You are on page 1of 6

6

Drug Eruption
ความนํา 1.1 ประวัติ
แนวทางการดู แ ลรั ก ษาโรคผิ ว หนั ง เป น 1.1.1 การซักประวัติทั่วไป
ความเห็ น ร ว มกั น ของกลุ ม ผู รู ที่ ป ฏิ บั ติ ก ารดู แ ล 1.1.2 ประวัติการไดรับยามากอน
รักษาผูปวย แนวทางที่วางไวนี้เพื่อใชเปน - ขนาดของยา
แนวทางในการดูแลรักษาผูปวย มิใชกฎตายตัวที่ - วันที่เริ่มและหยุดยา
ตอ งปฏิ บั ติ การรั ก ษาตามที่ เ ขี ย นไวทุ ก ประการ - ระยะเวลาที่ไดรับยา
ทั้งนี้เพราะผูปวยแตละรายมีปญหาที่แตกตางกัน - ซั ก ประวั ติ ว า การได รั บ ยามี
การวางแนวทางการรั ก ษานี้ เ ป น การสร า ง ความสัมพันธกับการเกิดผื่นหรือไมอยางไร
มาตรฐานและพัฒนาการดูแลรักษาโรคผิวหนั ง - ประวัติการแพยาในอดีตอยาง
เพื่อใหประชาชนที่มาพบแพทยไดรับความมั่นใจ ละเอียด
วาจะไดรับการดูแลรักษาที่ดี - การเกิ ด ผื่ น ซ้ํ า เมื่ อ ได ย าชนิ ด
คณะผู จั ด ทํ า ขอสงวนสิ ท ธิ์ ใ นการนํ า ไปใช เดิม
อางอิงทางกฎหมายโดยไมผานการพิจารณาจาก - การที่ผื่นหายไปเมื่อลดขนาด
ผูทรงคุณวุฒิหรือผูเชี่ยวชาญในแตละกรณี ของยาลง หรือหยุดยาที่สงสัยวาทําใหเกิดอาการแพ
1.1.3 ยาอื่ น ที่ ผู ป ว ยอาจใช เช น
นิยาม
สมุนไพร, อาหารเสริม, ยาบํารุง, วิตามิน, ยาลด
ผื่นแพยาคือผลอันไมพึงประสงคจากยาที่ทํา
น้ําหนัก, ยานอนหลับ, ยาระบาย ฯลฯ
ใหเกิดความผิดปกติทางผิวหนัง รวมทั้ง ผม, ขน,
1.1.4 โรคหรือภาวะอื่นที่อาจมีสวนรวม
เล็บ และเยื่อบุ
ใหเกิดผื่นแพยามากขึ้น เชน โรค infectious
คําวายาหมายถึงสารเคมีซึ่งเขาสูรางกายโดย
mononucleosis กับอาการไมพึงประสงคจากยา
การรับประทาน, การฉีด, การสอด, การหายใจ,
ampicillin, การติดเชื้อ HIV กับอาการไมพึง
การสูดดม, การหยอด และการทา
ประสงคจาก trimetoprim-sulfamethoxazole โรค
ผลอันไมพึงประสงคจากยาอาจเกี่ยวของกับ
ซิฟลิสกับปฏิกิริยา Jarisch-Herxheimer.
ระบบภูมิคุมกันของรางกาย หรือไมเกี่ยวของกับ
1.1.5 ประวั ติ โ รคผิว หนั ง , ภู มิ แ พ,
ระบบภูมิคุมกันของรางกาย หรืออาจเกิดโดย
ปฏิกิริยาอันไมพึงประสงคจากยาของผูปวยและ
ไมทราบสาเหตุ
ครอบครัว
การวินิจฉัย 1.1.6 สิ ่ง แวดลอ มและอาชีพ ที ่อ าจ
1. ลักษณะทางคลินิก มีสวนทําใหเกิดผื่นแพยา เชน แสงแดด
1.1.7 อื่น ๆ

