Professional Documents
Culture Documents
มั่นพัฒนา บนเส้นทางแห่งความยั่งยืน
มั่นพัฒนา บนเส้นทางแห่งความยั่งยืน
่ พัฒนา...
บนเส้นทางแห่งความยั่งยืน
อนุรกั ษ์ผสานพั ฒ นา
บนวิถแี ห่งดุลยภาพ ๓
ย่านตลาดนางเลิ้ง ตลาดบกแห่งแรกที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕
๓ อนุรกั ษ์ผสานพัฒนา บนวิถแี ห่งดุลยภาพ
มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันโดดเด่น จนกลายเป็นอัตลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็น
สื่อสารระหว่างวัฒนธรรมยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และ
ตัวตนของชนชาติอย่างเด่นชัด ทั้งภาษา ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต ทัศนคติ
ความจำเป็ น ในการพั ฒ นาก้ า วตามกระแสโลกยุ ค ใหม่
เกิ ด ขึ้ น ทั่ ว ทุ ก มุ ม โลก โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง ในยุ ค แห่ ง การไหลบ่ า ของกระแสโลกาภิ วั ต น์
ที่ แ ตกต่ า งกั น คนละขั้ ว ให้ ส ามารถส่ ง เสริ ม และสนั บ สนุ น กั น
ที่ โ ลกทั้ ง ใบเชื่ อ มโยงถึ ง กั น ได้ด้ ว ยเทคโนโลยี ก ารสื่ อ สารไร้ พ รมแดน หลายๆ ประเทศ
และกันได้ด้วยการพัฒนาอย่างมีดุลยภาพ
สูญเสียเอกลักษณ์ดั้งเดิมของตนเองไปมากบ้างน้อยบ้ า งตามความเข้ ม แข็ ง ของรากฐาน
ในทุกยุคทุกสมัยได้ส่งผลให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทุกมิติ ทั้งลักษณะทางกายภาพ
ค่ า นิ ย ม หรื อ แม้ แ ต่ วิ ถี ก ารดำรงชี วิ ต หรื อ อาจกล่ า วได้ ว่ า สภาพการณ์ ข องสั ง คมไทย
สมัยใหม่สะท้อนภาพเอกลักษณ์ของชาติไทยไม่ชัดเจน จนน่าเป็นห่วงว่าเด็กและเยาวชน
อย่างไม่หยุดยั้งจะเริ่มห่างไกลจากวิถีไทยไปเรื่อยๆ จนหลงลืมรากฐานความเป็นมาดั้งเดิม
และอาจทำให้สูญเสียเอกลักษณ์และความภาคภูมิใจในชนชาติไปในที่สุด
z ๖๖
ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของการธำรงรักษารากฐานความเป็นมาและคุณค่า
ความสำคัญของการพัฒนาเชิงอนุรักษ์ มิใช่เป็นไป
กั บ นโยบายและทิ ศ ทางการพั ฒ นาในทุ ก ระดั บ ชั้ น ควบคู่ ไ ปพร้ อ มกั บ การสร้ า งกลไก
ให้ประชาชนตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของรากฐานอันทรงคุณค่าเหล่านี้ ซึ่งถือเป็น
งานที่ยากที่สุด สำคัญที่สุด แต่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าทฤษฎีการอนุรักษ์ใดๆ
z ๖๗
อนุรกั ษ์อาคาร
ผสานประโยชน์ผา่ นกาลเวลา
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อสยามประเทศเริ่มเปิดรับศิลปวิทยาการจากตะวันตก
มาใช้ เ ป็ น แม่ แ บบในการวางรากฐานการพั ฒนาประเทศสู่ความทันสมัยเพื่อสร้าง
ภูมิคุ้มกันจากการยึดครองของต่างชาติ ที่ปรากฏอย่างชัดเจนที่สุดคือ การสร้างบ้านเมือง
ตามแบบตะวันตกไม่ว่าจะเป็นปราสาทราชวัง วัดวาอาราม สถานที่ราชการ ตึกราม
บ้านช่อง ตลอดจนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ โดยนำรูปแบบของสถาปัตยกรรมตะวันตก
มาผสมผสานเข้ากับสถาปัตยกรรมไทยได้อย่างลงตัว
สำนักงานทรัพย์สินฯ หรือ “กรมพระคลังข้างที่” ในยุคนั้น ได้มีส่วนร่วม
ในการบุกเบิกวางรากฐานการพัฒนาบ้านเมืองสู่ความทันสมัยด้วยการก่อสร้างอาคาร
ที่ ตั ด ขึ้ น ใหม่ ห ลายสายในพระนคร และให้ สิ ท ธิ ก ารเช่ า แก่ ป ระชาชนเป็ น ครั้ ง แรก
เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางการค้าตามแบบตะวันตก การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียง
แห่งความรุ่งเรืองในยุคนั้นยังคงปรากฏให้เห็นมาจนถึงทุกวันนี้ สะท้อนผ่านอาคาร
ยิ่งกว่าคำจารึกในตำนานใดๆ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการตั้งถิ่นฐานชุมชนในระยะแรก
และเป็นศูนย์กลางการบริหารของประเทศทั้งในอดีตและปัจจุบัน
z ๖๙
เป็ น ที่ น่ า ภาคภู มิ ใ จอย่ า งยิ่ ง ที่ ห ลายๆ พื้ น ที่ ดั ง กล่ า วมา อยู่ ใ นความดู แ ลของ อย่ า งไรก็ ดี การอนุ รั ก ษ์ สิ่ ง ปลู ก สร้ า งที่ มี คุ ณ ค่ า
สำนักงานทรัพย์สินฯ ความสำคัญของ “อาคารและย่าน” ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ท า งประวั ติ ศ าสตร์ โดยเฉพาะอาคารที่ มี ผู้ อ ยู่ อ าศั ย
เหล่ า นี้ จึ ง มิ ไ ด้ จ ำกั ด อยู่ แ ค่ ผู้ เ ช่ า สำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ หรื อ กรุ ง เทพมหานครเท่ า นั้ น
และใช้ ง านจริ ง นั้ น สำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ จะคำนึ ง ถึ ง
แต่ ถื อ เป็ น สมบั ติ ข องชาติ ที่ ค วรค่ า แก่ ก ารถนอมรั ก ษาให้ อ ยู่ เ คี ย งคู่ แ ผ่ น ดิ น ไทย
“วิ ถี ชี วิ ต ” ของประชาชนมากกว่ า คำนึ ง ถึ ง ลั ก ษณะทาง
ไปตราบนานเท่ า นาน การพั ฒ นาใดๆ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ในพื้ น ที่ เ หล่ า นี้ จึ ง มั ก เป็ น ที่ จั บ ตามอง
กายภาพของสิง่ ปลูกสร้าง เพราะ “การอนุรกั ษ์รปู แบบทาง
และอยู่ในความสนใจของผู้คนจำนวนมาก
สถาปัตยกรรม” มิ ใ ช่ อ ยู่ ที่ ก ารออกแบบที่ มี ลั ก ษณะเฉพาะ
ความพยายามในการดู แ ลพื้ น ที่ แ ละสิ่ ง ปลู ก สร้ า งอั น ทรงคุ ณ ค่ า เหล่ า นี้ ใ ห้ เ กิ ด และสวยงามเพี ย งอย่ า งเดี ย ว แต่ หั ว ใจสำคั ญ คื อ “ต้ อ ง
และไม่ราบรื่นเท่าที่ควร เพราะนโยบายในการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่มีมาแต่เดิม
และไม่ตกเป็น “เหยื่อ” ของการอนุรักษ์ หรืออีกนัยหนึ่งคือ
ยั ง ไม่ เ ป็ น รู ป ธรรมชั ด เจน อี ก ทั้ ง ยั ง มี ค วามยื ด หยุ่ น ผ่ อ นปรน และประนี ป ระนอมสู ง
ต้องระมัดระวังให้มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของผู้อยู่อาศัย
ด้ ว ยเกรงผลกระทบต่ อ ผู้ เ ช่ า ทำให้ ที่ ผ่ า นมามี ก ารใช้ ป ระโยชน์ พื้ น ที่ แ ละอาคาร
น้อยที่สุด จึงจะบรรลุเจตนารมณ์ของการพัฒนาเชิงอนุรักษ์
และสถาปัตยกรรมไปอย่างน่าเสียดาย
