Professional Documents
Culture Documents
หลวงปู่มั่น 1-28
หลวงปู่มั่น 1-28
ท่านพระอาจารย์ มัน
่
ภูรท
ิ ัตตเถระ
โดย ท่านอาจารย์พระมหาบัว
ญาณสัมปั นโน
แห่งวัดป่ าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี
ฉบับสมบูรณ์ เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต
www.luangta.com
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 1
2
ส า ร บ า
หน้า
1. ประวัติ
๔
2. เกิดสุบินนิ มิต
๕
3. เกิดสมาธินิมิต
๗
4. เวลาท่านพักอยู่ในถ้้านี้ มีรูอะไรแปลก ๆ หลาย
อย่าง ๑๘
5. พระสาวกอรหันต์มาแสดงธรรมใหูฟัง
๒๘
6. ขูอวัตรประจ้าองค์ท่านโดยเฉพาะในมัชฌิมวัย
๖๘
7. พระพุทธเจูาและพระสาวกอรหันต์เสด็จมา
อนุโมทนา ๑๐๔
8. เทวดาประเทศเยอรมันมาขอฟั งเทศน์ท่าน
๑๓๑
9. ทูาวสักกเทวราชบนสวรรค์มาเยี่ยมท่านเสมอ
๑๔๐
10. ลูกศิษย์กับอาจารย์โตูนรก-สวรรค์กน
ั
๑๕๐
11. ท่านพิจารณาเห็นถ้้าดูวยตาทิพย์
๑๕๕
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 2
3
ห นั ง สื อป ร ะ วั ติ ท่ า น พ ร ะ อา จ าร ย์ มั่ น ภู ริ ทั ต ต เ ถ ร ะ
ปรากฏว่ามีท่านผููสนใจมากเป็ นที่น่าภูมิใจ สมกับประเทศไทย
เป็ นเมืองพระพุทธศาสนาที่ชาวไทยนับถือเป็ นชีวิตจิตใจตลอด
มา ทั้งที่ทราบจากคราวที่ “ศรีสัปดาห์” พิมพ์เป็ นอนุสรณ์ใน
พระราชพิธีรัชดาภิเษก เพื่อแจกเป็ นธรรมทาน จ้า นวนหลาย
พั น เล่ ม ซึ่ ง ถู า คิ ด เป็ นมู ล ค่ า ก็ ค งไม่ ต่ ้ ากว่ า ๒ แสนบาท เมื่ อ
แถลงใหูทราบทาง “ศรีสัปดาห์” เพื่อแจกทาน ก็มีท่านที่สนใจ
มารั บ เป็ นจ้า นวนมาก จนหนั ง สื อ ไม่ พ อแจกและหมดไปใน
เวลาอันรวดเร็ว ทราบว่าทาง “ศรีสัปดาห์” ตูองพิมพ์เพิ่มอีก
จ้า นวน ๒ พั น เล่ ม เพื่ อเป็ นน้้ าใจแด่ ท่ า นที่ เ ป็ นสมาชิ ก แห่ ง
“ศรีสั ปดาห์ ” แมูเช่นนั้นก็ยังไม่พอกับความตูองการ จ้าเป็ น
ตูองขอความเห็นใจที่ “ศรีสัปดาห์ ” ไม่สามารถปฏิบัติกับทุก
ท่านไดูโดยทั่วถึง ดังนี้ จึงท้าใหูรูสึกว่าหนังสือประวัติท่านเล่ม
นี้ เป็ นที่น่าสนใจแก่ชาวพุทธเราอยู่มาก
ดูวยเหตุน้ี ในวาระต่อมาจึงไดูคิดรวมศรัทธากันจัดพิมพ์
ขึ้ น ใหม่ อี ก โดยขอใหู ผู เ ขี ย นประวั ติ ท่ า นเป็ นผูู น้า ในการจั ด
พิ ม พ์ หนั ง สื อ ประวั ติ ท่ า นพระอาจารย์ อ งค์ ส้า คั ญ นี้ จึ ง ไดู
ส้า เร็ จ เป็ นเล่ ม ขึ้ น มาดู ว ยก้า ลั ง ศรั ท ธาของท่ า นที่ ใ จบุ ญ ทั้ ง
หลาย แต่ ไ ม่ ส ามารถออกนามใหู ท่ั ว ถึ ง ไวู ณ ที่ น่ี ไดู เพราะ
มากท่ า นดู ว ยกั น ที่ ร่ ว มบริ จ าค จึ ง ขออภั ย ทุ ก ท่ า นดู ว ยความ
เสียใจอย่างยิ่ง กรุณายึดมั่นตามหลักธรรมว่า “บุญย่อมเกิดที่
น้้าใจของท่านผููเป็ นตูนเหตุแห่งศรัทธาบริจาค ไม่เกิดในที่อ่ ืน
ใด และใจจะเป็ นผููรับผลแห่งบุญทั้งหลายที่ตนบ้าเพ็ญไวูแลูว”
ท่านจะเป็ นสุขใจตลอดกาล ไม่มีอะไรมากวนใจ
หนังสือเล่มนี้ ผูเขียนมีความมุ่งหมาย ประสงค์ใหูทุกท่าน
ที่ มี ศ รั ท ธาเป็ นเจู า ของดู ว ยกั น พิ ม พ์ เ ป็ นธรรมทานไดู ทุ ก
โ อกาส ไม่ ตู อ งขออนุ ญ าต แ ต่ อย่ าง ใ ด ส่ ว น จ ะพิ ม พ์ เ พื่ อ
จ้าหน่ ายจึงขอสงวนลิขสิทธิ ์ ดังที่เคยปฏิบัติมาทุกเล่มที่ผูเขียน
เป็ นตูนฉบับ เพื่อเทิดทูนพระศาสนาและครูอาจารย์ตามก้าลัง
ดูวยความบริสุทธิใ์ จ
ขออ้า นาจคุณพระศรีรัตนตรัยและคุณท่านพระอาจารย์
มั่ น ผูู เ ป็ นเจู า ของประวั ติ จงก้า จั ด ภั ย พิ บั ติ ส ารพั ด อั น ตราย
