You are on page 1of 3

เติมเต็มด้วย

ความว่างเปล่า
ทันใดนัน ้ ้
เสียงกรีดร้องก็ดงั ขึน ผูค
้ นต่างตกใจวิง่ ไปหาเด็กสาวทีก ่ าลังวิง่ อย่างเร็ว
ในมือของสาวน้อยได้ถือโทรศัพท์ขา้ งนึง อีกข้างนึงกามืออย่างแน่ น สีหน้าของเด็กสาวช่างดูโศกเศร้าทรมาน
น้าตาบนใบหน้าเธอดูเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก
ทันใดนัน ้ เธอก็เห็นเด็กผูช้ ายคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยูเ่ หมือนกัน เธอเลยวิง่ เข้าไปหาและพูดคุยกับเด็กชายคนนัน ้
แต่ไม่กน ี่ าทีตอ ่ มา ร่างกายของเด็กชายก็คอ ่ ยๆจางหายไป
ณ ่ ห่งหนึ่งในประเทศนอร์ทเทิร์นแลนด์
ทีแ ในศตวรรษที่ 30
เป็ นช่วงทีม ่ ห
ี น่วยงานดูแลและปรับปรุงห้วงเวลาได้เกิดขึน ้ หน่ วยงานนี้ได้สร้างผลงานมากมายให้กบั ประเทศ
และตอนนี้ ก็ได้มภ ี ารกิจใหม่นน ้ ั ก็คือ การส่งนักวิทยาศาสตร์เดินทางไปยังห้วงเวลาอืน ่ แต่สงิ่ ทีไ่ ม่คาดคิดก็เกิดขึน ้

“ประกาศด่วน! ขณะนี้ นกั วิทยาศาสตร์ จากหน่ วยงานดูแลและปรับปรุงห้วงเวลา ได้ตด


ิ อยูใ่ นห้วงเวลาอืน

ทาให้ไม่สามารถกลับมาได้ ตอนนี้ ทุกหน่วยงานกาลังช่วยกันหาทางแก้ไขอยูค
่ ะ่ ”

ฉันได้ยน ิ เสียงนักประกาศข่าวพูดด้วยความตืน ่ ตระหนก แต่ฉน ั ก็ไม่ได้รูส้ ก


ึ ว่าเรือ ่ งนี้มน ั จะสาคัญตรงไหน
ในเมือ่ คนทีเ่ ดือดร้อนก็ไม่ใช่ฉน ั อยูด
่ ี ในช่วง 2 วันทีผ ่ า่ นมา นักข่าวเอาแต่ทาข่าวเรือ ่ งการติดอยูใ่ นห้วงเวลาอื่น
ฉันได้ยน ิ เรือ
่ งนี้ ทง้ ั วันจนไม่อยากจะฟังแล้ว
“แม่คะ หนู ขอเปลีย่ นช่องได้ไหมคะ” ฉันทนไม่ไหวแล้วทีจ่ ะต้องมาเจอกับข่าวไร้สาระแบบนี้
แม่ดูไม่สนใจกับสิง่ ทีฉ ่ น ั พูดเลย ฉันจึงเลยทาหน้าบึง้ ตึงแล้วพูดดังกับแม่วา่
“แม่คะ เราไปโบสถ์กน ั เถอะคะ ไปทาอย่างอืน ่ นอกจากนั่งเฉยๆทีบ ่ า้ นดีกว่า”
“โบสถ์ คือทีไ่ หนหรอลูก ทาไมชือ ่ มันถึงดูคน ุ้ ๆ”
“แม่อย่ามาแกล้งหนู เล่นนะคะ หนูไม่ชอบเลย เราไปทีน ่ ่น
ั ทุกอาทิตย์เลยนะแม่ แม่ยงั บอกหนู อยูเ่ ลยว่า
แม่ชอบบบรรยากาศทีน ่ ่นั เพราะมันทาให้แม่รูส้ ุกสงบทุกครัง้ ทีไ่ ด้เข้าไปสวดมนต์”
ฉันพูดด้วยน้าเสียงทีไ่ ม่คอ ่ ยพอใจกับสถานการณ์ ทเี่ กิดขึน ้
แม่ทาหน้ามึนงง แล้วเดินไปคุยกับพ่อด้วยสีหน้าทีเ่ คร่งเครียด
หลังจากนัน ้ เวลาผ่านมาประมาณ 10 นาที ทัง้ พ่อและแม่ก็เดินมาหาฉัน
แล้วบอกให้ฉน ั พาไปทีโ่ บสถ์ทฉ ี่ น ั พูดถึง
“ถึงแล้วค่ะแม่ นี้ ไงโบสถ์ แม่จาได้หรือยังคะ” สีหน้าของแม่ดก ู ลุม
้ ใจหนักขึน ้ อย่างเห็นได้ชดั
“อ๋อ ทีน
่ ี้ คือโบสถ์หรอ เราไม่เคยมาทีน ่ ี่เลยนะลูก เพราะลูกเป็ นคนบอกแม่เองตัง้ แต่เด็กๆ
ว่าลูกไม่ชอบทีน ่ ี่หนิ เราไม่มาเพราะเราคุยกันแล้วนิวา่ ทีน ่ ี้ มน
ั น่ารังเกียจแค่ไหน”
น้าเสียงแม่บง่ บอกได้ชดั เจนว่าแม่เกลียดทีน ่ ี้ มากแค่ไหน ฉันยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่คาเดียว