ด้วยตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของอาคารอนุรักษ์ดังกล่าว ซึ่งควรได้รับ
การดูแลและควบคุมแปลงที่ดินที่มีคุณค่าให้อยู่ในสภาพดี ใน พ.ศ. ๒๕๔๓ สำนักงาน
ทรัพย์สินฯ จึงปรับปรุงนโยบายการพัฒนาอาคารที่มีคุณค่าและพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ
เหล่านี้ใหม่ โดยการกำหนดมาตรการติดตาม ตรวจสอบ ควบคุมดูแลการใช้ประโยชน์
ทางสถาปัตยกรรมให้คงอยู่ แต่ยังคำนึงถึงวิถีชีวิตของผู้เช่าไม่ให้ได้รับผลกระทบด้วย
โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่กลาง พ.ศ. ๒๕๔๖ แล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมกราคม
พ.ศ. ๒๕๕๐ และได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทอาคารพาณิชย์
จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๑ ด้วย
อาคารตึกแถว ๒ ชั้น จำนวน ๙ ห้อง บนถนนพระอาทิตย์ ถือเป็นอาคารชุด
ทรัพย์สินฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงพร้อมทั้งอนุรักษ์โครงสร้างแบบเดิมให้มีความมั่นคง
แข็งแรง แก้ไขเฉพาะจุดที่ชำรุด เช่น การจัดการระบบสาธารณูปโภคใหม่ และเพิ่มเติม
ของผู้พักอาศัย อีกทั้งยังสามารถรองรับการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้อย่างครบถ้วน
ที่ ส ำคั ญ ที่ สุ ด คื อ ในระหว่ า งการดำเนิ น การบู ร ณะซ่ อ มแซม ผู้ เ ช่ า สามารถ
ที่ ต กแต่ ง อย่ า งทั น สมั ย มี ส ไตล์ เ ป็ น ของตั ว เอง ไม่ ว่ า จะเป็ น ร้ า นอาหาร ร้ า นกาแฟ
ของสถาปัตยกรรมที่กรุ่นไปด้วยกลิ่นอายประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันน่าภาคภูมิใจ
ความมีชีวิตชีวาได้กลับคืนมาสู่
“อาคาร ๙ ห้อง” ริมถนนพระอาทิตย์
อีกครั้ง ภายหลังได้รับการดูแล
z ๗๑
อาคารอนุรกั ษ์หน้าพระลาน - ท่าช้างวังหลวง
หน้ า พระลาน - ท่ า ช้ า งวั ง หลวง เป็ น อี ก หนึ่ ง ย่ า นที่ ส ำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ
ได้ดำเนินการอนุรักษ์และพัฒนาอย่างมีดุลยภาพ ซึ่งนอกจากจะคงความงดงามทาง
ด้านสถาปัตยกรรมไว้ให้คงทนแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพูนโอกาสทางธุรกิจให้มากขึ้นด้วย
เนื่ อ งจากพื้ น ที่ บ ริ เ วณดั ง กล่ า วตั้ ง อยู่ ใ กล้ กั บ พระบรมมหาราชวั ง ซึ่ ง เป็ น จุ ด ดึ ง ดู ด
นั ก ท่ อ งเที่ ย วที่ ส ำคั ญ ในแต่ ล ะปี จ ะมี นั ก ท่ อ งเที่ ย วจากทั่ ว ทุ ก มุ ม โลกมุ่ ง หน้ า
มาเยี่ ย มเยื อ นมากกว่ า ๒ ล้ า นคนต่ อ ปี ดั ง นั้ น การบริ ห ารจั ด การพื้ น ที่ บ ริ เ วณนี้
การท่องเที่ยวที่นับวันมีแต่จะทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้นได้อย่างมหาศาล
สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ดำเนินการซ่อมแซมและปรับปรุงสภาพภายในอาคาร
ที่ชำรุดทรุดโทรมให้แข็งแรงคงทนมากยิ่งขึ้น ทั้งยังร่วมมือกับกรุงเทพมหานครกำหนด
แนวทางในการปรับแต่งภูมิทัศน์บริเวณท่าช้างวังหลวงและพื้นที่ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อเชื่อมโยง
ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและได้มาตรฐาน สอดคล้องกับการดำเนินงานทั่วทั้งพื้นที่
นอกจากนัน้ สำนักงานทรัพย์สนิ ฯ ยังดำเนินการ “จัดระเบียบ” พืน้ ทีบ่ ริเวณนี
้
เสียใหม่ ด้วยการคัดเลือกผู้เช่า และจัดกลุ่มผู้ค้า รวมทั้งกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ
ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมพื้นที่บริเวณนี้ให้กลายเป็น “Niche Market” ของ
กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ชื่นชอบของฝาก ของที่ระลึก ซึ่งเป็นผลงานศิลปหัตถกรรม
กรุงรัตนโกสินทร์ที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูมาเป็นเวลายาวนานกว่า ๒๐๐ ปี
z ๗๒
ตึกแถวหน้าพระลาน สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องด้วยบริเวณดังกล่าว
เป็นย่านชุมชนและย่านพาณิชยกรรมเก่าแก่ทั้งของชาวไทยและชาวต่างชาติ
อาคารชุดนี้สร้างขึ้นในสมัยเดียวกันและมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกเช่นเดียวกันกับตึกแถวท่าช้างวังหลวง
ปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์
วังวาริชเวสม์
วังวาริชเวสม์ บนถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ เป็นอีกหนึ่งโครงการ
ตั ว อย่ า งของการพั ฒ นาเชิ ง อนุ รั ก ษ์ ข องสำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ ตามนโยบาย
การพิ จ ารณาคั ด เลื อ กผู้ เ ช่ า ที่ เ หมาะสม มี ค วามมุ่ ง มั่ น และเจตนารมณ์ เ ดี ย วกั น
ในการอนุรักษ์อาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
วั ง วาริ ช เวสม์ ก่ อ สร้ า งขึ้ น ใน พ.ศ. ๒๔๗๖ เดิ ม เป็ น ที่ ป ระทั บ ของพระเจ้ า
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประสูติแต่เจ้าจอมมารดาพร้อม
ด้ ว ยตระหนั ก ถึ ง ความสำคั ญ ของอาคารในฐานะหลั ก ฐานทางประวั ติ ศ าสตร์
ที่ ใ ห้ ค วามสำคั ญ ต่ อ การคงไว้ ซึ่ ง รู ป แบบเดิ ม และใช้ วั ส ดุ ที่ ใ กล้ เ คี ย งกั บ ของเดิ ม มากที่ สุ ด
เน้ น แก้ ไ ขเฉพาะส่ ว นที่ ช ำรุ ด บกพร่ อ งเท่ า นั้ น ในขณะเดี ย วกั น ก็ ใ ห้ ค วามสำคั ญ ต่ อ การ
เสริมสร้างทัศนียภาพให้กับวังวาริชเวสม์และอาณาบริเวณโดยรอบด้วย
ผลสำเร็จที่ได้รับจากการบูรณะวังวาริชเวสม์ นอกจากจะเป็นการคงไว้ซึ่งคุณค่า
ของงานสถาปัตยกรรมในช่วง “หัวเลี้ยวหัวต่อ” ของยุคประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นถึง
วิวัฒนาการเชิงรูปแบบและโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมในประเทศไทยได้เป็นอย่างดีแล้ว
ยั ง เป็ น การ “ถ่ า ยทอดเจตนารมณ์ ” ในการพั ฒ นาเชิ ง อนุ รั ก ษ์ อ ย่ า งสร้ า งสรรค์ จ าก
สำนักงานทรัพย์สินฯ ไปสู่ผู้เช่า ช่วยกระตุ้นและปลูกฝังจิตสำนึกของผู้เช่าให้ตระหนัก
