Professional Documents
Culture Documents
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 57
58
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 58
59
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 59
60
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 60
61
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 61
62
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 62
63
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 63
64
ศาสนาคือคำาสั่งสอนของท่านผู้ฉลาด ท่านสอนคนเพื่อให้
เกิดความฉลาดทุกแง่ทุกมุม ซึ่งพอจะพิจารณาตามท่านได้ แต่
เราอย่ า ฟั งเพื่ อความโง่ อยู่ ด้ ว ยความโง่ กิ น ดื่ มทำา พู ด ด้ ว ย
ความโง่ คำา ว่าโง่ไม่ใช่ของดี คนโง่ก็ไม่ดี สัตว์โง่ก็ไม่ดี เด็กโง่
ผู้ใหญ่โง่ มิใช่ของดีท้ังนั้น เราโง่จะให้ใครเขาชมว่าดี จึงไม่ควร
ทำา ความสนิ ท ติ ด จมอยู่ กั บ ความโง่ โ ดยไม่ ใ ช้ ค วามพิ จ ารณา
ไตร่ตรอง ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์โดยประการทั้งปวง จึงไม่ควรแก่
สมณะซึ่ ง เป็ นเพศที่ ใ คร่ ครวญไตร่ ต รอง นี่ คื อ ความหมายใน
ธรรม ๕ ข้อที่ท่านคิดค้นขึ้นมาพรำ่าสอนท่านเองและหมู่คณะที่
ไปอบรมศึ ก ษากั บ ท่ า น รู้ สึ ก ว่ า เป็ นคติ ไ ด้ ดี ม าก เพราะเป็ น
อุบายปลุกใจให้เกิดสติปัญญาและอาจหาญ ทั้งเหมาะสมกับ
สภาพการณ์และสถานที่ของพระธุดงค์ ผู้เตรียมพร้อมแล้วใน
การรบพุ่งชิงชัยระหว่างกิเลสกับธรรมเพื่อความชนะเลิศ คือ
วิมุตติพระนิ พพาน อันเป็ นหลักเขตแดนมหาชัยที่ปรารถนามา
นาน
พระอาจารย์ท่ีเป็ นศิษย์ผู้ใหญ่ของท่านเล่าให้ฟังว่า เวลา
อยู่ กั บ ท่ า น แม้ จ ะมี พ ระเณรจำา นวนมากด้ ว ยกั น แต่ ม องดู
อากัปกิริยาของแต่ละองค์ เหมือนพระเณรที่สิ้นกิเลสกันแล้ว
ทั้ งนั้ น ไม่ มี อาการแสดงความคึ ก คะนองใด ๆ แม้ แ ต่ น้ อ ยให้
ปรากฏบ้างเลย ต่างองค์ต่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ทั้งที่อยู่โดย
ลำา พั ง ตนเอง ทั้ ง เวลามารวมกั น ด้ ว ยกิ จ ธุ ร ะบางอย่ า ง และ
เวลารวมประชุมฟั งการอบรม ต่างมีมรรยาทสวยงามมาก ถ้า
ไม่ ไ ด้ ฟั งธรรมเกี่ ย วกั บ ภู มิ จิ ต เวลาท่ า นสนทนากั น กั บ ท่ า น
อาจารย์บ้าง ก็อาจให้เกิดความสงสัยหรือเชื่อแน่ ว่าแต่ละองค์
คงสำา เร็จพระอรหัตกันแน่ ๆ แต่พ อเดาได้ จากการแก้ปัญหา
ธรรมขณะที่ท่านสนทนากัน ว่าองค์ไหนควรอยู่ในภูมิธรรมขั้น
ใด นับแต่สมาธิและปั ญญาขั้นต้นขึ้นไปถึงสมาธิและวิปัสสนา
ขั้นสูง
การแก้ ปั ญหาในเวลามี ผู้ ไ ปศึ ก ษาก็ ดี การแสดงธรรม
อบรมพระเณรในเวลาประชุมก็ดี ท่านแสดงด้ว ยความแน่ ใ จ
และอาจหาญ พอให้ ผู้ ฟั งทราบได้ ว่ า ธรรมที่ แ สดงออกเป็ น
ธรรมที่ท่านรู้เห็นทางจิตใจจริง ๆ ไม่แสดงด้วยความลูบคลำา
หรือสุ่มเดา ว่าเห็นจะเป็ นอย่างนั้น เห็นจะเป็ นอย่างนี้ จึงเป็ น
ที่ แ น่ ใ จได้ ว่ า เป็ นธรรมที่ ส่ อ แสดงอยู่ กั บ ใจของทุ ก คนแม้ ยั ง
ไม่รู้ไม่เห็น และคงมีวันหนึ่ งที่ผู้ปฏิบัติจะสามารถรู้ได้จำา เพาะ
ตนหากไม่ลดละความเพียรไปเสีย
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 64
65
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 65
66
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 66
67
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 67
68
สนใจต่อความผิดถูกดีช่ัวเสียมากต่อมาก และพาเราเสียไปจน
