Professional Documents
Culture Documents
ที่มา vector mechanics statics&dynamics beer& johnston 9th ed2
ที่มา vector mechanics statics&dynamics beer& johnston 9th ed2
ที่มา http://www.rsu.ac.th/science/physics/sema/
โมเมนตความเฉื่อย (Moment of Inertia)
10cm 3cm
10cm 3cm P
10cm
1cm x
(A) (B) (C) A B
1cm
พิจารณาทางเลือกของหนาตัดคาน AB ที่มีพื้นที่หนาตัดเทากันและมีน้ําหนักตอหนึ่ง
หนวยความยาวเทากัน
จากรูป เมื่อ P มีคาๆ หนึ่งแลว หนาตัดใดของคานจะมีคาการแอนตัวต่ําสุด? ทําไม?
หนาตัดรูป (A) มีคาการแอนตัวต่ําสุด เพราะวามีคา moment of inertia รอบแกน x
สูงสุด (เนื่องจากพื้นที่โดยสวนใหญของหนาตัดอยูไกลจากแกน x)
ที่มา เอกสารคํา สอนวิชา Engineering Statics เรียบเรียงโดย ผศ.ดร. สิทธิชัย แสงอาทิตย SUT
โมเมนตความเฉื่อย (Moment of Inertia)
ทฤษฎีแกนตั้งฉาก เปนทฤษฎีที่ใชในการคํานวณหาคาโมเมนตความเฉื่อยของวัตถุ
แข็งเกร็งที่มีลักษณะเปนแผนบาง ๆ
=
Ix ∫ A
( y′ + d y ) 2 dA
∫ y′ dA + 2d ∫
= y′dA + d y2 ∫ dA
2
A y A A
I x′
∫= ∫ dA
y′dA y= 0 A
ในทํานองเดียวกัน I= I + Ad 2
x x′ y
I=
y I y′ + Ad 2
x
ที่มา เอกสารคํา สอนวิชา Engineering Statics เรียบเรียงโดย ผศ.ดร. สิทธิชัย แสงอาทิตย SUT
รัศมีไจเรชัน ( Radius of Gyration )
รัศมีไจเรชันของวัตถุเปนคารัศมีเฉลี่ย แทนดวย k ซึ่งมีนิยามวาระยะหางจากแกนหมุนไปยัง
จุดเสมือนที่มวลวัตถุไปรวมอยู ถา I คือโมเมนตความเฉื่อยของวัตถุที่หมุนรอบแกนใด ๆ
และ M คือมวลของวัตถุ จะไดวา
a) ทําการวางความยาวของ elementใหขนานไปกับแกนที่เรากําลังหาคา
moments of inertia เชน เราจะเลือกแถบในแนวนอนในการหาคา Ix
และแถบในแนวตั้งในการหาคา Iy
b) ถา y ถูกเขียนใหอยูในเทอมของ x ไดงาย (e.g., y = x2 + 1) แลว เรา
ควรใชแถบในแนวตั้งที่มีความกวาง dx
ที่มา เอกสารคํา สอนวิชา Engineering Statics เรียบเรียงโดย ผศ.ดร. สิทธิชัย แสงอาทิตย SUT
2. ทําการ Integrate เพื่อหา moment of
inertia เชน
Iy = ∫ x2 dA = ∫ x2 y dx
และ
Ix = ∫ d Ix = ∫ (1 / 3) y3 dx
ที่มา เอกสารคํา สอนวิชา Engineering Statics เรียบเรียงโดย ผศ.ดร. สิทธิชัย แสงอาทิตย SUT
ทฤษฏีแกนขนานของพื้นที่ (Parallel Axis Theorem)
จงหา moment of inertia ของพื้นที่รอบแกน x' ที่ผานจุด centroid
y′
1. กํ า หนดให พ น
้ ื ที เ
่ ล็ ก ๆ รู ปสี เ
่ หลี ย
่ มผื น ผ า
2. integration
dy′
I x′ = ∫ y′2 dA
h/2 A
y′ +h/ 2
C
x′
= ∫
−h / 2
y′2 b dy′
h/2 +h/ 2
=b ∫
−h / 2
y′2 dy′
b/2 b/2 1 3
I x′ = bh
12
ที่มา เอกสารคํา สอนวิชา Engineering Statics เรียบเรียงโดย ผศ.ดร. สิทธิชัย แสงอาทิตย SUT
ทฤษฏีแกนขนานของพื้นที่ (Parallel Axis Theorem)
Determine the moment of inertia and the radius of gyration of the shaded area with
respect to the y axis.
