You are on page 1of 22

จุดเริม่ ต้นทางชีววิทยา

วิชา จิตวิทยาพัฒนาการ เสนอ รศ.ดร.นิตย์ บุหงามงคล


(ED001002)
สมาชิกในกลุ่ม Sec.2

1. นายก้องกิดาการ สวัสดีพทุ ธา รหัส 613050208-3


2. นายนัฐดนัย สิงห์บญ
ั รหัส 613050241-5
3. นายเจริญพร สุวรรณธร รหัส 613050427-1
คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาคณิตศาสตรศึกษา ชัน้ ปี ที่1
จุดเริ่มต้นทางชีววิทยา

เป็ นกระบวนการผลิตสิ่ งมีชีวิตที่จะแพร่ ลูกหลานและดารงเผ่าพันธุ์ของตนไว้ โดย


ต่อมใต้สมองซึ่ งอยู่ภายใต้ก ารควบคุ ม ของสมองส่ ว นไฮโพทาลามัส โดยจะหลัง่
ฮอร์ โ มนกระตุ ้น ต่ อ มเพศชายและหญิ ง ให้ ผ ลิ ต ฮอร์ โ มนเพศ ท าให้ ร่ างกาย
เปลี่ ย นแปลงไปสู่ ค วามเป็ นหนุ่ ม สาวพร้ อ มที่ จ ะสื บ พัน ธุ์ ไ ด้ ต่ อ มเพศในชาย คื อ
อัณฑะ ต่อมเพศในหญิง คือ รังไข่
ระบบสื บพันธุ์เพศชาย
1. อัณฑะ (Testis)
เป็ นต่อมรู ปไข่ มี 2 อัน ทาหน้าที่สร้างตัวอสุ จิ (Sperm) ซึ่งเป็ นเซลล์สืบพันธุเ์ พศชาย และสร้างฮอร์โมนเพศชายเพื่อ
ควบคุมลักษณะต่างๆของเพศชาย เช่น การมีหนวดเครา เสี ยงห้าว เป็ น
2. ถุงหุ้มอัณฑะ (Scrotum) ทาหน้าที่ห่อหุม้ ลูกอัณฑะ ควบคุมอุณหภูมิให้พอเหมาะในการสร้างตัวอสุ จิ ซึ่งตัวอสุ จิจะเจริ ญได้ดีใน
อุณหภูมิต่ากว่าอุณหภูมิปกติของร่ างกายประมาณ 3-5 องศาเซลเซียส
3. หลอดเก็บตัวอสุ จิ (Epididymis) อยูด่ า้ นบนของอัณฑะ มีลกั ษณะเป็ นท่อเล็กๆ ยาวประมาณ 6 เมตร ขดทบไปมา ทาหน้าที่เก็บ
ตัวอสุ จิจนตัวอสุ จิเติบโตและแข็งแรงพร้อมที่จะปฏิสนธิ
4. หลอดนาตัวอสุ จิ (Vas Deferens) อยูต่ ่อจากหลอดเก็บตัวอสุ จิ ทาหน้าที่ลาเลียงตัวอสุ จิไปเก็บไว้ที่ต่อมสร้างน้ าเลี้ยงอสุ จิ
5. ต่ อมสร้ างนา้ เลีย้ งอสุ จิ (Seminal Vesicle) ทาหน้าที่สร้างอาหารเพื่อใช้เลี้ยงตัวอสุ จิ เช่น น้ าตาลฟรักโทส วิตามินซี โปรตีนโกลบู
ลิน เป็ นต้น และสร้างของเหลวมาผสมกับตัวอสุ จิเพื่อให้เกิดสภาพที่เหมาะสมสาหรับตัวอสุ จิ
6. ต่ อมลูกหมาก (Prostate Gland) อยูต่ อนต้นของท่อปั สสาวะ ทาหน้าที่หลัง่ สารที่มีฤทธิ์เป็ นเบสอ่อนๆ เข้าไปในท่อปัสสาวะ เพื่อ
ทาลายฤทธิ์กรดในท่อปัสสาวะ ทาให้เกิดสภาพที่เหมาะสมกับตัวอสุ จิ
7. ต่ อมคาวเปอร์ (Cowper Gland) อยูใ่ ต้ต่อมลูกหมากลงไปเป็ นกระเปาะเล็กๆ ทาหน้าที่หลัง่ สารไปหล่อลื่นท่อปั สสาวะในขณะที่
เกิดการกระตุน้ ทางเพศ
