You are on page 1of 23

1

บทที่ 1
บทนำ

ปัญหำและขอบเขตของปัญหำ
กำรขับ เคลื่อ นกำรปฏิรู ป กำรศึก ษำในทศวรรษที่ 2 (พ.ศ. 2552 -
2561) โดยมี วิ ส ยั ทัศ น์ "คนไทยได้ เ รี ย นรู ้ต ลอดชี วิ ต อย่ ำ งมี คุ ณ ภำพ"
มี เ ป้ ำ ห ม ำ ย ภ ำ ย ใ น ปี 2561
จะต้อ งมี ก ำรพัฒ นำคุณ ภำพมำตรฐำนกำรศึก ษำและกำรเรีย นรูข ้ องคนไทย
เพิ่ ม โอก ำสท ำงก ำรศึ ก ษ ำ แ ละก ำรเรี ย น รู ้ อ ย่ ำ งทั่วถึ ง แ ละมี คุ ณ ภ ำพ
ซึ่ ง มี ก รอบแนวทำงในกำรปฏิ รู ป กำรศึ ก ษำและกำรเรี ย นอย่ ำ งมี ร ะบ บ
โด ย ต้ อ งพั ฒ น ำคุ ณ ภ ำพ ค น ไท ย ยุ ค ให ม่ พั ฒ น ำคุ ณ ภ ำพ ค รู ยุ ค ให ม่
แ ล ะ พั ฒ น ำ คุ ณ ภ ำ พ ส ถ ำ น ศึ ก ษ ำ แ ล ะ แ ห ล่ ง เ รี ย น รู ้ ใ ห ม่
และกำรพัฒ นำคุณ ภำพคนไทยยุค ใหม่น้น ั ต้อ งมี ก ำรจัด กระบวนกำรเรีย นรู ้
โดยสถำนศึกษำและผูท ้ ีเ่ กีย่ วข้องจะต้องจัดเนื้ อหำสำระและกิจกรรมให้สอดคล้
อ ง กั บ ค ว ำ ม ส น ใ จ แ ล ะ ค ว ำ ม ถ นั ด ข อ ง ผู้ เ รี ย น
โ ด ย ค ำ นึ ง ถึ ง ค ว ำ ม แ ต ก ต่ ำ ง ร ะ ห ว่ ำ ง บุ ค ค ล
แ ล ะ จั ด กิ จ ก ร ร ม ใ ห้ ผู้ เ รี ย น ไ ด้ เ รี ย น รู ้ จ ำ ก ป ร ะ ส บ ก ำ ร ณ์ จ ริ ง
ฝึ ก ก ำ ร ป ฏิ บั ติ ใ ห้ ท ำ ไ ด้ คิ ด เ ป็ น ท ำ เ ป็ น รั ก ก ำ ร อ่ ำ น
แ ล ะ เ กิ ด ก ำ ร ใ ฝ่ รู ้ อ ย่ ำ ง ต่ อ เ นื่ อ ง
ซึ่งวิชำคณิ ตศำสตร์มีบทบำทสำคัญยิง่ ต่อกำรพัฒนำควำมคิดมนุ ษย์ทำให้มนุ ษ
ย์ มี ค ว ำม คิ ด ส ร้ ำ งส ร รค์ คิ ด อ ย่ ำ งมี เห ตุ ผ ล เป็ น ระบ บ มี แ บ บ แ ผ น
ส ำม ำร ถ วิ เ ค ร ำ ะ ห์ ปั ญ ห ำห รื อ ส ถ ำ น ก ำร ณ์ ไ ด้ อ ย่ ำ งถี่ ถ้ ว น ร อ บ ค อ บ
ช่ ว ย ใ ห้ ค ำ ด ก ำ ร ณ์ ว ำ ง แ ผ น ตั ด สิ น ใ จ
แก้ปญ ั หำและนำไปใช้ในชีวต ิ ประจำวันได้อย่ำงถูกต้องเหมำะสม
จำกทีข ่ ำ้ พเจ้ำได้รบ ั มอบหมำยให้จดั กำรเรียนกำรสอนรำยวิชำคณิตศำส
ต ร์ พื้ น ฐ ำน ชั้ น มั ธ ย ม ศึ ก ษ ำ ปี ที่ 5 ปี ก ำร ศึ ก ษ ำ 2 5 5 9 นั้ น
แ ล ะ ไ ด้ ท ำ ก ำ ร ท ด ส อ บ ห ลั ง เ รี ย น เ รื่ อ ง ล ำ ดั บ เ ล ข ค ณิ ต
ท ำ ใ ห้ ข้ ำ พ เ จ้ ำ ไ ด้ พ บ ปั ญ ห ำ ใ น ก ำ ร จั ด ก ำ ร เ รี ย น ก ำ ร ส อ น
ซึ่ ง นั ก เ รี ย น บ ำ ง ค น เ กิ ด ค ว ำ ม สั บ ส น เ กี่ ย ว กั บ ล ำ ดั บ เ ล ข ค ณิ ต
ไ ม่ ส ำ ม ำ ร ถ บ อ ก ค ว ำ ม ห ม ำ ย แ ล ะ ด ำ เนิ น ก ำ ร แ ก้ ปั ญ ห ำ ล ำ ดั บ ไ ด้
ท ำ ใ ห้ เ รี ย น ไ ม่ ทั น เ พื่ อ น ข ำ ด ค ว ำ ม มั่ น ใ จ ใ น ก ำ ร เ รี ย น
แ ล ะ ไ ม่ ส ำ ม ำ ร ถ ท ำ แ บ บ ฝึ ก หั ด ห รื อ ก ำ ร บ้ ำ น ส่ ง ค รู ไ ด้ ต ำ ม ก ำ ห น ด
และในปัจจุบน ั กำรจัดกำรเรียนกำรสอนในกลุม ่ สำระกำรเรียนรูค ้ ณิ ตศำสตร์มี
ปั ญ หำหลำย ๆ อย่ ำ ง เพรำะคณิ ต ศำสตร์ ม ก ั จะเป็ นปั ญ หำกับ ผู้ เรี ย นมำก
เ นื่ อ ง จ ำ ก ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ เ ป็ น วิ ช ำ ที่ เ ป็ น น ำ ม ธ ร ร ม
แ ล ะ นั ก เ รี ย น แ ต่ ล ะ ค น มี ค ว ำ ม แ ต ก ต่ ำ ง กั น ท ำ ง ก ำ ร เ รี ย น
นัก เรีย นบำงคนขำดควำมรับ ผิด ชอบในกำรท ำงำนหรือ ท ำงำนไม่เรีย บร้อ ย
ข ำ ด ค ว ำ ม ล ะ เ อี ย ด ค ว ำ ม ร อ บ ค อ บ ใ น ก ำ ร คิ ด ค ำ น ว ณ
2

