติเมตร ว่า “สถานที่ขายยาแผน
ปัจจุบนั เฉพาะยาบรรจุเสร็ จที่มิใช่ยาอันตรายหรื อยาควบคุมพิเศษ” หรื อ “สถานที่ขายยาแผนโบราณ”
o สถานที่ขายยาแผนปั จจุบนั เฉพาะยาบรรจุเสร็ จสำหรับสัตว์มีป้ายทำด้วยวัตถุถาวร สี แดง ขนาดกว้างและยาวไม่นอ้ ยกว่า 20 × 70
เซนติเมตร และมีขอ้ ความเป็ นตัวอักษรไทยสี ขาว สู งไม่นอ้ ยกว่า 3 เซนติเมตร ว่า “สถานที่ขายยาแผนปั จจุบนั เฉพาะยาบรรจุเสร็ จ
สำหรับสัตว์”
2. ป้ายแสดงชื่อผู้มีหน้ าที่ปฏิบัติการ
ป้ายทำด้ วยวัตถุถาวรสี น้ำเงิน สี เขียว หรือสี แดง ตามประเภทสถานที่ขายยาขนาดกว้ างยาวไม่ เกิน 20 × 50 เซนติเมตรแสดงชื่อตัว ชื่อสกุล และวิทยฐานะของ
ผู้มีหน้ าที่ปฏิบัติการและเวลาที่ปฏิบัติการ
หน้ าที่และความรับผิดชอบของผู้รับอนุญาติ
ข้ อกฎหมายที่ควรทราบ
มาตรา ข้ อกฎหมาย บทกำหนดโทษ
ผูร้ ับอนุญาตผูใ้ ดเลกกิจการที่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติน้ี ตอ้ งแจ้งการเลิกกิจการเป็ นหนังสื อให้ผอู้ นุญาต
35 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ทราบไม่เกิน 15 วัน นับตั้งแต่วนั เลิกกิจการและให้ถือว่าใบอนุญาตหมดอายุต้ งั แต่วนั เลิกกิจการตามที่แจ้งไว้น้ นั
ผูร้ ับอนุญาตซึ่ งได้แจ้งเลิกกิจการจะขายยาของตนที่เหลืออยูแ่ ก่ผรู้ ับอนุญาตอื่นๆ หรื อแก่ผซู้ ่ ึ งผูอ้ นุญาตเห็นสมควร
36 ไม่มี
ได้ภายใน 90 วัน นับแต่วนั เลิกกิจการ เว้นแต่ผอู้ นุญาตจะผ่อนผันขยายระยะเวลาดังกล่าวให้
ถ้าผูร้ ับอนุญาตตาย หรื อมีบุคคลผูซ้ ่ ึ งมีคุณสมบัติอาจเป็ นผูร้ ับอนุญาต ได้ตามพระราชบัญญัติน้ี แสดงความจำนงต่อ
ผูอ้ นุญาตภายใน 30 วันนับแต่วนั ที่ผรู้ ับอนุญาตตาย เพื่อขอดำเนินกิจการที่ผตู้ ายได้รับอนุญาตนั้นต่อไป ก็ให้ผู้
37 ไม่มี
แสดงความจำนงนั้นดำเนินกิจการต่อไปจนกว่าใบอนุญาตสิ้ นอายุ ในกรณี เช่นว่านี้ให้ถือว่าผูแ้ สดงความจำนงเป็ น
ผูร้ ับอนุญาตตามพระราชบัญญัติน้ี ต้ งั แต่วนั ผูร้ ับอนุญาตตาย
ห้ามมิให้เภสัชกร ผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรม ผูป้ ระกอบโรคศิลปะแผนปัจจุบนั ชั้นหนึ่งในสาขาทันตกรรม การผดุงครรภ์ หรือ
ปรับตั้งแต่
45 การพยาบาล ผูป้ ระกอบการบำบัด โรคสัตว์ ปฏิบตั หิ น้าทีผ่ มู้ หี น้าทีป่ ฏิบตั กิ ารในสถานทีผ่ ลิตยา สถานทีข่ ายยาหรือสถานทีนำ ่ หรือ
1,000 – 5,000 บาท
สัง่ ยาเข้ามาในราชอาณาจักร โดยตนมิได้มชี อ่ ื เป็ นผูม้ หี น้าทีป่ ฏิบตั กิ ารในสถานทีน่ ้นั
48 ผูม้ หี น้าทีป่ ฏิบตั กิ ารต้องอยูป่ ระจำ ณ สถานทีผ่ ลิตยา สานทีข่ ายยา หรือสถานทีนำ่ หรือสัง่ ยาเข้ามาในราชอาณาจักร ได้เพียงแห่ง
เพิกถอนใบอนุญาต
วรรคสอง เดียว
ยาสมุนไพรไม่จำเป็ นต้องขึ้นทะเบียน (ยาสมุนไพร หมายถึง ยาทีไ่ ด้จากพฤกษชาติ สัตว์หรือแร่ซ่ งึ มิได้ผสม ปรุง หรือแปรสภาพ
