You are on page 1of 5

HS268 American’s History

ฉบับหยาบหยาบ

1. Big Country
2. Big Inventions
3. Big Business
4. America Imperialism
5. Progressive America
6. The Great War
7. The Otherside of Paradise : East of Eden
8. The Otherside of Paradise : Paradise Lost (1)
9. The Otherside of Paradise : Paradise Lost (2) ปิดคอร์ส

Worksheet อ่านประกอบ
Bison – ชีทถ่ายเอกสารได้ที่ชั้น 2 SC
Andrew The President – งานเรื่องรองประธานาธิบดีลินคอล์น หลังสมัยสงครามกลางเมืองเสร็จสิ้น
The Great Inventions 19th – งานเรื่องสิ่งประดิษฐ์ของอเมริกา
The FASHODA Incident – งานเรื่องเหตุการณ์ FASHODA ในแอฟริกาเกี่ยวกับการล่าอาณานิคม และประเทศไทย
(ไม่ได้ให้ส่ง)
The National Anthem – งานเรื่องเพลงชาติสหรัฐอมริกา Star-Spangled
The Wilson’s 14 Points – งานเรื่องนโยบาย 14 ประการของวิลสัน หลังสงครามโลกครั้งที่ 1

\
1. Big Country
2. Big Inventions
3. Big Business
4. America Imperialism
โดยหลักของรัฐธรรมนูญห้ามล่าอาณานิคม เพราะตนเคยเป็นอาณานิคมมาก่อนแต่ในทางปฏิบัติยึดถือหลัก
Social Darwin ผูแ้ ข็งแกร่งที่สุดคือผู้อยู่รอด

