Professional Documents
Culture Documents
Corrosion r1 150101134558 Conversion Gate02 PDF
Corrosion r1 150101134558 Conversion Gate02 PDF
of Corrosion
1 การจาแนกประเภทของการกัดกร่ อน
2 ปฏิกริ ิยาไฟฟ้าเคมี
3 การป้องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่ อน
4 คุณสมบัตขิ องวัสดุ
การจาแนกประเภทของการกัดกร่ อน
การจาแนกประเภทของการกัดกร่ อน
กัดกร่ อน (Corrosion) คือ ปฏิกิริยาระหว่างวัสดุโลหะกับ
สิ่ งแวดล้อมซึ่งนาไปสู่การเสื่ อมสภาพของวัสดุน้ นั และยังผลให้
ความสามารถในการทาหน้าที่ของวัสดุดงั กล่าวเสี ยไป โดยส่ วน
ใหญ่ปฏิกิริยาดังกล่าวจะเป็ นปฏิกิริยาเคมีไฟฟ้ า แต่ท้ งั นี้สามารถ
เป็ นปฏิกิริยาเคมี หรื อปฏิกิริยาทางกายภาพของโลหะได้เช่นกัน
การกัดกร่ อนของเหล็ก เรี ยกว่าการเกิดสนิม หรื อเหล็กออกไซด์
เกิดจากเหล็กทาปฏิกิริยากับออกซิเจนโดยออกซิเจนจากอากาศ
หรื อน้ า
การจาแนกประเภทของการกัดกร่ อน
แบ่งตามสภาวะแวดล้อมที่เกิดขึ้นสามารถแบ่งการกัดกร่ อนออก
ได้เป็ น 2 ประเภทคือ
การกัดกร่ อนในสภาพชื้น (Wet corrosion) การกัดกร่ อน
ประเภทนี้จะเกิดขึ้นเมื่อโลหะได้รับความเปี ยกชื้นจากน้ าหรื อ
สารละลายอิเล็กโตรไลท์ เป็ นการกัดกร่ อนที่เกิดขึ้นกับวัสดุ
ประเภทโลหะมากที่สุด เช่น การเกิดสนิมเหล็ก เป็ นต้น
การกัดกร่ อนในสภาพแห้ง (Dry corrosion) การกัดกร่ อน
ประเภทนี้ เกิดเนื่องจากสภาพอุณหภูมิการใช้งานที่สูง เช่น การ
กัดกร่ อนที่เกิดกับเหล็กกล้า เนื่องจากก๊าซภายในเตาสูง
การจาแนกประเภทของการกัดกร่ อน
การกัดกร่ อนสามารถจาแนกตามลักษณะทางกายภาพของการกัด
กร่ อน หรื อตามตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อการกัดกร่ อน
การกัดกร่ อนแบบสม่าเสมอ (Uniform corrosion)
การกัดกร่ อนในบริ เวณจาเพาะ (Localized corrosion)
แบบมหภาค (Macroscopic scale)
• การกัดกร่ อนแบบกัลวานิ ก (Galvanic corrosion)
• Electrochemical
Material activity of material
properties • Homogeneity
• Passivity
• Design
• Stress
Physical
• Couples
conditions
• External energy
• Mechanical action
การป้ องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่ อน
โลหะที่มีศกั ย์ไฟฟ้ า
ต่ากว่าจะเป็ นอาโนด
และเกิดการกัดกร่ อน
การป้ องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่ อน
การกัดกร่ อนเนื่องจากความต่างศักย์ (Galvanic corrosion)
การป้ องกันการกัดกร่ อนมีหลายวิธีดงั นี้
เลือกใช้วสั ดุที่มีค่า galvanic Series ใกล้เคียงกันเท่าที่เป็ นได้
หลีกเลี่ยงอัตราส่ วนของพื้นที่คาโธด/อาโนด ปรับให้พ้น ื ที่ท้ งั สองใกล้เคียงกัน
ใช้ฉนวนกั้นในบริ เวณที่ใช้โลหะต่างชนิ ดกันมาสัมผัสกัน
ใช้สารเคลือบผิวอย่างระมัดระวัง ดูแลการเคลือบผิวให้อยูใ่ นสภาพดี
เติมสารยับยั้ง เพื่อลดความรุ นแรงของการกัดกร่ อน
ออกแบบที่ให้สามารถเปลี่ยนชิ้นงานที่เป็ นอาโนดได้ง่าย
ติดตั้งวัสดุที่สามที่มีค่าความต่างศักย์นอ้ ยกว่าโลหะทั้งสอง เพื่อให้เกิดการกัดกร่ อนแทน