อย่าไดูมีแก่ท่านทั้งหลาย ขอใหูมีแต่คุณธรรมที่พึงปรารถนา
และความสุขกายสบายใจ เพราะอ้า นาจแห่งบุญเป็ นที่พึ่งพิง
อิงแอบแนบเนื้ อท่านไปตลอดสาย อย่าไดูมีวันเสื่อมคลายหาย
สู ญ จงสมบู ร ณ์ พู น ผลไปดู ว ยสมบั ติ อั น อุ ด มมงคลนานา
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 4
5
ประวัติ ท่านพระอาจารย์มัน
่ ภู
ชีวประวัติและปฏิปทาคือจริยธรรมของท่านพระอาจารย์
มั่ น ภู ริ ทั ต ตเถระ ที่ ท่ า นก้า ลั ง อ่ า นอยู่ ข ณะนี้ ผูู เ ขี ย น (ท่ า น
อาจารย์ พ ระมหาบั ว ญาณสั ม ปั นโน) ไดู พ ยายามเสาะ
แสวงหามารวบรวมตามก้าลังความสามารถจากพระอาจารย์
หลายท่านที่เคยเป็ นศิษย์อยู่ศึกษาอบรมกับท่านมาเป็ นยุค ๆ
จนถึงวาระสุดทูาย แต่คงไม่ถูกตูองแม่นย้าตามประสงค์เท่าไร
นัก เพราะท่านที่จดจ้า มาและผููรวบรวมคงไม่อาจรููและจ้า ไดู
ทุกประโยค และทุกกาลสถานที่ท่ีท่านเที่ยวจาริกบ้าเพ็ญและ
แสดงใหู ฟั งในที่ ต่ า ง ๆ กั น ถู า จะรอใหู จ้า ไดู ห มดทุ ก แง่ ทุ ก
กระทงถึ งจะน้า มาลงก็นั บวั น จะลบเลื อ นและหลงลื ม ไปหมด
คงไม่ มี ห วั ง ไดู น้า มาลงใหู ท่ า นผูู ส นใจไดู อ่ า น พอเป็ นคติ แ ก่
อนุชนรุ่นหลังอย่างแน่ นอน
ดังนั้ น แมูจะเป็ นประวัติท่ีไม่สมบูรณ์ท้า นองลู มลุกคลุก
คลาน ก็ยัง หวั งว่ าจะเกิด ประโยชน์อ ยู่ บูา ง การเขี ยนประวั ติ
และจริ ย ธรรมของท่ า น ทั้ ง ภายนอกที่ แ สดงออกทางกาย
วาจา และภายในที่ท่านรููเห็นเฉพาะใจแลูวแสดงใหูฟังนั้น จะ
เขียนเป็ นท้า นองเกจิอาจารย์ท่ีเขียนประวัติของพระสาวกทั้ง
หลาย ดังที่ ไดู เห็ นในต้า รา ซึ่ งแสดงไวูต่ าง ๆ กัน เพื่ ออนุชน
รุ่ น หลั ง จะไดู เ ห็ น ร่ อ งรอยที่ ธ รรมแสดงผลแก่ ท่ า นผูู ส นใจ
ปฏิ บั ติ ต ามมาเป็ นยุ ค ๆ จนถึ ง สมั ย ปั จจุ บั น หากไม่ ส มควร
ประการใด แมู จ ะเป็ นความจริ ง ดั ง ที่ ไ ดู ยิ น ไดู ฟั งมาจากท่ า น
แต่ ก็ ห วั ง ว่ า คงไดู รั บ อภั ย จากท่ า นผูู อ่ า นทั้ ง หลาย เนื่ องจาก
เจตนาที่มีต่อท่านผููสนใจในธรรม อาจไดูคติขูอคิดบูาง จึงไดู
ตัดสินใจเขียนทั้งที่ไม่สะดวกใจนัก
ท่ า นพระอาจารย์ ม่ั น ภู ริ ทั ต ตเถระ เป็ นอาจารย์ ท าง
วิ ปัสสนา ซึ่งควรไดู รับยกย่ องสรรเสริญ อย่ างยิ่ ง จากบรรดา
ศิษย์ผูอยู่ใกลูชิดท่าน ว่าเป็ นอาจารย์วิปัสสนาชั้นเยี่ยมในสมัย
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 5
6
เกิดสุบิน
เมื่อท่านเริ่มปฏิบัติวิปัสสนาใหม่ ๆ ในส้านักพระอาจารย์
เสาร์ กันตสีโล วัด เลีย บ อุบ ลราชธานี ท่านบริ กรรมภาวนา
ดูวยบท พุทโธ ประจ้านิ สัยที่ชอบกว่าบรรดาบทธรรมอื่น ๆ ใน
ขั้ น เริ่ ม แรกยั ง ไม่ ป รากฏเป็ นความสงบสุ ข มากเท่ า ที่ ควร
ท้า ใหูมีความสงสัยในปฏิปทาว่าจะถูกหรือผิดประการใด แต่
มิไดูลดละความเพียรพยายาม ในระยะต่อมาผลปรากฏเป็ น
ความสงบพอใหู ใ จเย็ น บู า ง ในคื น วั น หนึ่ ง เกิ ด สุ บิ น นิ มิ ต ว่ า
ท่านออกเดินทางจากหมู่บูานเขูาสู่ป่าใหญ่อันรกชัฏที่เต็มไป
ดู ว ยขวากหนามจนจะหาที่ ดู น ดั้ นผ่ า นไปแทบไม่ ไ ดู ท่ า น
พยายามซอกซอนไปตามป่ านั้นจนพูนไปไดูโดยปลอดภัย พอ
พู น จากป่ าไปก็ ถึ ง ทุ่ ง กวู า งจนสุ ด สายตา เดิ น ตามทุ่ ง ไปโดย
ล้า ดั บไม่ล ดละความพยายาม ขณะที่ เ ดิ นตามทุ่ ง ไปไดู พ บไมู
ตู น หนึ่ ง ชื่ อตู น ชาติ ซึ่ ง เขาตั ด ลู ม เอง ขอนจมดิ น อยู่ เ ป็ นเวลา
นานปี เปลือกและกระพี้ผุพังไปบูางแลูว ไมูตูนนั้นรููสึกใหญ่โต
