You are on page 1of 8

วันแห่งความรัก หรือความใคร่

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?
id=truthoflife&month=01-
2011&date=18&group=9&gblog=45Feb.10’2011
ความรัก หรือความใคร่(ราคะ) มาจากความรู้(วิชชา) หรือความ
ไม่รู้(อวิชชา) ลองพิจารณาจากเพลง พุทธพจน์ และวิถีแห่งเซ็น ต่อไปนี้

เพลงนี้ มีผู้ขับรูองบันทึกเสียงไวูดูวยกันหลายคน เช่น สุเทพ วงศฺกำาแหง ศรี


ไสล สุชาติวุฒิ นัดดา วิยะกาญจน์ เบิร์ด ธงไชย แม็คคินไตรย์ ฯลฯ เป็ นตูน

คีตา พญาไท Manager Online

ความรัก เป็นและทำาอะไรได้หลายอย่าง

ความรักเป็ นความสุข แต่หลายครั้งก็ทก


ุ ข์เมื่อความรักไม่ไดูรับการตอบ
สนอง

ความรักเป็ นความบริสุทธิ ์ ในมิติหนึ่ ง แต่เป็ นความไม่บริสุทธิใ์ นอีกมิติหนึ่ ง

ความรักเป็ นผู้ใหู แต่เกือบทุกครั้งก็มค


ี วามตูองการจะเป็ นผู้รับกลับมาเสมอ

ความรักทำาใหูโลกเป็ นสีชมพ้ แต่กลับทำาใหูโลกของบางคนเป็ นสึคลำ้าหมอง

ความรักทำาใหูชีวิตมีความหวัง แต่เมื่อผิดหวัง ความรักกลับทำาใหูชีวิตเศรูา


หมอง

นี่ แหละกฏของอนิ จจัง เกิดขึ้น ตั้งอย่้ ดับไป หมุนเวียนอย่้อย่างนี้ เสมือนเขา


วงกตที่หาทางออกไม่ไดู

บทเพลงเกี่ยวกับความรักจากนี้ นำาเสนอเรื่องราวความรักเพียงดูานเดียว
ซึ่งเป็ นดูานที่สอดคลูองกับหลักธรรม ดังคำาตรัสของพระพุทธองค์ …..ทัสนะ
เพลงคนเราก็เท่านี้

คืนเหงา คนเดียวเปลี่ยวใจใดเปรียบ
เย็นยะเยียบ เงียบสงบสลบไสล
มีจิ้งหรืด กรีดเสียงสำาเนี ยงไพร
แลูวนูอมใจตรองต่อ...โอู มรณา...

คนเอ๋ย คนเรา ก็เท่านี้


ไม่เห็นมีสิ่งใด น่ าใฝ่ หา
กินกามเกียรติ เก่งโกูในโลกา
คือมายา ของชีวิต.. อนิ จจัง...
(ซำ้า) ซึ้ง ลวดลาย ลีลา ในหลูาโลก
เศรูาโศก สุขสมอารมณ์หวัง
ชั่วคร่้ ชั่วคราว มิยาวยัง
จะจริงจัง กับอะไร.. ในชีวิต...

คนเอ๋ย คนเรา ก็เท่านี้


ไม่เห็นมีสิ่งควรใหูชวน ติด..
กิน กาม เกียรติ หากว่าใคร แมูนไดูคิด
ตนเพียรวาง ลูางอามิส ...จิตพูนเวร

วัชราภรณ์ สุขสวัสดิ ์
วิถีเซน(52)...มากมารยาท

ยังมีอบ
ุ าสกวัยฉกรรจ์ผู้หนึ่ ง ไปกราบนมัสการพระผู้มีสมณศักดิส
์ ้งยังวัดแห่งหนึ่ ง ทั้งสองสนทนา
ธรรมกันอย่างออกรส ตั้งแต่เชูาจนกระทั่งถึงเวลาอาหารกลางวัน เณรจึงไดูจัดอาหารมาใหูท้ังสอง
เป็ นบะหมี่ชามใหญ่ 1 ชามและชามเล็ก 1 ชาม