นับไม่ถ้วนประมาณไม่ถูก จะเอาโทษกับมันก็ไม่ได้ นอกจาก
ยอมให้เสียไปอย่างน่ าเสียดาย แล้วพยายามแก้ตัวใหม่เท่านั้น
เมื่อยังมีสติอยู่บ้างพอจะหักล้างกันได้ ถ้าไม่มีสติพอระลึกบ้าง
เลยแล้ ว ทั้ ง ของเก่ า ก็ เ สี ย ไป ทั้ ง ของใหม่ ก็ พ ลอยจมไปด้ ว ย
ไม่ มี วั น กลั บ ฟื้ นคื น ตั ว ได้ เ ลย นี่ แ ลเรื่ องของกิ เ ลส ต้ อ งพาให้
เสียหายเรื่อยไป ฉะนั้นการภาวนาจึงเป็ นเครื่องหักล้างความ
ลามกไม่มีเหตุผลของตนได้ดี แต่วิธีภาวนานั้นรู้สึกลำา บากอยู่
บ้าง เพราะเป็ นการบังคับใจซึ่งเหมือนบังคับลิงให้อยู่เชื่อง ๆ
พองามตาบ้าง ย่อมเป็ นของลำาบากฉะนั้น
วิ ธี ภ าวนาก็ คื อ วิ ธี สั ง เกตตั ว เองนั่ น แล คื อ สั ง เกตจิ ต ที่ มี
นิ สัยหลุกหลิกเหมือนถูกไฟหรือนำ้าร้อนลวก ไม่อยู่เป็ นปกติสุข
ด้วยสติตามระลึกรู้ความเคลื่อนไหวของจิต โดยมีธรรมบทใด
บทหนึ่ งเป็ นคำา บริกรรม เพื่อเป็ นยารัก ษาจิตให้ท รงตั วอยู่ไ ด้
ด้วยความสงบสุขในขณะภาวนา ตามที่นิยมใช้กันมากและได้
ผลดี ก็ มี อ านาปานสติ บ้ า ง พุ ท โธบ้ า ง ธั ม โมบ้ า ง สั ง โฆบ้ า ง
มรณานุ ส สติ บ้ า ง หรื อ เกสา โลมา นขา ทั น ตา ตโจ โดย
อนุโลม ปฏิโลมบ้าง หรือใช้บริกรรมเฉพาะบทใดบทหนึ่ งบ้าง
พยายามบั ง คั บ ใจให้ อ ยู่ กั บ อารมณ์แ ห่ ง ธรรมบทที่ นำา มาบริ
กรรมขณะภาวนา ใจที่อาศัยบทธรรมอันเป็ นอารมณ์ท่ีให้คุณ
ไม่เป็ นภัยแก่จิตใจ ย่อมจะเกิดความสงบสุขขึ้นมาในขณะนั้น
ที่เรียกว่าจิตสงบ หรือจิตรวมเป็ นสมาธิ คือความมั่นคงต่อตัว
เอง ไม่ อาศั ย ธรรมบทใด ๆ เป็ นเครื่ องยึ ด เหนี่ ย วในเวลานั้ น
เพราะจิตมีกำาลังพอดำารงตนอยู่โดยอิสระได้
คำา บริกรรมที่เคยนำา มากำา กับใจ ก็ระงับกันไปชั่วขณะที่
จิตปล่อยอารมณ์เข้าพักสงบตัว ต่อเมื่อถอนขึ้ นมา ถ้า มีเ วลา
ทำา ต่ อ ไปอี ก ก็ นำา คำา บริ ก รรมที่ เ คยกำา กั บ มาบริ ก รรมต่ อ ไป
พยายามทำา อย่ างนี้ เ สมอด้ วยความใฝ่ ใจไม่ ล ดละความเพี ย ร
จิตที่เคยทำา บาปหาบทุกข์ อยู่เสมอก็จะค่อยรู้สึกตัวและปล่อย
วางไปเป็ นลำาดับ และมีความสนใจหนักแน่ นในหน้าที่ของตน
เป็ นประจำา ไม่ ถู ก บั ง คั บ ถู ไ ถเหมื อ นขั้ น เริ่ ม แรก ซึ่ ง เป็ นขั้ น
กำา ลั ง ฝึ กหั ด จิ ต ที่ ส งบตั ว ลงเป็ นสมาธิ เป็ นจิ ต ที่ มี ค วามสุ ข
เย็นใจมากและจำาไม่ลืม ถ้าได้ปรากฏขึ้นเพียงครั้งเดียว ย่อม
เป็ นเครื่ องปลุ ก ใจให้ ต่ ื นตั ว และตื่ นใจได้ อ ย่ า งน่ า ประหลาด
หากไม่ ป รากฏอี ก ในวาระต่ อ ไปทั้ ง ที่ ภ าวนาอยู่ ใ นใจ จะเกิ ด
ความเสี ย ดายอย่ า งบอกไม่ ถู ก อารมณ์แ ห่ ง ความติ ด ใจและ
ความเสียดายในจิตประเภทนั้นจะฝั งใจไปนาน นอกจากจิตจะ
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 68
69
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 69
70
ซึ่งบางเรื่องแทบจะคว้าเอาชีวิตไปด้วยในขณะนั้น แม้เช่นนั้น
ใจยังกล้าเอาตัวเข้าไปเสี่ยงและแบกหามจนได้ โดยไม่คำา นึ ง
ว่ า จะเป็ นจะตายเพราะเหลื อ บ่ า กว่ า แรง มิ ห นำา ยั ง หอบเอา
เรื่ องมาคิ ด เป็ นการบ้ า นอยู่ อี ก จนแทบนอนไม่ ห ลั บ รั บ
ประทานไม่ได้ ก็ยังมีในบางครั้ง คำา ว่า หนั ก เกิน ไปยกไม่ ไหว
เพราะเกินกว่ากำาลังใจจะคิดและต้านทานนั้นเป็ นไม่มี มีแต่จะ
ส้เู อาท่าเดียว
งานทางกายยังมีเวลาพักผ่อน และยังรู้ประมาณว่าควร
หรื อ ไม่ ค วรแก่ กำา ลั ง ของตนเพี ย งใด ส่ ว นงานทางใจไม่ มี วั น