79 ทวิ อนึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความว่าการแปรสภาพ หมายถึง ต้องไม่สามารถจำแนกได้วา่ เป็ นชิน้ ส่วนใดของ พืช ไม่มี
สัตว์)
ห้ามมิให้โฆษณาขายยาโดยวิธแี ถมพก หรือออกสลากรางวัล ปรับไม่เกิน
90
100,000 บาท
เมือ่ ปรากฏต่อผูอ้ นุญาตว่าผูร้ บั อนุญาตผูใ้ ดไม่ปฏิบตั ติ ามพระราชบัญญัตนิ ้ ี หรือกฎกระทรวงทีอ่ อกตามพระราชบัญญัตนิ ้ ี ผู้
อนุญาตโดยคำแนะนำของคณะกรรมการมีอำนาจสัง่ พักใช้ใบอนุญาตได้ โดยมีกำหนดครั้งละไม่เกิน 120 วัน หรื อในกรณี
จำคุกไม่เกิน 5 ปี
ที่มีการฟ้ องผูร้ ับอนุญาตต่อศาลว่าได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติน้ ี จะสัง่ พักใช้ใบอนุญาตไว้รอคำพิจารณา
95 และปรับไม่เกิน
อันถึงที่สุดได้
10,000 บาท
ผูร้ ับอนุญาตซึ่ งถูกพักใช้ใบอนุญาตต้องหยุดการผลิตยา การขายยาหรื อการนำหรื อสัง่ ยาเข้ามาในราชอาณาจักรแล้ว
แต่กรณี และระหว่างถูกสัง่ พักใช้ใบอนุญาตนั้นจะขอรับใบอนุญาตใด ๆ ตามพระราชบัญญัติน้ี อีกไม่ได้
เมื่อปรากฏต่อผูอ้ นุญาตว่าผูร้ ับอนุญาตขาดคุณสมบัติตามมาตรา 14 หรื อ มาตรา 48 ผูอ้ นุญาตโดยคำแนะนำของ
คณะกรรมการมีอำนาจสัง่ เพิกถอนใบอนุญาตได้
96 ผูร้ ับอนุญาตซึ่ งถูกเพิกถอนใบอนุญาตต้องหยุดการผลิตยา การขายยา หรื อการนำหรื อสัง่ ยาเข้ามาในราชอาณาจักร ไม่มี
แล้วแต่กรณี และจะขอรับใบอนุญาตใด ๆ ตามพระราชบัญญัติน้ี อีกไม่ได้จนกว่าจะพ้น 2 ปี นับแต่วนั ที่ถูกเพิกถอน
ใบอนุญาต และผูอ้ นุญาตจะออกใบอนุญาตให้หรื อไม่กไ็ ด้ สุ ดแต่จะพิจารณาเห็นสมควร
97 คำสัง่ พักใช้ใบอนุญาตให้ทำเป็ นหนังสื อแจ้งให้ผรู้ ับอนุญาตทราบ และในกรณี ไม่พบตัวผูถ้ ูกสัง่ หรื อผูถ้ ูกสัง่ ไม่ ไม่มี
ยอมรับคำสัง่ ดังกล่าวให้ปิดคำสัง่ ไว้ ณ ที่เปิ ดเผยเห็นได้ง่ายที่สถานที่ผลิตยา สถานที่ขายยา หรื อสถานที่นำหรื อสัง่
ยาเข้ามาในราชอาณาจักร และให้ถือว่าผูร้ ับอนุญาตได้รับคำสัง่ นั้นแล้วตั้งแต่วนั ที่ปิดคำสัง่
คำสัง่ พักใช้ใบอนุญาตและคำสัง่ เพิกถอนใบอนุญาตจะโฆษณาในหนังสื อพิมพ์หรื อโดยวิธีอื่นอีกด้วยก็ได้
ผูร้ ับอนุญาตซึ่ งถูกสัง่ พักใช้ใบอนุญาตหรื อเพิกถอนใบอนุญาตมีสิทธิ์ อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรี ภายใน 30 วันนับแต่วนั ที่
ทราบคำสัง่ รัฐมนตรี มีอำนาจสัง่ ให้ยกอุทธรณ์หรื อให้แก้ไขคำสัง่ ขอผูอ้ นุญาตในทางที่เป็ นคุณแก่ผอู้ ุทธรณ์ได้
99 ไม่มี
คำวินิจฉัยของรัฐมนตรี ให้เป็ นที่สุดการอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่งย่อมไม่เป็ นการทุเลาการบังคับตามคำสัง่ พักใช้ใบ
อนุญาต หรื อคำสัง่ เพิกถอนใบอนุญาต
ผูถ้ ูกเพิกถอนใบอนุญาตจะขายยาของตนที่เหลืออยูแ่ ก่ผรู้ ับอนุญาตอื่นหรื อแก่ผซู้ ่ ึ งผูอ้ นุญาตเห็นสมควรได้ภายใน ไม่มี
