You are on page 1of 23

1

บทที่ 3

ผลการดาเนิ นงานการให้บริการ
3.1 การส่งเสริมสุขภาพทุกช่วงว ัย
3.1.1 แบบบันทึกการได้ร ับภู มค
ิ ม
ุ ้ กน
ั โรคตามว ัย

ชือ-สกุ
ล เด็กหญิงวิจต
ิ รา เย็นใจ อายุ 12 เดือน
1. การเจริญเติบโตของเด็ก
ฟัน (ซี)่
อายุ ่
ว/ด/ป ทีตรวจ น้าหนัก ส่วนสูง ่ น้ ทีผุ
เส ้นรอบศีรษะ ทีขึ ่
(กก.) (ซม.) (ซม.)
12 25 ก.พ.61 10 75 46/49 8 -
เดือน

2. ภาวะโภชนาการ ปกติ
3. พัฒนาการการสมว ัย
อายุ พัฒนาการการสมวัย ่ี าได ้
อายุทท

12 ตังไข่ ่ ความหมาย เช่น พ่อ แม่
พูดคาทีมี 11 เดือน
เดือน เลียนเสียงพูดและท่าทาง

4. การได้ร ับภู มค
ิ ม
ุ ้ กน
ั โรคตามว ัย
วัคซีน อายุ ่ ้ร ับวัคซีน
ว/ด/ป ทีได ้ั อไป
นัดครงต่
้ั ่
ครงที ้ั ่
ครงที ้ั ่
ครงที ้ั ่ ครงที
ครงที ้ั ่ ว/ด/ป วัคซีน
1 2 3 4 5
BCG แรกเกิด 18
ธ.ค.
58
2

OPV1 2 เดือน 18
ก.พ.
59
DHB1 2 เดือน 18
ก.พ.
59
OPV2 4 เดือน 28
เม.ย.
59
DHB2 4 เดือน 28
เม.ย.
59
วัคซีน อายุ ่ ้ร ับวัคซีน
ว/ด/ป ทีได ้ั อไป
นัดครงต่
้ั ่
ครงที ้ั ่
ครงที ้ั ่
ครงที ้ั ่ ครงที
ครงที ้ั ่ ว/ด/ป วัคซีน
1 2 3 4 5
IPV2 4 เดือน 28
เม.ย.
59
OPV3 6 เดือน 23
มิ.ย.
59
DHB3 6 เดือน 23
มิ.ย.
59
MMR1 9 เดือน 22
ธ.ค.
59
JE1 1 ปี 12 26 JE2
ม.ค. มิ.ย.
60 60
3

5. ประวต
ั ก
ิ ารเจ็บป่ วย T : 36.7 ปกติ

6. คาแนะนาเกียวก ับการดู แลเด็ก
การเจริญเติบโตของเด็กน้าหนัก 10 กก. สูง 75 ซม. รอบศีรษะ
46 ซม. รอบอก 49 ซม. การประเมินพัฒนาการเด็ก ปกติ
ฟันของเด็กมีจานวน 8 ซี่ ไม่มผ ่
ี ุ เด็กดืมแต่ ้ั อไป 26
นมผง วันนัดครงต่
มิถน
ุ ายน 2561

ลงชือ่ ………………………………….
(นายแสงศักดิ ์
วงษ ์อ่อน)

่ ยงฝึ
อาจารย ์พีเลี ้ กประสบการณ์วช
ิ าชีพ

แบบบันทึกการได้ร ับภู มค
ิ ม
ุ ้ ก ันโรคตามว ัย

ชือ-สกุ
ล เด็กชายชรินทร ์ พิพฒ
ั พงษ อายุ
์ 6 เดือน
1. การเจริญเติบโตของเด็ก
ฟัน (ซี)่
อายุ ว/ด/ป น้าหนัก ส่วนสูง เส ้นรอบศีรษะ ่ น้
ทีขึ ทีผุ่

