Professional Documents
Culture Documents
สก็อตlimit
สก็อตlimit
Limits and
continuity
ลิมต
ิ ด้านเดียว (One-Sided Limit)
นิยาม ลิมต ิ ขวา
และ ลิม ต
ิ ซ ้
าย
เป็ นฟั งก์ชน
f (x ) ั ทีอ ่ ยูบ ่ นชว่ ง (a, b) โดยที่เข b ถ้ L้า เมือ
a f<้าใกล ่ x
ให ้
เข ้าใกล ้ a จากด เรากล่ ้านขวา าวว่า มีลม
f (x)
ิ ต
ิ ด ้านขวามือเท่ากับ L
เขียนเป็ น
สมการได ้ว่า lim f ( x) L
เข ้าใกล ้ M
xa
เป็ นฟั
ใหง้ ก์ชน
f (x ) ั ทีอ ่ ยูบ ่ นชว่ ง (c, a) โดยที่ c<a ถ ้า f
เมือ ่ x
เข ้าใกล ้ aเรากล่
จากดา้านซ วว่า าย้ มีf (xล) ม
ิ ต ้ อเท่ากับ M
ิ ด ้านซายมื
เขียนเป็ น
สมการได ้ว่า lim f ( x) M
x a
ต ัวอย่า
งที่ 1
ต ัวอย่า
งที่ 1
ภาพแรกของตัวอย่าlim
2
งที- ่ 1 -x+1
(x )=3้ว่า
จะได
x2
ภาพสองของตัวอย่าlim
2
งที ่ (x
1 -x+1) =้ว่3า
จะได
x2+
2. lim
x
f ( x ) lim f ( x )
x o
-
x xo
f
อย่างที่ 2 ค่าลิมต ิ ไม่ขน ึ้ อยูก
่ บ
ั ค่าของฟั งก์ชน ั ที่ x0
ป f มีลม ิ ต
ิ เท่ากับ 2 เมือ ่ x 1 ถึงแม ้ว่า f หาค่าไม่ได g ้ที่ x
บ 2 เมือ
่ x ง
ถึ แม
1 ้ว่า ั h เป็ นฟั งก์ชน
g (1) 2ฟั งก์ชน ั ทีล ่
าเท่ากัxบ ค่า1 ของฟั งก์ชน ั ที่ x = 1 เราเขียนได lim h(้ว่xา) h(1)
x 1
x2 1
2
(a) f ( x)
x 1 (b) g ( x ) x 1 , x 1 (c ) h( x ) x 1
x 1 1 ,x 1
lim f ( x) lim g ( x) lim h( x) 2
x 1 x 1 x 1
ต ัวอย่า
งที่ 3 พิจารณา f(a)lim f ( x) lim f ( x)
xa xa
ต ัวอย่
างที่ 4
พิจารณ xlim
a
f ( x) lim f ( x)
xa
า f(a)
ต ัวอย่
างที่ 5
พิจารณา f(a)xlim
a
f ( x ) lim f ( x)
xa
ต ัวอย่
างที่ 6
พิจารณา f(a) lim f ( x) lim f ( x)
xa xa
ต ัวอย่า
งที่ 7
พิจารณา f(a) xlim
a
f ( x ) lim f ( x)
xa
ต ัวอย่า
งที่ 8
พิจารณา f(a)xlim
a
f ( x) lim f ( x)
xa
ั ทีม
ัวอย่างที่ 9 ฟั งก์ชน ่ ล
ี ม
ิ ต
ิ ทุกจุด
ั เฉพาะ
ถ ้า f เป็ นฟั งก์ชน lim f ( x ) lim x x0
x x0 x x0
(identity function)
f(x)= x ดังนัน ้ สำหรับค่า x0ใ
ถ ้า f เป็ นฟั งก์ชนั คงที่ lim f ( x) lim k k
ดๆ
(constant function) x x0 x x0
f(x)= k ดังyนัน
้ สำหรับค่า x0 y
ใดๆ y=x y=k
x 0
k
x0
x x 0
x
identity function constant function
ตัวอย่าง lim x 3
x 3 Identity function
เชน่ lim (4) lim(4) 4
x 7 x2 Constant function
ั อาจไม่มล
ฟั งก์ชน ี ม
ิ ต
ิ ดังในรูป
ต ัวอย่างที่ 10 การพิจารณาว่าไม่มลี ม
ิ ต
ิ
จงอธิบายพฤติกรรมของฟั งก์ชน ั ในรูปเมือ ่
1
0, x 0 , x0
ก)U ( x) 1, x 0 g ( x)ข)
x
0, x0
ารหาค่าลิมต
ิ ( Finding Limits)
ามารถหาค่าลิมต ้ ตศาสตร์และกฎพืน
ิ โดยใชคณิ ้ ฐานได ้
กฎของลิมต
ิ
า L, M, c และ k เป็ นเลขจำนวนจริlim งc มี
x
f ( x) L lim g ( x)และ
x c
M
กฎผลคูณด ้วยค่าคงทีlim
่xc (k f ( x)) k L
f ( x) L
กฎผลหาร lim
x c g ( x )
M
, M0
วิธทำ
ี
(ก) lim( x 4 x 2 3) lim x 3 lim 4 x 2 lim 3