100 60 วันนับแต่วนั ที่ได้ทราบคำสัง่ เพิกถอนใบอนุญาตหรื อวันที่ได้คำวินิจฉัยของรัฐมนตรี เว้นแต่ผอู้ นุญาตจะผ่อนผัน
ขยายระยะเวลาดังกล่าว
ภาชนะบรรจุยาที่จ่าย
1. มีฉลากช่วยและเอกสารความรู้สนับสนุนการบริ การอย่างเหมาะสมเมื่อเปิ ดดำเนินการแล้ว
2. ภาชนะที่ใช้ส่งมอบยามีฉลากที่อย่างน้อยสามารถแสดงชื่อยา วิธีใช้ และขนาดที่ใช้ได้
หากมีการปรุ งยาตามใบสัง่ ยา เภสัชกรต้องจัดให้มีขอ้ ความดังต่อไปนี้ในฉลากที่ปิดภาชนะบรรจุยาที่เภสัชกรปรุ งขึ้น ได้แก่
1. ชื่อและสถานที่ต้ งั ของสถานที่ขายยา
2. เลขที่ใบอนุญาตขายยาแผนปั จจุบนั ตามประเภทใบอนุญาต
3. ชื่อผูส้ งั่ ยา
4. เลขที่ใบสัง่ ยา
5. วัน เดือน ปี ที่สงั่ ยา
6. ชื่อผูใ้ ช้
7. วัน เดือน ปี ที่ปรุ งยา
8. วิธีใช้ยา
9. คำเตือนตามความจำเป็ น
ในปั จจุบนั การปรุ งยาตามใบสัง่ ยาแทบไม่มีที่ร้านขายยา ยาที่จ่ายจากร้านขายยาส่ วนใหญ่เป็ นยาสำเร็ จรู ป อย่างไรก็ตามยังถือเป็ นความจำเป็ นว่าภาชนะบรรจุ
ยามีรายละเอียดอย่างน้อยดังนี้
1. ชื่อยา (ชื่อสามัญหรื อชื่อการค้าก็ได้)
2. วัน เดือน ปี ที่ยาหมดอายุ
3. ขนาดที่ใช้ยา
4. วิธีใช้
5. ข้อควรระวังตามแต่กรณี
ภาชนะบรรจุยาต้องเหมาะสมกับคุณลักษณะของยา เช่น ใช้ภาชนะบรรจุที่ป้องกันแสงรับยาที่ไวต่อแสง และควรมีฉลากช่วยสำหรับยาบางตัวที่จำเป็ นต้อง
ระมัดระวังเป็ นพิเศษ เช่น ไม่รับประทานพร้อมกับนม
การจัดสถานที่ และอุปกรณ์
พระราชบัญญัติ พ.ศ. 2510 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม กฎกระทรวงฉบับที่ 21 พ.ศ. 2528 ระเบียนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาว่าด้วยหลักเกณฑ์การ
พิจารณาเกี่ยวกับสถานที่ขายยาแผนปั จจุบนั พ.ศ. 2547 รวมทั้งแนวทางการปฏิบตั ิที่ดีของการให้บริ การเอกสารกรม อาจสรุ ปได้วา่ ร้านยาควรจัดให้มี
สถานที่ และอุปกรณ์สำหรับให้บริ การดังต่อไปนี้
1. สถานที่ขายยาเป็ นสิ่ งปลูกสร้างที่มนั่ คงถาวรหรื ออยูใ่ นสิ่ งปลูกสร้างที่มนั่ คงถาวร
2. สถานที่ขายยาต้องมีระบบการกำจัดสิ่ งปฏิกลู และรักษาความสะอาดตามจำเป็ น
3. มีการจัดการควบคุมสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้มีประสิ ทธิภาพที่ดีในการรักษา
4. มีบริ เวณที่ให้คำปรึ กษาการใช้ยาเป็ นสัดส่ วน
5. มีอุปกรณ์นบั เม็ดหรื อแคปซูลโดยไม่ให้ถูกกับมือผูน้ บั อย่างน้อย 2 เครื่ อง โดย 1 เครื่ องเป็ นอุปกรณ์สำหรับใช้เฉพาะยากลุ่มเพนนิซิลิน โดยมีการติดป้ ายให้
เห็นชัดเจนที่อุปกรณ์
6. มีอุปกรณ์เครื่ องใช้ที่สะอาด และมีอุปกรณ์ทำความสะอาดเพียงพอเพื่อลดการปนเปื้ อนกับยากลุ่มที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ที่รุนแรง
7. จัดให้มีหอ้ งเย็นหรื อตูเ้ ย็นที่มีอุณหภูมิเหมาะสมสำหรับเก็บยาซึ่ งต้องให้อยูใ่ นอุณหภูมิที่กำหนด (ในกรณี ที่มียาที่ตอ้ งเก็บรักษาในอุณหภูมิที่กำหนด)