ตัวอสุ จิประกอบด้วยส่ วนสาคัญ 3 ส่ วน คือ ส่ วนหัว เป็ นส่ วนที่มีนิวเคลียสอยู่ ส่ วนตัวมีลกั ษณะเป็ น
ทรงกระบอกยาว และส่ วนหางเป็ นส่ วนที่ใช้ในการเคลื่อนที่ น้ าอสุ จิจะมีค่า pH ประมาณ 7.35-7.50 มี
สภาวะค่อนข้างเป็ นเบส ในน้ าอสุ จินอกจากจะมีตวั อสุ จิแล้ว ยังมีส่วนผสมของสารอื่นๆ ด้วย
ระบบสื บพันธุ์เพศหญิง
อวัยวะที่สาคัญของระบบสื บพันธุ์เพศหญิง ประกอบด้วย
1. รังไข่ (Ovary) ทาหน้าที่ ดังนี้
1.1 ผลิตไข่ (Ovum) ซึ่งเป็ นเซลล์สืบพันธุ์เพศหญิง โดยปกติไข่จะสุ กเดือนละ 1 ใบ จากรังไข่แต่ละข้างสลับกันทุก
เดือน และออกจากรังไข่ทุกรอบเดือนเรี ยกว่า การตกไข่ ตลอดช่วงชีวติ ของเพศหญิงปกติจะมีการผลิตไข่ประมาณ
400 ใบ คือ เมตั้งแต่อายุ 12 ปี ถึง 50 ปี จึงหยุดผลิต เซลล์ไข่จะมีอายุอยูไ่ ด้นานประมาร 24 ชัว่ โมง
1.2 สร้างฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งมีอยูห่ ลายชนิด ที่สาคัญ ได้แก่
• อีสโทรเจน (Estrogen) เป็ นฮอร์โมนที่ทาหน้าที่ควบคุมเกี่ยวกับมดลูก ช่องคลอด ต่อมน้ านม และควบคุมการเกิด
ลักษณะต่างๆ ของเพศหญิง เช่น เสี ยงแหลมเล็ก ตะโพกผาย หน้าอกและอวัยวะเพศขยายใหญ่ข้ ึน เป็ นต้น
• โพรเจสเทอโรน (Progesterone) เป็ นฮอร์ โมนที่ทางานร่ วมกับอีสโทรเจนในการควบคุมเกี่ยวกับเกี่ยวกับการเจิญ
ของมดลูก การเปลี่ยนแปลงเยือ่ บุมดลูกเพื่อเตรี ยมรับไข่ที่ผสมแล้ว
2. ท่ อนาไข่ (Oviduct) หรือปี กมดลูก (Fallopian Tube)
เป็ นทางเชื่อมต่อระหว่างรังไข่ท้งั สองข้างกับมดลูก ภายในกลวง มีส้นผ่าน
ศูนย์กลางประมาณ 2 มิลลิเมตร มีขนาดปกติเท่ากับ เข็มถักไหมพรมยาวประมาณ 6-7
เซนติเมตร หนา 1 เซนติเมตร ทาหน้าที่เป็ นทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูก โดย
ปลายข้างหนึ่งเปิ ดอยูใ่ กล้กบั รังไข่ เรี ยกว่า ปากแตร (Funnel) บุดว้ ยเซลล์ที่มีขนสั้นๆ ทาหน้าที่
พัดโบกไข่ที่ตกมาจาก รังไข่ให้เข้าไปในท่อนาไข่ ท่อนาไข่เป็ นบริ เวณที่อสุ จิจะเข้าปฏิสนธิกบั
ไข่
3. มดลูก (Uterus) มีรูปร่ างคล้ายผลชมพู หรื อรู ปร่ างคล้ายสามเหลี่ยมหัวกลับลง กว้าง
ประมาณ 4 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6-8 เซนติเมตร หนาประมาณ 2 เซนติเมตร อยูใ่ นบริ เวณ
อุง้ กระดูกเชิงกราน ระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับทวารหนัก ภายในเป็ นโพรง ทาหน้าที่เป็ นที่
ฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว และเป็ นที่เจริ ญเติบโตของทารกในครรภ์
