You are on page 1of 43

สัมมนาการคิดแบบมีเหตุผล

แนวคิดทางธุรกิจ
สัมมนาเพื่อการพัฒนาและยกระดับ

กุมภาพันธ์ 2005

จัดทำาโดย

Sugiyama Management Development Ltd (SME)


สารบัญ

บทนำา
วัตถุประสงค์
ความสำาคัญของการคิดอย่างมีเหตุผล
ความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบ
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 1 การแบ่งแยกประเด็น
ตอนที่ 2 ระบุปัญหา
ตอนที่ 3 การแก้ไขปัญหา
ระบุปัญหา
การสือ่ สารอย่างเป็นเหตุเป็นผล
สรุป
บทนำา

ทำาไมคนไม่สามารถมองเห็น
คุณเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้หรือเปล่า
- ฉันอธิบายสิ่งที่ไม่เข้าใจอย่างละเอียด
- หัวหน้าไม่เคยยอมรับความคิดของฉัน
- ผูค้ วบคุมดูแลไม่เข้าใจกัน ความจำาเป็นในการสร้างวิธีการแก้ไขปัญหา
- ฉันคิดว่าฉันเข้าใจประเด็นสำาคัญได้เป็นอย่างดี แต่หลังจากการถามปัญหา คุณหลงทาง
- ไม่มีใครเข้าใจประเด็นสำาคัญที่มีความซับซ้อนมากเพื่อหาทางออก
- การคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล คือวิถีทางหนึ่งที่ค้นหาหนทางอื่นในการแก้ไขสถานการณ์อันยากลำาบาก
เหล่านี้
วัตถุประสงค์ของสัมมนา

เพือ่ ทำาให้ทุกคนมีความสามารถดังต่อไปนี้

เข้าใจสถานการณ์ในแนวทางที่เป็นเหตุเป็นผล
จัดประเภทความคิดเห็น (ทัศนะ) ในแนวทางที่เป็นเหตุเป็นผล
ระบุปัญหาในแนวทางที่เป็นเหตุเป็นผล
คิดค้นวิธีการแก้ปัญหาในแนวทางที่เป็นเหตุเป็นผล
สื่อสารความคิดในแนวทางที่เป็นเหตุเป็นผล
การคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล คือ
วิธีการและการฝึกอบรมเพื่อทำาให้มคี วามสามารถในการคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล
ความสำาคัญของการคิดอย่างมีเหตุมีผล
ความสำาคัญของการคิดอย่างมีเหตุมผี ล

โดยผิวเผินแล้วดูเหมือนทุกคนเห็นด้วยกับสิ่งที่กำาลังอธิบายแต่แท้จริงแล้วพวกเขากำาลังคิดอะไรที่แตกต่า
งกันออกไป
เราไม่ได้ดำาเนินการตามสิ่งที่มีความสำาคัญอย่างแท้จริง
แต่กลับเอาชนะบางสิ่งโดยไม่รู้ตัวด้วยความเคยชินหรือสิ่งที่ตนเองชอบ
ดูเหมือนว่าเราทำางานในแบบเดียวกันแต่วัตถุประสงค์กลับแตกต่างกัน
เราไม่สามารถบรรลุถึงวัตถุประสงค์หรือรับรองการอภิปรายที่มีผลอันสมบูรณ์แบบ
เมื่อเราอยู่เหนือสถานการณ์
โดยเฉพาะทางธุรกิจมันเป็นวิกฤตการณ์ที่เราต้องพูดถึงรายละเอียดที่ได้รับการยินยอมจากบุคคลที่สามเพื่
อรักษาประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และแรงจูงใจ ในการสร้างการตัดสินใจก็เช่นกัน
เราควรมุ่งประเด็นไปที่แผนการและความเป็นไปได้มากกว่าการเชื่อมั่นในโอกาสที่บรรลุถึงวัตถุประสงค์
ความสำาคัญของการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล

ในทางธุรกิจ การคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล นั้นคือ


พื้นฐานในการตัดสินความก้าวหน้าและความสำาเร็จของสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้
การสือ่ สาร
การจูงใจ
ความเข้าใจ
การคิด
ความสำาคัญของการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล

แบบฝึกหัดที่ 1: หวนรำาลึกถึงสถานการณ์ของการทำางานในแต่ละวัน เช่น

การสือ่ สารเป็นเรือ่ งที่ยุ่งยาก


การจูงใจเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก
คุณไม่ได้ความเข้าใจอย่างเหมาะสม

และพยายามที่จะแบ่งปันประสบการณ์ระหว่างกลุ่ม โปรดเลือกตัวอย่างมาหนึ่งข้อมา 1 ข้อ


พร้อมทั้งอภิปรายและตัดสินถึงสาเหตุว่าทำาไมจึงไม่สามารถหาคำาตอบให้กับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้
ความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลกระทบ
ความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลกระทบ
อะไรคือความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลกระทบ
ความสัมพันธ์สาเหตุและผลกระทบ คือ ความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลกระทบ
โดยสัญชาตญาณนี้คือแนวคิดขั้นตอนพื้นฐาน
แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่เรารับรู้ในฐานะสาเหตุและผลกระทบ
โดยปราศจากเหตุผลใดๆ ที่นำามาสนับสนุน
ยกตัวอย่างเช่น: รายได้ไม่เพิ่มขึ้นเพราะเศรษฐกิจตกตำ่า
นี้คือเหตุผลที่น่าพอใจแบบการมองอย่างผิวเผิน
แต่ก็มปี ริษัทเป็นจำานวนมากที่ประสบความสำาเร็จในยุคเศรษฐกิจตกตำ่า ด้วยดังกล่าว “
เพราะเศรษฐกิจตกตำ่า...”
อาจจะช่วยให้รอดชีวิตไปวันๆ แต่อาจจะไม่ใช่ความจริงต่อคำาดังกล่าวนี้
อาจจะเป็นได้ว่า ความจริงของวิถีทางดำาเนินธุรกิจ คือ สิ่งที่ผิดพลาด
อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเราเข้าใจความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลกระทบอย่างถูกต้อง
การเรียนรู้ความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลกระทบ หมายถึง
การเรียนรู้ความจริงและนั้นคือจุดเริม่ ต้นของการอภิปรายและแก้ไขปัญหา
ความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบ
รูปแบบของความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบ
ประกอบด้วยรูปแบบต่างๆ ของความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบ ดังต่อไปนี้
ความสัมพันธ์ขั้นพื้นฐานของสาเหตุและผลกระทบ
สาเหตุ A ผลลัพธ์ B
เมื่อสาเหตุหนึ่งประการทำาให้ผลลัพธ์เพียงข้อเดียว และเมื่อผลลัพธ์ B คือ หลักฐานฉะนั้นสาเหตุ
A ทำาให้เกิดผลลัพธ์ B เท่านั้น
ความสัมพันธ์แบบเป็นวงจรระหว่างสาเหตุและผลกระทบ
สาเหตุ A ผลลัพธ์ B สาเหตุ A
เมื่อสาเหตุA นำาไปสู่ผลลัพธ์B แต่ในทางกลับกันผลลัพธ์B ก็เป็นต้นต่อทำาให้เกิดสาเหตุA
AและB ก่อให้เกิดวงจรซึ่งก่อให้เกิดความยุ่งยากที่ระบุว่าอะไรคือสาเหตุและอะไรคือผลลัพธ์
และความสัมพันธ์ไม่เพียงแต่จะเกิดระหว่าง AและB แต่สามารถเกิดได้ในหลายสถานการณ์
เช่น A B C D A
ความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบ

ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างสาเหตุและผลกระทบ

สาเหตุA ผลลัพธ์B ผลลัพธ์D


ผลลัพธ์E
ผลลัพธ์B ผลลัผลลั
พธ์พBธ์F
ผลลัพธ์G

ความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนเกิดจากการนำาสาเหตุและผลกระทบมาผสมรวมกันในสถานการณ์เช่น
นี้ การหาสาเหตุจากผลลัพธ์อันใดอันหนึ่งจึงเป็นไปได้ยากมาก
ความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลกระทบ
การระบุความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบ
โดยการตรวจสอบจุดประสงค์ ดังนี้
เมื่อลำาดับเหตุการณ์ถูกต้อง
โดยธรรมชาติแล้ว สาเหตุควรที่จะอยู่เหนือผลลัพธ์ ฉะนั้น เหตุการณ์ตา่ งๆ
ควรได้รบั การทดสอบด้วยความเหมาะสมกับสถานการณ์
เมื่อเกิดการแก้ไข

การแก้ไขจะเกิดขึ้นเมือ่ มีการเปลีย่ นแปลงของบางสิ่งและสิ่งนั้นจะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอี


กแบบหนึ่ง ที่ใดมีความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบ ก็ต้องมีการแก้ไขเช่นกัน
เมื่อมีสาเหตุอนื่
ถ้าหากมี 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นตามลำาดับเหตุการณ์
และได้รับการแก้ไขก็จะไม่มีการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบโดยอัตโนมั
ติ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าระหว่างเหตุการณ์ A และ B คือสาเหตุที่แท้จริงของ C ซึ่งทำาให้เกิด
A ก่อน และ B ตามหลัง และถ้าไม่มีการระบุถึง C
ก็จะปรากฏความสัมพันธ์ของสาเหตุกับผลกระทบระหว่าง A และ B
ความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลกระทบ
เมื่อมีการตรวจสอบอย่างรอบครอบ ดังนี้
การตั้งสมมุติฐาน , การสังเกต , การมองและเข้าใจอย่างลึกซึ้ง :
ไม่เพียงแต่ใช้ประโยชน์ของข้อมูลที่มีอยู่ แต่การใช้ประโยชน์จากความคิดที่มีเหตุผล
การสังเกตการณ์และการเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ถ้าทำาให้เห็นปัจจัยหรือเหตุการณ์ที่ได้รับการมองข้าม
ความยืดหยุ่น

อย่าปล่อยให้ตัวคุณยึดติดกับความรูค้ วามสามารถในการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าและค้นหาควา
มเป็นไปได้จากมุมมองด้านอืน่ ที่แตกต่างออกไป เพราะบางครั้งสมมติฐานของคุณก็อาจผิดพลาดได้
ความรู,้ ประสบการณ์, กรอบแนวคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล
พยายามสร้างเหตุผลบนพื้นฐานความรูห้ รือประสบการณ์ของแต่ละบุคคล
หรือความเชื่อที่มีอยู่เดิม
หรือที่ได้รับการยอมรับในฐานะกรอบแนวคิดที่น่าเชื่อถือและยึดถือได้เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือ
ความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลกระทบ
ความผิดพลาดที่เกิดจากความบังเอิญ
ความคิดที่มีอยู่ก่อนแล้วของความผิดพลาดในฐานะความจริงที่ปราศจากอคติ
ยกตัวอย่างเช่น “ความอยากจนทำาให้เกิดอาชญากรรม” ฉะนั้นควรจะบ่งบอกให้เห็นว่าอะไรคือ
“ความอยากจน” และอะไรคือ “อาชญากรรม” อย่างชัดเจน
อธิบายถึงลักษณะทั่วไปของการสร้างคุณค่าของแต่ละบุคคล
ยกตัวอย่างเช่น “ฉันได้รบั การกระตุ้นเมื่อได้ทำางานที่ท้าทาย ดังนั้น
ยิ่งวัตถุประสงค์ยากมาเท่าใดบุคคลนั้นก็จะทำางานหนักมากขึ้น”
แต่ในบางครั้งการกระตุ้นบุคคลหนึ่งให้ทำางานอาจจะไม่จำาเป็นและใช้ไม่ได้กับบางคน
กล่าวถึง ความจริงที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปอีกครั้ง
ยกตัวอย่างเช่น “ระบบอาวุโสทำาให้ผลผลิตของประเทศญีป่ ุ่นลดลง”
และเคยมีคำากล่าวว่า”ระบบอาวุโสคือหนึ่งในความลับที่สนับสนุนให้บริษัทของญี่ปุ่นแข็งแกร่ง
เร่งสรุปผลจากความจริงที่ผิวเผิน
ยกตัวอย่างเช่น
“การกระทำาผิดจะเข้ามาแทนที่เนื่องมาจากการขาดความเคารพกฎระเบียบมีหลายบริษัทที่ละเมิดกฎ
หมายถึงแม้นว่าจะมีกฎระเบียบ
ความสัมพันธ์ของสาเหตุและผลกระทบ