การจัดวางยา
พระราชบัญญัติยากำหนดให้จำแนกยาเป็ นสัดส่ วน กล่าวคือ ยาควบคุมพิเศษ ต้องวางอยูใ่ นส่ วนเดียวกัน แยกต่างหากจากยาอันตราย และยาสามัญ
ประจำบ้าน ขณะเดียวกัน ยาที่จดั เป็ นวัตถุออกฤทธิ์ และยาเสพติด ต้องแยกกลุ่มด้วย ทั้งนี้ ตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติวตั ถุออกฤทธิ์ และยาเสพ
ติดตามลำดับเพื่อให้สามารถตรวจสอบควบคุมมิให้ยาดังกล่าวรั่วไหลได้ง่าย โดยเฉพาะยาควบคุมพิเศษ วัตถุออกฤทธิ์ และยาเสพติด ซึ่ งมีการควบคุม
จำนวนที่จ่ายไปและจำนวนที่คงเหลือเข้มงวด ดังนั้น หากพบว่าจำนวนยาที่เหลืออยูใ่ นขวดไม่ตรงกับจำนวนที่ควรมีอยูต่ ามที่แจ้งไว้ในบัญชี ผูร้ ับ
อนุญาต และผูม้ ีหน้าที่ปฏิบตั ิการ มีความรับผิดทางอาญาด้วย
ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ วัตถุออกฤทธิ์ และยาเสพติด ต้องจัดวางในที่ที่ผซู้ ื้ อเข้าถึงด้วยตนเองไม่ได้ ทั้งนี้เพราะเป็ นยาที่ตอ้ งจำหน่ายภายใต้การ
กำกับดูแลของเภสัชกร
บทกำหนดโทษ
สาระ
1. ไม่จดั แยกเป็ นสัดส่ วน
พระราชบัญญัติยา (มาตรา 26) ปรับ 2,000 – 10,000 บาท
พระราชบัญญัติวตั ถุออกฤทธิ์ ฯ (มาตรา 28) ปรับ 20,000 – 100,000 บาท
พระราชบัญญัติยาเสพติด (มาตรา 31) ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
ฉลากยา
ฉลากยานับว่ามีความสำคัญทางด้านกฎหมาย นอกเหนือไปจากด้านวิชาการดังต่อไปนี้
1. เพื่อตรวจสอบเบื้อง เรื่ องยาเถื่อน โดยดูจากทะเบียนตำรับ
2. เพื่อจำแนกประเภทของยา
3. เพื่อตรวจสอบเบื้องต้น วันที่ยาสิ้ นอายุ วันที่ผลิต
กฎหมายกำหนดข้อความที่ตอ้ งระบุในฉลากยา ข้อความเหล่านี้ตอ้ งอ่านได้ชดั เจนและเอกสารกำกับยาถ้าเป็ นภาษาต่างประเทศต้องมีคำแปลภาษาไทยด้วย โดย
มีเงื่อนไขของพื้นที่ฉลากยาดังต่อไปนี้
เนือ้ หาของฉลากยา เงื่อนไข
1. ชื่อยา ไม่ตอ้ งแสดงก็ได้หากขนาดของภาชนะบรรจุได้รับอนุมตั ิจากสำนักงานคณะ
2. เลขที่หรื อรหัสใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับยา กรรมการอาหารและยาว่ามีขนาดเล็ก
3. ปริ มาณของยาที่บรรจุ (มีนอ้ ยกว่า 3 ตารางนิ้ว)
4. ชื่อและปริ มาณหรื อความแรงของสารออกฤทธิ์ อนั เป็ นส่ วนประกอบที่ ไม่ตอ้ งแสดงก็ได้หากขนาดของภาชนะบรรจุได้รับอนุมตั ิจากสำนักงานคณะ
สำคัญของยา ซึ่งจะต้องตรงตามที่ข้ ึนทะเบียนตำรับยา กรรมการอาหารและยาว่ามีขนาดเล็ก
(มีนอ้ ยกว่า 3 ตารางนิ้ว)
เนือ้ หาของฉลากยา เงื่อนไข
5. เลขที่หรื ออักษรแสดงครั้งที่ผลิตหรื อวิเคราะห์ยา ไม่ตอ้ งแสดงก็ได้หากขนาดของภาชนะบรรจุได้รับอนุมตั ิจากสำนักงานคณะ
6. ชื่อผูผ้ ลิตยา และจังหวัดที่ต้ งั สถานที่ผลิตยา กรรมการอาหารและยาว่ามีขนาดเล็ก
7. วัน เดือน ปี ที่ผลิตยา (มีนอ้ ยกว่า 3 ตารางนิ้ว)