นอกจำกนี้นก ั เรียนหลำยคนไม่ชอบเรียนคณิตศำสตร์ ขำดควำมกระตือรือร้น


ไม่ ต ้ ัง ใจเท่ ำ ที่ ค วร ช อบ พู ด คุ ย เล่ น ม ำก ก ว่ ำเรี ย น ห นั ง สื อ คิ ด เลข ช้ ำ
ท ำก ำรบ้ ำ น ไม่ ไ ด้ เพ รำะข ำด ค วำม มั่น ใจใน ต น เอง ก ลัว ท ำผิ ด บ้ ำ ง
ห รื อ ไ ม่ ท ำ ก ำ ร บ้ ำ น เล ย เพ ร ำ ะ เกี ย จ ค ร้ ำ น จ ำ ก ปั ญ ห ำ ต่ ำ ง ๆ
ที่ เ กิ ด ขึ้ น กั บ ผู้ เ รี ย น
ทำให้ผลกำรเรียนกำรสอนในกลุ่มสำระกำรเรียนรูค ้ ณิ ตศำสตร์ไม่ดีเท่ำที่ควร
ซึ่ ง ปั ญ ห ำ นี้ ค ว ร จ ะ ท ำ ก ำ ร ศึ ก ษ ำ แ ล ะ ห ำ ท ำ ง แ ก้ ไ ข อ ย่ ำ ง ยิ่ ง
เ นื่ อ ง จ ำ ก ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ เ ป็ น วิ ช ำ ที่ มี ค ว ำ ม ส ำ คั ญ ใ น ห ลั ก สู ต ร
เพรำะคณิ ตศำสตร์ เ ป็ นวิ ช ำที่ ฝึ กฝนให้ บุ ค คลสำมำรถคิ ด อย่ ำ งมี เ หตุ ผ ล
ท ำ ง ำ น อ ย่ ำ ง เ ป็ น ร ะ บ บ มี ค ว ำ ม ร อ บ ค อ บ มี วิ จ ำ ร ณ ญ ำ ณ
มี ค วำมเชื่ อ มั่น ในตนเอง อัน จะช่ ว ยให้ น ก ั เรี ย นใช้ ใ นกำรศึก ษำหำควำมรู ้
และทำงำนในอนำคตของตนได้อย่ำงมีประสิทธิภำพต่อไป
ข้ำพเจ้ำจึงได้ทำกำรพัฒนำกระบวนกำรจัดกำรเรียนโดยเน้นผูเ้ รียนเป็
น ส ำ คั ญ โ ด ย มี ก ำ ร ศึ ก ษ ำ แ ล ะ พั ฒ น ำ ก ร ะ บ ว น ก ำ ร เรี ย น รู ้ เช่ น
ก ำ ร เ รี ย น แ บ บ ร่ ว ม มื อ ก ร ะ บ ว น ก ำ ร ท ำ ง ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์
กระบวนกำรคิด อย่ำ งมี วิจ ำรณญำณ กระบวนกำรสร้ำ งควำมคิด รวบยอด
เ ป็ น ต้ น
ประกอบกับข้ำพเจ้ำได้มีกำรค้นคว้ำเกีย่ วกับกำรนำกิจกรรมปฏิบตั ม ิ ำใช้กบ
ั กำ
ร จั ด กิ จ ก ร ร ม ก ำ ร เ รี ย น ก ำ ร ส อ น
เ พื่ อ พั ฒ น ำ ทั ก ษ ะ ท ำ ง ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ ใ ห้ กั บ นั ก เ รี ย น
เ พื่ อ ใ ห้ วิ ช ำ ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ มี ค ว ำ ม เ ป็ น รู ป ธ ร ร ม ม ำ ก ขึ้ น
ทำให้นกั เรียนได้ประสบกำรณ์ ในกำรแก้ปญ ั หำและสถำนกำรณ์ ทีม ่ ีกำรใช้ควำ
ม รู ้ ท ำ ง ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์
และได้ร บ ั ประสบกำรณ์ ก ำรตรงในกำรแก้ ปัญ หำในชี วิต ประจ ำวัน มำกขึ้น
อันจะทำให้ผเู้ รียนเห็นคุณค่ำของคณิตศำสตร์และเรียนรูค ้ ณิตศำสตร์อย่ำงมีคว
ำมหมำย ซึ่งนวัต กรรมที่ก ล่ำวถึงคือ กิจกรรมเสริม ทัก ษะทำงคณิ ต ศำสตร์
ซึ่งเป็ นกิจกรรมประกอบในกำรจัด กำรเรียนรูท ้ ี่ช่วยให้ผู้เรีย นเกิด กำรเรียนรู ้
เข้ ำ ใจ บ ท เรี ย น ไ ด้ ม ำก ขึ้ น มี ค ว ำม เชื่ อ มั่ น ฝึ ก ท ำงำน ด้ ว ย ต น เอ ง
ท ำ ใ ห้ มี ค ว ำ ม รั บ ผิ ด ช อ บ ท ำ ใ ห้ ค รู ท ร ำ บ ปั ญ ห ำ
แ ล ะ ข้ อ บ ก พ ร่ อ ง ข อ ง นั ก เ รี ย น เ ป็ น ร ำ ย บุ ค ค ล
ท ำ ใ ห้ ค รู ส ำ ม ำ ร ถ แ ก้ ปั ญ ห ำ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ไ ด้ ทั น ที
และเปิ ดโอกำสให้นกั เรียนได้ทำกิจกรรมเสริมทักษะทำงคณิตศำสตร์ได้อย่ำงเ
ต็มที่

จุดมุง่ หมำย
1. เพือ
่ พัฒนำทักษะทำงกำรเรียนของนักเรียนชัน
้ มัธยมศึกษำปี ที่ 5
โรงเรียนผดุงปัญญำโดยใช้กจิ กรรมเสริมทักษะทำงคณิตศำสตร์ เรือ ่ ง
ลำดับเลขคณิต
3

2.
เพือ
่ ศึกษำผลกำรทดสอบและผลสัมฤทธิท ์ ำงกำรเรียนของนักเรียนชัน้ มัธยมศึก
ษำปี ที่ 5
โรงเรียนผดุงปัญญำ ระหว่ำงก่อนเรียนและหลังเรียน
โดยกำรใช้แบบฝึ กกิจกรรมเสริมเสริมทักษะทำงคณิตศำสตร์ เรือ่ ง
ลำดับเลขคณิต

ขอบเขตของปัญหำ
กำรศึกษำครัง้ นี้มุง่ ศึกษำกำรพัฒนำทักษะทำงกำรเรียนวิชำคณิตศำสตร์
ของนักเรียนชัน ้ มัธยมศึกษำ
ปี ที่ 5 โดยใช้กจิ กรรมเสริมเสริมทักษะ เรือ ่ ง ลำดับเลขคณิต ปี กำรศึกษำ
2559 ของนักเรียนทีไ่ ม่ผำ่ นกำรทดสอบ จำนวน 20 คน
ทีผ่ ส
ู้ อนได้ทำกำรศึกษำ ค้นคว้ำเอกสำร
และสือ ่ กำรเรียนกำรสอนทำงอินเตอร์เน็ต
ดำเนินกำรโดยใช้กจิ กรรมเสริมทักษะ แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน

ตัวแปรทีศ่ ก
ึ ษำ
ตัวแปรทีศ ่ ก
ึ ษำประกอบด้วย
1. ตัวแปรต้น คือ
กำรพัฒนำทักษะทำงกำรเรียนวิชำคณิตศำสตร์ของนักเรียนชัน ้ มัธยมศึกษำปี ที่
5 โดยใช้กจิ กรรมเสริมทักษะ เรือ่ ง ลำดับเลขคณิต
2. ตัวแปรตำม คือ ผลกำรทดสอบ
และผลสัมฤทธิท ์ ำงกำรเรียนของนักเรียนชัน
้ มัธยมศึกษำปี ที่ 5 ก่อนเรียน
ระหว่ำงเรียน และหลังเรียน

ประโยชน์ทค
ี่ ำดว่ำจะได้รบ

กำรรำยงำนกำรสังเครำะห์และพัฒนำผูเ้ รียนนี้เป็ นข้อมูลพื้นฐำนอย่ำงห


นึ่งทีจ่ ะช่วยให้นกั เรียนได้รบ
ั กำรพัฒนำทักษะทำงกำรเรียนวิชำคณิตศำสตร์ทำ
ให้มีผลสัมฤทธิใ์ นกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนของครูกลุม ่ สำระกำรเรียน
รูค
้ ณิตศำสตร์มีประสิทธิภำพมำกยิง่ ขึน ้

นิยำมศัพท์
1. ทักษะทำงกำรเรียน หมำยถึง ควำมสำมำรถในกำรเขียน
เพือ่ สือ่ ถึงควำมรู ้ จำกกำรฟังเสียง
2. กิจกรรมเสริมทักษะ หมำยถึง
เครือ ่ งมือทีใ่ ช้ในกำรฝึ กทักษะทำงกำรเรียน
ทีผ
่ รู้ ำยงำนจัดทำขึน ้ เองจำกกำรศึกษำ และค้นคว้ำทำงอินเตอร์เน็ต
4

3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ ์ หมำยถึง
แบบทดสอบทีผ ้ เป็ นแบบทดสอบแบบก่อนเรียนและหลังเรียน
่ รู้ ำยงำนสร้ำงขึน
แบบปรนัย จำนวน 20 ข้อ (20 คะแนน)
4. ล ำ ดั บ ห ม ำ ย ถึ ง
ฟังก์ชน
ั ทีม
่ ีโดเมนเป็ นเซตของจำนวนเต็มบวกทีเ่ รียงจำกน้อยไปมำกโดยเริม ่ ตั้
งแต่ 1
5. ลำดับเลขคณิต หมำยถึง ลำดับทีม ่ ีผลต่ำงซึง่ ได้จำกพจน์ ที่ n + 1
ลบด้วยพจน์ที่ n มีคำ่ คงทีเ่ สมอ ซึง่ ค่ำคงทีน่ ี้เรียกว่ำ ผลต่ำงร่วม (common
difference)

บทที่ 2
เอกสำรทีเ่ กีย่ วข้อง

กำรศึกษำกำรพัฒนำทักษะทำงกำรเรียนวิชำคณิตศำสตร์ของนักเรียนชั้
นมัธยมศึกษำปี ที่ 5 โดยใช้กจิ กรรมเสริมทักษะ เรือ ่ ง ลำดับเลขคณิต
ผูร้ ำยงำนได้ศกึ ษำเอกสำรทีเ่ กีย่ วข้อง ดังนี้
1. หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน ้ พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551
กลุม ่ สำระกำรเรียนรูค
้ ณิตศำสตร์
2. หลักกำรสอนคณิตศำสตร์
3. จิตวิทยำกำรสอนคณิตศำสตร์
5

หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน ้ พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551