4. ช่ องคลอด (Vagina) อยูต่ ่อจากมดลูกลงมา ทาหน้าที่เป็ นทางผ่านของตัวอสุ จิเข้าสู่มดลูก
เป็ นทางออกของทารก เมื่อครบกาหนดคลอด และยังเป็ นช่องให้ประจาเดือนออกมาด้วย
การปฏิสนธิ ตามปกติอสุ จิตวั ที่แข็งแรงที่สุดตัวเดียวเท่านั้นจะไปพบกับไข่ได้ก่อน และเนื่องจากอสุ จิจะมีสารซึ่ งสามารถ
ละลายผนังที่ห่อหุ ม้ ปกป้ องไข่ออกได้ อสุ จิจึงเจาะผ่านเปลือกของไข่ เพื่อเข้าไปรวมตัวกับนิวเคลียสภายในไข่ได้ หลังจากนั้นอสุ จิ
ตัวอื่นๆ ก็จะไม่สามารถเข้าไปได้อีก ส่ วนอสุ จิตวั ที่เข้าไปในไข่แล้วจะสลัดหางทิ้ง และส่ วนหัวที่เข้าไปในไข่จะเริ่ มพองขึ้นและ
หลอมรวมกันกับไข่เป็ นเซลล์เดียวกันในที่สุด
การเกิดฝาแฝด (Multiple Births)
ตามปกติร่างกายของคนเรามีการตั้งครรภ์และคลอดทารกคราวละ 1 คน แต่บางกรณี ร่างกายของคนเรา
อาจมีโอกาสตั้งครรภ์และ คลอดทารกครั้งละมากกว่า 1 คน เรี ยกว่า “ ฝาแฝด ” ซึ่งถือเป็ นความผิดปกติของการ
ตั้งครรภ์แบบหนึ่ง ฝาแฝดมี 2 ประเภท คือ
แฝดแท้ (Identical – monozygotic) คือฝาแฝดที่เกิดจากไข่ 1 ฟองผสมกับตัวอสุ จิ 1 เซลล์ แต่ไข่ที่ได้รับ
การผสมแล้วขณะที่กาลังเจริ ญเป็ นเอ็มบริ โอในระยะแรกๆ เกิดแบ่งออกเป็ น 2 ส่ วน และแยกขาดออกจากกันแล้ว
เจริ ญเติบโตเป็ นทารกและคลอดในเวลาใกล้เคียงกัน ฝาแฝด ประเภทนี้จะมีรูปร่ างลักษณะเหมือนกัน มีเพศเดียวกัน
มีอุปนิสยั ใจคอและความสามารถคล้ายกันเมื่อได้รับการเลี้ยงดูใน สภาพแวดล้อมเดียวกัน
ในบางครั้งฝาแฝดร่ วมไข่ซ่ ึงเกิดจากเอ็มบริ โอที่แบ่งออกเป็ น 2 ส่ วน แต่ไม่แยกออกจากกันโดยเด็ดขาด
ทาให้ทารกที่คลอดออกมา มีอวัยวะบางส่ วนติดกัน เช่น แฝดสยาม (Siamese twin) คู่แรกที่ชื่ออิน - จัน มีส่วนอก
ติดกันและมีตบั เป็ นเนื้อเดียวกัน หรื อแฝดลาร์ดาน - ลาร์เลห์มีส่วนหัวติดกัน เป็ นต้น
แฝดเทียม (Freternal – dizygotic) คือแฝดที่เกิดจากไข่คนละฟองผสมกับตัวอสุ จิคนละเซลล์ ได้เอ็มบริ โอ
มากกว่า 1 เอ็มบริ โอ สาเหตุที่เกิด เนื่องจาก มีไข่สุกพร้อมกันมากกว่า 1 ฟองจากรังไข่ขา้ งหนึ่ งหรื อทั้งสองข้าง
ขณะที่เอ็มบริ โอเจริ ญอยูใ่ นมดลูกรกจะแยกจากกันและทารกจะคลอดออกมาในเวลาใกล้เคียงกัน แฝด
ประเภทนี้อาจมีเพศเดียวกันหรื อต่างเพศก็ได้ และมีลกั ษณะทางพันธุกรรมต่างกัน
ความผิดปกติของโครโมโซม
ความผิดปกติของโครโมโซมร่ างกาย
Edward syndrome
Cri du chat syndrome
ความผิดปกติของโครโมโซมเพศ