แบบฝึกหัดที่ 2 : อภิปรายเหตุการณ์ดังต่อไปนี้

“ถ้าจำานวนพนักงานเอกสารลดลงเนื่องมาจาก ค่าเดินทางเพิ่มขึ้น”

คือ ความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบ จงอธิบายคำาตอบ C


โดยใช้คำาตอบ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ในแนวทางที่เป็นเหตุเป็นผล
ความคิดด้านโครงสร้าง

ส่วนที่ 1
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 1 การแบ่งแยกประเด็น
อะไรคือ ความคิดด้านโครงสร้าง
ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ทั้งหมด
เมื่อนำาเหตุการณ์ต่างๆ (ปัจจัย) มาเชื่อมโยงกัน
ควรมีการจัดกลุ่มเหตุการณ์เหล่านี้เพื่อทำาให้เกิดภาพที่ใหญ่ขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น : ปริมาณอุบัติเหตุทางรถยนต์เพิ่มขึ้น
แต่ถึงอย่างไรก็ควรจะมีการจัดประเภทของอุบัติเหตุให้เป็น อุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ ,
อุบัติเหตุของรถยนต์เพียงหนึ่งคันและอุบัติเหตุของรถยนต์หลายคัน เป็นต้น
ความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบ
ตรวจสอบเหตุการณ์ต่างๆ ที่อยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบ
ชั่งนำ้าหนักความสำาคัญของปัจจัยส่วนบุคคล
อย่างแรกคือ ยืนยันวัตถุประสงค์ของการคัดแยกอีกครั้ง
ต่อจากนั้นระบุและจัดลำาดับก่อนหลังของปัจจัยต่างๆ
ซึ่งพิจารณาจากผลลัพธ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของวัตถุประสงค์
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 1 การแบ่งแยกประเด็น
การวางโครงสร้างของเหตุการณ์ต่างๆ
การค้นหาความจริง
นี้คือกระบวนในการค้นหา
รวบรวมและแบ่งแยกความจริงที่น่านำาไปสู่ปัญหาหรือส่งผลกระทบต่อปัญหา
ยกตัวอย่างเช่น ประเด็นด้านแรงงาน
อะไรคือประเด็นทางด้านแรงงานที่เรามีอยู่
เรามีประเด็นทางด้านแรงงานในที่ทำางานหรือไม่
เมื่อเกิดอุบัติเหตุ อุบัติเหตุประเภทใดที่เกิดขึ้น เกิดมากี่ครั้งและเกิดขึ้นที่ใด
ประเด็นทางด้านแรงงานมักมาพร้อม “การขาดงานเป็นประจำา” “สิง่ แวดล้อมในการ
ทำางานด้อยลง” “การทำางานเกินเวลามากเกินควร” ซึ่งสิ่งเหล่านี้อยู่ในที่ทำางานของคุณ
หรือไมปัจจุบัน
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 1 การแบ่งแยกประเด็น (ต่อ)
การวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ควรมีการตรวจสอบความจริงและข้อมูลที่จัดเก็บไว้อีกครัง้
ต่อจากนั้นก็แยกประเภทของความจริงและข้อมูลเพื่อทำาให้เห็นสาเหตุของปัญหา
ยกตัวอย่างเช่น : สมมติฐานเบื้องต้น คือ การเกิดอุบัติเหตุในที่ทำางาน
เมื่อมีการทำางานนอเวลาเกินสมควร
แต่จาการสำารวจที่แท้จริงแล้วปรากฏว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นบ่อยครัง้ ในสิ่งแวดล้อมที่มีความมืด
ซึ่งสถานที่เช่นนี้มีแนวโน้มที่ทำาให้เกิดอัตราการขาดงานที่สงู ขึ้น
การวางโครงสร้างเหตุการณ์ต่างๆ ในฐานะสมมติฐาน

พยายามคิดหาเหตุผลเพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบของปัญหาที่มไี ว้เพื่อพิจ
ารณาผลลัพธ์ของการวิเคราะห์ขั้นพื้นฐาน
ยกตัวอย่างเช่น : สถานที่ทำางานที่มืด อุบัติเหตุในการทำางาน การขาดคนงาน
การจ้างพนักงาน คนงานที่ไม่มีทักษะด้านการทำางานที่เพียงพอ ทำาให้เกิดอุบัติเหตุ
ทำางานเกินเวลา
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 1 การแบ่งแยกประเด็น (ต่อ)
การวิจัย การวิเคราะห์และการปรับปรุงโครงสร้างใหม่เพื่อทดสอบความถูกต้องของสมมติฐาน
ทดสอบความถูกต้องของสมมติฐาน
และถ้าความจริงไม่ได้รับการอธิบายด้วยสมมติฐานก็ต้องมีการค้นพบสมมติฐานที่แตกต่างกันออกไ

ความสำาคัญและสิทธิพิเศษ
บ่อยครัง้ ที่ไม่สามารถหาวิธีที่เหมาะสมในการแก้ไขหรือเอาชนะปัญหาทั้งหมด
ดังนั้น การประเมินถึงความสำาคัญและสิทธิพิเศษจึงเป็นสิง่ จำาเป็น
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 1 การแบ่งแยกประเด็น (ต่อ)
จะเป็นยังไงหากเราสามารถวางโครงสร้างของเหตุการณ์ต่างๆได้
เราจะเริ่มมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้รบั การระบุในช่วงแรกในฐานะ
ตัวแปรอิสระ
ความสามารถในการเชื่อมความสัมพันธ์ที่บ่งบอกถึงการเอาชนะปัญหาด้วยสมองของเรา
เมื่อสมองของเราสามารถแบ่งแยกปัจจัยต่างๆ เราก็สามารถอธิบายถึงสิ่งที่เราพูดได้ดีขึ้น
เราสามารถมองเห็นถึงวิธีในการเชื่อมโยงปัญหาและการแก้ไข

ด้วยการจัดโครงสร้างปัญหาที่ได้รับการพิจารณาในช่วงแรกว่ามีความสลับซับซ้อนมากสามารถได้รั
บการจัดการอย่างเหมาะสมมากขึ้น
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 1 การแบ่งแยกประเด็น (ต่อ)