กลุม
่ สำระกำรเรียนรูค ้ ณิตศำสตร์
1. ทำไมต้องเรียนคณิตศำสตร์
ค ณิ ต ศ ำส ต ร์ มี บ ท บ ำท ส ำคัญ ยิ่ ง ต่ อ ก ำร พั ฒ น ำค ว ำม คิ ด ม นุ ษ ย์
ท ำให้ ม นุ ษ ย์ มี ควำม คิ ด สร้ ำ งสรรค์ คิ ด อย่ ำ งมี เ ห ตุ ผ ล เป็ น ระบ บ
มีแบบแผน สำมำรถวิเครำะห์ปญ ั หำหรือสถำนกำรณ์ ได้อย่ำงถีถ ่ ้วนรอบคอบ
ช่ ว ย ใ ห้ ค ำ ด ก ำ ร ณ์ ว ำ ง แ ผ น ตั ด สิ น ใ จ แ ก้ ปั ญ ห ำ
แ ล ะ น ำ ไ ป ใ ช้ ใ น ชี วิ ต ป ร ะ จ ำ วั น ไ ด้ อ ย่ ำ ง ถู ก ต้ อ ง เ ห ม ำ ะ ส ม
นอกจำกนี้ ค ณิ ต ศำสตร์ ย งั เป็ นเครื่อ งมื อ ในกำรศึก ษำทำงด้ำนวิท ยำศำสตร์
เทคโนโลยี แ ละศำสตร์ อื่น ๆ คณิ ต ศำสตร์ จึงมี ป ระโยชน์ ต่อ กำรด ำเนิ น ชี วิต
ช่วยพัฒนำคุณภำพชีวต ิ ให้ดข ้ึ และสำมำรถอยูร่ ว่ มกับผูอ
ี น ้ ืน
่ ได้อย่ำงมีควำมสุข
2. เรียนรูอ้ ะไรในคณิตศำสตร์
กลุม่ สำระกำรเรียนรูค ้ ณิตศำสตร์เปิ ดโอกำสให้เยำวชนทุกคนได้เรียนรูค ้
ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ อ ย่ ำ ง ต่ อ เ นื่ อ ง ต ำ ม ศั ก ย ภ ำ พ
โดยกำหนดสำระหลักทีจ่ ำเป็ นสำหรับผูเ้ รียนทุกคนดังนี้
1) จ ำ น ว น แ ล ะ ก ำ ร ด ำ เ นิ น ก ำ ร :
ค ว ำ ม คิ ด ร ว บ ย อ ด แ ล ะ ค ว ำ ม รู ้ สึ ก เชิ ง จ ำ น ว น ร ะ บ บ จ ำ น ว น จ ริ ง
สมบัติเกี่ย วกับ จ ำนวนจริง กำรด ำเนิ น กำรของจำนวน อัต รำส่วน ร้อ ยละ
กำรแก้ปญ ั หำเกีย่ วกับจำนวน และกำรใช้จำนวนในชีวต ิ จริง
2) กำรวัด : ควำมยำว ระยะทำง น้ ำ หนัก พื้ น ที่ ปริ ม ำตร
และควำมจุ เงินและเวลำ หน่ วยวัดระบบต่ำง ๆ กำรคำดคะเนเกีย่ วกับกำรวัด
อั ต ร ำ ส่ ว น ต รี โ ก ณ มิ ติ ก ำ ร แ ก้ ปั ญ ห ำ เ กี่ ย ว กั บ ก ำ ร วั ด
และกำรนำควำมรูเ้ กีย่ วกับกำรวัดไปใช้ในสถำนกำรณ์ ตำ่ ง ๆ
3) เรขำคณิ ต : รูปเรขำคณิ ตและสมบัติของรูปเรขำคณิ ตหนึ่ งมิติ
ส อ ง มิ ติ แ ล ะ ส ำ ม มิ ติ ก ำ ร นึ ก ภ ำ พ แ บ บ จ ำ ล อ ง ท ำ ง เ ร ข ำ ค ณิ ต
ท ฤ ษ ฎี บ ท ท ำ ง เร ข ำ ค ณิ ต ก ำ ร แ ป ล ง ท ำ ง เร ข ำ ค ณิ ต (geometric
transformation)ใ น เรื่ อ ง ก ำ ร เลื่ อ น ข น ำ น (translation) ก ำ ร ส ะ ท้ อ น
(reflection) และกำรหมุน (rotation)
4) พี ช ค ณิ ต : แ บ บ รู ป (pattern) ค ว ำม สั ม พั น ธ์ ฟั งก์ ชั น
เซตและกำรดำเนินกำรของเซต กำรให้เหตุผล นิพจน์ สมกำร ระบบสมกำร
อ ส ม ก ำร ก ร ำฟ ล ำดับ เล ข ค ณิ ต ล ำดั บ เร ข ำค ณิ ต อ นุ ก ร ม เล ข ค ณิ ต
และอนุกรมเรขำคณิต
5) กำรวิเครำะห์ขอ ้ มูลและควำมน่ ำจะเป็ น : กำรกำหนดประเด็น
กำรเขี ย นข้ อ ค ำถำม กำรก ำหนดวิ ธี ก ำรศึ ก ษำ กำรเก็ บ รวบรวมข้ อ มู ล
กำรจัด ระบบข้อ มู ล กำรนำเสนอข้อมู ล ค่ำกลำงและกำรกระจำยของข้อ มู ล
กำรวิเครำะห์และกำรแปลควำมข้อมูล กำรสำรวจควำมคิดเห็น ควำมน่ ำจะเป็ น
กำรใช้ควำมรูเ้ กี่ยวกับสถิติและควำมน่ ำจะเป็ นในกำรอธิบำยเหตุกำรณ์ ต่ำงๆ
และช่วยในกำรตัดสินใจในกำรดำเนินชีวต ิ ประจำวัน
6

6) ทั ก ษ ะ แ ล ะ ก ร ะ บ ว น ก ำ ร ท ำ ง ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ :
ก ำรแ ก้ ปั ญ ห ำด้ ว ย วิ ธี ก ำรที่ ห ลำก ห ลำย ก ำรให้ เห ตุ ผ ล ก ำรสื่ อ ส ำร
กำรสือ ่ ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์และกำรนำเสนอ กำรเชื่อมโยงควำมรูต ้ ำ่ ง
ๆ ท ำงค ณิ ต ศ ำส ต ร์ แ ล ะก ำร เชื่ อ ม โย งค ณิ ต ศ ำส ต ร์ กับ ศ ำส ต ร์ อื่ น ๆ
และควำมคิดริเริม ่ สร้ำงสรรค์
3. คุณภำพผูเ้ รียนเมือ ่ จบชัน
้ มัธยมศึกษำปี ที่ 3
1) มี ค ว ำ ม คิ ด ร ว บ ย อ ด เ กี่ ย ว กั บ จ ำ น ว น จ ริ ง
มี ค ว ำ ม เ ข้ ำ ใ จ เ กี่ ย ว กั บ อั ต ร ำ ส่ ว น สั ด ส่ ว น ร้ อ ย ล ะ
ล ำ ดั บ แ ล ะ อ นุ ก ร ม ที่ มี เ ล ข ชี้ ก ำ ลั ง เ ป็ น จ ำ น ว น เ ต็ ม
ร ำ ก ที่ ส อ ง แ ล ะ ร ำ ก ที่ ส ำ ม ข อ ง จ ำ น ว น จ ริ ง
ส ำ ม ำ ร ถ ด ำ เ นิ น ก ำ ร เ กี่ ย ว กั บ จ ำ น ว น เ ต็ ม เ ศ ษ ส่ ว น ท ศ นิ ย ม
ล ำ ดั บ เ ล ข ค ณิ ต ร ำ ก ที่ ส อ ง แ ล ะ ร ำ ก ที่ ส ำ ม ข อ ง จ ำ น ว น จ ริ ง
ใ ช้ ก ำ ร ป ร ะ ม ำ ณ ค่ ำ ใ น ก ำ ร ด ำ เ นิ น ก ำ ร แ ล ะ แ ก้ ปั ญ ห ำ
และนำควำมรูเ้ กีย่ วกับจำนวนไปใช้ในชีวต ิ จริงได้
2) มีควำมรูค ้ วำมเข้ำใจเกีย่ วกับพื้นทีผ่ วิ ของปริซึม ทรงกระบอก
แ ละป ริ ม ำต ร ข อ งป ริ ซึ ม ท ร งก ร ะบ อ ก พี ร ะมิ ด ก ร ว ย แ ละท รงก ล ม
เลื อ ก ใ ช้ ห น่ ว ย ก ำ ร วั ด ใ น ร ะ บ บ ต่ ำ ง ๆ เกี่ ย ว กั บ ค ว ำ ม ย ำ ว พื้ น ที่
แ ล ะ ป ริ ม ำ ต ร ไ ด้ อ ย่ ำ ง เ ห ม ำ ะ ส ม
พร้อมทัง้ สำมำรถนำควำมรูเ้ กีย่ วกับกำรวัดไปใช้ในชีวต ิ จริงได้
3)
สำมำรถสร้ำงและอธิบำยขัน ้ ตอนกำรสร้ำงรูปเรขำคณิตสองมิตโิ ดยใช้วงเวียน
และสันตรง อธิบำยลักษณะและสมบัตข ิ องรูปเรขำคณิตสำมมิตซ ิ งึ่ ได้แก่ ปริซึม
พีระมิด ทรงกระบอก กรวย และทรงกลมได้
4)
มีควำมเข้ำใจเกีย่ วกับสมบัตข ิ องควำมเท่ำกันทุกประกำรและควำมคล้ำยของรูป
ส ำ ม เ ห ลี่ ย ม เ ส้ น ข น ำ น ท ฤ ษ ฎี บ ท พี ท ำ โ ก รั ส แ ล ะ บ ท ก ลั บ
และสำมำรถน ำสมบัติ เ หล่ ำ นั้น ไปใช้ ใ นกำรให้ เ หตุ ผ ลและแก้ ปั ญ หำได้
มี ค ว ำ ม เ ข้ ำ ใ จ เ กี่ ย ว กั บ ก ำ ร แ ป ล ง ท ำ ง เ ร ข ำ ค ณิ ต ( geometric
transformation) ใน เรื่ อ งก ำร เลื่ อ น ข น ำน (translation) ก ำร ส ะ ท้ อ น
(reflection) และกำรหมุน (rotation) และนำไปใช้ได้
5)
สำมำรถนึกภำพและอธิบำยลักษณะของรูปเรขำคณิตสองมิตแ ิ ละสำมมิติ
6) สำมำรถวิ เ ครำะห์ แ ละอธิ บ ำยควำมสัม พัน ธ์ ข องแบบรู ป
สถ ำน ก ำรณ์ ห รื อ ปั ญ ห ำ แ ละสำม ำรถ ใช้ สม ก ำรเชิ งเส้ น ตัว แ ป รเดี ย ว
ร ะ บ บ ส ม ก ำ ร เชิ ง เส้ น ส อ ง ตั ว แ ป ร อ ส ม ก ำ ร เชิ ง เส้ น ตั ว แ ป ร เดี ย ว
และกรำฟในกำรแก้ปญ ั หำได้
7) ส ำ ม ำ ร ถ ก ำ ห น ด ป ร ะ เ ด็ น
เขี ย นข้ อ ค ำถำมเกี่ ย วกับ ปั ญ หำหรื อ สถำนกำรณ์ ก ำหนดวิ ธี ก ำรศึ ก ษ ำ
7