มาก ท่านเองก็ปีนขึ้นและไต่ไปตามขอนชาติท่ีลูมนอนอยู่น้ั น
พรูอมทั้ง พิจ ารณาอยู่ ภายใน และรููขึ้นมาว่ า ไมูน้ี จะไม่ มีก าร
งอกขึ้นไดูอีก ซึ่งเทียบกับชาติของท่านว่าจะไม่ก้า เริบใหูเ ป็ น
ภพ-ชาติสืบต่อไปอีกแน่ นอน
ค้าว่าขอนชาติท่านพิจารณาเทียบกับชาติความเกิดของ
ท่ า นที่ เ คยเป็ นมา ที่ ข อนชาติ ผุ พั ง ไปไม่ ก ลั บ งอกขึ้ น ไดู อี ก
เทียบกับชาติของท่านว่าจะมีทางสิ้นสุดในอัตภาพนี้ แน่ ถูาไม่
ลดละความพยายามเสี ย ทุ่ ง นี้ เวิ้ ง วู า งกวู า งขวางเที ย บกั บ
ความไม่ มี สิ้ น สุ ด แห่ ง วั ฏ วนของมวลสั ต ว์ ขณะที่ ก้า ลั ง ยื น
พิ จารณาอยู่ ปรากฏว่ ามี มู า สี ข าวตั ว หนึ่ ง รู ป ร่ า งใหญ่ แ ละสู ง
เดินเขูามาเทียบที่ขอนชาติน้ัน ท่านนึ กอยากจะขี่มูาขึ้นมาใน
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 7
8
ทั้งกิจนอกการในไม่เหลาะแหละ มีความมุ่งหวังต่อแดนหลุด
พูนอย่างเต็มใจ ในอิริยาบถต่าง ๆ เต็มไปดูวยความพากเพียร
เพื่อถอดถอนกิเลสทางภายใน ไม่ มีค วามฟู ุ งเฟู อเห่ อเหิม เขู า
มาแอบแฝงไดู ทั้ ง ๆ ที่ มี กิ เ ลสเหมื อ นสามั ญ ชนทั่ ว ๆ ไป
เพราะท่านไม่ยอมปล่อยใจใหูกิเลสย้่ายีไดู มีการตูานทานห้้า
หั่นดูวยความเพียรอย่างไม่ลดละ ซึ่งผิดกับคนธรรมดาอยู่มาก
(ตามท่านเล่าใหูฟังในเวลาบ้าเพ็ญ)
ใน ระยะต่ อ มาที่ แ น่ ใจ ว่ า จิ ต มี ห ลั ก ฐาน มั่ น ค ง พ อจ ะ
พิจารณาไดูแลูว ท่านจึงยูอนมาพิจารณาสุบินนิ มิตจนไดูความ
โดยล้าดับว่า การออกบวชปฏิบัติตนสมควรแก่ธรรมก็เท่ากับ
การยกระดับจิตใหูพูนจากความผิดมีประเภทต่าง ๆ ซึ่งเปรียบ
เหมื อ นบู า นเรื อ นอั น เป็ นที่ ร วมแห่ ง สรรพทุ ก ข์ และป่ าอั น
รกชัฏทั้งหลายอันเป็ นที่ซุ่มซ่อนแห่งภัยทั้งปวง ใหูถึงที่เวิ้งวูาง
ไม่ มี จุ ด หมาย ซึ่ ง เมื่ อเขู า ถึ ง แลู ว เป็ นคุ ณ ธรรมที่ แ สนสบาย
หายกังวลโดยประการทั้งปวง ดูวยปฏิปทาขูอปฏิบัติท่ีเปรียบ
เหมือนมูาตัวองอาจเป็ นพาหนะขับขี่ไปถึงที่อันเกษม และพา
ไปพบตูู พ ระไตรปิ ฎกอั น วิ จิ ต รสวยงาม แต่ ว าสนาไม่ อ้า นวย
สมบู ร ณ์ จึ ง เป็ นเพีย งไดู เ ห็ น แต่ มิ ไ ดู เ ปิ ดตูู พ ระไตรปิ ฎกออก
ชมอย่ า งสมใจเต็ ม ภู มิ แ ห่ ง จตุ ป ฏิ สั ม ภิ ท าญาณทั้ ง สี่ อั น เป็ น
คุณธรรมยังผููเขูาถึงใหูเป็ นผููฉลาดปราดเปรื่องเลื่องลือระบือ
ทั่วไตรโลกธาตุ มีความฉลาดกวูางขวางในอุบายวิธีประหนึ่ ง
ทู อ งฟู ามหาสมุ ท ร ไม่ มี ค วามคั บ แคู น จนมุ ม ในการอบรมสั่ ง
สอนหมู่ ช นทั้ ง เทวดาและมนุ ษ ย์ ทุ ก ชั้ น แต่ เ พราะกรรมอั น ดี
เยี่ยมไม่เพียงพอ บารมีไม่ใหู โอกาสวาสนาไม่อ้านวย จึงเป็ น
เพียงไดูชมตููพระไตรปิ ฎก และตกออกมาเป็ นผลใหูท่านไดูรับ
เพี ย งชั้ น ปฏิ สั ม ภิ ท านุ ศ าสน์ มี เ ชิ ง ฉลาดในเทศนาวิ ธี อั น เป็ น
บาทวิ ถี แ ก่ ห มู่ ชนพอเป็ นปากเป็ นทางเท่ า นั้ น ไม่ลึ ก ซึ้ ง กวู า ง
ขวางเท่าที่ควร ทั้งนี้ แมูท่านจะพูดว่า การสั่งสอนของท่านพอ
เป็ นปากเป็ นทางอั น เป็ นเชิ ง ถ่ อ มตนก็ ต าม แต่ บ รรดาผูู ท่ี ไ ดู
เห็นปฏิปทาคือขูอปฏิบัติท่ีท่านพาด้าเนิ นและธรรมะที่ท่านน้า
มาอบรมสั่งสอน แต่ละบทละบาท แต่ละครั้งละคราว ลูวนเป็ น
ความซาบซึ้งใจไพเราะเหลือจะพรรณนาและยากที่จะไดูเห็น
ไดูยิน จากที่ อ่ ืน ใดในสมั ยปั จจุ บัน ซึ่ง เป็ นสมั ยที่ตู องการคนดี
อยู่มาก
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 9