ทีตรวจ (กก.) (ซม.) (ซม.)
4

6 12 7.1 67 44/43 - -
เดือน ม.ค.60

2. ภาวะโภชนาการ ปกติ
3. พัฒนาการการสมว ัย
อายุ พัฒนาการการสมวัย ่ี าได ้
อายุทท
6 - แสดงอารมณ์และท่าทาง เช่น ดีใจ ขัดใจ 5 เดือน
เดือน จาหน้าพ่อแม่ได ้
- หันตามสียงเรียกชือ่ ส่งเสียงสูงๆ ต่าๆ
- คว ้าของมือเดียวและสลับมือถือของได ้
- ่
เริมพลิกคว่าพลิกหงาย คืบ

4. การได้ร ับภู มค
ิ ม
ุ ้ กน
ั โรคตามว ัย
วัคซีน อายุ ่ ้ร ับวัคซีน
ว/ด/ป ทีได ั้ อไป
นัดครงต่
้ั ่
ครงที ้ั ่
ครงที ้ั ่
ครงที ้ั ่ ครงที
ครงที ้ั ่ ว/ด/ป วัคซีน
1 2 3 4 5
BCG แรกเกิด 1 ก.ค.
59
OPV1 2 เดือน 8 ก.ย.
59
DHB1 2 เดือน 8 ก.ย.
59
OPV2 4 เดือน 10
พ.ย.
59
DHB2 4 เดือน 10
พ.ย.
59
5

IPV2 4 เดือน 24
พ.ย.
59
OPV3 6 เดือน 12
ม.ค.
60
DHB3 6 เดือน 12 12 MMR1
ม.ค. เม.ย.
60 60
5. ประวต
ั ก
ิ ารเจ็บป่ วย T : 36.7 ปกติ

6. คาแนะนาเกียวก ับการดู แลเด็ก
การเจริญเติบโตของเด็กน้าหนัก 7.1 กก. สูง 67 ซม.
รอบศีรษะ 43 ซม. รอบอก 44 ซม. การประเมินพัฒนาการเด็ก ปกติ
ฟันของเด็กไม่มข ึ ้ เด็กดืมทั
ี น ่ งนมแม่
้ ้ั อไป 12
และนมผง วันนัดครงต่
เมษาายน 2560

ลงชือ่ ………………………………….
( นายแสงศักดิ ์
วงษ ์อ่อน )
่ ยงฝึ
อาจารย ์พีเลี ้ กประสบการณ์
วิชาชีพ
6
7

3.1.2 แผนการสอนสุขศึกษา
่ ยาเสพติด
แผนการสอนสุขศึกษาเรือง
สถานที่
จานวนผู ฟ
้ ัง ั ที่ 21 เดือน กุมภาพันธ ์ พ.ศ. 2560
20 คน วน
่ – สกุล
ชือ ่
นางสาวดลนภา แจ่มกระจ่าง ชืออาจารย ์นิ เทศ นางอัญชลี สุนทรโชติ

ว ัตถุประสงค ์ ้
เนื อหา กิจกรรมการสอน ่
สือกา การประเมิน
รสอน
้ า
ขันน -โดยการสังเกต
-กล่าวทักทาย -
-แนะนาตนเอง - โดยการสอบถามก่อนกา
- บอร ์ดค รสอน

สอบถามความรู ้พืนฐา วามรู ้
ผูฟ ่
้ ังมีความรู ้เรืองยาเสพ ่
นเรืองยาเสพติด
ติดได ้อย่างถูกต ้อง ่ ดขึนตาม
สารใดก็ตามทีเกิ ้ ้
ขันสอน -
ธรรมชาติ ผูฟ ่
้ ังมีความรู ้เรืองยาเสพ
่ งเคราะห ์ขึน้
หรือสารทีสั
8

