You are on page 1of 6

พระคาถาโสฬสมงคล

โสฬะสะมังคะลัญเจวะ นะวะโลกุตตะระธัมมะตา
จัตตาโรจะมหาทีปา
ปั ญจะพุทธามหามุนี ตรี ปิฏะกะธัมมักขันธา
ฉะกามาวะจะราตะถา
ปั ญจะทัสสะกะเวสัจจัง ทะสะมังสีละเมวะจะ
เตรัสสะธุตงั คาจะ
ปาฎิหารัญจะทะวาทัสสะ เอกะเมรุจะ สุราอัฎฐะ
ทะเวจันทังสุริยงั สัคคา
สัตตะโพชฌังคาเจวะ จุททัสสะจักกะวัตติจะ
เอกาทะสะวิสะณุราชา
สัพเพเทวา สะมาคะตา มังรักขันตุ ปะลายังตุ สัพพะทาเอเตนะ
มังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ เมฯ

กล่าวให้ ปรากฏ อุปเท่ห์โสฬส บันดาลชายหญิง ภาวนาทีหนึง่ สองทีดีจริ ง สิบแปดทีดียิ่งมีผลานิงค์ ชัก


ลูกประคำ ร้ อยแปดเลิศล้ำ ให้ ได้ คาบทรงคงเกิดส่วนบุญ มีผลานิสงค์ พบแล้ วอย่างง ไม่พบเร่งหา ผู้ใดไม่พบ
บุญน้ อยถอดถด เสียชาติเกิดมา เป็ นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้ วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนชีวติ เกิด
มา เป็ นคนขัดสน มืดมนต์หนักหนา พบแล้ วท่านว่าภาวนาประจำ เหมือนได้ ดวงแก้ วแถม ทองผ่องแผ้ ว กุศล
ชักนำ สิ่งใดปรารถนาภาวนาหัวค่ำ กุศลเลิศล้ำ ประมูลพูนมา อุบาทว์จญ ั ไร กันทั ้งโรคภัย ปรากฏคาถากลับจิต
คิดเห็น ๆ อนัตตา มิอาจมาทำลายตัวเรา ภาวนาภัยหัวค่ำทีหนึง่ ประจำ เที่ยงคืนและย่ำรุ่งเป็ นสามทีเกิดสวัสดี
มีลาภทุกประการอาหารการกินปรี เปรมเกษมสันต์ ภาวนา ๓-๗ เป็ นสำเร็ จการ ทุกค่ำสำราญกว่าคนทั ้งหลาย
อายุวณั โณ บรมสุขโขภัญโญทั ้งปลาย ถ้ าไฟไหม้ มาให้ เสกข้ าวสาร สาดหว่านหลังคา ลมพาพัดหวลอย่าได้
สงกา ฝนตกลงมาภาวนาป้องกัน ถ้ าจะขายของเสกน้ำประพรม สินค้ าสารพันระบือลือสัน่ พากันเข้ ามาค้ าเรื อ
เหนือใต้ เขียนคาถาไว้ แผ่นกระดาษปรารถนาเสกด้ วยตัวเองปิ ดหัวนาวา นำของสินค้ าขายมีกำไร ถ้ าเป็ นความ
เสกน้ำล้ างหน้ าทาแป้งเสกเครื่ องแต่งตน เสกหมากอย่านาน กินแล้ วยาตรา กระทืบเท้ าสามทีแปลกายบ่ายสูค่ ู่
ความตามที่เป่ าพ่นอย่าหนี พลุง่ พล่านต้ องเวทย์มนต์ถาคาพลัน ให้ ภาวนาเสกน้ำล้ างหน้ า กันทั ้งคุณไสย
อุบาทว์ จัญไร อัคคีโจรภัยตามความปรารถนา

พระคาถาบทนี ้ เป็ นของหลวงปู่ เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง ปากเกร็ ด จ .นนทบุรี ซึง่ ท่านได้ ใช้ บทนี ้
ปลุกเสกสร้ างพระปิ ดตา และ ตะกรดทำให้ มีพทุ ธคุณมาก จนเป็ นที่ต้องการของผู้คนทั ้งหลายตราบเท่าทุกวันนี ้

หลวงปู่ เอี่ยม ปฐมนาม ( อ่านว่า ปะถะมะนามะ หรื อ ปถมนาม ) อดีตเจ้ าอาวาสแห่งวัดสะพานสูง