เก็ บ ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล แ ล ะ น ำ เส น อ ข้ อ มู ล โ ด ย ใ ช้ แ ผ น ภู มิ รู ป ว ง ก ล ม
หรือรูปแบบอืน ่ ทีเ่ หมำะสมได้
8) เข้ำใจค่ำกลำงของข้อ มู ลในเรื่อ งค่ำเฉลี่ย เลขคณิ ต มัธยฐำน
แ ล ะ ฐ ำ น นิ ย ม ข อ ง ข้ อ มู ล ที่ ยั ง ไ ม่ ไ ด้ แ จ ก แ จ ง ค ว ำ ม ถี่
แ ล ะ เ ลื อ ก ใ ช้ ไ ด้ อ ย่ ำ ง เ ห ม ำ ะ ส ม
รวมทัง้ ใช้ควำมรูใ้ นกำรพิจำรณำข้อมูลข่ำวสำรทำงสถิติ
9) เ ข้ ำ ใ จ เ กี่ ย ว กั บ ก ำ ร ท ด ล อ ง สุ่ ม เ ห ตุ ก ำ ร ณ์
แ ล ะ ค ว ำ ม น่ ำ จ ะ เ ป็ น ข อ ง เ ห ตุ ก ำ ร ณ์
สำมำรถใช้ควำมรูเ้ กีย่ วกับควำมน่ ำจะเป็ นในกำรคำดกำรณ์ และประกอบกำรตั
ดสินใจในสถำนกำรณ์ ตำ่ ง ๆ ได้
10) ใ ช้ วิ ธี ก ำ ร ที่ ห ล ำ ก ห ล ำ ย แ ก้ ปั ญ ห ำ ใ ช้ ค ว ำ ม รู ้
ทั ก ษ ะ แ ล ะ ก ร ะ บ ว น ก ำ ร ท ำ ง ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์
และเทคโนโลยี ใ นกำรแก้ ปัญ หำในสถำนกำรณ์ ต่ำ ง ๆ ได้ อ ย่ ำ งเหมำะสม
ใ ห้ เห ตุ ผ ล ป ร ะ ก อ บ ก ำ ร ตั ด สิ น ใ จ แ ล ะ ส รุ ป ผ ล ไ ด้ อ ย่ ำ ง เห ม ำ ะ ส ม
ใช้ ภ ำษำและสัญ ลัก ษณ์ ท ำงคณิ ต ศำสตร์ ในกำรสื่อ สำร กำรสื่อ ควำมหมำย
และกำรน ำเสนอ ได้ อ ย่ ำ งถู ก ต้ อ ง และชัด เจน เชื่ อ มโยงควำมรู ้ ต่ ำ ง ๆ
ใ น ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ แ ล ะ น ำ ค ว ำ ม รู ้ ห ลั ก ก ำ ร
ก ร ะ บ ว น ก ำ ร ท ำ ง ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ ไ ป เ ชื่ อ ม โ ย ง กั บ ศ ำ ส ต ร์ อื่ น ๆ
และมีควำมคิดริเริม ่ สร้ำงสรรค์

หลักกำรสอนคณิตศำสตร์
กำรสอนคณิตศำสตร์ทจี่ ะให้ผเู้ รียนเกิดกำรเรียนรูแ ้ ละผลสัมฤทธิท ์ ำงกำร
เรี ย น ไ ด้ ดี นั้ น ผู้ ส อ น จ ะ ต้ อ ง มี ก ำ ร เต รี ย ม ค ว ำ ม พ ร้ อ ม ข อ ง ผู้ เรี ย น
และจ ำเป็ น ต้ อ งห ำเท ค นิ ค และวิ ธี ก ำรก ำรสอน ม ำใช้ อ ย่ ำ งห ลำก ห ลำย
ร ว ม ถึ ง แ บ บ ฝึ ก ทั ก ษ ะ เ พื่ อ ก ร ะ ตุ้ น ค ว ำ ม ส น ใ จ ที่ จ ะ เ รี ย น รู ้
ล ด ค ว ำ ม เ บื่ อ ห น่ ำ ย ใ น ก ำ ร เ รี ย น แ บ บ ซ้ ำ ซ ำ ก
แ ล ะ ผู้ เ รี ย น ส ำ ม ำ ร ถ ที่ จ ะ ใ ช้ ศั ก ย ภ ำ พ ข อ ง ต น เ อ ง อ ย่ ำ ง เ ต็ ม ที
และหลักกำรสอนทีด ่ ีตอ
้ งสอนให้ผเู้ รียนรูจ้ กั ลำดับขัน้ กำรฝึ กสำหรับผูเ้ รียนในก
ำรเรียนคณิตศำสตร์ ดังนี้
1 ) ก ำ ร ฝึ ก พื้ น ฐ ำ น ค ว ร ฝึ ก ใ ห้ เ กิ ด ทั ก ษ ะ เ บื้ อ ง ต้ น
ก่อ นไม่ค วรมองข้ำ มว่ำ ง่ำ ยเกิน ไปที่ว่ำง่ำยเพรำะคิด แบบไม่จำกัด เวลำ
ถ้ำ ให้ เวลำน้ อ ยลงจะท ำให้ ย ำก ขึ้น แบบฝึ กคิด เลขเร็ ว นี้ ต้อ งให้ เวลำตัว เอง
ถ้ ำ เ ห็ น ว่ ำ ง่ ำ ย ก็ ใ ห้ เ ว ล ำ น้ อ ย ล ง
ถ้ำเห็นว่ำยำกให้เวลำกำรทำมำกขึน ้ ตำมควำมสำมำรถของแต่ละคน
2) กำรฝึ กควรมีสมำธิ หำทีส ่ งบเงียบแล้วจับเวลำหรือแข่งขันกับเพือ ่ น
ตัง้ ใจทำให้เต็มควำมสำมำรถ และควรฝึ กทุกวัน
8

3) ตรวจหำคำตอบด้วยตัวเอง ช่วยให้เข้ำใจมำกยิง่ ขึน ้


ถูกหรือผิดไม่สำคัญว่ำตัง้ ใจคิดหรือเปล่ำ ถ้ำมีขอ
้ ผิด คิดผิดอย่ำงไร
ทบทวนข้อผิดพลำดของ
4) บันทึกกำรฝึ กฝน
ควรบันทึกกำรฝึ กฝนทุกครัง้ เพือ่ ทรำบพัฒนำกำรของตนเอง
จะทำให้ทรำบควำมก้ำวหน้ำและแข่งขันกับตัวเอง

จิตวิทยำกำรสอนคณิตศำสตร์
วิชำคณิตศำสตร์เป็ นนำมธรรม กำรจะเรียนรูค ้ ณิตศำสตร์ให้ได้ผลนัน ้
จะต้อ ง มี ห ลัก กำรสอนหลำย ๆ วิธี เช่ น กำรเตรี ย มควำมพร้อ มก่อ นสอน
ส อ น จ ำ ก สิ่ ง ที่ เ ด็ ก มี ป ร ะ ส บ ก ำ ร ณ์ ห รื อ ไ ด้ พ บ เ ห็ น อ ยู่ เ ส ม อ
ส อ น จ ำ ก ง่ ำ ย ไ ป ห ำ ย ำ ก ส อ น จ ำ ก รู ป ธ ร ร ม ไ ป ห ำ น ำ ม ธ ร ร ม
ดังนัน ้ จึงมีนกั คณิตศำสตร์ได้กล่ำวถึงกำรสอนไว้ดงั นี้
สุรชัย ขวัญเมือง (2533:32- 37)
ได้กล่ำวถึงจิตวิทยำกำรสอนคณิตศำสตร์ ดังนี้
1) ใ ห้ นั ก เ รี ย น มี ค ว ำ ม พ ร้ อ ม ก่ อ น ที่ จ ะ ส อ น
ครู ส ำรวจว่ ำ นัก เรี ย นพร้อ มที่ จะเรี ยนหรื อ ยัง ควำมพร้อ มในที่ นี้ หมำยถึ ง
ควำมสำมำรถและประสบกำรณ์ ของเด็ ก เรำจะทรำบได้ โ ดยกำรสัง เกต
ก ำ ร ชั ก ถ ำ ม ก ำ ร ท ด ส อ บ ดู ว่ ำ เ ด็ ก มี พื้ น ฐ ำ น เ ล ข ม ำ ก แ ค่ ไ ห น
คิ ด ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง ห รื อ ไ ม่ เพ ร ำ ะ เด็ ก ส่ ว น ม ำ ก ก่ อ น ที่ จ ะ ขึ้ น ชั้ น ป .1
มั ก จ ะ เ รี ย น ม ำ บ้ ำ ง ใ น ชั้ น อ นุ บ ำ ล
ทัง้ นี้ควำมพร้อมของเด็กนักเรียนอำจไม่เท่ำกัน
2) สอนจำกสิ่ ง ที่ เด็ ก มี ป ระสบกำรณ์ หรื อ ได้ พ บเห็ น อยู่ เสมอ
กำรให้เด็กเรียนจำกประสบกำรณ์ ได้เรียนจำกสิ่งที่เป็ นรูปธรรม ได้คิด ได้ใช้
ได้ ท ำด้ ว ยตนเอง ท ำให้ เ ด็ ก เข้ ำ ใจและเรี ย นได้ ร วดเร็ ว ขึ้ น เป็ นต้ น เช่ น
ให้ เ ด็ ก นั บ ผลไม้ สมุ ด ดิ น สอ ม้ ำ นั่ ง กระท ำโดยกำรจับ คู่ แบ่ ง พ วก
แ บ่ ง เ ป็ น ห มู่
เล่นเกมง่ำยทำงคณิตศำสตร์เด็กจะได้รบ ั ควำมสนุกสนำนเพลิดเพลินโดยไม่ได้
คิดว่ำนั่นคือกำรเรียนรู ้
3) สอนให้เด็ ก เข้ำใจ และมองเห็ น ควำมสัม พัน ธ์ ระหว่ำง
ส่วนย่อยกับส่วนย่อย และส่วนย่อยกับส่วนใหญ่ เช่น 4 + 5 = 5 + 4 หรือ
18 = 10 + 8 เ ด็ ก จ ะ มี ค ว ำ ม เ ข้ ำ ใ จ ไ ด้ ดี
เ พ ร ำ ะ ไ ด้ ล อ ง โ ด ย ใ ช้ เ ส้ น จ ำ น ว น ว น ห รื อ ข อ ง จ ริ ง
ซึง่ ได้ผลดีกว่ำกำรใช้กฎหรือกำรแยกกฎท่องเป็ นข้อ ๆ
4) สอนจำกง่ ำ ยไปหำยำก วิ ธี นี้ ควรใช้ ใ ห้ เ หมำะสมกับ วัย
และควำมสำมำรถของเด็กทัง้ นี้ครูจะต้องพิจำรณำว่ำเด็กของตนมีควำมสำมำร
ถ เ พี ย ง ใ ด ค ว ร จ ะ ส อ น ใ น ร ะ ดั บ ไ ห น
9