10
เกิดสมาธิ
เมื่อท่านพักอบรมภาวนาดูวยบทพุทโธ อยู่ท่ีวัดเลียบ จัง
หวั ด อุ บ ลฯ ขณะที่ จิ ต สงบลง ปรากฏเป็ นอุ ค หนิ มิ ต ขึ้ น มาใน
ลั ก ษณะคนตายอยู่ ต่ อ หนู า แสดงอาการพุ พ องมี น้ าเน่ า น้้ า
หนองไหลออกมา มีแรูงกาและสุนัขมากั ดกิน และยื้อแย่ งกัน
อยู่ต่อหนูาท่าน จนซากนั้นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ เป็ นที่
น่ าเบื่อหน่ ายและสลดสังเวชเหลือประมาณในขณะนั้น เมื่อจิต
ถอนขึ้นมา ในวาระต่อไปไม่ว่าจะนั่งภาวนา เดินจงกรม หรือ
อยู่ในท่าอิริยาบถใด ท่านก็ถือเอานิ มิตนั้นเป็ นเครื่องพิจารณา
โดยสม้่าเสมอไม่ลดละ จนนิ มิตแห่งคนตายนั้ น ไดู กลับ กลาย
มาเป็ นวงแกูวอยู่ต่อหนูาท่าน เมื่อเพ่งพิจารณาวงแกูวนั้นหนัก
ๆ เขูาก็ย่ิงแปรสภาพไปต่าง ๆ ไม่มีทางสิ้นสุด ท่านพยายาม
ติ ด ตามก็ ย่ิ ง ปรากฏเป็ นรู ป ร่ า งต่ า ง ๆ จนไม่ มี ป ระมาณว่ า
ความสิ้นสุดแห่งภาพนิ มิตจะยุติลง ณ ที่ใด ยิ่งเพ่งพิจารณาก็
ยิ่งแสดงอาการต่าง ๆ ไม่มีสิ้นสุด โดยเป็ นภูเขาสูงขึ้นเป็ นพัก
ๆ บูาง ปรากฏว่าองค์ท่านสะพายดาบอัน คมกลู าและเทูา ทั้ง
สองมี ร องเทู า สวมอยู่ บู า ง แลู ว เดิ น ไป-มาบนภู เ ขานั้ น บู า ง
ปรากฏเห็นก้าแพงขวางหนูามีประตูบูาง ท่านเปิ ดประตูเขูาไป
ดูเห็นมีท่ีน่ังและที่อยู่ของพระ ๒-๓ รูป ก้า ลังนั่ งสมาธิอยู่บูาง
บริ เ วณก้า แพงนั้ น มี ถ้ าและเงื้ อมผาบู า ง มี ด าบสอยู่ ใ นถ้้ านั้ น
บูาง มียนต์คลูายอู่ มีสายหย่อนลงมาจากหนูาผาบูาง ปรากฏ
ว่าท่านขึ้นสู่อู่ขึ้นไปบนภูเขาบูาง มีส้าเภาใหญ่อยู่บนภูเขาบูาง
เห็ น โต๊ ะ สี่ เ หลี่ ย มอยู่ ใ นส้า เภาบู า ง มี ป ระที ป ความสว่ า งอยู่
บริเวณรอบ ๆ หลังเขานั้นบูาง ปรากฏว่าท่านฉันจังหันอยู่บน
ภูเขานั้นบูาง จนไม่อาจจะตามรููตามเห็นใหูสิ้นสุดลงไดู
สิ่ ง ที่ ท่ า น ไดู เ ห็ น เ กี่ ย ว กั บ นิ มิ ต เ ป็ น เ ห ตุ ใ หู รูู สึ ก ว่ ามี
มากมาย จนไม่อาจจะน้า มากล่าวจบสิ้นไดู ท่านพิจ ารณาใน
ท้านองนี้ ถึง ๓ เดือน โดยการเขูา ๆ ออก ๆ ทางสมาธิภาวนา
พิจารณาไปเท่าไร ก็ย่ิงรููย่ิงเห็นสิ่งที่จะมาปรากฏจนไม่มีทาง
สิ้ น สุ ด แต่ ผ ลดี ป รากฏจากการพิ จ ารณา ไม่ ค่ อ ยมี พ อเป็ น
เครื่ องยื น ยั น ไดู ว่ า เป็ นวิ ธี ท่ี ถู ก ตู อ งและแน่ ใ จ เมื่ อออกจาก
สมาธิประเภทนี้ แลูว ขณะกระทบกับอารมณ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ท่ัว
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 10
11
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 11
12
แห่งความไม่มีครูอาจารย์ผูฉลาดคอยใหูอุบายสั่งสอน ย่อมมี
ทางเป็ นไปต่าง ๆ ดังที่เคยพบเห็นมาแลูวนั้นแล อย่างนูอยก็
ท้า ใหู ล่ าชู า มากกว่ า นั้ น ก็ ท้า ใหู ผิ ด ทาง และมี ท างเสี ย ไปไดู
อ ย่ า ง ไ ม่ มี ปั ญ ห า ท่ า น เ ล่ า ว่ า ส มั ย ที่ ท่ า น อ อ ก บ้า เ พ็ ญ
กรรมฐานภาวนาครั้งโนูน ไม่มีใครสนใจท้า กันเลย ในความ
รููสึกของประชาชนสมัยนั้น คลูายกับว่า การบ้าเพ็ญกรรมฐาน
เป็ นของแปลกปลอม ไม่ เคยมี ใ นวงของพระและพระศาสนา
เลย แมูแต่ชาวบูานเองพอมองเห็นพระกรรมฐานเดินธุดงค์ไป
ซึ่งอยู่ห่างกันคนละฟากทุ่ งนา เขายั งพากั นแตกตื่นและกลั ว
กันมาก
ถู า อยู่ ใ กลู ห มู่ บู า นก็ จ ะพากั น วิ่ ง เขู า บู า นกั น หมด ถู า อยู่
ใกลูป่าก็พากันวิ่งเขูาหลบซ่อนในป่ ากันหมด ไม่กลูามายืนซึ่ง
