Professional Documents
Culture Documents
โรคระบบหรัวใจและ
content หลอดเลลือด
7.1 Hypertension
7.2 Coronary Heart Disease
7.3 Arrhythmia
7.4 Heart Failure
7.5 Dyslipidemia
7.6 Stroke,Vulvular heart disease and
thromboembolism
7.7 Cardiovascular agents
7. โรคความดรันโลหริตสผู้ง
(Hypertension)
1
ความดดันโลหห ต หมายถถึง แรงดดันของกระแสเลลือดททกที่ ระทบตต่อผนดังหลอดเลลือดซถึงที่ เกกิดจากการสสูบฉทดของ
หดัวใจ สามารถวดัดโดยใชช้เครลืที่องวดัดความดดัน (sphygmomanometer) ซถึงที่ คต่าความดดันโลหกิตททวที่ ดดั ไดช้จะมท 2 คต่าคลือ
• Systolic Blood Pressure : SBP หมายถถึง แรงดดันโลหกิตขณะททหที่ วดั ใจบทบตดัว ความดดันโลหกิตจะสสูงสสุดในขณะ
ททหที่ วดั ใจกกําลดังสสูบฉทดเลลือดเขช้าสสูต่หลอดเลลือด ความดดันคต่านทนี้อาจจะสสูงขถึนนี้ ตามอายสุ หรลืออาจเรทยกวต่า คต่าความดดันชต่วงบน
• Diastolic Blood Pressure : DBP หมายถถึง แรงดดันโลหกิตขณะททหที่ วดั ใจคลายตดัว คต่าความดดันโลหกิตจะลดลง
หรลืออาจเรทยกวต่า คต่าความดดันชต่วงลต่าง
JNC-VI-VII และ WHO-ISH ไดช้ใหช้นกิยามของความดดันโลหกิตสสูงไวช้ คลือ การททวที่ ดดั คต่าความดดันโลหกิตไดช้สงสู กวต่า
ระดดับปกตกิตงดั นี้ แตต่ 2 ครดังนี้ หรลือมากกวต่า 2 ครดังนี้ ความดดันโลหกิตททมที่ คท ต่า 120/80 หรลือตกํที่ากวต่าจดัดวต่าเปป็ นคต่าความดดันปกตกิ
สต่วน ความดดันโลหห ตททที่มทคคา 140/90 mmHg หรรือมากกวคาจดัดวคามทภาวะความดดันโลหห ตสสูง โดยทดังนี้ คต่าความดดัน
systolic และ diastolic ตต่างมทความสกําคดัญ กลต่าวคลือ หากคต่าใดคต่าหนถึที่งหรลือทดังนี้ สองคต่าสสูงกวต่าเกณฑฑ์กจป็ ดดั วต่าเปป็ นความดดัน
โลหกิตสสูง โดยมท ขช้อยกเวช้นสกําหรดับคกํานกิยามของความดดันโลหกิตสสูงททไที่ ดช้กลต่าวมาแลช้วนทนี้ คลือ ความดดันโลหกิตททอที่ ต่านคต่าไดช้
130/80 หรลือสสูงกวต่า กป็จดดั วต่าเปป็ นความดดันโลหกิตสสูงแลช้ว ในผสูทช้ เที่ท ปป็ น โรคเบาหวาน และโรคไตเรรือรื้ รดัง ถช้ายดังอยสูใต่ นระหวต่าง
การรดักษา หรลือ รดับประทานยาลดความดดันโลหกิต แมช้วต่าจะอต่านคต่าความดดันโลหกิตไดช้อยสูใต่ นระดดับปกตกิ กป็ยงดั จดัดวต่ามทภาวะ
ความดดันโลหกิตสสูง
สาเหตต
Drug-Induced Hypertension
ยาทททที่ ากํ ใหช้เกกิดความดดันโลหกิตสสูงททพที่ บบต่อย
ยาลดนกํนี้ามสูก เชต่น Pseudoephedrine เนลืที่องจากทกําใหช้หลอดเลลือดหดตดัว
NSAIDs เนลืที่องจากทกําใหช้หลอดเลลือดททไที่ ตตทบ
Estrogen, Steroid ดถึงนกํนี้าและ Na กลดับเขช้าสสูต่ราต่ งกาย
ยาอลืที่นๆ เชต่น Alcohol ,Appetite Suppressants (phenylpropanolamine) ,Cyclosporine , Erythropoietin ,
MAOIs, Oral contraceptive, Thyroid hormone, TCAs เปป็ นตช้น
Pharmacy Khon Kaen University 89
Benefits of lowering BP
การททมที่ ภท าวะความดดันโลหกิตสสูงเปป็ นระยะเวลานานจะทกําใหช้เกกิดการเสลืที่อมสภาพของอวดัยวะตต่างๆและอาจทกําใหช้เกกิด
โรคหรลือภาวะแทรกซช้อนตต่างๆไดช้ดงดั นทนี้
• หดัวใจโตขถึนนี้ ซถึงที่ อาจนกําไปสสูต่ภาวะหดัวใจลช้มเหลวไดช้
• เกกิดการโปงพองของหลอดเลลือดโดยบรกิเวณททเที่ กกิดมากคลือ aorta, หลอดเลลือดแดงททสที่ มอง, ขาและลกําไสช้
• ทกําใหช้หลอดเลลือดในไตแคบลงซถึงที่ อาจเปป็ นสาเหตสุของภาวะไตวายไดช้
• หลอดเลลือดแดงทดัวรางกายแขป็ที่ งตดัวเรป็วขถึนนี้ โดยเฉพาะบรกิเวณหดัวใจ สมองไต และขาทกําใหช้เกกิด heart attack,
stroke, ภาวะไตวายหรลือเสช้นเลลือดขอดบรกิเวณขา
• เสช้นเลลือดในตาแตกหรลือมทเลลือดซถึมออกมาซถึงที่ อาจทกําใหช้การมองเหป็นเปลทยที่ นไปและอาจทกําใหช้ตาบอดไดช้
การรดักษาโรคความดดันโลหกิตสสูงโดยการควบคสุมคต่าความดดันโลหกิตใหช้ไดช้ตามเปช้ าหมายจะสามารถลดอสุบตดั กกิ ารณฑ์
การเกกิดภาวะแทรกซช้อนตต่างๆ ไดช้ แมช้จะไมต่สามารถปช้องกดันไดช้ทงดั นี้ หมดกป็ตาม เนลืที่องจากโรคความดดันโลหกิตสสูงเปป็ นโรคททที่
อาจไมต่มอท าการหรลืออาการแสดงใดๆ เลย ดดังนดันนี้ ความจกําเปป็ นในการรดักษาโรคความดดันโลหกิตสสูง กป็เพลือที่ ลดการเกกิด
ภาวะแทรกซช้อนตต่างๆ เหลต่านทนี้
วห ธทวดดั คคาความดดันโลหห ต
การวดัดคต่าความดดันโลหกิตสามารถวดัดไดช้ 3 แบบดดังนทนี้
1. Office BP measurement คลือ การวดัดความดดันโลหกิต โดยผสูเช้ ชทยที่ วชาญในสถานพยาบาลจะตช้องวดัดอยต่าง
นช้อย 2 ครดังนี้ แลช้วหาคต่าเฉลทยที่ ขช้อเสทยของวกิธนท นี้ท คลือ อาจเกกิดภาวะ “White-Coat hypertension” ซถึงที่ หมายถถึง ภาวะททมที่ ท
ความดดันโลหกิตสสูงเฉพาะเวลาททไที่ ปพบแพทยฑ์หรลืออยสูใต่ นสถานพยาบาล
2. Ambulatory BP monitoring คลือ การวดัดความดดันโลหกิตตลอด 24 ชดัวโมง ที่ ดช้วยเครลืที่องวดัดความดดันแบบ
ตกิดตามตดัว ประโยชนฑ์ของการวดัดความดดันโลหกิตดช้วยวกิธนท นี้ท คลือ สามารถตรวจภาวะ “White-Coat hypertension” ไดช้
และคต่าความดดันโลหกิตททวที่ ดดั ไดช้ มดักตกํที่ากวต่าคต่าททวที่ ดดั ไดช้ในสถานพยาบาล
3. Self-Measurement of BP คลือ การวดัดความดดันโลหกิตดช้วยตดัวผสูปช้ วต่ ยเองประโยชนฑ์ของการวดัดความดดันโลหกิต
วกิธนทนี้คอลื สามารถประเมกินการตอบสนองตต่อ antihypertensive therapy เพกิมที่ ความรต่วมมลือในการรดักษาและสามารถ
ประเมกินภาวะ White-Coat hypertension ไดช้
การตรวจวดัดความดดันโลหกิตนดันนี้ ทกําไดช้สะดวกและรวดเรป็ว โดยใชช้เครลืที่องมลือวดัดความดดันโลหกิต ททเที่ รทยกวต่า
Sphygmomanometer นกิยมอต่านคต่าความดดันโลหกิตในขณะอยสูใต่ นทต่านดังที่ หรลือนอนราบและผต่อนคลาย
ขช้อควรปฏกิบตดั กกิ ต่อนการตรวจวดัดความดดันโลหกิตมทดงดั นทนี้
• งดดลืมที่ กาแฟหรลือสสูบบสุหรทปที่ ระมาณ 30 นาทท กต่อนการตรวจวดัดความดดันโลหกิต
• ควรสวมเสลือนี้ แขนสดันนี้
• เขช้าหช้องนกํนี้าหรลือถต่ายปสดั สาวะใหช้เรทยบรช้อยกต่อนการตรวจวดัดความดดันโลหกิต เพราะวต่าถช้ากระเพาะปสดั สาวะเตป็มจะมทผล
ตต่อคต่าความดดันโลหกิตททอที่ ต่านไดช้
• นดังนกิที่ ที่ง ๆ ประมาณ 5 นาทท กต่อนการตรวจวดัดความดดันโลหกิต
(The Joint National Committee on Prevention, Detection, Evaluation and Treatment of High Blood
Pressure) Ref. JAMA 2003; 289 p 2560-72
NICE Guideline
(National Institute for Health and Clinical Excellence) Ref. www.nice.org.uk
เปผู้ าหมายในการรดักษา
Chronic kidney disease (CKD) มท GFR < 60 ml/min, SCr > 1.3-1.5 mg/dl,
or albuminuria > 300 mg/day or creatinine ≥ 200 mg/g
การรดักษาโรคความดดันโลหกิตสสูงมทหลดักการรดักษาทดัวไป
ที่ 2 ประการ คลือ การรดักษาโดยไมต่ใชช้ยาและการรดักษา
โดย ใชช้ยาลดความดดันโลหกิต
ตาราง Treatment JNC-VII guideline
Category Life style Initial drug therapy
modification Without compelling indications With compelling
indications
Normal Encourage - -
Prehypertension √ - √
Stage 1 HTN √ √ √
(Thiazide is preferred)
Stage 2 HTN √ √ √
(2-drug combination for most)
Stage 2 HTN ตช้องใชช้ 2 ตดัว รวมกดัน เพราะตช้องดถึง BP ลงมาเยอะมากและลด SE ของยาในแตต่ละตดัว แตต่ตอช้ งใหช้เปป็ นยา
ททอที่ อกฤทธกิ ธในตกําแหนต่งตต่างกดัน เพราะการเพกิมที่ dose จะเพกิมที่ SE
สรตป หลดักการรดักษา คลือ ใหช้เรกิมที่ ดช้วยการปรดับเลทยที่ นวกิถกท ารดกําเนกินชทวตกิ กต่อน หากไมต่สามารถลดความดดันไดช้ถงถึ เปช้ าหมาย
กป็ใหช้เรกิมที่ การรดักษาดช้วยยาตต่อไป ในผสูปช้ วต่ ยบางคนอาจใหช้เรกิมที่ การรดักษาดช้วยยารต่วมกดับการปรดับเปลทยที่ นการดกําเนกินชทวตกิ ไป
พรช้อมกดัน
หลดักการเรหที่มยา คลือ ใหช้เรกิมที่ ในขนาดตกํที่า ๆ กต่อน หลดังจากนดันนี้ จถึงคต่อย ๆ เพกิมที่ ขนาดยาตามการตอบสนองของผสูช้
ต่ปวย ยาททเที่ ลลือกใชช้ควรมทความสามารถในการควบคสุมความดดันโลหกิตอยต่างตต่อเนลืที่องตลอด 24 ชดัวโมง ที่ โดยการรดับประทาน
ต่
ยาเพทยงวดันละครดังนี้ เนลืที่องจากมทสต่วนชต่วยในการเพกิมที่ compliance ของผสูปช้ วย และทกําใหช้การควบคสุมความดดันเปป็ นไปอยต่าง
ตต่อเนลืที่อง และการใชช้ยามากกวต่าหนถึที่งตดัวในขนาดตกํที่าเพลือที่ เสรกิมฤทธกิ ธกดัน ทกําใหช้ลดการเกกิดอาการขช้างเคทยงไดช้
Common drugs used for hypertension (All reduces the complication of HTN)
Diuretics -- > Thiazide, Loop diuretics, Aldosterone antagonist
Beta-blockers
Angiotensin converting enzyme inhibitor (ACEI)
Angiotensin II receptor blocker (ARB)
Calcium channel blocker (CCB)
Diuretics
Pharmacy Khon Kaen University 95
Thiazide
– HCTZ, Chlorthalidone, Indapamide
– สต่วนใหญต่ใหช้แบบ monotherapy ในการรดักษา HTN เปป็ น 1st line drug แตต่กอป็ าจใหช้รต่วมกดับยาอลืที่น เชต่น
BB , ACEI , ARBs ไดช้ดวช้ ย การใหช้ตอช้ งดสู function การทกํางานของไตดช้วย หาก CrCl < 30
ml/min จะไมต่ไดช้ผล และการใชช้ low dose จะลด S/E ของยา HCTZ ( 12.5-25 mg/d )
– ADR : metabolic effect ทกําใหช้ระดดับ uric , นกํนี้าตาล , lipid ในเลลือดสสูง** และ hypokalemia ,
hypomagnesemia ซถึงที่ อาจทกําใหช้ muscle fatigue, cramps, cardiac arrhythmia
– monitor : electrolyte ,Uric acid , lipid , FBS , Sexual dysfunction
– แนะนกําใหช้คนไขช้จากํ กดัดอาหารเคป็ม เนลืที่องจากยากกําจดัด Na ออก หากคนไขช้ยงดั กกินเคป็มอยสูกต่ จป็ ะใชช้ยาไมต่ไดช้
ผล
– ** ยา Indapamide + Perindopril ใชช้สากํ หรดับคนไขช้ Previous Stroke
Potassium sparing diuretics เชต่น Amiloride ,Triamterene
– มทฤทธกิ ธในการขดับปสดั สาวะและรดักษาความดดันโลหกิตสสูงในระดดับอต่อน-ปานกลาง
– สต่วนใหญต่จะใชช้รต่วมกดับยาขดับปสดั สาวะทททที่ ากํ ใหช้สญ สู เสทย K (potassium-wasting diuretics) ตดัวอยต่างชลืที่อ
การคช้า Moduretic®, Dyazide®
– ADRs: Hyperkalemia
Loop diuretic เชต่น Furosemide, Bumetanide
– ใชช้ในผสูปช้ วต่ ยททตที่ อช้ งการขดับปสดั สาวะมาก เนลืที่องจากฤทธกิ ธแรง เชต่น CHF หรลือใชช้ใน renal
dysfunction (CrCl < 30 ml/min)
Aldosterone antagonist เชต่น Spironolactone
Beta blockers
กลไกการออกฤทธกิ ธ
– ทกําใหช้หวดั ใจเตช้นชช้าลง ( Negative chronotropic) และแรงบทบลดลง (negative inotropic ) โดยออก
ฤทธกิ ธททที่ β1 receptor
– ลดการหลดังที่ renin ซถึงที่ เปป็ นเอนไซมฑ์สากํ คดัญในการสรช้าง angiotensin II
เปป็ น First-line antihypertensive agents สกําหรดับผสูปช้ วต่ ย
– Ischemic heart disease
– prior myocardial infarction
– heart failure (for carvedilol, bisoprolol, metoprolol and nebivolol only)
96 Cardiovascular disease
1.Cardioselective
– ดสูการออกฤทธกิ ธในการ block beta1 เททยบกดับ beta2-receptors ซถึงที่ ถช้า block β1 ไดช้ อยต่างเดทยวจะ
เปป็ น cardioselective ซถึงที่ จะใชช้กบดั COPD, asthma, chronic bronchitis เนลืที่องจาก การ block β2 จะ
ทกําใหช้เกกิด bronchospasm
– Peripheral arterial disease เสทยที่ งตต่อการเกกิด gangrene เพราะการ block β2 ทกําใหช้ หลอดเลลือดหด
ตดัว
– DM เพราะการสรช้าง insulin จากตดับอต่อน ตช้องอาศดัยการกระตสุนช้ β2
ACE Inhibitors
เปป็ นยากลสุต่มททมที่ กท ารใชช้มากในผสูปช้ วต่ ยทดังนี้ ททมที่ แท ละไมต่มท co-morbidities โดยใชช้ใน compelling indications ประกอบดช้วย
– Diabetes
– CHF (combine with diuretic)
– Post-myocardial infarction (combine with beta blocker)
– Chronic kidney disease
– Previous stroke (Perindopril + Indapamide)
“ACEI ไมต่เหมลือน diuretics และ beta blockers เนลืที่องจากไมต่เพกิมที่ ระดดับ plasma lipid, glucose หรลือ uric acid”
MOA : blocks effects of AII at the angiotensin II subtype I receptor, do not block bradykinin degradation
Losartan (Cozaar®), Valsartan (Diovan®), Irbesartan (Approvel®), Candesartan
(Blopress®),Telmisartan (Micardis®), Olmesartan (Olmetec®) , Tasosartan
Compelling indication DM and non-DM nephropathy
ADRs and Contraindication: เหมลือน ACEI แตต่ไมต่มอท าการไอแหช้งๆ เนลืที่องจากไมต่ไดช้สะสม bradykinin
Monitoring : SCr, Potassium
o Dihydropyridine : Ankle edema, Headache, Dizziness, Flushing, Reflex tachycardia ซถึงที่ เปป็ น
ผลจากการขยายหลอดเลลือด วกิธแท กช้ไขขช้อบวมทกําไดช้โดย ใหช้รต่วมกดับ diuretic หรลือ ACEIs
Drug interaction
o Verapamil และ Diltiazem มทผล ↓↓↓ HR อยต่างมากๆ เมลืที่อใหช้รต่วมกดับ beta-blockers
o เปป็ น CYP3A4 inhibitor จถึงทกําใหช้ระดดับยา carbamazepine , simvastatin cyclosporine ,
tacrolimus, theophylline และยาอลืที่นๆเพกิมที่ ขถึนนี้ จนถถึง toxic ไดช้
o Dihydropyridines เปป็ น CYP3A4 substrate ซถึงที่ ยาททเที่ ปป็ น CYP3A4 inducer และ inhibitor จะมทผลตต่อ
ระดดับยาในเลลือดไดช้
Alpha-blockers
คทําแนะนทําสทําหรดับผสูผู้ปควยความดดันโลหห ตสสูง
• ลดนกํนี้าหนดักสต่วนเกกิน โดยควบคสุมนกํนี้าหนดักใหช้อยสูใต่ นเกณฑฑ์มาตรฐาน และรดับประทานอาหารททมที่ ปท ระโยชนฑ์ตต่อสสุขภาพ
โดยเนช้นผดัก, ผลไมช้ ลดอาหารประเภทไขมดัน
• ลดการรดับประทานอาหารรสเคป็มหรลือลดปรกิมาณเกลลือและโซเดทยมในอาหาร
• หลทกเลทยที่ งไมต่ใหช้เกกิดความเครทยด
• งดสสูบบสุหรทที่
• งดหรลือลดการดลืที่มเครลืที่องดลืที่มแอลกอฮอลฑ์
• ออกกกําลดังกายสมกํที่าเสมอแตต่พอประมาณ
• รดับประทานยาสมกํที่าเสมอตามแพทยฑ์สงดั ที่
• ตรวจวดัดความดดันโลหกิตสมกํที่าเสมอ
100 Cardiovascular disease
7.