เด็กในชัน้ เรียนประถมศึกษำควรได้ทำกิจกรรมมำกๆไม่ใช่ครูอธิบำยให้ฟงั แล้ว


ทำตำม ควรจะดูควำมสนใจของเด็กประกอบด้วย
5) ให้น ก ั เรีย นเข้ำใจในหลัก กำรและรูว้ ิธี ที่จะใช้ห ลัก กำร
กำรให้ เ ด็ ก ได้ เ ผชิ ญ กับ ปั ญ หำที่ เร้ำ ใจให้ เด็ ก สนใจอยำกคิ ด อยำกท ำ เช่ น
ข ำ ย ข อ ง ซื้ อ ข อ ง ถ้ ำ มี ก ำ ร ซื้ อ ข ำ ย จ ำ ว น ว น ม ำ ก ๆ เ ด็ ก จ ะ
มี โ อ ก ำ ส ไ ด้ คิ ด วิ ธี ที่ จ ะ บ อ ก ห ล ำ ย ๆ ค รั้ ง ซึ้ ง เป็ น แ น ว ก ำ ร คู ณ
จำกนัน ้ ครูก็จะแนะให้เห็นวิธีกำรคูณเด็กก็จะเข้ำใจได้ชดั เจนและมองเห็นประ
โยชน์วำ่ จะนำไปใช้ได้อย่ำงไร
6) ใ ห้ เ ด็ ก ไ ด้ ฝึ ก หั ด ท ำ ซ้ ำ ๆ
จนกว่ำจะคล่องและมีกำรทบทวนอยูเ่ สมอกำรเรียนรูแ ้ ละเข้ำใจในหลักกำรย่ำงเ
ดี ย ว ไ ม่ พ อ ก ำ ร เ รี ย น ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ ต้ อ ง ใ ช้ ก ำ ร ฝึ ก ม ำ ก ๆ
เ พื่ อ ใ ห้ เ ข้ ำ ใ จ ใ น วิ ธี ก ำ ร ต่ ำ ง ๆ
กำรใช้แบบฝึ กหัดควรใช้ให้เหมำะกับเด็กอย่ำให้งำ่ ยเกินไปหรือยำกเกินไปจะ
ทำให้เด็กเบือ ่
7)
ต้องให้เรียนรูจ้ ำกรูปธรรมไปสูน ่ ำมธรรมเพรำะว่ำคณิตศำสตร์ยำกแก่กำรเข้ำใจจึ
ง ค ว ร ใ ห้ เ ด็ ก ไ ด้ เ ริ่ ม เ รี ย น รู ้ จ ำ ก รู ป ธ ร ร ม ใ ห้ เ ข้ ำ ใ จ ก่ อ น
ดังนัน
้ ในช่วงแรกผูส ้ อนควรใช้พวกของจริง รูปภำพ และสิง่
อืน
่ ๆ ทีส ่ ำมำรถใช้แทนจำวนวนได้แล้วจึงนำไปสูส ่ ญ
ั ลักษณ์ ภำยหลัง
8) ค ว ร ใ ห้ ก ำ ลั ง ใ จ แ ก่ เ ด็ ก
เพือ
่ ให้เกิดควำมมำนะพยำยำมอันเป็ นพื้นฐำนของควำมสำเร็จ
9)
ควรคำนึงถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลเด็กทีม ่ ีควำมถนัดหรือควำมสนใจ
แ ต ก ต่ ำ ง กั น ค ว ร ไ ด้ รั บ ก ำ ร ส นั บ ส นุ น เ ป็ น พิ เ ศ ษ
แต่เด็กทีไ่ ม่สนใจครูควรหำสำเหตุ หรือหำทำงทีจ่ ะช่วยเช่นเดียวกัน
จ ำ ก ที่ ก ล่ ำ ว ม ำ ส รุ ป ไ ด้ ว่ ำ
หลักกำรทีจ่ ะสอนวิชำคณิตศำสตร์ให้เด็กมีควำมเข้ำใจได้นน ้ ั ต้องมีหลักกำรสอ
น ใ ห้ พ ร้ อ ม ห ล ำ ย ๆ ด้ ำ น เ ช่ น ค ว ำ ม พ ร้ อ ม ข อ ง ตั ว เ ด็ ก เ อ ง
ควำมพร้อมด้ำนกระบวนกำรเรียนกำรสอนให้นำวิธีกำรเรียนกำรสอนแบบต่ำง
ๆ นำมำใช้ในกำรจัดกระบวนกำรเรียนกำรสอนเพื่อทีจ่ ะได้เรียนรูอ ้ ย่ำงเข้ำใจ
เช่น สอนจำกสิ่งที่เด็กมี ประสบกำรณ์ ห รือได้พ บกัน สอนจำกง่ำยไปหำยำก
สอนจำกรูปธรรมไปหำนำมธรรม เป็ นต้น

บทที่ 3
10

วิธก
ี ำรดำเนินกำร

ในกำรศึกษำครัง้ นี้
มีวตั ถุประสงค์เพือ ่ พัฒนำทักษะทำงกำรเรียนวิชำคณิตศำสตร์
และศึกษำผลกำรทดสอบและผลสัมฤทธิท ์ ำงกำรเรียนวิชำคณิตศำสตร์ของนักเ
รียนชัน ้ มัธยมศึกษำปี ที่ 5 โรงเรียนผดุงปัญญำ
ระหว่ำงก่อนเรียนและหลังเรียน
โดยกำรใช้กจิ กรรมเสริมทักษะทำงคณิตศำสตร์ เรือ ่ ง ลำดับเลขคณิต
กำรศึกษำครัง้ นี้เป็ นกำรศึกษำเชิงทดลอง เป็ นรูปแบบกำรศึกษำกลุม ่ เดียว
วัดผลกำรเรียนรูก ้ อ่ นและหลังกำรทดลอง
ซึง่ ผูศ
้ ก
ึ ษำได้ดำเนินกำรศึกษำตำมลำดับขัน ้ ตอน ดังต่อไปนี้
1. ประชำกรทีใ่ ช้ในกำรศึกษำ
2. เครือ่ งมือทีใ่ ช้ในกำรศึกษำ
3. แบบแผนกำรทดลอง
4. กำรสร้ำงเครือ ่ งมือทีใ่ ช้ในกำรศึกษำ
5. กำรเก็บรวบรวมข้อมูล
6. กำรวิเครำะห์ขอ ้ มูล
7. สถิตท ิ ใี่ ช้ในกำรวิเครำะห์ขอ ้ มูล
ประชำกรทีใ่ ช้ในกำรศึกษำ
ประชำกรที่ใช้ในกำรศึก ษำครัง้ นี้ คือ นัก เรีย นชั้นมัธ ยมศึก ษำปี ที่ 5
ปี กำรศึ ก ษำ 2559 โรงเรี ย นผดุ ง ปั ญ ญำ อ ำเภอเมื อ งตำก จัง หวัด ตำก
ทีไ่ ม่ผำ่ นเกณฑ์กำรทดสอบ เรือ่ ง ลดับเลขคณิต จำนวน 20 คน
เครือ
่ งมือทีใ่ ช้ในกำรศึกษำ
1. กิจกรรมเสริมทักษะทำงคณิตศำสตร์ เรือ ่ ง
ลำดับเลขคณิตสำหรับนักเรียนชัน
้ มัธยมศึกษำปี ที่ 5
2. แบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน เรือ
่ ง ลำดับเลขคณิต
แบบแผนกำรทดลอง