แบบฝึกหัดที่ 3 :
จงคิดเกีย่ วกับสถานที่ทำางานและชั่งนำ้าหนักความสำาคัญและสิทธิพิเศษของหลักการส่งเสริมของ
BMK ด้วย 4s “Smile” “style” “Speed” และ “Smart”
และกล่าวถึงเหตุผลของประเมิน
การบ้าน
ระบุตวั ปัญหาโดยเรียงลำาดับความสำาคัญจากกมากไปหาน้อย ตามหลัก 4s ของแบบฝึกหัดที่ 3
การสรุปครัง้ แรก
การคิดอย่างมีเหตุมผี ล เป็นพื้นฐานที่นำาไปสู่
- การแบ่งแยกความคิด
- มองเห็นเหตุการณ์นั้นๆตามวัตถุประสงค์
- การสื่อสารความคิดของบุคคลหนึ่งไปสู่บุคคลอื่น
พื้นฐานของการวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหาเริ่มต้นด้วยความคิดเกี่ยวกับ
- สาเหตุและผลกระทบ
- ความสัมพันธ์ซงึ่ กันและกัน
- ความไม่สัมพันธ์ของเหตุการณ์รอบๆตัวเรา
การจัดโครงสร้าง คือการนิยามความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ต่างๆ
โดยที่การจักโครงสร้างเริ่มต้นจากการยืนยันข้อเท็จจริง
ในการยืนยันข้อเท็จจริงนั้น ควรรักษาข้อเท็จจริงในวัตถุประสงค์ของการค้นหาความจริง
เพื่อหลีกเลี่ยงการวิจัยหรือการวิเคราะห์ที่ไม่จำาเป็น
การสรุปครัง้ แรก
(ต่อ)

ในกระบวนการของการยืนยันข้อเท็จจริงและการระบุความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบอย่างชัดเ
จน อาจจะมีการเลือกหัวข้อที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานการตัง้ สมมติฐานส่วนบุคคล

“นั้นคือสมมติฐานและการพิสูจน์ว่าใช่ได้ซึ่งเป็นวิธีการที่มปี ระสิทธิภาพที่นำาไปใช้เมือ่ มีเวลาหรือแหล่งข้อ


มูลที่ไม่เพียงพอ”
เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างข้อเท็จจริงและเหตุการณ์ต่างๆนั้น ได้รับการแยกประเภท
ฉะนั้น
การกำาหนดความสำาคัญและสิทธิพิเศษของข้อเท็จจริงและเหตุการณ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของวัตถุประสงค์จะ
ทำาให้ลำาดับเหตุการณ์ชัดเจนเพื่อดำาเนินการแก้ไข
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 2 ระบุปัญหา
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 2 ระบุปัญหา
การจัดโครงสร้างของบุคคล
การจัดโครงสร้างของเหตุผล คือ การส่งข้อความที่ชัดเจน
และเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดโครงสร้างของเหตุการณ์ ซึ่งอธิบายถึงความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ต่างๆ
นั้น
การจัดโครงสร้างของเหตุผลก็สามารถอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบและวัตถุประ
สงค์ เช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น : ถ้าเราอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมแผนโครงการ
เพื่อระบุถึงปัญหาก็จะทำาให้เห็นถึงบทสรุปที่ชัดเจนและแสดงถึงเหตุผลที่ตงั้ อยู่หลังบทสรุปในลำาดับเหตุ
การณ์ที่เหมาะสม และนั้นคือความสัมพันธ์ของ ทำาไม อะไร และ อะไรที่ต้องทำา
จะเกิดอะไรขึ้นหากเราสามารถวางโครงการอย่างมีเหตุผล
อย่างในกรณีของการจัดโครงสร้างของเหตุผล ฉะนั้น
จึงกลายเป็นเรือ่ งที่ง่ายขึ้นในการสื่อสารกับบุคคลอื่นด้วยแนวทางที่เป็นเหตุเป็นผล ทัศนคติต่างๆ ค่อยๆ
ก่อรูปจากความปรารถนา
และสิ่งที่คิดขึ้นมาภายหลังต่อทัศนคติที่ได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานและเหตุผล
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 2 ระบุปัญหา
โครงสร้างแบบพีระมิด
เรื่องราวของปัญหา
อะไร ปัญหาที่แท้จริงได้รับการแก้ไข
ทำาไม ทำาไมถึงเกิดขึ้น ทำาไมถึงเกิดขึ้น
เรือ่ งราวของปัญหา เรือ่ งราวของบริษัท
ทำาไม
ทำาไมถึงเกิดขึ้น ทำาไมถึงเกิดขึ้น
เรือ่ งราวของปัญหา เรือ่ งราวของปัญหา เรือ่ งราวของบริษัท เรือ่ งราวของปัญหา
ทำาไม
ทำาไมถึงเกิดขึ้น
เรือ่ งราวของปัญหา เรือ่ งราวของปัญหา
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 2 ระบุปัญหา