การป้ องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่ อน
การกัดกร่ อนเนื่องจากความต่างศักย์ (Galvanic corrosion)
ลักษณะการกัดกร่ อนแบบ
Galvanic Corrosion
การป้ องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่ อน
การผุกร่ อนเป็ นแบบรู ลึก (Pitting Corrosion) ในโลหะ ปริ มาณโลหะที่ถกู
กัดกร่ อนไปเป็ นส่ วนเล็ก แต่ทาให้เกิดความเสี ยหายได้มาก การตรวจสอบทาได้ยาก บาง
คราวปากรู อาจจะเล็กจนแทบมองไม่เห็น แต่ขา้ งในเป็ นโพรงใหญ่เกิดจากสาเหตุดงั นี้
Concentration Cell ตามบริ เวณปะเก็นใต้หวั หมุด หรื อมุมอับต่าง ๆ เมื่อเกิดการผุกร่ อน
สนิมหรื อวัตถุแปลกปลอมอื่น ๆ จะช่วยกั้นให้ concentration ระหว่าง anode กับ cathode
ต่างกันมากขึ้น การผุกร่ อนจะดาเนินไปเป็ นจุด ๆ ลึกลงไปในโลหะมากขึ้นทุกที
เกิดในน้ าที่มี chloride อยู่ มักจะเกิดกับ aluminum หรื อ stainless steel ซึ่ งเป็ นโลหะที่
อาศัย oxide film ตามผิว เพื่อป้ องกันการผุกร่ อน ถ้าผิว oxide film เกิดเป็ นรู โลหะที่จุดนั้นก็
จะผุกร่ อนได้ง่าย ยิง่ ถ้าอยูใ่ นสภาพน้ านิ่ งหรื อปริ มาณออกซิ เจนในน้ าก็อาจจะมีนอ้ ย ทาให้
เกิดการ oxide film เพื่อป้ องกันผิวเป็ นไปได้ชา้ ฉะนั้น โลหะจะ pit เป็ นรู ได้ง่าย
การป้ องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่ อน
การผุกร่ อนเป็ นแบบรู ลึก (Pitting Corrosion)
การป้ องกันการกัดกร่ อนแบบรู ลึกมีหลายวิธีดงั นี้
ไม่ควรนาโลหะที่เกิด pitting ได้ง่าย หรื อมีแนวโน้มอย่างชัดว่าจะเกิด pitting ไปใช้ผลิต
เป็ นอุปกรณ์โรงงานตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนจากเหล็กสแตนเลส ชนิด 18 – 8 ที่มี
โมลิบดีนมั 2% เป็ นเหล็กสเตนเลส ชนิด 316 จะทาให้ความต้านทานการเกิด pitting
เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย การเติมโลหะโมลิบดีนมั ช่วยเพิ่มความสามารถในการป้ องกัน ซึ่ ง
เป็ นผลมาจาก passive surface มีเสถียรภาพเพิม่ ขึ้นมากนัน่ เอง
Pitting Corrosion
การป้ องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่ อน
การกัดกร่ อนตามขอบเกรน (Intergranular and knife-line attack) มักจะ
เกิดกับ stainless steel Type 18-8 (คือ โครเมียม 18% นิกเกิล 8%) ที่ได้รับ heat treatment มา
ไม่ถกู ต้อง ถ้า 18-8 Stainless steel ถูกทาให้ร้อนระหว่าง 510 – 760oC เช่น ในการเชื่อมเป็ น
เวลานานพอสมควร (เรี ยกว่า Sensitization) โครเมียมในเหล็กจะทาปฏิกิริยากับ carbon เป็ น
chromium carbide ตกตะกอนมาอยูต่ ามบริ เวณขอบ grain ฉะนั้น ปริ มาณของโลหะ
โครเมียมตามบริ เวณใกล้ ๆ ขอบ grain จะมีนอ้ ยกว่าปกติ โดยที่เหล็กชนิ ดนี้อาศัยโครเมียม
เป็ นตัวป้ องกันการผุกร่ อน (เพราะเกิดเป็ น Chromium oxide film ป้ องกันผิว) ถ้าตามขอบ
grain มีโครเมียมเมื่อใช้งานในน้ าหรื อกรด ก็จะเกิดการผุกร่ อนโดย eletrochemical