ๆ หนูา พอใหูเราไดูถามหนทางที่จะไปสู่หมู่บูาน ต้าบลต่าง ๆ
บู า งเลย บางครั้ ง เราเดิ น ทางไปเจอกั บ พวกผูู ห ญิ ง ที่ ก้า ลั ง
เที่ยวหาอยู่หากิน เที่ยวเก็บผักหาปลาตามป่ าตามภูเขา ซึ่งมี
เด็ ก ๆ ติ ด ไปดู ว ย พอมองเห็ น พระธรรมกรรมฐานเดิ น มา
เสี ย งรู อ งลั่ น บอกกั น ดู ว ยความตกใจกลั ว ว่ า “พระธรรมมา
แลูว” พรูอมกับทิ้งหาบหรือสิ่งของอยู่บนบ่าลงพื้นดินเสียงดัง
ตูมตาม โดยไม่อาลัยเสียดายว่าอะไรจะแตก อะไรจะเสียหาย
ส่วนตัวก็ต่างคนต่างวิ่งหาที่หลบซ่อน ถูาอยู่ใกลูป่าหรืออยู่ใน
ป่ าก็ พ ากั น วิ่ ง เขู า ป่ า ถู า อยู่ ใ กลู ห มู่ บู า นก็ พ ากั น วิ่ ง เขู า บู า น
ส่ วนเด็ก ๆ ที่ ไม่ รูเดี ยงสาเห็น ผููใ หญ่ รูอ งโวยวายและต่ า งคน
ต่ า งวิ่ ง หนี เจู าตั ว ก็รู องไหู ว่ิ ง ไปวิ่ ง มาอยู่ บ ริ เ วณนั้ น โดยไม่ มี
ใครกลูาออกมารับเอาเด็ก ไปดูว ยเลย เด็กจะวิ่ งตามผููใ หญ่ ก็
ไม่ทัน เลยตูองวิ่งหันรีหันขวางอยู่แถว ๆ นั้นเอง ซึ่งน่ าขบขัน
และน่ าสงสารเด็กที่ไม่เดียงสา ซึ่งรูองไหูว่ิงตามหาผููใหญ่ดูวย
ความตกใจและความกลัวเป็ นไหน ๆ
ส่วนพระธรรมท่านเห็นท่าไม่ดี กลัวเด็กจะกลัวมากและ
รูองไหูใหญ่ ก็ตูองรีบกูาวเดินเพื่อผ่านไปใหูพูน ถูาขืนไปถาม
เด็กเขูาคงไดูเรื่องแน่ ๆ คือเด็กยิ่งจะกลัวและรูองไหูว่ิงไปวิ่ง
มา และยิ่งจะรูองไหูใหญ่ไปทั่วทั้งป่ า ส่วนผููใหญ่ท่ีเป็ นแม่ของ
เด็ ก ก็ ยื น ตั ว สั่ น อยู่ ใ นป่ าอย่ า งกระวนกระวาย ทั้ ง กลั ว พระ
ธรรมกรรมฐาน ทั้งกลัวเด็กจะวิ่งเตลิดเปิ ดเปิ งหนี ไปที่อ่ ืนอีก
ใจเลยไม่เป็ นใจเพราะความกระวนกระวายคิดถึงลูก เวลาพระ
ธรรมผ่านไปแลูว แม่ว่ิงหาลูก ลูกวิ่งหาแม่วุ่น วายไปตาม ๆ
กั น กว่ า จะออกมาพบหนู า กั น ทุ ก คนบรรดาที่ ไปดู ว ยกั น
ประหนึ่ งบูานแตกสาแหรกขาดไปพักหนึ่ ง พอออกมาครบถูวน
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 12
13
ความง่วงหายไป เมื่อรููสึกเมื่อยเพลียและไม่มีความง่วงเหลือ
อยู่ในเวลานั้น ท่านถึงจะออกจากทางจงกรมเขูามาที่พักหรือ
กุฏิ แลูวนั่งสมาธิภาวนาต่อไปจนสมควรแก่กาล
เมื่ อถึ ง เวลาบิ ณ ฑบาตก็ เ ตรี ย มน่ ุ ง สบง ทรงจี ว ร ซู อ น
สังฆาฏิ สะพายบาตรขึ้นบนบ่า ออกบิณฑบาตในหมู่บูานโดย
อาการส้า รวม ท้า ความรูู สึ ก ตั ว กั บ ความเพี ย รไปตลอดสาย
บิณฑบาตทั้งไปและกลับถือเป็ นการเดินจงกรมไปในตัว มีสติ
ประคองใจ ไม่ปล่อยใหูเพ่นพ่านโลเลไปตามอารมณ์ต่าง ๆ ที่มี
อยู่ท่ั วไป เมื่อกลับถึง ที่พั กหรือ วัด แลู ว เตรี ย มจั ด อาหารที่ ไ ดู
มาจากบิณฑบาตลงในบาตร ตามปกติท่านไม่ยอมรับอาหารที่
ศรั ท ธาตามมาส่ ง ท่ า นรั บ และฉั น เฉพาะที่ บิ ณ ฑบาตไดู ม า
เท่านั้น ตอนชรามากแลูวท่านถึงอนุโลมผ่อนผัน คือรับอาหาร
ที่ศรัทธาน้ามาถวาย ฉะนั้น อาหารนอกบาตรจึงไม่มีในระยะ
นั้น
เมื่อเตรียมอาหารใส่ลงในบาตรเสร็จแลูว เริ่มพิจารณา
ปั จจเวกขณะเพื่อระงับดับไฟนรก คือตัณหาอั นอาจแทรกขึ้น
มาตามความหิ ว โหยไดู ใ นขณะนั้ น คื อ จิ ต อาจบริ โ ภคดู ว ย
อ้า นาจตัณหาความสอดส่ ายในอาหารประณี ตบรรจง และมี
รสเอร็ ด อร่ อ ย โดยมิ ไ ดู ค้า นึ ง ถึ ง ความเป็ นธาตุ แ ละปฏิ กู ล ที่
แฝงอยู่ในอาหารนั้น ๆ ดูวย ปฏิสังขา โยนิ โส ฯลฯ เสร็จแลูว
เริ่มฉันโดยธรรม มิใหูเป็ นไปดูวยตัณหาในทุก ๆ ประโยคแห่ง
การฉัน จนเสร็ จ ไปดู ว ยดี ซึ่ ง จั ด ว่ า มี วั ต รในการขบฉัน หลั ง