ฉันว่าสิง่ ทีฉ
่ นั เจอเมือ
่ วานก่อนแปลกมาแล้วนะ วันนี้ กลับยิง่ แปลกกว่าเดิม
ฉันเห็นคุณพ่อของฉันเก็บสิง่ ทีเ่ รียกว่ากระดาษ และหนังสือ ออกไปจากบ้านจนหมด
ฉันสงสัยมากว่าพ่อจะเอาไปไหน เพราะปกติฉนั จะเห็นว่าพ่อชอบจ้องมองสิง่ พวกนี้ ได้เป็ นชั่วโมง
บางทีถงึ กับพูดออกตามสิง่ ทีต ่ วั เองเห็น ฉันจึงถามพ่อไปว่า
“พ่อคะ พ่อจะเอาของพวกนี้ไปไหนหรอคะ พ่อไม่เก็บสะสมไว้เหมือนแต่กอ ่ นแล้วหรอ”
“ลูกหมายถึง ขยะพวกนี้ นะหรอ พ่อไม่เห็นจาได้เลยนะว่าพ่อชอบสะสมมัน
แล้วอีกอย่างเก็บไว้มน ั ก็รกบ้านเปล่า เอาพื้นทีว่ างของพวกนี้ ไปวางพวกแจกันดอกไม้สวยๆยังดีกว่าเลยนะลูก”
คาตอบของพ่อยิง่ ทาให้ฉน ั สงสัยว่านี้ มน
ั เกิดอะไรขึน ้ กันแน่ ้
ทาไมพ่อถึงทาตัวแปลกขึน
ทัง้ พ่อและแม่เริม
่ จะลืมสิง่ ทีต
่ วั เองชอบทา มันเกิดขึน ้ ได้ยงั ไง

ฉันคิดว่าพ่อแม่ฉน ั น่ าจะป่ วยเป็ นโรคความจาเสือ ่ ม


แต่ทน ั ใดนัน้ รายการข่าวในทีวีกาลังพูดถึงข่าวทีเ่ กีย่ วข้องกับสิง่ ทีพ
่ อ
่ แม่ทา
“แล้วตอนนี้ นะครับ
ท่านนายกรัฐมนตรีของเราได้ขนขยะสีขาวทีม ่ มี ากมายมหาศาลออกจากไวท์เฮ้าส์นะครับ ท่านยังบอกอีกว่า
ท่านกาลังจะเสนอวิธีกาจัดขยะพวกนี้ ให้หายไปอย่างเร็วไว เพือ
่ ไม่ให้มน
ั เยอะจนล้นประเทศพวกเราครับ
เรามารอดูกน ั เลยครับว่าจะเป็ นยังไง”
้ ห้องทันที
ฉันรีบปิ ดทีวีและวิง่ ขึน ตอนนี้ ฉันสับสนมากว่าประเทศของฉันมันเกิดอะไรขึน ้
เรือ
่ งทีแ
่ ปลกประหลาดและไม่น่าจะเกิดขึน ้ ได้ กลับเกิดขึน้ มาอย่างติดต่อกันในเวลาเพียงสัน ้ ๆ ฉันข่มตาตัวลงนอน
และภาวนาหวังว่านี้ เป็ นเพียงความฝัน และพรุง่ นี้ ทุกอย่างจะกลับมาเป็ นปกติ