8. คำว่า “ยาอันตราย” “ยาควบคุมพิเศษ” “ยาใช้ภายนอก” หรื อ “ยาใช้เฉพาะที่” ไม่ตอ้ งแสดงก็ได้หากขนาดของภาชนะบรรจุได้รับอนุมตั ิจากสำนักงานคณะ
แล้วแต่กรณี ดว้ ยอักษรสี แดงเห็นได้ชดั เจนในกรณี ที่เป็ นยาอันตราย ยาควบคุม กรรมการอาหารและยาว่ามีขนาดเล็ก
พิเศษภายนอก หรื อยาใช้เฉพาะที่ (มีนอ้ ยกว่า 3 ตารางนิ้ว)
9. คำว่า “ยาสามัญประจำบ้าน” ในกรณี ที่เป็ นยาสามัญประจำบ้าน ไม่ตอ้ งแสดงก็ได้หากขนาดของภาชนะบรรจุได้รับอนุมตั ิจากสำนักงานคณะ
10. คำว่า “ยาสำหรับสัตว์” ในกรณี เป็ นยาสำหรับสัตว์ กรรมการอาหารและยาว่ามีขนาดเล็ก
11. คำว่า “ยาสิ้ นอายุ” และแสดงวันเดือนปี ที่ยา (มีนอ้ ยกว่า 3 ตารางนิ้ว)
สิ้ นอายุ ได้รับการยกเว้น ไม่ตอ้ งแสดงก็ได้หากขนาดของภาชนะบรรจุได้รับอนุมตั ิจาก
12. คำเตือน (กรณี ที่มีการระบุ) สำนักงาน
คณะกรรมการอาหารและยาว่ามีขนาดเล็ก
(มีนอ้ ยกว่า 3 ตารางนิ้ว)
ได้รับการยกเว้น ไม่ตอ้ งแสดงก็ได้หากขนาดของภาชนะบรรจุได้รับอนุมตั ิจาก
สำนักงาน
คณะกรรมการอาหารและยาว่ามีขนาดเล็ก
(มีนอ้ ยกว่า 3 ตารางนิ้ว)
กรณี ที่ฉลากมีเอกสารกำกับยาอยูด่ ว้ ย การแสดงคำเตือนการใช้ยาจะแสดงไว้ที่
ส่ วนใด
ส่ วนหนึ่งของฉลากหรื อเอกสารกำกับยาก็ได้
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการยามีมติให้แสดงแต่ชื่อยา เลขที่ หรื ออักษรครั้งที่ผลิตหรื อวิเคราะห์ยาและวัน เดือน ปี ที่ยาสิ้ นอายุ สำหรับยาที่มีฉลากบนภาชนะ
บรรจุนอ้ ยกว่า 3 ตารางนิ้วได้ แต่ภาชนะบรรจุกลุ่มนี้ตอ้ งอยูใ่ นจำพวกของภาชนะบรรจุยาวัคซี น ภาชนะบรรจุยาที่มี Security sealed pack ทุกรู ปแบบและทุก
dosage form ภาชนะบรรจุแช่เย็น 2-8 องศา ภาชนะบรรจุยาชนิดแผง เช่น อลูมิเนียมฟอยล์แผ่นพลาสติก เซลโลเฟนฟอยล์ หรื อบลิสเตอร์ (เอกสารประกอบ
การประชุมเรื่ อง บันทึกการตรวจอุปกรณ์และวิธีการลงบันทึกและมาตรการกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การเก็บตัวอย่าง การพิจารณาจากฉลากสำนักงานคณะ
กรรมการอาหารและยา 2546)
ข้อมูลปี 2543 ระบุวา่ กลุ่มยาที่ตอ้ งสงสัยว่าก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์มากที่สุด 5 อันดับแรก คือ ยาต้านการติดเชื้อ ยากล้ามเนื้อและกระดูก ยาที่มีผลต่อ
ระบบประสาทส่ วนกลาง ยาระบบหัวใจและเลือด ยาระบบทางเดินหายใจ (Spontaneous Report of Adveree Drug 2003 ศูนย์ติดตามผลไม่พึงประสงค์จากการ
ใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ กระทรวงสาธารณสุ ข) ผูท้ ี่ประสงค์จะรายงานอาการไม่พึงประสงค์ที่พบนั้น ควรใช้แบบรายงานของศูนย์ฯ ซึ่ งสามารถติดต่อขอรับแบบ
รายงานได้จากศูนย์ ที่เบอร์ 02-5907307, 02-5907288 และ 02-5907253 รายละเอียดของแบบรายงานแสดงในภาคผนวกที่ ...1
ประเภทของยาตามกฎหมาย ความสำคัญและการจำแนก
พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 และฉบับแก้ไขเพิม่ เติม จำแนกยาเป็ น 3 กลุ่ม คือ ยาอันตราย ยาควบคุมพิเศษ และยาสามัญประจำบ้าน ยาแต่ละ
กลุ่มจัดขึ้นตามประกาศกระทรวงสาธารณสุ ขซึ่ งจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามเหตุผลและความจำเป็ น เพราะยาแต่ละกลุ่มสามารถ
กระจายถึงมือผูบ้ ริ โภคต่างกัน กล่าวคือ
1. ยาที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประกาศกำหนดให้ รายงาน
ผลิตภัณฑ์ยาในกลุ่มนี้อาจมีอนั ตรายจากการใช้มากจึงจำเป็ นจะต้องใช้ภายใต้การดูแลจากแพทย์ผมู้ ีความชำนาญอย่างใกล้ชิด ซึ่ งยา
ในกลุ่มนี้ที่ฉลากจะแสดงข้อความว่า “ใช้เฉพาะโรงพยาบาล” หรื อ “ใช้เฉพาะสถานพยาบาล” เป็ นอักษรไทยสี แดง ปรากฏไว้ชดั เจน ซึ่ งยาใน
กลุ่มนี้ไม่อนุญาตให้จำหน่ายตามสถานที่ขายยาหรื อสถานที่อื่นใดโดยเด็ดขาด และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยายังได้ประกาศกำหนด
ให้ผรู้ ับอนุญาตผลิตยา หรื อผูร้ ับอนุญาตนำหรื อสัง่ ยาเข้ามาในราชอาณาจักร จะต้องจัดทำบัญชีรายชื่อวัตถุดิบที่ใช้ผลิตยา บัญชีรายชื่อยาที่นำ
หรื อสัง่ ยาเข้ามาในราชอาณาจักร รายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาทุก 4 เดือน
ยากลุ่มนี้ประกอบด้วย
(1) ยาจำพวกรักษาโรคมะเร็ งทุกชนิด (Antineoplastics)
(2) ยาที่ประกอบด้วย L-Tryptophan ที่มีขนาดการใช้ 100 มิลลิกรัมต่อวัน หรื อมากกว่า
(3) ยา Nicorette
(4) ยารักษาสิ วจำพวก Retinoid เฉพาะที่เป็ นยาควบคุมพิเศษ
กลุ่มยาที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กำหนดรายงานการผลิตหรื อการนำหรื อสัง่ ยาเข้ามาในราชอาณาจักรนี้ สำนักงาน
คณะกรรมการอาหารและยายังได้ให้ผรู้ ับอนุญาตฯ จัดทำคำรับรองเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนตำรับยาประเภทดังกล่าวไว้ดว้ ย ในขณะที่ผรู้ ับ
อนุญาตยืน่ คำขอขึ้นทะเบียนตำรับยา
2. ยาที่กำหนดขอบเขตการจำหน่ าย
3. ยาใหม่
ปั จจุบนั เนื่องจากผลกระทบของการมีสิทธิบตั รยาคุม้ ครองผลิตภัณฑ์ยาใหม่มิให้ถูกลอกเลียนแบบ ทำให้มีการนำหรื อสัง่ ยาชนิดใหม่
ๆ เข้ามาสู่ ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการอนุมตั ิและติดตามตรวจสอบกำกับยาใหม่ จำเป็ นต้องมีกฎเกณฑ์การควบคุมที่เข้มงวดโดยพิจารณา
กลัน่ กรองอย่างละเอียดรอบคอบในด้านความปลอดภัย ประสิ ทธิภาพ ประสิ ทธิผล คุณภาพ และพิจารณาในแง่ของอัตราความเสี่ ยงภัยต่อ
ประโยชน์จะที่ได้รับ (risk/benefit ratio) เพื่อคุม้ ครองความปลอดภัยแด่ผบู้ ริ โภค ป้ องกันมิให้เกิดปั ญหาความเป็ นพิษของยาดังกล่าว กล่าวคือ
ผลิตภัณฑ์ยาใหม่จะได้รับการพิจารณาให้ข้ ึนทะเบียนตำรับแบบมีเงื่อนไข (conditional approval) โดยจำกัดการจำหน่ายยาเฉพาะสถานพยาบาล
ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่ งมีแพทย์ดูแลได้อย่างใกล้ชิด และมีการติดตามความปลอดภัยเป็ นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี โดยมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยว
กับความปลอดภัยให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ และครบถ้วนถูกต้องสมบูรณ์ในเชิงสถิติ ขณะเดียวกัน ในช่วงเวลาดังกล่าวจะยังไม่ให้มีการรับ
ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ยาสามัญที่ใช้ตวั ยาสำคัญชนิดเดียวกัน จนกว่าผลิตภัณฑ์ยาใหม่จะได้รับการพิจารณาแบบไม่มีเงื่อนไข (Unconditional
approval) คือ สามารถจำหน่ายได้โดยทัว่ ไปตามปกติหลังจากที่มีขอ้ มูลด้านความปลอดภัยเสนออย่างครบถ้วนและถูกต้องดังกล่าวแล้ว
และผลิตภัณฑ์ยาสามัญซึ่ งใช้ตวั ยาเดียวกับที่ขอขึ้นทะเบียนตำรับหลังจากนี้ กต็ อ้ งทำการศึกษาความเท่าเทียมกันของประสิ ทธิภาพใน
การบำบัดรักษา (Bioequivalence) เพื่อเป็ นข้อมูลประกอบการขอขึ้นทะเบียนตำรับยาด้วย
3.1 ขอบเขตของยาใหม่
ยาใหม่ที่ตอ้ งยืน่ คำขอขึ้นทะเบียนตำรับยาตามระเบียบนี้ ครอบคลุมถึง
(1) ตำรับยาที่มีตวั ยาสำคัญเป็ นตัวยาใหม่ (New Chemical Entities) หรื ออนุพนั ธ์ใหม่ ซึ่ งหมายถึงตัวยาที่ไม่เคยมีการขึ้นทะเบียนใน
ประเทศไทยมาก่อน (รวมตัวยาที่อยูใ่ นตำรายาที่รัฐมนตรี ประกาศและไม่เคยมีการขึ้นทะเบียนในประเทศไทยด้วย)
(2) ยาที่มีขอ้ บ่งใช้ใหม่ (New Indication)
(3) ตำรับยาที่เป็ นสู ตรผสมใหม่ (New Combination) มีหลักเกณฑ์สำหรับตำรับยาที่จะจัดเป็ น New Combination ดังนี้
(ก) เป็ นตำรับยาที่ประกอบด้วยตัวยาใหม่ (New Chemical Entities) และอนุพนั ธ์ ใหม่
(ข) เป็ นตำรับยาที่ประกอบด้วยตัวยาที่ข้ ึนทะเบียนตำรับยาแล้วตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้ไป แต่ไม่
ซ้ำกับตำรับยาผสมที่ได้รับขึ้นทะเบียนตำรับยาแล้ว
(ค) เป็ นตำรับยาที่ประกอบด้วยตัวยาเหมือนกับตำรายาผสมที่ได้รับทะเบียนตำรับยาแล้ว แต่ปริ มาณตัวยาไม่เท่ากัน โดยจะต้องมี
เหตุผลแสดงถึงความจำเป็ นในการเปลี่ยนแปลงสัดส่ วนของปริ มาณตัวยาในตำรับยานั้นด้วย
3.2 เงื่อนไขการอนุญาตทะเบียนตำรับยาใหม่ที่ควรทราบ
เลขทะเบียนตำรับยาและความหมาย
เลขทะเบียนตำรับยาเป็ นข้อมูลสำคัญสำหรับตรวจสอบเบื้องต้น ยาทุกรายการที่ได้รับอนุญาตต้องแสดงเลขทะเบียนตำรับ ซึ่ งประกอบด้วยชุดตัวเลขและตัว
อักษร 2 ชุด และมีความหมายต่างกันรู ปแบบมาตรฐานของเลขทะเบียนตำรับแสดงใน 4 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ 4
1,2 A,B,C,D,E,F,G,H,K, ตัวเลข 4 หน่วยแสดงลำดับที่ยาได้รับ ตัวเลข 2 หน่วยแสดงปี พ.ศ. ที่ยานั้น
L,M,N เลขทะเบียน ได้รับเลขทะเบียนตำรับ
การตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานยามักจะมีหลักการใหญ่ ๆ 6 ข้ อคือ