จากนั้นก็ลูางบาตร เช็ดบาตรใหูแหูง แลูวผึ่งแดดชั่วคราวถูามี
แดด และน้าเขูาถลกยกไปไวูในสถานที่ควร แลูวเริ่มท้าหนูาที่
เผาผลาญกิเ ลสใหูว อดวายหายซากไปเป็ นล้า ดั บ จนกว่ า จะ
ดับสนิ ทไม่มีพิษภัยเครื่องก่อกวนและรังควานจิตใจต่อไป แต่
การเตรียมเผากิเลสนี้ รูสึกเป็ นงานที่ยากเย็นเข็ญใจเหลือ จะ
กล่าว เพราะแทนที่เราจะเผามันใหูฉิบหาย แต่มันกลับเผาเรา
ใหู ไ ดู รั บ ความทุ ก ข์ รู อ นและตายจากคุ ณ งามความดี ท่ี ค วร
บ้าเพ็ญไปอย่างสด ๆ รูอน ๆ และบ่อนท้าลายเรา ทั้ง ๆ ที่เห็น
ๆ มันอยู่ต่อหนูาต่อตา แต่ไม่กลูาท้าอะไรมันไดู เพราะกลัวจะ
ล้าบาก
ผลสุดทูายมันก็ปีนขึ้นนั่งนอนอยู่บนหัวใจเราจนไดู และ
เป็ นเจู า ใหญ่ น ายโตตลอดไป แทบจะไม่ มี เ พศมี วั ย ใด และ
ความรููความฉลาดใดจะต่อสููและเอาชนะมันไดู โลกจึงยอมมัน
ทั่ วไตรภพ น อก จากพร ะศาส ดาเพี ยง อง ค์ เ ดี ย วเ ท่ านั้ น
ที่ ท้า การกวาดลู า งมั น ใหู สิ้ น ซากไปจากใจไดู ไม่ ก ลั บ แพู อี ก
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 15
16
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 17
18
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 20
21
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 23
24
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 25
26
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 26
27
เวลาท่านพักอยู่ในถ้้านี้ มีรูอะไรแปลก
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 28
29
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 29
30
หรือรังแกท่านไดูเลย ความจริงแลูวเขามิใช่บุรุษลึกลับและมี
ร่างกายด้าสูงใหญ่ดังที่แสดงภาพต่อท่าน แต่เขาเป็ นหัวหนูา
แห่งรุกขเทวดา ซึ่งมีบริษท
ั บริวารมากมายที่อาศัยอยู่ในภูเขา
และสถานที่ต่าง ๆ มีเขตอาณาบริเวณกวูางขวางมาก ติดต่อ
กันหลายจังหวัด มีนครนายก เป็ นตูน
นั บแต่ขณะจิตท่านสงบลงและระงับ โรคจนหายสนิ ทไม่
ปรากฏเลยประมาณเที่ยงคืน กับที่รุกขเทพมาเกี่ยวขูองและ
สนทนาธรรมกั น จนถึ ง เวลาจากไป และจิ ต ถอนขึ้ น มาก็
ประมาณ ๔.๐๐ นาฬิกา คือ ๑๐ ทุ่ม โรคที่ก้าลังก้าเริบในขณะ
ที่น่ั งท้า สมาธิภาวนา พอจิตถอนขึ้นมาปรากฏว่าหายไปโดย
สิ้น เชิ ง ไม่ ตูองอาศั ย ยาอื่ นใดรั ก ษาอี ก ต่ อ ไป โรคหายไดู เ ด็ ด
ขาดดู ว ยธรรมโอสถทางภาวนาลู ว น ๆ จึ ง เป็ นสิ่ ง ที่ อั ศ จรรย์
มากส้า หรั บ ท่ า นในคื น วั น นั้ น พอจิ ต ถอนขึ้ น มาแลู ว ท่ า น
ท้า ความเพี ย รต่ อ ไปมิ ไ ดู ห ลั บ นอนตลอดรุ่ ง เมื่ อออกจากที่
ภ า ว น า แ ลู ว ร่ า ง ก า ย ก็ ไ ม่ มี ก า ร อ่ อ น เ พ ลี ย แ ต่ ก ลั บ
กระปรี้กระเปร่าขึ้นกว่าเดิมอีกดูวย
คืนวันนั้ นท่านไดูเห็นความอัศจรรย์หลายอย่าง คือเห็น
อานุ ภ าพแห่ ง ธรรมที่ส ามารถยั ง เทวดาใหู ห ายพยศและเกิ ด
ความเลื่อมใสหนึ่ ง จิตรวมสงบลงเป็ นเวลาหลายชั่วโมง และ
เห็นความอัศจรรย์ในขณะที่จิตสงบอยู่ตัวอย่างมีความสุขหนึ่ ง
โรคที่เคยก้าเริบอยู่เสมอจนควรเรียกไดูว่าโรคประเภทเรื้อรัง
ไดูหายไปโดยสิ้นเชิงหนึ่ ง จิตไดูหลักยึดเป็ นที่พอใจ หายสงสัย
ในสิ่ ง ที่ เ คยเป็ นมาหลายชนิ ด หนึ่ ง อาหารที่ ฉัน ลงไปในตอน
เชูา แต่วันหลังกลับท้าการย่อยตามปกติหนึ่ ง ความรููแปลก ๆ
ที่ไม่เคยรููมาก่อนไดูปรากฏขึ้นมากมาย ทั้งประเภทถอดถอน
และประเภทประดับความรููพิเศษตามวิสัยวาสนาหนึ่ ง