3
x c x c x c x c
c 3 4c 2 3
x x 1
4 2 lim( x 4 x 2 1)
(ข) x c
lim
x c x 5
2
lim( x 2 5)
x c
lim x lim 5
2
x c x c
c4 c2 1
c2 5
(ค) lim 4 x 2 3
x 2
lim (4 x 2 3)
x 2
lim 4 x 2 lim 3
x -2 x 2
4(-2) 2 3
13
ลิมต
ิ ของพหุนาม
ถ ้าP ( x ) a n x n
a n 1 x n 1
a0
ลิมต
ิ ของฟั งก์ชนั ตรรกยะสามารถหาได ้โดยการแทนที่
ถ ้า P(x) และ Q(x) เป็Qน(c) 0
พหุนาม และP( x) P(c)
lim
x c Q( x) Q (c )
วอย่างที่ 12 ลิมต ั ตรรกยะ
ิ ของฟั งก์ชน
x 3 4 x 2 3 (1)3 4(1) 2 3 0
lim 0
x 1 x 5
2
(1) 5
2
6
การกำจัดตัวหารทีเ่ ท่ากับศูนย์
ตัวหารเป็ นศูนย์จะต ้องพยายามกำจัดตัวประกอบร่วม
mmon factors) ออกไปเพือ ่ ให ้ตัวหารไม่เป็ นศูนย์
ต ัวอย่างที่ 13 การกำจัดตัวประกอบร่วม
x x2 2
จงหา lim
x x
x 1 2
ราไม่สามารถแทน
วิธทำ
ี x = 1 ลงไปได ้เพราะตัวหารจะมีคา่ เป็ นศ
x 2 x 2 ( x 1)( x 2) x 2
x 2 x x( x 1) x
ถ ้า x 1
x2 x 2 x 2 1 2
ดังนัน
้ lim lim 3
x 1 x x
2 x 1 x 1
2
x x2 x2
f ( x) 2 g ( x)
x x x
2h 2
ย่างที่ 14 จงหาhว0 ม h
สร ้างและกำจัดตัวประกอบร่
lim
วิธทำ
ี
สามารถแทน h = 0 ได ้ และ ทัง้ เศษและสว่ นไม่มต
ี วั ประกอ
จึงต ้องสร ้างตัวประกอบร่วมขึน ้ โดยคูณทัง้ เศษและสว่ น
ทอมคอนจูเกท 2h 2
2h 2 2h 2 2h 2
h h 2h 2
2h2
h( 2 h 2 )
h
h( 2 h 2 )
1
2h 2
2h 2 1
lim lim
h 0 h h 0 2h 2
1
2 2
คือความชน
2h 2 /h ั ของเสนตรงที
้ ล
่ Pากผ่
( 2, 2า
) นจุด
Q 2 h, นโค
บนเส ้ 2 h ้ง y ในรู
x ปข ้างล่าง จากการคำนวณ
ว่า 1 / อ
คื 2 ค่
2า ลิมติ ของความชน ั ของเสนตรงนี
้ P ้ เมือ
Q ่
y
Q(2+h, 2+h)
P(2, 2)
2+h - 2
x
2 2+h
แบบฝึ กทักษะ
จงหาค่3 าลิ2มต ิ ของฟั งก์ชน ั ต่อไปนี้
x -3x +4
1. xlim
0 cosx
4-x2 x+1
4. lim
x2 3- x2 +5
5. lim
x-1 6x2 +3+3x
ทฤษฎีแซนวิช ( Sandwich Theorem)
าได ้ด ้วยทฤษฎีแซนวิช ทฤษฎีนอ ี้ ้างถึงฟั งก์ชน ั f ซงึ่
ั g และ h ถ ้า g และ h มีคา่ ลิมต
ก์ชน ิ เดียวกั
นเมื
x c อ่
จะมีคา่ ลิมต ่ เดียวกันกับฟั งก์ชน
ิ เชน ั ทัง้ 2 ด ้วย
y g ( x) f ( x) h( x), x
h
lim g ( x) lim h( x) L
L f x c x c
lim f ( x) L
g
x x c
0 c
ัวอย่างที่ 15 การใชทฤษฎี ้ แซนวิช
2 2
กำหนดให ้ 4
1
x
u ( x ) 1
x
สำหรั บทุ
ก ค่
า x ่ 0จงหาlim
x ที x0
u ( x)
2
x 2 x 2
ทำ เนือ
่ งจาก lim 1
x 0
lim 1
4 x 0
1
4
จากทฤษฎีแซนวิช
จะได ้ว่าxlim u ( x) 1
0
x2
h( x ) 1
4
u(x)
x2
g ( x) 1
4
้
ัวอย่างที่ 16 ทีใ่ ชทฤษฎี แซนวิชเพิม ่ เติม
จากรูป ก) เนือ่ งจาก sin ทุ และlim lim 0
กค่าของ 0 0
จะได ้ว่าlim
0
sin 0
1
2
แบบฝึ กหัด
1. ถ ้า 3xf(x) x3+2 สำหรับ 0 xlim2
x 1
จง
f ( x)
หาค่าของ
2
limx 2 sin
x 0 x
2. จงหาค่าของ
ลิมต ิ sin /
ของ
ฟั งก์ชนั มี ิ / ต
sinลม ิ ที่ 0เป็ น 1 แต่ไม่นย
ิ ามที
0 ่
พิสจ
ู น์
พท. OAP < พท.