่ าเข ้าสู ้ร่างกายไม่ว่าจ


เมือน - ติดได ้อย่างถูกต ้อง
ะโดยวิธรี ับประทาน ดม สูบ ้
ผูส้ อนสอนเนื อหาเกี ่
ยว ร ้อยละ 80 (20 คน)
ฉี ด หรือด ้วยวิธก ี ารใดๆ กับยาเสพติด
แล ้ว -
ทาให ้เกิดผลต่อร่างกายแล ้ าถามเพือกระตุ
ตังค ่ ้นก
ะจิตใจ าตอบสนอง
นอกจากนี ยั ้ งจะทาใหเ้ กิดก
ารเสพ
ว ัตถุประสงค ์ ้
เนื อหา กิจกรรม ่
สือกา การประเมิน
การสอน รสอน
ติ ด ไ ด้
หากใช ้สารนั้ นเป็ นประจาทุก
วัน หรือวันละ
ห ล า ย ๆ
้ั
ครงนอกจากนี ้ งจะทาใหเ้ กิด
ยั
ก า ร เ ส พ แ ล ้ ว ติ ด
มีค วามต อ้ งการมากเพิ่ มขึน ้
ผูฟ
้ ังมีความตระหนักถึงโทษแล จนทาใหส้ ุขภาพร่างกายทรุด บอร ์ดค -
ะอันตรายของยาเสพติด โ ท ร ม ล ง วามรู ้ ผูฟ
้ ังมีความตระหนักถึงโทษแล
9

เกิดโทษต่อตนเอง ครอบคร ั ะอันตรายของยาเสพติด


ว ผู ้อ่ื น ต ล อ ด จ น สั ง ค ม ร ้อยละ 60 (20 คน)
และประเทศชาติ
สาเหตุ
-ค ว า ม อ ย า ก รู อ ้ ยากลอง
ด ้วยความคึกคะนอง
-เ พื่ อ น ช ว น
หรือเพื่อนตอ้ งการใหเ้ ป็ นที่ย
อมร ับจากกลุ่มเพือน ่

-มีความเชือในทางที ่ ด เช่น
ผิ
่ ายาเสพติดบางชนิ ด อา
เชือว่
จ ช่ ว ย ใ ห ้ ส บ า ย ใ จ
ลืมความทุกข ์หรือช่วยให ้ทาง
านได ้มาก ๆ
-
ขาดความระมัดระวัง ในการใ
ช ้ ย า เ พ ร า ะ คุ ณ ส ม บั ติ
ข อ ง ย า บ า ง ช นิ ด
อาจทาใหผ ้ ู ใ้ ช ้เกิดการเสพติ
ดได ้โดยไม่รู ้ตัว
10

ว ัตถุประสงค ์ ้
เนื อหา ่
กิจกรรม สือกา การป
การสอน รสอน ระเมิน
-ใ ช ้ ย า อ ย่ า ง พ ร ่ า เ พ รื่ อ
หรือใช ้ติดต่อกันเป็ นเวลานานโดยขาดการแนะ
นาจากแพทย ์หรือเภสัชกร
-
สภาพแวดล ้อมถินที ่ อยู
่ ่อาศัยมีการค ้ายาเสพติด
หรือมีผูต้ ด
ิ ยาเสพติด
-

ถูกหลอกอาจเพือประโยชน์ ในการค ้ายาเสพติด
-เ พื่ อ ห นี ปั ญ ห า
่ ปัญหาแล ้วไม่สามารถแก ้ให ้กับตนเองได ้
เมือมี
อาการ
-มี อ า ก า ร น้ า มู ก น้ า ต า ไ ห ล ห า ว น อ น
จามคล ้ายเป็ นหวัด
-กระสับ กระส่ า ย กระวนกระวาย หายใจถี่ลึก
จ ้ อ ง ห า แ ต่ ย า เ ส พ ติ ด
จะขวนขวายหามาเสพไม่ว่าด ้วยวิธก ี ารใด ๆ
11