ผูศ
้ กึ ษำได้ดำเนินกำรศึกษำค้นคว้ำโดยใช้แบบแผนกำรศึกษำแบบกำรทดล
องกลุม่ เดียว มีรูปแบบดังตำรำงที่ 1
ตำรำง 1 แสดงแบบแผนกำรทดลอง
ทดสอบก่อนเรียน ใช้กจิ กรรมเสริมทักษะ ทดสอบหลังเรียน
T1 X T2
T1 หมำยถึง
กำรทดสอบก่อนกำรเรียนรูโ้ ดยใช้กจิ กรรมเสริมทักษะ
11

X หมำยถึง กำรเรียนรูโ้ ดยใช้กจิ กรรมเสริมทักษะ


T2 หมำยถึง
กำรทดสอบหลังกำรเรียนรูโ้ ดยใช้กจิ กรรมเสริมทักษะ

กำรสร้ำงเครือ ่ งมือทีใ่ ช้ในกำรศึกษำ


1. แผนกำรจัดกำรเรียนรู ้
1) ศึกษำหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน ้ พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551
กำรจัดสำระกำรเรียนรูก ้ ลุม
่ สำระกำรเรียนรูค ้ ณิตศำสตร์ระดับมัธยมศึกษำตอน
ต้น คูม ่ ือกำรวัดประเมินผลคณิตศำสตร์
เทคนิคกำรสอนคณิตศำสตร์ระดับมัธยมศึกษำ คูม ่ ือครูคณิตศำสตร์
ชัน
้ มัธยมศึกษำปี ที่ 5 และหนังสือเรียนสำระกำรเรียนรูค ้ ณิตศำสตร์
ชัน้ มัธยมศึกษำปี ที่ 5 บทที่ 1 เรือ ่ ง ลำดับและอนุกรม
2) ศึกษำมำตรฐำนกำรเรียนรู ้ สำระกำรเรียนรู ้ ตัวชี้วดั จำกหลักสูตร
วิเครำะห์ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสำระกำรเรียนรู ้
สำระสำคัญและตัวชี้วดั กำรเรียนรู ้ สำระกำรเรียนรูค ้ ณิตศำสตร์ เรือ่ ง
ลำดับและอนุกรม
3) จัดทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู ้ ประกอบด้วย มำตรฐำนกำรเรียนรู ้
สำระสำคัญ จุดประสงค์กำรเรียนรู ้ สำระกำรเรียนรู ้
กระบวนกำรกำรจัดกำรเรียนรู ้ สือ ่ กำรสอนและแหล่งเรียนรู ้
และกำรวัดและประเมินผล
2. กิจกรรมเสริมทักษะ
มีขน ้ ั ตอนในกำรดำเนินกำรสร้ำงดังต่อไปนี้
1)
ศึกษำเอกสำรทีเ่ กีย่ วกับกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรูโ้ ดยใช้กจิ กรรมเสริมทักษะเ
พือ ่ ใช้เป็ นแนวในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรูโ้ ดยใช้แบบฝึ ก
2) ศึกษำหลักสูตร แบบเรียน และคูม ่ ือครูคณิตศำสตร์
ชัน ้ มัธยมศึกษำปี ที่ 5 ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน ้ พื้นฐำน
พุทธศักรำช 2551 เพือ ่ แบ่งสำระย่อย และวิเครำะห์สำระกำรเรียนรู ้
เพือ ่ สร้ำงแผนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน เรือ ่ ง ลำดับและอนุกรม
3) ศึกษำเอกสำร ทฤษฎี
และงำนวิจยั ทีเ่ กีย่ วข้องกับกำรสร้ำงกิจกรรมเสริมทักษะ
เพือ ่ ใช้เป็ นแนวทำงในกำรสร้ำงกิจกรรม
4) สร้ำงแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน
โดยใช้กจิ กรรมเสริมทักษะ เรือ ่ ง ลำดับเลขคณิต
โดยให้สม ั พันธ์กบ ั สำระกำรเรียนรู ้ และจุดประสงค์ในกิจกรรมเสริมทักษะ

กำรเก็บรวบรวมข้อมูล
12

1) เตรียมควำมพร้อมเกีย่ วกับกิจกรรมเสริมทักษะทำงคณิตศำสตร์
เรือ
่ ง ลำดับเลขคณิต ให้กบ ั กลุม
่ ประชำกร คือ นักเรียนชัน
้ มัธยมศึกษำปี ที่ 5
โรงเรียนผดุงปัญญำ ทีไ่ ม่ผำ่ นเกณฑ์กำรทดสอบ จำนวน 20 คน
2) ดำเนินกำรทดสอบก่อนเรียน
3) จัดกำรเรียนรูต
้ ำมแผนกำรจัดกำรจัดเรียนรู ้
4) ทดสอบหลังเรียน

กำรวิเครำะห์ขอ้ มูล
1. กำรวิเครำะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิก์ บั เป้ ำหมำย
โดยนำคะแนนทดสอบหลังเรียนมำหำค่ำเฉลีย่
ค่ำร้อยละแล้วเปรียบเทียบกับเป้ ำหมำยร้อยละ 60

สถิตท
ิ ใี่ ช้ในกำรวิเครำะห์ขอ
้ มูล
1. กำรหำค่ำคะแนนเฉลีย่ ใช้สูตรดังนี้

∑x
𝜇 =
N

เมือ
่ 𝜇 คือ คะแนนเฉลีย่
∑ x คือ ผลรวมคะแนนเฉลีย่
N คือ จำนวนคะแนนในกลุม ่
13

บทที่ 4
ผลกำรศึกษำ

ใ น ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ค รั้ ง นี้
ผูศ
้ ก
ึ ษำได้วเิ ครำะห์ผลกำรศึกษำกำรพัฒนำทักษะทำงกำรเรียนวิชำคณิตศำสต
ร์ โ ด ย ใ ช้ กิ จ ก ร ร ม เ ส ริ ม ทั ก ษ ะ เ รื่ อ ง ล ำ ดั บ เ ล ข ค ณิ ต
ของนักเรียนชัน ้ มัธยมศึกษำปี ที่ 5 ซึง่ มีผลกำรรำยงำนข้อมูล ดังนี้
ต ำ ร ำ ง 1 แ ส ด ง ผ ล ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ค ะ แ น น ท ด ส อ บ ก่ อ น เ รี ย น
แ ล ะ ห ลัง เรี ย น จ ำก ก ำร พั ฒ น ำทั ก ษ ะท ำงก ำร เรี ย น วิ ช ำค ณิ ต ศ ำส ต ร์
โ ด ย ใ ช้ กิ จ ก ร ร ม เ ส ริ ม ทั ก ษ ะ เ รื่ อ ง ล ำ ดั บ เ ล ข ค ณิ ต
ของนักเรียนชัน ้ มัธยมศึกษำปี ที่ 5 ดังนี้

คะแนนก่อนเรียน Z - T- คะแนนหลังเรียน
ลำดับที่ ชือ
่ - สกุล
(15) Score Score (15)
น.ส.พิมพร
1
แหยมนำค 8 1.35 63.53 13
2 น.ส.อนุตตรีย์ อินอยู่ 5 -0.58 44.20 8
น.ส.พิมผกำ
3
เณรจำที 6 0.06 50.64 9
4 น.ส.สุนนำรี แซ่เกอ 7 0.71 57.08 12
น.ส.จันจิรำ
5
เครือแบน 4 -1.22 37.76 8
น.ส.สุดำรัตน์
6
ขัดหย่อม 7 0.71 57.08 12
น.ส.สุทธิดำ
7
ประทุมทอง 5 -0.58 44.20 8
น.ส.ปนัสยำ
8
บุญมำลีรตั น์ 7 0.71 57.08 9
9 น.ส.จรรยำ แซ่กือ 4 -1.22 37.76 8
น.ส.พรรณิกำ
10
เสนแก้ว 6 0.06 50.64 9
11 น.ส.นพจิรำ ต๊ะวัน 9 2.00 69.97 15
น.ส.สุธำสินี
12
ศรีวตั ถำ 5 -0.58 44.20 9
14

13 น.ส.ไอรดำ ด้วงนำ 6 0.06 50.64 11


น.ส.ธัญญำลักษณ์
14
นำวงษ์ 4 -1.22 37.76 8
น.ส.พรลภัส
15
กำละจิตร 3 -1.87 31.32 9
16 น.ส.เพ็ญนภำ ปิ นตำ 8 1.35 63.53 11
17 น.ส.ภริดำ จีบกล่ำ 7 0.71 57.08 15
นำยธนวัฒนื
18
แก้วทรัพย์ 6 0.06 50.64 11
19 นำยวัชระ เปล่งปลั่ง 5 -0.58 44.20 14
20 นำยณัฐวัตร เต๋มำ 6 0.06 50.64 12
คะแนนรวม 118 0.00 1000.00 211
Mean 5.90 0.00 50.00 10.55
SD 1.55 1.00 10.00 1.81
ร้อยละ 39.33 70.33