เวลาได้ พั ก ผ่ อ นเอาเลย จะมี พั ก อยู่ บ้ า งเล็ ก น้ อ ยก็ ข ณะหลั บ
นอนเท่ านั้ น แม้ เ ช่ น นั้ น จิ ต ยั ง อุ ต ส่ า ห์ ทำา งานด้ ว ยการละเมอ
เพ้ อ ฝั นต่ อ ไปอี ก และไม่ รู้ จั ก ประมาณว่ า เรื่ องต่ า งๆ นั้ น ควร
หรือไม่ควรแก่กำา ลังของใจเพียงใด เมื่อเกิดเป็ นอะไรขึ้นมาก็
ทราบแต่เพียงว่าทุกข์เหลือทน แต่ไม่ทราบว่าทุกข์เพราะงาน
หนักและเรื่องเผ็ดร้อนเหลือกำา ลังที่ใจจะสู้ไหว จึงควรให้นาม
ว่ า “ใจคื อ นั ก ต่ อ สู้ ” เพราะดีก็สู้ ชั่วก็สู้ สู้จนไม่รู้จักหยุดยั้ง
ไตร่ตรอง
อารมณ์ชนิ ดใดผ่านมาต้องสู้ และสู้แบบรับเหมา ไม่ยอม
ให้ อะไรผ่านหน้าไปได้ จิตเป็ นเช่ นนี้ แลจึ งสมนามว่ านั ก ต่ อ สู้
เพราะสู้ จ นไม่ รู้ จั ก ตายถ้ า ยั ง ครองร่ า งอยู่ และไม่ ไ ด้ รั บ การ
แก้ไข ก็ต้องเป็ นนักต่อสู้เรื่อยไปชนิ ดไม่มีวันปลงวางภาระลง
ได้ หากปล่ อยให้ เ ป็ นไปตามชอบของใจที่ ไ ม่ รู้ ป ระมาณ โดย
ไม่ มี ธ รรมเครื่ องยั บ ยั้ ง บ้ า ง คงไม่ มี เ วลาได้ รั บ ความสุ ข แม้
สมบั ติ จ ะมี เ ป็ นก่ ายกอง เพราะนั้ น มิ ใ ช่ ก องแห่ ง ความสุ ข แต่
กลั บ เป็ นกองส่ ง เสริ ม ทุ ก ข์ สำา หรั บ ใจที่ ไ ม่ มี เ รื อ นพั ก คื อ ธรรม
ภายในใจ
นักปราชญ์ท่านกล่าวได้อย่างเต็ม ปากว่ า ธรรมแลเป็ น
เครื่องปกครองทรัพย์สมบัติและปกครองใจ ถ้าใจมีธรรมมาก
น้ อ ย ผู้ น้ั น แม้ มี ท รั พ ย์ ส มบั ติ ม ากน้ อ ยย่ อ มจะมี ค วามสุ ข พอ
ประมาณ ถ้าขาดธรรมเพียงอย่างเดียว ลำาพังความอยากของ
ใจ จะพยายามหาทรัพย์ให้ได้กองเท่าภูเขาก็ยังหาความสุขไม่
เจอ เพราะนั้ นเป็ นเพีย งเครื่องอาศั ยของกายและใจ ผู้ ฉ ลาด
หาความสุขใส่ตัวเท่านั้ น ถ้าใจไม่ฉลาดด้วยธรรม ไม่ มีธ รรม
ในใจเพียงอย่างเดียวจะไปอยู่โลกใดและกองสมบัติใด ก็เป็ น
เพี ย งโลกเศษเดนและกองสมบั ติ เ ศษเดนอยู่ เ ท่ า นั้ น ไม่ มี
ประโยชน์อะไรแก่ ใจเลยแม้นิด ความสมบุ กสมบัน ความรั บ
ทุ ก ข์ ท รมาน ความอดทนและความทนทานต่ อ สิ่ ง กระทบ
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 70
71
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 71
72
กว่าฐานะของฆราวาสที่มารับการอบรม ผิดกับท่านอธิบายให้
พระเณรฟั งอยู่มาก เท่าที่เขียนตามท่านอธิบายไว้พอหอมปาก
หอมคอนี้ ก็ยังอาจมีบทที่รู้สึกว่าเปรี้ยวจัดเค็มจัดแฝงอยู่บ้าง
ตามทรรศนะของนานาจิตตัง จะให้เป็ นแบบเดีย วกั นย่อ มไม่
ได้
เท่ าที่ ไ ด้ พ ยายามตะเกี ย กตะกายนำา มาลง ก็ เ พื่ อท่ า นผู้
อ่านได้ช่วยติชมพอเป็ นยาอายุวัฒนะ ผิดถูกประการใดโปรด
ได้ ตำา หนิ ผู้ นำา มาเขี ย น กรุ ณ าอย่ า ได้ ส นใจกั บ ท่ า นผู้ เ ป็ น
เจ้ า ของประวั ติ เพราะท่ า นมิ ไ ด้ มี ส่ ว นรู้ เ ห็ น ด้ ว ย เวลาแสดง
ธรรมขั้ น สู ง ท่ านก็ แ สดงเป็ นการภายในเฉพาะผู้ ท่ี อ ยู่ ใ กล้ ชิด
เท่ า นั้ น แต่ ผู้ เ ขี ย นคะนองไปเอง ใจและมื อ ไม่ อ ยู่ เ ป็ นสุ ข ไป
เที่ยวซอกแซกบันทึกเอาจากปากคำาของพระอาจารย์ท้ังหลาย
ที่เป็ นลู กศิ ษย์ ท่านพระอาจารย์ ม่ัน ซึ่ งเคยอยู่กับ ท่า นมาเป็ น
คราว ๆ ในสมั ย นั้ น ๆ แล้ ว นำา มาลงเพื่ อท่ า นผู้ อ่ า นได้ ท ราบ
ปฏิปทาการดำาเนิ นของท่านบ้างแม้ไม่สมบูรณ์ เพราะปฏิปทา
ท่ า นปรากฏว่ า เด็ ด เดี่ ย วอาจหาญมาก แทบจะพู ด ได้ ว่ า ไม่ มี
ท่านผู้ใดบรรดาลูกศิษย์ท่ีเคยพึ่งร่มเงาแห่งบารมีท่านมา จะ
สามารถปฏิบัติเด็ดเดี่ยวต่อธุดงควัตรและจริยธรรมทั้งหลาย
อย่างสมำ่าเสมอเหมือนท่าน สำาหรับองค์ท่าน ทั้งข้อปฏิบัติ ทั้ง