-ค ลื่ น ไ ส ้ อ า เ จี ย น ท ้ อ ง เ ดิ น
อาจมีเลือดปนออกมาด ้วย เรียกว่า ลงแดง

ว ัตถุประสงค ์ ้
เนื อหา ่
กิจกรรม สือกา การป
การสอน รสอน ระเมิน
้ ังสามารถป้ องกันตนเองใหห้ ่างไก -ค ลื่ น ไ ส ้ อ า เ จี ย น ท ้ อ ง เ ดิ น
ผูฟ
ลจากยาเสพติดได ้อย่างถูกต ้อง อาจมีเลือดปนออกมาด ้วย เรียกว่า ลงแดง
-ขนลุก เหงือออก่ ้
เป็ นตะคริว กลา้ มเนื อกระตุ ก
ข บ ฟั น ป ว ด เ มื่ อ ย ต า ม ร่ า ง ก า ย
ปวดเสียวในกระดูกดินทุ ้ รนทุราย
-มี ไ ข ้ แ ล ะ ค ว า ม ดั น โ ล หิ ต ชั ก ก ร ะ ตุ ก
นอนไม่หลับ คลุ ้มคลัง่ เสียสติ
การป้ องก ัน
1. ป้ องกันตนเอง
ไ ม่ ท ด ล อ ง เ ส พ ย า เ ส พ ติ ด ทุ ก ช นิ ด
ถา้ มีปัญหาหรือไม่สบายใจ อย่าเก็บไวค้ นเดียว
ไม่หาทางออกในทางทีเป็ ่ นโทษ ควรปรึกษา พ่อ
แม่ ครู ผูใ้ หญ่ ใช ้เวลาว่างให ้เป็ นประโยชน์ เช่น
อ่านหนังสือ เล่นกีฬา หรือทางานอดิเรกต่าง ๆ
12

ระมัดระวังการใช ้ยาและศึกษาใหเ้ ขา้ ใจ ถึงโทษ


ของยาเสพติด

ว ัตถุประสงค ์ ้
เนื อหา ่
กิจกรรม สือกา การป
การสอน รสอน ระเมิน
2. ป้ องกันครอบคร ัว
ควรสอดส่องดูแลเด็กและบุคคลในครอบคร ั
วอย่าให ้เกียวข ่ ้องกับยาเสพติด
รู ้จัก การใช เ้ วลาในทางที่ เป็ นประโยชน์ เช่น
ก า ร ท า ง า น บ ้ า น เ ล่ น กี ฬ า ฯ ล ฯ
่ องกันมิใหเ้ ด็ กหันเหไปสนใจในยาเสพติด
เพือป้
สิ่ ง ส า คั ญ ก็ คื อ
ทุกคนในครอบคร ัวควรสร ้างความรกั ความเข ้าใ
จและความสัมพันธ ์อันดีตอ ่ กัน
3. ป้ องกันชุมชน
หากพบผู ต ้ ิดยาเสพติดควรช่ว ยเหลือแนะ
น า ใ ห ้ เ ข ้ า ร ั บ ก า ร บ า บั ด ร ั ก ษ า โ ด ย เ ร็ ว
" ก า ร ส มั ค ร ข อ เ ข ้ า ร ั บ
การบาบัดรกั ษายาเสพติดก่อนทีความผิ ่ ดจะปร
ากฏต่ อ เจ า้ หน้ า ที่ กฎหมายยกเว น ้ โทษให "้
13

