Professional Documents
Culture Documents
59887-Article Text-139941-2-10-20171005 PDF
59887-Article Text-139941-2-10-20171005 PDF
Abstract
Concept of quality of life (QOL) has become a common indicator for evaluating the effectiveness of treatment and
how well clients achieve their treatment goals. However, quality of life has been explained in different ways depended
on concept the therapists use. This article presented concepts of QOL used among medical professions in their
practices. Moreover, classification of QOL assessments was presented in this article, especially the variety of
questionnaires for appropriate and trustable assessment. The application of the concept for occupational therapist
for clinical practice was summarized in the last section of this article.
Bull Chiang Mai Assoc Med Sci 2016; 49(2): 171-184. Doi: 10.14456/jams.2016.27
บทคัดย่อ
แนวคิดเกีย่ วกับคุณภาพชีวติ ได้รบั ความสนใจจากบุคลากรทางการแพทย์ในการประยุกต์ใช้สา� หรับประเมินประสิทธิภาพ
ของโปรแกรมการรักษาและการบรรลุถงึ เป้าประสงค์ของการรักษา อย่างไรก็ตาม แนวคิดคุณภาพชีวติ มีการให้ค�าจ�ากัด
ความทีแ่ ตกต่างกันขึน้ กับการเลือกกรอบแนวคิดของผูบ้ �าบัด บทความนี้น�าเสนอกรอบแนวคิดของคุณภาพชีวติ ทีบ่ ุคลากร
ทางการแพทย์เลือกใช้ในการปฏิบตั งิ าน และการจ�าแนกวิธกี ารประเมินคุณภาพชีวติ โดยเฉพาะอย่างยิง่ การประเมินโดย
ใช้แบบสอบถามที่มหี ลากหลายเพื่อการประเมินที่เหมาะสมและได้ผลการประเมินที่น่าเชื่อถือ ส�าหรับการประยุกต์ใช้
ในการปฏิบตั งิ านทางกิจกรรมบ�าบัดผูน้ ิพนธ์สรุปไว้ในตอนท้ายของบทความ
วารสารเทคนิคการแพทย์เชียงใหม่ 2559; 49(2): 171-184 . Doi: 10.14456/jams.2016.27
Bull Chiang Mai Assoc Med Sci Vol. 49 No. 2 May 2016 171
บทน�า ในกลุ่มนี้เป็ นทีย่ อมรับกันอย่างกว้างขว้างในการประยุก ต์ใ ช้
คุณภาพชีวติ เป็ นหัวข้อทีไ่ ด้รบั ความสนใจในการศึกษา ทางการแพทย์ซง่ึ สามารถจ�าแนกได้ดงั นี้4,6
วิจยั เพิม่ มากขึน้ ในช่วงเวลาทีผ่ า่ นมา รวมทัง้ ถูกก�าหนดให้เป็ น 1. Normal life
เป้าหมายของหน่วยงานต่างๆ ทีใ่ ห้บริการสุขภาพ นอกจากนี้ ความหมายของคุณภาพชีวติ ตามแนวคิดนี้ หมายถึง
รัฐบาลยังได้กา� หนดเป็นแผนพัฒนาคุณภาพชีวติ คนพิการแห่งชาติ การที่บุ ค คลปราศจากข้อ จ�า กัด ทางด้า นร่ า งกายและจิต ใจ
ซึง่ ขณะนี้อยู่ในช่วงของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 4 รวมทัง้ มีการ สามารถประกอบกิจ กรรมการด�า เนิ น ชีว ิต ต่ า งๆ ได้ มีอ ายุ
ประกาศใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมคุณภาพชีวติ ที่ ย ื น ยาว สามารถแสวงหาสิ่ ง ต่ า งๆ ที่ ต นเองต้ อ งการ
คนพิการตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2550 และฉบับที่ 2 ในปี พ.ศ. 25561 โดยเปรียบเทียบกับประชากรทีม่ อี ายุอยูใ่ นกลุ่มเดียวกัน หรือ
ในฐานะนั ก กิจ กรรมบ� า บัด ซึ่ง เป็ น วิช าชีพ ที่ใ ห้บ ริก ารด้า น ประชากรกลุม่ ทีม่ สี ขุ ภาพปกติ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ บุคคล
การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แก่คนพิการ มีความจ�าเป็น จะมีคุณภาพชีวติ ทีด่ หี รือไม่สามารถตัดสินจากความแตกต่าง
ต้องเข้าใจกรอบแนวคิด วิธกี ารประเมิน และคุณภาพชีวติ ทีถ่ กู ต้อง ของปจจั ั ยทางด้านร่างกายและจิตใจเทียบกับ “มาตรฐาน” ของ
เนื่ อ งจากคุ ณ ภาพชีว ิต เป็ น หัว ข้อ เชิง นามธรรมและยัง คงมี ประชากร หากบุคคลมีขอ้ จ�ากัดในปจจั ั ยด้านใดด้านหนึ่งต�่ากว่า
