Professional Documents
Culture Documents
สมเด็จพระเจ้าตากสิน
สมเด็จพระเจ้าตากสิน
พระภิกษุเจ้าตาก : ประวัติศาสตร์กรุงธน
ผิดเพีย
้ นไปจากความจริงมากไม่มีผู้ใดรู้เร่ ืองนีน
้ อกจากเรากับสหายร่วมสาบาน (ร. ๑)
(ทรงอนุญาตให้ท่านพระครูใช้ศัพท์สามัญกับพระองค์ ด้วยเหตุผลท่ีว่า “...ท่านอย่าลืมว่าขณะนีเ้ราเป็ นใคร
ท่านเป็ นใครเราทัง้สองมีความเท่าเทียมกันในทางธรรม
มีอาจารย์องค์เดียวกันตัดความหลงในสงสารได้เหมือนกันถ้าท่านคิดว่าเราเป็ น
กษัตริย์และพูดกับเราด้วยคำาราชาศัพท์เราก็ตอ ้ งพูดคำาราชาศัพท์กับท่านด้วย เช่นกัน
เพราะในเจ็ดชาติทท ่ี ่านระลึกได้นัน
้ ท่านก็เคยเป็ นกษัตริย์มิใช่หรือ.... แล้วทำาไมจะมาติดอยู่กับส่ิงสมมติ” )
พระครูจรัญ : เหตุใดท่านจึงถูกสำาเร็จโทษท่ีประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าท่านสัญญาวิปลาสก็
ต้องไม่จริงเพราะถ้าจริงท่านจะตัดความหลงใน(วัฏ)สงสารไม่ได้ ผู้ขาดสติมิอาจบรรลุธรรมได้
พระราชดำารัสในสมเด็จพระนเรศวร
ทำาให้เราตัง้ปณิธานในบัดนัน ้ ว่าจักทำานุบำารุงพระพุทธศาสนาให้วัฒนาถาวรสืบไป
และน่ีเองคือท่ีมาของปณิธานของเราท่ีทา่ นกล่าวเม่ ือครู่นีก ้ ารสู้รบสมัยนัน
้
ต้องการขวัญและกำาลังใจการสร้างขวัญและกำาลังใจท่ีดีท่ีสุดคือการน้อมนำาพระ
ธรรมคำาสอนเข้ามาไว้ในใจพระพุทธศาสนาจึงมีความสำาคัญต่อประเทศชาติ
เม่ ือใดท่ีพระพุทธศาสนาหมดไปจากประเทศสยามเม่ ือนัน ้ ประเทศชาติก็คงอยู่ไม่ ได้ เราจึงยังอยู่
แม้หมดความหลงในสงสารแล้วก็เพ่ ือคอยปกป้ องดูแลชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ดังท่ีเรากล่าวไว้ว่า
“คิดถึงพ่อพ่ออยู่ คู่กับเจ้า”
พระครูจรัญ : ช่วงระยะนัน
้ ท่านตัดความหลงในสงสารได้แล้วหรือขอรับ
แต่เพราะเขาไม่เคยมีความคิดอย่างนีอ
้ ยู่ในใจ จึงวางดาบไว้ข้างนอกแล้วค่อยๆคลานเข้ามาใกล้
หมอบอยู่ห่างวาหน่ึง
“ด้วงข่าวว่าทหารพม่ามาหาเจ้าบ่อยๆรึ”
“มาครัง้เดียวพระเจ้าค่ะ”
“เขามาเร่ ืองอะไร”
“เขา มาถามว่ามีความสุขสบายดีรึข้าพระพุทธเจ้าก็ตอบว่าสบายดีเพราะในหลวงทรงพระ
กรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตัง้ให้เป็ นสมเด็จเจ้าพระยาเวลานีจ้ึงมีความ สุขมาก” เม่ ือท่านตอบเช่นนี้
เราก็มัน ่ ใจว่าสหายของเราไม่ได้คิดกบฏไม่คิดเป็ นคนมักใหญ่ใฝ่ สูงดังท่ีคน
อ่ ืนเข้าใจผิดเม่ ือเราเช่ ือในความบริสุทธิใ์จของสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ ศึก เราจึงบอกเขาไปว่า
สหายของเรากราบถวายบังคมอีกครัง้
พร้อมทัง้ยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับเหง่ ือคงจะคาดไม่ถึงว่าเราจะพูดแบบนีก
้ ับเขา
เหตุ ท่ีเราถามอย่างนีเ้พราะสมัยท่ีอะแซหวุ่นกีย
้ กทัพมาตีพิษณุโลกเราได้ให้สหาย
ของเรายกทัพไปรบกับอะแซหวุ่นกี้ ขุนพลเฒ่า แต่เพราะฝี มือทัดเทียมกันการรบจึงไม่มีใครแพ้ใครชนะ
อะแซหวุ่นกีใ้ช้อุบายพักรบหน่ึงวัน และขอดูตัวแม่ทัพครัน้ เห็นสหายเรา ก็พยากรณ์ว่า
“ต่อไปท่านจะได้เป็ นกษัตริยข
์ อจงรักษาตัวไว้ให้ด”
ี
“อักซาจัง อักซาจังจิงๆในหลวงสององค์มาบิงทะบากล่วยกัง”
พอ ซินแสพูดเช่นนัน้ ผู้คนก็พากันสาธุแต่บางคนก็พูดขึ้นว่า