Coronary Artery disease
2
เปป็ นโรคททเที่ กกิดขถึนนี้ จากรอยโรคททผที่ นดังหลอดเลลือดหดัวใจ coronary มทการสะสมของ oxidized LDL ทกําใหช้หลอด
เลลือดตทบแขป็ง (atherosclerosis) ทกําใหช้มกท ารกระตสุนช้ กระบวนการอดักเสบ มท macrophage มาเกาะกกิน เกกิดการแตกของ
ตะกรดันไขมดัน (atherosclerotic plaque) กระตสุนช้ กระบวนการ platelet aggregation ทกําใหช้เกกิดการอสุดตดันของหลอดเลลือด
สต่งผลใหช้กลช้ามเนลืนี้อหดัวใจขาดเลลือด สามารถแบต่งกลสุต่มของอาการตดังนี้ แตต่ระดดับรสุนแรงนช้อย ไปจนถถึงรสุนแรงมาก ไดช้ดงดั นทนี้
1.Chronic stable angina เปป็ นกลสุต่มอาการเรกิมที่ แรก ททหที่ ลอดเลลือดหดัวใจ มทการตทบ แตต่ยงดั ไมต่มกท ารอดักเสบและ
แตกของ plaque
2.Acute Coronary Syndrome เปป็ นกลสุต่มอาการหลอดเลลือดหดัวใจตทบ ททมที่ อท าการรสุนแรงขถึนนี้ เนลืที่องจากมทการ
อดักเสบและแตกของ plaque จนทกําใหช้เกกิดการอสุดตดัน สต่งผลใหช้เลลือดไปเลทยนี้ งกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจไดช้นช้อยลงกวต่าเดกิม
มาก จนกระทดังกลช้ ที่ ามเนลืนี้อหดัวใจขาดเลลือด แบต่งเปป็ น 3 ประเภท คลือ
- Unstable angina
- NSTEMI (non-ST segment elevation myocardial infarction)
- STEMI (ST-segment elevation myocardial infarction)
Chronic stable angina
อาการสกําคดัญคลือ ผสูปช้ วต่ ยมทอาการเจป็บแนต่นหนช้าอก เมลืที่อออกแรง โดยมดักมทอาการนานไมต่เกกิน 5 นาทท และอาการ
จะดทขนนี้ถึ หลดังจากททอที่ ม nitrate ใตช้ลนนี้กิ หรลือ พต่นสเปรยฑ์ หลดังจากนดันนี้ อาการจะคงททไที่ มต่กลดับเปป็ นซกํนี้าอทกในชต่วง 8 สดัปดาหฑ์
แนวทางการรดักษา
ผสูปช้ วต่ ย chronic stable angina ไมต่จากํ เปป็ นตช้องอยสูโต่ รงพยาบาล แบต่งประเภทการรดักษาไดช้ดงดั นทนี้
1. การรดักษาเพลือที่ ปช้องกดันการเกกิด MI ไดช้แกต่ antiplatelets เชต่น aspirin low dose , lipid-lowering agent
เชต่น HMG-CoA reductase inhibitor , ACEI
2. การรดักษาเพลือที่ ลดอาการปวด ลด ischemia ไดช้แกต่ B-blockers , Nitrates หรลืออาจพกิจารณาใหช้ calcium
channel blockers ถช้าใหช้ B-blockers ไมต่ไดช้
3. การรดักษา โดยลดปจดั จดัยเสทยที่ งและปรดับเปลทยที่ นการดกําเนกินชทวตกิ เชต่นหยสุดสสูบบสุรที่ท , รดักษาความดดันโลหกิตสสูง ,
ควบคสุมเบาหวาน , ลดระดดับไขมดันในเลลือด , ลดนกํนี้าหนดัก , ออกกกําลดังกาย
สาเหตต
อาการแสดงทางคลห นหก
- STEMI (ผสูปช้ วต่ ยททกที่ ลช้ามเนลืนี้อหดัวใจวายเฉทยบพลดัน) ในระยะแรก จะพบ T-wave สสูง รต่วมกดับมท
102 Cardiovascular disease
อาการเจป็บแนต่นหนช้าอก ตต่อมาจะเรกิมที่ มท ST-segment elevation มากกวต่า 1 มม. ขถึนนี้ ไป
และถช้าผสูปช้ วต่ ยมทอาการมาก จะพบ Q-wave ปรากฏใหช้เหป็น
- NSTEMI มดักตรวจพบ ST-segment depression รต่วมกดับ T-wave
inversion
- Unstable angina อาจมท ST-depression ไดช้บาช้ ง แตต่พบไมต่มากนดัก
Cardiac muscle enzyme หรลือ cardiac markers
เปป็ นตดัวททบที่ ต่งบอกวต่ามทการตายของเซลลฑ์กลช้ามเนลืนี้อหดัวใจ เนลืที่องมาจากการขาดเลลือด ททใที่ ชช้กนดั บต่อยๆ ในป จดั จสุบนดั
ไดช้แกต่ total CK (creatinine kinase) , CK-MB และ troponin-T
- STEMI จะพบวต่าการตรวจวดัด cardiac enzymes ไมต่ชต่วยในการวกินกิจฉดัย เนลืที่องจากกวต่าททรที่ ะดดับเอนไซมฑ์จะ
สสูงขถึนนี้ ผกิดปกตกิ ตช้องใชช้เวลาถถึง 3-6 ชดัวโมงที่ ซถึงที่ จะทกําใหช้ลต่าชช้าเกกินไป
- Unstable angina พบวต่าการตรวจระดดับเอนไซมฑ์มปท ระโยชนฑ์โดยเฉพาะ troponin T เนลืที่องจากหากพบวต่า
มทคต่าสสูงขถึนนี้ แสดงวต่าผสูปช้ วต่ ยไดช้มพท ฒ
ดั นาการของโรคไปเปป็ น NSTEMI แลช้ว ซถึงที่ ทกําใหช้มคท วามเสทยที่ งในการเสทย
ชทวตกิ เพกิมที่ ขถึนนี้ ถถึงแมช้ระดดับ CK-MB จะปกตกิกตป็ าม
การรดักษาดผู้วยยา
มทหลดักการในการรดักษาดดังนทนี้ คลือ สกิงที่ ททจที่ ากํ เปป็ นททสที่ สุดถช้าผสูปช้ วต่ ยมทภาวะกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจขาดเลลือด คลือการเปกิดหลอดเลลือดททตที่ บท
หรลืออสุดตดัน (revascularization) สต่วนยาททใที่ ชช้รกดั ษา มท 4 กลสุต่มหลดักไดช้แกต่
Anti-ischemic drugs
Antiplatelets
Anticoagulants
Trombolytic agents
Anti-ischemic drugs
Nitrates
ยากลสุต่ม นทนี้ ชต่วยลดอาการเจป็บแนต่นหนช้าอก โดยออกฤทธกิ ธขยายหลอดเลลือด(vasodilation) ซถึงที่ ผลตต่อหลอดเลลือด
แดง ทกําใหช้ลด afterload ตต่อการทกํางานของหดัวใจ และนอกจากนดันนี้ ยดังมทผลตต่อหลอดเลลือดดกําทกําใหช้ลด preload ลงดช้วย
จถึงทกําใหช้ hemodynamic ของผสูปช้ วต่ ยดทขนนี้ถึ ไดช้ ทกําใหช้อาการเจป็บหนช้าอกของผสูปช้ วต่ ยลดลง จถึงควรใหช้ nitrates แกต่ผปสูช้ วต่ ย ACS
ทสุกรายททไที่ มต่มขท อช้ หช้ามใชช้ยานทนี้ ถถึงแมช้ยาจะมทขอช้ ดทดงดั กลต่าว แตต่ขอช้ มสูลการศถึกษาปรากฏวต่า nitrates ไมต่มผท ลลดอดัตราการตาย
ดดังนดันนี้ จถึงใชช้เปป็ นเพทยงแคต่ยาบรรเทาอาการ ยากลสุต่มนทนี้มหท ลายรสูปแบบ ทดังนี้ แบบอมใตช้ลนนี้กิ , ฉทดเขช้าหลอดเลลือดดกํา , รดับ
ประทาน , แปะหนช้าอก
Beta-blockers
ยากลสุต่มนทนี้สามารถลดโอกาสเกกิด MI และลดปรกิมาณกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจขาดเลลือดไดช้ ผสูปช้ วต่ ย ACS ทสุกรายททไที่ มต่มขท อช้
หช้ามใชช้ ควรไดช้ยากลสุต่มนทนี้
Calcium-channel blockers
จากการศถึกษาททผที่ ต่านมา ยดังไมต่พบวต่ามท calcium-channel block ตดัวไหนททสที่ ามารถปช้องกดันการเกกิด MI หรลือลด
อดันตรายไดช้ ดดังนดันนี้ ปจดั จสุบนดั จถึงมทขอช้ แนะนกําใหช้ใชช้ ยากลสุต่มนทนี้ เพลือที่ ควบคสุมอาการหดัวใจขาดเลลือดหรลือลดอาการ angina ในผสูช้
ปวต่ ยททไที่ มต่สามารถทนตต่อ nitrates และ B-blockers หรลือใหช้เพกิมที่ เตกิมในผสูปช้ วต่ ยททไที่ ดช้ nitrates และ B-blockers ในขนาดททที่
เหมาะสมอยสูแต่ ลช้วแตต่ยงดั ไมต่สามารถคสุมอาการ angina หรลือความดดันโลหกิตสสูงไดช้ ขช้อควรระวดัง คลือ ไมต่ควรใหช้ calcium
channel blockers ในผสูปช้ วต่ ยททมที่ ภท าวะหดัวใจลช้มเหลว เนลืที่องจากจะทกําใหช้อาการผสูปช้ วต่ ยแยต่ลง
Antiplatelet (ยาตผู้านเกลป็ดเลรือด)
Aspirin
Pharmacy Khon Kaen University 103
I. STEMI
เมลืที่อวกินกิจฉดัยวต่าเปป็ น STEMI การรดักษาในชต่วงแรกททผที่ ปสูช้ วต่ ยควรไดช้รบดั คลือ aspirin 160-325 mg. เคทยนี้ วและ
กลลืนทดันทท รต่วมกดับ clopidogrel 300 mg. รดับประทานทดันทท หากผสูปช้ วต่ ยมทอาการเจป็บหนช้าอกมากใหช้
nitrates อมใตช้ลนนี้กิ หรลือหยดเขช้าหลอดเลลือดดกํา ฉทด morphine และใหช้ ออกซกิเจน ขดันนี้ ตอนตต่อไปใหช้
พกิจารณาเลลือกวกิธกท ารรดักษาเพลือที่ ใหช้เลลือดไปเลทยนี้ งกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจและลดอดัตราการตายของกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจ
ผสูปช้ วต่ ย STEMI ททมที่ าถถึงโรงพยาบาลภายใน 3 ชดัวโมงหลดั
ที่ งจากททเที่ รกิมที่ มทอาการ ควรจะไดช้รบดั การรดักษา
โดยวกิธใท หช้ยาละลายลกิมที่ เลลือด(thrombolytic agents) หรลือ การสวนหลอดเลลือดอยต่างเรต่งดต่วนถช้าอยสูใต่ นโรง
พยาบาลททสที่ ามารถทกําไดช้ ในกรณททผที่ท ปสูช้ วต่ ยมาชช้าหลดังจาก 3 ชดัวโมงแตต่
ที่ ที่ หากผสูปช้ วต่ ยยดังมท
ไมต่เกกิน 6 ชดัวโมง
อาการแนต่นหนช้าอกอยสูกต่ ยป็ งดั อาจพกิจารณาใหช้ยาละลายลกิมที่ เลลือดไดช้ แมช้วต่าโอกาสททเที่ ปกิดหลอดเลลือดไดช้สากํ เรป็จจะ
ลดลงกป็ตาม เนลืที่องจากการไดช้ยาละลายลกิมที่ เลลือดกต่อนในระยะเวลาททรที่ วดเรป็วเพทยงพอ จะทกําใหช้การเปกิด
หลอดเลลือดมทโอกาสประสบความสกําเรป็จมากยกิงที่ ขถึนนี้
II. NSTEMI
เมลืที่อวกินกิจฉดัยวต่าเปป็ น NSTEMI การรดักษาในชต่วงแรกททผที่ ปสูช้ วต่ ยควรไดช้รบดั คลือ aspirin 160-325 mg. รต่วมกดับ
clopidogrel 300 mg. , ฉทด LMWH หรลือ UFH , B-blockers และใหช้ nitrates รดับประทาน หรลือฉทด
เขช้าหลอดดกําหากมทอาการเจป็บแนต่นหนช้าอก ผสูปช้ วต่ ยควรไดช้รบดั ออกซกิเจน และ morphine เพลือที่ ลดอาการปวด
ขดันนี้ ตอนตต่อไปไดช้แกต่ ประเมกินความเสทยที่ งตาม TIMI – score
- กลสุต่ม high/moderate risk ผสูปช้ วต่ ยกลสุต่มนทนี้มกดั มทอาการรสุนแรง มทระดดับ troponin สสูงขถึนนี้ , มทคลลืที่นไฟฟช้าหดัวใจททที่
ผกิดปกตกิ หรลือผสูปช้ วต่ ยมทอาการหดัวใจลช้มเหลว ควรใหช้การรดักษาโดย การวางแผนทกําการสวนหลอดเลลือดหดัวใจ
ทดันทททสที่ท ามารถทกําไดช้ และทกําการขยายหลอดเลลือดหรลือทกําบายพาสหดัวใจ แลช้วแตต่ความรสุนแรงของการอสุด
ตดันของหลอดเลลือดหดัวใจ โดยอาจพกิจารณาใหช้ GP IIb/IIIa receptor antagonists ขณะทกําการขยาย
หลอดเลลือด
- กลสุต่ม low risk ผสูปช้ วต่ ยกลสุต่มนทนี้มอท าการเจป็บหนช้าอกไมต่รสุนแรง , ระดดับ troponin ปกตกิ ไมต่มกท ารเปลทยที่ นแปลง
คลลืที่นไฟฟช้าหดัวใจ ผสูปช้ วต่ ยควรไดช้รบดั การทกํา stress test เพลือที่ ยลืนยดันการวกินกิจฉดัยและประเมกินความเสทยที่ ง ถช้าผสูช้
ปวต่ ยมทความผกิดปกตกิไมต่มากอาจใหช้การรดักษาดช้วยการรดับประทานยาตต่อไปกต่อน
No ST elevation ST elevation
STEMI
Unstable angina NSTEMI -พบ cardiac enzyme
-ไมต่มท cardiac enzyme -พบ cardiac enzyme -พบ ST elevation
-ไมต่พบ ST ผกิดปกตกิ (อาจพบ -พบ ST depression รต่วม และ Q wave
ST depression ไดช้บาช้ ง) กดับ T wave inversion
STEMI NSTEMI/UA
7.