ความหลากหลายในการวัดและการแปลผล2-4 ปญั หาทีเ่ กิดขึน้ “มาตรฐาน” มากเท่าไร แสดงว่าบุคคลนัน้ มีระดับคุณภาพชีวติ ที่
จะส่งผลต่อการวางแนวทางในการ “การยกระดับคุณภาพชีวิต” ต�่ากว่าเท่านัน้ จะเห็นได้วา่ คุณภาพชีวติ ตามแนวคิดนี้ประเมิน
โดยจะเกิด ความไม่ ส อดคล้ อ งกับ สิ่ง ที่ผู้ร ับ บริก ารมีค วาม จากระดับความสามารถในการประกอบกิจกรรมต่างๆ และ
ต้องการ บทความนี้กล่าวถึงกรอบแนวคิดของ “คุณภาพชีวิต” ภาวะสุขภาพของบุคคลนัน้
ทีม่ คี วามหมายแตกต่างกันตามแนวคิดทีห่ ลากหลาย การประเมิน
ทีน่ ิยมใช้ในการศึกษาเกีย่ วกับคุณภาพชีวติ และการประยุกต์ 2. Social utility
ใช้แ นวคิด ของคุณ ภาพชีว ิต กับ งานทางด้า นกิจ กรรมบ�า บัด ความหมายของคุณภาพชีวติ ตามแนวคิด นี้ หมายถึง
ผู้เขียนหวังเป็ นอย่างยิง่ ว่าผู้อ่านจะเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับ การที่บุ ค คลสามารถคงไว้ซ่ึง บทบาททางสัง คมและการได้
“คุณภาพชีวิต” เพิม่ มากขึน้ และสามารถน�าไปประยุกต์ใช้ตอ่ ไป การยอมรับ จากสัง คมจากบทบาทของตน เช่ น บทบาท
ในการปฏิบตั งิ าน ของการเป็ นครู บิดา มารดา การประกอบอาชีพ การจ้างงาน
เป็ น ต้น แนวคิด นี้ ใ ห้ค วามส�า คัญ กับ ผลกระทบของโรคต่ อ
แนวคิ ดเกี่ยวกับคุณภาพชีวิต (Concepts of quality of life) ภาวะการประกอบอาชีพ หรือการมีขอ้ จ�ากัดในการประกอบ
คณะท� า งานทางด้ า นคุ ณ ภาพชีว ิต ที่ส นั บ สนุ น โดย กิจกรรมการด�าเนินชีวติ ตามบทบาททางสังคมภายหลังจาก
องค์การอนามัยโลก5 ได้กล่าวถึงคุณภาพชีวติ ว่ามีความหมาย เจ็บป่ วยหรือพิการ การประเมินคุณภาพชีวติ ตามแนวคิดนี้
ทีห่ ลากหลายแตกต่างกันตามบริบทของผูศ้ กึ ษา กล่าวคือ ระดับ นิยมประเมินทีก่ ารมีงานท�า รายได้ทเ่ี กิดจากการท�างาน และ
ผู้ก�าหนดนโยบายทางสัง คม เช่น รัฐ บาล คุณ ภาพชีวติ มี ความสามารถในการคงไว้ ซ่ึ ง บทบาทของตนเองเมื่ อ
ความหมายในด้านหลักประกันแก่ประชาชนในด้านการบริการ เปรียบเทียบกับก่อนการเจ็บป่ วย
หรือการสงเคราะห์ทางสังคมด้านต่างๆ เช่น การให้บริการ
ด้านสาธารณูปโภค การช่วยเหลือด้านสิง่ ของ การยกระดับรายได้ 3. Utility
และการส่งเสริมประชากรทุกคนให้มสี ทิ ธิเท่าเทียมกันในด้าน ความหมายของคุณภาพชีวติ ตามแนวคิดนี้ แบ่งได้เป็ น
ต่ า งๆ ในมุม ของนัก เศรษฐศาสตร์ คุณ ภาพชีว ิต หมายถึง สองมุมมอง คือมุมมองด้านเศรษฐศาสตร์และด้านจิตวิทยา
รายได้มวลรวมของประเทศ อัตราเงินเฟ้อ หรือดัชนีผบู้ ริโภค มุมมองทางเศรษฐศาสตร์หมายถึง ระดับสุขภาพของบุคคลนัน้ ๆ
รายได้เฉลีย่ ประชากร หากเป็นทางการแพทย์ เช่น นักกิจกรรมบ�าบัด เปรียบเทียบเกณฑ์อา้ งอิงของประชากรปกติ การเปรียบเทียบ
หรือแพทย์ คุณภาพชีวติ หมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางบวก ใช้ดชั นีชว้ี ดั ทีม่ คี า่ ระหว่าง 0 ถึง 1 กล่าวคือ หากบุคคลมีคา่ ดัชนี
ของการรั ก ษาหรื อ การฟื้ นฟู ส มรรถภาพที่ ผู้ ใ ช้ บ ริ ก าร สุขภาพเป็ น 0 หมายถึงการเสียชีวติ ในขณะทีค่ า่ ดัชนีเท่ากับ
ได้รบั ดังนัน้ ความหมายของคุณภาพชีวติ จึงเปลี่ยนแปลง 1 หมายถึงการมีสขุ ภาพสมบรูณ์7 การพิจารณาระดับคุณภาพ
ไปตามบริบทของงาน ซึง่ ส่งผลต่อการวัดและการแปลผลหาก ชีวติ ตามมุมมองนี้ พิจารณาในสุขภาพด้านใดด้านหนึ่งเท่านัน้
วิธีก ารวัด มีค วามแตกต่ า งกัน อย่ า งไรก็ต าม บทความนี้ ไม่พจิ ารณาสุขภาพโดยรวม (holistic perspective) เหมือนกับ
เรียบเรียงเพื่อวัตถุประสงค์ในการน�าแนวคิดเกีย่ วกับคุณภาพ แนวคิด แบบ normal life มุ ม มองนี้ ส ะท้ อ นออกในด้ า น
ชีวติ มาประยุกต์ใช้ในการให้บริการทางการแพทย์ นอกจาก ความคุ้ ม ค่ า ในการรัก ษา (cost-benefit) เมื่อ บุ ค คลเกิด