OAP
1 < 1พท. OAT
sin 1 1 2 (1)(tan )
1
tan
2 2 2 2 2
1 1 sin
sin tan 1 cos
2 2 2
lim cos 1 sin
แต่ lim cos 1
0
ดั
ง นั น
้ lim
0
1 ด ้วย
0
sin
ต ัวอย่างที่ 1 7 การใช lim
0
้ 1
cos 1
จงแสดงให ้เห็นว่า0 0
lim
วิธทำ
ี cos 1 cos 1 cos 1
lim lim
0 0 cos 1
cos 2 1 sin 2
lim lim
0 (cos 1) 0 (cos 1)
sin sin
lim lim
0 0 cos 1
0
แบบฝึ กทักษะ
sin( x 1)
1. จงหาลิlim
ม x ต
1ิ xของ
2
x2
sin 2 x
2.จงหาลิมต
ิ ของ lim
x 0 5x
ลิมต
ิ ทีอ
่ นันต์
เป็ นการวิเคราะห์กราฟของฟั งก์xชน ั
เมือ
่
ั f ( x) 1 / xสำหรับx เป็
่ ฟั งก์ชน
เชน 0 นดังรูป
1
เมือ
่ x
x
0
lim f ( x) lim 1 / x 0
x x
แกน
้
เป็ นเสนกำกั
บในแนวนอน สมการเป็ น y=0
x
นิยาม ลิมต ิ เมื
xอ่
มีลfม
ิ (xต
ิ ) เป็ น L เมือ ่ า่ อนันต์
่ x เข ้าสูค
ก็ตอ ่ เมือ ่ xlim f ( x) L หรือlim f ( x) L
x
วอย่างที่ 18 ลิมต
ิ ของ 1/x และx k เมื
อ ่
1 1
จงแสดงว่า ก)limx x
lim (จากรู
x x
0 ปเป็ นจริง)
ข) lim k lim(ตามกฎลิ
x
k k
x
มต ั คงที)่
ิ ของฟั งก์ชน
กฎสำหรับลิมต
ิ เมื
อ
x ่
ลิมต
ิ ของการรวม การคูณ การหาร การคูณด ้วยค่าคงที่ และ
น จะเหมือนกับกฎของลิมต ิ ทีค
่ า่ ใดๆตามทีก
่ ล่าวมาแล ้ว
ลิมต
ิ ทีอ
่ น ันต์ของ
ั น
ฟังก์ชนที ่ า
่
สนใจ lim x n
1.x
เมือ
่ n=1,2,3,...
n
2. lim x เมือ
่ n=2,4,6,...
x
n
3.xlim
x เมือ
่ n=1,3,5...
1
3. lim n 0 เมือ
่ n =1,2,3,...
x x
1
lim n 0
x x
เมือ
่ n=1,2,3,...
1
4. lim n เมือ
่ n =1,2,3,...
x 0 x
1
5. lim n เมือ
่ n = 2,4,6,...
x 0 x
1
lim n เมือ
่ n = 1,3,5,...
x 0 x
ต ัวอย่างที่ 19 การใชทฤษฎี ้ ลม ิ ต
ิ ทีอ
่ นันต์
1 1
(ก)x x x x x 5 0 (กฎการรวม)
lim (5 ) lim 5 lim 5
3 1 1
(ข) lim
x - x 2
lim
x
3
x x
(กฎการคูณ)
1 1
lim 3 lim lim
x - x x x x
3 00 0
ลิมต ั ตรรกยะเมื
ิ ของฟั งก์ชน อ
่
ควรหารตลอดด
x ้วยตัวแปรทีม
่ กำ
ี ลังสูงสุด
างที่ 20 ตัวเศษและสว่ นมีอนั ดับของเลขยกกำลังเท่ากัน
5x 2 8x 3 5 (8 / x) (3 / x 2 )
lim lim (หารเศษและส ่ น
ว
x 3x 2
2 x 3 (2 / x )
2
50-0 5 ด ้วย x 2
)
3 0 3
Figure 1.27: The function in Example 3.