ตืน
่ มาตอนเช้า ฉันกาลังจะลงไปหาพ่อแม่เพือ ่ ไปกินอาหารเช้าด้วยกัน
แต่ทน ั ใดนัน ้ ฉันก็ได้ยน ิ ท่านสองคน ตะโกนใส่กน ั อย่างรุนแรงเกีย่ วกับการแยกทางกัน
“แอดดิสน ั ทาไมคุณถึงชอบทานิสยั แบบนี้
ฉันบอกคุณกีค ่ รัง้ แล้วว่าฉันไม่ชอบทีค่ ุณใช้เงินฟุ่ มเฟื อยแบบนี้ แล้วแบบนี้ พวกเราจะมีเงินเก็บไหม คิดหน่ อยสิ”
แม่พูดกับพ่ออย่างโมโห
“เงินพวกนี้ ผมหามาเอง ถ้าคุณมีปญ ั หามาก คุณก็ออกไปดิครับ จะอยูน ่ ี้ ทาไม”
พ่อเถียงกลับอย่างรุนแรง ฉันกลัวพ่อแม่จะแยกกัน ฉันเลยรีบลงไปหาพวกท่าน
“พ่อแม่ อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ พ่อแม่อย่าทิง้ หนู ไปเลยนะ ถ้าพ่อแม่จากกัน แล้วหนูจะอยูย่ งั ไงละคะ”
สิน
้ สุดประโยคของฉัน สีหน้าพ่อแม่กด ็ ูผอ
่ นคลายขึน ้ แต่เรือ่ งแบบนี้ไม่เคยเกิดขึน ้ กับทีบ
่ า้ นฉันมาก่อนเลย
เพราะพ่อเป็ นคนประหยัดมากๆ ส่วนแม่จะชอบบังคับพ่อซื้อของ
เห็นทีฉน ั คงต้องหาข้อมูลเกีย่ วกับเรือ ่ งนี้ แล้วแหละ

พอตกเย็น หลังจากทีฉ ่ นั หาข้อมูลอย่างยาวนาน แต่ก็ไม่ได้อะไรทีเ่ ป็ นประโยชน์ กบั เรือ ่ งนี้ เลย


ฉันเครียดมา แต่ทอ ้ งฉันก็ทนไม่ได้กบั ความหิวนี้ ฉันเดินเข้าไปหาพ่อเเละเเม่ของฉัน เเล้วถามเเม่วา่
“วันนี้ เเม่ได้ทากับข้าวไว้หรือเปล่าค่ะ”
ฉันถามด้วยหน้าตาทีส ่ งสัยเป็ นอย่างมาก เพราะปกติเเล้วเเม่ของฉันมักทาไข่เจียวให้ฉน ั กินทุกเย็น
เเต่วน
ั นี้ กลับไม่มีกบั ข้าวสักอย่าง เเต่เเล้วเเม่กลับถามฉันกลับว่า
“เเล้วทาไมฉันต้องทาให้เธอด้วยหละ เธอเป็ นใคร เเล้วเธอมาทาอะไรทีบ ่ า้ นฉัน”
ขาของฉันเเทบทรุดลงไปกับพื้น พร้อมกับจานข้าวทีฉ ่ นั ถือตกลงบนพื้นอย่างเเรง
เศษเเก้วกระจายไปทุกหนทุกเเห่ง ฉันวิง่ ออกจากบ้าน พร้อมกับน้าตาทีเ่ อ่อล้น
ฉันรูส้ ก ึ ตกใจมากกับเหตุการณ์ ทเี่ กิดขึน ้ ฉันกลัวว่าพ่อเเม่ของฉันจะจาฉันไม่ได้
ฉันรีบโทรตามเพือ ่ นให้มาหาฉันโดยด่วน แต่ฉน ั ก็ไม่สามารถอยูท ่ น
ี่ ี้ ได้แล้ว ฉันเครียดมาก
ฉันเลยตะโกน เเละ กรีดร้องอย่างดัง โดยหวังว่าผูท ้ เี่ ดินผ่านไปมาจะสนใจเธอ