I=
y I y′ + Ad 2
x I=
x I x′ + Ad 2
y
dW = w dx
dW =w dx = dA and W = A
it can be replaced by the product xA. We therefore have OP = x, where x is the distance from
the w axis to the centroid C of the area A
ที่มา vector mechanics statics&dynamics beer& johnston 9th ed2
แรงกระจาบแบบกระทําบนคาน
(DISTRIBUTED LOADS ON BEAMS)
Rigid Truss
แรงภายในชิ้นสวนของโครงถักและเครื่องหมายแทนแรง
แรงภายในชิ้นสวนของโครงถัก โดยทั่วไปเมื่อทํา
การวิเคราะห แรงภายในชิ้นสวนมี2 แรง คือ แรงดึง
(Tension ; T) และแรงอัด Compression ; C) และ
สามารถใชเครื่องหมายแทนแรงได ดังตาราง
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
ขั้นตอนการคํานวณหาแรงภายในโครงถักโดยวิธีจุดตอ มีขั้นตอนดังนี้
1) คํานวณหาคาแรงปฏิกิริยาที่ฐานรองรับของโครงถัก
2) เขียนผังอิสระของแรง (F.B.D.)
3) พิจารณาจุดตอที่มีตัวไมทราบคาไมเกินสองตัว โดยสมมุติใหแรงที่ยังไมทราบคาเปนแรงดึง
ไวกอน
4) แตกแรงที่เอียงใหอยูในแนวแกน X และแกน Y
5) ใชสมการสมดุล และ คํานวณหาตัวไมทราบคา โดยกําหนดใหแรงที่มี
ทิศทางขึ้นและทิศทางไปทางขวามีคาเปนบวก และแรงที่มีทิศทางลงและทิศทางไปทางซายมีคา
เปนลบ ถาแรงที่คํานวณไดมีคาติดลบแสดงวาสมมุติหัวลูกศรผิด ใหกลับหัวลูกศรของแรงนั้น
แลวจึงคํานวณหาคาแรงตอไป
6) เมื่อทราบคาแรงภายในที่จุดตอแรกแลว ใหพิจารณาจุดตอที่สองที่อยูติดกัน
และมีตัวไมทราบคาไมเกินสองตัว เพื่อคํานวณหาแรงภายในชิ้นสวนของโครงถักที่เหลือใหครบ
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
วิธีคํานวณจุดตอ (Joint Methods)
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
วิธีคํานวณจุดตอ (Joint Methods)
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
วิธีคํานวณจุดตอ (Joint Methods)
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
วิธีคํานวณจุดตอ (Joint Methods)
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
วิธีคํานวณจุดตอ (Joint Methods)
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
วิธีการตัดหนาตัด (The Method of Sections)
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
วิธีการตัดหนาตัด (The Method of Sections)
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
วิธีการตัดหนาตัด (The Method of Sections)
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
วิธีการตัดหนาตัด (The Method of Sections)
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
วิธีการตัดหนาตัด (The Method of Sections)
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
วิธีการตัดหนาตัด (The Method of Sections)
ที่มา building.cmtc.ac.th
การวิเคราะหโครงสราง
(Analysis of Structures)
วิธีการตัดหนาตัด (The Method of Sections)
ที่มา building.cmtc.ac.th
แรงในคานและสายเคเบิล
(Forces in Beams and Cables)
แรงภายใน (INTERNAL FORCES IN MEMBERS)