รูปต ัวอย่างที่ 20
่ เลขยกกำลังของเศษน ้อยกว่าสว่ น
ย่างที่ 21 เมือ
11x 2 (11 / x 2 ) (2 / x 3 )
lim lim
x 2 x 3 1 x 2 (1 / x 3 )
00
0
2-0
่ เลขยกกำลังของเศษมากกว่าสว่ น
อย่างที่ 22 เมือ
2x2 3 2 x (3 / x)
ก lim
x 7 x 4
lim
x 7 ( 4 / x )
)
4x3 7 x 4 x (7 / x )
ข) lim 2
x 2 x 3 x 10
lim
x 2 (3 / x ) (10 / x 2 )
รูปตัวอย่างที่ 5 ก) รูปตัวอย่าง
ที่ 5 ข)
4x3 7 x
y
2 x 2 3x 10
แบบฝึ กห ัด
จงหาลิมต ิ ทีอ
่ นันต์ตอ
่ ไปนี้
5 4 x
4 x
1.x x3
lim 2. lim
x 4 x 4 x
3x4+7x2+6 x 3
3.lim
x 4x2-3x-6 4. lim
x2 x2
้
เสนกำกั บแนว
นอนและแนวตัง้ ้
เสนกำกั
บแนวตัง้
ฟั งก์ชน ั f ( x) 1 / x
เมือ ่ x , 1 / x 0
lim 1 / x 0 เสนกำกั้ บ แนวนอน
x
่ x , 1 / x 0
เมือ
lim 1 / x 0
x
สน้ y = 0 คือเสนกำกั
้ บแนวนอนของกราฟของ f
1
่ x 0 , 1 / x x 0
เมือ
lim f
( x ) lim
x 0 x
1
่ x 0 , 1 / x xlim
เมือ
0
f ( x) lim
x 0 x
เสน้ ดั
x ง=นั0น ้
้ คือเสนกำกั
บแนวตัง้ ของกราฟของ
f
นิยาม เสนกำกั ้ บแนวนอนและแนวตัง้
้
y = b เป็ นเสนกำกั บแนวนอนของกราฟของฟั y f (x
งก์ ั
) ชน
ถ ้า lim f ( x) b หรือ xlim
f ( x) b
x
้
x = a เป็ นเสนกำกั บแนวตัง้ ของกราฟของฟั ั
y f ง(xก์)ชน
ถ ้าxlim
a
f ( x) ()หรือ lim f ( x) ()
xa
้
ต ัวอย่างที่ 23 หาเสนกำกั บ
x3
้
จงหาเสนกำกั บของโค x้ง 2
y
วิธทำ
ี หาพฤติกรรมของฟั งก์xชน ั
เมืและ
อ
่ x 2
x3 1 1 1
y 1 lim (1 ) 1, lim (1 )
x2 x2 x x2 x 2 x2
้
เสนกำกั ้
บในแนวนอนคือ y =1 และเสนกำกั
บในแนวตัง้ คือ
รูปตัวอย่างที่ 23
x =-2
y =1
ต ัวอย่างที่ 24 โค ้งทีม ้ บหลายเสน้
่ เี สนกำกั
โค ้ y sec x 1 sin x
และ y tan x
ง cos x cos x
้
จะมีเสนกำกั บแนวดิง่ มากมายทีcos ค 0 ดังรูป
่ า่ xของ
y sec x y tan x
้
ต ัวอย่างที่ 25 เสนกำกั ye
บแนวนอนของ
x
้ง เสน้
โคจะมี ้
y = 0 เป็ นเสนกำกั
บ
x
y e
แนวนอน ดังแสดงในรูป
lim e x 0
x
(
x
lim
x
e ไม่ม)ี
การใช ้
การ จ
เราสามารถที ่ ะหาพฤติกรรมของ y f (x) เมื่อ x
แทนที่ y f (1 / x) เมือ
่ x0
โดยการหาลิมต ิ ของ
(ดังจะกล่าว
แบบฝึ กห ัด
้
จงหาเสนกำกับของฟั งก์ชน ั ต่อไปนี้
1.f(x)=
1 2. f(x)=-1+ 1
x-2 2x+3
3 x
3.f(x)=x2-1 f(x)=
4. x2-1
ต ัวอย่างที่ 25 การใชการแทนที้ ่
จงหาlimx
sin(1 / x)
้
ต ัวอย่างที่ 26 การใชการแทนที ่
จงหา xlim
0
e1/ x
z z
2 sin cos
2 2
lim
2 z z z
z 0
2 3 sin 2 sin cos
2 2 2
z
cos
2
lim 1
z 0 z z
3 sin cos
2 2
แบบฝึ กห ัด
้ ารแทนทีห
จงใชก ิ ต่อไปนี้
่ าลิมต
(3/ x)3 +5
1. lim
x 2tan(1/ x)-1
2. lim (4e
-(1