Klinefelter syndrome (ไคลน์เฟลเตอร์ซินโดรม) พบในผูช้ าย เกิดจากมีโครโมโซม X เกินมา 1


แท่ง โครโมโซมเป็ นแบบ 47,XXY
อาการ อวัยะเพศภายนอกเป็ นเพศชาย แต่อณ ั ฑะเล็ก เต้านมโตคล้ายผูห้ ญิง รู ปร่ างสู ง อ้วน ปั ญญา
ค่อนข้างอ่อน
Double Y syndrome (ดับเบิลวายซินโดรม) พบในเพศชายเกิดจากมีโครโมโซม Y เกินมา 1 แท่งรวมเป็ น 3
แท่ง โครโมโซมเป็ นแบบ 47,XYY
อาการ ลักษณะ ภายนอกเป็ นชาย สติปัญญาต่า เป็ นหมัน รู ปร่ างสู ง ไม่มีลกั ษณะทางกายที่ผดิ ปกติ แต่มกั เป็ น
คนอารมณ์ฉุนเฉียว ใจร้อน พบมากในพวกนักโทษซึ่ งมีพฤติกรรมเป็ นภัยต่อสังคม
ภาวะการมีบุตรยาก
อาจมีสาเหตุจากความผิดปกติของเพศชายหรือเพศหญิงดังนี้
ความผิดปกติของเพศชาย
1. ความผิดปกติที่อสุ จิหรื อจานวนอสุ จิ เช่น การมีอสุ จิที่ผดิ ปกติ จานวนอสุ จินอ้ ย ไม่มีอสุ จิ ความผิดปกติเกี่ยวกับการเคลื่อนที่
ของอสุ จิ หรื อความผิดปกติของอวัยวะเพศชาย โดยปกติการหลัง่ อสุ จิแต่ละครั้งจะได้น้ าอสุ จิประมาณ 3-4 ลูกบาศก์เซนติเมตร ซึ่งจะมีอสุ จิ
ประมาณ300 – 500 ล้านเซลล์ต่อลูกบาศก์เซนติเมตร หรื ออสุ จิมีรูปร่ างผิดปกติมากอาจจะทาให้มีบุตรได้ยาก
2. ความผิดปกติเกี่ยวกับทางผ่านของอสุ จิ เช่น ท่อทางผ่านของอสุ จิตีบตันทาให้อสุ จิไม่สามารถออกสู่ ภายนอกร่ างกายได้
3. ความผิดปกติในน้ าอสุ จิ เช่น ความเป็ นกรด – เบส ของน้ าอสุ จิผดิ ไป การขาดน้ าตาลฟรักโทสหรื อมีการติดเชื้อทาให้อสุ จิ
ตายได้
ความผิดปกติของเพศหญิง
1. มีอวัยวะเพศพิการมาแต่กาเนิด เช่น ไม่มีช่องคลอด ช่องคลอดหรื อท่อนาไข่ ตีบตัน มีผนังกั้น หรื อก้อนเนื้องอก หรื อแผลเป็ น
2. การเป็ นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคซิ ฟิลิส โรคเอดส์ เกิดการอักเสบเนื่องจากติดเชื้อ เช่น พยาธิ รา แบคทีเรี ย ไวรัส
ทาให้มีการเปลี่ยนแปลงภาวะความเป็ นกรด – เบส ของช่องคลอด หรื อปากมดลูกทาให้อสุ จิตายได้
3. เยือ่ บุผนังมดลูกผิดปกติ หรื อเกิดเนื้องอกที่กล้ามเนื้อผนังมดลูกทาให้เกิดการแท้ง
4. การขาดฮอร์โมนโดยเฉพาะโพรเจสเทอโรน ทาให้เยื้อบุผนังมดลูกผิดปกติ ไม่เหมาะที่จะให้เอ็มบริ โอฝังตัว
เทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาการมีบุตรยาก
1. การผสมเทียม การผสมเทียมหมายถึง การใช้เครื่ องมือฉี ดเชื้ออสุ จิเข้าไปภายในอวัยวะสื บพันธุ์
ของสตรี ในช่องที่มีการตกไข่ เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิระหว่างตัวอสุ จิกบั ไข่ของสตรี น้ นั เชื้ออสุ จิ
อาจเป็ นของสามีหรื อของผูบ้ ริ จาคทั้งนี้ข้ ึนอยูก่ บั สาเหตุ มักทาในกรณี ที่น้ าเชื้ออสุ จิของฝ่ ายชายมี
คุณภาพต่ากว่ามาตรฐาน มีปัญหาเกี่ยวกับการร่ วมเพศ