แ ล ะ เ มื่ อ รู ้ว่ า ใ ค ร ผ ลิ ต น า เ ข ้ า ส่ ง อ อ ก
หรือจาหน่ ายยาเสพติด

ว ัตถุป ้
เนื อหา ่
กิจกรรมการส สือกา การประเมิน
ระสง อน รสอน
ค์
4. ป้ องกันชุมชน
หากพบผูต้ ด ิ ยาเสพติดควรช่วยเหลือแน
ะ น า ใ ห ้เ ข ้า ร ับ ก า ร บ า บั ด ร ัก ษ า โ ด ย เ ร็ ว
" ก า ร ส มั ค ร ข อ เ ข ้ า ร ั บ
การบาบัดรกั ษายาเสพติดก่อนทีความผิ ่ ดจะ
ปรากฏต่อเจ ้าหน้าทีกฎหมายยกเว ่ น้ โทษให ้"
แ ล ะ เ มื่ อ รู ว้ ่ า ใ ค ร ผ ลิ ต น า เ ข ้า ส่ ง อ อ ก
หรือจาหน่ ายยาเสพติด
ควรแจง้ เจา้ หน้าทีต ่ ารวจ เจา้ หน้าทีศุ ่ ลกากร
น า ย อ า เ ภ อ ก า นั น ผู ้ ใ ห ญ่ บ ้ า น ฯ ล ฯ
หรือเจา้ หน้าทีของส ่ านั กงานป้ องกันและปรา
บ ป ร า ม ย า เ ส พ ติ ด ( ป . ป . ส . )
14

่ าเนิ นการกวาดลา้ งและปราบปรามมิให ้


เพือด -
ยาเสพติดกระจายไปสู่ชม ุ ชน ้
ขันสรุ ป ผูฟ ้ ังสามารถป้ องกันตนเองใหห้ ่าง
สรุป - ไกลจากยาเสพติดได ้อย่างถูกต ้อง
่ ้าสู ้ร่างกายทาให ้เกิดผลต่อร่างกายและ
เมือเข ้
สรุปเนื อหาส าคั ร ้อยละ 75 (20 คน)
จิตใจยังจะทาให ้เกิดการเสพติดได ้ ญของยาเสพติ
หากใช ้สารนั้นเป็ นประจาทุกวัน ด
หรือวันละหลายๆ -
้ั
ครงนอกจากนี ้ งจะทาให ้เกิดการเสพแล ้ว
ยั ประเมินผลการ
สอนสุขศึกษา

ว ัตถุป ้
เนื อหา ่
กิจกรรมการส สือกา การประเมิน
ระสง อน รสอน
ค์
ติด มีความต ้องการมากเพิมขึ ่ น้
จนทาให ้สุขภาพร่างกายทรุดโทรม

การป้ องไม่ไห ้ไปยุ่งเกียวกั
บยาเสพติดคือ

หลีกเลียงให ้ห่างไกลจากผูต้ ด ่
ิ สิงเสพย ์ติด
่ ปัญหาควรปรึกษาครอบคร ัว ครู
เมือมี
หรือผูใ้ หญ่
15

(นางสาวดลนภา แจ่มกระจ่าง) (นายแสงศักดิ ์


วงษ ์อ่อน)

นักศึกษาฝึ กประสบการณ์วช ิ าชีพ


่ ยงฝึ
อาจารย ์พีเลี ้ กประสบการณ์วช
ิ าชีพ

แผนการสอนสุขศึกษา
่ วัณโรค
แผนการสอนสุขศึกษาเรือง
สถานที่
16

จานวนผู ฟ
้ ัง ั ที่ 16 เดือน มกราคม พ.ศ. 2560
20 คน วน
่ – สกุล
ชือ ่
นางสาวดลนภา แจ่มกระจ่าง ชืออาจารย ์นิ เทศ นางอัญชลี สุนทรโชติ
ว ัตถุประสงค ์ ้
เนื อหา กิจกรรมการส สือก ่ การประเมิน
อน ารส
อน
ขันน ้ า -โดยการสังเกต
-กล่าวทักทาย -
-แนะนาตนเอง โดยการสอบถามก่อนการ
- สอน
ผูฟ
้ ังมีความรู ้ความเข ้าใจ วัณโรค หรือ TB สอบถามความรู ้
ของโรควัณโรคได ้อย่างถู เป็ นโรคติดต่อทีเกิ ่ ดจากเชือแบค
้ ้
พืนฐานเรื ่ ณ บอร ์ด
องวั
กต ้อง ทีเรีย ชือ่ มัยโคแบคทีเรียม โรค ความ -
ทูเบอร ์คูโลซิส ขันสอน ้ รู ้ ผูฟ ้ ังมีความรู ้ความเข ้าใจ
(Mycobacterium - ของโรควัณโรคได ้อย่างถู
tuberculosis) ผูส้ อนสอนเนื อห ้ กต ้อง
่ ขนาดเล็กมากจนมองด ้วยตา าเกียวกั
ซึงมี ่ บโรควั ร ้อยละ 80 (20 คน)
เปล่าไม่เห็น ณ
ต ้องดูด ้วยกล ้องจุลทรรศน์ -
้ าถามเพือก
ตังค ่
17