สถาบันโรคผิวหนัง
7

1.2 การตรวจรางกาย phototoxic reaction, lichenoid eruption โดยหาม


1.2.1 ก า ร ต ร ว จ ร า ง ก า ย ทั่ ว ไ ป ทําในผื่นแพยารุนแรง เชน Stevens-Johnson
โดยเฉพาะตอมน้ําเหลือง ตับ มาม เยื่อบุ ผม ขน syndrome, toxic epidermal necrolysis, vasculitis,
เล็บ ขอ anaphylaxis, urticaria, exfoliative dermatitis.
1.2.2 บรรยายลักษณะ และการ การทดลองใช ย าซ้ํ า สามารถทํ า ได ห ลายวิ ธี
กระจายของผื่นอยางละเอียด เชน รูปราง สี ขนาด ไดแก oral challenge test, patch test, prick หรือ
การเรียงตัว และการกระจายของผื่น scratch test
1.2.3 ตรวจดูวามีลักษณะโรคผิวหนัง 2.8 การเพาะเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา
อยางอื่นรวมดวยหรือไม เพื่อวินิจฉัยแยกโรคผื่นแพยาจากโรคติดเชื้อเหลานี้
1.2.4 อื่น ๆ 2.9 การทดสอบอื่นๆ เชน KOH, Tzanck
2. การตรวจทางหองปฏิบัติการ smear ฯลฯ ตามความเหมาะสมเพื่อวินิจฉัยแยก
สวนใหญการวินิจ ฉัยผื่นแพยาอาศัยการซัก โรคอื่น
ประวัติและการตรวจรางกายเปนสําคัญ ในกรณีที่ 2.10 Serology test เพื่อแยกผื่นจากการติดเชื้อ
การซั ก ประวั ติ แ ละตรวจร า งกายไม ส ามารถ ไวรัส และซิฟลิสระยะที่ 2
วินิจฉัยไดแนนอน อาจพิจารณาเลือกการตรวจ 2.11 อื่น ๆ
ทางหองปฏิบัติการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม 3. การตรวจร า งกายและการตรวจทาง
ในผูปวยแตละราย หองปฏิบัติการ
2.1 การตั ด ผิ ว หนั ง ไปตรวจทางจุ ล พยาธิ
วิทยา ที่ เ ป น ข อ สั ง เกตว า ผื่ น แพ ย าน า จะมี อ าการ
2.2 การตรวจ blood chemistry เชน รุนแรง ไดแก
complete blood count, liver function test, BUN, 3.1 การตรวจรางกายทั่วไป
creatinine - ไขสูง (เกิน 40°c) หนาวสั่น
2.3 การตรวจปสสาวะ - ความดันต่ํา, ช็อก
2.4 การถายภาพรังสีปอด - ตัวเหลืองตาเหลือง
2.5 การตรวจหาระดั บ ยาในเลื อ ดหาก - ตอมน้ําเหลืองโตทั่วตัว
สามารถทําได ในผูที่สงสัยวาไดรับยาเกินขนาด - หายใจมีเสียงหวีด
2.6 หยุดยาที่สงสัยวา เปนสาเหตุในกรณีที่ - ปวดขอ, ขออักเสบ
สามารถหยุดได 3.2 การตรวจผิวหนัง และเยื่อบุ
2.7 ทดลองใหยาซ้ําในกรณีที่จําเปนและไม - ผื่นแดงทั่วตัวลุกลามอยางรวดเร็ว
เปนอันตรายตอผูปวย เชน ลักษณะผื่นแบบ - เจ็บที่ผิวหนัง
maculopapular rash, fixed drug eruption, - เยื่อบุตาขาวอักเสบ
eczematous drug eruption, photoallergic และ - เจ็บในปาก กลืนอาหารไมได

สถาบันโรคผิวหนัง
8

- แผลที่ริมฝปาก และในปาก ; เยื่อบุ 1. การรักษามาตรฐาน (standard treatment)


