หัวข้ อวิจัย บริษัทที่ดำเนินกลยุทธ์ ในระดับธุรกิจที่แตกต่ ำงกัน จะส่ งผลให้ ควำมสัมพันธ์ ระหว่ ำงสัดส่ วน

กรรมกำรอิสระกับผลกำรดำเนินงำนต่ ำงกันหรือไม่
กลุ่มตัวอย่ ำงและกำรเก็บข้ อมูล
บริ ษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตงแต่
ั ้ ปี 2556-2560 ยกเว้ นบริ ษัทที่ดาเนินกิจการด้ านการเงิน เช่น ธนาคาร บริ ษัท
หลักทรัพย์หรื อ บริ ษัทประกันภัย
วิธีกำรวิจัย
ใช้ วธิ ี Moderated Regression Analysis ในการหาสมมติฐาน โดยมีสมการดังนี ้

Performi = β0 + β1INDi + β2STRAi + β2IND*STRAi + β3LOGTAi + β4BSi + β5IOSi + β6CEOi + β7LEVi+εi

โดย

Perform = ผลการดาเนินงานของบริ ษัท ได้ แก่ ROE,ROA,Tobin’s Q

IND = สัดส่วนของกรรมการอิสระ

STRA = กลยุทธ์ที่บริ ษัทเลือกใช้ โดยกาหนดให้ บริ ษัททีใ่ ช้ กลยุทธ์ Differntiation เป็ น 1 และกลยุทธ์Cost Efficiency เป็ น
0

LOGTA = Logarithm ธรรมชาติของสินทรัพย์รวมทังหมดของบริ

้ ษัท

BS = จานวนคณะกรรมการ

IOS = อัตราส่วนของสินทรัพย์รวมอาคารและอุปกรณ์กบั มูลค่าตลาดของ บริ ษัท i

CEO = ตัวบ่งชี ้เท่ากับ 1 ถ้ าประธานกรรมการบริ หารเป็ นประธานคณะกรรมการ หรื อเป็ น 0 ถ้ าไม่ใช่

LEV = อัตราส่วนหนี ้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น

ปั ญหำที่ต้องกำรปรึกษำ
ตัวแปร STRA จะต้ องแบ่งบริษัทกลุม่ ตัวอย่างเป็ น 2 กลยุทธ์ ได้ แก่ Cost Efficiency และ Differentiation โดยใช้ Ratio
ดังต่อไปนี ้ในการวัด

1.R&D Intensity = R&D/Total Revenue

2. Premium Price Capability = Gross Margin/Total Sales Revenue

3. Asset Utilization Efficiency = Total Sales Revenue/Total Asset

แล้ วนามาแบ่งโดยวิธี hierarchical cluster analysis เพื่อแยกให้ เป็ น 2 กลยุทธ์ แต่ จำกกำรศึกษำเบือ้ งต้ นพบว่ ำบริษัท
ส่ วนใหญ่ หำ R&D Intensity ไม่ ได้ เพรำะไม่ ระบุงบR&Dในงบกำรเงิน ข้ อมูลในกำรคิดตัวแปรจึงเป็ น sample
selection bias อยำกรู้วิธีกำรลดBiasของข้ อมูลดังกล่ ำว จำกกำรสอบถำมอำจำรย์ เบือ้ งต้ นแนะนำให้ ใช้ วิธี
Heckman selection model แต่ ไม่ เข้ ำใจวิธีนี ้ อยำกรู้วิธีกำรใช้ Heckmanในกำรหำตัวแปรข้ ำงต้ น หรือวิธีอ่ นื ที่
สำมำรถลด selection bias ของข้ อมูลได้