นี้ ยั ง น� าเสนอเฉพาะแนวคิ ด ของคุ ณ ภาพชีว ิต ในระดับ ความเจ็บป่ วยหรือมีปัญหาทางด้านสุขภาพ8 เนื่องจาก มีพน้ื ฐาน
ั
ปจเจกบุ คคล (individual preference) เนื่องจากกรอบความคิด เศรษฐศาสตร์ จึงให้ความส�าคัญกับความคุม้ ทุน เมือ่ ประยุกต์
172 วารสารเทคนิคการแพทย์เชียงใหม่ ปีท่ี 49 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม 2559
ใช้ในการเลือกวิธกี ารรักษาผูป้ ่วยเรือ้ รังทีไ่ ม่สามารถรัก ษาให้ อย่างไรก็ตาม แนวคิดนีย้ งั เป็นทีถ่ กเถียงในเรือ่ ง “patient autonomy”
หายขาด (incurable diseases) เช่น โรคมะเร็ง ความพิการ หรือ สิทธิของผูป้ ่ วยในการเลือกวิธกี ารรักษา และจากการศึกษา
ด้ า นการเคลื่ อ นไหว การใช้ คุ ณ ภาพชี ว ิ ต ตามมุ ม มองนี้ ทีผ่ า่ นมาโดยใช้แนวคิดนีพ้ บว่า ผูป้ ่ วยหลายรายประเมินว่าตนเอง
มีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุดกับต้นทุนการรักษา มีคณ ุ ภาพชีวติ ทีด่ ใี นระยะแรกแต่ภายหลังฆ่าตัวตายเมือ่ รูส้ กึ ว่า
ทีต่ อ้ งจ่าย หรืออาจเรียกว่า “จุดคุม้ ทุน” ในกรณีทม่ี ที างเลือก คุณภาพของการมีชวี ติ อยูข่ องตนลดลง11 ข้อสังเกตอีกประการหนึง่
ในการรักษาหลายวิธี ผูใ้ ห้การรักษาต้องเลือกวิธที ใ่ี ห้ประโยชน์ ของแนวคิดนีค้ อื ผูป้ ่ วยมีระดับคุณภาพชีวติ ภายหลังการเจ็บป่ วย
สูงสุดโดยมีคา่ ใช้จา่ ยน้อยทีส่ ดุ (the most cost-benefit treatment) (ค่า Qi) น้อยกว่าระดับคุณภาพก่อนการเจ็บป่ วย ซึง่ สมมติฐานนี้
แนวคิด ทางเศรษฐศาสตร์น้ี ส ามารถอธิบ ายได้ต ามสมการ อาจไม่เ ป็ น ความจริง เสมอไปส�า หรับ ผู้ป่ วยบางราย ดัง นัน้
ต่อไปนี้9 แนวความคิดนีย้ งั มีขอ้ โต้แย้งในการน�ามาใช้ประเมินคุณภาพชีวติ
Vi = (Ni * Qi) –Ci ในระดับปั จเจกบุคคล แม้จะเป็ นการประเมินความพึงพอใจต่อ
เมือ่ Vi Value of treatment ตนเองโดยตัวผูป้ ่ วยเอง นอกจากนี้ตวั เลขทีไ่ ด้จากการค�านวณ
Ni Number of expected life years after the treatment เป็ นผลจากสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ ในช่วงเวลาหนึ่งไม่ได้สะท้อนถึงปั จจัย
Qi Quality of those years อื่น ที่ม ีอิท ธิพ ลต่ อ ผู้ป่ ว ยในระยะยาว ดัง นั น้ ดัช นี ท่ีไ ด้จ าก
Ci Cost of treatment การค� า นวณจึง เป็ น เพีย งการประเมิน ผู้ป่ วยในช่ ว งเวลาที่
ได้รบั การรักษาด้วยวิธีการหนึ่ งเท่านัน้ นอกจากนี้ ในด้าน
อย่ า งไรก็ต าม โดยจรรยาบรรณของการให้บ ริก าร จรรยาบรรณของการให้บริการแก่ผปู้ ่ วย ผูใ้ ห้บริการอาจเลือก
ทางการแพทย์ค่า ของ Ci นับเป็ นป จั จัย ที่ไม่ส ามารถน� า มา ปฏิบตั ติ ่อผูป้ ่ วยโดยเลือกให้การรักษาเฉพาะในรายทีม่ คี ่าของ
้ างต้นจึงขึน้ อยูก่ บั ปัจจัยเพียง 2 ประการคือ
ค�านวณได้ ดังนันสมการข้ QALY สูงเท่านัน้ 12
Vi = Ni * Qi มุมมองแบบ utility แบบทีส่ อง ให้ความส�าคัญต่อปจั จัย
พืน้ ฐานต่างๆ ในการด�ารงชีวติ ทีจ่ ะส่งผลกระทบต่อคุณภาพ
ตัวอย่างของแนวคิดนี้คอื กรอบแนวคิดคุณภาพชีวติ ที่ ชีวติ เมื่อปจั จัยเหล่านัน้ เปลีย่ นแปลงไปจากเดิม (Figure 1)
เรียกว่า “Quality-Adjusted Life-Years (QALY)”10 ซึง่ มีหลัก กรอบแนวคิด นี้ ใ ห้ค วามส�า คัญ กับ ป จั จัย พื้น ฐานต่ า งๆ ใน
ในการประเมินคุณภาพชีวติ คือ หนึ่งปี ของบุคคลทีม่ สี ุขภาพ การด�ารงชีวติ ดังนัน้ การศึกษาคุณภาพชีวติ ตามกรอบแนวคิดนี้
สมบรูณ์เท่ากับหนึ่งหน่ วยของ Qi ในขณะที่บุคคลที่มภี าวะ จะกระท�าโดยรวบรวมปจั จัยต่างๆ ใน Box A (Figure 1) ที่
เจ็บปว่ ยมีคา่ ของ Qi น้อยกว่าหนึ่งหน่วยเสมอ ดังนัน้ เมือ่ ให้ เป็นการวัดทางวัตถุพสิ ยั (objective evaluation) คุณภาพชีวติ