5. Progressive America
6. The Great War
สงครามโลกครั้งที่ 1 ตอนแรกเรียกว่า สงครามมหายุทธ์ เกิดในแถบยุโรปทั้งสิ้น ซึ่งมีสาเหตุที่สลับซับซ้อน
มากระหว่าง C19-20 เป็นเหตุให้ USA ก้าวขึ้นสู่มหาอำานาจ
ศตวรรษที่ผ่านมาชาวยุโรป ถือตัวเองว่าเป็นพวก Civilized Nations การรู้จักใช้เหตุผลการทำาความเข้าใจกับ
สารพัดเรื่อง ไม่ใช้อารมณ์, การมีความคิด ความรู้ที่จะสร้างระเบียนวินัย เงื่อไข ไม่ให้มีความรุนแรง
4th Aug 1914 เกิดสงครามในหมู่ประเทศศิวิไลซ์ของโลก แบ่งค่ายเป็น 2 ฝ่ายคือ
Triple Alliance : เยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี อิตาลี เรียกว่าพวก Axis
Triple Entente : อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย เรียกว่าพวก Allies
ค่ายสองค่ายนี้เป็น Defensive Pacts เหมือน Peloponnesian League ตั้งขึ้นมาเพื่อมีวัตถุประสงค์ “ป้องกัน”
ตัวเอง (เรื่องนี้โยงไป FASHODA Incident ด้วยนะ แต่ไม่รู้โยงยังไง)
การลอบสังหาร Franz Ferdinand ที่ Sarajevo เป็นเหตุการณ์จุดชนวนในครั้งนี้เมื่อเดือนมิถุนา ออสเตรีย
ฮังการี ได้เรียกร้องให้ เซอร์เบีย ส่งตัว C.Princip มือปืนไปดำาเนินการตามกระบวนการศาลที่ประเทศตน แต่เซ
อร์เบียไม่ยอม ด้วนเหตุการณ์นี้เนื่อจากไม่มีใครเตรียมพร้อมที่จะทำาสงคราม คิดว่าสงครามนี้จะไม่เกิดขึ้น ทุก
ประเทศจึงเริ่มอย่างทุลักทุเล
ความเป็นไปได้มากที่สุดอยู่ที่แนวคิดและความเชื่อทางศาสนาในสมัยนั้น เป็นคติความเชื่อมาตั้งแต่ปี 1871
เมื่อ 45 ปีก่อน คือ สงครามรวมชาติเยอรมันอิตาลี (Unification of Germany and Italy) แนวคิดปรัสเซียของ
เสนาธิการทหาร Helmut Van Moltke เป็นแนวคิดที่ครอบงำาความคิดของเสนาธิการทห่ารทั่วโลกมากจนถึงทุกวันนี้
WThe Best Defense is Offense!) ตรงข้ามกับฝรั่งเศส ที่ใช้วธิ ิคิดในการป้องกันมากกว่า นการสร้างกำาแพงต้านทาน
(Maginot Line)
เซอร์เบียมีความจำาเป็นที่ต้องหาลูกพี่ใหญ่ ได้แก่รัสเซีย และ ออสเตรียฮังการีก็ไปขอความช่วยเหลือจาก
เยอรมัน
ผลที่ตามมาจากแนวคิดดังกล่าวคือไม่มีใครเป็นฝ่ายรับ มีแต่ฝ่ายรุก เรียกว่า Trench Warfare สงครามสนาม
เพลาะ (หนังตัวอย่าง:All quiet in western front) สงครามบนภาคพื้นทวีปยังคงหาผู้ชนะไม่ได้ มีสิ่งประดิษฐ์เกิดขึ้น
มากมายได้แก่รถถัง ระเบิดพิษแก็สครอลีน ปืนไฟ (Flamethrower) สำาหรับฝ่าย Allies ได้เปรียบทางด้านกองเรือ
ของ England ที่มีความสามารถมากเนื่องจากเป็นเจ้าอาณานิคมมาก่อนจึงทำาการปิดล้อมประเทศฝ่าย Axis ทำาให้คน
อดตายเกือบแสนคน
เป็นการเริ่มสงครามแบบ Total war กล่าวคือสมัยก่อนจะเป็นสงครามระหว่างนักรบ Vs นักรบ เท่านั้น
ประชาชนผู้บริสุทธ์จะไม่มีส่วนร่วมในสงคราม แต่สำาหรับครั้งนี้มีการสนับสนุนจากภาคพลเรือน ทหากลายเป็น
แนวหน้า (Front Line) ทำาการรบจริงๆ พวกที่ไม่ทำาการรบเป็นแนวสนับสนุน (Home Front) สนับสนุนเฉพาะฝ่าย
ตัวเองทุกอย่าง อาทิ อาหาร เงิน อาวุทยุทโธปกรณ์ ในการทำาสงครามสมัยใหม่ แนวหลังจะมีประสิทธิภาพดีกว่า
ตั้งแต่ WWI เป็นต้นมา ไม่มีการคำานึงถึงประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีกต่อไป
การปิดล้อมของ England ในคาบสมุทรทะเลเหนือ (North sea) ทำาให้เยอรมันขาดแคลนอย่างหนัก แต่ไม่มี
ใครได้ทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้
เรือดำานำ้า U-Boat มีความสามารถในการหลบหลีกการโจมตี ในช่วงระยะ 2 ปีแรกของเรือดำานำ้า การใช้เรือ
ดำานำาโจมตีผิดจารีตทางทหาร เพราะไม่ใช่การรบกันอย่างซึ่ง หน้า เค้าไม่มีโอกาสต่อสู้ ยิ่งโดยเฉพาะโจมตีเรือ
โดยสารขนส่งสินค้า มีการโจมตีเรือพวกนี้เป็นจำานวนมาก โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าในบริเวณที่เรียกว่า
Warzone ห้ามผ่านสำาหรับเรือโดยสาร ห้ามนำายุทธปัจจัยต้องห้ามผ่าน ทำาให้การกระทำาของเยอรมันโดนประณาม
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศเดียวในภาคพื้นทวีปที่ไม่ได่รับผลกระทบจากสงครามเลย ทุกคนก็ต้องสั่งซื้อ
ของจาก USA เร่งการผลิตขึ้นมาก USA ออกกฎหมายประกาศความเป็นกลาง (Neutrality Act) และกฎหมาย
Cash&Carry จ่ายสดและขนเอง เมื่อรบนานๆ ก็ขาดแคลนเงิน จึงออกกฎหมายใหม่ Lend&Lease ให้ยืมและให้เช่า
ยังไม่ต้องจ่ายเงิน ให้เอาสินค้าต่างๆ ไปใช้ก่อน ทำาให้ USA รวยขึน้ เรื่อยๆ
เหตุการณ์ที่ทำาให้สหรัฐต้องเข้าร่วมสงครามคือการจมเรือลูซิทาเนียโดยเยอรมัน ผลคืออเมริการ่วมกับฝ่าย
สัมพันธมิตร สหรัฐประกาศเข้าร่วมสงคราม หลังจากรัสเซียถอนตัว 1 เดือน
“…We are glad to fight for The ultimate peace of the world. It is a fearful thing to lead this great
peaceful people into war. But the right is more precious than peace…” 2 Apr 1917
378:50 เสียงของ House of Representative และ
86:2 เสียงของ Senate รวมกันเป็น Congress ยินยอมให้อเมริกาเข้าร่วมสงคราม
ฝ่ายเยอรมันต้องทุ่มครั้งสุดท้าย ที่ Bottle of the Marne ช่วงนี้กลายเป็นสงครามเครื่องจักรกล Mechanized
Warfare ปัญหาคือเยอรมันไม่มีนำ้ามัน ประธานาธิบดีของสหรัฐ (วูด้ โรว์วิลสัน) เสนอให้เยอรมันพิจารณา 14 points
เยอรมันจึงยินยอมสงบศึก เก็บอาวุธ แต่ฝรั่งเศสบุกเข้าไปยึดอาวุธ ยึดแหล่งทรัพยากรและการอุตสาหกรรมขนาด
ใหญ่ และกลายเป็นผู้แพ้สงครามต้องรับผิดชอบค่าปฏิกรรมสงครามมากมาย