เพราะเธอไม่มใี ครอีกเเล้วทีจ่ ะให้พงึ เเม้กระทัง้ พ่อเเละเเม่ของเธอยังลืมเธอไปเเล้วด้วยซา้
มีคนมากมายทีจ่ อ ้ งมองเธอ เเต่เป็ นสายตาทีด ่ ูเย็นชา เเละ เฉยเมยเป็ นเอามาก มันทาให้ฉน ั รูส้ ก ึ เเย่กว่าเก่า
ฉันลุกขึน ้ เเล้วกวาดตามองไปรอบๆ เผือ ่ ว่าจะมีคนประสบกับสถานการณ์ เดียวกับฉัน
ฉันเห็นเด็กผูช ้ ายทีย่ งั ดูเด็กกว่าฉันมากร้องไห้อยูค ่ นเดียวบนสะพานลอย
ฉันจึงวิง่ ไปหาเด็กชายคนนัน ้ หวังว่าจะช่วยให้จต ิ ใจของฉันดีขน ึ้ ฉันถามเด็กชายคนนัน ้ ว่า
“ฉันขอนั่งด้วยได้ใหม”
จากนัน ้ เด็กชายจึงตอบกลับว่า “ได้สฉ ิ นั ตอนนี้ ฉน ั ก็ไม่มีใครเหลือเเล้ว”
ฉันนั่งลงใกล้ขา้ งเด็กชายคนนัน ้ ฉันได้ถามคาถามเขาอยูส ่ กั พัก ก็มีสายเรียกเข้ามา “มานี ”
เพือ
่ นของฉันโทรมานี่เองฉันดีใจมากเเล้วกดรับทันที
เเต่ทน ั ใดนัน ้ ก็มีเสียงผูห ้ ญิงคนหนึ่งคล้ายมานี เพือ ่ นฉันทีร่ า่ เริงเเต่ กลับเป็ นเสียงทีด ่ ูเศร้าหมอง
พร้อมกลับคาถามทีว่ า่
“ไม่ทราบว่านี่ใครหรอค่ะ”
หัวใจของฉันเเทบหยุดเต้นในเวลาเดียวหลังจากทีม
่ านี ได้เอ่ยคาพูดนัน
้ ้
เด็กชายพยุงตัวฉันขึน
ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆจากสะพานลอย

ฉันแทบไม่อยากจะเชือ ่ สายตาตัวเอง ผูค


้ นทีอ
่ ยูร่ อบตัวฉันค่อยๆหายไปทีล่ ะคน
เหมือนไม่เคยมีตวั ตนอยูด
่ ว้ ยซา้ ฉันรูว้ า่ นี่ไม่ใช่ความฝัน ทุกอย่างมันเกิดขึน ้ จริงๆ และ
มันกาลังค่อยๆหายไปเหลือแต่ความว่างเปล่า ต่อมา อยูๆ
่ ความคิดอันเจ็บปวดก็ผด ้ มาในหัว
ุ ขึน
จนทาให้ฉน ั ต้องพึมพาออกมาเป็ นคาพูด

“พ่อ….แม่…..”

ฉันอดคิดไม่ได้จริงๆ ถ้าพ่อกับแม่ของฉันหายไป แล้วฉันจะอยูบ ่ นโลกใบนี้ได้ยงั ไง ทันใดนัน ้


ขาของฉันค่อยๆ ก้าวไปอย่างช้าๆ ใช่ ฉันกาลังจะกลับบ้าน ฉันจะไปหาพ่อกับแม่
ฉันเดินมาถึงหน้าบ้าน แต่ทุกอย่างกลับเงียบสงัด
ไม่มีแม้แต่เสียงลมพัดหรือเสียงผูค ้ นทีเ่ คยเดินกันพลุกพล่าน ทุกอย่างเหมือนหยุดไปซะแบบนัน ้
ความคิดในหัวของฉันมันว่างเปล่า แต่ฉน ั ยังพยายามยา้ กับตัวเองเสมอว่า ทุกอย่างจะกลับมาปกติดี
แต่พอยิง่ เดินเข้ามาในบ้าน เหมือนทุกสิง่ ทุกอย่างมันกาลังตอกยา้ ฉันว่า ฉันกาลังหลอกตัวเอง
ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆ ทุกทีท่ พ ี่ อ
่ แม่ฉน ั เคยอยู่ แต่สงิ่ ทีฉ
่ น ั เห็น มันมีแต่ภาพความทรงจาอันรางๆ
ทีเ่ หมือนจะค่อยๆหายไป อยูด ่ ีๆน้าตาของฉันก็ไหลออกมาอย่างกลัน ้ ไม่อยู่
ฉันรูว้ า่ ตัวฉันเองกาลังจะหายไปเหมือนคนอืน ่ ๆ ความทรงจาของฉันเริม ่ เลือนรางขึน้ เรือ
่ ยๆ
แต่ฉน ั ไม่ยอมหรอกนะ ทาไมเรือ ่ งบ้าๆพวกนี้ ตอ ้ งมาเกิดขึน้ กับฉัน ฉันต้องทาอะไรสักอย่างเพือ ่ ให้ทุกคนกลับมา
พอคิดได้แบบนัน ้ ฉันก็วงิ่ ออกจากบ้านแบบไม่คด ิ ชีวติ และมาหยุดอยูท ี่ วนสาธารณะแห่งหนึ่ง
่ ส
อยูด ่ ีๆฉันก็รูส้ ก
ึ เจ็บแปลบทีห
่ วั ก่อนทีฉ ่ น ั จะล้มลงและลืมแม้กระทั่งชือ ่ ของฉันเอง….