เมื่อพระผู้มีสมณศักดิส
์ ้งเห็นสำารับกับขูาวที่เณรยกมา จึงไดูยกบะหมี่ชามใหญ่ย่ ืนใหูอุบาสกผู้น้ัน ทั้ง
ยังกล่าวว่า "ท่านรับประทานชามใหญ่เถอะ"

หากยึดตามธรรมเนี ยมปฏิบัติ อุบาสกผู้น้ันควรที่จะปฏิเสธและผลักไสบะหมี่ชามใหญ่กลับคืนไปยัง


พระสงฆ์ เพื่อแสดงความเคารพเกรงใจ ทว่าอุบาสกผู้น้ี กลับรับชามบะหมี่มาโดยไม่อิดเอื้อน จากนั้น
ลงมือรับประทานทันที เมื่อพระผู้มีสมณศักดิส ์ ้งเห็นดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจจนหนูานิ่ วคิ้วขมวดพลางคิด
ว่า "แรกทีเดียวคิดว่าคนผู้น้ี มีสติปัญญาไม่นอ ู ย ไฉนกลับกลายเป็ นโง่เขลาไรูมารยาทเช่นนี้ "

เมื่ออุบาสกรับประทานบะหมี่หมดชาม เงยหนูาขึ้นมาพบว่าพระร้ปนั้นยังไม่ไดูแตะตูองบะหมี่ชาม
เล็กแมูแต่นอู ย ทั้งยังมีสีหนูาเย็นชา จึงยิ้มพลางเอ่ยถามว่า "พระคุณเจูาไฉนไม่รับประทานบะหมี่?"

พระผู้มีสมณศักดิส ์ ้งเงียบงันไม่ตอบ อุบาสกจึงยิ้มและกล่าวต่อไปว่า "กระผมรู้สึกหิวยิ่งนัก จึงสนใจ


แต่ปากทูองของตนเองโดยลืมเลือนพระคุณเจูาไป แต่หากจะใหูกระผมผลักไสบะหมี่ชามใหญ่ท่ี
พระคุณเจูาหยิบยื่นมาใหูกระผมกลับคืนไปยังพระคุณเจูาอีก นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของกระผม และใน
เมื่อไม่ไดูต้ังใจ จะตูองเสแสรูงแกลูงทำาไปเพื่ออันใดเล่า ขอถามพระคุณเจูาว่าการเกี่ยงกันดูวยความ
เกรงใจไปมานั้นที่แทูแลูวจุดมุ่งหมายคืออะไร?"
พระผู้มีสมณศักดิส
์ ้งตอบว่า "เพื่อรับประทาน"

อุบาสกจึงกล่าวอย่างจริงจังว่า "ในเมื่อจุดประสงค์คือเพื่อรับประทาน ท่านรับประทานหรือกระผมรับ


ประทานก็ลูวนไม่ต่างกัน หรือว่าที่พระคุณเจูาชิงมอบบะหมี่ชามใหญ่ใหูกระผมนั้นเป็ นเพียงการเส
แสรูง มิใช่น้ ำาใสใจจริง?"

เมื่ออุบาสกกล่าวจบ พระผู้มีสมณศักดิส
์ ้งจึงไดูรู้แจูงกระจ่างใจ กระทั่งหลั่งนำ้าตาออกมา

ปั ญญาเซน : การแสดงความเกรงใจที่มากเกินไปกลับกลายเป็ นความเสแสรูง การเคร่งครัด


มารยาท มากพิธีจนเกินงามกลับกลายเป็ นสิ่งไรูสาระ ทั้งนี้ เพราะความซื่อสัตย์เปิ ดเผยจริงใจต่าง
หากจึงเป็ นคุณสมบัติพ้ ืนฐานของการเป็ นมนุษย์

