You are on page 1of 5

ตอนที่ 1 ให้นกั เรียนตอบข้อทีถ

่ ูกทีส
่ ุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดไม่จดั เป็ นการถ่ายโอนพลังงานความร้อน
ก. การแผ่รงั สี ข. การคายความร้อน
ค. การพาความร้อน ง. การนาความร้อน
2. วัตถุในข้อใดดูดกลืนพลังงานความร้อนได้ดท ี ส
ี่ ุด
ก. กระดาษสีขาว ข. ใบไม้สีเขียว
ค. ดอกไม้สีเหลือง ง.
ก้อนหินสีเทาดา
3. ข้อใดไม่ใช้หลักการในการขยายตัวและหดตัวของวัตถุ
ก. การบรรจุของเหลวไม่เต็มขวด
ข. การเว้นช่องว่างระหว่างรางรถไฟ
ค. กาต้มน้ามีสีเงินวาวและผิวมันเรียบ
ง. การเก็บกระป๋ องสเปรย์ไว้ทบ ี่ ริเวณอากาศเย็น
4. สารในข้อใดเป็ นตัวนาความร้อนได้ดี 1. ไม้ 2. เหล็ก 3. ขนนก 4.
ทองแดง 5. พลาสติก 6. อลูมเิ นียม
ก. 1,2,3 ข. 3,4,5
ค. 2,4,6 ง. 4,5,6
5. อุณหภูมข ิ องวัตถุชนิดหนึ่งมีอุณหภูมิ 30°c = °F ?
ก. 54 ข. 86
ค. 96 ง. 108
6. ข้อใดเป็ นแหล่งกาเนิดพลังงานความร้อนทีส ่ าคัญและใหญ่ทส
ี่ ุด
ก. ความร้อนจากภายในโลก ข. ความร้อนจากปฏิกริ ยิ าเคมี
ค. ความร้อนจากบรรยากาศ ง. ความร้อนจากดวงอาทิตย์
7. ของเหลวสีแดงทีอ ่ ยูใ่ นเทอร์มอมิเตอร์คอ ื อะไร
ก. น้าเปล่าผสมสีแดง
ข. แอลกอฮอล์ผสมสีแดง
ค. สารปรอท
ง. สารละลายไอโอดีน

8. การอ่านอุณหภูมจิ ากเทอร์มอมิเตอร์ มีหลักการอ่านอย่างไร


ก. ระดับสายตาอยูต ่ ่ากว่าระดับของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์
ข. ระดับสายตาอยูส ่ ูงกว่าระดับของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์
ค. ระดับสายตาอยูร่ ะดับเดียวกับระดับของเหลวในเทอร์มอมิเตอร์
ง. ระดับสายตาอยูใ่ นระดับใดก็ได้
𝐶 𝐹−32 𝐾−273
กาหนดสูตรในการเปลีย่ นอุณหภูมเิ ป็ น = = จงหาคาตอบข้อ 9
5 9 5
- 10
9. เทอร์มอมิเตอร์แบบเซลเซียสทีอ ่ ุณหภูมิ 20°C
จะอ่านค่าในเทอร์มอมิเตอร์แบบองศาฟาเรนไฮต์ได้เท่าใด
ก. 32 องศาฟาเรนไฮต์ ข. 40 องศาฟาเรนไฮต์
ค. 68 องศาฟาเรนไฮต์ ง. 70 องศาฟาเรนไฮต์
10. ตัวเลขบอกอุณหภูมใิ นหน่ วยเคลวิน (K) กับหน่ วยองศาเซลเซียส (°C)
ต่างกันเท่าใดเสมอ
ก. 5 ข. 9
ค. 32 ง. 373
11. ข้อใดเป็ นการถ่ายโอนความร้อนโดยการนาความร้อน
ก. การผิงไฟ ข. การต้มน้า
ค. การเกิดลมบกลมทะเล ง. การใช้ชอ ้ นโลหะแช่ในน้าร้อน
12. เมือ
่ ยืนอยูใ่ กล้เตาไฟเราจะรูส้ ก ึ ร้อน
ลักษณะนี้เป็ นการถ่ายโอนพลังงานความร้อนแบบใด
ก. การพาความร้อน ข. การนาความร้อน
ค. การสะท้อนความร้อน ง. การแผ่รงั สีความร้อน
13. ในฤดูหนาวควรเลือกใส่เสื้อผ้าทีม ่ ีสีอย่างไร จึงจะช่วยให้รา่ งกายอบอุน ่
ก. ดา น้าเงิน ข. ชมพู ส้ม
ค. เหลือง ฟ้ า ง. น้าตาล เขียว
14.
เพราะเหตุใดการวางรถไฟจะต้องวางให้มีชอ ่ งว่างระหว่างรอยต่อแต่ละท่อน
ก. เพือ่ ความสะดวกในการก่อสร้าง
ข. ประหยัดค่าใช้จา่ ยในการวางราง
ค. ช่วยลดเสียงเสียดสีเมือ ่ รถไฟวิง่
ง. ป้ องกันการขยายตัวหรือหดตัวของโลหะ
15. ข้อใดคือความหมายของ ’ความร้อนแฝงของการหลอมเหลว’
ก. ความร้อนทีใ่ ช้ในการเปลีย่ นของเหลวทีอ ่ ุณหภูมิ 0°C
ให้กลายเป็ นของแข็งทีอ ่ ุณหภูมิ 0°C
ข. ความร้อนทีใ่ ช้ในการเปลีย่ นของแข็งทีอ ่ ุณหภูมิ 0°C
ให้กลายเป็ นของเหลวทีอ ่ ุณหภูมิ 0°C
ค. ความร้อนทีใ่ ช้ในการเปลีย่ นของเหลวทีอ ่ ุณหภูมต
ิ ่ากว่า 0°C
ให้กลายเป็ นของแข็งทีอ ่ ุณหภูมิ 0°C
ง. ความร้อนทีใ่ ช้ในการเปลีย่ นของแข็งทีอ
่ ุณหภูมิ 0°C
ให้กลายเป็ นของแข็งทีอ
่ ุณหภูมส
ิ ูงกว่า 0°C