Arrhythmia
3
ไฟฟผู้ าสรทรวห ทยาของหดัวใจ ประกอบดผู้วย
1. sinoatrial node (SA node) เปป็ นกลสุต่มเนลืนี้อเยลือที่ ของกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจททลที่ กดั ษณะพกิเศษ โดยเฉพาะคลือ เปป็ น
pace maker ของหดัวใจ ตกําแหนต่งอยสูต่ทบที่ท รกิเวณแนวตต่อของ Superior vena cava กดับ Right atrium โดยมท
หลอดเลลือด SA node artery และมทปลายประสาท Sympathetic และ Parasympathetic อยสูเต่ ปป็ นจกํานวนมาก
เปป็ นตกําแหนต่งททใที่ หช้คลลืที่นไฟฟช้า Excitation wave ไปยดัง conducting tissue ของหดัวใจ
2. Atrioventricular node (AV node) อยสูภต่ ายในผนดัง right atrium เหนลือลกินนี้ หดัวใจ Tricuspid คลลืที่นไฟฟช้าหดัวใจ
จาก AV node ไปยดัง SA node ใชช้เวลาประมาณ 0.04-0.12 วกินาทท
3. Bundle of His ตคอออกจาก AV node เขช้าไปในเนลืนี้อของผนดังกดันนี้ ระหวต่าง Ventricle แลช้วแยกเปป็ น 2 แขนง คลือ
Left และ Right bundle branch สดัญญาณไฟฟช้าเรกิมที่ ททที่ SA node ผต่าน Bundle of His ไปสสูต่ Left และ Right
bundle branch อยต่างรวดเรป็วเขช้าสสูต่ Perkinje fiber มทผลทกําใหช้เกกิด depolarization ของ Ventricle คลลืที่นตต่าง
ๆ ททบที่ นดั ทถึกไดช้จะสะทช้อนใหช้เหป็นการทกํางานของหดัวใจระยะตต่าง ๆ
คตณสมบดัตหทางไฟฟผู้ าของเซลลล์กลผู้ามเนรืรื้ อหดัวใจ
1.automaticity : สามารถสรช้างกระแสไฟฟช้าไดช้เอง
2.conductivity : สามารถสต่งกระแสผต่านไปยดังเซลลฑ์หวดั ใจอลืที่นๆ ไดช้
3.Excitability : สามารถกระตสุนช้ ไดช้
Pharmacy Khon Kaen University 109
4.contractility : กลช้ามเนลืนี้อหดัวใจสามารถบทบตดัวไดช้
Phase Events
0 เกกิดการเคลลืที่อนททขที่ อง Na เขาเซลลอยางรวดเรป็วผา
+
หลดักการเกห ดโรค
Dysrhythmias หรรือ Arrhythmias
คลือความผกิดปกตกิของอดัตราหรลือจดังหวะการเตช้นของหดัวใจ (เรป็วเกกินไป , ชช้าเกกินไป , ไมต่มจท งดั หวะของการหดตดัว)
หรลือความผกิดปกตกิของแหลต่งกกําเนกิด cardiac impulse ตามปกตกิ SA node จะใหช้กกําเนกิดประจสุไฟฟช้า 60-100 ครดังนี้ /นาทท
ปดัจจดัยททที่ทาทํ ใหผู้เกห ดโรค
1. หดัวใจขาดเลลือด
2. ความไมต่สมดสุลของระบบประสาท sympathetic กดับ parasympathetic
3. Acidosis
110 Cardiovascular disease
4. Electrolyte ผกิดปกตกิ
5. ยา เชต่น digoxin , Quinidine
6. Cardiomyopathy
การรดักษาหดัวใจเตผู้นผห ดจดังหวะ
1. ใชช้ยา Antiarrhythmic drug
2. ไมต่ใชช้ยา
- Automatic implantable cardioverterdefibrillators (ICDs)
- Antitachycardia pacemakers
- Catheter ablation
- Surgery
Pharmacy Khon Kaen University 111
AF = atrial fibrillation
MI = Myocardial infarction
AA = Atrial arrhythmia
SA = Supraventricular arrhythmia
VA = Ventricular arrhythmia
**ควรดสูใหผู้พอรสูผู้ไวผู้วคายาตดัวไหนออกฤทธหธ ททที่ใด
Indication
- IV : acute VA จะเกกิด hypotension นช้อยกวต่า quinidine
- PO : SV and VA
ADR
- Hypotension (IV up to 5 %)
- *** เมลืที่อใชช้ long term จะเกกิด SLE like symptom (25 – 30%)
DI
- Decrease metabolism of Amiodarone
3. Disopyramide (IA)
Pharmacy Khon Kaen University 113
Indication
- PO : prevent VA ** มดักใชช้ในกรณททคที่ท นไขช้ไมต่ตอบสนองตต่อยาตดัวอลืที่น
ADR
- ** มทฤทธกิ ธ antichoinergic สต่งผลใหช้ ปากแหช้ง ตาพรต่า ทช้องผสูก จถึงตช้องระวดังในผสูปช้ วต่ ยสสูงอายสุ
3. Tocainide
Indication : ปช้องกดัน VT
ADR
- Agranulocytosis (ควรแนะนกําใหช้ตรวจเลลือดเปป็ นระยะ ๆ)
4. Phenytoin Sodium
Indication : ใชช้ใน arrhythmia ททเที่ กกิดจากพกิษของ digitalis , ปช้องกดัน VT
ADR
- Hypotention , gingival hyperplasia , brandycardia
ยาออกฤทธกิ ธในการยดับยดังนี้ ททที่ -adrenergic receptor ททหที่ วดั ใจ ซถึงที่ ยาททใที่ ชช้ในการรดักษาการเตช้นของหดัวใจททผที่ ดกิ
จดังหวะไดช้แกต่ propanolol, acebutalol, esmolol และยาททใที่ ชช้ปช้องกดันการเตช้นของหดัวใจผกิดจดังหวะหลดังจากการเกกิด
myocardial infarction ไดช้แกต่ timolol, metoprolol, propranolol ยาในกลสุต่มนทนี้จะสามารถออกฤทธกิ ธไดช้ดเท มลืที่อรต่างกายมทการก
ระตสุนช้ ททที่ -adrenergic receptor เชต่นขณะออกกกําลดังกาย ดดังนดันนี้ ยาในกลสุต่มนทนี้จงถึ มดักใชช้ในการควบคสุมการเตช้นของหดัวใจ
ขณะททอที่ อกกกําลดังกายไดช้
1. Propanolol (II)
Indication : SVT , VT , Sinus tachycardia
ADR
- ระวดังในผสูปช้ วต่ ย Asthma และ DM
- BP drop
Atrial Fibrillation
Pharmacy Khon Kaen University 115
ภาวะททที่ atrium เกกิด depolarization ดวยอดัตราเรป็วททสที่ สูงมาก มากกวา 400 ครดังนี้ ตอนาทท จดังหวะ
depolarization ของทดังนี้ atrium และ ventricle จะไมสมทําที่ เสมอ (irregular) เชลืที่อวามทสญ
ดั ญาณไฟฟาจกํานวนมา
กวนเวทยนอยสูภายใน atrium และสดัญญาณททเที่ กกิดขถึนนี้ จะถสูกสงผาน AV node ไปยดัง ventricle
อยางไมสมกํที่าเสมอจถึงทกําใหจดังหวะการบทบตดัวของ ventricle ไม สมกํที่าเสมอ ถาหากสดัญญาณไฟฟาถสูก
สงผานไปยดังvenricle ไดมากกป็จะทกําใหเกกิดการบทบตดัวของ ventricle เรป็วกวาปกตกิ ทกําใหเวลาในการไหล
ของเลลือดเขาสสู ventricle ลดลง ผลคลือ preload และ cardiac output ลดลง นอกจากนทนี้ ในภาวะ atrial fibrillation,
atrium จะไมสามารถบทบตดัวไลเลลือดลงสสู ventricle ไดอยางมทประสกิทธกิภาพ เนลืที่องจากเซลลกลามเนลืนี้อ
หดัวใจของ atrium ไมมทการบทบตดัวอยางพรอมเพทยงกดัน (สสูญเสทย atrial kick) จถึงทกําให preload และ cardiac
output ลดลงอทกดวย
แนวทางการรดั กษาผสูปวยททที่ไดรดับการวห นหจฉดั ยดวย atrial fibrillation เปนครดังรื้ แรก ซถึงที่ อาจ
เปนไดทดังนี้ paroxysmal (สวนใหญมดัก spontaneously convert เขาสสู sinus rhythm ภายใน 24-48
ชวโมง) หรลือ persistent (เปนยาวนานกวา 7 วดัน) จะเหป็นวาในผสูปวยททไที่ ดรดับการทกํา
cardioversion แลว การใหยา antiarrhythmic drug ในระยะยาวนดันนี้ ไมแนะนกํา
7.
Heart Failure
4
Cardiac output
หมายถถึง ปรกิมาตรเลลือดททถที่ สูกฉทดออกจากหดัวใจตต่อหนถึที่งหนต่วยเวลา โดยมดักจะใชช้หนต่วย ลกิตรตต่อนาทท ป จดั จดัยททที่
กกําหนด cardiac output ไดช้แกต่ อดัตราการเตช้นของหดัวใจ (ครดังนี้ /นาทท) และ stroke volume ซถึงที่ เปป็ นปรกิมาตรของเลลือดททฉที่ ทด
ออกจากหดัวใจตต่อการเตช้นครดังนี้ หนถึที่งๆ หนต่วยเปป็ น ลกิตร/ครดังนี้
Cardiac output (L/min) = heart rate x stroke volume
Stroke volume
ปจดั จดัยททกที่ กําหนด stroke volume ไดช้แกต่
1. Preload or Venous return ตาม Frank-Starling’s law of the heart กลต่าวถถึงความสดัมพดันธฑ์ของปรกิมาณ
เลลือดททถที่ สูกฉทดออกจากหดัวใจ (Stroke volume) กดับปรกิมาณเลลือดททไที่ หลกลดับเขช้าสสูต่หวดั ใจ (Venous return). โดยปกตกิหวดั ใจมท
ความสามารถททจที่ ะเพกิมที่ แรงในการบทบตดัว (Force of contraction) ไดช้เมลืที่อปรห มาณเลรือดททที่อยสูคในหผู้องหดัวใจกคอนหดัวใจ
บทบตดัว (Preload or venous return) เพกิมที่ ขถึนนี้ ทดังนี้ นทนี้เนลืที่องจากเมลืที่อ preload เพกิมที่ ขถึนนี้ เซลลฑ์กลช้ามเนลืนี้อหดัวใจ (cardiac
myocyte) กป็จะยลืดตดัว (stretching) เพกิมที่ ขถึนนี้ มทผลใหช้แรงททเที่ กกิดขถึนนี้ จากการหดตดัวของกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจเพกิมที่ ขถึนนี้ ดช้วย. การเพกิมที่
แรงในการบทบตดัวของหดัวใจเมลืที่อมทการเพกิมที่ preload นดันนี้ มทขดท จกํากดัด เนลืที่องจากแรงในการบทบตดัวจะไมต่เพกิมที่ ขถึนนี้ อทกตต่อไป เมลืที่อ
ความยาวของเซลลฑ์กลช้ามเนลืนี้อหดัวใจถสูกยลืดถถึงจสุดๆหนถึที่ง ในทาง hemodynamic คต่าของ preload มดักถสูกวดัดเปป็ น left
ventricular end-diastolic volume (LVEDV) หรลือ left ventricular end-diastolic pressure (LVEDP) ความสดัมพดันธฑ์
ของ stroke volume และ preload นดันนี้ แสดงในรสูปททที่ 1.
2. Cardiac contractility or Inotropic state คลือความสามารถในการบทบตดัวของหดัวใจโดยไมต่มคท วาม
เกทยที่ วขช้องกดับการยลืดของเซลลฑ์กลช้ามเนลืนี้อหดัวใจหรลือการเพกิมที่ ของ preload (ไมต่ใชต่กลไก Frank-Starling). Contractility หรลือ
inotropy state ของกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจจะเพกิมที่ ขถึนนี้ หาก มทการกระตสุนช้ sympathetic nervous system (SNS), มทระดดับของ
catecholamines เพกิมที่ ขถึนนี้ , ยาบางตดัวเชต่น digoxin, dopamine, dobutamine สามารถเพกิมที่ contractility ของหดัวใจ.
Contractility มทผลตต่อ stroke volume ดดังแสดงใน Ventricular function curve ของรสูปททที่ 2.
Pharmacy Khon Kaen University 119
การแบคงประเภทโรคหดัวใจลผู้มเหลว
1. การแบคงตามลดักษณะการททํางานททที่ผหดปกตห ของหผู้องหดัวใจ แบต่งไดช้เปป็ น 3 ประเภท คลือ
120 Cardiovascular disease
a. Systolic heart failure ภาวะหดัวใจลช้มเหลวททเที่ กกิดขถึนนี้ เนลืที่องจากความผห ดปกตห ของการบทบตดัว
(Contraction or Inotropy) สสูบฉทดเลลือดออกจากหดัวใจหช้องลต่าง ทกําใหช้ปรกิมาณเลลือดททอที่ อกจากหดัวใจ (cardiac output)
ลดลง มดักเรทยกภาวะททเที่ กกิดขถึนนี้ เนลืที่องจากการบทบตดัวของหดัวใจผกิดปกตกินนี้วท ต่า ‘Systolic dysfunction’
ผสูปช้ วต่ ยดช้วย systolic heart failure จะมทคต่า ejection fraction ตกํที่ากวต่า 40% (EF< 40%) ผสูปช้ วต่ ยททมที่ คท ต่า EF
ระหวต่าง 40-60% นดันนี้ จะจดัดวต่ามท mild systolic dysfunction.
b. Diastolic heart failure ภาวะหดัวใจลช้มเหลวททเที่ กกิดขถึนนี้ เนลืที่องจากความผห ดปกตห ของการคลายตดัว
(Relaxation or Lusitropy) ของกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจ หรลือ ความผห ดปกตห อรืที่นๆททที่ทาทํ ใหผู้การกลดับครืนของเลรือดกลดับเขผู้าสสูค
หดัวใจเปป็ นไปไดผู้นผู้อยลง (เชต่น ลกินนี้ หดัวใจตทบตดัน เปป็ นตช้น) ทกําใหช้หวดั ใจหช้องลต่างซช้ายไมต่สามารถรดับเลลือดททไที่ หลกลดับเขช้าสสูต่หวดั ใจ
(Ventricular filling หรลือ preload) ไดช้เตป็มททที่ ทกําใหช้เกกิดผลตต่อเนลืที่องคลือ cardiac output ลดลง ตามกฎของ Frank Starling
ผสูปช้ วต่ ยดช้วย diastolic heart failure จะมท normal ejection fraction (EF > 60%) ประมาณ 1 ใน 3 ของผสูปช้ วต่ ย
ดช้วยภาวะหดัวใจลช้มเหลวจะมทภาวะ diastolic heart failure โดยไมต่มท systolic heart failure.