ในคืนต่อไป ท่ านบ้า เพ็ ญ เพี ย รดู ว ยความสะดวก และมี
ความสงบสุ ข ทางใจอย่ า งบอกไม่ ถู ก ร่ า งกายก็ เ ป็ นปกติ สุ ข
ไม่มีอาการใดก่ อกวน บางคื นยามดึกสงัดก็ตู อนรับ พวกรุ กข
เทพที่มาจากที่ต่าง ๆ จ้า นวนมากมาย โดยมีเทพลึกลับที่เคย
ท้า สงครามวาทะกั บ ท่ า นอาจารย์ เป็ นผูู ป ระกาศโฆษณาใหู
ทราบและเป็ นหัวหนูาพามา คืนที่ไม่มีเรื่องมาเกี่ยวขูองท่านก็
สนุกบ้าเพ็ญสมาธิภาวนา
บ่ า ยวั น หนึ่ ง ท่ า นออกจากที่ ส มาธิ แ ลู ว ก็ อ อกไปนั่ ง ตาก
อากาศ ห่ า งจากหนู า ถ้้ าพอประมาณ ขณะนั้ น ก้า ลั ง ร้า พึ ง
ธรรมที่พระพุทธเจูาทรงพระเมตตาประทานไวูแก่หมู่ชน รููสึก
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 32
33
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 36
37
อยู่ทุกหนทุกแห่ง โดยไม่เลือกเพศวัยและชาติช้ันวรรณะอะไร
เลย
เหล่านี้ แลที่ท้าใหูเกิดความสลดสังเวชตนอย่างยิ่งในคืน
วั น นั้ น ที่ ช ายเขาทางขึ้ น ไปถ้้ าที่ ท่ า นพระอาจารย์ พั ก อยู่ ก็ มี
ส้า นักบ้า เพ็ญวิปัสสนาอยู่แห่งหนึ่ ง เวลาท่านพักอยู่ถ้ านั้ น มี
ขรัว ตาองค์ห นึ่ ง พัก อยู่ ส้า นั กบ้า เพ็ญ นั้ น คืนวัน หนึ่ งท่ า นพระ
อาจารย์ คิ ด ถึ ง ขรั ว ตาองค์ น้ั น ว่ า ท่ า นจะท้า อะไรอยู่ เ วลานี้ ก็
ก้า หนดจิ ต ส่ ง กระแสลงมาดู ข รั ว ตา พอดี เ ป็ นเวลาที่ ข รั ว ตา
องค์น้ันก้าลังคิดวุ่นวายไปกับกิจการบูานเรือนครอบครัวยุ่งไป
หมด เรื่ องที่ ขรั ว ตาคิ ด เกี่ ย วกั บ อตี ต ารมณ์ พอตกดึ ก ท่ า นส่ ง
กระแสจิตลงมาหาขรัวตาองค์น้ันอีก ก็มาเจอเอาเรื่องท้านอง
นั้นเขูาอีก ท่านก็ยูอนจิตกลับ จวนสว่างส่งกระแสจิตลงมาอีก
ก็มาโดนเอาแต่เรื่องคิดจะสั่งเสียลูกคนนั้นหลานคนนี้ อยู่ร่ ้าไป
ทั้งสามวาระที่ท่านส่งกระแสจิตลงมา แต่ก็มาเจอเอาแต่เรื่อง
ขรั ว ตาคิ ด จะสรู างบู านสรู า งเรื อ น สรู า งภพสรู า งชาติ สรู า ง
วัฏสงสาร ไม่มีสิ้นสุดวิถีแห่งความคิดความปรุงเอาเสียเลย
ตอนเชูาท่านลงมาบิณฑบาต ขากลับมาจึงแวะไปเยี่ยม
ขรัวตาถึงที่พัก แลูวพูดเป็ นเชิงปั ญหาว่า เป็ นอย่างไรหลวงพ่อ
ปลูกบูานใหม่ แต่ งงานกั บคู่ ครองใหม่แต่ เป็ นแม่อีหนูค นเก่ า
เมื่ อคื น นี้ ต ลอดคื น ไม่ ย อมนอน เสร็ จ เรี ย บรู อ ยไปดู ว ยดี แ ลู ว
มิใช่หรือ คืนต่อไปคงจะสบายไม่ตู องวุ่น วายจั ดแจงสั่ง ลูกคน
นั้ น ใหู ท้า สิ่งนั้ น สั่งหลานคนนี้ ใหู ท้า งานสิ่ งนี้ อีกกระมัง คื นนี้
รูู สึ ก หลวงพ่ อ มี ง านมากและวุ่ น วายพอดู แทบมิ ไ ดู พั ก ผ่ อ น
นอนหลับมิใช่หรือ ขรัวตาถามท่านดูวยอาการเอียงอายและ
ยิ้ มแหู ง ๆ ว่ า ท่านพระอาจารย์ เป็ นพระอั ศจรรย์ ม าก ท่ า นรูู
ดู ว ยหรื อเมื่ อคื น นี้ ท่ า นพระอาจารย์ แ สดงอาการยิ้ ม รั บ แลู ว
ตอบว่า ผมเขูาใจว่าท่านจะรููเรื่องของตัวดีย่ิงกว่าผมผููถามเป็ น
ไหน ๆ แต่ท้าไมท่านจึงกลับมาถามผมอย่างนี้ อีก ผมเขูาใจว่า
ความคิดปรุงของท่านเป็ นไปดูวยเจตนาและพอใจในความคิด
นั้ น ๆ จนลื ม หลั บ นอนไปทั้ งคื น แมู แ ต่ รุ่ ง เชู า ตลอดมาถึ ง
ปั จจุ บั น นี้ ผมก็ เ ขู า ใจว่ า ท่ า นจงใจคิ ด เรื่ องเช่ น นั้ น อยู่ อ ย่ า ง
เพลิ น ใจจนไม่ มี ส ติ จ ะยั บ ยั้ ง และยั ง พยายามท้า ตั ว ใหู เ ป็ นไป
ตามความคิดนั้น ๆ อย่างมั่นใจมิใช่หรือ
พอจบลง ท่านมองดูหนูาขรัวตาเหมือนคนจะเป็ นลม ทั้ง
อายทั้งกลัว พูดออกมาดูวยเสียงสั่นเครือแทบไม่เป็ นเสียงคน