/x) +log(1/ x)-6)
x 0
หาลิมต ิ อน ันต์ดว้ ย ทฤษฎีแซนวิช
ต ัวอย่างที่ 27 หาลิมต ิ เมือ่ x เข้าใกล้ หรือ 0
sin x
จงหาเสน y 2โดยใช
้ กำก ับของโค้ ง x ท
้ ฤษฎีแซนวิช
ธ
ิ ทำ
ี หาพฤติกรรมของฟังก์ ั และเมื
ชนเมื
x ่ อ
อ x่ (ต
0ัวหารเป็น 0
sin x 1 1
เมือ
่ เนือ
x ่ งจาก0 x
x และ lim
x x
0
sin x
ดังนัน
้ จะได ้ว่xlim
า x ตามทฤษฎี
0 แซนวิช
sin x
ดังนัน
้ xlim 2
x
20 2
นอกจากนัน
้ เมือ
่
sin x
x 0 ด ังน
lim นจึ
x 0
ั้ x งไม่ ้ กำก ับในแนวตงที
1 มเี สน ั้ จ่
รูปต ัวอย่างที่ 27
y =2
้ กำก ับแนว
การหาเสน
ลาดเอียง
า รื
อ
้
วอย่างที่ 28 การหาเสนกำกั
บแนวลาดเอี ย ง
2x2 3
้
หาเสนกำกั บแนวลาดเอียงของกราฟของ
f ( x)
7x 4
ทำ จากการหารตัวเศษด ้วยตัวสว่ น เราจะได ้
2 x 2 หายไปเมื
3 อ
่ |x| มีคา่ มาก
f ( x)
7x 4
2 8 115
x
7 49 49(7 x 4)
ั เชงิ เสน้ g(x)
ฟั งก์ชน
ดังนัน ้
้ เสนกำกั
บแนวลาดเอี ย งของ
2 8
2
8
กราฟของ f คือ g ( x) 7 x 49 g ( x )
7
x
49
แบบฝึ กห ัด
้ กำก ับ
จงหาเสน
x2 +3x+3
1.f(x)= x+1
1
2.f(x)=x+ 2
x
ความต่อเนือ
่ ง (Continuity)
เนือ ั ค
่ งเป็นฟังก์ชนที ั จะแปรผ ันอย่างต่อ
่ า่ ของฟังก์ชน
ะ จะไม่มก ี ารกระโดดจากค่าหนึง่ ไปอีกค่าหนึง่
ต ัวอย่างที่ 28 การหาความต่อเนือ ่ ง
จงหาจุในรู
ดทีฟ่ ปง
ัมีก์
คf ช ั
วามต่
น อเนือ
่ ง และไม่ตอ
่ เนือ
่ ง
y วิธทำ
ี ฟังก์ชนั จะต่อเนือ่ งท
2 ในโดเมน [0, 4]
1 ยกเว้นที่ x = 1, x = 2 และ x =
0 1 2 3 4
x
เหตุผล
จุดทีต่f่ อเนือ ่ ง
ที่ x =0
lim f ( x) f (0)
ที่ x =
x 0
lim f ( x) f (3)
3 x 3
จุดไม่
ทีf่ ตอ
่ เนือ่ ง
ที่ x =1 lim f ( x) ไม่ม ี
x1
ที่ x = lim f ( x) 1 แต่ 1 f (2)
2ที่ x = x2
lim f ( x) 1 แต่ 1 f (4)
4 x 4
ที
C่ < 0, ไม่
c >อ4ยูใ่ นโดเมนของ
f
นิยาม ความต่อเนือ
่ งทีจ
่ ด
ุ ใดๆ
ต่อเนือ
่ งจากขวา่ งจากซา้ ยและจากขวา
ต่อเนือ ่ งจากซา้ ย
ต่อเนือ
x
a c b
ทีจ
่ ด
ุ ภายใน ฟัมี
งค ก์ ั(x) อเนือ
y วามต่
ชf น ่ งทีจ
่ ด
ุ ภายใน c ถ้า
lim f ( x) f (c)
x c
ทีจ
่ ด
ุ ปลาย ฟั มีค
งก์ วามต่
yชfนั (x)อเนือ่ งทีจ ่ ด
ุ ปลายด้านขวามือ a
หรือมีความต่อเนือ ่ งทีจ่ ดุ ปลายด้าน
ซา้ ยมือ
lim
xa
fb( xของโดเมนของฟั
) f (a ) หรือ lim f ( xง
x b
)
ก์ช ั
f (bน )
ถ้า
ั อเนือ
อย่างที่ 29 ฟังก์ชนต่ ่ งตลอดโดเมน
ฟังก์ชน ั f ( x) 4 x 2มีความต่อเนือ
่ ง
ทุกจุดในโดเมน [-2, 2] ที่ x = -2
มีความต่อเนือ ่ งขวา และที่ x = 2
มีความต่อเนือ ่ งซา้ ย
ั
อย่างที่ 30 ฟังก์ชนไม่ ตอ
่ เนือ
่ งแบบกระโดด
ฟังก์ชนข ั นบ ั้ ันไดหนึง่
หน่วxlim
ย
( x) ด