ในคุณค่าของอาคารอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้การพัฒนาเชิงอนุรักษ์
เกิดความยั่งยืน
บริเวณโถงภายใน
ด้วยการผนึกกำลังความร่วมมือร่วมใจ มุ่งมั่นไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกันนี้ ทำให้
วั ง วาริ ช เวสม์ ไ ด้ รั บรางวั ล อนุ รั ก ษ์ ศิ ล ปสถาปั ต ยกรรมดี เ ด่ น ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๑ “วังวาริชเวสม์” ภายหลังปรับปรุงใหม่ บริษัท แม็ทชิ่ง สตูดิโอ
ประเภทอาคารสถาบันและอาคารสาธารณะ จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรม จำกัด (มหาชน) ได้จัดให้มีการใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม
โดยใช้เป็น “เรือนรับรองลูกค้า” และได้จัดพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็น
ราชูปถัมภ์ อย่างสมภาคภูมิ
พิพิธภัณฑ์บอกเล่าประวัติความเป็นมาของวัง
z ๗๔
นาวาอากาศเอก อาวุธ เงินชูกลิน
่
ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประยุกต์ศิลป์)
สาขาย่อยสถาปัตยกรรม ประจำปี ๒๕๔๑
อั น ล้ ำ เลิ ศ ในการรั ง สรรค์ ผ ลงานด้ า นศิ ล ปวั ฒ นธรรมอั น ล้ ำ ค่ า ฝากไว้ บ นแผ่ น ดิ น ไทย
ขึ้ น เป็ น ลำดั บ เมื่ อ สามารถปรั บ เปลี่ ย นมุ ม มอง วิ ธี คิ ด
และกลายเป็นมรดกตกทอดมาถึงพวกเราทุกคน โดยเฉพาะผลงานด้านสถาปัตยกรรม
และวิ ธี ก ารของการอนุ รั ก ษ์ ใ ห้ เ หมาะสมสอดคล้ อ งกั บ
ซึ่งเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด
สถานการณ์ ที่ เ ปลี่ ย นแปลงไปในแต่ ล ะยุ ค สมั ย ได้ ซึ่ ง ผม
เท่ า ที่ จ ะทำได้ นั บ ว่ า คนไทยยั ง โชคดี ก ว่ า อี ก หลายๆ ประเทศ ที่ เ รายั ง มี สิ่ ง ปลู ก สร้ า ง
ทั้ ง ความรู้ แ ละงบประมาณจำนวนมาก และต้ อ งอาศั ย
เพราะสิ่ ง เหล่ า นี้ ล้ ว นเป็ น องค์ ค วามรู้ จำเป็ น ต้ อ งได้ รั บ การเก็ บ รั ก ษาไว้ แต่ ใ นอี ก
การจั ด สร้ า งพระมหามณฑปประดิ ษ ฐานพระพุ ท ธ
คุณค่าดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วนแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมด้วย
ในประเทศไทยที่สามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับยุคสมัย
ซึ่ ง ต้ อ งมองแบบองค์ ร วม ไม่ ใ ช่ แ ค่ มี ไ ว้ โ ชว์ ห รื อ หวงไว้ ปิ ด ตาย แต่ เ ป็ น การทำอย่ า งไร
และมีความเหมาะสมต่อสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี
ที่ จ ะทำให้ เ ราเก็ บ รั ก ษาคุ ณ ค่ า ของสิ่ ง เหล่ า นั้ น ได้ อ ย่ า งยั่ ง ยื น และเกิ ด ประโยชน์ ไ ปด้ ว ย
“ผมเชื่อว่าความสำเร็จของโครงการนี้ จะไม่เพียง
พร้อมกัน
เป็ น ตั ว อย่ า งที่ ดี ข องการบู ร ณาการความร่ ว มมื อ ระหว่ า ง
ภาคส่วนต่างๆ แต่ยังเป็นตัวอย่างของการร่วมกันสร้างสรรค์
และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมชิ้นใหม่ให้แก่ลูกหลานไทย
ในอนาคตด้วย”
z ๗๕
ทะนุบำรุง “วัด”
สืบศรัทธาแห่งพระพุทธศาสนา ฝ่ากระแสวัตถุนยิ ม
สังคมไทยและได้เจริญรุ่งเรืองจนเป็นศาสนาประจำชาติดังเช่นในปัจจุบัน ความสำคัญ
ของพระพุทธศาสนาจึงมิใช่เพียงแค่ในด้านความศรัทธาและความเชื่อเท่านั้น หากแต่
พระพุทธศาสนาได้เข้ามาอยู่ในสังคมไทยและผูกพันกับวิถีชีวิตคนไทยในทุกแง่มุม
เช่นเดียวกับ “วัด” ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของสถาบันศาสนา ซึ่งไม่เพียงเป็น
สถานที่ ป ระกอบศาสนกิ จ เท่ า นั้ น หากแต่ ยั ง มี ส ถานภาพอื่ น ๆ อี ก หลากหลาย
เป็นแก่นแท้ของสังคมไทยไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ไหนแต่ไรมา วัดกับชุมชนเป็นของคู่กัน มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคน
ศิ ล ปวั ฒ นธรรมของชาติ ซึ่ ง ไม่ เ พี ย งบ่ ง บอกถึ ง ความมั่ ง คั่ ง รุ่ ง เรื อ ง เฟื่ อ งฟู ข อง
และวั ฒ นธรรมที่ สื บ เนื่ อ งจากอดี ต ถึ ง ปั จ จุ บั น ได้ เ ป็ น อย่ า งดี ความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งวั ด
กับวิถีไทยจึงแนบแน่นใกล้ชิดกันจนไม่อาจแยกได้
แม้ อิ ท ธิ พ ลของกระแสโลกาภิ วั ต น์ จ ะหั น เหความสนใจของผู้ ค นสมั ย ใหม่
ผ่ อ นคลายความเคร่ ง เครี ย ดและความเร่ า ร้ อ นในจิ ต ใจให้ ส งบเย็ น เป็ น ที่ พึ่ ง พิ ง ทางใจ
ผู้มีจิตศรัทธาอยู่เสมอๆ
z ๗๗
ปัจจุบัน วัดเองก็ได้ปรับบทบาทให้สอดคล้องกับสภาพทางเศรษฐกิจและสังคม
ที่ เ ปลี่ ย นแปลงไปมากขึ้ น บทบาทใหม่ ที่ ส ำคั ญ ไม่ แ พ้ บ ทบาทเดิ ม คื อ วั ด ได้ ก ลายเป็ น
ความเป็นมายาวนาน ล้วนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
เป็นอย่างมาก
ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของวัด ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนา
เท่านั้น หากแต่ยังเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาของบรรดาพุทธศาสนิกชนไทยทั่วประเทศ
สำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ จึ ง ได้ ส นั บ สนุ น หน่ ว ยงานต่ า งๆ ทั้ ง ภาครั ฐ ภาคเอกชน และ
ประชาชนในการดำเนินโครงการบูรณปฏิสังขรณ์และทะนุบำรุงวัดวาอารามที่มีความสำคัญ
ทั้งที่อยู่ในและนอกพื้นที่ โดยเฉพาะพระอารามหลวงสำคัญในเขตกรุงเทพฯ เพื่อธำรง
รักษาไว้เป็นมรดกแห่งความภูมิใจเคียงคู่แผ่นดินไทยไปตราบชั่วลูกชั่วหลาน
วัดบวรนิเวศวิหาร
“วัดบวรนิเวศวิหาร” เป็นพระอารามหลวงชัน้ เอก ชนิดราชวรวิหาร ก่อสร้างขึน้
โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคลในรัชกาล
ที่ ๓ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นระหว่าง พ.ศ. ๒๓๖๗ - ๒๓๗๕ ซึ่งแต่เดิมเรียกว่า “วัดใหม่”
จนเมือ่ พระบาทสมเด็จพระนัง่ เกล้าเจ้าอยูห่ วั ทรงอาราธนาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว ขณะที่ทรงพระผนวชอยู่ที่วัดสมอรายให้เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ
ทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง
ไม่ เ พี ย งเท่ า นั้ น วั ด บวรนิ เ วศวิ ห ารยั ง เป็ น ที่ ป ระทั บ ของพระมหากษั ต ริ ย์
บน: พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระอุโบสถ
ในพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ที่เสด็จออกทรงพระผนวช นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จ ที่มีลักษณะเฉพาะแตกต่างจากพระอุโบสถทั่วไป
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นต้นมาจนถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน
เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบจีนตามพระราชนิยม
ของรัชกาลที่ ๓ และศิลปะตะวันตกซึ่งเป็นที่นิยม
สำนักงานทรัพย์สินฯ ร่วมกับกรมศิลปากร และประชาชนทั่วไปในการบูรณ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ มาผสมผสานเข้ากับศิลปะไทย
ปฏิสังขรณ์วัดให้มีความมั่นคง แข็งแรง และงดงามขึ้นอีกครั้งในระหว่าง พ.ศ. ๒๕๔๙ ถึง ได้อย่างลงตัว กลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น
พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้นอกจากจะถวายเป็นพระราชกุศล พระกุศลแด่ และงดงามแปลกตาอย่างยิ่ง
ล่าง: เจดีย์กลมขนาดใหญ่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๓
สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า สมเด็จพระบูรพาจารย์ และธำรงไว้ซึ่งความเป็น
ต่อมาในรัชกาลที่ ๙ ได้มีการบูรณะเพิ่มเติมโดยหุ้มด้วย
วัดธรรมยุติกนิกายแห่งคณะสงฆ์ไทยแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์พุทธศาสนสถานที่ทรงคุณค่า กระเบื้องสีทอง รอบฐานพระเจดีย์มีศาลาจีนและซุ้มจีน
ทางประวัติศาสตร์และคงความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมซึ่งหาชมได้ยากยิ่งในปัจจุบัน
อันเป็นศิลปะที่มีอิทธิพลอย่างยิ่งในสมัยรัชกาลที่ ๓
z ๗๘
วัดมกุฎกษัตริยาราม
“วั ด มกุ ฎ กษั ต ริ ย าราม” เป็ น พระอารามหลวงชั้ น โท ชนิ ด ราชวรวิ ห าร
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้สร้างขึ้นภายหลังจากการ
ขุ ด คลองผดุ ง กรุ ง เกษมเพื่ อ เป็ น คู พ ระนครชั้ น นอก และสร้ า งวั ด โสมนั ส วิ ห าร
พระราชประสงค์ให้เป็นวัดส่วนพระองค์เคียงคู่กับวัดโสมนัสวิหาร บริเวณริมคลองผดุง
กรุงเกษมด้านเหนือ ใกล้ป้อมหักกำลังดัสกร ตามธรรมเนียมการสร้างวัดเรียงราย
ตามคูพระนครเช่นเดียวกับที่นิยมในสมัยอยุธยา โดยก่อสร้างแล้วเสร็จใน พ.ศ. ๒๔๑๑
ความสำคัญของวัดมกุฎกษัตริยาราม จึงมิได้เป็นเพียงพระอารามหลวงชั้นโท
ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาขึ้นเท่านั้น หากแต่ยังเป็นวัดที่บรรดา
พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จไปพระราชทานเพลิงศพบุคคลสำคัญๆ อยู่เนืองนิตย์ และได้รับ
การขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรมด้วย
เพื่ออนุรักษ์วัดมกุฎกษัตริยารามให้เป็นมรดกสำคัญสำหรับประชาชนและประเทศ
และที่สำคัญที่สุดคือเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนโดยรอบได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษา
z ๗๙
“พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร” เป็นพระพุทธรูปทองคำแท้ เชื่อกันว่าเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปสำคัญ
ของวัดมหาธาตุ สุโขทัย เดิมถูกพอกปูนลงรักปิดทองทั่วทั้งองค์ เพื่อป้องกันภัย
เมื่อต้นรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้เกิดเหตุการณ์ทำให้ปูนที่หุ้มไว้้กะเทาะออก
เผยให้เห็นเนื้อทองคำบริสุทธิ์ ปรากฏการณ์ดังกล่าวเปรียบเสมือนเป็นนิมิตหมายแห่งความเจริญรุ่งเรือง
ของประเทศชาติ และความร่มเย็นเป็นสุขของพสกนิกรทุกหมู่เหล่าบนแผ่นดินใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร
วัดไตรมิตรวิทยาราม
“วัดไตรมิตรวิทยาราม” เป็นวัดโบราณ สร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐาน ในการรังสรรค์พระมหามณฑปให้มีความงดงาม
แน่ ชั ด เดิ ม ชื่ อ “วั ด สามจี น ” สั น นิ ษ ฐานว่ า สร้ า งขึ้ น โดยชาวจี น ๓ คนที่ อ พยพ
ยิ่งใหญ่ จึงได้มีการดำเนินงานอย่างพิถีพิถันโดยรวบรวม
เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองไทยในยุคแรกๆ และสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนมีฐานะ
ผู้ มี อั จ ฉริ ย ภาพทางศิ ล ปะระดั บ ชาติ ใ นหลากหลายสาขา
มั่ ง คั่ ง ร่ ำ รวยระดั บ เจ้ า สั ว ต่ อ มาได้ เ ปลี่ ย นชื่ อ เป็ น “วั ด ไตรมิ ต รวิ ท ยาราม”
มาร่วมกันสร้างสรรค์พุทธสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่านี้
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒ และได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดวรวิหาร
โ ด ย ค ำ นึ ง ถึ ง คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ที่ ยึ ด ถื อ เ ป็ น ห ลั ก ป รั ช ญ า
ในวันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๙ ในการออกแบบ ทั้ ง ในด้ า นความศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ แ ละสง่ า งาม
ตุ ล าคม พ.ศ. ๒๕๓๕ พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว ได้ ท รงพระกรุ ณ าโปรดเกล้ า ฯ ที่ เ น้ น ความเรี ย บง่ า ยแต่ ส ร้ า งสรรค์ โดยคำนึ ง ถึ ง
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยสุโขทัยที่มีลักษณะพิเศษคือหล่อขึ้นจากทองคำ
รวมพื้ น ที่ ใ ช้ ส อยที่ จ ำเป็ น เข้ า ไว้ ใ นอาคารหลั ง เดี ย ว
เนื้อเจ็ดน้ำสองขา น้ำหนัก ๕.๕ ตัน ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เ สด็ จ มี โ ครงสร้ า งหลั ก ๔ ชั้ น ชั้ น ล่ า งสุ ด จั ด ทำเป็ น พื้ น ที่
พระราชดำเนิ น พร้ อ มด้ ว ยสมเด็ จ พระเจ้ า พี่ น างเธอ เจ้ า ฟ้ า กั ล ยาณิ วั ฒ นา กรมหลวง อเนกประสงค์ ชั้นที่ ๒ จัดนิทรรศการศูนย์ประวัติศาสตร์
