Professional Documents
Culture Documents
คติธรรม 18 พระอาจารย์
คติธรรม 18 พระอาจารย์
๑. หลวงปูเสาร กนฺตสีโล
๒. หลวงปูม
ั่น ภูริทตฺโต
การบํารุงรักษาสิ่งใดๆ ในโลก...การบํารุงรักษาตนคือ ใจ
เปนเยี่ยม จุดที่เยี่ยมยอดของโลกคือ ใจ ควรบํารุงรักษา
ดวยดี
ติดดี นี่แกยากกวาติดชั่วเสียอีก
๓. หลวงปูดล
ู ย อตุโล
ถึงจิตไมสงบก็ไมควรใหมันออกไปไกลใชสติระลึกไป
แตในภายในกายนี้ ดูใหเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อสุภ
สัญญา หาสาระ แกนสารไมได เมื่อจิตมองเห็นชัดแลว
จิตก็เกิดความสลดสังเวช เกิดนิพพิทา ความหนาย
คลายกําหนัด ยอมตัดอุปาทานขันธไดเชนเดียวกัน
ทุกขกับความเพียรเทานั้นที่มีคามากในโลกนี้ หากไมมี
ทุกขกับความเพียรเสียแลว ใครๆ ในโลกนี้ จะไมทํา
ความดีเพื่อพนทุกขในโลกนี้และโลกหนา ตลอดถึงพระ
นิพพาน
แทจริงความนึกคิดไมใชทุกข แตการไปยึดความนึกคิด
มาเปนของตน จึงเปนทุกข
หลักอนัตตา ในทางพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจาตรัสรู
ดวยปญญาอันชอบ พระองคมิไดตรัสวาอนัตตาเปนของ
ไมมีตนไมมีตัว เปนของวางเปลา พระองคตรัสวา ตนตัวคือ รางกายของคนเรา อันไดแกขันธทั้ง
๕ นี้ มันมีอยูแลว แตจะหาสิ่งเปนสาระในขันธ ๕ นั้นไมมี ดังนี้ตางหาก
การเห็นความฟุงซานของจิตนั้นคือ ...ปญญาชั้นตน...
๖. หลวงปูแหวน สุจิณฺโณ
๗. ทานพอลี ธมฺมธโร
เมื่อมนุษยเปนคนไมดี แมวัตถุเหลานั้นจะเปนของดีก็ตาม
มันจะกลับกลายเปนโทษแกปวงชนไดเหมือนกัน
ถามนุษยมีธรรมประจําใจ สิ่งทั้งหลายที่ใหโทษก็จะ
กลายเปนประโยชน
พวกเราทั้งหลายไมมีความสัตยความจริงตอดัวเอง จึง
มิไดประสบสุขอันแทจริงเหมือนอยางพระพุทธองค เรา
บอกกับตัวเองวา อยากไดความสุข แตเราก็โดดเขาไปสู
กองไฟรอน เรารูวาสิ่งนั้นๆ เปนยาพิษ แตเราก็ดื่มมันเขา
ไป นี่แหละเปนการทรยศตอตัวเอง
๘. ทานเจาคุณนรรัตนราชมานิต
ที่จะทําอะไรไมผิดนั้น ขอสําคัญอยูที่สติถามีสติคุมครองกาย
วาจา ใจ อยูทุกขณะ จะทําอะไรไมผิดพลาดเลย ที่ผิดพลาด
เพราะขาดสติคือ เผลอ เหมอ เลินเลอ ประมาท ระเริง หลงลืม
จึงผิดพลาด จงนึกถึงคติพจนวา ...กุมสติตางโลปอง อาจ
แกลวกลางสนาม...
ตองฝกหัดแกไขปรับปรุงจิตใจเสียใหมทั้งกอนที่จะทําอะไร
หรือกําลังกระทําอยู และเมื่อเวลากระทําเสร็จแลว ตองหัดให
จิตใจ แชมชื่นรื่นเริง เกิดปติปราโมทย เปนสุขสบายอยูเสมอ
เปนเหตุใหเกิดกําลังกาย กําลังใจ ...Enjoy living...มีชีวิตอยู
ดวยความเบิกบาน สมองจึงจะเบิกบาน จะศึกษาเลาเรียนก็เขาใจงายเหมือนดอกไมที่แยมบาน
ตองรับหยาดน้ําคาง และอากาศอันบริสุทธิ์ฉะนั้น
๙. หลวงปูฝน อาจาโร
ความจริงจิตใจของเราเองเปนตัวกอทุกข สังเกตได
จากพระอรหันตสาวกทั้งหลาย เมื่อทานมีความรู มี
ปญญาคุมครองรักษาใจทานดีแลว ทานก็ไมมีทุกข
เพราะทานไมปรารถนาในสิ่งตางๆ เมื่อเราประสบกับ
รูป กลิ่น เสียง หรืออื่นๆ ก็เพราะใจเรามีตัณหา
ปรารถนา ทะเยอทะยาน ยินดียินรายในสิ่งเหลานั้น
ทําใหเราเปนทุกข
การภาวนา ทานตองการใหเราปราบกิเลสของเรา
เทานั้น คือเห็นความโลภ เห็นความโกรธของตน เห็น
ความหลงของตน เห็นราคะตัณหาของตน เห็น
มานะทิฏฐิของตน
...โลกเทาแผนดิน ธรรมเทาปลายเข็ม...