ผูป้ ่วยจัดอันดับของความพึงพอใจในภาวะสุขภาพของตนเอง จึงเป็ นสิง่ ที่บุคคลได้รบั การตอบสนองในสิง่ ที่ตนเองต้องการ
เป็ นอยู่เทียบกับสิง่ ทีต่ นเองเคยเป็ นก่อนการเจ็บป่วย ค่าของ โดยสะท้อนออกมาในลักษณะของปจั จัยต่างๆ ตัวอย่างเช่น
Qi จะน้ อ ยกว่ า หนึ่ ง เช่ น ผู้ ป่ ว ยที่ไ ด้ ร ับ การฉายรัง สีเ พื่อ แบบประเมินคุณภาพชีวติ ต่ า งๆ ที่พ ัฒ นาขึ้น เพื่อ ใช้ ศึก ษา
การรักษามะเร็งอาจบอกว่า การด�ารงชีวติ อยู่ในหนึ่งวันขณะ เฉพาะในกลุ่ ม ประเทศตะวันตก กรอบแนวคิดแบบนี้มขี อ้
รับการรักษาด้วยรังสีม ี “ค่าความพึงพอใจ (Qi)” เท่ากับ 0.5 วัน จ�ากัด คือ แบบประเมินต่างๆ ถูกพัฒนาขึน้ ใช้ประเมินเฉพาะใน
ของการด�ารงชีวติ ขณะทีย่ งั ไม่เป็นมะเร็งซึง่ เท่ากับหนึ่ง แสดงว่า วัฒนธรรม หรือบริบทใดบริบทหนึ่งทีม่ เี อกลักษณ์ของตนเอง
คุณภาพชีวติ ของผูป้ ่วยรายนี้ลดลง 50% ดังนัน้ หากมีการ เท่านัน้ การน� าแบบประเมินเหล่านี้ไปใช้กบั วัฒนธรรมหรือ
เปรียบเทียบคุณภาพชีวติ ระหว่างผูป้ ว่ ยสองรายทีม่ ี expected สังคมที่มบี ริบทที่แตกต่างออกไปจะท�าให้ผลการศึกษาที่ไ ด้
life (Ni) หลังการรักษาเท่ากับ 10 ปี เทียบกับผูป้ ว่ ยอีกรายที่ ขาดความน่ า เชื่อถือ เนื่ อ งจากแบบประเมินอาจขาดความ
มีค่า expected life (Ni) เท่ากับ 5 ปี โดยที่ผูป้ ่วยทัง้ 2 ราย เทีย่ งตรง (validity) ดังนัน้ ก่อนน� าแบบประเมินเหล่านี้ไป
มีคา่ Qi (quality of those years) เท่ากันคือ 0.5 จะเห็นได้วา่ ใช้งาน ผูว้ จิ ยั ต้องศึกษาทังด้ ้ าน validity และ reliability ให้เป็ นที่
ผูป้ ว่ ยรายแรกจะมีระดับคุณภาพชีวติ เท่ากับ 5 (0.5x10) หรือ ยอมรับในวัฒนธรรมของตนเองก่อน ข้อจ�ากัดประการต่อมา
50% ของคนปกติ ในขณะทีผ่ ปู้ ่ วยอีกรายจะมีคา่ เท่ากับ 2.5 (0.5x5) คือ ค�าถามในแบบประเมินมักเป็ นข้อค�าถามทีผ่ วู้ จิ ยั สร้างขึน้
หรือ 25% ของคนปกติ ดังนัน้ ตามแนวคิดนี้ ผูป้ ่วยรายแรก เอง จึงจัดเป็นการประเมินแบบ “outsider หรือ objective point
จะมีร ะดับ ของคุ ณ ภาพชีว ิต ที่ดีก ว่ า ผู้ ป่ วยรายที่ส อง แต่ of view" ซึง่ หมายถึงการทีผ่ ปู้ ระเมินคาดว่าปจั จัยทีก่ า� หนดไว้
ในความเป็นจริงแล้วระยะเวลาทีเ่ หลืออยูข่ องผูป้ ่ วย (Ni) อาจมี ล่วงหน้าจะมีผลต่อคุณภาพชีวติ ของกลุม่ ตัวอย่าง แต่ในความ
ความคลาดเคลื่อ นเนื่ อ งจากผู้ป่วยรายแรกอาจตอบสนอง เป็ นจริงข้อค�าถามที่ ก� า หนดโดยผู้ ว ิ จ ั ย อาจไม่ ค รอบคลุ ม
ต่ อ การรั ก ษาด้ ว ยรั ง สี ดี ก ว่ า ในช่ ว งที่ ท� า การประเมิ น หรื อ ไม่ ใ ช่ ป จั จัย ที่ส�า คัญ ต่ อ คุณภาพชีวติ ของกลุ่ม ตัวอย่าง
หรื อ ผู้ ป่ วยมี ค วามรู้ ส ึก ด้ า นบวกในขณะรับ การประเมิ น
Bull Chiang Mai Assoc Med Sci Vol. 49 No. 2 May 2016 173
จึง ท� า ให้ ผ ลการศึก ษาที่ไ ด้อ าจไม่ ส อดคล้อ งกับ ความเป็ น ตะวันออก ปจั จัยนี้อาจไม่เป็ นปจั จัยหลักที่มอี ิทธิพลต่อ
จริงในชีวติ ของกลุม่ ตัวอย่าง ตัวอย่างทีเ่ ห็นได้ชดั เจนคือ ข้อ ระดับคุณภาพชีวติ ของกลุ่มตัวอย่าง เห็นได้จากรายงานการ
ค�าถามในแบบประเมินคุณภาพชีวติ ของสังคมตะวันตกส่วน ศึกษาทีผ่ า่ นมาทีพ่ บความแตกต่างของปจั จัยนี้ต่อคุณภาพชีวติ
ใหญ่มขี อ้ ค�าถามทีเ่ กีย่ วข้องกับเรือ่ งเพศสัมพันธ์ แต่ในสังคม ระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก13 17
Figure 1 Concepts of quality of life: Utility approach: From: Dijkers M. Quality of life of indvidual with spinal cors injury: A review of conceptualization,
meassurement, and research findings. Journal of Rehabilitation Research & Development. 2005;42(3, Supplement 1): 87-110.