นราธิวาสราชนครินทร์ไปทรงสักการะและทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ยอดพระเกตุ เยาวราช ชั้นที่ ๓ จัดนิทรรศการพระพุทธมหาสุวรรณ
มาลาพระพุ ท ธรู ป ทองคำองค์ นี้ นั บ จากนั้ น บรรดาพระบรมวงศานุ ว งศ์ ต่ า งก็ เ สด็ จ มา
ปฏิมากร และชั้นที่ ๔ ประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณ
ทรงนมัสการพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม อยู่เป็นประจำ
ปฏิมากร
นั บ เป็ น เวลากว่ า ครึ่ ง ศตวรรษที่ พ ระพุ ท ธมหาสุ ว รรณปฏิ ม ากรประดิ ษ ฐาน
จึงคับแคบและไม่เหมาะแก่ฐานะบารมีของหลวงพ่อทองคำ
ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี
แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย
z ๘๑
ตลาด ศูนย์กลางการค้าขาย
และสายสัมพันธ์ของชุมชน
บรรยากาศภายในตลาดนางเลิ้ง ตลาดบกแห่งแรกของประเทศไทย
ที่อยู่เคียงคู่วิถีชีวิตชาวพระนครมาเนิ่นนานกว่าศตวรรษ
น อกจากการธำรงรั ก ษาสิ่ ง ปลู ก สร้ า งอั น เป็ น ตั ว แทนแห่ ง ความเจริ ญ
งอกงามทางวั ต ถุ แ ละการทะนุ บ ำรุ ง วั ด อั น เป็ น สั ญ ลั ก ษณ์ แ ห่ ง ความเจริ ญ งอกงาม
อยู่กับวิถีชีวิตของชาวไทยมาช้านาน
ด้วยกาลเวลาที่ล่วงผ่าน วิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละยุคสมัยก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยน
สิ่ ง ปลู ก สร้ า งใหม่ ๆ ในขณะที่ อี ก หลายๆ แห่ ง ถู ก ละเลย ทิ้ ง ร้ า ง ตกอยู่ ใ นสภาพ
รอวันรื้อทิ้ง และแทนที่ด้วยศูนย์การค้าทันสมัย
z ๘๓
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มุมหนึ่งคือการนำมาซึ่งวิถีชีวิตที่ทันสมัย สะดวกสบาย
แต่ในอีกมุมหนึ่งก็คือการห่างเหินจากวิถีชีวิตดั้งเดิมที่มีคุณค่าออกไปทุกทีๆ
ด้ ว ยตระหนั ก ถึ ง ความสำคั ญ ของ “ตลาด” ในฐานะศู น ย์ ก ลางชุ ม ชน
ด้ า นกายภาพเท่ า นั้ น หากแต่ ยั ง เต็ ม ไปด้ ว ยความผู ก พั น เกี่ ย วเนื่ อ งกั บ วิ ถี ชี วิ ต ของผู้ ซื้ อ
ที่เคยใช้จ่ายที่ตลาดก็ได้ย้ายไปจับจ่ายใช้สอยยังตลาดแห่งอื่นที่อยู่ในบริเวณเดียวกัน ทำให้
ภายหลังปรับปรุงเสร็จ เมื่อพ่อค้าแม่ค้าย้ายกลับมาที่เดิมแล้ว ลูกค้าเก่าจึงลดจำนวนลง
อย่างมากเนื่องจากเคยชินกับการจับจ่ายที่ตลาดแห่งอื่นแล้ว ทำให้ตลาดที่ปรับปรุงใหม่
ไม่คึกคักอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง
ได้ น ำมาปรั บ ใช้ เ พื่ อ การดำเนิ น งานที่ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพมากยิ่ ง ขึ้ น การปรั บ ปรุ ง ตลาด
ยุคปัจจุบันจึงคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ค้าและลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในตลาด
เป็นหลัก ด้วยการปรับปรุงพื้นที่โดยการแบ่งพื้นที่และทยอยปรับปรุงเป็นโซนๆ ทำให้
เป็นอย่างยิ่ง
ผลที่ ไ ด้ จ ากการอนุ รั ก ษ์ ต ลาดที่ ม ากกว่ า การรั ก ษาแหล่ ง ค้ า ขายตามวิ ถี ชี วิ ต
ยังเป็นการสืบทอดอาชีพค้าขาย การรักษารากฐานและสืบสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นยาวนาน
ของผู้คนในชุมชนจากรุ่นสู่รุ่นให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งซูเปอร์มาร์เก็ตหรือห้างสรรพสินค้า
สมัยใหม่มิอาจทำได้
z ๘๕
เพราะ “คน” คือ รากฐานสำคัญของการพัฒนาในทุกมิตแิ ละทุกระดับ
ไม่วา่ การสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าในระดับประเทศ
การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชมุ ชน
หรือแม้แต่การสร้างความมัน่ คงในทีอ่ ยูอ่ าศัย
การช่วยเหลือประชาชนให้มชี วี ติ ความเป็นอยูท่ ดี่ ขี นึ้
พึง่ พาตนเองได้มากขึน้ มีความสุขในการดำรงชีวติ มากขึน้
จึงเป็นรากฐานทีส่ ำคัญทีส่ ดุ ในการนำไปสูก่ ารพัฒนาอย่างยัง่ ยืน
ความมั่ น คงในที่ อ ยู่ อ าศั ย ด้ ว ยการปรั บ ปรุ ง ทางด้ า นกายภาพให้ ถู ก สุ ข ลั ก ษณะ อยู่ ใ น
และวิธีทำงานเพื่อ “ผู้อื่น” แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทำให้
สภาพแวดล้อมทีด่ ี มีสาธารณูปโภคทีเ่ หมาะสมครบครัน อันเป็นปัจจัยพืน้ ฐานสำคัญของการ สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ “รู้จักตนเอง” ได้เรียนรู้จุดอ่อน
ดำรงชีวิตแล้ว สำนักงานทรัพย์สินฯ ยังมีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการปรับปรุง พัฒนา จุดแข็ง และรูศ้ กั ยภาพของตนมากยิง่ ขึน้ และได้นำบทเรียน
และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้เช่าและเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนบนพื้นที่ด้วย
เหล่ า นั้ น มาประยุ ก ต์ ใ ช้ ใ นการดำเนิ น โครงการพั ฒ นา
พั ฒ นาศั ก ยภาพของ “คน” และ “ชุ ม ชน” ให้ เ ข้ ม แข็ ง ทั้ ง การส่ ง เสริ ม การเรี ย นรู
้ ต่อไป
การสนั บ สนุ น ด้ า นการศึ ก ษา และการพั ฒ นาอาชี พ เพื่ อ ให้ ส ามารถพึ่ ง พาตนเองได้
ซึง่ เป็นเจตนารมณ์อนั มุง่ มัน่ ทีส่ ำนักงานทรัพย์สนิ ฯ ดำเนินมาอย่างต่อเนือ่ งโดยตลอด
z ๘๘
วิวฒ
ั น์แห่งการเรียนรู้ เพือ่ ปูทางสูค่ วามมัน่ คง
ด้ ว ยความที่ ส ำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ เป็ น องค์ ก รเก่ า แก่ ที่ มี ป ระวั ติ ค วามเป็ น มา
ตลอดเวลาที่ผ่านมา สำนักงานทรัพย์สินฯ รับรู้
ยาวนาน ที่ ดิ น ในความดู แ ลส่ ว นใหญ่ จึ ง เป็ น ชุ ม ชนเก่ า แก่ ที่ อ ยู่ อ าศั ย กั น มานาน
ปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด ในช่วงต้นทศวรรษ ๒๕๓๐
ย้ายออกของกลุ่มผู้อยู่อาศัยเดิมเพื่อไปหาแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่ที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า
ผู้ อ ยู่ อ าศั ย ควบคู่ ไ ปพร้ อ มกั น งานด้ า นการพั ฒ นาชุ ม ชน
และปล่อยที่ดินให้เช่าช่วงโดยกลุ่มผู้อยู่อาศัยใหม่ที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเป็นจำนวนมาก