อวัยวะเพศ 1.1 การรักษาทั่วไป
- ผิว หนัง หลุดลอกเป นแผนเมื่อ ใชนิ้ ว - ควรหยุดยาที่สงสัยวาแพ และให
รูดที่ผิวหนังปกติ (Nikolsky's sign ใหผลบวก) ยาอื่นทดแทนหากทําไดโดยตองปรึกษากับแพทย
- ตุมน้ําพองใส และผิวหนังหลุดลอก ผูให ยานั้นรักษาผู ปวยกอนเพื่ อรว มกันประเมิน
เปนแผน ขอดีและขอเสียของการหยุดยาที่สงสัยวาทําให
- จ้ําเลือดที่คลําไดนูน เกิดผื่น
- มีเนื้อตาย - การพิจารณาหยุดยาควรดูในแงตอไปนี้
- หนาบวม, ลิ้นบวม หรือบวมทั่วตัว 1) ความรุนแรงของผื่นแพยา
- ลมพิษที่รุนแรง กระจายทั่วตัว 2) โรคที่กําลังใชยารักษาอยู
3.3 การตรวจทางหองปฏิบัติการ 3) ความยากงายในการรักษาผื่นแพยา
- เม็ดเลือดขาวต่ํา 4) มี ย าอื่ น ที่ ส ามารถให ท ดแทน
- เกร็ดเลือดต่ํา ยาตัวที่สงสัยหรือไม โดยไมควรเปนยากลุมเดียวกัน
- การทํางานของตับและหรือไตผิดปกติ 5) หากไมสามารถหยุดยานั้นได อาจ
- ความผิดปกติของการถายภาพรังสีปอด พิจารณาลดขนาดของยาลง หรือเปลี่ยนวิธีการให
การรักษา ยาในรายที่สามารถทําได
การวางแผนรักษาผื่นแพยาขึ้นอยูกับ - ในกรณีที่อาการแพยารุนแรง ควร
- ลักษณะชนิดของผื่น พิจารณารับผูปวยไวรักษาในโรงพยาบาล เมื่อพบ
- ความรุนแรงของโรค มีลักษณะอยางใดอยางหนึ่งดังตอไปนี้
- ความจํา เปนที่ตองไดรับยาที่แ พ และ 5.1 Cutaneous reaction
สามารถหายาอื่นทดแทนไดหรือไม - confluent erythema
- อื่น ๆ - facial edema/involvement of
การเก็บรวบรวมขอมูล central part of face
เมื่อพบผูปวยที่มีผื่นแพยา ขอใหปฏิบัติตาม - skin pain
ระเบี ย บปฏิ บั ติ เ รื่ อ งการติ ด ตามอาการไม พึ ง - palpable purpura
ประสงคจากการใชผลิตภัณฑคุณภาพของสถาบัน - skin necrosis
โรคผิวหนัง แบบฟอรมใบแจงการเกิดและการ - blister or epidermal
บั น ทึ ก อาการอั น ไม พึ ง ประสงค จ ากการใช detachments
ผลิตภัณฑคุณภาพของสถาบันโรคผิวหนัง เพื่อ - positive Nikolsky’s sign
เก็บขอมูลและสงใหกับคณะกรรมการเภสัชกรรม - mucous membrane erosion
และการบําบัด - urticaria
- swelling of tonque