Figure 1 Concepts of quality of life: Utility approach
From: Dijkers M. Quality of life of indvidual with spinal cors injury: A review of conceptualization, meassurement, and
research
4. Life findings.
satisfactionJournal
หรือofSubjective
Rehabilitation Research & Development.
well-being 2005;42(3,
จากการเปรี ยบเทีSupplement
ยบระหว่างสิ1):ง่ ที87-110.
ต่ อ้ งการและสิง่ ทีไ่ ด้รบั โดย
กรอบแนวคิดมีพน้ื ฐานจากความเชื่อทีว่ า่ บุคคลมีสทิ ธิ มีบริบทของสังคมและวัฒนธรรมนัน้ ๆ เป็นตัวก�าหนดความต้องการ
และอิสระที่จะเลือกในสิง่ ที่ตนเองชอบและสามารถจัดล�าดับ ของบุ ค คล คุ ณ ภาพชีว ิต จึง เป็ น สิ่ง ที่บุ ค คลต้ อ งจัด อัน ดับ
ความส�าคัญของสิง่ เหล่านัน้ (Box D, Figure 1) ส่วนประกอบย่อย ความส�าคัญขององค์ประกอบต่างๆ และบ่งบอกความพึงพอใจ
ั ยจ�าเป็นพืน้ ฐานของการด�ารงชีวติ ของมนุษย์
ทีส่ า� คัญทีส่ ดุ คือ ปจจั ด้วยตัวบุคคลเอง ข้อค�านึงในการใช้กรอบคิดนี้สา� หรับอธิบาย
5 ประการตามทฤษฎีข อง Maslow จากนั น้ ปรับ เปลี่ย น
14
คุณภาพชีวติ คือ ผูท้ ส่ี นใจในเรื่องของคุณภาพชีวติ ส่วนใหญ่
ความต้องการเหล่านี้ใน Box A ตามวัฒนธรรม และค่านิยม สนใจศึกษาเฉพาะผลลัพธ์สดุ ท้ายของการได้รบั การตอบสนอง
ของสังคมทีบ่ ุคคลนัน้ เป็ นสมาชิกอยู่ ดังนัน้ แต่ละบุคคลจะมี (Box C) แต่ละเลยในการศึกษาล�าดับความส�าคัญของปจจั ั ยต่างๆ
ระดับมาตรฐานส�าหรับการเปรียบเทียบกับสิง่ ที่ตนเองได้ร บั (Box D) ทังที้ ใ่ นความเป็นจริงแล้ว ปจจั ั ยทังสองส่
้ วนใน Box C
การตอบสนอง (achievement) (Box C. Figure 1) โดย และ D มีความส�าคัญเท่าเทียมกันส�าหรับบุคคลในการทีต่ ดั สิน
ั
บุคคลเปรียบเทียบปจจัยย่อยต่างๆ ระหว่าง Box D ซึง่ เป็นสิง่ ระดับ คุ ณ ภาพชีว ิต ของตนเอง สิ่ง ส� า คัญ อีก ประการหนึ่ ง
ที่ได้รบั การตอบสนองตามมาตรฐานของสังคมกับสิง่ ที่ได้รบั ในการน� าแนวคิดนี้ไปใช้งาน คือ การจัดระดับคุณภาพชีวติ
ตามความเป็นจริง (Box C) ความรูส้ กึ ทีเ่ กิดขึน้ หรืออีกนัยหนึ่ง ของบุคคล ต้องเป็ นการจัดระดับด้วยตนเองโดยใช้การรับรู้
คือ ช่ อ งว่ า งของการได้ร ับ กับ สิ่ง ที่ค าดหวัง จะถู ก ตัด สิน ให้ และอารมณ์ (cognition and emotion) ดังนัน้ กรอบแนวคิดนี้
เป็ นองค์ป ระกอบ (domain) ของคุณ ภาพชีวติ ตาม Box E จึงเป็ นการศึกษาคุณภาพชีวติ แบบ “insider or subjective
ั
ดังนัน้ ตามแนวคิดนี้ คุณภาพชีวติ ของปจเจกบุคคลคือผลลัพธ์ aspect” ปจจุั บนั คุณภาพชีวติ ตามแนวคิดนี้ได้รบั การยอมรับว่า
174 วารสารเทคนิคการแพทย์เชียงใหม่ ปีท่ี 49 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม 2559
ั
เหมาะสมทีส่ ุดในการศึกษาคุณภาพชีวติ ของปจเจกบุ คคล4,15,16 ทางการแพทย์ของการบาดเจ็บของไขสันหลัง จะทราบว่าผูป้ ่ วย
กรอบแนวคิดนี้สามารถแบ่งออกเป็ นแนวคิดย่อยดังนี้ ไม่สามารถกลับมาเดินได้เหมือนเดิมและมีความจ�าเป็ นต้องใช้
4.1 Need-based approach รถนั ง่ คนพิก ารไปตลอดชีว ิต ซึ่ง เป็ น “สิ่ง ที่เ ป็ น ไปได้จ ริง ”
ให้ ค วามส� า คัญ กับ ความต้ อ งการป จั จัย พื้น ฐานที่ม ี (realistic) ดังนัน้ เพือ่ ให้ผปู้ ว่ ยมีคณ
ุ ภาพชีวติ ทีด่ ี ผูบ้ า� บัดจ�าเป็น
ความจ�าเป็ นต่อการด�ารงชีวติ (need-based approach) มี ต้องให้ความรูเ้ กีย่ วกับการบาดเจ็บไขสันหลังทีถ่ กู ต้องแก่ผปู้ ว่ ย
พืน้ ฐานจากแนวคิดของ Thomas More ทีก่ ล่าวว่า คุณภาพชีวติ เพื่อการลดความคาดหวัง (expectation) ให้อยู่ในสิง่ ที่เป็ น
