Professional Documents
Culture Documents
Installation Manual
Installation Manual
!
n เป็นโครงสร้างคอนกรีตอัดแรง และ
คอนกรีตเสริมเหล็ก โดยการหล่อชิ้น
ส่วน เสา / คาน / บันไดและพื้น ที่
โรงงานแล้วนำมาติดตั้งที่หน้างานE
n ใช้วิธีการติดตั้งแบบแห้ง โดยการ
เชื่อมเหล็กรูปพรรณที่ฝังอยู่ในชิ้น
ส่วนสำเร็จE
ข้อดีของระบบโครงสร้างแบบสำเร็จรูป!
n แข็งแรงกว่าระบบหล่อในที่!
n ระยะเวลาในการก่อสร้างเร็วกว่า!
n ต้นทุนค่าก่อสร้างน้อยกว่า!
n Site งานสะอาด / เศษวัสดุน้อย!
n นวัตกรรมใหม่สำหรับการก่อสร้าง!
Main beam!
n SB4-L (Dimension 0.15 x 0.25 m.)
C1A-L C1B-LE
(Dimension 0.16 x 0.16 m.) (Dimension 0.16 x 0.16 m.)E
First floor column!
C1C-L C1D-LE
(Dimension 0.16 x 0.16 m.) (Dimension 0.16 x 0.16 m.)E
Second floor column!
C2-L C2F-LE
(Dimension 0.16 x 0.16 m.) (Dimension 0.16 x 0.16 m.)E
1. การเตรียมงาน !
n สำรวจสภาพหน้างานเพื่อเตรียมความพร้อม
ของพื้นที่ในการจัดวางชิ้นส่วนสำเร็จ ควร
จัดเรียงเป็นกอง แยกเสา-คาน และแยกชั้น
บน-ล่าง เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบและ
การนำไปใช้งานE
n ในการรับชิ้นส่วนที่มาส่งจากโรงงาน ต้อง
ตรวจสภาพให้เรียบร้อย ทั้งรหัสชิ้นส่วน
จำนวน ความยาว และ Detail พิเศษตามระบุ
ในแบบE
n ในกรณีที่พบความผิดปกติของชิ้นส่วนหาก
ไม่เกิน 3 ชิ้นให้หล่อในที่ ถ้าเกินให้
Reject ชิ้นส่วนกลับโรงงานE
2. งานฐานราก !
1. หลังจากวางผังเรียบร้อย ให้ตัดหัวเสาเข็ม
แล้วเท Lean concrete E
E
2. วางเหล็กเสริมฐานราก โดยติดตั้งเหล็กฉากที่
ใช้รับเสาชั้นล่างไว้ในเหล็กเสริมด้วย จาก
นั้นเข้าแบบเตรียมเทคอนกรีตE
E
3. เทคอนกรีตฐานราก โดยให้ระดับเทอยู่ต่ำกว่า
ระดับหลังฐานราก 0.25 m.E
E
E
ใช้คอนกรีต strength 240 ksc. (cylinder)E
3. ติดตั้งเสาชั้นล่าง !
1. เลือกชิ้นส่วนเสาชั้นล่างในตำแหน่งที่จะติดตั้ง โดย
ตรวจกับแบบให้ถูกต้องE
2. นำเสาชั้นล่างมาวางลงบนเหล็กฉากที่ฝากไว้ในเหล็ก
เสริมฐานราก แล้วตรวจดูว่าบ่า plate หัวเสาหัน
ไปในทิศทางที่ถูกต้องตามแบบหรือไม่E
3. เชื่อมระหว่างเหล็กฉากฐานรากกับเหล็กฉากโคนเสา
แล้วเทคอนกรีตฐานรากจนได้ระดับหลังฐานรากE
4. ติดตั้งคานชั้นล่าง !
n วางคานหลักชั้นล่างลงบนฐานราก ให้ระดับหลังคานเท่ากันทั้งหมด แล้วกรอกมอร์ต้าในช่องว่างระหว่างคานกับเสา
ซึ่งมีระยะประมาณ 2 cm. E
n คานฝากให้วางบนคานหลักตามตำแหน่งในแบบ ซึ่ง support ของคานฝากจะมีลักษณะเป็น Hanger สามารถ
เลื่อนไปมาได้E
5. วางแผ่นพื้นสำเร็จชั้นล่าง !
E
7. วางแผ่นพื้นสำเร็จชั้นบน !
n วางแผ่นพื้นสำเร็จให้ได้ทิศทางตาม
แบบโดยให้มีระยะวางบนคานไม่น้อย
กว่า 0.05 m. แล้วพับเหล็กเสริม RB 6
mm. ซึ่งเป็น shear bar ลงมาที่แผ่นพื้น E
n การค้ำยัน กรณีที่E
1.span ตั้งแต่ 1.5-3.0 m. ค้ำ 1 แถว
บริเวณกึ่งกลางแผ่นพื้นE
2.span ตั้งแต่ 3.0 m. ขึ้นไป ค้ำ 2 แถว
บริเวณ 1/3 ของแผ่นพื้นE
8. ติดตั้งเสาชั้นบน !
n ยกชิ้นส่วนเสาชั้นบนลงบนบล็อคหัวเสาชั้นล่าง แล้วเชื่อมยึดE
n กรอกปูน Non-shink grout บริเวณช่องว่างในบล็อคหัวเสาE
9. เทคอนกรีต Topping และเทพื้นหล่อในที่ชั้นล่าง !
!
1.พื้นสำเร็จE
วาง wire mesh 4 mm. @ 0.2 m.# ลงE
บนแผ่นพื้น พับ shear bar เข้าแบบ E
แล้วเทคอนกรีตหนา 0.05 m.
2.พื้นหล่อในที่E
บดอัดทรายให้แน่นแล้วปูด้วยพลาสติกE
จากนั้นวางเหล็กเสริมตามแบบ พับเหล็กE
เสริม RB 9 mm. ที่ฝากมากับคาน E
เข้าแบบแล้วเทคอนกรีตหนา 0.10 m.E
E
ใช้คอนกรีต strength 240 ksc. (cylinder)E
10. เทคอนกรีตหล่อในที่ชั้นบน !
n เข้าแบบรองพื้นซึ่งไม้ที่นำมาใช้ไม่ควรหนา
น้อยกว่า 10 mm. ค้ำยันให้แข็งแรงE
n วางเหล็กเสริมตามแบบและวางท่อ sleeve
งานประปาบริเวณห้องน้ำและระเบียงE
n เข้าแบบข้างแล้วเทคอนกรีตหนา 0.10 m.
E
E
E
E
E
E
E
ใช้คอนกรีต strength 240 ksc. (cylinder)
11. เทคอนกรีต Topping พื้นสำเร็จชั้นบน
!
- วาง wire mesh 4 mm. @ 0.2 m.# ลงบน
แผ่นพื้น พับ shear bar เข้าแบบ แล้วเท
คอนกรีตหนา 0.05 m.E
E
E
E
ใช้คอนกรีต strength 240 ksc.(cylinder)E
RC. Precast stair!
เป็นโครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก
แบบสำเร็จ ซึ่งแยกส่วน คานแม่บันไดE
และลูกขั้นออกจากกันE
E
E
E
โดยปรับวิธีการออกแบบให้สามารถ
ติดตั้งร่วมกับโครงสร้างระบบสำเร็จรูปE
RC. Precast stair!