c. Combination of systolic and diastolic heart failure
2. การแบคงตามความสามารถในการกระททํากห จกรรมของผสูผู้ปควย (Functional classification)
เปป็ นการแบต่งผสูปช้ วต่ ยโรคหดัวใจลช้มเหลวตามความสามารถในการกระทกํากกิจกรรมตต่างๆของผสูปช้ วต่ ย ททใที่ ชช้มากกป็คอลื
การแบต่งตาม New York Heart Association (NYHA) ซถึงที่ ใชช้กนดั บต่อยในการประเมกินสภาวะผสูปช้ วต่ ยทดังนี้ ทางคลกินกิกและการ
ทกําวกิจยดั มดักรสูจช้ กดั กดันวต่าเปป็ น ‘New York Heart Association Functional Classification of Heart Failure’ ซถึงที่ แบต่งผสูช้
ปวต่ ยเปป็ น 4 กลสุต่มดดังนทนี้
a. NYHA funcional class I ผสูปช้ วต่ ยไมต่มอท าการใดๆ สามารถกระทกํากกิจกรรมปกตกิ (Ordinary physical
activity) ไดช้โดยไมต่มอท าการหายใจลกําบาก หอบเหนลืที่อย
b. NYHA functional class II ผสูปช้ วต่ ยมทขอช้ จกํากดัดบช้างเพทยงเลป็กนช้อย (slight limitation) ในการกระทกํากกิจกรรม
ปกตกิ โดยผสูปช้ วต่ ยมดักมทอาการเมลืที่อกระทกํากกิจกรรมททตที่ อช้ งออกแรงมากๆ ซถึงที่ ทกําใหช้เกกิดอาการหายใจลกําบากหรลือหอบเหนลืที่อย
เปลทยนี้ ลช้า เปป็ นตช้น
c. NYHA functional class III ผสูปช้ วต่ ยมทขอช้ จกํากดัดมากพอสมควรในการกระทกํากกิจกรรมปกตกิ โดยมทอาการ
หายใจลกําบากหรลือหอบเหนลืที่อยอยต่างรวดเรป็วเมลืที่อกระทกํากกิจกรรมททไที่ มต่ตอช้ งออกแรงมาก แตต่จะไมต่มอท าการขณะพดัก (No
symptoms at rest)
d. NYHA functional class IV ผสูปช้ วต่ ยมทขอช้ จกํากดัดอยต่างมากในการกระทกํากกิจกรรมปกตกิ มทอาการเหนลืที่อยหอบ
ขณะพดัก (symptoms at rest)
3. การแบคงตามสภาวะของการดทําเนห นไปของโรค (staging of disease progression)
เปป็ นการแบต่งสภาวะของโรคหดัวใจลช้มเหลวตามการดกําเนกินไปของโรค โดยเปป็ นการแบต่งตามคกําแนะนกําของ
American Heart Association และ American College of Cardiology แบต่งไดช้ดงดั นทนี้
a. Stage A เปป็ นผสูปช้ ต่วยยดังไมต่ไดช้รบดั การวกินกิจฉดัยดช้วยโรคหดัวใจลช้มเหลว ไมต่มคท วามผกิดปกตกิของกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจหรลือ
อาการของภาวะหดัวใจลช้มเหลว แตต่เปป็ นผสูปช้ วต่ ยททมที่ คท วามเสทที่ยงสสูงตคอการพดัฒนาไปเปป็ นโรคหดัวใจลผู้มเหลว ตดัวอยต่าง เชต่น
ผสูปช้ วต่ ยททมที่ ท hypertension, atherosclerotic diseases ของหลอดเลลือด (หลอดเลลือดหดัวใจ สมอง อวดัยวะสต่วนปลาย เชต่น
แขน ขา ไต ชต่องทช้อง), diabetes, obesity, metabolic syndrome หรลือ ผสูปช้ วต่ ยททไที่ ดช้รบดั ยาททมที่ ผท ลทกําลายเซลลฑ์กลช้ามเนลืนี้อ
หดัวใจ เชต่น ยามะเรป็ง, ผสูปช้ วต่ ยททมที่ ปท ระวดัตคกิ นในครอบครดัวเปป็ น cardiomyopathy
b. Stage B เปป็ นผสูปช้ ต่วยททยที่ งดั ไมต่ไดช้รบดั การวกินจดั ฉดัยดช้วยโรคหดัวใจลช้มเหลว และไมต่มอท าการของภาวะหดัวใจลช้มเหลว
แตต่จะพบความผห ดปกตห ของหดัวใจ (structural abnormalities) เชต่น ผสูปช้ วต่ ยมทภาวะกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจตาย กลช้ามเนลืนี้อหดัวใจ
โต (left ventricular hypertrophy), โรคของลกินนี้ หดัวใจ, มทคต่า ejection fraction ตกํที่า แตต่ยงดั ไมต่มอท าการ เปป็ นตช้น
c. Stage C เปป็ นผสูปช้ ต่วยททไที่ ดช้รบดั การวกินกิจฉดัยดช้วยโรคหดัวใจลช้มเหลว คลือ มทอาการของภาวะหดัวใจลช้มเหลวปรากฎ
ขถึนนี้ และมดักมทความผกิดปกตกิของโครงสรช้างหดัวใจถสูกตรวจพบดช้วย เชต่น ผสูปช้ วต่ ยททมที่ อท าการหายใจหอบเหนลืที่อยเวลาออกแรง
ออกแรงทกํางานไดช้นช้อยลง นอนราบไมต่ไดช้ เปป็ นตช้น
d. Stage D เปป็ นผสูปช้ ต่วยททไที่ ดช้รบดั การวกินกิจฉดัยดช้วยโรคหดัวใจลช้มเหลว โดยเปป็ นผสูปช้ วต่ ยททมที่ อท าการหดัวใจลช้มเหลวในขดันนี้
รสุนแรง เชต่น มทอาการขณะพดักทดังนี้ ๆ ททไที่ ดช้รบดั การรดักษาดช้วยยาอยต่างเหมาะสมแลช้ว จดัดเปป็ น refractory heart failure รวมถถึง
Pharmacy Khon Kaen University 121
ผสูปช้ วต่ ยททจที่ ากํ เปป็ นตช้องอาศดัยเครลืที่องมลือหรลือวกิธกท ารพกิเศษททชที่ ต่วยใหช้ดากํ รงชทวตกิ อยสูไต่ ดช้ เชต่น ventricular assisted device, chronic
inotropes therapy เปป็ นตช้น
พยาธห สรทรวห ทยาของโรคหดัวใจลผู้มเหลว
สาเหตต (Causes)
สาเหตสุสากํ คดัญททกที่ ต่อใหช้เกกิดภาวะหดัวใจลช้มเหลวอาจแบต่งไดช้เปป็ น 3 สาเหตสุสากํ คดัญ คลือ
1. สาเหตตททที่ทาทํ ใหผู้เกห ดพยาธห สภาพของกลผู้ามเนรืรื้ อหดัวใจ เชต่น
a. Ischemic heart disease โดยเฉพาะอยต่างยกิงที่ myocardial infarction เนลืที่องจากการสสูญเสทยเซลลฑ์กลช้ามเนลืนี้อ
หดัวใจ สาเหตสุนนี้มท กดั ทกําใหช้เกกิด systolic heart failure มากกวต่า diatolic heart failure
b. โรคกลผู้ามเนรืรื้ อหดัวใจพห การ (cardiomyopathies) เปป็ นโรคของกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจททหที่ าสาเหตสุทแที่ท ทช้จรกิงไมต่ไดช้
หรลือสาเหตสุยงดั ไมต่ชดดั เจน ทททที่ ากํ ใหช้เกกิดภาวะหดัวใจลช้มเหลวไดช้เชต่น
(1) Dilated cardiomyopathy มทการขยายใหญคของชคองภายในหดัวใจหช้องลต่างซช้าย โดยไมต่เพกิมที่ ความหนา
ของกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจ มทผลทกําใหช้แรงในการบทบตดัวของหดัวใจลดลง สาเหตสุนนี้จท งถึ ทกําใหช้เกกิด systolic heart failure
(2) Hypertrophic cardiomyopathy มทการขยายใหญต่ของผนดังกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจหช้องลต่าง โดยเซลลฑ์กลช้ามเนลืนี้อ
หดัวใจจะมทขนาดใหญต่ขนนี้ถึ แตต่เรทยงตดัวอยต่างผกิดรสูปแแบบ (disarray) พยาธกิสภาพนทนี้ทากํ ใหช้ผนดังหดัวใจไมต่ยดลื หยสุนต่ และการคลาย
ตดัวของกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจผกิดปกตกิไป จถึงทกําใหช้เกกิด diastolic heart failure.
(3) Restrictive cardiomyopathy ไมต่พบการเปลทยที่ นแปลงในแงต่ขนาดของชต่องภายในหช้องหดัวใจหรลือความ
หนาของผนดังกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจ แตต่กลดับพบวต่าผนดังกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจมทความยลืดหยสุนต่ ลดลง ไมต่สามารถททจที่ ะคลายตดัวไดช้อยต่าง
ปกตกิ จถึงทกําใหช้เกกิด diastolic heart failure
c. ภาวะกลผู้ามเนรืรื้ อหดัวใจอดักเสบ (myocarditis) ภาวะกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจอดักเสบจากการตกิดเชลือนี้ พกิษของยา หรลือ
สารเคมท เปป็ นตช้น
2. สาเหตตททที่เกทที่ยวขผู้องกดับลหรื้นหดัวใจ ไดช้แกต่ Valvular stenosis or regurgitation (aortic, pulmonic, mitral,
tricuspid valve) เปป็ นภาวะททลที่ นนี้กิ หดัวใจทกํางานบกพรต่องไป
a. ในกรณทของ ‘stenosis’ หรลือ ลหรื้นหดัวใจตทบตดัน ทกําใหช้การสต่งผต่านของเลลือดจากหดัวใจหช้องหนถึที่งไปยดังอทกหช้อง
หนถึที่ง (ในกรณทของ mitral และ tricuspid valve stenosis) เกกิดขถึนนี้ นช้อยลง ทกําใหช้เกกิดการลดลงของ preload จถึงเกกิด
diastolic heart failure ไดช้ หรรือ การสต่งผต่านของเลลือดจากหดัวใจหช้องลต่างไปยดังปอด (ในกรณทของ pulmonic valve
stenosis) หรลือจากหดัวใจหช้องลต่างไปยดังรต่างกาย (ในกรณทของ aortic valve stenosis) ลดลง ทกําใหช้เกกิด systolic heart
failure ไดช้
b. ในกรณทของ ‘regurgitation’ หรลือ ‘insufficiency’ หรลือ ลหรื้นหดัวใจรดัวที่ ทกําใหช้เลลือดไหลยช้อนกลดับไปยดังหช้อง
หดัวใจหช้องบน (ในกรณทของ mitral regurgitation หรลือ tricuspid regurgitation), จาก pulmonary artery ยช้อนกลดับไปยดัง
right ventricle (ในกรณทของ pulmonic valve regurgitation) หรลือจาก aorta (ในกรณทของ aortic regurgitation) กลดับ
มายดัง left ventricle การมทลนนี้กิ หดัวใจรดัวไมต่ ที่ วต่าจะเปป็ นลกินนี้ หดัวใจใดกป็ตาม จะทกําใหช้เกกิดภาวะเลลือดคดังภายในหช้
ที่ องหดัวใจหช้องลต่าง
(volume overload) จถึงเพกิมที่ ปรกิมาณเลลือดททหที่ วดั ใจตช้องบทบตดัวสต่งเลลือดออกไปนอกหดัวใจ (increased preload) ซถึงที่ ทกําใหช้เกกิด
ภาวะหดัวใจโตไดช้ในททสที่ สุด (cardiac hypertrophy) ตามมาดช้วย systolic heart failure.
3. สาเหตสุอที่นลื ๆ (ททไที่ มต่ไดช้เกกิดจากกลช้ามเนลืนี้อหรลือลกินนี้ หดัวใจ) ทททที่ ากํ ใหช้หวดั ใจตผู้องททํางานมากขพึรื้น (increased
cardiac workload) เพลือที่ สต่งเลลือดปรกิมาณเทต่าเดกิมไปยดังสต่วนตต่างๆของรต่างกาย แบต่งเปป็ น 2 สาเหตสุหลดักๆ คลือ สาเหตสุทมที่ท ท
ผลเพกิมที่ แรงตช้านในการบทบตดัวของหดัวใจ (pressure overload) หรลือ มทผลเพกิมที่ ปรกิมาตรภายในหช้องหดัวใจใหช้มากขถึนนี้ กวต่า
ปกตกิ (volume overload) ตดัวอยต่างของสาเหตสุเหลต่านทนี้เชต่น
a. โรคความดดันโลหห ตสสูง (systemic hypertension) ซถึงที่ เปป็ นสาเหตสุสากํ คดัญอดันดดับหนถึที่งของ heart failure
b. โรคความดดันเลรือดภายในปอดสสูง (Pulmonary hypertension) ทกําใหช้การสต่งเลลือดไปยดังปอดของหดัวใจ
ตช้องใชช้แรงในการบทบตดัวสสูงขถึนนี้
122 Cardiovascular disease
c. shunt เชต่น patent ductus arteriosus (PDA), atrial septal defect (ASD), ventricular septal defect
(VSD) พยาธกิสภาพเหลต่านทนี้มผท ลเพกิมที่ ปรกิมาณเลลือดททหที่ วดั ใจตช้องบทบตดัวสต่งไปยดังสต่วนตต่างๆของรต่างกายใหช้มากขถึนนี้
4. สาเหตตททที่เกทที่ยวขผู้องกดับจดังหวะการเตผู้นของหดัวใจ อาจเปป็ นไดช้ทงดั นี้ เตช้นเรป็วเกกินไป เตช้นชช้าเกกินไป หรลือความไมต่
คลช้องจองของการเตช้นของหดัวใจหช้องบนและลต่าง เชต่น
a. Ventricular fibrillation or tachycardia
b. Atrial fibrillation or tachycardia
c. Bradycardia
d. Complete heart block
ปดัจจดัยชดักนทํา (Precipitating factors)
ปจดั จดัยชดักนกํา คลือ ปจดั จดัยตต่างๆททสที่ ามารถกระตสุนช้ ใหช้ผปสูช้ วต่ ยดช้วยภาวะหดัวใจลช้มเหลว (1) มทอาการขถึนนี้ ในผสูปช้ วต่ ยททโที่ ดย
ปกตกิไมต่มอท าการแสดงใดๆ หรลือ (2) มทอาการรสุนแรงขถึนนี้ กวต่าเดกิมในกรณททที่ท โดยปกตกิผปสูช้ วต่ ยมทอาการเพทยงเลป็กนช้อย การททผที่ สูช้
ปวต่ ยไมต่มอท าการเนลืที่องจากรต่างกายมทการปรดับตดัวชดเชย(Compensated state) เพลือที่ รดักษาระดดับ cardiac output ไวช้ไดช้ หรลือ
ผสูปช้ วต่ ยไดช้รบดั ยาเพลือที่ ควบคสุมอาการตดัวอยต่างของปจดั จดัยชดักนกํา เชต่น
- ภาวะโลหกิตจาง
- ภาวะตกิดเชลือนี้
- ภาวะไขช้สงสู
- ภาวะททมที่ กท ารอสุดตดันของเสช้นเลลือดภายในปอด ทกําใหช้เกกิด pulmonary hypertension
- การเปลทยที่ นแปลงทางอารมณฑ์ทรที่ท สุนแรง
- การออกกกําลดังททมที่ ากเกกินไป
- การตดังนี้ ครรภฑ์
- ภาวะททมที่ กท ารคดังของนกํ
ที่ นี้าและเกลลือจากการใชช้ยา เชต่น Corticosteroids หรลือ NSAIDs
- ภาวะททมที่ กท ารคดังของนกํ
ที่ นี้าและเกลลือจากการไมต่ควบคสุมอาหาร
- ภาวะไตวายเฉทยบพลดัน
- การใชช้ยาททมที่ ผท ลลด myocardial contractility จกําพวก beta-blocker เชต่น propranolol, metoprolol หรลือ
nondihydropyridine calcium channel anyagonists เชต่น verapamil, diltiazem
หดัวใจและสมอง มากขถึนนี้ ซถึงที่ ทกําใหช้เกกิดการเพกิมที่ ขถึนนี้ ของ preload. นอกจากนทนี้ยงดั พบวต่า มทสารจกําพวก neurohormones อยสูต่
หลายตดัวททกที่ ต่อใหช้เกกิดการหดตดัวของหลอดเลลือดมทระดดับความเขช้มขช้นเพกิมที่ ขถึนนี้ ในผสูปช้ วต่ ยภาวะหดัวใจลช้มเหลว เชต่น
norepinephrine, angiotensin II, endothelin-1, B-type natriuretic peptide (BNP) และ arginine vasopressin ซถึงที่ สาร
ตต่างๆเหลต่านทนี้ทากํ ใหช้การหดตดัวของหลอดเลลือดเพกิมที่ มากขถึนนี้ เพลือที่ เพกิมที่ ปรกิมาณ preload เพกิมที่ อดัตราการเตช้นและแรงในการบทบ
ตดัวของหดัวใจ อยต่างไรกป็ตามการหดตดัวของหลอดเลลือดนทนี้ มทผลเพกิมที่ afterload เนลืที่องจากเพกิมที่ ความตช้านทานของหลอดเลลือด
สต่วยปลาย (total peripheral resistance) จถึงทกําใหช้หวดั ใจตช้องทกํางานหนดักขถึนนี้ เพลืที่อฉทดเลลือดออกไปจากหดัวใจ
b. การเพหที่ มการดสูดซพึมนทํรื้าและเกลรือกลดับของไต (Increased renal reabsorption of water and sodium
chloride) ในผสูปช้ วต่ ยภาวะหดัวใจลช้มเหลว ปรกิมาณเลลือดททไที่ ปยดังไต กป็ลดลงดช้วย (renal hypoperfusion) ทดังนี้ นทนี้เนลืที่องจาก
cardiac output ลดลง และ มทการหดตดัวของหลอดเลลือดททไที่ ปยดังไตเพลืที่อ redistribute เลลือดไปยดังหดัวใจและสมอง เมลืที่อมทการ
ลดลงของเลลือดไปยดังททไที่ ต ไตซถึงที่ เปป็ นอวดัยวะททสที่ ากํ คดัญหนถึที่งในการรดักษาระดดับของเลลือดททจที่ ากํ เปป็ นตต่อการทกํางานของระบบ
หดัวใจและหลอดเลลือด จะตอบสนองโดย
ที่ renin จาก
(1) เพกิมที่ การดสูดซถึมกลดับของนกํนี้าและเกลลือเพกิมที่ ขถึนนี้ ทททที่ ต่อไต และ (2) เพกิมที่ การหลดังสาร
Juxtaglomerular cells ของไต ซถึงที่ renin จะไปเปลทยที่ น angiotensinogen เปป็ น angiotensin I, จากนดันนี้ Angiotensin I จะ
ถสูกเปลทยที่ นเปป็ น Angiotensin II โดย angiotensin converting enzyme (ACE), Angiotensin II มทฤทธกิ ธกระตสุนช้ การหลดังที่
aldosterone จากตต่อมหมวกไต ซถึงที่ aldosterone นทนี้มฤท ทธหธ เพหที่ มการดสูดซพึมกลดับของ Sodium chloride ททที่ทคอไต จถึง
ทกําใหช้เกกิดการสะสมของนกํนี้าและเกลลือภายในรต่างกาย และเพกิมที่ ปรกิมาณเลลือดในระบบไหลเวทยนเลลือด (increased
intravascular volume) จถึงทกําใหผู้เพหที่ มปรห มาณเลรือดททที่ไหลกลดับเขผู้าไปยดังหดัวใจ (increased preload) และตามกฎของ
Frank-Starling จถึงมทการเพกิมที่ cardiac output. อยต่างไรกป็ตามการเพกิมที่ preload สามารถเพกิมที่ cardiac output ไดช้ถงถึ จสุดๆ
หนถึที่งเทต่านดันนี้ หากมทการเพกิมที่ ของ preload ตต่อไปจะไมต่มกท ารเพกิมที่ ของ cardiac output. หากมทการเพกิมที่ ขถึนนี้ ของ preload
โดยททที่ stroke volume ไมต่เพกิมที่ ขถึนนี้ ในกรณทของหดัวใจขช้างซช้าย จะทกําใหช้เกกิด การเพหที่ มขพึรื้นของ left ventricular end-
diastolic volume และ left ventricular end-diastolic pressure ซถึงที่ มทผลทกําใหช้ปรกิมาณเลลือดจากปอดททจที่ ะไหลกลดับ
เขช้าสสูต่หวดั ใจหช้องซช้ายเปป็ นไปไดช้นช้อยลงเนลืที่องจากความดดันภายในหช้องหดัวใจสสูงกวต่าภายในหลอดเลลือดของปอด กต่อใหช้เกกิด
ภาวะเลลือดคดังคช้ ที่ างในปอด (pulmonary congestion) ไดช้ ในกรณทของหดัวใจขช้างขวา จะทกําใหช้เกกิดการคดังคช้ ที่ างของเลลือด
ภายในหลอดเลลือดดกํา (systemic venous congestion) ทกําใหช้เกกิดอาการบวมตามแขนขา หรลือการสะสมของนกํนี้าในชต่อง
ทช้อง หรลืออวดัยวะทางเดกินอาหาร.