บนพื้ น ที่ ข องสำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ จึ ง เริ่ ม ต้ น อย่ า งเป็ น
เพราะที่ดินมีราคาถูกและใกล้แหล่งงาน ทำให้ชุมชนบนพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินฯ
รู ป ธรรมตั้ ง แต่ นั้ น และได้ มี ก ารเรี ย นรู้ แ ละพั ฒ นา
มี ก ารขยายตั ว อย่ า งรวดเร็ ว และไร้ ทิ ศ ทาง มี ก ารก่ อ สร้ า งที่ พั ก อาศั ย กั น เองอย่ า ง
อย่ า งต่ อ เนื่ อ งตลอดมา เพื่ อ ให้ ก ารยกระดั บ และพั ฒ นา
ไม่เป็นระเบียบ ขาดสาธารณูปโภคขัน้ พืน้ ฐาน ไม่ถกู สุขลักษณะ เสือ่ มโทรม จนกลายเป็น
คุณภาพชีวิตของผู้เช่ารวมทั้งการพัฒนาศักยภาพของชุมชน
ชุมชนแออัดในทีส่ ดุ
ดำเนินไปอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และเกิด
ความยัง่ ยืน
z ๘๙
ยุคที่ ๑: ปฐมบทแห่งการเรียนรู.้ ..มุง่ สูก่ ารพัฒนา
จ ากการอพยพของแรงงานชนบทเข้ า สู่ เ มื อ งอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง ก่ อ ให้ เ กิ ด
การขยายตัวอย่างรวดเร็วและไร้ทิศทางของชุมชนแออัดจนกลายเป็นปัญหาที่ลุกลาม
ในเขตเมืองอย่างประนีประนอมเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่และสภาพ
การพัฒนาชุมชนที่อยู่อาศัยในรูปแบบอาคารสูง ชุมชนเทพประทาน
z ๙๑
เมื่อโครงการดำเนินไปได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง สิ่งที่สำนักงานทรัพย์สินฯ คิดว่าดี
ซ้ำยังก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย เพราะการอาศัยอยู่ในอาคารสูงไม่สอดคล้องกับ
วิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวชุมชนซึ่งเคยชินกับวิถีชีวิตบนพื้นราบ ส่งผลกระทบในด้านการ
ประกอบอาชีพและการดำเนินชีวิต ชาวชุมชนขาดพื้นที่ค้าขาย พื้นที่เตรียมการค้าขาย
และพื้ น ที่ เ ก็ บ อุ ป กรณ์ ทำให้ มี ก ารต่ อ เติ ม ดั ด แปลงอาคาร มี ก ารใช้ พื้ น ที่ ผิ ด ประเภท
ซึ่งนำไปสู่การเช่าช่วงและการขายสิทธิ จนในที่สุดชาวชุมชนเดิมก็ย้ายออกและกลับไป
และร่วมมือกันแก้ไขปัญหาทีเ่ กิดขึน้
บน: การพัฒนาชุมชนที่อยู่อาศัยในรูปแบบอาคารสูง
ชุมชนคลองไผ่สิงโต
ล่าง: วิถีชีวิตบนอาคารสูงของชาวชุมชนเทพประทาน
z ๙๒
แม้การอาศัยบนอาคารสูง อาจจะไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนไทยเท่าใดนัก
แต่เด็กๆ ในชุมชนเทพประทาน ก็สามารถปรับตัวและอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
ยุคที่ ๒: ก้าวทีส่ อง...ปรับเปลีย่ นมุมมองเพือ่ ความก้าวหน้า
บรรยากาศอันสงบร่มรื่นและวิถีชีวิตบนพื้นราบที่สะดวกสบายกว่าบนอาคารสูง ในชุมชนพลับพลา
ความผิดพลาดจากการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยปราศจากการศึกษาวิถีชีวิต
และความต้องการที่แท้จริงของประชาชน นำไปสู่แนวคิดใหม่ในการพัฒนายุคต่อมา
โดยปรับเปลี่ยนจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยในแนวสูงซึ่งไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตดั้งเดิมของ
ชาวชุมชน เป็นการปรับปรุงพัฒนาที่อยู่อาศัยในแนวราบโดยการปรับปรุงที่อยู่อาศัย
พั ก อาศั ย ในบ้ า นที่ ส ำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ ก่ อ สร้ า งให้ เช่ น ที่ “ชุ ม ชนพลั บ พลา”
ส่วนกลางในลักษณะเดียวกับโครงการบ้านจัดสรร ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาด้านสภาพ
แวดล้อมและสาธารณูปโภคพื้นฐานได้อย่างกว้างขวาง ผู้อยู่อาศัยยอมรับสถานภาพ
ของชุมชนและสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในชุมชนได้ในระดับหนึ่ง แต่ในที่สุด
และตกอยูใ่ นภาวะจำยอม
z ๙๕
โครงการพลับพลา
โครงการพลับพลา มีพนื้ ทีป่ ระมาณ ๒๘๘ ไร่ ตัง้ อยูใ่ นบริเวณทีเ่ ป็นทีต่ งั้ ของ
หมู่ บ้ า นคลองพลั บ พลาในอดี ต ในพื้ น ที่ เ ขตวั ง ทองหลาง สำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ
การพัฒนายังกระทบผลประโยชน์ของผู้เช่าบางรายและบางกลุ่ม แต่สำนักงานทรัพย์สินฯ
จะดำเนิ น การพั ฒ นาโดยให้ ผู้ อ ยู่ อ าศั ย ได้ รั บ ผลกระทบน้ อ ยที่ สุ ด และให้ เ กิ ด ความยั่ ง ยื น
พลับพลา ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตดั้งเดิม
ของคนไทยมากกว่า
z ๙๖
พื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่ส่วนกลาง คือ บริการพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีในทุกชุมชน เนื่องจาก
เป็นพื้นที่สำคัญในการประกอบกิจกรรมที่จะช่วยเชื่อมกระชับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว
และในชุมชนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน
(ในภาพ: พื้นที่ส่วนกลางในชุมชนพลับพลา)
ยุคที่ ๓: มัน
่ คงด้วยความร่วมมือ
ที่ ผ่ า นมา จะไม่ ใ ช่ ค วามสำเร็ จ อย่ า งที่ ค าดหวั ง แต่ สิ่ ง ที่ มี คุ ณ ค่ า ไม่ แ พ้ กั น คื อ
“ประสบการณ์” อันมีคา่ ยิง่ ทีท่ ำให้สำนักงานทรัพย์สนิ ฯ ได้เรียนรูว้ า่ การดำเนินการ
พัฒนาโครงการใดๆ ควรเรียนรู้วิถีชีวิต และความต้องการของผู้รับการพัฒนาก่อน
เป็ น อั น ดั บ แรก เพื่ อ ให้ ส อดคล้ อ งกั บ ความต้ อ งการอย่ า งแท้ จ ริ ง และการพั ฒ นา
ที่ เ หมาะสมต้ อ งไม่ เ ป็ น การพั ฒ นาที่ ยั ด เยี ย ดให้ แต่ ค วรพั ฒ นาชุ ม ชนให้ มี ค วาม
กระตือรือร้นทีจ่ ะพัฒนาตนเอง ขณะเดียวกัน ก็ได้เรียนรู้ “ศักยภาพ” ของตนเองว่า
สำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ มิ ไ ด้ มี ค วามเชี่ ย วชาญทุ ก ด้ า น และมิ อ าจปฏิ บั ติ ภ ารกิ จ ได้
สมบูรณ์แบบโดยลำพัง
การพัฒนาชุมชนในยุคถัดมา (ยุคที่ ๓) จึงได้มีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่
จากเดิมที่สำนักงานทรัพย์สินฯ เป็นผู้กำหนดรูปแบบและวิธีการพัฒนา เปลี่ยนเป็น
การยึ ด “คน” และ “ชุ ม ชน” เป็ น ศู น ย์ ก ลางในการพั ฒ นา พร้ อ มทั้ ง ได้ แ สวงหา