16. สมดุลความร้อนหมายถึงข้อใด
ก. สาร 2 ชนิด มีมวลเท่ากัน มีพลังงานความร้อนเท่ากัน
ข. การถ่ายเทความร้อนของสาร 2 ชนิด จนมีอุณหภูมเิ ท่ากัน
ค. สาร 2 ชนิด ถ่ายเทพลังงานจากสารทีม ่ ีมวลมากสูส่ ารทีม
่ ีมวลน้อย
ง. สาร 2 ชนิด ถ่ายเทพลังงานจากสารทีม ่ ีมวลน้อยสูส
่ ารทีม
่ ีมวลมาก
จงใช้สูตร Q = mL และ Q = ms ∆t ในการคานวณหาคาตอบข้อ 17 - 20
17. น้าแข็งมวล 100 กรัม ทีอ ่ ุณหภูมิ 0 องศา
ทาให้หลอมเหลวกลายเป็ นน้าเย็นทีอ ่ ุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียส
จะต้องใช้พลังงานความร้อนกีแ ่ คลอรี
(กาหนดให้คา่ ความร้อนแฝงจาเพาะของการหลอมเหลวของน้าแข็งมีคา่ เท่ากับ
80 แคลอรีตอ ่ กรัม)
ก. 100 แคลอรี ข. 200 แคลอรี
ค. 400 แคลอรี ง. 800 แคลอรี
18. ถ้าใช้พลังงานความร้อน 10,800 แคลอรี
จะทาให้น้าเดือดมวลกีก ่ รัมกลายเป็ นไอได้หมดพอดีได้ทง้ ั หมดกีก ่ รัม
(กาหนดให้คา่ ความร้อนแฝงจาเพาะของการกลายเป็ นไอของน้ามีคา่ เท่ากับ
540 แคลอรีตอ ่ กรัม)
ก. 10 กรัม ข. 20 กรัม
ค. 30 กรัม ง. 40 กรัม
19. ถ้าต้องการให้น้ามวล 500 กรัม มีอุณหภูมเิ ปลีย่ นจาก 30 องศาเซลเซียส
เป็ น 90 องศาเซลเซียส จะต้องใช้ปริมาณความร้อนเท่าใด
(กาหนดให้ความจุจาเพาะของน้าเท่ากับ 1 cal/g-°C)
ก. 5,000 แคลอรี
ข. 10,000 แคลอรี
ค. 15,000 แคลอรี
ง. 20,000 แคลอรี
20. ถ้าต้องการลดอุณหภูมข ิ องน้า 100 กรัม จากอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส
มาเป็ น 20 องศาเซลเซียส จะต้องคายความร้อนออกมาจานวดเท่าใด
(กาหนดให้ตวามจุความร้อนจาเพาะของแอลกอฮอล์เป็ น 0.8 cal/g-°C)
ก. 1,200 แคลอรี
ข. 2,400 แคลอรี
ค. 3,000 แคลอรี
ง. 3,200 แคลอรี
ตอนที่ 2 ให้นกั เรียนเติมคาตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
ข้อสอบส่วนนี้เป็ นคะแนนพิเศษ
แสดงให้เห็นถึงความรูค ้ วามสามารถของนักเรียนแต่ละคนได้เป็ นอย่างดี
กรุณาตัง้ ใจพยายามทาอย่างสุดความสามารถ
1. จากนิทานเรือ ่ งกระต่ายกับเต่า ถ้ากระต่ายวิงด้วยอัตราเร็ว 20
กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็ นเวลา 30 นาที ได้ระยะเป็ น ครึง่ หนึ่งของระยะทางทัง้ หมด
แล้วจึงหยุดนอนหลับใต้ตน ้ ไม้ 3 ชั่วโมงครึง่
อยากทราบว่าเต่าจะต้องวิง่ ด้วยอัตราเร็วเท่าไหร่
จึงจะถึงเส้นชัยในตอนทีก ่ ระต่ายตืน ่ นอนพอดี (แสดงวิธีทา)
............................................................................................................
.............................................................................
............................................................................................................
.............................................................................
............................................................................................................
.............................................................................
............................................................................................................
.............................................................................
............................................................................................................
.............................................................................
............................................................................................................
.............................................................................
............................................................................................................
.............................................................................
............................................................................................................
.............................................................................
............................................................................................................
.............................................................................

2. ในเรือ ่ งพลังงานความร้อนทีเ่ รียนไป


นักเรียนสามารถนาความรูเ้ กีย่ วกับเรือ ่ งความร้อนมาใช้ประโยชน์ในชีวต ิ ประจาวัน
ของนักเรียนได้อย่างไรบ้าง
การนาความร้อน
............................................................................................................
.................................................
การพาความร้อน
............................................................................................................
.................................................
การแผ่รงั สีความร้อน
............................................................................................................
...........................................
การดูดกลืนรังสีความร้อน
............................................................................................................
....................................
สมดุลความร้อน
............................................................................................................
...................................................

You might also like