จ ำ ก ต ำ ร ำ ง 1 ผ ล ก ำ ร ศึ ก ษ ำ ค ะ แ น น ท ด ส อ บ ก่ อ น เ รี ย น
แ ล ะ ห ลัง เรี ย น จ ำก ก ำร พั ฒ น ำทั ก ษ ะท ำงก ำร เรี ย น วิ ช ำค ณิ ต ศ ำส ต ร์
โ ด ย ใ ช้ กิ จ ก ร ร ม เ ส ริ ม ทั ก ษ ะ เ รื่ อ ง ล ำ ดั บ เ ล ข ค ณิ ต
ข อ ง นั ก เ รี ย น ชั้ น มั ธ ย ม ศึ ก ษ ำ ปี ที่ 5 พ บ ว่ ำ
นั ก เรี ย น มี ค ะ แ น น ท ด ส อ บ ก่ อ น เรี ย น เฉ ลี่ ย เท่ ำกั บ 5.90 ค ะแ น น
คิ ด เ ป็ น ร้ อ ย ล ะ 39.33 มี ค่ ำ ที เ ฉ ลี่ ย เ ท่ ำ กั บ 50.00 แ ล ะ
คะแนนทดสอบหลังเรียนเฉลี่ย 10.55 คิด เป็ นร้อยละ 70.33 มี ค่ำทีเฉลี่ย
เท่ำกับ 79.95

ต ำ ร ำ ง 2
แสดงผลกำรวิเครำะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิข ์ องกำรใช้กจิ กรรมเสริ
ม ทั ก ษ ะ ท ำ ง ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ เ รื่ อ ง ล ำ ดั บ เ ล ข ค ณิ ต
ของนักเรียนชัน้ มัธยมศึกษำปี ที่ 5 กับเกณฑ์เป้ ำหมำยร้อยละ 60

คะแนน จำนวนผูเ้ รียน คะแนนรวม คะแนนเฉลีย่ คะแนนเฉลีย่ ร้อยละ ผลกำรเปรียบ


ทดสอบ 20 211 10.55 70.33 สูงกว่ำเป้ ำห
หลังเรียน

จ ำ ก ต ำ ร ำ ง 5
แสดงผลกำรวิเครำะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิข ์ องกำรใช้กจิ กรรมเสริมทักษะทำ
งคณิ ต ศำสตร์ เรื่อ ง ล ำดับ เลขคณิ ต ของนัก เรี ย นชั้น มัธ ยมศึ ก ษำปี ที่ 5
15

กั บ เ ก ณ ฑ์ เ ป้ ำ ห ม ำ ย ร้ อ ย ล ะ 60 พ บ ว่ ำ
ค ะแ น น เฉ ลี่ ย ร้ อ ย ล ะข อ งก ำร ท ด ส อ บ ห ลัง เรี ย น มี ค่ ำ เท่ ำกั บ 7 0 .3 3
ซึง่ สูงกว่ำเป้ ำหมำย

บทที่ 5
สรุปรำยงำนกำรสังเครำะห์ผลกำรแก้ปญ
ั หำและพัฒนำผูเ้ รียน

สรุปผล
จำกรำยงำนกำรสัง เครำะห์ ผ ลกำรแก้ปัญ หำและพัฒ นำผู้เรี ย น เรื่อ ง
กำรพัฒ นำทักษะทำงกำรเรียนวิชำคณิ ตศำสตร์ โดยใช้ กิจกรรมเสริมทัก ษะ
เรื่อ ง ล ำดับ เลขคณิ ต ของนัก เรี ย นชั้น มัธ ยมศึ ก ษำปี ที่ 5 ภำคเรี ย นที่ 1
ปี กำรศึกษำ 2559 สรุปผลกำรศึกษำตำมลำดับ ดังนี้
1 .
จำกกำรศึกษำผลกำรทดสอบและผลสัมฤทธิท ์ ำงกำรเรียนของนักเรียนชัน ้ มัธย
มศึ ก ษ ำปี ที่ 5 โรงเรี ย นผดุ ง ปั ญ ญ ำ ระหว่ ำ งก่ อ นเรี ย น และห ลัง เรี ย น
โดยกำรใช้ กิ จ กรรมเสริม ทัก ษะทำงคณิ ต ศำสตร์ เรื่อ ง ล ำดับ เลขคณิ ต
พ บ ว่ ำ ค ะ แ น น ส อ บ ก่ อ น เ รี ย น มี ค่ ำ เ ฉ ลี่ ย ร ว ม ร้ อ ย ล ะ 39.33
แ ล ะ ค ะ แ น น ส อ บ ห ลั ง เ รี ย น มี ค่ ำ เ ฉ ลี่ ย ร ว ม ร้ อ ย ล ะ 7 0 . 3 3
ซึ่ ง มี ค ว ำ ม ต่ ำ ง เ ฉ ลี่ ย ร้ อ ย ล ะ 3 1 ส รุ ป ไ ด้ ว่ ำ
ก ำ ร ห ำ แ น ว ท ำ ง แ ก้ ปั ญ ห ำ ใ น ก ำ ร เรี ย น ข อ ง นั ก เรี ย น มี ก ำ ร พั ฒ น ำ
มี ค ว ำ ม ห ม ำ ย ต่ อ ก ำ ร จั ด ก ำ ร เรี ย น ก ำ ร ส อ น ข อ ง ค รู ผู้ ส อ น แ ล ะ สื่ อ
นวัต กรรมในกำรจัด กำรเรี ย น กำรสอน มี ผ ลต่ อ กำรเรี ย นของนั ก เรี ย น
เพ ร ำะ จ ะ ท ำใ ห้ นั ก เรี ย น เกิ ด ทั ศ น ค ติ ที่ ดี ต่ อ ก ำร เรี ย น ก ล้ ำ ที่ จ ะ ท ำ
และกล้ำทีจ่ ะฝึ กคิดแก้ปญ ั หำในกำรเรียนวิชำคณิตศำสตร์
2. จำกกำรเปรี ย บเที ย บผลสัม ฤทธิ ์ท ำงกำรเรี ย นวิ ช ำคณิ ต ศำสตร์
โ ด ย ใ ช้ กิ จ ก ร ร ม เ ส ริ ม ทั ก ษ ะ เ รื่ อ ง ล ำ ดั บ เ ล ข ค ณิ ต
กับเป้ ำหมำยของกลุ่มสำระกำรเรียนรู ้คณิ ตศำสตร์ ทีต ่ ง้ ั ไว้รอ ้ ยละ 60 พบว่ำ
ผ ล สั ม ฤ ท ธิ ์ ท ำ ง ก ำ ร เรี ย น วิ ช ำ ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ เรื่ อ ง ล ำ ดั บ เล ข ค ณิ ต
16

มี ค่ ำ เฉลี่ ย ร้อ ยละ 70.33 ซึ่ ง มี ค่ ำ เฉลี่ย สู ง กว่ ำ เกณฑ์ ที่ ต ้งั ไว้ สรุ ป ได้ ว่ ำ
กิ จ ก ร ร ม เ ส ริ ม ทั ก ษ ะ ท ำ ง ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ ที่ ไ ด้ จั ด ท ำ ขึ้ น
ส ำ ม ำ ร ถ พั ฒ น ำ ใ ห้ นั ก เ รี ย น เ กิ ด ค ว ำ ม รู ้ ทั ก ษ ะ
แ ล ะ ก ร ะ บ ว น ก ำ ร ใ น ก ำ ร เ รี ย น วิ ช ำ ค ณิ ต ศ ำ ส ต ร์ ไ ด้
ดั ง นั้ น ค รู ผู้ ส อ น ต้ อ ง ต ร ะ ห นั ก
แ ล ะ เต รี ย ม ค ว ำม พ ร้ อ ม ใ น ก ำ ร จั ด ก ำ ร เรี ย น ก ำ ร ส อ น ใ ห้ มี คุ ณ ภ ำ พ
โดยจัดหำสือ ่ และพัฒนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มำใช้ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน
ให้นกั เรียนได้ฝึกปฏิบตั อ ิ ย่ำงหลำกหลำย และฝึ กบ่อย ๆ จนเกิดควำมชำนำญ
และเกิดแนวคิดใหม่ ๆ ในกำรนำมำประยุกต์ใช้ในกำรเรียนกำรสอนต่อไป

ข้อเสนอแนะ
1 . ค รู ค ว ร ส่ ง เ ส ริ ม ใ ห้ นั ก เ รี ย น มี โ อ ก ำ ส ค้ น ห ำ ค ว ำ ม รู ้
แ ล ะ รู ้ จั ก แ ก้ ปั ญ ห ำ ด้ ว ย ต น เอ ง ผ่ ำ น ก ำ ร ล ง มื อ ป ฏิ บั ติ กิ จ ก ร ร ม
เพือ
่ ฝึ กให้นกั เรียนเห็นควำมรูปธรรมของวิชำคณิตศำสตร์
2 . มี สื่ อ น วั ต ก ร ร ม แ ล ะ กิ จ ก ร ร ม ที่ ห ล ำ ก ห ล ำ ย
เพ รำะจะท ำให้ ผู้ เ รี ย น ได้ เ รี ย น รู ้ สิ่ ง ให ม่ ๆ แ ละมี ค วำม สุ ข ที่ จ ะเรี ย น
แ ล ะ ค รู ผู้ ส อ น ต้ อ ง มี ค ว ำ ม เ อ ำ ใ จ ใ ส่ ติ ด ต ำ ม
และประเมินผลกำรเรียนกำรสอนอย่ำงเป็ นระบบ
3. ครูควรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนทัง้ ในเชิงวิชำกำร
และเชิงปฏิบตั ิ เพือ ่ ส่งเสริม
และปลูกฝังให้นกั เรียนสำมำรถปฏิบตั งิ ำนได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ
และมีควำมรับผิดชอบต่อหน้ำทีท ่ ต
ี่ นเองปฏิบตั ิ