2. การทากิฟ๊ (Gamete intrafallopian transfer)


การทากิ๊ฟเป็ นวิธีมาตรฐานของเทคโนโลยีช่วยการเจริ ญพันธุ์ หลักการคือ การ
นาไข่และเชื้ออสุ จิซ่ ึงโดยปกติจะใช้เชื้ออสุ จิประมาณ 50,000 - 100,000 ตัวต่อ
ไข่ 1 ใบ ใส่ กลับเข้าไปในมดลูกข้างใดข้างหนึ่งหรื อทั้ง 2 ข้าง โดยหวังว่าไข่และเชื้อ
อสุ จิจะสามารถปฏิสนธิในปี กมดลูก เป็ นตัวอ่อน และเดินทางจากปี กมดลูกเข้าไปฝัง
ตัวในโพรงมดลูกได้ ดังนั้นการทากิ๊ฟจะต้องมี ปี กมดลูกที่ปกติอย่างน้อย 1 ข้าง โดย
ปี กมดลูกจะต้องไม่ตีบตัน เยือ่ บุในปี กมดลูกจะต้องไม่เสี ยหาย การเคลื่อนตัวของปี ก
มดลูกต้องดี เพื่อบีบส่ งตัวอ่อนเข้าโพรงมดลูกได้สาเร็ จ
3. การปฏิสนธินอกร่ างกาย (In vitro fertilization) การปฏิสนธินอกร่ างกาย คือ การนาไข่และเชื้ออสุ จิมาผสมให้เกิดการปฏิสนธิกลายเป็ น
ตัวอ่อนในห้องทดลองและนาตัวอ่อนที่เกิดขึ้นใส่ กลับเข้าไปในปี กมดลูก เพือ่ ให้เกิดการตั้งครรภ์ มีดงั นี้
3.1 การทาซิ๊ฟ หรือ พรอส (ZIFT or PROST) คือการใส่ ตวั อ่อนที่ปฏิสนธิ แล้วระยะที่ยงั ไม่เกิดการแบ่งเซลล์ คือ ตัวอ่อนระยะ 1 เซลล์ เข้า
ปี กมดลูก อาจจะใส่ ผา่ นทางช่องคลอดหรื อการเจาะหน้าท้อง
3.2 การทาเทสท์ (TEST) คือการใส่ ตวั อ่อนระยะตั้งแต่สองเซลล์ข้ ึนไปเข้า ปี กมดลูกด้วยวิธีการเดียวกับการทา ZIFT
3.3 การทาเด็กหลอดแก้ ว (IVF – ET) คือการใส่ ตวั อ่อนระยะตั้งแต่สองเซลล์ข้ ึนไปเข้าโพรงมดลูก