ความรู้ภายในใจ นับว่าเป็ นเยี่ยมในสมัยปั จจุบัน ยากจะหาผู้
เสมอเหมือนได้
แถบจังหวัดอุดร และหนองคาย ตามในป่ า ชายเขา และ
บนเขาที่ ท่ า นพั ก อยู่ ท่ า นเล่ า ว่ า พวกเทพฯ ทั้ ง เบื้ องบนเบื้ อง
ล่ า งมาเยี่ ย มฟั งธรรมท่ า นเป็ นคราว ๆ ครึ่ ง เดื อ นบ้ า ง หนึ่ ง
เดือนบ้างมาหนหนึ่ ง ไม่บ่อยนักเหมือนจังหวัดเชียงใหม่ แต่จะ
เขียนต่อเมื่อประวัติท่านดำาเนิ นไปถึง ระยะนี้ ขอดำาเนิ นเรื่องไป
ตามลำา ดับเพื่อไม่ให้ก้าวก่ายกัน ท่านเคยไปพักบำา เพ็ญเพียร
อยู่ชายเขาฝั่ งไทยตะวันตกเมืองหลวงพระบาง นานพอสมควร
ท่ า นเล่ าว่ าที่ ใ ต้ ชายเขาลู ก นั้ น มี เ มื อ งพญานาคตั้ ง อยู่ ใ หญ่ โ ต
มาก หัวหน้าพญานาคพาบริวารมาฟั งธรรมท่านเสมอ และมา
กันมากมายในบางครั้ง พวกนาคไม่ค่อยมีปัญหามากเหมือน
พวกเทวดา พวกเทวดาทั้งเบื้องบนเบื้องล่างมักมีปัญหามาก
พอ ๆ กัน ส่วนความเลื่อมใสในธรรมนั้ น มีพ อ ๆ กัน ท่านพัก
อยู่ ช ายเขาลู ก นั้ น พญานาคมาเยี่ ย มท่ า นแทบทุ ก คื น และมี
บริวารติดตามมาไม่มากนั ก นอกจากจะพามาเป็ นพิ เศษ ถ้า
วันไหนพญานาคจะพาบริวารมามาก ท่านก็ทราบได้ล่วงหน้า
ก่อนทุกครั้ง
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 72
73
ข้อวัตรประจำำองค์ท่ำนโดยเฉพำะ
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 73
74
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 74
75
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 75
76
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 76
77
พยายามอนุเคราะห์เขาเพื่อผ่อนหนักให้เป็ นเบาบ้างก็ไม่มีทาง
เมื่อใจไม่ยอมรับแล้วแม้จะพยายามคิดว่า ถ้าไม่เกิดประโยชน์
ก็ไม่อยากให้เกิดโทษ แต่ก็ปิดไม่อยู่ เพราะผู้คอยจะสร้างบาป
สร้ า งกรรมนั้ น เขาสร้ า งอยู่ ต ลอดเวลา แบบไม่ ส นใจกั บ ใคร
และอะไรทั้งนั้น
การเทศน์ส่ังสอนมนุษย์นับว่ายากอยู่ไม่นอ ้ ย เวลาเขามา
หาเราซึ่งไม่ก่ีคน แต่โดยมากต้องมียาพิษแอบติดตัวมาจนได้
ไม่มากก็พอให้รำาคาญใจได้ ถ้าเราจะสนใจรำาคาญอย่างโลก ๆ
ก็ต้องได้รำาคาญจริง ๆ แต่น้ี ปล่อยตามบุญตามกรรม เมื่อหมด
ทางแก้ไขแล้วถือว่าเป็ นกรรมของสัตว์ ท่านว่าแล้วก็หัวเราะ
ผู้ ต้ั ง ใจมาเพื่ อแสวงหาอรรถหาธรรม หาบุ ญ กุ ศ ลด้ ว ยความ
เชื่ อบุ ญเชื่อกรรมจริ ง ๆ ก็มี นั่ นน่ า เห็ นใจและน่ าสงสารมาก
แต่มีจำา นวนน้อย ผู้มาแสวงหาสิ่งไม่เป็ นท่าและไม่มีขอบเขต
นั้นรู้สึกมากเหลือหูเหลือตาพรรณนาไม่จบ ฉะนั้น จึงชอบอยู่
แต่ในป่ าในเขาอันเป็ นที่สบายกายสบายใจ ทำาความพากเพียร
ก็ เ ต็ ม เม็ ด เต็ ม หน่ ว ย ไม่ มี ส่ิ ง รบกวนให้ ลำา บากตาลำา บากใจ
มองไปทางไหน คิดเรื่องอะไรเกี่ยวกับอรรถธรรมก็ปลอดโปร่ง
โล่งใจ
มองดู แ ละฟั งเสี ย งสั ต ว์ ส าราสิ ง พวกลิ ง ค่ า งบ่ า งชะนี ท่ี
หยอกเล่นกัน ทั้งห้อยโหนโยนตัวและกู่ร้องโหยหวนหากันอยู่
ตามกิ่งไม้ชายเขาลำาเนาป่ า ยังทำาให้เย็นตาเย็นใจไปตาม โดย
มิได้คิดว่าเขาจะมีความรู้สึกอะไรต่อเรา ต่างตัวต่างหากินและ
ปี นขึ้นโดดลงไปตามภาษาของสัตว์ ทำาให้รู้สึกในอิริยาบถและ
ความเป็ นอยู่ทุกด้านสดชื่นผ่องใสและวิเวกวังเวง หากจะมีอัน
เป็ นอั น ตายขึ้ น มาในเวลานั้ น ก็ เ ป็ นไปด้ ว ยความสงบสุ ข ทั้ ง
ทางกายและจิตใจ ไม่เกลื่อนกล่นวุ่นวาย ตายแบบธรรมชาติ
คือมาคนเดียวไปคนเดียวแท้ โดยมากพระสาวกอรหันต์ท่าน
นิ พพานแบบนี้ กันทั้งนั้น เพราะกายและจิตของท่านไม่มีความ