1. มีส่วนผสมและตัวยาถูกต้องตามตำรับที่กำหนด
2. ปราศจากสารปนเปื้ อน (contaminants)
3. มีปริ มาณตัวยาที่สำคัญ (active ingredients) ถูกต้องตามที่ระบุไว้ในตำรับยา
4. มีความคงตัวทางกายภาพและเคมี ในสภาพแวดล้อมที่พอเหมาะคงที่ตลอดเวลาที่ยายัง
ไม่หมดอายุ
5. ยาสามารถแตกตัว ละลาย และดูดซึ มไปออกฤทธิ์ ในร่ างกายได้
6. ปราศจากอันตรายจากอาการข้างเคียงที่ไม่คาดคิด
"ห้ ามมิให้ ผ้ ใู ดจำหน่ ายยาปลอม ยาผิดมาตรฐาน ยาเสื่ อมคุณภาพ ยาที่มิได้ ขึน้ ทะเบียนตำรับยา ยาที่ทะเบียนตำรับถูกยกเลิก และยาที่รัฐมนตรีสั่งเพิกถอน
ทะเบียนตำรับยา”
ความคิดนี้จึงครอบคลุมทั้งผูร้ ับอนุญาตและผูม้ ีหน้าที่ปฏิบตั ิการโดยมีโทษลดหลัน่ กันไป ส่ วนความหมายของยาแต่ละกลุ่มและบทกำหนดโทษมีรายละเอียด
ตามตารางที่ 1
จำคุกตั้งแต่สามปี ถึงตลอดชีวิตและ
ยาปลอม มาตรา 72 (1) 1. ยาหรื อวัตถุที่ทำเทียมทั้งหมดหรื อแต่บางส่ วนว่าเป็ นยาแท้
ปรับตั้งแต่ 10,000-50,000 บาท
2. ยาที่แสดงชื่อว่าเป็ นยาอื่น หรื อแสดง เดือน ปี ที่ยาสิ้ นอายุ ซึ่ งมิใช่ความจริ ง
3. ยาที่แสดงชื่อ หรื อเครื่ องหมายของผูผ้ ลิตหรื อที่ต้ งั สถานที่ผลิตยาซึ่ งมิใช่ความจริ ง
4. ยาที่แสดงว่าเป็ นยาตามตำรับที่ข้ ึนทะเบียนไว้ ซึ่งมิใช่ความจริ ง
5. ยาที่ผลิตขึ้นไม่ถูกต้องตามมาตรฐานถึงขนาดที่ปริ มาณหรื อความแรงของสารออกฤทธิ์
ขาดหรื อเกินกว่าร้อยละยีส่ ิ บจากเกณฑ์ต ่ำสุ ดหรื อสู งสุ ดซึ่งกำหนดไว้ในตำรับยาที่ข้ ึน
ทะเบียนไว้ตามมาตรา 79
ยาใดที่ข้ ึนทะเบียนตำรับยาไว้แล้วหากภายหลังปรากฏว่ายานั้นไม่มีสรรพคุณตามที่ข้ ึน
ทะเบียนไว้ หรื ออาจไม่ปลอดภัยแก่ผใู้ ช้หรื อเป็ นยาปลอมตามมาตรา 72 (1) หรื อยานั้นได้
6.ยาที่รัฐมนตรี สงั่ เพิกถอน เปลี่ยนไปเป็ นวัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้เป็ นอาหารหรื อเครื่ องสำอาง โดยได้รับใบอนุญาต จำคุกตั้งแต่สองปี ถึงห้าปี และปรับ
ทะเบียนตำรับยามาตรา 72 (6) ผลิตเพื่อจำหน่ายซึ่ งควบคุมเฉพาะหรื อรับใบสำคัญการขึ้นทะเบียน เครื่ องสำอางตาม ตั้งแต่ 4,000-20,000 บาท
กฎหมายว่าด้วยการนั้นให้รัฐมนตรี โดยคำแนะนำของคณะกรรมการมีอำนาจสัง่ ให้เพิกถอน
ทะเบียนตำรับยานั้นได้ การเพิกถอนให้กระทำโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
4.2 ยาที่ถูกเพิกถอนทะเบียนตำรับ
4. เภสัชกรผูป้ ฏิบตั ิการ จะต้องประจำอยู่ ณ สถานที่ขายยา ตลอดเวลาเปิ ดทำการ เพื่อคอยควบคุมการขาย และส่ งมอบยาอันตราย - ยาควบคุมพิเศษ (มาตรา 39)
6.1 ยาอันตราย
6.2 ยาควบคุมพิเศษ (ขายได้ตามใบสัง่ แพทย์) ที่มีลายเซนต์ของเภสัชกรผูม้ ีหน้าที่ปฏิบตั ิการลงชื่อรับรอง แล้วเก็บไว้ที่ร้านเป็ นหลักฐาน เพื่อรอการตรวจสอบ
จาก คณะกรรมการอาหารและยา ต่อไป