เรื่องและภาพ ผู้จัดการออนไลน์

วิถีเซน(42)...ร้้ว่าเดินผิดทางแล้วละ
มีพระเซนร้ปหนึ่ ง เมื่อครั้งยังเป็ นหนุ่ม มักออกจะท่องเที่ยวธุดงค์ไปในที่ต่างๆ ไดูพบกับคนชอบส้บ
บุหรี่คนหนึ่ งระหว่างทาง ทั้งสองจึงเดินร่วมทางกันไปดูวยระยะหนึ่ ง ขณะที่น่ังพักอย่้ริมธาร ชายคน
นั้นไดูใหูกลูองส้บยาและยาเสูนจำานวนหนึ่ ง พระร้ปนั้นรับสิ่งที่คนนั้นใหูมาดูวยความยินดี จึงติดส้บ
ยาเสูนอย่้ระยะหนึ่ ง

วันหนึ่ งจึงไดูคิดว่า เจูาสิ่งนี้ ทำาใหูตัวเองมีความสุขมาก คงจะรบกวนการทำาสมาธิแน่นอน ถูาหาก


ปล่อยใหูเสพติดอย่างนี้ ต่อไป ก็จะกลายเป็ นความเคยชินที่ไม่ดีและแกูยาก น่าจะเลิกเสียแต่แรกดี
กว่า จึงนำากลูองและยาไปทิ้ง

ผ่านไปอีกระยะหนึ่ งก็ไปหมกมุ่นอยุ่กับคัมภีร์ “ยี่จิง” เรียนรู้จนสามารถคำานวญและทำานายอะไร


ต่างๆไดู วันหนึ่ งในหนูาหนาว อากาศหนาวสะทูานไปทั่ว พระเซนนั้นเลยเขียน จ.ม. ไปขอเสื้อกัน
หนาวจากพระอาจารย์ของตัวเอง แต่ว่า จ.ม.ส่งออกไปตั้งนาน นานจนหนูาหนาวผ่านไป หิมะบน
ภ้เขาก็ละลายไปหมดแลูว แต่พระอาจารย์ก็ยังไม่ไดูส่งเสื้อกันหนาวมา และก็ไม่มีข่าวคราวใดๆจาก
พระอาจารย์มาเลย พระร้ปนั้นเลยใชูตำาราคัมภีร์ “ยี่จิง”มาผ้กดวงเอง ที่สุดก็คำานวญออกมาว่า
จ.ม.ฉบับนั้นส่งไปไม่ถึงมือพระอาจารย์

เขาคิดในใจว่า แมูว่าคัมภีร์ “ยี่จิง” จะแม่นยำา แต่ว่าถูาเรายังหมกมุ่นอย่้กับทางเดินสายนี้ จะมุ่งมั่น


แน่วแน่ปฏิบัติธรรมไดูอย่างไร? ตั้งแต่น้ันมาเลยไม่ไปเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับคัมภีร์น้ี อก

หลังจากนั้น พระร้ปนั้นก็ไปหมกมุ่นอย่้กับเรื่องราวของการขีดๆเขียนๆอีก ทุกวันก็มักจะนั่งอ่าน


คูนควูา ขีดเขียนอย่้แต่กบ
ั หนังสือ มีผลงานออกมาหลายเล่มจนไดูรับการยกย่องจากคนในวงการไม่
ขาดปาก

ว้บหนึ่ ง ท่านคิดไดูว่า “ เรากลับมาเดินห่างจากเสูนทางแห่งมรรคอีกแลูว ถูาหากเป็ นอย่างนี้ ตอ


่ ไป
เราคงจะตูองกลายเป็ นนักประพันธ์ นักวิชาการ ก็คงจะเป็ นพระอาจารย์เซนไม่ไดูแลูว"

ตั้งแต่น้ันมาเลยตั้งหนูาตั้งตาปฏิบัตอิ ย่างเดียว ละทิ้งทุกอย่างที่ไม่เกี่ยวขูองกับการปฏิบต