นอกจากการลดลงของเลลือดททมที่ ายดังไตจะกระตสุนช้ ใหช้เกกิดการหลดังที่ renin แลช้ว การกระตสุนช้ SNS ยดังกต่อใหช้เกกิดการ
หลดังของ
ที่ renin จากไตเพกิมที่ ขถึนนี้ อทกดช้วย ดดังนดันนี้ การยดับยดังนี้ ไมต่ใหช้มกท ารกระตสุนช้ ระบบ SNS จะชต่วยลดการหลดังสาร ที่ renin สสูต่
ระบบไหลเวทยนเลลือด และในททสที่ สุดยดับยดังนี้ ผลตต่างๆททเที่ กกิดขถึนนี้ จากการออกฤทธกิ ธของ angiotensin II
3. การเพหที่ มขนาดและโครงสรผู้างของหดัวใจหผู้องลคาง (Ventricular hypertrophy and remodeling) ภาวะททที่
มทการเพหที่ มขพึรื้นของ preload, การเพหที่ มขพึรื้นของ afterload หรลือ มทการลดลงของ cardiac contractility ซถึงที่ เกกิดขถึนนี้ กดับผสูช้
ปวต่ ยททมที่ ภท าวะหดัวใจลช้มเหลว จะทกําใหช้เกกิดการปรดับตดัวของหดัวใจหช้องลต่างโดยอาจเพหที่ มปรห มาตรภายในหผู้องหดัวใจ และ/
หรลือ ความหนาของผนดังหดัวใจ เพลือที่ รดักษาระดดับ cardiac output กระบวนการปรดับตดัวนทนี้กต่อใหช้เกกิด ‘ventricular
hypertrophy’ นอกจากนทนี้การเพกิมที่ ขถึนนี้ ของ neurohormones ตต่างๆ เชต่น catecholamines, angiotensin II,
aldosterones ซถึงที่ เปป็ นผลมาจากการกระตสุนช้ ระบบ sympathetic nervous system มทสต่วนในการกระตสุนช้ ใหช้เกกิด
กระบวนการ ventricular remodeling และ ventricular hypertrophy ขถึนนี้ อทกดช้วย ดดังนดันนี้ ในปจดั จสุบนดั จถึงมทการใชช้ยาเพลือที่
ปช้องกดันกระบวนการเหลต่านทนี้ในผสูปช้ วต่ ยกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจตาย โดยการใชช้ยายดับยดังนี้ การสรช้าง Angiotensin II (พวกยากลสุต่ม
ACEIs), การใชช้ยาตช้านตดัวรดับแบบเบตช้า (β-receptor antagonists), การใชช้ยาตช้านฤทธกิ ธ aldosterone เปป็ นตช้น
Ventricular hypertrophy and remodeling มทผลเสทยตต่อการทกํางานของหดัวใจอยสูหต่ ลายประการ เชต่น
- เพกิมที่ ความเสทยที่ งตต่อการเกกิด ischemic heart disease เนลืที่องจาก oxygen demand เพกิมที่ ขถึนนี้
- ทกําใหช้การคลายตดัวของหดัวใจหช้องลต่าง (ventricular relaxation) บกพรต่องและเกกิด diastolic heart failure
- ลด ventricular systolic function เนลืที่องจากประสกิทธกิภาพในการบทบตดัวของกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจลดลง
- เพกิมที่ ความเสทยที่ งตต่อการเกกิด cardiac arrhythmias เนลืที่องจากคสุณสมบดัตใกิ นการนกําไฟฟช้าของเซลลฑ์กลช้ามเนลืนี้อ
หดัวใจผกิดปกตกิไป
124 Cardiovascular disease
Compensatory mechanisms ททเที่ กกิดขถึนนี้ มททงดั รื้ ขผู้อดทและขผู้อเสทย โดยในระยะสดันนี้ ๆ กลไกปรดับตดัวชดเชยททเที่ กกิดขถึนนี้
จะชต่วยทกําใหช้ผปสูช้ วต่ ยไมต่มอท าการไประยะหนถึที่ง แตต่ในระยะตต่อมา กลไกปรดับตดัวชดเชยททเที่ กกิดขถึนนี้ กลดับกระทกําใหช้ภาวะหดัวใจลช้ม
เหลวรสุนแรงขถึนนี้ เนลืที่องจากกต่อใหช้เกกิดสภาวะททหที่ วดั ใจตช้องทกํางานหนดักเพกิมที่ ขถึนนี้ เพลือที่ เอาชนะแรงตช้านการไหลของเลลือด หรลือ
เนลืที่องจากมทปรกิมาณเพกิมที่ ขถึนนี้ ในหช้องหดัวใจ ดช้วยเหตสุนนี้กท ารปรดับตดัวเพลือที่ ชดเชยจถึงกต่อใหช้เกกิด ‘วดัฏจดักรของความเลวรผู้าย
(Vicious cycle)’ ขถึนนี้ เนลืที่องจากรต่างกายตช้องปรดับตดัวชดเชยเพกิมที่ ขถึนนี้ อทก และทกําใหช้เกกิดภาวะหดัวใจลช้มเหลวรสุนแรงขถึนนี้ ไปอทก
(Continued worsening and downward spiraling of the heart failure state) ดดังนดันนี้ การรดักษาภาวะหดัวใจลช้มเหลว ใน
ระยะเรรือรื้ รดังจถึงตช้อง (1) ปผู้ องกดันการกระตสุนช้ กลไกการปรดับตดัวเพลือที่ ชดเชย และ (2) แกผู้ไขสาเหตตททที่ท ากํ ใหช้เกกิดภาวะหดัวใจ
ลช้มเหลวขถึนนี้ เพลือที่ ชต่วยใหช้หวดั ใจทกํางานอยต่างมทประสกิทธกิภาพมากขถึนนี้
อาจพกิจารณาใชช้ hydralazine รต่วมกดับ nitrate ในผสูปช้ วต่ ย stage C ททไที่ ดช้รบดั ACEIs, beta-blocker และ diuretics
แตต่ยงดั คงมทอาการกกําเรกิบอยสูบต่ ต่อยๆ หรลือ ตลอดเวลา โดยตช้องระวดังการเกกิดภาวะความดดันเลลือดตกํที่าจากยาทดังนี้ สอง และการ
ไมต่สามารถยถึดตกิด (adherence) ของผสูปช้ วต่ ย เนลืที่องจากจกําเปป็ นตช้องกกินยาวดันละหลายๆ ครดังนี้
b. Diuretics ลด preload และชต่วยควบคสุมสมดสุลของนกํนี้าและเกลลือในรต่างกาย ควรใชช้ในผสูปช้ วต่ ยททมที่ แท นวโนช้มของ
การสะสมเกลลือและนกํนี้าในรต่างกาย โดยผสูปช้ วต่ ยเหลต่านทนี้มกดั มทประวดัตกกิ ารบวมเกกิดขถึนนี้ อยสูบต่ ต่อยๆ ตช้องระลถึกไวช้เสมอวต่าผสูปช้ วต่ ยโรค
หดัวใจลช้มเหลวไมต่ทสุกคนททมที่ แท นวโนช้มในการสะสมนกํนี้าและเกลลือในรต่างกาย ดดังนดันนี้ diuretics อาจไมต่จากํ เปป็ นในทสุกคน และการ
ใชช้ diuretics โดยไมต่จากํ เปป็ น ผลททเที่ กกิดขถึนนี้ คลือ intravascular volume depletion ทกําใหช้เกกิด tissue hypoperfusion,
prerenal renal failure, ทกําใหช้เกกิด reflex tachycardia และเสทยที่ งตต่อการเกกิด myocardial infarction ไดช้ ไมต่ควรใชช้เปป็ นยา
เพทยงตดัวเดทยวในการรดักษาภาวะหดัวใจลช้มเหลวเนลืที่องจากไมต่ไดช้ชะลอการดกําเนกินไปของโรค หรลือลดอดัตราการตายของผสูช้
ปวต่ ย มดักใหช้รต่วมกดับ ACEIs และ beta-blocker ผสูปช้ วต่ ยททมที่ สท ภาวะไหลเวทยนของโลหกิต stable แลช้ว ยาททเที่ ลลือกใชช้คอลื
thiazide หรลือ loop diuretics ขถึนนี้ กดับการตอบสนองของผสูปช้ วต่ ย และการทกํางานของไต (thiazides มดักใชช้ไมต่ไดช้ผลถช้า
creatinine clearance < 30 ml/min)
c. Beta-blockers ลดผลของการกระตสุนช้ sympathetic nervous system และ renin-angiotensin-
aldosterone system สามารถลดอดัตราการตาย การดกําเนกินไปของโรค และลดอาการของภาวะหดัวใจลช้มเหลวไดช้ โดยใน
ระยะยาวมทผลเพกิมที่ ejection fraction ไดช้ ยาททมที่ ผท ลการทดลองทางคลกินกิกสนดับสนสุ นคลือ carvedilol, metoprolol
succinate SR และ bisoprolol และตามแนวทางของ AHA สนดับสนสุนใหช้ใชช้ยาทดังนี้ สามกต่อนในผสูปช้ วต่ ยโรคหดัวใจลช้มเหลว
ควรเรกิมที่ ใหช้ในขนาดตกํที่าๆ เชต่น carvedilol 6.25 mg OD หรลือ metoprolol 12.5 mg BID แลช้วคต่อยๆ เพกิมที่ ขถึนนี้ ตามความทน
ยาของผสูปช้ วต่ ย เชต่น ผสูปช้ วต่ ยไมต่เกกิดอาการ hypotension รสุนแรง, ไมต่เกกิดอาการของภาวะหดัวใจลช้มเหลวรสุนแรงขถึนนี้
ควรเรกิมที่ ยากลสุต่ม beta-blockers ในผผปผู้ วป ยททไที่ มปอยผใป นภาวะททมที่ อท าการหหัวใจลผู้มเหลวเฉทยบพลหัน (acute heart
failure) เนลืที่องจากยามทฤทธกิ ธลด myocardial contractility ซถึงที่ จะมทผลทกําใหช้decompensation รสุนแรงขถึนนี้ ไดช้ ตช้องตกิดตาม
blood pressure, heart rate, signs and symptoms of worsening heart failure และ ผลขช้างเคทยงอลืที่นๆ เชต่น
bronchospasm ในผสูปช้ วต่ ย asthma หรลือ chronic obstructive pulmonary disease
d. Digoxin เพกิมที่ cardiac contractility และชต่วยลดการกระตสุนช้ sympathetic system จากการลดลงของ
preload โดยการศถึกษาทางคลกินกิกพบวต่า ชต่วยลดอดัตราการปวต่ ยหรลืออดัตราการเขช้ารดับการรดักษาในโรงพยาบาลของผสูปช้ วต่ ย
ภาวะหดัวใจลช้มเหลว stage C โดยแนะนกําใหช้ใชช้เฉพาะในกรณท ททที่ผผู้ปสู ค วยยดังมทอาการหลดังไดผู้รบดั ACEIs และ diuretics
และ beta-blocker เนลืที่องจากเปป็ นยาททมที่ ผท ลขช้างเคทยงสสูงและไมต่ชต่วยชะลอการดกําเนกินไปของโรค
e. Spironolactone และ Eplerenone มทฤทธกิ ธเปป็ น aldosterone antagonist จถึงลดผลททเที่ กกิดขถึนนี้ จาก การ
ทกํางานของ aldosterone เชต่นการสะสมของเกลลือ และการกระตสุนช้ ventricular wall remodeling ผลการทดลองทาง
คลกินกิกในผสูปช้ วต่ ย heart failure ททมที่ อท าการปานกลางถถึงรสุนแรง (ผสูปช้ วต่ ย stage C และมท NYHA functional class III-IV) พบ
วต่าลดอดัตราการตายของผสูปช้ วต่ ยไดช้ในผสูปช้ ต่วยททมที่ ปท ระวดัตกกิ ลช้ามเนลืนี้อหดัวใจตาย และ มทภาวะหดัวใจลช้มเหลว หรลือ EF <40%
AHA/ACC แนะนกําใหช้ใชช้ aldosterone antagonist ขนาดตกํที่าๆ เชต่น spironolactone 25-50 mg วดันละ 1 ครดังนี้ เพลือที่ ลด
อดัตราการตายจากภาวะแทรกซช้อน อยต่างไรกป็ตามไมต่แนะนกําใหช้ใชช้ aldosterone antagonists ในผสูปช้ วต่ ยททมที่ ท renal failure
(serum creatinine >2.5 mg/dL สกําหรดับผสูชช้ าย และ >2.0 mg/dL ในผสูหช้ ญกิง) หรลือ hyperkalemia (serum potassium >
5.0 mEq/L) เนลืที่องจากเสทยที่ งตต่อการเกกิดการสะสมของ potassium อยต่างรวดเรป็ว นกําไปสสูต่ ventricular tachycardia หรลือ
fibrillation ไดช้
f. Calcium channel blockers ไมต่ใชช้ในผสูปช้ วต่ ย systolic heart failure การทดลองทางคลกินกิกไมต่พบผล
ประโยชนฑ์จากการใชช้ calcium channel antagonist ในผสูปช้ วต่ ย heart failure โดยทกําใหช้เกกิดผลเสทยไดช้เนลืที่องจากเพกิมที่
sympathetic nervous system stimulation ไดช้ และเพกิมที่ อดัตราการตายจาก ischemic heart disease ไดช้ หากจกําเปป็ น
ตช้องใชช้ calcium channel antagonists ในผสูปช้ วต่ ย systolic heart failure ใหช้เลลือกใชช้ amlodipine ซถึงที่ มทผลการทดลองทาง
คลกินกิกแสดงใหช้เหป็นวต่าไมต่เพกิมที่ อดัตราการตายในผสูปช้ วต่ ย systolic heart failure และสามารถลดอดัตราการตายไดช้ในกลสุต่มผสูช้
ปวต่ ยภาวะหดัวใจลช้มเหลวททไที่ มต่มคท วามเกทยที่ วขช้องกดับ ischemic heart disease สกําหรดับ diastolic heart failure นดันนี้ ยาททใที่ ชช้
ควรเปป็ น non-dihydropyridines เชต่น verapamil หรลือ diltiazem เนลืที่องจากทดังนี้ 2 ตดัวลด heart rate ทกําใหช้ ventricular
filling time เพกิมที่ ขถึนนี้ จถึงเพกิมที่ preload ขถึนนี้ ไดช้ และอาจมทผลทกําใหช้การคลายตดัวของเซลลฑ์กลช้ามเนลืนี้อหดัวใจดทขนนี้ถึ ดช้วย (ยาททใที่ ชช้ใน
128 Cardiovascular disease
diastolic heart failure มดักใชช้ beta-blocker หรลือ calcium channel antagonist โดยไมต่ใชช้ยาททเที่ พกิมที่ cardiac
contractility)
7.