“สงสัยตาแป๊ ะน่ีแกจะแก่จนหลงถึงได้พูดอะไรเลอะเทอะเปรอะเป้ือน ถ้าในหลวง (พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ)
มาได้ยินรับรองหัวขาดแน่”
พระครูจรัญ
:ในท่ีสุดคำาทำานายทายทักของซินแสก็กลายเป็ นความจริงกระผมคิดว่าท่านน่าจะมีความรูท
้ างโหราศาสตร์นะข
อรับ
“ข้าพระพุทธเจ้าจะขอรักษาราชบัลลังก์ด้วยชีวต ิ หากมีผู้คิดทรยศต่อพระองค์”
เม่ ือเราได้ทดลองน้ำาใจของสหายจนเป็ นท่ีแน่ใจแล้วจึงพูดแบบเพ่ ือนว่า
“เวลานีพ ้ ระองค์ก็ยังไม่ชราภาพ
จึงยังไม่ควรจะสละราชสมบัติพระองค์ทรงเป็ นม่ิงขวัญของประชาชนชาวไทยทัง้ชาติ แล้วก็ชาวจีนด้วย
ถ้าขาดพระองค์เสียข้าพระพุทธเจ้าเถลิงราชเป็ นพระเจ้าแผ่นดิน
ความดีก็คงมีไม่ถึงพระองค์ความเช่ ือถือของบุคคลทัว่ไปก็จะไม่มีเท่าท่ีมีใน
พระองค์ข้าพระพุทธเจ้าเกรงว่าประเทศชาติอาจจะต้องสลายไปก็ได้”
พระภิกษุเจ้าตาก :ท่านคงหมายถึงเหตุการณ์ท่ีลูกหลานเราถูกจับลงเรือลอยไปในปากอ่าวแล้วเรือ
ล่มทำาให้ตายทัง้ลำาเรือคนก็พากันเข้าใจว่าเป็ นการกระทำาของสหายของเราและน้อง
ชายของเขาซ่ึงความจริงแล้วสหายของเรามิได้มีเจตนาเช่นนัน ้ แต่ท่ีคนหลายกลุ่ม
ท่ีมักใหญ่ใฝ่ สูงต้องการเป็ นใหญ่ เลยเกิดกบฏซ้อนกบฏ (มีผู้คิดกบฏต่อร. ๑) วุ่นวายกันไปหมด
อ้างคำาสัง่ของร.๑ให้นำาลูกหลานเราไปลอยแพและฆ่าเสียทัง้ท่ีทรงตัง้พระทัยจะ
ให้ลูกหลานเราอพยพไปอยู่ท่ีนครศรีธรรมราชซ่ึงเราไปบวชท่น ี ัน
่
แต่พวกกบฏถือโอกาสฆ่าเสียเพ่ ือขจัดเส่ียนหนามประการหน่ึงและอีกประการหน่ึง
มุ่งหวังได้ความดีความชอบจากในหลวงคนพวกนีใ้นท่ีสุดก็ได้รับกรรมทันตาเห็น
เราคิดไม่ผิดท่ีเลือกสหายของเราขึ้นครองราชย์แทนท่ีจะเป็ นลูกชายของเราเพราะ
ราชวงศ์จักรีได้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อมาถึงปั จจุบันและคนท่ีได้รับผลประโยชน์
สูงสุดคือเราเพราะถ้าเราไม่บวชก็จะไม่สามารถตัดความหลงในสงสารได้เลย
พระครูจรัญ
:กระผมอยากทราบรายละเอียดของเหตุการณ์ท่ีท่านส่งสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกไปปราบเขมรขอรับ
หลังประหารชีวิตเสร็จ ในเวลากลางคืนสหายของเราก็ส่งเราไปนครศรีธรรมราชโดยออกไปทางราชบุรี
พักท่ีปากท่อก่อนคนท่ีติดตามเราไปช่ ือเจ้าพัฒน์ซ่ึงต่อมาคือเจ้าพระยาพัฒน์
ผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราชนอกจากนีเ้จ้าพัฒน์ยังได้พาชายาคนสุดท้ายของเรา
ซ่ึงตัง้ท้องอ่อนๆไปด้วยเม่ ือไปถึงเจ้าพัฒน์ได้พาเราไปอยู่วัดๆหน่ึงเรา
ตัง้ใจบวชไม่สึกจึงขอให้เขารับชายาของเราเป็ นภรรยาเขาและขอให้รับบุตรใน ครรภ์เป็ นบุตรของเขาด้วย
แต่เจ้าพัฒน์จงรักภักดีจึงปฏิเสธท่ีจะรับชายาของเราไปเป็ นภรรยา
เขาเลีย ้ งดูชายาของเราอย่างดีท่ีสุดต่อมาชายาของเราได้ให้กำาเนิดบุตรชาย
เจ้าพัฒน์ก็ประคบประหงมเลีย ้ งดูอย่างดีบุตรคนนีไ้ด้รับการแต่งตัง้ให้เป็ น
เจ้าพระยานครศรีธรรมราชสืบต่อจากเจ้าพระยาพัฒน์ในสมัยร.๓ ซ่ึงทรงทราบว่าเป็ นบุตรของเรา
แต่กย ็ ังทรงแต่งตัง้เท่ากับเป็ นการพิสูจน์ว่ารางวงศ์มิได้มีเร่ ืองบาดหมาง กับเราบุตรผู้นีก
้ ็คือต้นตระกูล “ณ
นคร” และยังมีบุตรธิดาท่ีเกิดจากภรรยาคนก่อนๆซ่ึงต่อมาคือต้นตระกูล “ณ นครราชสีมา” และ
“อินทรกำาแหง” ด้วย
พระบัวเฮียว :ทำาไมหลวงพ่อไม่ช่วยพระเถรเจ้าเล่าครับ