เกลื่ อนกล่น วุ่ น วายมาแอบแฝง มี ก ายอั น เดี ย ว จิ ต ดวงเดี ย ว
และมี อ ารมณ์ เ ดี ย ว ไม่ ไ หลบ่ า แส่ ห าความทุ ก ข์ ไม่ ส่ั งสม
อารมณ์ใด ๆ มาเพิ่มเติมให้เป็ นการหนักหน่ วงถ่วงตน ท่านอยู่
แบบอริ ย ะ ไปแบบอริ ย ะ ไม่ ร ะคนคละเคล้ า กั บ สิ่ ง ที่ จ ะทำา ให้
กังวลเศร้าหมองในทิฏฐธรรมปั จจุบัน
สะอาดเท่าไรยิ่งรักษา บริสุทธิเ์ ท่าไรยิ่งไม่คุ้นกับอารมณ์
ตรงกั นข้ ามกับที่ว่ าหนั ก เท่ า ไรยิ่ ง ขนมาเพิ่ ม เข้ า แต่ ท่ า นเบา
เท่าไรยิ่งขนออกจนไม่มีอะไรจะขน แล้วก็อยู่กับความไม่มีท้ัง
ๆ ที่ผู้ว่าไม่ มีคื อใจก็ มีอยู่กั บตั ว คือ ไม่ มีง านจะขนออกและขน
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 77
78
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 78
79
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 79
80
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 80
81
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 81
82
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 82
83
ต่างก็กลัวว่าท่านจะทราบและถูกโดนเทศน์หนักอยู่แล้ว เรื่อง
ก็เป็ นอันผ่านไปโดยมิได้ต้นสายปลายเหตุ
ตามปกติ ท่ านพระอาจารย์ ม่ั น ท่ า นมี ค วามรู้ เ ชี่ ย วชาญ
เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มาแต่สมัยท่านจำา พรรษาอยู่ถ้ ำาสา
ริ ก า จั ง หวั ด นครนายกตลอดมา และมี ค วามชำา นาญกว้ า ง
ขวางขึ้นเป็ นลำาดับจนแทบจะพูดได้ว่าไม่มีประมาณ เวลาปกติ
ก็ ดี ขณะเข้ า ประชุ ม ฟั งการอบรมก็ ดี พระที่ อ ยู่ กั บ ท่ า นซึ่ ง รู้
เรื่ องของท่ า นได้ ดี ต้ อ งมี ค วามระวั ง สำา รวมจิ ต อย่ า งเข้ ม งวด
กวดขันอยู่ตลอดไป จะเผลอตัวคิดไปต่าง ๆ นานาไม่ได้ เวลา
เข้าประชุมความคิดนั้นต้องกลับมาเป็ นกัณฑ์เทศน์ให้เจ้าของ
ฟั งอี ก จนได้ ยิ่ง ขณะที่ ท่ า นกำา ลั ง ให้ ก ารอบรมอยู่ ด้ ว ยแล้ ว ยิ่ ง
เป็ นเวลาที่ สำา คัญมากกว่ าเวลาอื่ นใด ทั้ ง ๆ ที่แ สดงธรรมอยู่
แต่ขณะที่หยุดหายใจ หรือหยุดเพื่อสังเกตการณ์อะไรก็สุดจะ
เดา เพีย งขณะเดีย วเท่า นั้ น ถ้ามี รายใดคิด เปะปะออกนอกลู่
นอกทางไปบ้าง ขณะนั้ น แลเป็ นต้ องได้ เรื่ อง และได้ ยินเสี ยง
เทศน์แปลก ๆ ออกมาทันที ซึ่งตรงกับความคิดที่ไม่มีสติราย
นั้น ๆ เป็ นแต่ท่านไม่ระบุรายชื่อออกมาอย่างเปิ ดเผยเท่านั้ น
แม้ เ ช่ น นั้ น ก็ ทำา ให้ ผู้ คิ ด สะดุ ด ใจในความคิ ด ของตนทั น ที แ ละ
กลัวท่านมาก ไม่กล้าคิดแบบนั้นต่อไปอีก
กั บ เวลาออกบิ ณ ฑบาตตามหลั ง ท่ า นนั้ น หนึ่ ง จะต้ อ ง
ระวัง ไม่เช่นนั้นจะได้ยินเสียงเทศน์เรื่องความคิดไม่ดีของตน
ในเวลาเข้าประชุมแน่ นอน บางทีก็น่าอับอายหมู่เพื่อนที่น่ังฟั ง
อยู่ ด้ ว ยกั น หลายท่ า นซึ่ ง ได้ ยิ น แต่ เ สี ย งท่ า นเทศน์ร ะบุ เ รื่ อง
ความคิด แต่มิได้ระบุตัวผู้คิด ผู้ถูกเทศน์แทบมุดดินให้จมหาย
หน้าไปเลยก็ มี เพราะบางครั้ งเวลาได้ ยิ น ท่ า นเทศน์แ บบนั้ น
ทำา ให้ ผู้ น่ั ง ฟั งอยู่ ด้ ว ยกั น หลายท่ า นต่ า งหั น หน้ า มององค์ น้ั น
ชำา เลืองดูองค์น้ี เพราะไม่แน่ ใจว่าเป็ นองค์ไหนแน่ ท่ีถูกเทศน์
เรื่องนั้นอยู่ขณะนั้น บรรดาพระเณรจำานวนมากรู้สึกจะมีนิสัย
คล้ายคลึงกัน พอโดนเจ็บ ๆ ออกมาแล้วแทนที่จะเสียใจหรือ
โกรธ พอพ้ น เขตดั ด สั น ดานออกมาต่ า งแสดงความยิ้ ม แย้ ม
ขบขันพอใจ และไต่ถามซึ่งกันและกันว่า วันนี้ โดนใคร? วันนี้
โดนใคร?