Dyslipidemia
5
ภาวะระดดับไขมดันในเลรือดผห ดปกตห (dyslipidemia) เปป็ นปจดั จดัยเสทยที่ งททสที่ ากํ คดัญหนถึที่งของการเกกิดภาวะหลอด
เลลือดแดงแขป็งแบบ atherosclerosis ซถึงที่ เปป็ นสาเหตสุสากํ คดัญของการเกกิดโรคหดัวใจและหลอดเลลือด เชต่น โรคหลอดเลลือด
หดัวใจ (coronary heart disease) โรคของหลอดเลลือดแดงสต่วนปลาย (peripheral arterial disease) โรคหลอดเลลือด
สมอง (cerebrovascular disease)เปป็ นตช้น ดดังนดันนี้ การรดักษาและปช้องกดันภาวะระดดับไขมดันในเลลือดผกิดปกตกิ จถึงมทความ
สกําคดัญอยต่างยกิงที่ ในการปช้องกดันการเกกิดโรคหดัวใจและหลอดเลลือดดดังกลต่าว
ภาวะไขมดันในเลรือดสสูงแบคงตามสาเหตตไดผู้ 2 ประการ ครือ
1. ภาวะไขมดันในเลรือดสสูงปฐมภสูมห (primary hyperlipidemia) คลือ มทสาเหตสุจากพดันธสุกรรม
2. ภาวะไขมดันในเลรือดสสูงทตตหยภสูมห (secondary hyperlipidemia) คลือ มทสาเหตสุจากยา อาหาร หรลือภาวะความ
ผกิดปกตกิของรต่างกาย เชต่น เบาหวาน hypothyroidism โรคตดับ โรคไต ความอช้วน และการดลืที่มแอลกอฮอลฑ์ เปป็ นตช้น ไขมดัน
อยสูใต่ นรสูป cholesterol, cholesterol ester, phospholipids, triglycerides โดยจะถสูกขนสต่งในกระแสเลลือดโดย
lipoproteins
Lipoproteins ( lipid + Protein ) คลือ โปรตทนททสที่ ามารถละลายนกํนี้าไดช้ และลต่องลอยอยสูใต่ นกระแสเลลือดไปเนลืนี้อเยลืที่อ
สต่วนจะเกป็บไวช้ทตที่ท บดั ในรสูปของ Cholesteryl ester บางสต่วนนกําไปใชช้สรช้าง bile acid เยลือที่ หสุมช้ เซลลฑ์ หรลือ endogenous
lipoprotein เชต่น VLDL ตต่อไป
2. very low-density lipoproteins (VLDL) มทขนาดเลป็กกวต่า Chylomicron สต่วนประกอบททสที่ ากํ คดัญคลือ
Triglyceride VLDL สรช้างจาก FFA และ Glycerol ททตที่ บดั เปป็ นสต่วนใหญต่ เมลืที่อเขช้าสสูกระแสเลลือดจะถสูกยต่อยดช้วย LPL และรดับ
เอา Cholesterol จาก HDL ไดช้เปป็ น intermediate density lipoprotein (IDL) ขนาดของ IDL จะเลป็กลงแตต่มสท ต่วน
ประกอบของ Cholesterol เพกิมที่ ขถึนนี้ IDL จะถสูกเปลทยที่ นตต่อไปเปป็ น Low Density Lipoprotein (LDL)
3. Low-density lipoproteins (LDL) มทขนาดเลป็กลงแตต่มสท ต่วนประกอบของ Cholesterol เพกิมที่ ขถึนนี้ จถึงทกําหนช้าททที่
ในการลกําเลทยง Cholesterol ไปยดังอวดัยวะตต่างๆ LDL ในกระแสเลลือดจะถสูก Uptake เขช้าสสูต่เซลลฑ์ตบดั โดยการจดับกดับตดัวรดับ
เฉพาะ Cholesteryl ester ททเที่ ปป็ นสต่วนประกอบสกําคดัญของ LDL จะถสูกยต่อยสลายไดช้ Free Cholesterol ซถึงที่ จะถสูกเซลลฑ์นกํา
ไปใชช้หรลือเกป็บสะสมอยสูใต่ นเซลลฑ์ ถช้ากระบวนการสดังเคราะหฑ์ Cholesterol ในเซลลฑ์ถสูกยดับยดังนี้ จะมทผลยช้อนกลดับมาควบคสุม
โดยการเพกิมที่ จกํานวนตดัวรดับททเที่ ยลือที่ หสุมช้ เซลลฑ์ไดช้ (up regulation ของ LDL receptor)
4. High-density lipoproteins (HDL) เปป็ นตดัวพา cholesterol จากเนลืนี้อเยลือที่ ไปยดังตดับ และตดับจะนกํา cholesterol
ไปสรช้างสารพวก นกํนี้าดท ฯลฯ และเปป็ น scavenger lipoprotein (เปป็ นตดัวเกป็บกกิน cholesterol ในเลลือดไมต่ใหช้สงสู มากเกกินไป)
แบคงตาม cholesterol
LDL cholesterol < 100 mg/dl “optimal”
100-129 mg/dl “near optimal”
130-159 mg/dl “borderline high”
160-189 mg/dl “high”
- ระดดับ LDL มทความสดัมพดันธฑ์กบดั atherosclerosis และ CHD ถช้า LDL ↑ 10% CHD ↑ 20%
- ใชช้เปป็ นตดัววดัดประสกิทธกิภาพของยา ยาลดระดดับไขมดันททมที่ ปท ระสกิทธกิภาพดท LDL ตช้องลดลงมาก
HDL cholesterol < 40 mg/dl (ตกํที่า)
> 60 mg/dl (สสูง-ดท)
- HDL cholesterol ตกํที่าๆ เสทยที่ งตต่อการเกกิด atherosclerosis และ CHD
- ระดดับ HDL มทแนวโนช้มลดลงเมลืที่อระดดับ TG สสูงขถึนนี้
Non- HDL Cholesterol ไดช้แกต่ LDL-C, Lp(a), IDL-C, VLDL-C ซถึงที่ เปป็ นตดัวทกําใหช้เกกิด atherogenic
TG
Total cholesterol = HDL + LDL +
5
130 Cardiovascular disease
TG
โดย เปป็ น คต่าของ VLDL
5
- TG < 200 เปป็ นสกิงที่ ดท
- TG 200-239 เปป็ นคต่าททสที่ งสู คต่อนขช้างอดันตราย
***จะไมต่ใชช้สตสู รขช้างตช้นเมลืที่อ TG > 500 mg/dl
ตาราง การคกํานวณ 10-year risk for CHD โดยใชช้ Framingham Risk Score
132 Cardiovascular disease
Pharmacy Khon Kaen University 133
รสูป ขดันนี้ ตอนในการปรดับเปลทยที่ นพฤตกิกรรมชทวตกิ ททใที่ หช้ผลในการรดักษา ตาม NCEP ATP III
Pharmacotherapy of Dyslipidemia
ยาลดระดดับไขมดันในเลลือดมท 6 กลสุมต่
1 HMG-CoA reductase
2 Cholesterol Absorption Inhibitor
3 Fibric Acid Derivative
4 Anion-Exchage Resin
5 Nicotinic Acid
6 Probucol
5. Nicotinic acid
กลไกการออกฤทธหธ - ยดับยดังนี้ adenyl cyclase ใน adipose tissue ทกําใหช้ cAMP synthesis ลดลง lipase enzyme
ทกํางานลดลง การยต่อยไขมดันลดลง เกกิด free fatty acid จาก adipose tissue ไปสสูต่ blood นช้อยลง ตดับขาด free
fatty acid (ไมต่มท precursor ในการผลกิต TG) เปป็ นผลใหช้ VLDL ใน plasma ลดลง
Pharmacy Khon Kaen University 137
ตารางเปรทยบเททยบขผู้อดท-ขผู้อเสทยของยารดักษา Dyslipidemia
Stroke
คลือภาวะททสที่ มองบางตกําแหนต่งไมต่ทากํ งานชดัวขณะ ที่ ซถึงที่ ไมต่ไดช้เกกิดขถึนนี้ พรช้อมกดันทดังนี้ สมอง โดยมทสาเหตสุมาจากการอสุด
ตดันของเสช้นเลลือดในสมอง ทกําใหช้สมองบรกิเวณดดังกลต่าวขาดเลลือด โดยททไที่ มต่ไดช้เกกิดจากความผกิดปกตกิของเนลืนี้อสมองโดยตรง
สต่วนมากมดักมทอาการอยต่างนช้อย 24 ชดัวโมงขถึ ที่ นนี้ ไป แตต่ถาช้ มทอาการไมต่เกกิน 24 ชดัวโมงจะเรท ที่ ยกวต่า Transient ischemic
attacks สามารถแบต่ง Stroke ตามลดักษณะทางพยาธกิสรทรวกิทยาของการเกกิดโรคไดช้ 2 ชนกิด ดดังนทนี้
1. Ischemic stroke หรลือกลสุมต่ อาการหลอดเลลือดสมองตทบ ทกําใหช้มกท ารอสุดตดันของหลอดเลลือดสมอง เปป็ นเหตสุ
ใหช้สมองสต่วนททหที่ ลอดเลลือดอสุดตดันนดันนี้ มทเลลือดไปเลทยนี้ งนช้อยลงไมต่พอกดับความตช้องการ การอสุดตดันจะเกกิดจาก
การมทลมกิที่ เลลือดเกกิดขถึนนี้ โดยสต่วนใหญต่ลมกิที่ เลลือดนดันนี้ มดักมาจากหดัวใจ
2. Hemorrhagic stroke หรลือกลสุต่มอาการหลอดเลลือดสมองแตก ทกําใหช้มเท ลลือดออกในสมอง
ปดัจจดัยเสทที่ยง ทททที่ ากํ ใหช้เกกิดโรค คลือ
การททผที่ ปสูช้ วต่ ยมทโรคประจกําตดัวตต่างๆ เหลต่าๆนทนี้เชต่น Coronary Artery Diseases , Heart failure , AF เปป็ นตช้น
เปป็ นสาเหตสุใหช้ผปสูช้ วต่ ยมทความเสทยที่ งในการเกกิดลกิมที่ เลลือดขถึนนี้ ในหลอดเลลือด นอกจากนทนี้ การรดับ hormone replacement
therapy , การมทประวดัตเกิ ปป็ น migraine กป็เปป็ นปจดั จดัยเสทยที่ งรองลงมาของการเกกิด stroke ไดช้เชต่นกดัน
การรดักษา
ยาททใที่ ชช้ใหช้ผลดทในการรดักษา ischemic stroke คลือ rt-PA แตต่เนลืที่องจากมทราคาแพงมาก ดดังนดันนี้ Aspirin จถึงเปป็ นยา
ททไที่ ดช้รบดั การแนะนกําใหช้ใชช้แทน สกําหรดับผสูปช้ วต่ ยททมที่ คท วามดดันโลหกิตสสูงรต่วมดช้วย ในระยะแรกยดังไมต่ควรจต่ายยาลดความดดัน
เพราะจะเพกิมที่ ความเสทยที่ งตต่อการททสที่ มองจะขาดเลลือด และยกิงที่ ทกําใหช้อาการแยต่ลง มทขอช้ แนะนกําใหช้เรกิมที่ ใชช้ยาลดความดดันหลดัง
จากควบคสุมอาการ stroke ไดช้แลช้ว 7 วดัน โดยควรใหช้ยาลดความดดันโลหกิตกลสุต่ม ACEI และ Diuretic
การใชผู้ยาเพรืที่อปผู้ องกดัน stroke
1. warfarin ใชช้ในผสูปช้ วต่ ย AF, left ventricular thrombus , MI
2. Aspirin เปป็ น ยาพลืนนี้ ฐานตดัวแรกททใที่ ชช้ปช้องกดัน stroke
3. Clopidogrel ใชช้เมลืที่อผสูปช้ วต่ ยไมต่สามารถใชช้ aspirin ไดช้
4. Dipyridamole ใชช้เมลืที่อผสูปช้ วต่ ยไมต่สามารถใชช้ทงดั นี้ aspirin และ clopidogrel ไดช้
5. Aspirin+Dipyridamole ใชช้ในผสูปช้ วต่ ยททเที่ สทยที่ งตต่อการเกกิด stroke ซกํนี้า เชต่น ผสูปช้ วต่ ยอดัมพาต
การรดักษา
Thromboembolism
7.