UU(x) lim U ( x) 1
0 ังแสดง
0 x 0
ในรูป lim x 0
U ( x) และ
จะได้วา่ ไม่ม ี
เนือ
่ งจากฟังก์ชนมี ั
การกระโดดที่ x=0
ั
ารทดสอบความต่อเนือ ่ ง ( Continuity test)
จะมีฟั
คงวามต่ั (xอ)เนือ
ก์ชfน ่ งที่ x = c ถ้ามีคณ
ุ สมบ ัติ 3 ข้อด ังต่อ
1.หาค่ าได ้ ( c อยูใ่ นโดเมนของ
f(c) f )
หาค่าได f ้ ( มีxลมิ ต
ิ เมือ
่
2. xc
lim f ( x ) c
)
3. lim
x c
f ( x)(ค่ า
f (ลิ
c)มต
ิ เท่ากับค่าของฟั งก์ชน ั )
ไม่ตอ
่ เนืองที่ x=0 ไม่ตอ
่ เนืองที่ x=0
ั
น ทีต
่ อ
่ เนือ
่ งทุกจุดในโดเมน
ั
ฟังก์ชนพหุ นาม (polynomials)
ั
ฟังก์ชนตรรกยะ (rational functions)
ฟังก์ชนรากั (root functions) ( y x , n เป็นเต็มบวก> 1
n
3. ผลคูณ (Products) f g
kkเป
f ,็ นต ัวเลขใดๆ
4. ผลคูณค่าคงที่ (Constant multiples)
5. ผลหาร (Quotients)
f / g , g (c ) 0
ประกอบก ัน (Composites)
ประกอบของฟังก์ชนต่ ั อเนือ ่ งจะมีความต่อเนื)และ
y sin( x 2
อ ่
่ ง เชน
จะต่
y cos อเนื
x อ่ งทุกจุดในชว่ งทีกำ ่ หนด
ถ ้าต่f (xอ)เนือ
่ งที่ x = c และ ต่)อเนือ
g (x ่ งที่ xf =(c)
ดังนัจะต่
น
้ gof อเนือ่ งที่ x = c ลิมต ิ xเมื
อ ่c คือ g ( f (c))
วอย่างที่ 31 การใชท ้ ฤษฎีการประกอบ
x sin x
จงแสดงว่yา x 2มีค2 วามต่อเนือ
่ ง
x sin x
งจาก เป็นฟั ั อเนือ
2 งก์ชนต่ ่ ง (กฎการคูณ และกา
x 2
x sin x
เป็นฟังyก์ช ั | อเนือ
| xนต่ ่ ง ด ังนน
ั้ y x2 2 เป็นฟังก
x sin x
y x yx
y
x2 2
ทฤษฎีบทค่าระหว่าง
กลางของฟังก์ชนต่ ั อ y
ฟัเนื
งก์อ่ ชงน
yั (IVT)
ต่
อ เนื
f (x )อ ่ งบนชว ่ งปิ ด [f(b)a, b]
จะให้คา่ ได้ทก ุ ๆ ค่าระหว่ f (aและ
) างf (b)
y
0
เป็นค่
ถ้าyา0 ใดๆค่าหนึง่ ระหว่ f (a )และ
าง f(a)
f (b)ด ังนน ั้ y 0 fสำหร (c ) ับ c ทีอ ่ ยู่
ในชว ่ ง [ a, b] 0 a c b x
2 x 2, 1 x 2
รูปของ ฟังก์ช ั ) 3, 2 x 4
f ( xน
จะไม่ให้ทก ุ ค่าระหว่f า(1)ง 0
แ f (4) 3
จะไม่มค ละาง 2 และ 3
ี า่ y ระหว่ 0
ั อเนือ
เพราะไม่เป็นฟังก์ชนต่ ่ ง
ผลพลอยไ
ด้ถ้จ
า fาก IVT
เป็นฟั ั อเนือ
งก์ชนต่ ่ งปิ ด [a,b] โดยที่ f(a) และ f(b)
่ งบนชว
เป็น
จำนวนทีม ่ งหมายตรงข้ามก ันแล้ว จะมีจำนวนจริง c (a,b)
่ เี ครือ
อย่างน้อย
หนึง่ จำนวนทีทำ ่ ให้ f(c) = 0
y
f(a)>0
c b
x
a
f(c)=0 f(b)<0
ต ัวอย่าง 32 ใชท ้ ฤษฎีบทค่า
ระหว่างกลาง แสดงว่าสมการมีคำ
จงแสดงให้เห็นจริงว่า สมการ 4x -6x +3x-2 = 0 มีคำตอบทีเ่ ป็น
3 2
ตอบ ง
จำนวนจริ
อย่างน้อยหนึง่ คำตอบ
วิธทำ
ี สมมติให้ f(x) = 4x3-6x2+3x-2 ได้วา่ เป็นฟังก์ชนพหุ ั
นาม
ด ังนนั้ f เป็นฟังก์ชนต่ั อเนือ่ ง
เลือกชว ่ งปิ ดชว