และเป็ นได ้กับอวัยวะทุกส่วนของร่ ระตุ ้นการตอบส


างกาย เช่น ปอด ลาไส ้ นอง

ว ัตถุประสงค ์ ้
เนื อหา ่
กิจกรรมการส สือก การประเมิน
อน ารส
อน
ผูฟ
้ ังมีความตระหนักถึงอั สาเหตุ
นตรายของโรควัณโรค โรควัณโรคเป็ นโรคติดต่อทีเกิ ่ ดจ
ากแพร่ผ่านอากาศเมือผู ่ ท้ มี
่ี การติ
ด เ ชื ้ อ MTB มี ฤ ท ธิ ์ ไ อ จ า ม
หรือ ส่ ง ผ่ า นน้ าลายผ่ า นอากาศ

การติดเชือในมนุ ษย ์ส่วนมากส่งผ
ลให ้เกิดไร ้อาการโรค

การติดเชือแฝงและราวหนึ ่ งในสิบ
ของ
การติดเชือแฝงท ้ ่ ดพัฒนาไ
า้ ยทีสุ
ป เ ป็ น โ ร ค มี ฤ ท ธิ ์ ซึ่ ง
หากไม่ได ้รบั การรกั ษาทาใหผ ้ ูต
้ ด

้ ยชีวต
เชือเสี ิ มากกว่า 50%
อาการ
18

ไ อ เ รื ้ อ ร ั ง เ กิ น 3 สั ป ด า ห ์
ห รื อ ไ อ มี เ ลื อ ด อ อ ก
อาจจะมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ ง
ห รื อ ห ล า ย อ ย่ า ง ก็ ไ ด ้
หรือ อาจมี ไ ข ต ้ ่ าๆ เจ็ บ หน้ า อก
อ่ อ น เ พ ลี ย เ บื่ อ อ า ห า ร
น้ า ห นั ก ล ด มี ไ ข ้ ต่ า ๆ
ตอนบ่ายทุกวัน

ว ัตถุประสงค ์ ้
เนื อหา ่
กิจกรรมก สือ การประเมิน
ารสอน การ
สอ

การร ักษา -
ผูป้ ่ วยวัณโรคทีไม่่ ได ้ร ักษาจะมีอต
ั ราก ผูฟ ้ ังมีความตระหนักถึงอัน
ารตาย ร ้อยละ 40-60 ตรายของโรควัณโรค
ปัจจุบน ั มีวธิ ก
ี ารร ักษาวัณโรคระยะสัน ้ ร ้อยละ 60 (20คน)
19

โดยการให ้ยาร ักษาควบคูก ่ น


ั ไปหลาย
ขนาน
หากรกั ษาครบกาหนดจะมีอต ั ราหายร ้
อยละ 90
การร ักษาจะใช ้ร่วมกันหลายชนิ ดโดย
ให ้ INH,Rifampicine 6 เดือน
และให ้
Ethambutal,pyracinamide 2
เดือน
แรก
่ รายได ้น้อยก็สามารถไปร ักษ
ผูป้ ่ วยทีมี
าโดยไม่ต ้องเสียค่าใช ้จ่าย

ทีโรงพยาบาลหรื อสถานี อนามัยของร ั
ฐเมือร ่ ักษาไป 2-3
ึ้
สัปดาห ์ผูป้ ่ วยจะมีอาการดีขนอย่ าตัด
สินใจหยุดยาเองเป็ นอันขาด
การกินยาไม่สม่าเสมอ
หรือหยุดยาก่อนกาหนดจะทาใหเ้ ชือโ ้
รคดือยา ้ การร ักษาวัณโรคทีดื ่ อยา