Cardiovascular agents
7
Antianginal Agents and Vasodilators
Angina pectoris
คลือความไมต่สมดสุลกดันระหวต่าง oxygen demand กดับ oxygen supply
หลดักการรดักษา คลือ ลด oxygen demand เพกิมที่ oxygen supply
กลตคมยาททที่ใชผู้รกดั ษา ไดช้แกต่
1.organic nitrate
2.Calcium chanel blocker
3.Beta blocker
Organic nitrate
กลไกการออกฤทธกิ ธ
คาดวาสารในกลสุมนทนี้เมลืที่อเขาสสูรางกายแลวจะเกกิดการเปลทยที่ นแปลงในกลามเนลืนี้อเรทยบของเสนเลลือด
ให nitric oxide (NO) ออกมา ซถึงที่ NO นทนี้ปกตกิในรางกายถสูกสรางโดย epithelium ของ endothelium derived
relaxing factor (EDRF) จากนดันนี้ NO ซถึงที่ เปนสารโมเลกสุลเลป็กและมทสมบดัตกิ lipophilic จะกระจายตดัวอยางรวดเรป็ว
จาก epithelium cell เขาไปสสูเซลลของ vascular smooth muscle แลวกระตสุนการทกํางานของ guanylyl
cyclase (GC) ททอที่ ยสูใน cytoplasm ของเซลลดดังกลาว โดย NO จะเขาไปจดับกดับ iron ของ heme ซถึงที่ เปน
cofactor ของเอมไซมตดัวนทนี้ ทกําใหโมเลกสุลของ heme หลสุดออกจากระนาบของ porphyrin ring และเกกิดการ
เปลทยที่ นแปลงรสูปรางของ GC ขถึนนี้ ซถึงที่ การเปลทยที่ นแปลงดดังกลาวนดันนี้ มทผลทกําใหเรงการสดังเคราะหเอมไซม
cGMP มากขถึนนี้ cGMP เปนเอมไซมททเที่ รงปฏกิกรกิ ยกิ า phosphorylation ของโปรตทนตางๆ รวมทดังนี้ โปรตทนทททที่ กํา
หนาททใที่ นการนกํา Ca2+ เขามาใน cytoplasm ซถึงที่ เมลืที่อโปรตทนเหลานดันนี้ ถสูก phosphorylation จะทกําใหมทปรกิมาณ
free Ca2+ ลดลง ทกําใหกลามเนลืนี้อไมสามารถหดตดัวได การกระตสุนททที่ GC จถึงทกําใหเกกิดการคลายตดัวของ
กลามเนลืนี้อเรทยบดดังกลาว Ca2+ -agonist
membrane
Ca receptor
channel AC
Ca2+ ATP
Calmodulin(CM) cAMP
myosin phosphatase
Myosin-LC Myosin-LC-PO4 Myosin-LC
actin
contraction relaxation
144 Cardiovascular disease
NO
GTP cGMP
Mechanism of nitrovasodilators
H2N NH H2N O
C NH2 C NH2
NHCH2CH2CH2CH COOH NO synthase NO + NHCH2CH2CH2CH COOH
L-Arginine L-Citruline
O2NO ONO2
O2NO ONO2
ONO2 ONO O2NO ONO2
glyceryl trinitrate amyl nitrite trythrityl tetranitrate
(nitroglycerin)
O2NO
H O2NO ONO2
O
O2NO ONO2
O
H pentaerythritol tetranitrate
ONO2
isosorbide dinitrate
• Amyl nitrate เปป็ นยาตดัวเดทยวททสที่ ามารถระเหยไดช้ (volatile liquid) ออกฤทธกิ ธไดช้เรป็วททสที่ สุด
• ยาททมที่ มท วลโมเลกสุลตกํที่าๆจะมทลกดั ษณะเปป็ น oily liquid เชต่น nitroglycerin
• ยาททมที่ มท วลโมเลกสุลสสูงๆมดักจะเปป็ นของแขป็ง เชต่น erythrityl tetranitrate
Metabolism
• เกกิด first pass metabolism
• ถสูกทกําลายอยต่างรวดเรป็วโดยเอมไซมฑ์ glutathione-nitrate reductase ในตดับ
• นกิยมใชช้แบบ sublingual, transdermal, buccal
CH2OH CH2ONO2
3HNO 3
CHOH CHONO2 + 3H2O
H2SO4
CH2OH CHONO2
nitroglycerin
‘Short acting”
Nitroglycerin, sublingual 0.15-1.2 mg 10-30 min
Isosorbide dinitrate, sublingual 2.5-5mg 10-60 min
Amyl nitrate, inhalant 0.18-0.3 ml 3-5 min
“Long acting”
Nitroglycerin, oral sustained-action 6.5-13 mg per 6-8 h 6-8 h
Nitroglycerin, 2% ointment 1-1.5 inches per 4 h 3-6 h
Nitroglycerin, slow release, 10-25 mg per 24 h 8-10 h
transdermal
Isosorbide dinitrate, sublingual 2.5-10 mg 1.5-2 h
Isosorbide dinitrate, oral 10-60 mg per 4-6 h 4-6 h
Isosorbide mononitrate, oral 20 mg per 12 h 6-10 h
2
L-Type Ca channel
2+ 1 1
N
CN CH3
OCH3 CH2 OCH3
CH3O C CH2CH2CH2 N CH2CH2
CH(CH3)2 CH3O
CH3O OCH3 OCH3
verapamil OCH3 papaverine
Pharmacy Khon Kaen University 147
Cl
H (CH3)2CHCH2OCH2CHCH2 N
H3COOC COOC2H5
N CH2
CH3 N .HCl
CH2OCH2CH2NH2
H
amlodipine Bepridil hydrochloride
OCH3
NO2
S H3COOC COOCH3
O C CH3
N O CH3 N CH3
O H
CH2CH2N(CH3)2
Nifedipine
diltiazem
SAR ของ CCB กลตคม Dihydropyridine
-โครงสรางหลดักเปน aryl-1,4-dihydropyridine ring
- H บน N ตองไมถสูกแทนททดที่ วยกลสุมอลืที่นใด
- การแทนททตที่ กําแหนงททที่ 2 และ 6 ดวย alkyl ขนาดเลป็ก จะให activityดท ยกเวนในกรณทของ amlodipine ซถึงที่
พบวาการแทนททดที่ วยกลสุม ester ขนาดใหญทกําใหระยะเวลาการออกฤทธกิ ธยาวนานขถึนนี้
-การแทนททบที่ นตกําแหนง ortho หรลือ meta บน phenyl ring จะให activity ททดที่ ท
-การมท ester อยางนอย 1 กลสุมในตกําแหนงททที่3 และ 5 (โดยเฉพาะในตกําแหนงททที่ 3) จะชวยเพกิมที่ คา
การละลายในไขมดันไดดท
Miscellaneous Vasodilators
CH2OH
_ N CH2CH2OH
5
+
HC4H6O6 4 N N
c 6
N 3N b CH2CH2OH
H d a
2 1 e f N7
HOCH2CH2 N N
Nicotinyl alcohol tartrate 8
Dipyridamole
CH2CH2OH N
CH3
OH O
Antiarrhythmic Drugs H
C C O
CH3
Cyclandelate CH3
Classes of Antiarrhythmic Drugs
Class IA
Na+ channel blocker
เปป็ น membrane stabilization agents
ออกฤทธกิ ธยดับยดังนี้ ททบที่ รกิเวณ subunit โดยใชช้ covalent bond
มดักมทฤทธกิ ธเปป็ นดต่างเพราะสามารถจดับกดับ ischemic area ของหดัวใจ
ยาใน class I มทผลตต่อ duration of action potential+ dissociate time ออกจาก channel ตต่างกดัน
เปป็ นกลสุต่มททสที่ ามารถแตกตดัวออกจาก channel ไดช้ในอดัตราเรป็วปานกลาง (intermediate rate)
ทกําใหช้ refractory period ของ cardiac tissue ยาวขถึนนี้ หรลือทกําใหช้ duration of action potential เพกิมที่ ขถึนนี้
©Quinidine
dextrorotary diastereoisomer ของ quinine
เกกิดประจสุเมลืที่อเขช้าสสูต่ภายในรต่างกายทกําใหช้สามารถ form ionic bond กดับ channel ไดช้
©Procainamide
prodrugs ของ procaine
Procainamide เปป็ น amide isostere โดยมทกลสุต่ม amide แทนททกที่ ลสุต่ม ester ทกําใหช้ยามทความคงตดัวมากกวต่า
procaine
ถสูกทกําลายโดย estrase enzyme ในเลลือดไดช้ชาช้ ลงระยะเวลาการออกฤทธกิ ธจถึงนานขถึนนี้
HO N H H N
H C HO C
H3CO H H3CO
N N
quinidine quinine
O O
N O
H N .HCl N .HCl
H2N H2N
O
C NH2
disopyramide
N
Pharmacy Khon Kaen University 149
Class IB
-เปป็ นกลสุต่มททสที่ ามารถแตกตดัวออกจาก Na+ channel ไดช้อยต่างรวดเรป็ว
-มทผลลด refractoriness ไดช้หรลือทกําใหช้ duration of action potential สดันนี้ ลง
-ตดัวอยต่างยาเชต่น lidocaine, phenytoin, mexilitine เปป็ นตช้น
©Lidocaine NH2
O
Na+ channel blocker N O
เปป็ นยาททจที่ ดดั วต่ามทฤทธกิ ธ local anesthetic และ antiarrhythmic drugs HN HN
CH3 CH3 CH3 CH3
สามารถจดับ Na channel ไดช้ใน resting state
เกกิด first pass metabolism ถสูก metabolized เปลทยที่ นเปป็ น Lidocaine Tocainide
N
H O
©Tocainide CH3
Mexiletine Phenytoin
เปป็ น analog ของ lidocaine
สามารถใหช้โดยการรดับประทานไดช้และสามารถออกฤทธกิ ธไดช้นานกวต่า
โครงสรช้าง
มทการเตกิมหมสูต่ CH3 ททตที่ กําแหนต่ง ของกลสุต่ม amino และไมต่มท N-ethyl group
บดบดังการเขช้าจดับกดับเอมไซมฑ์ทเที่ท รต่งปฏกิกรกิ ยกิ าการสลายตดัวของมดันในกระบวนการ de-ethylation
ไมต่เกกิด first pass metabolism
©Mexilitine
มทโครงสรช้างคลช้าย lidocaine
มทโครงสรช้างเปป็ น ether ซถึงที่ ไมต่เกกิดกระบวนการ hydrolysis ไดช้เหมลือนกดับ lidocaine และ tocainide
มทคต่าครถึงที่ ชทวตกิ ททยที่ าวนานประมาณ 10 ชดัวโมง
ที่
สามารถใหช้โดยการรดับประทานและฉทด
Class IC
Na+ channel blocker
หลดังจากจดับกดับ Na+ channel แลช้วจะแตกตดัวจาก channel ไดช้ชาช้ ๆ
conduction time ของกระแสททผที่ ต่านหดัวใจนานขถึนนี้
โดยสต่วนมากไมต่คต่อยมทผลเปลทยที่ นแปลง duration of action
150 Cardiovascular disease
โดยสต่วนมากยาในกลสุต่มนทนี้จะมท amino amide อยสูใต่ นสสูตรโครงสรช้าง
ตดัวอยต่างยาเชต่น encainide, flecainide, lorcainide เปป็ นตช้น
©Encainide
เปป็ นยาททมที่ ท benzanilide derivative ปกตกิมคท รถึงที่ ชทวตกิ ประมาณ 2-4 ชดัวโมง ที่
ออกฤทธกิ ธไดช้แรงเนลืที่องจากสามารถเปลทยที่ นเปป็ น active drugs ททอที่ อกฤทธกิ ธ antiarrhymic drugs ททฤที่ ทธกิ ธแรงกวต่า
parent drugs
©Flecainide
เปป็ น derivative ของ benzamide
เมลืที่อเขช้าสสูต่รต่างกายจะเปลทยที่ นไดช้สารททมที่ ฤท ทธกิ ธแรงเททยบเทต่ากดับ parent drug
lipophilicity สสูง เพราะมทหมสูต่ haloalkyl อยสูใต่ นโมเลกสุล
©Propafenone
chiral center และมท racemic mixture
พบวต่าทดังนี้ S และ R enantiomer จะมทฤทธกิ ธ Na+ channel blocking effect พอๆกดัน
S-enantiomer จะมทฤทธกิ ธ beta-adrenergic blocking activity ดช้วย
S-enantiomer จถึงมทฤทธกิ ธ antiarrhythmic สสูงกวต่า R-enantiomer ประมาณ 40 เทต่า
H3C N
OCF2CF3O
H O
N
N
H N
H
CH3O OH
O OCF2CF3 Flecainide
Encainide O CH2CHCH2NH CH2CH2CH3
C CH2CH2 N O
N CH2CH2CO
NH C OC2H5
O
S
Moricizine Propafenone
Class II
OH
เปป็ นยากลสุต่ม beta-adrenergic blocking agent
CH3
มทผลยดับยดังนี้ การกระตสุนช้ ททเที่ กกิดจากผลของระบบประสาท sympathetic
มดักนกิยมใชช้ในการรดักษา supraventricular arrhtyhmia NHCH3
Class III
prolong action potential duration
refractory period เพกิมที่ ขถึนนี้
เชต่น sotalol, amiodarone, bretylium
Pharmacy Khon Kaen University 151
Br CH3 I N
O O OH
+
N
. CHCH2 N CH(CH3)2
H
I
-
SO3 O CH3SO2NH
bretylium tosylate amiodarone sotalol
©Amiodarone
Inhibit K channel
เพกิมที่ effective refractory period
มทผล prolongation of action potential
ยานทนี้ถสูกเปลทยที่ นแปลงเปป็ น desethylamiodarone ซถึงที่ มทฤทธกิ ธ antiarrhythmia
ยามทโครงสรช้างททมที่ ท iodine เปป็ นสต่วนประกอบ ซถึงที่ อาจมทผลเสทยตต่อ thyroid hormone คลืออาจทกําใหช้เกกิด
hypothyroidism
©Sotalol
ยามทโครงสรช้างเปป็ น racemic mixture
มท enantiomer
โดยพบวต่า l(-) –enantiomer จะมททงดั นี้ ฤทธกิ ธ beta-blocking และ potassium channel blocking activity แตต่ d(+)-
enantiomer จะไมต่มหท รลือมทฤทธกิ ธ beta-blocking activity ตกํที่ากวต่ามาก
©Bretylium tosylate
Bretylium เปป็ น quaternary amine เกกิดประจสุบวกเมลืที่อเขช้าสสูต่รต่างกาย จถึงดสูดซถึมจากทางเดกินอาหารไดช้ไมต่ดท
ตช้องใหช้ทางหลอดเลลือดดกําหรลือทางกลช้ามเนลืนี้อเทต่านดันนี้
สามารถยดับยดังนี้ การปลดปลต่อย norepinephrine ออกจากเซลลฑ์ประสาท
Class IV
ชนกิดททอที่ อกฤทธกิ ธเจาะจงตต่อ L-type Ca2+ channel
ยดับยดังนี้ การเกกิด slow influx ของ Ca2+ เขช้าสสูต่เซลลฑ์ myocardial
ไดช้แกต่ยา verapamil และ diltiazem
OCH3
S
CN CH3
CH3O OCH3
C CH2CH2CH2 N CH2CH2 O C CH3
CH(CH3)2 N O
CH3O OCH3
O
verapamil CH2CH2N(CH3)2
diltiazem
152 Cardiovascular disease
Cardiac glycosides
Cardiac glycosides เปป็ นกลสุต่มของสารเคมททเที่ท ปป็ น glycoside ซถึงที่ เกกิดจาก สต่วนททไที่ มต่ใชต่นนี้กําตาล ททเที่ รทยกวต่า
aglycone หรลือ genin จดับกดับสต่วนททเที่ ปป็ นนกํนี้าตาลททเที่ รทยกวต่า glycone โดยสต่วนททเที่ ปป็ น aglycone จะเปป็ น steroidal nucleus
บางครดังนี้ อาจเรทยกสารกลสุต่มนทนี้วต่า cardioactive glycoside คสุณสมบดัตเกิ ฉพาะตดัวของสารนทนี้ คลือ สามารถออกฤทธกิ ธโดยตรงตต่อ
หดัวใจ โดยจะเพกิมที่ แรงบทบตดัวของกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจ (positive inotropic) แตต่ทากํ ใหช้อตดั ราการเตช้นของหดัวใจลดลง ถช้าไดช้รบดั สาร
กลสุต่มนทนี้ในปรกิมาณททมที่ ากพออาจจะทกําใหช้หวดั ใจหยสุดเตช้นและเสทยชทวตกิ ไดช้ จากคสุณสมบดัตเกิ หลต่านทนี้ในสมดัยโบราณจถึงใชช้ประโยชนฑ์
เปป็ นยาพกิษใชช้อาบลสูกศรหรลือปลายหอกเพลืที่อการลต่าสดัตวฑ์ ปจดั จสุบนดั ใชช้ในการรดักษาในผสูปช้ วต่ ย congestive heart failure และ
arrhythmia (atrial fibrillation and flutter)
ฤทธกิ ธของ Cardiac glycosides ชนกิดตต่างๆททมที่ ตท ต่อกลช้ามเนลืนี้อหดัวใจโดยมากจะมทฤทธกิ ธททเที่ หมลือนกดัน แตต่ตต่างกดันททที่
ความแรงและระยะเวลาในการออกฤทธกิ ธ ทดังนี้ นทนี้ขนนี้ถึ อยสูกต่ บดั ชนกิดของ aglycone (genin) และชนกิดของนกํนี้าตาลททมที่ าเกาะกดับ
aglycone ในโมเลกสุล
กลไกการออกฤทธหธ
โดยมทกลไกในการยดับยดังนี้ การทกํางานของ Na+/K+-ATPase ททเที่ ยลือที่ หสุมช้ หดัวใจ ซถึงที่ มทผลทกําใหช้ระดดับของ Na+ อกิสระ
ภายในเซลลฑ์เพกิมที่ ขถึนนี้ ทกําใหช้อตดั ราการแลกเปลทยที่ น Ca2+ ลดลง ทกําใหช้มกท ารสะสมของ Ca2+ ภายในเซลลฑ์เพกิมที่ ขถึนนี้ และ
กระตสุนช้ การปลต่อย Ca2+ ออกมาจาก sarcoplasmic recticulum (SR) ระดดับ Ca2+ ททเที่ พกิมที่ ขถึนนี้ นดันนี้ สต่งผลใหช้เพกิมที่ การหดตดัว
ของ actin และ myosin ททกที่ ลช้+ามเนลืนี้อหดัวใจมากขถึนนี้ ดดังนดันนี้ จะเพกิมที่ แรงบทบตดัวของหดัวใจมากขถึนนี้ ทกําใหช้มท cardiac output เพกิมที่
Na
บป2+
ขถึนนี้ จถึงมทเลลือดไปเลทยนี้ งททอที่ วดัยวะตต่างๆดทขนนี้ถึ เลลือดไหลผต่านไตไดช้มากขถึนนี้ การขดัCa สดั สาวะดทขCaนนี้ถึ 2+
อาการตต่
/Na+ าantiport
งๆดทขนนี้ถึ
Na+,K+-ATPase
A cell membrane
Na+
K+
free cytosolic Ca2+
digitalis Ca2+
cell membrane
B
Na+
free cytosolic Ca2+
biological