และไม่ ชั ด ถู อยชั ด ค้า ขาด ๆ วิ่ น ๆ เหมื อ นจะเป็ นอะไรไปใน
เวลานั้นจนไดู พอเห็นท่าไม่ไดูการ ขืนพูดเรื่องนั้นต่อไป เดีย ๋ ว
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 37
38
คิดว่าท่านจะรููเรื่องเราเท่านั้นตัวมันสั่นขึ้นมาแลูว อาตมาขอ
ไปวั น นี้ ถู า ขื น อยู่ ท่ี น่ี ต่ อ ไปอาตมาตู อ งตายแน่ ๆ โยมเชื่ อ
อาตมาเถอะ อย่าใหูอยู่เลยท่านว่าอย่างนี้
ไม่ทราบว่าผมจะหูามท่านไดูอย่างไร คิดแลูวก็น่าสงสาร
เวลาท่ า นพู ด ใหู ผ มฟั ง ก็ ท้ั ง พู ด ทั้ ง กลั ว หนู า ซี ด เซี ย วไปหมด
เลยตูองปล่อยใหูท่านไป ก่อนจะไปผมถามท่านว่า หลวงพ่อจะ
ไปอยู่ ท่ี ไ หน ท่ า นตอบว่ า เอาแน่ น อนไม่ ไ ดู ถู า ไม่ ต ายเราคง
เห็น หนูากัน อีก แลูว ก็ไ ปเลย ผมใหู เด็ กตามไปส่ ง ท่ า น เวลา
เด็กกลับมาแลูวถามเด็ก เด็กบอกว่าไม่ทราบ เพราะท่านไม่
บอกที่ ท่ี ท่ า นจะพั ก อยู่ สุ ด ทู า ยก็ เ ลยไม่ ไ ดู เ รื่ องราวจนป่ านนี้
น่ าสงสาร ทั้งท่านก็แก่แลูว ไม่น่าจะเป็ นเอาขนาดนั้น
ฝ่ ายท่านอาจารย์เกิดความสลดใจ ที่ท้าคุณไดูโทษ โปรด
สั ต ว์ ไ ดู บ าป เราคิ ด แลู ว แต่ แ รกที่ เ ห็ น อาการไม่ ดี เ วลาถาม
ปั ญหา จากวันนั้ น มาแลู วก็มิ ไดู สนใจคิด และส่ง กระแสจิ ต ไป
ถึงขรัวตาอีก เพราะกลัวจะไปเจอเอาเรื่องที่เคยเจอ แลูวก็มา
เป็ นดังที่คิดจนไดู ท่านคิดในใจขณะที่ทราบเรื่องจากโยมเล่า
ใหูฟัง และไดูพูดกับโยมบูางเล็กนูอยเกี่ยวกับปั ญหาที่เขาเล่า
ใหูท่านฟั ง ว่าอาตมาก็พูดไปธรรมดาในฐานะคูุนเคยกัน ทีเล่น
ทีจริงบูางอย่างนั้นเอง ไม่คิดว่าจะเป็ นเรื่องใหญ่โตถึงกับพาใหู
ขรัวตาตูองรูางวัดรูางวาหนี ไปเช่นนั้น
เรื่องของขรัวตาเป็ นเรื่องส้า คัญต่อท่านอาจารย์ไม่นูอย
ตลอดมา ในการที่จะปฏิบัติต่อบรรดาผููท่ีมาเกี่ยวขูองทั้งใกลู
และไกล เกรงว่าเรื่องจะซ้้ารอยเขูาอีกหากไม่สนใจคิดไวูก่อน
จากนั้นมาแลูว ท่านว่าท่านไม่เคยทักใครเกี่ยวกับความคิดนึ ก
ดีช่ัว เพียงพูดเป็ นอุบายไปเท่านั้น เพื่อผููน้ันระลึกรููตัวเอาเอง
โดยมิใหูกระเทือนใจ เพราะใจคนเราย่อมเป็ นเหมือนเด็กอ่อน
ที่เพิ่งฝึ กหัดเดินกะเปะกะปะไปตามเรื่อง ผููใหญ่เป็ นเพียงคอย
ดู แ ลสอดส่ องเพื่ อมิ ใ หู เ ด็ ก เป็ นอั น ตรายเท่ า นั้ น ไม่ จ้า ตู อ งไป
กระวนกระวายกั บ เด็ ก ใหู ม ากไป ใจของสามั ญ ชนก็ เ ช่ น กั น
ปล่ อ ยใหู คิ ด ไปตามเรื่ อง ถู ก บู า งผิ ด บู า ง ดี บู า งชั่ ว บู า งเป็ น
ธรรมดา จะใหูถก ู ตูองดีงามอยู่ตลอดเวลาย่อมเป็ นไปไม่ไดู
ท่านว่า ท่านพักอยู่ท่ีถ้ านั้นไดูความรููและอุบายแปลก ๆ
ต่ า ง ๆ มากมาย ทั้ ง เป็ นเรื่ องภายในโดยเฉพาะ ทั้ ง เกี่ ย วกั บ
เรื่องภายนอกไม่มีประมาณ ท่านเกิดความอาจหาญร่าเริงใน
ขู อ ปฏิ บัติ จนลื ม เวล้่ าเวลา ไม่ ค่ อ ยไดู ส นใจกั บ วั น คื น เดื อ นปี
อะไรนัก ความรููภายในใจเกิดขึ้นทุกระยะเหมือนน้้าไหลรินใน
ฤดูฝน บางวันตอนบ่ายอากาศโปร่ง ๆ ท่านก็เดินเที่ยวชมป่ า
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 39
40
พระสาวกอรหันต์มาแสดง
บางคืนปรากฏมีพระสาวกอรหันต์มาแสดงธรรมใหูท่าน
ฟั งตามทางอริย ประเพณี โดยปรากฏทางสมาธินิ มิต เป็ นใจ
ความว่า วิธีเดินจงกรมตูองใหู อยู่ ในท่ าส้า รวมทั้ง กายและใจ
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 40
41
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูรท
ิ ัตตเถระ 42