ธนาคารอสุ จิ
ธนาคารอสุ จิ (Sperm bank) คือ การเก็บรักษาเชื้ออสุ จิ
ไว้ที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซี ยส ทาให้สามารถเก็บ
รั ก ษาเชื้ อ อสุ จิ ไ ว้ไ ด้เป็ นเวลานานนับ สิ บ ปี เพื่ อ เป็ น
แหล่ ง เก็ บ สะสมเชื้ อ อสุ จิ จ าก ผู ้บ ริ จาค และน ามา
บริ จาคให้คู่สมรส ที่ตอ้ งการเชื้ออสุ จิ
4. การรับบริจาคไข่ ตัวอสุ จิ หรือตัวอ่ อน
4.1 ในกรณี ที่ภรรยาไม่สามารถผลิตไข่ได้ เช่น อายุมาก รังไข่เสื่ อม ไม่มีรังไข่ หรื อมีโรคติดต่อทางพันธุกรรม คู่สามี
ภรรยาอาจหาสตรี อื่นมาบริ จาคเซลล์ไข่แทนได้ แล้วผ่านกระบวนการเด็กหลอดแก้ว โดยปฏิสนธิกบั ตัวอสุ จิสามี
4.2 ในกรณี ที่สามีมีเชื้ออสุ จิ คุณภาพไม่ดี หรื อไม่มีเชื้ออสุ จิ หรื อมีโรคติดต่อทางพันธุกรรม คู่สามีภรรยาอาจหาชายอื่น
มาบริ จาคเชื้ออสุ จิ หรื อใช้เชื้ออสุ จิจากธนาคารอสุ จิของโรงพยาบาล แล้วผ่านกระบวนการผสมเทียมหรื อเด็กหลอดแก้ว
แล้วแต่กรณี
4.3ในกรณี ที่ท้งั สามีและภรรยาไม่สามารถผลิตไข่และตัวอสุ จิได้หรื อมีโรค ทางพันธุกรรมที่ตอ้ งการหลีกเลี่ยง อาจขอ
บริ จาค ตัวอ่อนจากคู่สามีภรรยาอื่นที่มีเหลือเก็บแช่แข็งไว้ แล้วใส่ กลับเข้าไปในมดลูกของฝ่ ายภรรยาเพื่อให้ต้ งั ครรภ์

5. การอุ้มบุญ (Surrogate mather) การอุ้มบุญ คือ การนาตัวอ่อนที่ได้จากการปฏิสนธิของไข่และตัวอสุ จิของคู่สามี


ภรรยาใส่ เข้าไปในโพรงมดลูกของสตรี อื่น เพื่อให้ต้ งั ครรภ์แทน เนื่องจากฝ่ ายสามีภรรยามีปัจจัยที่ไม่เหมาะสมต่อการ
ตั้งครรภ์ เช่น เนื้องอกในมดลูก ไม่มีมดลูก หรื อมีโรคระบาดประจาตัวทางร่ างกายที่ไม่สามารถตั้งครรภ์เองได้
THANK YOU

You might also like