effects
Pharmacy Khon Kaen University 153
ลดักษณะโครงสรผู้างทางเคมท
Cardiac glycoside จะประกอบดช้วย 2 สต่วนททสที่ ากํ คดัญ คลือ
1. สต่วนททไที่ มต่ใชต่นนี้กําตาล (aglycone or genin) จะเปป็ นสารประกอบพวกสเตทยรอยดฑ์ (มท steroid nucleus) คลือ มท
โครงสรช้างของนกิวเครทยส cyclopentano-perhydrophenanthreen
2. สต่วนททเที่ ปป็ นนกํนี้าตาล (glycone) ซถึงที่ อาจเหมลือนหรลือแตกตต่างกดันขถึนนี้ อยสูกต่ บดั ชนกิดของ Cardiac glycoside นกํนี้าตาลททที่
พบใน cardiac glycoside สต่วนใหญต่เปป็ นชนกิด rare sugar คลือ เปป็ นนกํนี้าตาลททพที่ บนช้อยในพลืช โดยเปป็ นนกํนี้าตาล
ชนกิด 2-deoxy sugar หรลือ methoxy sugar
รสูป โครงสรผู้างทดังไปของสารในกลต
ที่ คม cardiac glycosides
O
O
17 O 17
C D C D
A 14 A 14
B B
3 3
cardenolide bufadenolide
ถถึงแมช้วต่า cardiac glycosides ทดังนี้ 2 กลสุมต่ จะมทความแตกตต่างกดันในสต่วนของ Butenolide และ pentenolide ททมที่ า
เกาะตรงตกําแหนต่ง C 17 กป็ตาม แตต่กมป็ ลท กดั ษณะเฉพาะททสที่ ากํ คดัญเหมลือนกดันททแที่ สดงใหช้เหป็นวต่าเปป็ นลดักษณะของ cardiac
glycosides คลือ
1. จะตช้องมท unsaturated lactone ring เชลืที่อมอยสูกต่ บดั steroids nucleus ตรงตกําแหนต่ง C 17
2. ลดักษณะการเกาะของ ring A กดับ ring B และ C กดับ D จะตช้องเปป็ นแบบ cis และ ring B กดับ ring C ตช้องเปป็ น
แบบ trans
3. ททที่ C 14 จะตช้องมท OH group มาเกาะแบบ beta hydroxyl group
4. การเกาะของนกํนี้าตาลททตที่ ต่อกดับ aglycone จะเชลืที่อมตต่อกดับ C 3 และอาจตต่อกดันไดช้มากถถึง 3 โมเลกสุล
Pharmacy Khon Kaen University 155
รสูป โครงสรผู้างทดัวไปและการนดั
ที่ บตทําแหนค งของสารกลตคม cardiac glycosides
156 Cardiovascular disease
1. โครงสรช้างททเที่ ปป็ น cis-trans ของ ring A,B,C และ D ในสต่วน steroid nucleus มทผลตต่อการออกฤทธกิ ธ ลดักษณะการ
เกาะของ ring A กดับ ring B และ C กดับ D จะตช้องเปป็ นแบบ cis และ ring B กดับ ring C ตช้องเปป็ นแบบ trans ทกําใหช้
โครงสรช้างของ steroid nucleus มทลกดั ษณะเปป็ นรสูป U shape ดดังรสูป ซถึงที่ เปป็ นโครงสรช้างททสที่ ากํ คดัญตต่อการออกฤทธกิ ธ
ถช้าลดักษณะการตต่อระหวต่าง ring A กดับ ring B เปป็ น trans จะมทผลใหช้ activity ลดลง หรลือ การตต่อระหวต่าง ring C กดับ ring
D เปป็ น trans จะทกําใหช้ไมต่มท activity
CH3 O
-
CH3 + O
OH H-binding
electrostatic
binding
CH3
R O
O O
hydrophobic binding site A
O
H
hydrophobic binding
H-binding site B
site C
2. Unsaturated lactone ring ททตที่ กําแหนต่ง C 17 เปป็ นสต่วนททสที่ ากํ คดัญในการจดับกดับ receptor (Na+,K+ ATPase) การ
เกกิด saturation ททที่ lactone ring ดช้วย H จะทกําใหช้ activity ลดลง เปลทยที่ น Unsaturated lactone เปป็ น unsaturated nitrile
(C=C-CN group) พบวต่ายดังคงมท activity อยสูต่ (no loss in biological activity)
Pharmacy Khon Kaen University 157
3. การตดัด hydroxyl ททตที่ กําแหนต่ง C14 หรลือ methyl group ททตที่ กําแหนต่ง C10 และ C13 จะมทผลทกําใหช้ activity
ลดลง
4. การเพกิมที่ aldhyde หรลือ hydroxy methyl group ททตที่ กําแหนต่ง C19 จะทกําใหช้มท activity เพกิมที่ ขถึนนี้
5. ททที่ steroid nucleus การเพกิมที่ OH group ททCที่ 12 และ C16 จะสต่งผลตต่อการ partitioning ของ cardiac
glycosides ไปยดัง aqueous media และสต่งผลอยต่างมากตต่อ duration of action
6. การเชลืที่อมตต่อของ aglycone กดับ glycone อาศดัยออกซกิเจนอะตอมททที่ C3 เทต่านดันนี้ และเปป็ นชนกิดบทตา
7. สต่วนของนกํนี้าตาลจะมทผลตต่อ partitioning และ pharmacokinetics ของ cardiac glycosides โดยมทสต่วนชต่วย
เพกิมที่ การดสูดซถึม การกระจายตดัวของยา ชต่วยเพกิมที่ affinity ของ cardiac tissue ตต่อสาร cardenolide
นกํนี้าตาลในโมเลกสุล ของ cardiac glycosides อาจมทไดช้ตงดั นี้ แตต่ 1, 2 , 3 หรลือ 4 หนต่วยตต่อหนถึที่งโมเลกสุล
CH3 R
CH3 R = CH=CH CN
H
R = CH=CH COOCH3
H OH NH2
R'O R = CH=N NH C N+H2
H O
R = CH=N NH C NH2
Digitoxin
Diuretics
ยาขดับปสดั สาวะ หมายถถึง ยาททมที่ ผท ลเพกิมที่ การขดับถต่ายของปสดั สาวะ ซถึงที่ ออกฤทธกิ ธโดยตรงตต่อไต โดยรบกวนระบบการทกํางาน
ปกตกิของไต และมทผลลดการดสูดกลดับของนกํนี้าและอกิเลคโตรไลทฑ์ทหที่ท ลอดฝอยไต
158 Cardiovascular disease
ประเภทของยาขดับปดัสสาวะ
Clinical use
• ลดอาการบวม จาก congestive heart failure, nephrotic syndrome, chronic liver disease
• ใชช้รกดั ษา hypertention, hypercalcemia, diabetes, primary hyperaldosteronism & glaucoma
Diuretic Group
1.Osmotic agent
Pharmacy Khon Kaen University 159
การพดัฒนายา Acetazolamide
1. การเพกิมที่ จกํานวน C ใน acetyl group จะทกําใหช้ยงดั คงฤทธกิ ธยดับยดังนี้ enzyme และขดับปสดั สาวะ แตต่จะมทอาการขช้างเคทยงสสูงขถึนนี้
2. การเอา acetyl group ออก จะใหช้ฤทธกิ ธยดับยดังนี้ enzyme (in vitro) ลดลงมาก
160 Cardiovascular disease
3.การแทนททบที่ น sulfonamide nitrogen จะยดังคงมทฤทธกิ ธขดับปสดั สาวะอยสูแต่ ตต่ความสามารถในการยดับยดังนี้ CA enzyme หมด
ไป
SAR
• sulfamoyl nitrogen atom ตช้องไมต่มห ท มสูแต่ ทนททที่
• methyl gr. บน nitrogen ของ thiazole ring ยดังคงมทฤทธกิ ธขดับปสดั สาวะอยสูต่
• Thiazole ring สามารถเปลทยที่ นเปป็ น thiopyran ring ไดช้
Methazolamide
มท CH3 มาแทนททที่ H ของ thiadiazole ring (lipophilic)
ซถึมเขช้า ocular fluid ไดช้มากกวต่า acetazolamide
Benzolamide
มทกลสุมต่ sulfone มาแทนททกที่ ลสุต่ม carbonyl ทกําใหช้ฤทธกิ ธขดับปสดั สาวะแรงขถึนนี้ 5 เทต่า
Ethoxzolamide
เปป็ นอนสุพนดั ธฑ์ของ benzothiazole
หากไมต่มกท ลสุมต่ OEt อยสูบต่ น benzene ring ทกําใหช้ฤทธกิ ธขดับปสดั สาวะหายไปแตต่ยงดั คงสามารถยดับยดังนี้ CA enzyme
ไดช้
R1 R2 Cl NH2
H2NO2S SO2HNH 2 2S
2NO chloraminophenamide
SO2NH2
• Sulfamoyl nitrogen gr. (ortho to R1)àno substitution
Pharmacy Khon Kaen University 161
• การทกํา acylation ททที่ N-amino จะทกําใหช้เกกิดการปกิดของ ring ไดช้ benzothiazine ซถึงที่ มทฤทธกิ ธ diuretic แตต่ไมต่มฤท ทธกิ ธ
เปป็ น carbonic anhydrase inhibitor
• Sulfamoyl nitrogen gr. (ortho to R2) สามารถแทนททไที่ ดช้ดวช้ ย electrophillic gr. อลืที่นๆ เชต่น carboxyl,
carbamoyl
8 Cl N CH3
1 Cl N CH3
N 2 H H
7 N H2NO2S N
H2NO2S H
O
6 NH O
H3C
4 3
5 quinethazone metolazone
O
Side effect of Thiazides
• Hypersensitivity sulfamoyl gr.
• Hypokalemia เนลืที่องจากมทการเพกิมที่ การขดับ K+ มากขถึนนี้
• Hypercalcemia & hyperuricemia จากการเพกิมที่ การดสูดกลดับททที่ proximal tubule
•
4. Loop diuretics
-ออกฤทธกิ ธยดับยดังนี้ Na+/K+/2Cl- cotransport ททตที่ กําแหนต่ง thick ascending limb ของ loop of henle
Pharmacy Khon Kaen University 163
5. Potassium-sparing diuretics
-ยากลสุต่มนทนี้เปป็ นกลสุต่มททมที่ ฤท ทธกิ ธในการขดับปสดั สาวะอต่อนททสที่ สุดเมลืที่อเททยบกดับยาในกลสุต่มอลืที่นๆ
-ยาออกฤทธกิ ธยดับยดังนี้ การดสูดซถึมกลดับของ Na+ ททที่ distal tubule และ collecting duct ซถึงที่ จะมทการดสูดซถึมกลดับของ Na+ ใน
ปรกิมาณตกํที่าอยสูแต่ ลช้ว
-ดดังนดันนี้ จถึงไมต่นกิยมนกํามาใชช้เดทยที่ วๆแตต่มกดั นกิยมใชช้กบดั ยากลสุต่มอลืที่นๆ
1. Aldosterone antagonist : Spironolactone เปป็ น prototype
-ออกฤทธกิ ธเปป็ น competitive antagonist ของ aldosterone
-เขช้าสสูรต่ ต่างกายเกกิดการเปลทยที่ นแปลงเปป็ นสารชลืที่อ canrenone ซถึงที่ มทโครงสรช้างคลช้ายกดับ aldosterone สามารถแยต่งจดับกดับ
aldosterone receptor ไดช้ดท
164 Cardiovascular disease
CH2OH
O H CH2OOH HO H O
OH O
H H
CH3 CH3
H H H H
O O
(aldehyde form) Aldosterone (hemiacetal form)
O
O
CH3 O
CH3 O
CH3
CH3
H H
H H
O
S C CH3 O
O carenone
Side effect spironolactone
-ทกําใหช้ระดดับ K+ ของรต่างกายสสูงขถึนนี้
-ยามทโครงสรช้างเปป็ น steroid จถึงสามารถจดับกดับ steroid receptor อลืที่นๆทกําใหช้เกกิด endocrine effect อลืที่นไดช้เชต่น
impotence, gynecomastia และ menstrual irregulation
2. Non aldosterone antagonist :Triamterene, amiloride
TRIAMTERENE H2N N N NH2
(2,4,7-TRIAMINO-6-PHENYLPTERIDINE)
Pteridine = pyrimidine + pyrazine ring N
N
SAR
- เตกิม OH ททที่ para ของ phenyl ring ทกําใหช้ฤทธกิ ธหายไป NH2
- เตกิม methyl ททที่ m-/p- ทกําใหช้ฤทธกิ ธลดลงครถึงที่ หนถึที่ง
AMILORIDE
- โครงสรช้างคลช้าย triamterene แตต่เปป็ น open chain O NH2
- โครงสรช้างเปป็ น pyrazine ททเที่ ปป็ น open analog ของ triamterene Cl N
โดยพบวต่าททตที่ กําแหนต่งททที่ 5 ทกําใหช้การขดับออกของ Na+ และ Cl- มทมากขถึนนี้ N NH2
H
H2N N NH2
Antihypertensive Drugs
แบคงตามกลไกการออกฤทธหธ ของยา
A. Diuretics
B. Angiotensin Converting Enzyme Inhibitor : captopril , enalapril , lisinopril
Pharmacy Khon Kaen University 165
การแปรสภาพ
angiotensin
Angiotensin I ททไที่ ดจะถสูกตดัด peptide 2 ตดัวสสุดทาย (His-Leu) ออกจาก C-terminal โดยการเรง
ปฏกิกรกิ ยกิ าจาก enzyme ททชที่ ที่อลื angiotensin converting enzyme (ACE) ไดเปน angiotensin II ซถึงที่ เปน
octapeptide ซถึงที่ angiotensin II นทนี้เองมทฤทธกิเปน
ธ potent vasodilator และกระตสุนให adrenal cortex หลดังที่
aldosterone ซถึงที่ เปนฮอรโมนททมที่ ฤท ทธกิในการตานการขดั
ธ บปสสาวะ (antidiuretic hormone, ADH)
ทกําใหมทการเพกิมที่ การดสูดซถึมของนกํนี้าและเกลลือแร ซถึงที่ ฤทธกิทดัธ งนี้ สองอยางนทนี้ทกําใหมทผลในการเพกิมที่ ระดดับความดดัน
โลหกิตในททสที่ สุด จากนดันนี้ angiotensin II จะถสูกเปลทยที่ นใหเปน angiotensin III โดยการ catalyzed ของ glutamyl
aminopeptidaseซถึงที่ เปนการตดัดเอา aspartate residue ททปที่ ลาย N-terminal ออกไดเปนสารททมที่ คท วามแรงลดลง
166 Cardiovascular disease
Enz.ACE
• 1. Zn2+ atom ซถึงที่ จะ coordination กดับกลสุต่ม carbonyl ททอที่ ยสูใต่ กลช้กบดั peptide bond ททจที่ ะถสูกตดัด
• 2. สามารถสรช้าง พดันธะไฮโดรเจน กดับ substrate
• 3. มท positive charged ionic binding domain
Hypotherical Model
of Active Sites on ACE +
Auxiliary Zn++ Cationic
H
Binding Sites Site
H3C O O-
O-
Substrate Binding O C H2C C C N C O
H
H3C O O-
ACE-I (captopril -S H2C C C N C O
Binding H
168 Cardiovascular disease
SAR
1. สามารถ chelation กดับ Zn2+ binding site
2. มทกรดอะมกิโนททปที่ ลาย C-terminal
กรดอะมกิโนชนกิดททดที่ ทท สที่ท สุดคลือ proline
มท rigid structure + จดับกดับ positive charge ไดช้
3. การเกกิด H-binding ควรเปป็ น amide bond
1.captopril analogue
Pharmacophore คลือ 2D-methyl, 3-mercapto propanoyl-L-proline ซถึงที่ โครงสรช้างประกอบดช้วย propanoyl
(3 carbon structure และ a keto group at the C1 position) อยสูตต่ ดกิ กดับ proline ททบที่ รกิเวณ amino terminal กดับ C1
carbonyl และมท mercapto group ททที่ C 3 of the propanoyl. และททบที่ รกิเวณ C2 ของ propanoyl มท methyl group.
บรกิเวณ carboxylic terminal ของ proline มทความสกําคดัญ เพลือที่ จดับกดับตกําแหนต่ง cationic และ mercapto group มท
ความสกําคดัญในการจดับกดับตกําแหนต่ง zinc binding
Summary
170 Cardiovascular disease
Agonist activity
1. Phenolic of Tyr4
2. His6
3. Aromatic ring of Phe8
4. C-terminal carboxylate
SAR
• กลสุต่ม imidazoline ring ซถึงที่ เททยบเทต่ากดับ His6 ของ angiotensin II
• กลสุต่ม hydroxylmethyl เททยบเทต่าไดช้กบดั กลสุต่ม phenolic ใน Tyr4
• กลสุต่ม tetrazole ring เปป็ น isostere ของ C-termimal carboxylate
** ทกําใหช้เขช้าจดับกดับ ATII receptor ไดช้โดยไมต่ออกฤทธกิ ธ
เอกสารอผู้างอห ง
วทรวรรณ อสุชายภกิชาตกิ .เอกสารประกอบการสอน วกิชา เภสดัชบกําบดัด 1-2 เรลืที่อง Hypertension, Dyslipidemia คณะ
เภสดัชศาสตรฑ์ มหาวกิทยาลดัยขอนแกต่น ปทการศถึกษา 2550
Pharmacy Khon Kaen University 171
จสุฬาภรณฑ์ ลกิมวดัฒนานนทฑ์ .เอกสารประกอบการสอน วกิชา เภสดัชบกําบดัด 3-4 เรลืที่อง Cardiovascular disease คณะ
เภสดัชศาสตรฑ์ มหาวกิทยาลดัยขอนแกต่น ปทการศถึกษา 2551
สมชาย สสุรยกิ ะไกร . เอกสารประกอบการสอน วกิชา เภสดัชบกําบดัด 3-4 เรลืที่อง Pharmacotherapy of cardiac arrhythmia
คณะเภสดัชศาสตรฑ์ มหาวกิทยาลดัยขอนแกต่น ปทการศถึกษา 2551
จดันทนา บสุญยะรดัตนฑ์ .เอกสารประกอบการสอน วกิชา 613352 เรลืที่อง Cardiovascular agents คณะเภสดัชศาสตรฑ์
มหาวกิทยาลดัยขอนแกต่น
วกิลาสกินท หกิรญ
ดั พานกิช . เอกสารประกอบการสอน เคมทยาระบบหดัวใจและหลอดเลลือด คณะเภสดัชศาสตรฑ์ มหาวกิทยาลดัย
มหาสารคาม
อารมณฑ์ เจษฎาญานเมธา .เอกสารการสอนวกิชา 151431 เภสดัชบกําบดัดประยสุกตฑ์ 2 ปทการศถึกษา 2549 ภาควกิชาเภสดัชกรรม
ปฏกิบตดั กิ คณะเภสดัชศาสตรฑ์ มหาวกิทยาลดัยนเรศวร