กลุ่มพันธมิตรเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อมาช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติ
ภารกิ จ ด้ า นการพั ฒ นาชุ ม ชนของสำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ ให้ มี ป ระสิ ท ธิ ภ าพยิ่ ง ขึ้ น
โดยร่ ว มมื อ กั บ ผู้ ที่ มี ค วามเชี่ ย วชาญเฉพาะด้ า นอย่ า ง “สถาบั น พั ฒ นาองค์ ก รชุ ม ชน
(องค์การมหาชน)” หรือ “พอช.” ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการพัฒนาชุมชนในพื้นที่
ทั่วประเทศมานานกว่า ๓๐ ปี โดยร่วมกันดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนในรูปแบบ
บ้านมั่นคงของชาวชุมชน เนื่องจากความแตกต่างด้านความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัยในชุมชน
ต้องใช้เวลาในการสร้างความเข้าใจ การเตรียมความพร้อม และสร้างการมีส่วนร่วม
เพื่อให้ประชาชนเข้าใจถึงปัญหาและทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับ พร้อมเฟ้นหาผู้นำทาง
ธรรมชาติ แ ละผู้ ที่ ชุ ม ชนให้ ก ารยอมรั บ เป็ น ตั ว กลางในการประสานงานและร่ ว มกั น
ความคิดเห็นตามกระบวนการ “การสร้างการมีส่วนร่วม”
เป็นวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหาจากการพัฒนาที่อยู่อาศัย
ที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการและวิถีชีวิตของชาวชุมชน
และเป็นหัวใจหลักในการดำเนินโครงการ “บ้านมั่นคง”
z ๑๐๐
เด็กๆ ในชุมชนร่วมสามัคคี กำลังสนุกสนานเพลิดเพลินกับการทำกิจกรรมร่วมกัน ถือเป็นการเชื่อมกระชับ
ความสัมพันธ์ของคนในชุมชนให้ใกล้ชิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง
ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่
ชุ ม ชนพั ฒ นาบ่ อ นไก่ ตั้ ง อยู่ บ ริ เ วณซอยปลู ก จิ ต ถนนพระรามที่ ๔
ชุ ม ชนพั ฒ นาบ่ อ นไก่ จำกั ด ที่ ช าวชุ ม ชนร่ ว มกั น ตั้ ง ขึ้ น มาเป็ น ผู้ รั บ ผิ ด ชอบโครงการ
ที่สามารถเอาชนะอุปสรรคปัญหามาได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจและสมัครสมานสามัคคี
ของคนในชุมชน
z ๑๐๒
ชุมชนหลังตลาดเจริญนคร
ชุมชนหลังตลาดเจริญนครเป็นชุมชนเก่าแก่ มีประวัติความเป็นมายาวนาน
เป็นจำนวนมาก สภาพบ้านเรือนก็ทรุดโทรมลงตามกาลเวลา
สำนักงานทรัพย์สินฯ ร่วมกับ พอช. กำหนดแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัย
โดยการปรั บ ปรุ ง ซ่ อ มแซมที่ อ ยู่ อ าศั ย บางส่ ว น รื้ อ ถอน และปลู ก สร้ า งใหม่ บ างส่ ว น
สำหรับในส่วนที่มีสภาพดีอยู่แล้วก็คงสภาพเดิมไว้ แต่ดูแลรักษาสภาพแวดล้อมในชุมชน
เชิงอนุรกั ษ์ผสมผสาน
อุปสรรคสำคัญของการพัฒนาคือ ความไม่พร้อมของชุมชนบางส่วนในการเข้าร่วม
โครงการเนื่องจากความแตกต่างทางฐานะของชาวชุมชน แต่ด้วยการสร้างความเข้าใจ
วิถีชีวิตอันเรียบง่าย ของชุมชนหลังตลาดเจริญนคร
z ๑๐๓
ชุมชนหลังตลาดเก่าวัดพระยาไกร
ชุมชนหลังตลาดเก่าวัดพระยาไกร เป็นชุมชนที่มีประวัติยาวนานนับร้อยปี
วัดร้าง กรมการศาสนาจึงให้โรงงานแปรรูปไม้ของบริษัทเอกชนรายหนึ่งเช่าใช้พื้นที่
อยู่ อ าศั ย จนกลายเป็ น ชุ ม ชนขึ้ น ในเวลาต่ อ มาชุ ม ชนได้ ข ยายตั ว อย่ า งรวดเร็ ว
จนกลายสภาพเป็นชุมชนแออัดในปัจจุบัน
ชุมชนหลังตลาดเก่าวัดพระยาไกร ตัง้ อยูบ่ นพืน้ ทีเ่ ขตบางคอแหลม ติดถนนเจริญกรุง
มีขนาดพืน้ ที่ ๑๐ ไร่ ๓ งาน ๖๐ ตารางวา สำนักงานทรัพย์สนิ ฯ จัดให้ประชาชนอยูอ่ าศัย
จำนวน ๑๖๒ แปลง มีสภาพความเป็นอยูค่ อ่ นข้างแออัด สาธารณูปโภค สาธารณูปการ
และไม่ได้รับผลกระทบเพื่อป้องกันมิให้เกิดสภาพแออัดเหมือนที่เคยเป็นมา โดยได้กำหนด
นโยบายในการพัฒนาทีอ่ ยูอ่ าศัยให้ผทู้ ไี่ ด้รบั ความเดือดร้อนจากเหตุเพลิงไหม้กอ่ น
สำหรั บ โครงการพั ฒ นาที่ อ ยู่ อ าศั ย ใหม่ นี้ มี รู ป แบบเป็ น อาคารสู ง ๔ ชั้ น
โดยชุมชนมีส่วนร่วมในการออกแบบที่อยู่อาศัยและกำหนดกติกาในการพักอาศัยร่วมกัน
คาดว่าชุมชนแห่งนี้จะสามารถเป็นชุมชนนำร่องในการพัฒนาที่อยู่อาศัยตัวอย่างสำหรับ
บน: พิธีลงเสาเอกบ้านมั่นคงของชุมชนหลังตลาดเก่า
ชุมชนอืน่ ทีไ่ ด้รบั ผลกระทบจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ได้เป็นอย่างดี
วัดพระยาไกร
ล่างซ้าย: อาคารบ้านมั่นคงในชุมชนหลังตลาดเก่า
วัดพระยาไกร ระหว่างก่อสร้าง
ล่างขวา: วิถีชีวิตของชุมชนหลังตลาดเก่าวัดพระยาไกร
z ๑๐๔
นางนันทวัน
นายบัลลังก์ นันทิวชั รินทร์
ฉัตรสกุลเพ็ญ
ประธานสหกรณ์เคหสถานมั่นคง
หัวหน้าฝ่ายชุมชน
ชุมชนหลังตลาดเก่าวัดพระยาไกร
และสวัสดิการสังคม
สำนักงานเขตบางคอแหลม
สงบลง ชาวบ้ า นมักสร้างบ้านใหม่ในสภาพเดิม ๆ จนกระทั่ ง เหตุ ก ารณ์ เ พลิ ง ไหม้ ใ นปี ซึ่ ง ทุ ก ชุ ม ชนล้ ว นมี ส ภาพไม่ ต่ า งกั น คื อ เป็ น ชุ ม ชนแออั ด
สร้ า งสภาพแวดล้ อ มที่ ดี ควบคู่ ไ ปพร้ อ มกั บ การยกระดั บ และพั ฒ นาคุ ณ ภาพชี วิ ต ผู้ เ ช่ า
มุมมองใหม่เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสำนักงานทรัพย์สินฯ จึงมองย้อนกลับไปแก้ที่
“ต้นเหตุ” แห่งปัญหาทั้งปวง นั่นคือ การพัฒนา “คน” ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของ
การพัฒนาไม่วา่ ในมิตใิ ด
ประสบการณ์กว่า ๒๐ ปี ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยในชุมชน
บนพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินฯ พบว่า “คน” คือจุดเริ่มต้น
ของปัญหาทั้งปวง การพัฒนาใดๆ จึงต้องให้ความสำคัญกับ
การพัฒนา “คน” ก่อนเป็นลำดับแรก ด้วยการยกระดับและพัฒนา
คุณภาพชีวิตอย่างครบทุกด้าน
z ๑๐๖
เด็กและเยาวชน คือ กลุ่มเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาชุมชน บนพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินฯ
เนื่องจากจะเป็นกำลังสำคัญ ในการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนเมื่อพวกเขาเติบใหญ่
(ในภาพ: ชุมชนพัฒนาบ่อนไก่)
ปัจจุบน
ั : มุง่ มัน
่ ...สานต่อเจตนารมณ์