20

้ อยาไปสู
ผูป้ ่ วยจะแพร่เชือดื ้ ่ื
่ผูอ้ น
จะต ้องใช ้ยา
18-24
เดือนโดยใช ้ยาทีเชื่ อไม่้ ดอยาอย่
ื้ าง
ว ัตถุประสงค ์ ้
เนื อหา ่
กิจกรรมก สือ การประเมิน
ารสอน การ
สอ

ผูฟ
้ ังสามารถป้ องกันโรควั น้อย 3 ชนิ ด
ณโรคและสามารถดูแลผูป้ ่ การป้ องก ัน
วยได ้อย่างถูกต ้อง วัณโรคเป็ นโรคทีป้่ องกันไดโ้ ดยการใ
ห ้ ค ว า ม รู ้แ ก่ ญ า ติ แ ล ะ ตั ว ผู ้ ป่ ว ย
เ กี่ ย ว กั บ วิ ธี ก า ร ติ ด ต่ อ
ใ ช ้ ทิ ส ชู่ ปิ ด ป า ก เ ว ล า ไ อ
เ ว ล า ไ อ ใ ห้ ไ อ ก ล า ง แ จ้ ง
จั ด ห ้ อ ง ใ ห ้ แ ส ง แ ด ด ส่ อ ง ถึ ง
อ า ก า ศ ถ่ า ย เ ท อ ย่ า ง ดี

ผูป้ ่ วยระยะแพร่เชือควรหยุ ดงานจนกร
ะ ทั้ ง ไ ด ้ ย า ร ั ก ษ า แ ล ้ ว 2 สั ป ด า ห ์ ขันสรุ
้ ป - ร ้อยละ 75
ผูฟ
้ ังสามารถป้ องกันโรควั
21

และทีส ่ าคัญทีสุ่ ดต ้องรบั ประทานยาให ้ - ณโรคและสามารถดูแลผูป้ ่


ครบตามแพทย ์สัง่ ้
สรุปเนื อหา วยได ้อย่างถูกต ้อง ร ้อยละ
สรุป สาคัญของโ 75 (20คน)
โรควัณโรคเป็ นโรคติดต่อทีเกิ ่ ดจากแ รควัณโรค
พร่ผ่านอากาศไม่ว่าจะเป็ นการไอ -
จาม ประเมินผลก
หรือส่งผ่านทางน้าลายผ่านอากาศ ารสอนสุขศึ
การทาใหเ้ กิดการติดเชือได ้ ้ซึงจะป้
่ อง กษา
กันได ้ด ้วยการให ้ผูป้ ่ วยใส่ผา้ ปิ ดปากห
รือใช ้ทิสชูป ่ ิ ดปากเวลาไอ ดี

ผูป้ ่ วยระยะแพร่เชือควรหยุ ดงานจนกร
ะทัง้

ว ัตถุประสงค ์ ้
เนื อหา ่
กิจกรรมก สือ การประเมิน
ารสอน การ
สอ

ได ้ยาร ักษาแล ้ว 2 สัปดาห ์
และทีส่ าคัญทีสุ
่ ดต ้องร ับประทานยาให ้
ครบตามแพทย ์สัง่
22

(นางสาวดลนภา แจ่มกระจ่าง) (นายแสงศักดิ ์


วงษ ์อ่อน)
นักศึกษาฝึ กประสบการณ์วช
ิ าชีพ
่ ยงฝึ
อาจารย ์พีเลี ้ กประสบการณ์วช ิ าชีพ
23

ภาพการให้สุขศึกษา

สอนสุขศึกษาเรือง่ วัณโรค
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลพระพุทธบาท

่ ยาเสพติดใหโ้ ทษ ให ้แก่นอ้ งๆ โรงเรียน


สอนสุขศึกษาเรือง

You might also like