แต่น่าชมเชยอยู่อย่างหนึ่ ง ที่พระท่านมีความสัตย์ซ่ ือต่อ
ความคิดผิดของตัวและต่อเพื่อนฝูง ไม่ปกปิ ดไว้เฉพาะตัว พอมี
ผู้ถาม จะเป็ นองค์ใดก็ตามที่คิดผิดทำา นองท่านเทศน์น้ัน องค์
นั้นต้องสารภาพตนทันทีว่า วันนี้ โดนผมเอง เพราะผมมันดื้อ
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 83
84
ไม่เข้าเรื่องไปหาญคิดเรื่อง….. ทั้งที่ตามปกติก็รู้อยู่ว่าจะโดน
เทศน์ถ้าขืนคิดอย่างนั้น แต่พอไปเจอเข้ามันลืมเรื่องที่เคยกลัว
เสียสิ้น มีแต่เรื่องกล้าแบบบ้า ๆ บอ ๆ ออกมาท่าเดียว ที่ท่าน
เทศน์น้ั น สมควรอย่ า งยิ่ ง แล้ ว จะได้ ดั ด สั น ดานเราที่ คิ ด ไม่ ดี
เสียที
ต้องขออภัยจากท่านผู้อ่านมาก ๆ ที่บางเรื่องผู้เขียนก็ไม่
สะดวกใจที่จะเขียน แต่เรื่องที่ว่าไม่สะดวกก็มีผู้ก่อไว้แล้ว พอ
ให้เกิดปั ญหากลืนไม่ได้คายไม่ออกขวางอยู่ในคอดี ๆ นี่ เอง ถ้า
ได้ระบายออกตามความจริงก็น่าจะเป็ นธรรม เหมือนพระท่าน
แสดงอาบัติ ก็เป็ นวิธีท่ีทำาให้หมดโทษหมดกังวล ไม่กำาเริบต่อ
ไป จึ ง ขอเรี ย นเป็ นบางตอนพอเป็ นข้ อ คิ ด จากทั้ ง ท่ า นผู้ เ ป็ น
เจ้าของเรื่องทั้งท่านผู้ ชำา ระเรื่ อง ทั้งพวกเราผู้มี หัว ใจที่อ าจมี
ความคิดอย่างนั้นบ้าง
โดยมากนักบวชและนักปฏิบัติท่ีโดนเทศน์เจ็บ ๆ อยู่บ่อย
ๆ ก็เนื่ องจากอายตนะภายนอก คือ รูป เสียง เป็ นต้น ที่เป็ นวิ
สภาคต่อกันนั่นเอง มากกว่าเรื่องอื่น ๆ ต้นเหตุท่ีถูกเทศน์โดย
มากก็เวลาบิณฑบาต ซึ่งเป็ นกิจจำาเป็ นของพระ จะละเว้นมิได้
เวลาไปก็ต้องเจอ เวลาเจอก็ จำา ต้อ งคิ ดไปต่ าง ๆ บางรายพอ
เจอเข้าเกิดความรักชอบ ความคิดกลายเป็ นกงจักรไปโดยไม่รู้
สึ ก ตั ว นี่ แ ลคื อ ต้ น เหตุ สำา คั ญ ที่ ฉุ ด ลากใจให้ คิ ด ออกไปนอกลู่
นอกทาง ทั้งที่ไม่อยากจะให้เป็ นเช่นนั้น พอได้สติร้ังกลับมาได้
ตกตอนเย็นมาก็โดนเทศน์ แล้วพยายามทำาความสำารวมต่อไป
พอวาระต่อไปก็ไปเจอเอาของดีเข้าอีก ทำาให้แผลกำาเริบขึ้นอีก
ขากลับมาวัดก็โดนยาเม็ดขนานเด็ด ๆ ใส่แผลเข้าอีก คือ โดน
เทศน์น่ันเอง ถ้าองค์น้ี ไม่โดนของดี แต่องค์น้ันก็โดนเข้าจนได้
เพราะพระเณรมี ม ากต่ อ มากและต่ า งองค์ ก็ มี แ ผลเครื่ องรั บ
ของแสลงด้ ว ยกั น ฉะนั้ น จึ ง ไปโดนแต่ ข องดี ม าจนไม่ ชนะจะ
หลบหลี ก แก้ ไ ข พอมาถึ ง วั ด และสบจั ง หวะก็ โ ดนเทศน์จ าก
ท่านเข้าอีก
ธรรมดาความคิ ด ของคนมี กิ เ ลสก็ ต้ อ งมี คิ ด ไปต่ า ง ๆ ดี
บ้า งชั่ วบ้ าง ท่ านเองก็ ไ ม่ ใ ช่ นัก ดุ ด่ า ไปเสี ย ทุ ก ขณะจิ ต ที่คิ ด ที่
ท่ า นตำา หนิ ก็ คื อสิ่ ง ที่ ท่ านอยากให้คิ ด เช่ น คิ ด อรรถคิ ด ธรรม
ด้วยสติปัญญาเพื่อหาทางปลดเปลื้องตนออกจากทุกข์ อันเป็ น
ความคิดที่ถูกทางและเบาใจแก่ผู้อบรมสั่งสอนนั้นไม่ค่อยชอบ
คิดกัน แต่ชอบไปคิดในสิ่งที่ไม่อยากให้คิด จึงโดนเทศน์กันอยู่
เสมอแทบทุกคืน เพราะผู้ทำาให้ท่านต้องเทศน์บ่อย ๆ มีมาก
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 84
85
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 85
86
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 86
87
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 87
88
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 88
89
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 89
90
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 90
91
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 91
92
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 92
93
ไม่ ต้องวกเวี ยนถ่ วงตนดั งที่ เ ป็ นอยู่ น้ี ส่ว นความทุ ก ข์ น้ั นถ้ า มี
กรรมอยู่แล้ว ไม่ว่าสัตว์จำา พวกใดต้องมีทุกข์ไปตามส่ว นของ
กรรมดีช่ัวที่มีมากน้อยในตัวสัตว์
ท่านถามเทวดาว่า พระที่พูดกับเทวดารู้เรื่องกันมีอยู่แยะ
ไหม? เขาตอบว่ามีอยู่เหมือนกันท่าน แต่ไม่มากนัก โดยมาก
ก็เป็ นพระซึ่งชอบปฏิบัติบำาเพ็ญอยู่ในป่ าในเขาเหมือนพระคุณ