MECE : Mutually Exclusire, Colloctire Exhaustire


ปราศจากการยกเว้น ปราศจากการกล่าวซำ้า
MECE คือการแบ่งประเภทของข้อมูลภายใต้รูปสีเ่ หลี่ยมผืนผ้าเป็น A,B,CและD
ซึ่งข้อมูลเหล่านั้น ไม่มีการซ้อนทับกัน
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 2 ระบุปัญหา

แบบฝึกหัดที่ 4 คิดหาตัวอย่างบางเหตุการณ์ที่สามารถแบ่งเป็น MECE


ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 2 ระบุปัญหา

แผนภูมกิ ้างปลา (แผนภูมิสาเหตุและผลกระทบ)

แผนภูมดิ ้านล่างสามารถใช้ในรูปแบบโครงสร้างพีระมิดด้วยเช่นกัน
โดยที่รูปร่างของแผนภูมมิ ีลักษณะคล้ายคลึงกับก้างปลา ดังนั้นเราจึงเรียกว่า แผนภูมิกา้ งปลา
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 2 ระบุปัญหา
ตัวอย่างของโครงสร้างพีระมิด
ค้นหาและแบ่งประเภทของปัญหาใน ธุรกิจร้านอาหาร (สาขา)
การฝึกอบรมที่ร้านอาหาร
การฝึกอบรมในครัว การฝึกอบรมการให้บริการในร้านอาหาร
ทักษะการปรุงอาหารตำ่า การอ่านรายการอาหารที่สั่งไว้ในห้องครัว ทักษะในการดูแลตำ่า
ทักษะในการบริหารลูกค้าตำ่า
รสชาติอาหารยังไม่ดีพอ ระดับการปรุงอาหารไม่คงที่ เสียเวลาในการรออาหารหลังจากการสัง่ อาหาร
เสิร์ฟอาหารคนที่มาสางทีหลัง คำาสั่งผิด ไม่สนใจลูกค้า มีทัศนะคติไม่ดีในการให้บริการ ไม่ได้เสิรฟ์ นำ้า
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 2 ระบุปัญหา
แบบฝึกหัดที่ 5
จัดโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบของปัญหาซึง่ คุณสามารถดำาเนินตามแนวทางข
องสไลด์หน้า 27
ความคิดด้านโครงสร้าง