เป็ นความพึงพอใจของบุคคลทีม่ ตี ่อปจั จัยพืน้ ฐานในการด�ารง ความเป็นจริง (realistic) เพือ่ ให้ผปู้ ่ วยยอมรับสภาพความพิการ
ชีวติ เช่น ทีอ่ ยูอ่ าศัย สุขภาพทีแ่ ข็งแรง การปราศจากโรค17 แนวคิด ของตน ลดความคาดหวังในการเดินซึง่ เป็นไปไม่ได้ เมือ่ ผูป้ ่ วย
นี้ ย ัง คงใช้ ก ัน อยู่ อ ย่ า งแพร่ ห ลายในวงการแพทย์ ท่ีศึก ษา ยอมรับ ความเป็ น จริง ว่ า เขาจะไม่ ส ามารถกลับ มาเดิน ได้
คุณภาพชีวติ ในด้านความแข็งแรงของสุขภาพ (การปราศจากโรค) อีก และยอมรับ การฝึ ก ใช้ร ถนั ง่ คนพิก าร ผู้ป่ วยจะรู้ส ึก ว่ า
หรือ ผลของการรักษาต่ออาการของโรค ข้อจ�ากัดของแนวคิด ตนเองมีคุณภาพชีวติ ที่ดขี น้ึ ปั ญหาส�าคัญของแนวคิดนี้ คือ
แบบ “need-based approach” คือ การมองความต้องการของ บุคคลมีความคาดหวังแตกต่างกัน ดังนัน้ ค�าถามทีม่ กั เกิดขึน้ เสมอ
บุคคลเพียงด้านวัตถุ (objective or physical aspects) เพือ่ คือระหว่างผูป้ ว่ ยหรือผูบ้ า� บัด ใครเป็ นผูก้ า� หนดความคาดหวัง
สนองตอบต่อความต้องการโดยไม่ค�านึงถึงจิตวิญญาณและ ทีเ่ ป็ นจริง (realistic expectation) ดังนัน้ การน�าแนวคิดนี้ไป
สังคม เนื่องจากเชือ่ ว่ามนุษย์ทกุ คนมีความต้องการปจจั ั ยพืน้ ฐาน ใช้ในทางปฏิบตั ิ ทัง้ ผูป้ ่ วยและผูบ้ �าบัดต้องมีความยืดหยุ่นใน
ในการด�ารงชีวติ ทีเ่ หมือนกัน ตามทฤษฎีของ Maslow ในเรือ่ ง แนวคิดของตน สามารถปรับเปลีย่ นและยอมรับความเป็ นจริง
ความต้องการปจจั ั ยพืน้ ฐาน (basic needs) แต่ในความเป็นจริง ที่เกิดขึน้ ทัง้ สองฝ่ายโดยผ่านวิธกี ารต่างๆ เช่น การปรับตัว
แม้บุคคลจะได้รบั การตอบสนองปจั จัยสีอ่ ย่างพอเพียง กลับยัง (adaptation) มีมุมมองทางด้านบวกของทัง้ ตนและบุคคลอื่น
มีความรูส้ กึ ว่าชีวติ ไม่มคี วามสุขเท่าทีค่ าดหวัง หรือ กล่าวอีก (optimistic personality) เป็ นต้น
นัยหนึ่งคือยังมีระดับคุณภาพชีวติ ทีต่ ่า� อยู9่ ดังนัน้ แนวคิดนี้จงึ 4.3 Global concept approach
ไม่สามารถอธิบายคุณภาพชีวติ ได้อย่างครอบคลุมเนื่องจาก เมื่อองค์ความรู้ด้านสุขภาพเปลี่ยนแปลงจากแนวคิด
การขาดความสนใจในด้านจิตใจ อารมณ์ และการเป็ นสมาชิก ระดับปัจเจกบุคคลซึง่ เป็นมุมมองแบบแยกส่วน (reductionism)
ของสังคม ตัวอย่างของข้อจ�ากัดนี้ ได้แก่ บุคคลทีม่ ฐี านะทาง เป็นมุมมองแบบองค์รวม (holism) ท�าให้แนวคิดของคุณภาพชีวติ
สังคมระดับสูง มีปจั จัยพืน้ ฐานมากจนเกินพอ แต่ยงั รูส้ กึ ว่า มีการเปลีย่ นแปลงเช่นเดียวกัน ดังเช่นการทีอ่ งค์การอนามัยโลก
ตนเองไม่มคี วามสุขจนต้องแสวงหาทางออกอืน่ ๆ เช่น การปฏิบตั ธิ รรม ได้พฒั นากรอบคิดเกีย่ วกับคุณภาพชีวติ ทีใ่ ช้ชอ่ื ว่า “global concept
หรือ การท�างานเพือ่ สาธารณกุศลโดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นต้น of quality of life”5 โดยได้ให้คา� จ�ากัดความของคุณภาพชีวติ ว่า
4.2 Want-based approach “คุณภาพชีวติ คือการรับรูข้ องแต่ละบุคคลต่อสถานะในชีวติ
พัฒนาจากความคิดพืน้ ฐานว่า บุคคลมีความต้องการ (want) ของตน ภายใต้บริบทของวัฒนธรรมและความหมายของระบบ
ในชีวติ ทีแ่ ตกต่างกัน ดังนัน้ องค์ประกอบทีม่ ผี ลต่อคุณภาพชีวติ ในสั ง คมที พ่ วกเขาอาศั ย อยู่ แ ละสั ม พั น ธ์ ก ั บ เป้ าหมาย
ของแต่ ล ะบุ ค คลจึง ขึ้น กับ พื้น ฐานความต้อ งการ (want) ที่ ความคาดหวัง มาตรฐานของสังคม และสิง่ อืนๆ ่ ทีเกี ่ ยวข้
่ อง