7. The Otherside of Paradise : East of Eden


ยุคแห่งการใช้ชีวิตอย่างฟุ้งเฟ้อ มีเสียงกระหึ่มของเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรต่างๆ เสียงรถยนต์วิ่งอยู่ใน
เมืองทั่วทุกหนทุกแห่งของเมืองที่เจริญแล้วของ USA จนได้ชื่อว่า “The Roar 1920s” ทำาให้คนในเมืองที่ใฝ่จะ
หาความสงบในชนบทและคนชนบทก็จะอพยพเข้าสู่เมือง ถึงจุดอิ่มตัวของความเจริญในขณะนั้น
รถยนต์เป็นสิ่งที่ซื้อได้ด้วยระบบเครดิต แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างระบบหนี้สินของ USA กับ
ระบบหนี้สินแบบเดิม การซื้อขายของทุกอย่างใช้เป็นระบบเครดิต แม้กระทั่งร้านค้าปลีกอย่าง 7-11 แต่ไม่ใช่กรณี
ที่เกิดการขัดสนหรือไม่มีเงินใช้ เพราะเกิดค่านิยมในการใช้เงินสดว่าเป็นสิ่งที่อาจดูไม่ดี เพราะไม่อาจทราบได้ว่ามี
แหล่งที่มาถูกกฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งของราคากว่า 100 เหรียญสหรัฐขึ้นไป จึงเกิดเป็นระบบ
เศรษฐกิจแบบใหม่ ใช้จา่ ยทุกอย่างด้วย Credit
ดนตรีแบบ American (Classic) นักประพันธ์ที่ได้รับการยกย่องคือ George Gergewin เพลง Rhapsody in
Blue นิยมฟังในหมู่ชนชั้นสูงมีการศึกษาแล้ว แต่สิ่งที่ยังคงสืบทอดมายังทุกวันนี้คือแนวดนตรี Jazz ซึ่งเป็นดนตรีที่
คนผิวดำานิยมกันแต่ก่อน ดนตรี Jazz เป็นดนตรีที่เน้นเครื่องเป่า เช่น Saxophone
ใน 10 ปีนี้ มีการออกภาคผนวกของรัฐธรรมนูญของ USA ที่เรียกว่า Amendment เช่น มาตราที่เกี่ยวกับการ
ห้ามไม่ให้กีดกันสิทธิการเมืองขั้นพื้นฐานของความเป็นเพศ ทำาให้ผหู้ ญิงได้รับสิทธิทางการเมืองเป็นครั้งแรก และ
ทำาการผลักดันกฎหมาย เช่น มาตรา 19 ห้ามการผลิต,ขนย้าย,ซื้อขายแอลกอฮอล์ ขึน้ เป็นครั้งแรก โดยให้เหตุผลที่ว่า
แอลกอฮอล์เป็นต้นเหตุแห่งความชั่วร้าย ดังนั้นการผลิต ค้าขาย ขนส่ง ของเถื่อนรวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึง
เป็นการกระทำาที่ต้องลักลอบเพราะผิดกฎหมาย (หนังตัวอย่าง:The Untouchable)