บรรณำนุกรม
กระทรวงศึกษำธิกำร. (2551). ตัวชี้วดั และสำระกำรเรียนรูแ
้ กนกลำง
กลุม
่ สำระกำรเรียนรูค
้ ณิตศำสตร์
ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน ้ พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์ กำรเกษตรแห่งประเทศไทย.
กระทรวงศึกษำธิกำร. (2553). แนวปฏิบตั ก
ิ ำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู ้
ตำมหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขัน
้ พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์ กำรเกษตรแห่งประเทศไทย.
ปิ ยะนำถ เหมวิเศษ. (2551).
กำรสร้ำงกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนคณิตศำสตร์ทเี่ ลือกใช้กลยุทธ์
ในกำรแก้ปญ ั หำทีห
่ ลำกหลำย
เพือ่ เสริมสร้ำงควำมสำมำรถในกำรแก้ปญ ั หำทำง
คณิตศำสตร์ สำหรับนักเรียนชัน ้ มัธยมศึกษำปี ที่ 3.
ปริญญำนิพนธ์ปริญญำกำรศึกษำ
17

มหำบัณฑิต สำขำวิชำคณิตศำสตร์ บัณฑิตวิทยำลัย


มหำวิทยำลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ปรีชำ เนำว์เย็นผล. (2544).
กิจกรรมกำรเรียนกำรสอนคณิตศำสตร์โดยใช้กำรแก้ปญ
ั หำปลำยเปิ ด
สำหรับนักเรียนชัน
้ มัธยมศึกษำปี ที่ 1.
ปริญญำนิพนธ์กำรศึกษำดุษฎีบณ ั ฑิต
บัณฑิตวิทยำลัย มหำวิทยำลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
พร้อมพรรณ อุดมสิน. (2544). กำรวัดและกำรประเมินผล
กำรเรียนกำรสอนคณิตศำสตร์.
กรุงเทพฯ : คณะครุศำสตร์ จุฬำลงกรณ์ มหำวิทยำลัย.
สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี. (2546).
คูม
่ ือวัดผลประเมินผลคณิตศำสตร์.
กรุงเทพฯ: บริษท
ั ศรีเมืองกำรพิมพ์ จำกัด.
สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี. (2553).
หนังสือเรียนรำยวิชำพื้นฐำน
คณิตศำสตร์ เล่ม 3 ชัน้ มัธยมศึกษำปี ที่ 4 – 6
กลุม
่ สำระกำรเรียนรูค
้ ณิตศำสตร์. กรุงเทพฯ:
โรงพิมพ์ สกสค. ลำดพร้ำว.
สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี. (2553).
คูม
่ ือครูรำยวิชำพื้นฐำน คณิตศำสตร์
เล่ม 3 ชัน้ มัธยมศึกษำปี ที่ 4 – 6 กลุม
่ สำระกำรเรียนรูค้ ณิตศำสตร์.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์
สกสค. ลำดพร้ำว.
สถำบันส่งเสริมกำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี. (2555).
ทักษะและกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์ (พิมพ์ครัง้ ที่ 3). กรุงเทพฯ: 3-
คิว มีเดีย.
อัมพร ม้ำคนอง. (2553).
ทักษะและกระบวนกำรทำงคณิตศำสตร์:กำรพัฒนำเพือ่ พัฒนำกำร.
กรุงเทพฯ: ศูนย์ตำรำและเอกสำรทำงวิชำกำร คณะครุศำสตร์
จุฬำลงกรณ์ มหำวิทยำลัย.
18

ภำคผนวก
19

ภำคผนวก ก
แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียนเรือ
่ ง ลำดับเลขคณิต

แบบทดสอบก่อนเรียน – หลังเรียน เรือ


่ ง ลำดับเลขคณิต

1. ข้อใดไม่เป็ นลำดับเลขคณิต 7.ข้อใดมีผลต่ำงร่วมเหมือนกับลำดับเลข


ก. 4, 6, 8, 10, 12, … 13, 10, 7, 4, 1, ...
ข. 2, 3, 5, 8, 12, ... ก. 5, 9, 13, 17, 21, ...
ค. 5, 8, 11, 14, 17, ... ข. 13, 11, 9, 7, 5, ...
ง. 12, 10, 8, 6, 4, ... ค. 15, 12, 9, 6, 3, ...
2. ข้อใดเป็ นลำดับเลขคณิต ง. 22, 18, 14, 10, 67
ก. 1, 2, 3, 5, 8, 13... 8. ข้อใดคือพจน์ที่ 30 ของลำดับ 1, 4, 7
ข. 5, 5.1, 5.01, 5.001... ก. 28 ข. 58 ค. 88
ค. 2, 3 1 2 , 3 2 2 , 3, ...,9 108
ง. -7, 2, 7, 13, 18, ... 9. ข้อใดคือพจน์ที่ 25 ของลำดับเลขคณ
3. ข้อใดเป็ นลำดับเลขคณิต 12, 9, 6,...
ก. a, 2a+b, 3a + 2b, 4a + 3b ,… ก. -36 ข. -48 ค. -
ข. ,... 10 1 , 8 1 , 6 1 , 4 1 , 2 1 52 ง. -60
20

ค. 5x + 3y, 2x +7y, 11y –x,… 10. ข้อใดคือพจน์ที่ 31 ของลำดับเลขคณ


ง. 17, 15, 12, 8, 3, ... 1, 2 3 , 2, ...
4.ข้อใดเป็ นล ำดับเลขคณิตมีผลต่ำงร่วมเท่ำกับ ก. 16 ข. 16 2 1 ค.
3 17 ง. 2 1
ก. 24, 21, 18, 15, 12, ... 11. ลำดับเลขคณิต 96, 83, 70, ..., -2
ข. 17, 14, 11, 8, ... มีกพี่ จน์
ค. 5, 9, 13, 17, 21, ... ก. 42 ข. 38 ค.
ง. 1, 4, 7, 10, 13, ... 34 ง. 31
5. ข้อใดมีผลต่ำงร่วมเท่ำกับ -7 12. จำนวนเต็มคูร่ ะหว่ำง 50 และ 450
ก. 24, 17, 10, 3, -4, -11, ... มีกจี่ ำนวน
ข. -7, 0, 7, 14, 21, ... ก. 200 ข. 199 ค.
ค. 11, 14, 17, 20, ... 198 ง. 190
ง. ,... 71 ,0, -71 13. จำนวนเต็มทีม ่ ีคำ่ ระหว่ำง 100 และ
6. ลำดับเลขคณิต 5, 8, 11, 14, 17, ... 400 มีกจี่ ำนวนที่ 9 หำรลงตัว
พจน์ถดั ไปคือข้อใด ก. 30 ข. 31 ค.
ก. 19 ข. 20 ค. 21 ง. 33 ง. 35
22 14. สำมพจน์ถดั ไปของลำดับเลขคณิต 6
13, 20, 27, ... คือข้อใด
ก. 34,41, 48
ข. -34, -41, -48
ค. 36, 42, 48
ง. 33, 39, 45
15. สำมพจน์ถดั ไปของลำดับเลขคณิต 1
-7, ... คือข้อใด
ก. 11, 15, 19
ข. -9, -11, -13
ค. 9, 11, 13
ง. -11, -15, -198
16. ให้ลำดับเลขคณิตมี 21=a1 และ d = 4 สำหรับทด
แล้ว a14 คือข้อใด
ก. 73 ข. 64 ค. 57 ง. 42
17.
ให้ลำดับเลขคณิมี 17=a3 และ 32=a8 แล้ว
a20 คือข้อใด
ก. 48 ข. 56 ค. 68 ง. 72
18. จำนวนทีอ ่ ยูร่ ะหว่ำง 29 และ 63
ทีท
่ ำให้ทง้ ั สำมจำนวนเป็ นลำดับเลขคณิตคือข้อใด
ก. 44 ข. 45 ค. 46 ง. 47
21

19. ชำยคนหนึ่งนำเงินไปฝำกธนำคำรจำนวน
10,000 บำท ธนำคำรให้
ดอกเบี้ยเงินฝำกในอัตรำ 3% ต่อปี
ถ้ำเขำฝำกเงินธนำคำร 8 ปี เขำจะ
ได้รบั เงินรวมกีบ่ ำท
ก. 13,800 บำท
ข. 13,400 บำท
ค. 12,800 บำท
ง. 12,400 บำท
20. ในกำรจัดเก้ำอี้หอประชุมเพือ ่ ชมดนตรี
โดยจัดเก้ำอี้แถวแรก 70 ตัว แถว ทีส ่ อง 82 ตัว
แถวทีส ่ ำม 94 ตัว และแถวสุดท้ำย 298 ตัว
จะจัดเก้ำอี้ ได้ทง้ ั หมดกีแ
่ ถว
ก. 19
ข. 20
ค. 21
ง. 22

เฉลย
1. ข 2. ค 3. ก 4. ง 5. ก 6. ข 7. ค 8. ค 9.
ง 10. ก
11. ง 12. ข 13. ค 14. ก 15. ง 16. ก 17. ค 18.
ค 19. ง 20. ข
22

ภำคผนวก ข
กิจกรรมเสริมทักษะ เรือ
่ ง ลำดับเลขคณิต

ภำคผนวก ค
ตัวอย่ำงผลงำนนักเรียน เรือ
่ ง ลำดับเลขคณิต
23

You might also like