ให้ ผู้ เ ช่ า พึ่ ง ตนเองได้ ด้ ว ยการจั ด “โครงการฝึ ก อบรมอาชี พ ” เพื่ อ เพิ่ ม โอกาส
เข้ ม แข็ ง และช่ ว ยเหลื อ ซึ่ ง กั น และกั น ภายในกลุ่ ม การจั ด ตั้ ง กลุ่ ม สหกรณ์ อ อมทรั พ ย์
และให้ความรู้แก่ผู้เช่าเกี่ยวกับการออมเงิน เพื่อกระตุ้นให้ชาวชุมชนเห็นความสำคัญ
z ๑๐๙
สร้างสังคมแห่งความร่วมมือ
สำนักงานทรัพย์สินฯ สนับสนุนการจัดกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์
ของชุมชนจากเดิมที่คุ้นเคยกับการรอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภายนอกมาเป็น
ร่ ว มกั น เพื่ อ ร่ ว มกั น เป็ น กำลั ง สำคั ญ ในการพั ฒ นาชุ ม ชนของตนเองให้ มี ค วามมั่ น คง
ปลอดภัย เป็นระเบียบ น่าอยูอ่ าศัย และเอือ้ อำนวยให้เกิดคุณภาพชีวติ ทีด่ ี ไม่เพียงเท่านัน้
เข้ า ถึ ง ปั จ จั ย ยั ง ชี พ พื้ น ฐาน อยู่ ใ นสภาพแวดล้ อ มที่ เ อื้ อ ต่ อ การมี สุ ข ภาพที่ ดี ทั้ ง ร่ า งกาย
การขออนุญาตต่างๆ หลักอุดมการณ์และวิธีการสหกรณ์”
และการไฟฟ้ า นครหลวง พั ฒ นาระบบป้ อ งกั น และปราบปรามอาชญากรรมให้ ม
ี ของชุมชนร่วมสามัคคี
ประสิทธิภาพ ป้องกันการแพร่ระบาดของอาชญากรรมและยาเสพติดเพื่อสร้างความอุ่นใจ บนขวา: โครงการจัดอบรมอาสาสมัครป้องกันอัคคีภัย ชุมชนน้อมเกล้า
มัน่ ใจ ให้แก่ผเู้ ช่าในพืน้ ที่
ล่าง: โครงการ Big Cleaning Day จัดขึ้นที่ชุมชนทรัพย์สินเก่า
ในซอยรามคำแหง ๓๙
z ๑๑๐
การส่งเสริมให้ชาวชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ
คือ เป้าหมายสำคัญประการหนึ่งในการพัฒนาชุมชนบนพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินฯ
(ในภาพ: ชุมชนพลับพลา)
เสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในชุมชน
สำนักงานทรัพย์สินฯ ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศของสังคมคุณธรรมในชุมชน
ด้วยการยกย่องสนับสนุนคนดีโดยมอบ “รางวัลบุคคลต้นแบบที่ดีเพื่อชุมชนที่ยั่งยืน”
แก่บุคคลที่มีจิตอาสาในการอุทิศตนทำงานเพื่อชุมชนและส่วนรวม การมอบโล่เกียรติคุณ
อันดีงามในชุมชน
นอกจากนี้ เพื่ อ ปู ท างและเสริ ม สร้ า งความเข้ ม แข็ ง อย่ า งยั่ ง ยื น ให้ แ ก่ ชุ ม ชน
สำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ จึ ง ให้ ค วามสำคั ญ เป็ น อย่ า งยิ่ ง แก่ เ ด็ ก และเยาวชน คนรุ่ น ใหม่
ได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องใกล้ชิดโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการอบรมมาเป็นพิเศษ จัดตั้ง
“โครงการกองทุนเพื่อการศึกษา” มอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กที่ยากจนหรือด้อยโอกาส
ในชุ ม ชนแต่ มี ค วามประพฤติ ดี ตั้ ง ใจเรี ย น และไม่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ ยาเสพติ ด ตั้ ง แต่ ร ะดั บ
และเพื่ อ ส่ ง เสริ ม พั ฒ นาการที่ ค รบถ้ ว นในทุ ก ด้ า น นอกเหนื อ จากส่ ง เสริ ม การเรี ย นรู้
และเยาวชนในพื้นที่ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบ
การแข่งขันฟุตบอล โครงการแบดมินตัน โครงการ “สปอร์ต ซัมเมอร์ แคมป์” ฯลฯ
บน: หนูน้อยกำลังชมนิทรรศการจำลองวิถีชีวิตเกษตรกรไทย
z ๑๑๒
ใ นเวลานี้ แม้ โ ครงการพั ฒ นา
ต่างๆ ที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ปูทาง
สร้ า งรากฐานไว้ แ ละริ เ ริ่ ม เพิ่ ม ขึ้ น ใหม่
จะยังไม่สามารถเห็นผลสำเร็จได้ในเร็ววัน
และไม่ อ าจสรุ ป ยื น ยั น ว่ า จะสร้ า งความ
ยัง่ ยืนได้หรือไม่
แต่ สำนักงานทรัพย์สนิ ฯ เชือ่ มัน่
เป็ น อย่ า งยิ่ ง ว่ า ด้ ว ยเจตนารมณ์ อั น ดี
ทรัพย์สนิ ฯ พร้อมใจกันใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
ด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมปลูกฝังจิตสำนึก
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยอนุรักษ์ผืนป่าไว้ และได้เรียนรู้ว่าการปลูกป่าไม้ไม่ใช่เรื่อง
ทีจ่ ำเป็น
ยากเลย เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ ขอเพียงแค่มีความมุ่งมั่นตั้งใจและได้ลงมือทำจริงๆ
“ผมเพิ่ ง รั บ ปริ ญ ญาไปเมื่ อ เดื อ นกั น ยายน พ.ศ.
“หนูอยากให้สำนักงานทรัพย์สินฯ มีโครงการในลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะ
๒๕๕๑ ที่ผ่านมา และได้ทำงานในสาขาที่เรียนจบมาได้
ไม่ เ พี ย งปลู ก ฝั ง ให้ เ ยาวชนมี จิ ต สำนึ ก ในเรื่ อ งของการอนุ รั ก ษ์ ธ รรมชาติ แต่ ยั ง ช่ ว ย
หลายเดือนแล้ว ต้องขอขอบพระคุณสำนักงานทรัพย์สินฯ
เปิดโลกทัศน์ ช่วยเสริมสร้างความรู้นอกเหนือจากที่ได้รับในห้องเรียน ได้เพื่อนใหม่ๆ
ที่ให้โอกาสผมมาไกลถึงวันนี้ ซึ่งในอนาคตผมหวังว่าจะได้
จากหลายจั ง หวั ด ทั่ ว ประเทศ และที่ ส ำคั ญ ที่ สุ ด คื อ ได้ ใ ช้ เ วลาว่ า งอย่ า งสร้ า งสรรค์
ส่ ง เงิ น ไปช่ ว ยเหลื อ ทางบ้ า น และถ้ า มี โ อกาสผมก็ อ ยาก
“ปัญหาสำคัญของการดำเนินงานด้านการพัฒนาชุมชนของสำนักงานทรัพย์สินฯ “สิ่งที่ดิฉันมองว่าเป็นปัญหาที่สุดในด้านการพัฒนา
เมื่อ ๒ – ๓ ปีก่อน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ที่อาศัยในชุมชนบนที่ดินของสำนักงาน ชุมชนนั้น ไม่ใช่ปัญหาทางด้านกายภาพ แต่อยู่ที่การพัฒนา
ทรัพย์สินฯ ยังไม่รับทราบบทบาทด้านนี้มากนัก เนื่องจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ “คน” ซึ่ ง เป็ น ต้ น ตอของปั ญ หาทั้ ง หมด และโดยธรรมชาติ
ของสำนักงานทรัพย์สินฯ มีลักษณะต่างคนต่างทำ ขาดการประสานงานระหว่างกันเอง คนส่ ว นใหญ่ ก็ มั ก จะเห็ น แก่ ป ระโยชน์ ส่ ว นตน และเรื่ อ ง
“นอกจากนี้ สำนักงานทรัพย์สินฯ ยังได้มีการปรับโครงสร้างภายใน ปรับเปลี่ยน ให้ ค นในชุ ม ชนมี ส่ ว นร่ ว มในการคิ ด แก้ ปั ญ หาของตนเอง
นโยบาย และมี ก ารจั ด สรรบุ ค ลากรที่ มี ค วามเชี่ ย วชาญเข้ า มาทำงานด้ า นชุ ม ชนอย่ า ง
โดยสำนั ก งานทรั พ ย์ สิ น ฯ ทำหน้ า ที่ เ ป็ น พี่ เ ลี้ ย งในด้ า นทุ น