ตอนที่ 3 การแก้ไขปัญหา
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 3 การแก้ไขปัญหา
จัดโครงสร้างการแก้ไขปัญหา
ที่นี้เราดำาเนินการจากการจัดโครงการปัญหาจนถึงการจัดโครงสร้างการแก้ไขปัญหา
เพื่อที่จะแก้ปัญหาที่ระบุในขั้นตอนแรก
อะไร(ปัญหา) ทำาไม(การแก้ไข)
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 3 การแก้ไขปัญหา
แบบฝึกหัดที่ 6
เพิ่มการยอมรับของกลุ่ม xxx คือ สิ่งที่สำาคัญในการเพิ่มรายได้ และจงคิดถึงวิธีการเพิ่มการยอมรับ
ถ้ากลุ่มทางธุรกิจของกลุ่ม xxx สามารถให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน เพื่อสร้าง synergy
effect , รายได้และการแข่งขันที่สามารถได้รับการปรับปรุง
ฉะนั้น จงสร้างแผนโครงการของกรรมวิธีที่ทำาให้บรรลุวัตถุประสงค์นี้
* ใช้ประโยชน์ของ 4s ของ BMK ในกระบวนการนี้
ความคิดด้านโครงสร้าง
ตอนที่ 3 การแก้ไขปัญหา
แบบฝึกหัดที่ 7
จงเลือกปัญหามา 1 ข้อ ในที่ทำางานของคุณ
พร้อมทั้งจัดโครงสร้างของสาเหตุและคิดวิธีการแก้ปัญหา
ระบุปัญหา
อะไรคือปัญหา
ปัญหาไม่สามารถอยูร่ อดด้วยตนเอง แต่ปัญหาจะอยูใ่ นจิตสำานึกของคนเท่านั้น
ประเด็นในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ คือ สิ่งที่ต้องทำาเมื่อมีการแก้ไขปัญหา
ปัญหาที่ไม่ไม่มีปฏิกิริยาในการแก้ไข สิ่งนั้นไม่ใช่ปัญหา
เราสามารถระบุถึงปัญหาได้อย่างไร
เก็บการตั้งคำาถาม “ทำาไมถึงเป็นเช่นนี้” ต่อจากนั้นอีกไม่นาน คุณก็สามารถคิดได้ว่า
“นี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง”
โปรดอย่าคิดว่า “นี้เพียงพอแล้ว” เราควรคิดเสมอว่า “สามารถทำาได้ดีกว่านี้”
โปรดอย่าพูดว่า “ทำาไมได้” แต่ควรพูดว่า “ควรจะทำาให้สำาเร็จ”
จดบันทึกทุกอย่าง และคิดถึงจุดที่ทำาเกิดคำาถาม
มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพราะเหตุการณ์ต่างๆ สามารถตรวจสอบ ด้วยมุมมองที่แตกต่างกัน
ระบุปัญหา
ทำาไมคุณไม่สามารถมองเห็น
คุณเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้หรือเปล่า
- ฉันอธิบายสิ่งที่ไม่เข้าใจอย่างละเอียด
- หัวหน้าไม่เคยยอมรับความคิดเห็นของฉัน
- ผูค้ วบคุมดูแลไม่เข้าใจถึงความจำาเป็นในการสร้างวิธีการแก้ไขปัญหา
- ฉันคิดว่าฉันเข้าใจประเด็นสำาคัญได้เป็นอย่างดี แต่หลังจากการถามปัญหาคุณกับหลงทาง
- ไม่มีใครเข้าใจประเด็นสำาคัญที่มีความซับซ้อนมากเพื่อหาทางออก
การสื่อสารอย่างเป็นเหตุเป็นผล
การสื่อสารอย่างเป็นเหตุเป็นผล
แบบฝึกหัดที่ 8 การวัดค่าแบบได้ที่สามารถใช้ในการแก้ปัญหาภายในที่ทำางาน
ฉันกำาลังสร้างความไม่เข้าใจในข้อความของฉัน
(ฉันกำาลังสร้างความไม่เชื่อถือในข้อความของฉัน)
ทำาไม
ฉันจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างไร
สรุป
มาให้ความเห็นชอบกับวัตถุประสงค์ของฉันกันเถอะ
มาให้ความเห็นชอบกับข้อแท้จริงกันเถอะ
มาแบ่งประเภทของข้อเท็จจริงกันเถอะ
มาทำาให้ปัญหาชันเจนกันเถอะ
มาดำาเนินการตามการตั้งสมมติที่เป็นเหตุเป็นผลในด้านปัญหาและสาเหตุกันเถอะ
มาตรวจสอบสิทธิพิเศษและกรรมวิธีของการแก้ปัญหากันเถอะ
มาเลือกหัวข้อและกรรมวิธีของการแก้ไขปัญหากันเถอะ
ตรวจสอบให้แน่นใจว่าคนอื่นๆเข้าใจ (ลองอีกครั้งหากไม่สำาเร็จ)
มาจัดตั้งแผนปฏิบัติการกันเถอะ
มาปฏิบัติงานกันเถอะ
ค้นหาวิธีการปฏิบัติที่ดกี ว่า (หากมี) หรือจากการปฏิบัติ (PDCA)

You might also like