แตกต่างกัน ระดับของคุณภาพชีวติ คือช่องว่างของสิง่ ทีแ่ ต่ละบุคคล เป็ นแนวความคิดทีก่ ว้างเต็มไปด้วยความซับซ้อน ครอบคลุม
คาดว่าจะได้รบั กับสิง่ ทีบ่ คุ คลนัน้ ได้รบั จริงในช่วงเวลาหนึง่ ของชีวติ ในประเด็นสุขภาพร่างกายของแต่ละคน สภาพจิตใจ ระดับของ
(a gap between expectation and achievement in certain ความอิสระ สัมพันธภาพทางสังคม ความเชือ่ และความสัมพันธ์
period of life)18 อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขส�าคัญในแนวคิดนี้คอื ทีม่ ตี ่อสภาพแวดล้อม”19
สิง่ ทีบ่ ุคคลต้องการ (expectation) ต้องเป็ นสิง่ ทีเ่ ป็ นไปได้จริง
จะเห็น ได้ว่ า องค์ ก ารอนามัย โลกได้ใ ห้ค วามส� า คัญ
(realistic) ตามสถานะของบุคคลในขณะนัน้ จึงจะท�าให้ชอ่ งว่าง
ต่ อ กรอบแนวคิด แบบองค์รวมและได้พ ฒ ั นากรอบความคิด
ของความคาดหวังกับสิง่ ทีไ่ ด้รบั แคบลง หรือกล่าวอีกนัยหนึง่ คือ
ของคุณภาพชีวติ ให้ครอบคลุมทุกองค์ประกอบย่อย (domain)
บุคคลจะมีคณ ุ ภาพชีวติ ทีด่ ี ตัวอย่างเช่น ในผูป้ ่ วยอัมพาตแขนขา
ของความเป็นมนุษย์ ทังด้ ้ านกายภาพ จิตใจ สังคม สิง่ แวดล้อม
แบบสมบูรณ์ (complete tetraplegia) เมื่อผูบ้ �าบัดสอบถาม
และความเชือ่ ส่วนบุคคล ซึง่ สะท้อนให้เห็นได้จากค�าจ�ากัดความนี้
ความต้องการหรือเป้าประสงค์ในการฟื้นฟูซง่ึ เป็นการใช้หลักการ
คุณภาพชีวติ จะมีลกั ษณะทีเ่ ป็น “global and dynamic concept”
ของ client center ผูป้ ว่ ยมักให้คา� ตอบ (การคาดหวัง) ว่าต้องการเดิน
นอกจากนี้ หลังจากองค์การอนามัยโลกได้พฒ ั นาแนวคิดใน
ได้เหมือนก่อนการรับการบาดเจ็บ ซึง่ ถือว่าเป็น “ความต้องการ
การศึกษาผลกระทบของโรค หรือความเจ็บป่ วยต่อภาวะสุขภาพ
ทีค่ าดหวัง” (expectation) แต่ในฐานะของผูบ้ �าบัดทีม่ คี วามรู้
Bull Chiang Mai Assoc Med Sci Vol. 49 No. 2 May 2016 175
ที่เรีย กว่า International Classification of Functioning, ความพึง พอใจในชีว ิต หรือ คุ ณ ภาพชีว ิต ที่ส ะท้ อ นออก
Disability and Health: ICF20 มีผนู้ �ากรอบอ้างอิง ICF มาใช้ใน ในรูปขององค์ประกอบด้านสุขภาพตามกรอบอ้างอิง ICF รวมทั18ง้
การประเมินคุณภาพชีวติ ในผูป้ ่ วยกลุม่ ต่างๆ เช่น กรอบแนวคิดที่ ผลกระทบต่ อ คุ ณ ภาพชีว ิต ของบุ ค คลเมื่อ มีค วามปั ญ หาใน
พัฒนาโดย Post และ Noreau21 (Figure 2) ซึง่ ประเมินระดับ แต่ละองค์ประกอบของ ICF
Figure 2 Comparison between QOL and ICF concepts: Adapted from: Post M & Noreau L. Quality of life after spinal cord injury. J Neurol Rehabil.
2005; 29(3):139-46.
4.4 Meta-theory approach (domain) หรือ ปจั จัยย่อย (aspect) ใช้ทฤษฎีอน่ื ร่วมอธิบาย
ตามแนวคิดเชือ่ ว่า คุณภาพชีวติ ประกอบขึน้ ด้วยองค์ประกอบ และเชื่อ ว่า คุณ ภาพชีว ิต ไม่ส ามารถอธิบ ายได้โ ดยใช้ทฤษฎี
แบบวัต ถุ พ ิ ส ัย (objective domain) และแบบจิ ต พิ ส ัย ใดเพียงทฤษฎีเดียว ตัวอย่างของการเป็น “meta-theory” ของ
(subjective domain) แต่ ล ะองค์ ป ระกอบมีป จ จัย ย่ อ ย ั คุ ณ ภาพชีว ิต ได้ แ ก่ ก รอบแนวคิด ที่เ รีย กว่ า “Integrative
(aspects) เป็นพืน้ ฐานทีส่ า� คัญ ปจจุ ั บนั Figure
เรียกกรอบคิ ดเกีย่ วกับbetween
2 Comparison Quality-of-Life
QOL and ICF meta-theory:
concepts IQL” ซึง่ พัฒนาโดย Ventegodt
คุณภาพชีวติ แบบนี
Adapted ว้ า่ “meta-theory”
from: เนือ่ งจากในแต่
Post M & Noreau ละองค์
L. Quality ประกอบ
of life after spinalและคณะ 2
(Figure
cord injury. 3) Rehabil. 2005; 29(3):139-146.