เรื่องโลกมีแตเรื่องยุงของคนอื่นทั้งนั้น ไมมีที่สิ้นสุด เรา
ไปแกไขเขาไมได
รอใหแกเฒาหรือจวนตัวแลวจึงสนใจภาวนา ก็เหมือน
คนหัดวายน้ําเอาตอนเรือหรือแพใกลแตก มันจะไมทัน
การณ
๑๒. หลวงปูสิม พุทฺธาจาโร
เมื่อสิ่งที่ไมเที่ยงนั้นแหละมาถึงบุคคลใด บุคคลนั้น
จะตองรูเทาทัน อยาไปยึดเอาถือเอา เมื่อไปยึดสิ่งได
ถือสิ่งไดสิ่งนั้นไมเปนไปตามใจหวัง ก็เกิดความทุกข
ขึ้นมา ถาไมยึดเอาถือเอา เห็นวา ทุกสิ่งทุกอยางยอมมี
ความไมเที่ยงอยางนี้ มีความเกิดขึ้น ตั้งอยูแลวดับไป
เกิดขึ้นใหม ตั้งอยู ก็ดับไป เกิดขึ้นแลวก็ดับไป เปนอยู
อยางนี้ทุกสิ่งทุกอยาง ไมวาคน สัตว วัตถุธาตุทั้งหลาย
มีความไมเที่ยงแทแนนอนอยางนี้
วันเวลาที่หมดไปสิ้นไป โดยไมไดทําอะไรที่เปน
คุณประโยชนแกตัวเองบางในชีวิตที่เกิดมาในโลก และ
ไดพบพระพุทธศาสนานี้ชางเปนชีวิตที่นาเสียดายยิ่งนัก
เวลาแมเพียงหนึ่งนาทีที่ผานไปนั้น แมวา จะทุมเงิน
จํานวนมหาศาลสักสิบลาน รอยลานบาท ก็ไมสามารถ
ซื้อกลับคืนมาได ฉะนั้น สิ่งที่นาเสียดายในโลกนี้ จะมี
อะไรนาเสียดายเทากับปลอยวันเวลาผานเลยไปโดย
เปลาประโยชน แมวาจะเพียงแคนาทีเดียว
กอนที่จะพูดอะไร ใหถามตัวเองวาที่จะพูดนี้จําเปนหรือ
เปลา ถาไมจําเปนก็อยาพูด นี่เปนขั้นตนของการอบรม
ใจ เพราะถาเราควบคุมปากตัวเองไมได เราจะควบคุมใจ
ไดอยางไร
จิตเปรียบเหมือนพระราชา อารมณทั้งหลายเปรียบ
เหมือนเสนา เราอยาเปนพระราชาที่หเู บา
มัวแตนึกถึงวันเกิด ใหนึกถึงวันตายเสียบาง
ผูไปยึดอารมณจะเปนทุกข เพราะอารมณมันไมเที่ยง
มองตัวเองใหมากจึงจะกลายเปนคนดีได มัวแตมอง
ทานผูอื่นแลวไซร ก็กลายเปนคนพาลไป ไมรูตัว
เพราะนิสัยคนพาลยอมเพงโทษผูอื่นเปนวัตร โบราณ
ทานกลาววา อุจจาระของตนนั่งดมอยูก็พอดม
อุจจาระทานผูอื่นเลา มากระทบจมูกเขาก็เกิดเปนพิษ
เปนภัยขึ้น (โลกทั้งปวงยอมเปนแบบนี้เปนสวนมาก)
ถาหากโลกทั้งปวงหนักไปทางสอนตนเองเปนชั้นหนึ่ง
และเปนของจําเปนมากกวาสิ่งใดๆ แลว การโตเถียง
เกี่ยงงอนรังเกียจเบียดสีกัน ก็คงสงบไปในตัว
เทาที่ควร และพุทธศาสนาก็ยืนยันวา ...สอนตนดีแลว
จึงสอนทานผูอื่น...จึงไมเดือดรอนในภายหลัง
เรื่องอุปสรรคในโลกทั้งปวง และก็เปนยาวิเศษทั้งปวง
ไปในตัว เปนเหตุใหเข็ดหลาบโลกทั้งปวงไปในตัว
แบบถี่ถวนแยบคายดวยซ้ํา
มุงดีในโลกียเปนทางวนเวียน มุงดีในทางโลกุตตระเปนทางพนทุกข