่ งหนึง่ ทีทำ ั จ
่ ให้คา่ ฟังก์ชนที ่ ด
ุ ปลายชว ่ งทงสอง
ั้
เป็นจำนวนทีเ่ ครือ ่ ง
หมายตรงข้ามก ัน เชน ่ [1,2] จะเห็นว่า f(1) = -1 <0 , f(2) = 12
>0
ผลพลอยได้จาก IVT จะได้วา่ มีจำนวนจริง c (1,2) ที่
ทำให้ f(c) = 0
พูดอีกอย่างก็คอ ื มี c (1,2) เป็นคำตอบของสมการ 4x3-
6x2+3x-2 = 0
แบบฝึ กห ัด
1. ฟังก์ชนต่ ั อไปนีต ้ อ่ เนือ่ งบนชว ่ งI
ทีกำ
่ หนดหรือไม่ ถ้าไม่ตอ ่ เนือ ่ ง ให้
ระบุวา่ fไม่ ต อ
2
x่ ,เนือ
่ x งที
2 ่ x มีคา ่ เท่ า ใด
1. ( x )
2 x, x2
I [0, 4]
1 x 2, x2
1. f ( x) x 2, x 2 I [0, 4]
2
แบบฝึ กห ัด
2. จงหาจำนวนจริง c และ d ทีทำ ่ ให้ f
เป็นฟังก์ 7ช ั 2 เมื
x นต่ อเนื อ
่ อ
่ ง
f ( x)
2.1 2
cx เมื
xอ ่ 1
x 1
2 x เมือ ่ x
f ( x) cx 2 d 1 เมือ ่ 1x
2.2 4 x เมื2อ
่ x
2
x3 -2x2 -x+2
3. ให้ f(x) = 2
x -1
ถ้าต้องการให้ f ต่อเนือ
่ งบนเซต
ของจำนวนจริง ต้องเพิม ่ นิยาม
อะไร 3
แสดงว่าสมการ x -x+1 = 0 มีคำตอบทีเ่ ป็นจำนวน
งน้อย 1 คำตอบ
้ ม
เสนส ั ผัส (Tangent Lines)
วงกลมคือเสน้ L ทีส ่ มั ผัสวงกลมและตัง้ ฉากกับรัศมีของวง
อย่างไรถ ้าเสน้ L สม ั ผัสกับเสนโค้ ้งอืน
่ C ทีจ
่ ด
ุ P โดยทัว่ ไ
้ความหมายของเสนส ้ ม ั ผัสอย่างใดอย่างหนึง่ ต่อไปนี้
1. L ผ่าน P ตัง้ ฉากกับเสนจาก ้ P ไปยัง
จุดศูนย์กลาง C
2. L ผ่านเพียงจุดเดียวของ C นั่นคือ P
3.
P y ด P และอยูyเ่ พียงด ้านเดียวของ
L ผ่านจุ
L C y L
L
C L C P C
O P
P
x x x
กรณีไม่ใชเ่ สนส
้ มั ผัส
นิยามของเสนส ้ ม ั ผัสสามารถกับเสนโค ้ ้งทัว่ ไป ต ้อง
้
ใชการเคลื อ
่ นเข ้าใกล ้ โดยการพิจารณาพฤติกรรม
ของเสนตั ้ ดเมือ ่ จุด Q เคลือ ่ นเข ้าหาจุด P ตามเสน้
โค ้ง ดังรูปและคำนวณหาลิมต ิ ของความชน ั ของเสน้
ตัดเมือ
่ Q เคลือ ่ นตามเสนโค ้ ้งเข ้าหาจุด P ถ ้ามีลม ิ ต ิ
ค่าความชน ั ของเสนส ้ มั ผัสทีจ ่ ด ุ P จะเท่
เส า้ กับ
นส ั
ม ค่
าสลิมต
ผั ิ
เสนส้ ม ั ผัส
้ ด
เสนตั
Q
P P
Q
ต ัวอย่างที่ 1 เสนส้ ม ั ผัสโค ้งพาราโบลา
ั
ความชนของพาราโบลา y x 2
ทีจ่ ดุ P(2, 4) แล ้วเขียนสม
มผัสกับพาราโบลาทีจ ่ ด
ุ นี้
้ ดผ่านจุด P(2, 4) และจุด Q(2+h, (2+h)2) แล ้วหา
ากเสนตั
Q จากนัน ้ หาความชน ั ของเสนตั ้ ดเมื อ
่ 2 Q เคลื อ ้
่ นตามเสนโคง
y (2 h) 2
2
h 4h 4 4
2
ความชน ั ของเสนตั
้ ด x
h
h
h 4h 2
y y=x 2
h
Q(2+h,(2+h)2) h4
Tangent line
lim(h 4) 4
D y=h2-4 h 0
P(2,4) ้
คือเสนตรงทีผ่ า่ นจุด P ทีม ่ ค
ี วามชนั เท่า
D x=h มีสมการเป็ น y 4 4( x 2)
2 x
2+h y 4x 4
าม ความชนั lim
และเส 0้ + ม
f (xนส ัh)ผั–สf (x