ท่านชาตะเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ ้น 9 ค่ำ เดือนยี่ ปี ฉลู พ.ศ.2358 (ช่วงรัชกาลที่ 2 ) เป็ นเถราจารย์ผ้ เู รื องเวทย์ร่วม
สมัยกับสมเด็จฯโต วัดระฆัง กรุงเทพฯ ,หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร, กรมพระยาปวเรศฯ วัดบวรนิเวศฯ
กรุงเทพฯ,หลวงพ่อปาน วัดบางเหี ้ย จ.สมุทรปราการ และเจ้ าคุณเฒ่า (เอี่ยม) วัดหนัง กรุงเทพฯ เป็ นต้ น เมื่อ
ท่านอายุได้ 22 ปี ได้ อปุ สมบทที่วดั บ่อ ต.ปากเกร็ ด จ.นนทบุรี ลุลว่ งถึงปี พ.ศ. 2395 (ช่วงรัชกาลที่ 4 ) จึงได้
ย้ ายมาสูว่ ดั สว่างอารมย์ (วัดสะพานสูง) ต.บ้ านแหลมใหญ่ (ต.คลองพระอุดม) อ.ปากเกร็ ด
จ.นนทบุรี ขณะนั ้นมีพระ 2 รูปเท่านัน้

ในระหว่างที่ย้ายมาสูว่ ดั สะพานสูง ท่านได้ ออกธุดงค์ไปทางแถบประเทศเขมร เพื่อเล่าเรี ยนวิชา และ


ธุดงค์ไปตามป่ าเขาลำเนาไพร ว่ากันว่า ท่านธุดงค์หายไปนาน 10 ปี จนกระทัง่ ชาวบ้ านแหลมใหญ่และ
ญาติโยมคิดว่าท่านได้ ถึงแก่มรณภาพแล้ ว จึงจัดแจงทำบุญบังสกุล และทำสังฆทานแผ่สว่ นกุศลไปให้ ทา่ น
ทำให้ หลวงปู่ เอี่ยม ทราบด้ วยญาณของท่าน ท่านจึงเดินทางกลับวัด ปรากฏว่าท่านไม่ได้ ปลงผม ผมจึงยาวถึง
บันเอว
้ จีวรขาดรุ่งริ่ง หนวดเครายาวเฟิ ม้ พร้ อมกับมีสตั ว์ปา เช่น
หมี,เสือ,งูจงอาง ติดตามมาส่งท่านด้ วย
จากการเจริญกรรมฐานนี ้ มีเรื่ องเล่ากันว่ามีต้นตะเคียนต้ นหนึง่ มีน้ำมันตกและดุมากเป็ นที่เกรงกลัวแก่
ชาวบ้ านแถบนัน้ หลวงปู่ จึงช่วยยืนเพ่งอยู่ 3 วันเท่านัน้ ต้ นตะเคียนก็เฉาและยืนต้ นตาย หลวงปู่ เป็ นผู้มีอาคม
ฉมัง วาจาสิทธิ์ มักน้ อยและสันโดษ ท่านเป็ นต้ นแบบในการพัฒนาวัดให้ เจริ ญรุ่งเรื องจนถึงปั จจุบนั นี ้ ท่านได้
สร้ างถาวรวัตถุที่ได้ เห็นกันอยูใ่ นทุกวันนี ้คือพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรี ยญ พระเจดีย์ จึงเป็ นที่มาของ
การสร้ างพระปิ ดตา และตะกรุดโทนมหาโสฬสมงคลอันลือลัน่ นัน่ เอง

จวบจนเมื่อถึงวันจันทร์ ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2438 เวลา 10.00 น.(ช่วงรัชกาลที่ 5 )ขึ ้น 9 ค่ำเดือน 9
ท่านได้ มรณภาพด้ วยโรคชรา รวมสิริอายุได้ 80 ปี ก่อนที่ทา่ นจะมรณภาพได้ มีศิษย์ผ้ ใู กล้ ชิดเป็ นตัวแทนของ
ชาวบ้ าน และผู้เคารพนับถือศรัทธา ที่มีและไม่มีของมงคลท่านไว้ บชู า กราบเรี ยนถามหากว่าเมื่อหลวงปู่ ได้
มรณภาพแล้ วจักทำประการใด ท่านจึงได้
มีปัจฉิมวาจาว่า " มีเหตุสขุ ทุกข์ เกิดนั ้น ให้ ระลึกถึงชื่อของเรา" จึงเป็ นที่ทราบและรู้กนั ว่า หากผู้ใดต้ องการ
มอบตัวเป็ นศิษย์หรื อต้ องการให้ ทา่ นช่วยแล้ วด้ วยความศรัทธายิ่ง ก็ให้ เอ่ยระลึกถึงชื่อของท่าน ท่านจะมาโปรด
และคุ้มครองและหากเป็ นเรื่ องหนักหนาก็บนตัวบวชให้ ทา่ น รูปหล่อเท่าองค์จริ งของหลวงปู่ ท่านประดิษฐานอยู่
หน้ าพระอุโบสถสร้ าง(หล่อ) ขึ ้นเมื่อพ.ศ. 2480 ในสมัยหลวงปู่ กลิ่น ผู้ปกครองวัดต่อจากท่าน เพื่อการสักการะ
บูชา ต่อมาจนทุกๆวันจะมีผ้ ศู รัทธาจากทุกสารทิศมากราบไหว้ และบนบานฯ ตลอดเวลาตราบแสงอาทิตย์ยงั ไม่
ลับขอบฟ้า ท่านชอบกระทงใส่ดอกไม้ เจ็ดสี จะมีผ้ ูนำมาถวายและแก้ บนแทบทุกวันโดยเฉพาะในวันพระแม้ แต่
ผงขี ้ธูปและน้ำในคลองหน้ าวัดก็ยงั มีความ"ขลัง" อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง

และหลังจากที่ทา่ นมรณภาพล่วงไปเนิ่นนานแล้ วก็ตามที ด้ วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ผลปรากฏว่าฐานที่ทา่ น


เคยถ่ายทุกข์เอาไว้ และปิ ดตาย คราวที่เกิดไฟไหม้ ป่าช้ า ฐานของหลวงปู่ เอี่ยมเพียงหลังเดียวเท่านั ้นที่ไม่ไหม้ ไฟ
เมื่อความอัศจรรย์ปรากฏขึ ้นเช่นนัน้ ผู้คนจึงค่อยมาตัดเอาแผ่นสังกะสีไปม้ วนเป็ นตะกรุดจนหมดสิ ้น นอกจาก
นันแล้
้ วยังมารื อ้ เอาตัวไม้ ไปบูชาจนไม่เหลือหรอ ยิ่งไปกว่านั ้น คนที่ไม่ได้ อะไรเลยก็มาขุดเอาอุจจาระของท่าน
ไปบูชา ของขลัง ...ตะกรุดมหาโสฬสมงคล ท่านได้ ใช้ ความตั ้งใจพากเพียรพยายามทยอยสร้ างออกมาอยูเ่ รื่ อยๆ
เพื่อแจกจ่าย ทำทุนปั จจัยมาสร้ างโบสถ์ พระวิหาร ศาลาการเปรี ยญ และเจดีย์แก่ผ้ รู ่วมบริ จาคทรัพย์ เงิน 1
ตำลึง หรื อ 4 บาท หรื อจะนำทราย หรื อ อิฐ หรื อหิน จำนวน 1 ลำ หรื อกำปั น้ ก็จะได้ ตะกรุด 1 ดอก การปลุก
เสก...เห็นจะไม่มีอิทธิของวัตถุสำนักใดๆ ที่มีการปลุกเสกของท่านตามลำพังเงียบๆ ภายในกุฏิทกุ ค่ำคืน
และแทบจะตลอดอายุขยั ของท่านทีเดียว โดยต้ องปลุกเสกด้ วยโองการมหาทะมึนให้ ครบ 10,000 จบ ในเวลา
3 ปี การใช้ เวลาอันเนิ่นนานปานนี ้ จึงไม่มีปัญหาเลยว่า ตะกรุ ดของหลวงปู่ จะไม่เป็ นยอดแห่งบรรดาตะกรุ ดทั ้ง
หลาย เป็ นตะกรุดที่ทรงคุณค่าควรเมือง หรื อค่าพันตำลึงทองทรงอิทธิพลังพุทธาคุ้มเกรงภยันตรายทั ้งปวง
ผู้ใดมีไว้ ครอบครองหมัน่ บูชา กราบไหว้ ด้วยความศรัทธาและเชื่อมัน่ จะเป็ นสิริมงคลแก่ตวั และวงศ์ตระกูล และ
พ้ นจากภัยพิบตั ิตา่ งๆ ชีวติ จักไม่ตกต่ำเป็ นมหามงคลยิ่งใหญ่มีเมตตามหานิยม เจริ ญลาภผล จังงัง กำบังภัย
แคล้ วคลาด คลกระพันชาตรี บำบัดและป้องกันเจ็บไข้ เสนียดจัญไรโจรภัยกันไฟพ้ นจากศัตรูหมูส่ ตั ว์ร้าย อย่า
ว่าแต่ปืนผาหน้ าไม้ เลย แม้ แต่อหิงสา หรื อฟ้าผ่าก็ยงั กันได้ แจ้ งเหตุการณ์ให้ ทราบก่อนล่วงหน้ า ดลใจในทางที่
ถูกที่ควร ถ้ าอยูใ่ นบ้ านเรื อนบูชา ก็จะมีแต่สิริมงคล แต่ที่สำคัญจะทำให้ ผ้ มู ีไว้ ครอบครองได้ สมั ฤทธิ์ผล แห่งเดช
นุภาพทั ้งปวง แต่ต้องปฏิบตั ิตน ให้ อยูใ่ นศีลในธรรม ตะกรุดหลวงปู่ เอี่ยมจึงเด่นขึ ้นสูค่ วามนิยม และมีคา่ นิยมสูง
ยิ่ง เป็ นอันดับหนึง่ ของบรรดาเครื่ องรางและตะกรุดมาเนิ่นนานกว่าใคร เป็ นวัตถุมงคลที่มีสนนราคาสูงยิ่ง และ
หายากยิ่งจนมีผ้ สู ืบเสาะอยากจะเป็ นเจ้ าของกันทัว่ ไป