เจ้านี่ แล ท่านถามว่า ส่วนฆราวาสเล่ามีบ้างไหม? เขาตอบว่า
มีเหมือนกัน แต่มีน้อยมาก และต้องเป็ นผู้ใคร่ทางธรรมปฏิบัติ
ใจผ่องใสถึงรู้ได้ เพราะกายพวกเทวดานั้นหยาบสำา หรับพวก
เทวดาด้ ว ยกั น แต่ ก็ ล ะเอี ย ดสำา หรั บ มนุ ษ ย์ จ ะรู้ เ ห็ น ได้ ท่ั ว ไป
นอกจากผู้มีใจผ่องใสจึงจะรู้จะเห็นได้ไม่ยากนัก
ท่านถามเขาว่า ที่ธรรมท่านว่าพวกเทวดาไม่อยากมาอยู่
ใกล้พวกมนุษย์ เพราะเหม็นสาบคาวมนุษย์น้ันเหม็นสาบคาว
อย่างไรบ้าง ขณะที่ท่านทั้งหลายมาเยี่ยมอาตมาไม่เหม็นคาว
บ้ า งหรื อ ทำา ไมถึ ง พากั น มาหาอาตมาบ่ อ ยนั ก เขาตอบว่ า
มนุษย์ท่ีมีศีลธรรมมิใช่มนุษย์ท่ีควรรังเกียจ ยิ่งเป็ นที่หอมหวน
ชวนให้ เ คารพบู ช าอย่ า งยิ่ ง และอยากมาเยี่ ย มฟั งเทศน์อ ยู่
เสมอไม่ เ บื่ อเลย มนุ ษ ย์ ท่ี เ หม็ น คาวน่ า รั ง เกี ย จ คื อ มนุ ษ ย์ ท่ี
เหม็ น คาวศี ล ธรรม รั ง เกี ย จศี ล ธรรม ไม่ ส นใจในศี ล ธรรม
มนุษย์ประเภทเบื่อศีลธรรมซึ่งเป็ นของดีเลิศในโลกทั้งสาม แต่
ชอบในสิ่งที่น่ารังเกียจของท่านผู้ดีมีศีลธรรมทั้งหลาย มนุษย์
ประเภทนี้ น่ารังเกียจจึงไม่ อยากเข้ าใกล้ และเหม็นคาวฟ้ ุง ไป
ไกลด้ ว ย แต่ เ ทวดามิ ไ ด้ ต้ั ง ข้ อ รั ง เกี ย จชาวมนุ ษ ย์ แ ต่ อ ย่ า งใด
หากเป็ นนิ สั ย ของพวกเทวดามี ค วามรู้ สึ ก อย่ า งนั้ น มาดั้ ง เดิ ม
ดังนี้
เวลาท่ า นเล่ า เรื่ องเทวดาภู ต ผี ช นิ ด ต่ า ง ๆ ให้ ฟั ง ผู้ ฟั ง
เคลิ้มไปจนลืมตัวและลืมเวลำ่าเวลา ลืมเหน็ ดเหนื่ อยเมื่ อยล้ า
ไปตาม ๆ กัน ประหนึ่ งตนก็ใคร่รู้อย่างนั้นบ้าง และคิดว่าจะรู้
จะเห็ น อย่ างนั้ น บ้ างในวั น หนึ่ ง ข้ า งหน้า แล้ ว ทำา ให้ เ กิ ด ความ
กระหยิ่มต่อความเพียรเพื่อผลอย่างนั้นขึ้นมา กับตอนท่านเล่า
อดีตชาติของท่านและของคนอื่นเป็ นบางรายที่เห็นว่าจำา เป็ น
ให้ฟัง ยิ่งทำาให้อยากรู้เรื่องอดีตของตนจนลืมความคิดที่อยาก
พ้นทุกข์ไปนิ พพาน ในบางครั้งพอรู้ตัวเกิดตกใจและตำาหนิ ตน
ว่า อ๋อ เรานี่ จะเริ่มบ้าไปเสียแล้ว แทนที่จะคิดไปในทางหลุด
พ้นดังที่ท่านสั่งสอน แต่กลับไปคว้าและงมเงาในอดีตที่ผ่านมา
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 93
94
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 94
95
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 95
96
จำาพวกที่ค่อย ๆ เดินตามหลังท่านด้วยความเคารพและ
มี ร ะเ บี ย บส วย งามเ ป็ น ที่ น่ าเ ลื่ อมใ ส นั้ น คื อ จำา พว ก ที่ จ ะ
ประพฤติ ปฏิ บัติ ชอบตามโอวาทคำา สั่ งสอนของท่ า น จะเป็ นผู้
เคารพเทิ ด ทู น ท่ า นและพระศาสนาให้ เ จริ ญ รุ่ ง เรื อ งต่ อ ไปใน
อนาคต จะสามารถทำา ตนให้ เ ป็ นประโยชน์ แ ก่ พ ระศาสนา
ตลอดหมู่ ช นทั่ ว ไปได้ และสามารถจะยั ง ขนบธรรมเนี ยม
ประเพณี อั น ดี ง ามทางศาสนาให้ ค งที่ ดี ง ามต่ อ ไป เป็ นที่ น่ า
เคารพเลื่อมใสทั้งมนุษย์และเทวดาอีกพรหมยมยัก ษ์ท่ั วหน้า
กัน ซึ่งนับว่าเป็ นผู้ทรงตนและพระศาสนาไว้ได้ตามแบบอริย
ประเพณีไม่เสื่อมสูญ
จำาพวกที่เดินแซงหน้าท่านไปด้วยท่าทางไม่ระวังสำารวม
นั้ น คื อ จำา พวกอวดรู้ อ วดฉลาด เข้ า ใจว่ า ตนเรี ย นมากรู้ ม าก
ปฏิบัติดีย่ิงกว่าครูอาจารย์ผู้พาปฏิบัติดำา เนิ นด้วยสามีจิกรรม
มาก่อน ไม่สนใจเคารพเอื้อเฟื้ อต่อการศึกษาไต่ถามข้ออรรถ
ข้ อ ธรรมใด ๆ เพราะความสำา คั ญตนว่ า ฉลาดรอบรู้ ทุ ก อย่ า ง
แล้วปฏิบัติตนไปด้วยความสำา คัญนั้น ๆ อันเป็ นทางล่มจมแก่
ตนและพระศาสนา ตลอดประชาชนผู้มาเกี่ยวข้องศึกษา ต่าง
จะนำา ยาพิ ษ เพราะความเห็ น ผิ ด จากอาจารย์ อ งค์ น้ั น ไปใช้
แล้ ว กลายเป็ นผู้ ทำา ลายตนและหมู่ ช นตลอดกุ ล บุ ต รสุ ด ท้ า ย
ภายหลังให้เสียหายไปตาม โดยไม่รู้สึกระลึกได้ว่าเป็ นทางถูก
ต้องดีงามหรือไม่ประการใด
จำา พวกที่ กำา ลั ง คอยหาโอกาสเดิ น แซงหน้ า ท่ า นไปใน
ลำาดับต่อมานั้น คือจำาพวกที่กำาลังเริ่มก่อตั้งความเสื่อมเสียแก่
ตนและวงพระศาสนาต่ อ ไป ด้ ว ยความสำา คั ญ ผิ ด ชนิ ด ต่ า ง ๆ