สถาบันโรคผิวหนัง
9

5.2 general manifestation 1.2.2 ในกรณีที่ผื่นมีอาการรุนแรง เชน


- high fever (temperature > 40o C) erythema multiform, Stevens-Johnson syndrome,
- enlarged lymph node toxic epidermal necrolysis, exfoliative
- (arthralgia/arthritis) dermatitis, fixed drug eruption ที่มีอาการรุนแรง
- shortness of breath, wheezing, เปนทั่วตัว, vasculitis
hypotension - Specific treatment พิจารณาเลือกใช
- lab. Result ยาคอร ติ โ คสตี ร อยด ช นิ ด รั บ ประทานขนาด
* Eo count > 1,000/mm3 ประมาณ 0.5-1 มก./กก./วัน หรือฉีดตามความ
* lymphocytosis with เหมาะสมโดยควรใหระยะเวลาสั้น ๆ และรีบหยุดยา
atypical lymphocytes โดยเร็วเพื่อปองกันการติดเชื้อ แทรกซอน
* abn. results of LFT - Supportive treatment มีความสําคัญ
1.2 การรักษาผื่นผิวหนัง มากในผื่นแพยากลุมนี้
1.2.1 ในกรณี ที่ ผื่ น ไม รุ น แรง เช น * สํ า หรั บ ผู ป ว ยที่ ผิ ว หนั ง หลุ ด ลอก
maculopapular rash, fixed drug eruption, มาก ถาเปนไปไดควรแยกผูปวยไวในหองแยก
eczematous reaction, photoallergic หรือ (reverse isolation)
phototoxic reaction, lichenoid eruption * ใหการทดแทนสารน้ํา, อาหาร และ
- Specific treatment พิจารณาเลือกใช เกลือแรใหเพียงพอ
ยาคอรติโคสตีรอยดชนิดทา หรือรับประทาน * เฝาระวังและรักษาการติดเชื้อแทรก
ขนาดประมาณไมเกิน 0.5 มก./กก./วัน ซอน
- Supportive treatment ใหการรักษา * การดูแลแผลใหทําความสะอาดแผล
ตามอาการ เชน และเยื่อบุดวย normal saline หรือยาอื่นๆ
* รับประทานยาตานฤทธิ์ฮีสตามีน * ในกรณี ดู แ ลแผลแบบ open
* ยาทาแกคัน เชน Calamine lotion dressing ใหผูปวยนอนบนวัสดุที่ไมติดกับผิวหนัง
* ย า ใ ห ค ว า ม ชุ ม ชื้ น กั บ ผิ ว ห นั ง เชน ใบตองสะอาดที่ฆาเชื้อแลว หรือแผน
(emollients) พลาสติกที่ฆาเชื้อแลว สวนในกรณีที่ดูแลแผล
* ประคบผิวหนัง (wet compression) แบบ closed dressing ใหดูแลเชนเดียวกับผูปวย
ในรายที่มี oozing แผลไฟไหม น้ํารอนลวก
* อื่น ๆ * รายที่ มี อ าการอั ก เสบของเยื่ อ บุ ต า
ขาวควรปรึ กษาจั กษุ แ พทย หากเปน ไปได
พิจารณาเลือกใชยาหยอดตาเพื่อหลอลื่น หรือให
ยาขี้ ผึ้ ง ป า ยตาที่ มี ย าปฏิ ชี ว นะเพื่ อ ป อ งกั น
ภาวะแทรกซอนทางตา