ข้ อมูลบางส่วนจากเว็บศูนย์พระดอทคอม

บทนี ้ถ้ าภาวนาเป็ นคาถาแล้ ว มีอานิสงส์ คือ สวดภาวนาเป็ นประจำ เป็ นสิริมงคลแก่ตวั คิดหวังสิ่งใด
ย่อมสำเร็ จและสมปราถนาได้ โดยง่ายป้องกันอุบาทว์จญ ั ไร และโจรภัย
ภาวนาวันละ 3 จบ อำนวยให้ เกิดลาภ อาหารการกินสมบูรณ์ดีครับ
ถ้ าผู้ใดมีตะกรุดโสฬสมงคลไว้ บชู า แล้ วว่าพระคาถากำกับได้ ด้วย อานุภาพของตะกรุดโสฬส คือ ป้อง
กันอุปัทอันตรายทั ้งปวง กันฟ้า กันไฟ กันโจรภัย กันภูตผีปีศาจ กันคุณผีคณ ุ คนทุกชนิด เป็ นเครื่ องรางฝ่ ายรับ
หรื อป้องกันนะครับ
ตะกรุดโสฬสมงคล
ตะกรุดโสฬสมงคล เรี ยกให้ ชดั เจนตามความหมายก็คือ ความเป็ นมงคล 16 ประการซึง่ พระโบราณ
จารย์รุ่นก่อนเป็ นผู้ฉลาดในอรรถธรรมได้ วางกุสโลบายไว้ ก็คือ ได้ นำเอาธรรมะคำสัง่ สอนของพระสัมมาสัมพุทธ
เจ้ ามาย่อไว้ เป็ นคาถา 16 คำ เป็ นตัวเลขซึง่ เป็ นหัวใจธรรมะที่สำคัญเพื่อการหลุดพ้ นจากทุกข์โดยแท้ และเป็ น
ธรรมราชาแห่งคาถาทั ้งปวงมีคณ ุ ค่ามาก ท่านตีคา่ ไว้ ถึงแสนตำลึงทอง ผู้ใดพบพระคาถาและนำมาเจริ ญ
ภาวนาเป็ นประจำทุกวัน สิ่งใดปารถนาจักสำเร็ จโดยพลันปราศจากอุปสรรคขัดข้ องใดๆ หากพบแล้ วไม่นำ
มาภาวนาถือว่าท่านบุญน้ อยเป็ นไปตามกรรม
ตะกรุดยันโสฬสมงคลดอกนี ้ ใช้ พระยันต์อนั มีอิทธิคณ
ุ เด่นถึง ๕ ยันต์ด้วยกัน มาลงไว้ ในดอกเดียวกัน
คือ
๑. ยันต์บารมี ๓๐ ทัศน์ อาวุธพระพุทธเจ้ า มีอานุภาพทางด้ านมหาอำนาจ เป็ นตะบะเดชะชนะศัตรูผ้ ู
คิดร้ ายแก่เรา
๒. ยันต์อาวุธ ๕ ประการ ยันต์นี ้ใช้ ป้องกันรูปวิญญาณร้ ายที่คอยหลอกหลอนคนหรื อเจ้ าที่แรง
๓. ยันต์คาถาโสฬสมงคล เป็ นคาถาที่ใช้ ปลุกเสก เครื่ องลางของขลังให้ ศกั ดิ ์สิทธิ์ทำสิ่งที่ไม่เป็ นให้ เป็ น
ทำสิ่งที่ไม่มีให้ มี ได้ ด้วยอำนาจพระคาถาบทนี ้
๔. ยันต์ตรี นิสิงเห ใช้ ป้องกันไสยศาสตร์ ประเภทมนต์ ดำคือคุณไสยคุณผี คุณคนฝั งรูปฝั งรอย ลมเพลม
พัดล้ างอาถรรพ์ในที่แรง
๕. ยันต์จตุโร เป็ นยันต์ที่ใช้ ในทางมหานิยม โชคลาภ ทำมาค้ าขึ ้นเป็ นสง่าราศีแก่ผ้ มู ียนั ต์นี ้
เมื่อรวมกันทั ้ง ๕ ยันต์ จึงเป็ นการรวมเอา สุดยอดแห่งพระยันต์มาไว้ ในตะกรุดดอกนี ้ ผู้สร้ างยังนำผง
พุทธคุณของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ (วัดท่าซุง ) ตังแต่้ งานพุทธาภิเษกสมเด็จองค์ปฐมปี ๓๔ ที่วิหาร ๑๐๐ เมตร
นำมาอุดหัวท้ ายตะกรุดโสฬสมงคลเพื่อเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์เป็ นทวีคณ
ู และหลวงปู่ แผ้ ว ปวโรได้ อธิษฐานจิต
ปลุกเสกตลอดพรรษา พร้ อมด้ วยคณาจารย์ ๑๐๘ รูป ปลุกเสกอีกครั ง้ จึงเป็ นตะกรุดครอบจักวาล
ท่านผู้ใดมีตะกรุดโสฬสมงคลดอกนี ้ไว้ ต้องเป็ นผู้มีศีลธรรมเข้ าถึงพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ์ ประกอบแต่กรรมดีช่วยเหลือสังคมอยูเ่ ป็ นนิจ จะใช้ ตะกรุดดอกนี ้ได้ ดงั ใจปารถนา ป้องกันเสียซึง่
อันตรายอุบาทว์จญ ั ไร ทั ้งปวง กันฟ้าผ่า กันไฟไหม้ กันเสนียดโจรภัยเป็ นมหาวิเศษ
พระคาถา อุณหิสสะวิชะยะ
อัตถิ อุณหิสสะ วิชะโย ธัมโม โลเก อะนุตตะโร
สัพพะสัตตะหิตตั ถายะ ตังตวังคัณหาหิ เทวะเต
ปะริ วชั เช ระชะทัณเฑ อะมะนุสเสหิ ปาวะเก
พะยัคเฆ นาเค วิเส ภูเต อะกาละมะระเณนะ วา
สัพพัสมา มะระณา มุตโต ฐะเปตวา กะละมาริ ตงั
ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา
สุทธะ สีลงั สะมาทายะ ธัมมัง สุจะริ ตงั จะเร
ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุข สะทา
ลิกขิตงั จินติตงั ปูชงั ธาระนัง วาจะนัง คะรุง
ปะเรสัง เทสะนังสุตวา ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะตีติ

พระคาถาบทนี ้ อยู่ในสมัยพุทธกาล ที่พระพุทธเจ้ าได้ ทรงเมตตาให้ เทวดาองค์หนึง่ ที่ กำลังหมดอายุขาย จะต้ องลงไป
เสวยกรรมในนรก แต่เทวดาองค์นี ้ มีความกลัวมากที่จะต้ องลงไปเกิดใน เมืองนรกจึงดิ ้นรนทุกวิถีทาง ที่จะไม่ไปแต่ก็ไม่มีใคร
จะช่วยเหลือได้ แม้ แต่องค์ พระอินทร์ แต่ยงั โชคดีที่ได้ พบพระพุทธเจ้ า และทรงแนะให้ ภาวนาคาถาบทนี ้ จะได้ มีอายุยืนยาว
นานต่อไป เพื่อที่จะได้ ใช้ เวลาที่เหลืออยู่นี ้ บำเพ็ญภาวนา ใช้ หนี ้กรรมที่มีอยู่ ให้ หมดไป

พระคาถาบทนี ้ จึงมีพทุ ธานุภาพมาก ในเรื่ องของการมีอายุยืนยาวและยังทำให้ สขุ ภาพแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ ได้ ป่วย
อย่างง่าย ๆ อีกด้ วย ผู้ที่มีสขุ ภาพไม่ดี หรื อขี ้โรค หรื อป่ วยเป็ นโรคที่รักษายากแล้ ว ควรหมัน่ ท่องภาวนาเป็ นประจำ จะหายได้
โดยเร็ววัน

You might also like