แต่อยูด
่ ีๆ สิง่ ทีช ่ ว่ ยให้ฉน
ั สูก ้
้ บั สิง่ ทีเ่ กิดขึน นัน
้ ก็คือภาพแห่งความสุขทีฉ
่ น
ั เคยมีรว่ มกับพ่อแม่ของฉัน
ฉันเลยตัดสินใจวิง่ ไปทีถ
่ า้ ต้องห้าม เพือ่ ขอความช่วยเหลือจากบุคคลอันตรายในตานาน ทีช ่ อ
ื่ ว่า ธานอส

หลังจากทีฉ ่ น ั ไปขอความช่วยเหลือจาก ธานอส ทุกอย่างเหมือนจะกลับมาเป็ นปกติ


ท้องถนนทีเ่ คยเงียบสงัด แต่ตอนนี้ กลับมีผค ู้ นมากมายเดินพลุกพล่านไปมา
ตอนนี้ สงิ่ ทีฉ ่ น
ั หวังมีเพียงอย่างเดียวคือได้พบหน้า พ่อกับแม่ ฉันจึงรีบวิง่ กลับไปทีบ ่ า้ น สิง่ ทีฉ ่ น
ั เห็นนัน
้ คือ
ภาพของหญิงวัยกลางคน ทีม
่ ีสีหน้ายิม
้ แย้มแจ่มใส กาลังฮัมเพลงเบาๆพร้อมกับรดน้าต้นไม้
ถ้าดูเผินๆแล้วมันอาจจะดูธรรมดา แต่สาหรับฉันภาพเหล่านี้ มน ั ทาให้หวั ใจฉันพองโตอย่างบอกไม่ถูก
เมือ
่ เห็นดังนัน ้ ฉันจึงรีบวิง่ เข้าไปหาและพูดกับเธอว่า
“แม่คะ หนู คด ิ ถึงแม่มากรูไ้ หมคะ”
แต่ทุกอย่างมันกลับไม่เป็ นอย่างทีฉ ่ นั คิด เมือ
่ หญิงสาววัยกลางคนทีฉ ่ นั เพิง่ จะเรียกเธอว่า แม่
ทาสีหน้างุนงงกับเรือ ้ พร้อมตอบกลับมาว่า
่ งทีเ่ กิดขึน
“หนู เป็ นใครจ้ะ น้าไม่มลี ูกสาวหรอกนะ”
จูๆ
่ ประโยคนี้ กไ็ ม่ได้ฟงั ดูน่าเจ็บปวดอย่างทีค ่ วรจะเป็ น นั่นสินะ ฉันมาทาอะไรทีน ่ ี่
ทาไมฉันถึงมายืนอยูต ่ รงนี้ คาถามนับร้อยแล่นเข้ามาในหัว แต่น่าแปลกทีฉ ่ นั เองก็ไม่รูค ้ าตอบเหมือนกัน
จากนัน ้ ฉันจึงกล่าวคาขอโทษแก่เธอ และเดินจากมา
โดยทีฉ ่ นั เองก็จาไม่ได้ดว้ ยซา้ ว่าฉันมาหาเธอทาไมทัง้ ๆทีจ่ ริงแล้ว พวกเราก็ไม่เคยรูจ้ กั กันมาก่อน ระหว่างทาง
ฉันเห็นผูช ้ ายคนหนึ่งอายุราวๆ 36 ปี ได้ กาลังนั่งอยูท ่ ส
ี่ วนในหมูบ ่ า้ น ฉันรูส้ ก ึ คุน
้ หน้าอย่างบอกไม่ถูก
แต่ฉน ั ก็นึกไม่ออกจริงๆว่าเขาเป็ นใคร ฉันได้แต่พูดกับตัวเองว่า
“ทาไมวันนี้ ถงึ มีแต่เรือ ่ งแปลกๆ เกิดขึน ้ นะ”
และจากนัน ้ ฉันก็เดินจากไป โดยทีไ่ ม่รูว้ า่ จุดหมายปลายทางของฉันคือทีไ่ หน…..

You might also like