ั ิธรรม ที่สุด
ก็กลายเป็ นพระอาจารย์ท่ีมีช่ อ
ื เสียงของนิ กายเซน

เรื่อง http://www.dhammajak.net
วิถีเซน(45)...อุทิศส่วนกุศล

มีชาวนาคนหนึ่ งไดูเชิญพระอาจารย์ท่านหนึ่ งไปที่บูาน เพื่อสวดอภิธรรมใหู


กับศพของภรรยาที่เสียชีวิต หลังจากที่สวดเสร็จแลูว ชาวนานั้นถามว่า

“ท่านคิดว่า ภรรยาของผมจะไดูส่วนกุศลจากการสวดนี้ สักเท่าไหร่”

“พระธรรมเหมือนยานแห่งความเมตตา เหมือนพระอาทิตย์ท่ีส่องแสง ไม่


แต่ภรรยาของเจูาจะไดู คนอื่นๆยังพลอยไดูรับส่วนกุศลไปดูวย”
ชาวนานั้นรู้สึกไม่พอใจ พ้ดว่า “ภรรยาของขูาพเจูาอ่อนแอมาก คนอื่นๆ
ย่อมจะมาเอาเปรียบ แย่งเอาส่วนกุศลไป ขอใหูท่านสวดอุทิศส่วนกุศลใหู
เขาโดยเฉพาะ อย่าอุทิศใหูกับผู้อ่ ืน”

พระอาจารย์พ้ดต่อไปว่า “การแผ่ส่วนกุศลของตัวเองใหูกับผู้อ่ ืน ทำาใหูผู้อ่ ืน


ไดูรับส่วนกุศลโดยทั่วกัน เป็ นสิ่งที่ดีท่ีเราชาวพุทธควรรักษาไวู

หลักการของการแผ่ส่วนกุศลเป็ นการอุทิศจากเหตุไปหาผล จากส่วนนูอย


ไปหาส่วนใหญ่ ก็เหมือนกับ แสงสว่างไม่ไดูเจาะจงจะส่องสว่างใหูกับบุคคล
ใดบุคคลหนึ่ งโดยเฉพาะ แสงสว่างสามารถส่องใหูกับคนไดูท้ังหมด เหมือน
กับดวงอาทิตย์ดวงเดียว ส่องสว่างใหูกับคนทั้งโลก เหมือนเมล็ดพันธ์ุ 1
เม็ด สามารถใหูผลผลิตไดูนับไม่ถูวน

เจูาควรจะใชูจิตของเจูา จุดสว่าง เทียนในใจใหูกับตัวเอง แลูวไปจุดต่อใหูกับ


เทียนเล่มอื่นๆ เพื่อทำาใหูแสงสว่างเพิ่มขึ้นเป็ นรูอยเท่าพันเท่า และนั่นก็ไม่
ไดูทำาใหูตัวของเทียนเองตูองส้ญเสียแสงสว่างแต่อย่างใด

ถูาหากทุกคนมีจิตสำานึ กอย่างนี้ จากจุดเล็กๆที่ตัวเรา รวมกันเป็ นกลุ่มชน


เป็ นมหาชน จะดีสักแค่ไหน พุทธศาสนิ กชนทุกคน ควรจะมองผู้คนอย่าง
เสมอภาคเหมือนกันหมด”

ชาวนานั้นยังมีทิฐิอีก พ้ดต่อไปอีกว่า “คำาสอนนี้ ดีมาก แต่ก็ยังอยากมีขูอ


ยกเวูนอีกอย่าง คือคนขูางบูานของขูาพเจูา มักจะชอบกลั่นแกลูงและรังแก
ขูาพเจูา ยกเวูนเขาสักคน ไม่ใหูมารวมกลุ่มอย่้ในกล่ม ุ ชนทั้งปวงไดูก็ดี”

“อย่้ใตูหลูาเดียวกัน มีอะไรตูองยกเวูน” พระอาจารย์ตอบ

เรื่อง http://www.dhammajak.net

You might also like