(Slope
0) and Tangent Line)
ั ของเส
ความชน h0 ้
นโค ้งh y f (xที) จ
่ ด
ุ P( x0 , f ( x0 ))คือ
f ( x0 h) f ( x0 )
m lim
h 0 h
เสนส ้ ม
ั ผัสกับเสนโค
้ ้งที่ P
้
คือเสนตรงที ล
่ ากผ่านจุด P
ด ้วยความชน ั m
วอย่างที่ 2 ความชน ั และเสนส ้ มั ผัสของ y = 1/x
หาความชน ั ของโค ้ง y = 1/x ที่ x = a
ใดมีความชน ั เท่ากับ -1/4
กิดอะไรขึน้ กับเสนส ้ ม ั ผัสของโค ้งทีจ ่ ด
ุ (a, 1/a) เมือ
่ a เปลย
วิธทำี
(ก) f ( x) ความช
1/ x ั ที่ (a, 1/a) คือ
น
1 1
f ( a h) f ( a )
lim lim a h a
h0 h h 0 h
1 a ( a h)
lim
h 0 h a ( a h)
1 1
lim 2
h 0 a ( a h) a
1 1
(ข) 2
จุ
ด
4
, ที
a ม
่ ค
ี ั
2 วามชน = -1/4 คือ (-2,-1/2),(2,1/2
a
ั จะเป็ นลบเสมอและมีคา่ มากขึน
วามชน ้ เมือ
่ a มีคา่ มากขึน
้
Text and lines are
like this Table
Hyperlinks like this
Visited hyperlinks
like this
Text
Textbox
box
Text box
With
Withshadow
shadow
นิยามทีแ ่ ม่นยำของลิมต ิ อนันต์
่ )า่ อนันต์บวกเมือ
เข ้าสูf (x
ค ่ x เขx้าใกล 0หรือ xlim
้ x f ( x)
0
้าทุกเลขจำนวนจริงบวก B ที ทำ
่ 0 และ
ให ้ 0 x x f ( x) B
0
เข ้าสู
f (x ่ )า่ อนันต์ลบเมือ
ค ่ x เขx้าใกล 0 หรือ้ x x
lim f ( x)
0
y 3x 4
y 3x 4
การวิเคราะห์
ให ้ 5 x 6 และ
4 3 2
f ( x ) 3 x 2 x 3 x g ( x) 3 x 4
f ( x) 3x 4 2 x 3 3x 2 5 x 6
lim lim
x g ( x ) x 3x 4
2 1 5 2
lim 1 2 3 4
x 3x x 3x x
1
สดงว่า g(x) สามารถแทน f(x) ได ้เมือ
่ |x|มีคา่ มาก
าม แบบจำลองพฤติกรรมปลาย (End behavior model)
เป็งนแบบจำลองพฤติ
ฟั ั g
ก์ชน กรรมปลายขวาของ f ถ ้า
f ( x)
lim 1
x g ( x )
เป็ ัg
ฟั งนแบบจำลองพฤติ
ก์ชน ้
กรรมปลายซายของ f ถ ้า
f ( x)
lim 1
x g ( x )
างที่ 28 การหาแบบจำลองพฤติกรรมปลาย (End behavio
x
ให ้
f ( x ) x จงแสดงว่
e x) x
คืgอา(แบบจำลองพฤติ
กรรมปลายขวาข
f
และคือแบบจำลองพฤติกรรมปลายซ
h ( x ) e x
้
f ายของ
วิธทำ
ี ด ้านขวาf ( x) x e x e x
lim lim lim1 1
x g ( x ) x x x x
ex
เพราะว่า lim
x x
0
ด ้าน
f ( x) x e x x
้
ซายlim lim x
lim 1 x 1
x h( x ) x e x
e
x
lim 0
เพราะว่า x e x
รูปตัวอย่างที่ 28
ลิมติ ของฟังก์ชน ั
ตรรกยะก
กำหนดให ้ f(x)ับค่ และา g(x) เป็ นฟั งก์ชนั พหุนาม ดังนี้
อน ันต์
f x a x n a x n 1 ... a x 2 a x a ; a 0
n n 1 2 1 0 n
g x bm x m bm 1x m 1 ... b2 x 2 b1x b0 ; bm 0
f เรี
x ยกว่าฟั งก์ชน
ั ตรรกยะ และลิมต
ิ ของ
g น
ฟั งก์ช
ั xตรรกยะ หาได ้ดังนี้
f x an x n
lim lim
x g x x b x m
m
f x an x n
และ lim lim
x g x x b x m
m