สถาบันโรคผิวหนัง
10

* หากมีเนื้อตายเนาใหตัดเนื้อสวนที่ 3. Bronner AK, Hood AF. Cutaneous


ตายออก complications of chemotherapeutic agents. J
1.2.3 ผื่นแพยาแบบลมพิษ, angioedema Am Acad Dermatol 1983; 9 : 645-63.
กรุณาดูที่ guideline การดูแลผูปวยลมพิษ และ 4. Roujeau J-C. Clinical aspects of skin
angioedema reactions to NSAIDS. Scand J Rheumatol
การใหความรูแกผูปวย 1987; 65 (Suppl): 131-4.
แพทยควรใหความรูแ กผูปวยดังตอไปนี้ 5. Roujeau J-C, Kelly JP, Naldi L, et al.
1. จดชื่ อ ยาที่ เ ป น สาเหตุ ข องผื่ น แพ ย าให Medication use and the risk of Stevens-
ผู ป ว ยหรื อ ผู ป กครองไว ยื่ น ต อ แพทย ผู รั กษาใน Johnson syndrome or toxic epidermal
อนาคต necrolysis. N Engl J Med 1995; 333: 1600-
2. บอกชื่อยาที่สามารถใชแทนกันได 7.
3. บอกผู ป ว ย ว า ยา เ หล า นี้ ไ ม ค ว ร ซื้ อ 6. Roujeau J-C, Stern RS. Severe adverse
รับประทานเอง cutaneous reactions to drugs. N Engl J Med
4. ถาการแพยานั้นเกิดจากความผิดปกติทาง 1994; 331: 1272-85.
พันธุกรรมของผูปวย ควรใหคําแนะนําเรื่องการ 7. Shear NH. Diagnosing cutaneous adverse
ถายทอดทางพันธุกรรมแกผูปวย เชน ในกรณีของ reactions to drugs. Arch Dermatol 1990;
G6PD deficiency ซึ่งถายทอดแบบ X-linked 126: 94-7.
recessive 8. Shear NH, Spielberg SP. Anticonvulsant
References hypersensitivity syndrome: in vitro assessment
1. Assier H, Bastuji-Garin S, Revuz J, et al. of risk. J Clin Invest 1988; 82: 1826-32.
Erythema multiforme with mucous 9. Shear NH, Spielberg SP, Grant DM, et al.
membrane involvement and Stevens- Differences in metabolism of sulfonamides
Johnson syndrome are clinically different predisposing to idiosyncratic toxicity. Ann
disorders with distinct causes. Arch Intern Med 1986; 105: 179-84.
Dermatol 1995; 131: 539-43. 10. Wolkenstein P, Charue D, Laurent P, et al.
2. Bastuji-Garin S, Rzany B, Stern RS, et al. Metabolic predisposition to cutaneous
Clinical classification of cases of toxic adverse drug reactions. Arch Dermatol
epidermal necrolysis, Stevens-Johnson 1995; 131: 544-51.
syndrome, and erythema multiforme. Arch
Dermatol 1993; 129: 92-6.

สถาบันโรคผิวหนัง
11

11. Adams RM. Occupational skin disease. In: 15. Breathnach SM. Drug reactions. In:
Freedberg IM, Eisen AZ, Wolff K, Austen Champion RH, Burton JL, Burns DA,
KF, Goldsmith LA, Katz SI, eds. Breathnach SM, eds. Textbook of
Fitzpatrick's dermatology in general dermatology, vol. 4. 6th ed. Oxford: Blackwell
medicine, vol.1. 5th ed. New York: McGraw- Science Ltd.; 1998. p.3349-517.
Hill; 1998. p.1609-32. 16. Leenutaphong V, Sivayathorn A,
12. Stern RS, Wintroub BU. Cutaneous Suthipinitharm P, Sunthonpalin P. Stevens-
reactions to drugs. In: Freedberg IM, Eisen Johnson syndrome and toxic epidermal
AZ, Wolff K, Austen KF, Goldsmith LA, necrolysis in Thailand. Int J Dermatol 1993;
Katz SI, eds. Fitzpatrick's dermatology in 32: 428-31.
general medicine, vol. 1. 5th ed. New York: 17. Puavilai S, Choonhakarn C. Drug eruptions
McGraw-Hill; 1998. p.1633-42. in Bangkok: a 1-year study at Ramathibodi
13. Fitzpatrick JE, Yokel BE, Hood AF. Hospital. Int J Dermatol 1998; 37: 747-51.
Mucocutaneous complications of 18. Sitakalin C, Duangurai K, Niampradit N,
antineoplastic therapy. In: Freedberg IM, Aunhachoke K, Sareebut V. Drug eruptions
Eisen AZ, Wolff K, Austen KF, Goldsmith observed at skin clinic of Phramongkutklao
LA, Katz SI, eds. Fitzpatrick's dermatology Hospital: a 14-year study. Thai J Dermatol
in general medicine, vol. 1. 5th ed. New York: 1999; 15: 1-10.
McGraw-Hill; 1998. p.1642-53. 19. Drake LA, Dinehart SM, Farmer ER, et al.
14. Moy JA. Cutaneous manifestations of drug Guidelines of course for cutaneous adverse
abuse. In: Freedberg IM, Eisen AZ, Wolff drug reactions. J Am Acad Dermatol 1996;
K. Austen KF, Goldsmith LA, Katz SI, eds. 35: 458-61.
Fitzpatrick's dermatology in general
medicine vol. 1. 5th ed. New York: McGraw-
Hill; 1998. p.1654-9.

สถาบันโรคผิวหนัง

You might also like