corrosion cells ได้โดยรวดเร็ วตามบริ เวณนั้น บางคราวเนื้อเหล็กถึงกับร่ อนหล่นลงมาเป็ น
เมล็ด ๆ วิธีป้องกันก็คือ ต้องเผาเหล็กชนิ ดนี้ ให้ร้อนถึง 1010 – 1120oC เพื่อให้ chrormium
carbide กลับคืนมาเป็ นโครเมียมดังเดิม แล้วทาให้เย็นผ่านช่วง sensitization temp (510 –
760oC) โดยเร็ ว
การป้ องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่ อน
การกัดกร่ อนตามขอบเกรน (Intergranular and knife-line attack)
Chromium carbide
precipitate
Cr23 C6
Grain boundaries
การป้ องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่ อน
การกัดกร่ อนตามขอบเกรน (Intergranular and knife-line attack)
การป้ องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่ อน
การกัดกร่ อนตามขอบเกรน (Intergranular and knife-line attack)
การป้ องกันการกัดกร่ อนแบบเกรนมีหลายวิธีดงั นี้
เผาเหล็กชนิ ดนี้ ให้ร้อน 1010 – 1120oC เพื่อให้ chrormium carbide กลับคืนมาเป็ น
โครเมียมดังเดิม แล้วทาให้เย็นผ่านช่วง sensitization temp (510 – 760oC) โดยเร็ ว
ใส่ โลหะอื่นที่รวมตัวกับคาร์ บอน เป็ นคาร์ไบด์ได้ดีกว่าโครเมียม เช่น Nb, Ta, Ti ใน
ปริ มาณมากพอทาให้ไม่เกิดโครมเรี ยมคาร์ ไบด์
ใช้เหล็กสเตนเลสที่มีปริ มาณคาร์ บอนน้อยกว่า 0.03% ซึ่ งเราเรี ยกว่าเป็ นเหล็กสเตนเล
สที่มีโลหะที่ถกู stabilized เพื่อป้ องกันปั ญหา intergranular
การป้ องกันและหลีกเลี่ยงปั ญหา knife-line attack คือ การอบเหล็กสเตนเลสนั้นให้ร้อน
ประมาณ 1065 oC ซึ่ งเป็ นอุณหภูมิที่โครเมียมคาร์ ไบด์ละลายเข้าสู่ เนื้อเกรน แต่เกิด
ตะกอนไนโอเบียมคาร์ไบด์ (หรื อคาร์ไบด์ของ Ta, Ti) ขึ้น ทาให้มีความต้านทานต่อทั้ง
knife-line attack และ Intergranular Corrosion แบบทัว่ ๆ ไป
การป้ องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่ อน
การกัดกร่ อนบริ เวณซอก (Crevice Corrosion) มักจะเกิดกับ stainless steel
Type เป็ นรู ปแบบของ electrochemical corrosion ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในรอยแยก รอยร้าว
และภายใต้เกราะป้ องกันผิวที่ซ่ ึ งมีสารละลาย (นิ่ง) อยู่ Crevice corrosion มีความสาคัญ
ทางด้านวิศวกรรม เมื่อมันเกิดขึ้นภายใต้ประเก็น rivets และ bolts ซึ่ งอยูร่ ะหว่าง valve disks
และ seats ซึ่ ง Crevice corrosion เกิดขึ้นในโลหะผสม เช่น stainless steels และ titanium,
aluminum และ copper alloys
Anode reaction : M M+ + e-
Cathodic reaction : O2 + 2H2O + 4e- 4OH-
เมื่อดุลประจุดว้ ยคลอไรด์อิออน
M + Cl- + H2O MOH + H+Cl-
การป้ องกันการเกิดสนิม และการกัดกร่ อน
การกัดกร่ อนบริ เวณซอก (Crevice Corrosion)
Tensile stress
EIC
Susceptible
Corrosive
material
environment
(Alloy)
โลหะ (Metal)
เซรามิก (Ceramics)
พอลิเมอร์ (Polymer)
วัสดุผสม (Composites)
โลหะ (Metal)
ตัวอย่ างเช่ น 1060 คือ เหล็กกล้ าคาร์ บอนธรรมดา มีปริมาณคาร์ บอน 0.60% โดย
น้าหนัก
เหล็กกล้าคาร์ บอนสู ง