ทำา นองจำา พวกก่อนซึ่งเป็ นจำา พวกที่จะช่วยกันทำา ลายตนและ
พระศาสนา อันเป็ นส่วนรวมดวงใจของประชาชนชาวพุทธให้
ฉิ บ หายล่ ม จมลงไปโดยมิ ไ ด้ ส นใจว่ า ผิ ด หรื อ ถู ก ประการใด
จำา พวกที่เอาไม้มาคีบหัวอกท่านนั้ น คือจำา พวกที่เข้าใจว่าตน
ฉลาดรอบรู้ แ ละปฏิ บั ติ ไ ปด้ ว ยความสำา คั ญ นั้ น ๆ โดยมิ ไ ด้
คำา นึ งว่าผิดหรือถูก ทั้งที่ความจริงการปฏิบัติน้ั นเป็ นทางผิ ด
และยังมีส่วนกระทบกระเทือนวงพระศาสนาและครูอาจารย์ท่ี
พาดำา เนิ นมาก่ อ น ให้ มี ส่ ว นบอบชำ้ าเสี ย หายไปด้ ว ย ส่ ว น
จำา พวกหลั ง นี้ ท่ า นเล่ า ว่ า ท่ า นรู้ ตั ว และนามของพระนั้ น ๆ
ด้ ว ย ที่ ม าทำา ให้ ท่ า นลำา บากในเวลาต่ อ มา คื อ พระที่ เ ป็ นลู ก
ศิษย์ท่านอยู่ก่อน เป็ นแต่ออกไปจำาพรรษาอยู่ไม่ห่างกันนัก ซึ่ง
ท่านเองเป็ นผู้เห็นชอบและอนุญาตให้ออกไป
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 96
97
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 97
98
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 98
99
ตกใจ และบางรายตัวสั่นไปด้วยเผื่อคิดเช่นนั้นขึ้นมาบ้างขณะ
เผลอ
ถ้าถู กฟ้ าผ่ าอยู่เ รื่อย ๆ ขณะฟั งเทศน์ ปรากฏว่ าจิ ตใจผู้
ฟั งหมอบและมี สติ ระวัง ตั ว อย่ า งเข้ ม งวดกวดขั น บางรายจิ ต
รวมสงบลงอย่างเต็ม ที่ก็ มีใ นขณะนั้ น ผู้ ไ ม่ ร วมในขนาดนั้ น ก็
อยู่ในเกณฑ์สงบและระวังตัว เพราะกลัวฟ้ าจะลงเปรี้ยง หรือ
เหยี่ยวจะลงโฉบเอาศีรษะขณะใดก็ไม่รู้ ถ้าเผลอคิดไม่เข้าเรื่อง
ในขณะนั้ น ฉะนั้ น ผู้ ท่ี อ ยู่ กั บ ท่ า นจึ ง มี ห ลั ก ใจเป็ นที่ ม่ั น คงไป
โดยลำา ดับ อยู่กับท่านไปนานเท่าไรก็ย่ิงทำา ให้นิสัยทั้งภายใน
ภายนอกกลมกลืนกับนิ สัยท่านไปไม่มีสิ้นสุด ผู้ใดอดทนอยู่กับ
ท่านได้นาน ๆ ด้วยความใฝ่ ใจ ยอมเป็ นผ้าขี้ริ้วให้ท่านดุด่าสั่ง
สอน คอยยึดเอาเหตุเอาผลจากอุบาย ต่าง ๆ ที่ท่านแสดงใน
เวลาปกติ ห รื อ เวลาแสดงธรรม ไม่ ล ดละความสั ง เกต และ
พยายามปฏิบัติตนให้เป็ นไปตามท่านทุกวันเวลา นิ สัยความ
ใคร่ธรรมและหนักแน่ นในข้อปฏิบัติทุกด้านนี่ แล จะทำาให้เป็ น
ผู้ม่ันคงทางภายในขึ้นวันละเล็กละน้อย จนสามารถทรงตัวได้
ที่ไม่ค่ อยได้ หลั กเกณฑ์จ ากการอยู่ กับ ท่า น โดยมากมัก
จะเพ่งเล็งภายนอกยิ่งกว่าภายใน เช่น กลัวท่านดุด่าบ้างเวลา
คิด ไปต่ าง ๆ ตามเรื่ องความโง่ ข องตน พอถู ก ท่ า นว่ า ให้ บ้ า ง
เลยกลัวโดยมิได้คิดจะแก้ตัวสมกับไปศึกษาอบรมกับท่านเพื่อ
หาความดีใส่ตัว ไม่มีเหตุมีผลอะไรเลย ไปอยู่กับท่านก็ไปแบบ
เรา อยู่แบบเรา ฟั งแบบเรา คิดไปร้อยแปดแบบเราที่เป็ นทาง
ดั้งเดิม อะไร ๆ ก็เป็ นแบบเราซึ่งมีกิเลสหนาอยู่แล้ว ไม่มีแบบ
ท่านเข้ามาแทรกบ้างเลย เวลาจากท่านไปก็จำาต้องไปแบบเรา
ที่เคยเป็ นมาอย่างไรก็เป็ นไปอย่างนั้น ชื่อว่าความดีไม่มีอะไร
เปลี่ ย นแปลงพอให้ เ ป็ นที่ น่ า ชมเชย แต่ ค วามชั่ ว ที่ ทั บ ถมจน
มองไม่เห็นตัวนั้นยิ่งสั่งสมขึ้นทุกวันเวลา ไม่มีความเบื่อหน่ าย
อิ่มพอ ผลจึงเป็ นคนอาภัพอยู่เสมอ ไม่มีส่ิงใดมาฉุดลากพอให้
กลับฟื้ นตัวได้บ้างเลย ถ้าไปอยู่กับท่านแบบที่ว่านี้ จะอยู่นาน
เท่าไรก็ไม่ผิดอะไรกับทัพพีอยู่กับแกงที่มีรสอร่อย แต่ทัพพีจะ
ไม่รู้เรื่องอะไรกับแกง นอกจากให้เขาจับโยนลงหม้อนั้นหม้อนี้
ไม่ ได้ หยุ ดหย่อนเท่ านั้ น กิเลสตัณ หาเครื่ องพอกพู นความชั่ ว
ไม่มีประมาณ จับเราโยนลงกองทุกข์หม้อนั้ นหม้อนี้ ก็ทำา นอง
เดียวกัน
ผู้ เ ขี ย นก็ นั บ เข้ า ในจำา นวนถู ก จั บ โยนลงหม้ อ นั้ น หม้ อ นี้
ด้วย โดยไม่ต้องสงสัย เพราะชอบขยันหมั่นเพียร แต่ส่ิงหนึ่ ง
นั้ น คอยกระซิ บ ให้ ข้ี เ กี ย จ ชอบไปแบบท่ า น อยู่ แ บบท่ า น ฟั ง
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 99
100
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 100
101
ประวัติท่านพระอาจารย์มัน
่ ภูริทัตตเถระ 101