J Neurol
บทสรุป
บทความนี้มวี ตั ถุประสงค์ให้ผสู้ นใจด้านคุณภาพชีวติ ได้
ทราบถึงกรอบคิดของคุณภาพชีวติ ในบทความกล่าวถึงการ
จ�าแนกประเภทของกรอบคิดเป็นด้านต่างๆ ตามหลักการพืน้ ฐาน
ทีใ่ ช้อธิบายคุณภาพชีวติ เนื่องจากกรอบแนวคิดนี้ถกู พัฒนาขึน้
ในสังคมตะวันตกทีม่ บี ริบท ค่านิยม และมาตรฐานต่างๆ ของสังคม
แตกต่างจากสังคมตะวันออก ดังนัน้ ผูท้ ส่ี นใจศึกษาเรือ่ งของ
คุณภาพชีวติ ควรศึกษาและท�าความเข้าใจในพื้นฐานทฤษฎี
ของกรอบคิดนี้อย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ปั จจุบนั กรอบคิด
ของคุณภาพชีวติ ได้รบั การยอมรับอย่างกว้างขวาง คือ กรอบคิด
ทีม่ ลี กั ษณะ “life satisfaction หรือ subjective well-being”
Bull Chiang Mai Assoc Med Sci Vol. 49 No. 2 May 2016 181
เอกสารอ้างอิง
1. Department of Empowerment of Persons with Disabilities. The 4th National Plan on the Empowerment of
Persons with Disabilities B.E. 2555-2559 [cited 2016 January, 12] Available from: www.nep.go.th/th/law/แผน
พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติฉบับที่-4-พศ-2555-2559_eng.pdf. (in Thai).
2. Ventegodt S, Hilden, J. Measuring the Quality of Life I: A methodological framework. Scientific World Journal
2003; 13(3): 950-61.
3. The special interest research group on quality of life. Quality of life: Its conceptualization, measurement, and
application. A consensus document. Geneva: WHO-IASSID Plan; 2000.
4. Moons P, Budts W, De Geest S. Critique on the conceptualisation of quality of life: A review and evaluation of
different conceptual approaches. Int J Psychiatr Nurs Res 2006; 43: 891-901.
5. The WHO Group. The World Health Organization quality of life assessment (WHOQOL): Position paper from
the World Health Organization. Social Science and Medicine 1995; 41: 1403-9.
6. Kinney MR. Quality of life research: Rigor or rigor mortis. Cardiovasc Nurs 1996; 31: 25-8.
7. Liddle J, McKenna K. Quality of life: An overview of issues for use in occupational therapy outcome measurement.
Aust Occup Ther J 2000; 47: 77-85.
8. Dolan P, Gudex C, Kind P, Williams A. Valuing health status: A comparision of methods. J Health Econ 1996;
15(2): 209-31.
9. Hairy M. Measuring the quality of life: Why, how and what? In: Joyce CRB, McGee H, O'Boyle CA, editors.
Individual quality of life: Approached to conceptualisation and assessment. Amsterdam: Harwood Academic
Publishers; 1999. p. 22.
10. Carr-Hill RA. Assumptions of the QALY procedure. Soc Sci Med. 1989; 29: 469-77.
11. Ventegodt S. Measuring the Quality of life: From theory to practice 1995 [cited 2015 December, 12] Available
from: http://home2.inet.tele.dk/fclk/mqo_eng.htm.
12. Dijkers M. Quality of life of indvidual with spinal cord injury: A review of conceptualization, meassurement, and
research findings. J Rehabil Res Dev 2005; 42(3), Supplement 1: 87-110.
13. Kongsakorn R, Silpakit C, Udomsubpayakul U. Thailand normative data for SF-36 health survey: Bangkok
metropolitan. The ASEAN Journal of Psychiatry 2007; 8(2): 85-103. (in Thai).
14. Maslow AH. Motivation and personality. 3rd ed. New York: Harper & Row Publishers; 1987.
15. Zhan L. Quality of life: Conceptual and measurement issues. J Adv Nurs 1992; 17(7): 795-800.
16. Ferrans CE. Development of a conceptual model of quality of life. Sch Inq Nurs Pract 1996; 10(3): 293-304.
17. Stephen P, Lynda C. The needs-based approach to quality of life assessment. Value Health 2004; 7(S1): S1-S3.
18. Calman KC. Quality of life in cancer patients: An hypothesis. J Med Ethics 1984; 10: 124-7.
19. Mahatnirankul S, Silpakit P, Pumpaisalchai W. The quality of life during the economic crisis in Thailand. Journal
of Mental Health of Thailand 2000; 8: 112-23. (in Thai).
20. World Health Organization. International classification of functioning, disability, and health. Geneva; 2001.
21. Post M, Noreau L. Quality of life after spinal cord injury. J Neurol Phys Ther 2005; 29(3): 139-46.
22. Ferrans CE. Development of a conceptual model of quality of life. Schol Inquiry Nurs Pract 1996; 10(3): 293-304.
23. Velde BP. Quality of life in community occupational therapy practice. Occup Ther Health Care 2001; 13: 149-55.
Bull Chiang Mai Assoc Med Sci Vol. 49 No. 2 May 2016 183
44. Bowling A. Measuring Disease: A review of disease specific quality of life measurement scales. 2nd ed.
Buckingham: Open University Press; 2001.
45. Law M, Baptiste S, McColl M, Opzoomer A, Polatajko H, Pollock N. The Canadian occupational performance
measure: an outcome measure for occupational therapy. Can J Occup Ther 1990; 57(2): 82-7.
46. Hammell KW. Quality of life, participation and occupational rights: A capabilities perspective. Aust Occup Ther J
2015; 62: 78-85.
47. Department of Mental Health. World Health Organization Quality of Life Questionnaire – BREF: Thai version
(WHOQOL–BREF: THAI). 2009 [cited 2009 June, 5 ]. Available from: http://www.dmh.moph.go.th/test/whoqol/.
(in Thai).
48. Jirarathanaphochai K, Sumanon C, Sangnipankun S. Rlability of SF-36 V2: Thai version evaluation among
people with back pain. Department of Orthopedic: Faculty of Medicine, Khonkan University; 2005. (in Thai).
49. Dajpratham P, Kongkasuwan R. Quality of life among traumatic spinal cord injuried patients. J Med Assoc Thai
2011; 94(10): 1252-58.
50. Chuchart N, Vichiansiri R, Arayawitchanon P, Manimmanakorn N. Quality of life of traumatic spinal cord injuried
patients in North-East Region of Thailand. J Thai Rehabil Med 2015; 25(1): 15-21. (in Thai).