8. The Otherside of Paradise : Paradise Lost (1)


“Our Factory is our Temple, Who works There worship there!”
- Easy Money Parade การกู้เงินด่วน
- N.Y.S.E New York Stock Exchange
คนเล่นหุ้นไม่มาก แต่วงเงินเพิ่มขึน้ 1923-1929 เม็ดเงินทวีคูณ 4 เท่า
บริษัทรถยนต์ อันดับ 1 General Motor อันดับ 2 Ford
บริษัทเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า อันดับ 1 Westinghouse อันดับ 2 General Electric
บริษัทวิทยุสื่อสารมวลชน Columbia Broadcasting Company (CBS) เคยเป็นบริษัทสื่อที่ใหญ่ที่สุดและมี
คุณภาพที่สุด ผลงานทีโ่ ด่งดังคือ รายการ 60 Minutes สารคดีเฉพาะเรื่อง 60 Min. ที่จะเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆ
วันที่ 29/10/1929 เป็นวันที่ตลาดหุ้นปั่นป่วน คนเสนอขายหุ้นเยอะ แต่คนเสนอซื้อน้อยมาก ราคาลดตำ่าลงๆ
กลายเป็น Panic กระจายไปทั่ว จนกระทั่งปี 1932 สถานการณ์เลวร้ายสุๆ ลามไปยังบริษัทต่างๆ ธนคารที่ได้รับการ
สนับสนุนจากรัฐ ทำาให้เกิดบริษัทล้มละลายนับพัน เกิดเหตุการณ์ Stock Market Crash เป็นครั้งแรกที่เกิด The Great
Depression ที่อยู่บนพื้นฐานของความเหลือเฟือ มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ลูกหนี้ที่ไม่มีจ่ายยังเก็บเงินไม่ได้
ธนาคารก็ไปเพิ่มดอกเบี้ยเงินกู้กับลูกค้าชั้นดี ทำาให้เกิน Imbalance
เกิด Mechanized Forming การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำาการเกษตร เนื่องด้วย USA นิยมทำาไร่กว้างใหญ่
มาก ทำาให้มีคา่ นิยมในการซื้อเครื่องจักรเข้ามาใช้ในการเกษตรเป็นจำานวนมาก รวมทั้งรถยนต์และสิ่งของไม่จำาเป็น
อื่นๆ เช่นเดียวกัน จนทำาให้ชนบทของอเมริกันอยู่ในสภาวะยำ่าแย่

9. The Otherside of Paradise : Paradise Lost (2) ปิดคอร์ส

You might also like